เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ปรับใช้ประจำวันง่ายมากครับน้องบานชื่น
ผมทำเป็นประจำก่อนออกบ้าน หลังสวดมนต์จบแล้ว..
ว่าคาถานี้นำหนึ่งจบ อีกเจ็ดจบ ก็ว่าพระคาถาครอบศีรษะ
คิดว่ามีพระประจำวันทั้งเจ็ด (เอาพระวันเกิดนำ)ครอบรอบกบาล
ไปเรื่อยทุกทิศ เมื่อวนรอบศีรษะแล้ว จบสุดท้ายก็ภาวนาคลุมกบาล
ทั้งปวงลงไปทั้งตัว...แค่นี้น้องบานชื่น ก็มี"มงกุฏพระพุทธเจ้า"
คลุมทั้งสรีระทั้งวัน เอาไปใช้ได้ครับ...ไม่สงวนลิขสิทธิ์
สำหรับทุกท่านด้วย ยินดีมากครับ!

 

โพสท์เยอะ หน้าไปไวมาก เกือบตกหล่นน้องใหม่ หรือท่านใหม่ๆ
แต่อย่าห่วง ผมไล่ย้อนจนเจอแหละ เสียเวลาหน่อย แต่ไม่เสียน้ำใจ
ขอบคุณการติดตามครับ

 

วันนี้เปลี่ยนช่วงเวลาเป็นยามเย็นครับ
ขอบคุณการตามติดและกำลังใจ

 

ครับ น้องเมษ หน้าที่สำคัญในชีวิตต้องมาก่อน
เนื้อเรื่องนอนรออยู่แล้ว ไม่ต้องรีบ
สองวันอ่านทีก็ยังทัน

 

ย้อนตอบโพสท์เก่าน้องบานชื่น
อย่าชุ่มชื่นมาก เดี๋ยวอ่านตอนอื่น
ไม่สนุก จะมาว่ากันว่าเขียนไม่มันส์-ฮ่า

 

น่าจะครบถ้วนกระบวนยุทธทุกโพสท์
หากมีหกตกหล่นต้องขออำภัยมณี...จรลีละครับ
รังสีอำมะหิตบางประการ ชักแว่บใกล้หลายหนแล้ว-ฮ่า

 

5555

 

ติดตามอ่านจนทันอีกครั้ง ขอขอบคุณคุณอา wanwi ครับ นอกจากเนื้อเรื่องที่ต้องติดตาม ยังได้ความเพลินในการอ่านโพสต์ตอบกระทู้ ทั้งกลอนที่แต่งได้ไพเราะ และเรื่องต่างๆที่คุณอาและพี่น้องสมาชิกนำมาเสริมให้อีกด้วยครับ (deejai)

 

มนต์ คาถาที่ขลัง เพราะธรรม
ขลัง ที่ยังลึกล้ำ เกินค่า
เรื่อง ดีดีที่ทำ ส่งให้ดีงาม
เก่า ดีใหม่ดีกว่า คุณค่าที่ใจ

ขอบคุณครับ พี่ชาย....
รักษาสุขภาพด้วยครับ

ตอนนี้ ผม นอนเร็ว ตื่นเช้า
ตามที่เพื่อน ที่เป้นหมอ แนะนำ

 

ขยันตอบทุกโพตส์เลยครับคุณอา รักษาสุขภาพด้วยครับมิตรรักแฟนคลับเป็นห่วง...

 

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

 

ท่าน Wanwi ลองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของลูทีนดูนะครับ
มีอยู่หลายเจ้าครับลองเลือกดู ผมลองกินแล้วก็พอช่วยได้ครับ


สาร "ลูทีน" กับจอประสาทตา




โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2552 00:00


ถาม : ชลดา/กรุงเทพฯ
ระยะนี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องของสาร "ลูทีน" ดิฉันขอถามว่าคืออะไร และอยู่ในอาหารประเภทใดบ้าง

ตอบ : นพ.สรายุทธ สุภาพรรณชาติ
ลูทีน เป็นสารอาหารในกลุ่มที่เรียกว่าแซนโทฟิลส์ (xanthophylls) มีลักษณะเป็นสารสีเหลือง อยู่ในจำพวกแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์ต่อดวงตาของคนเรา ซึ่งชาวต่างประเทศรู้จักสารอาหารลูทีน (lutein) กันอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นสารอาหารที่ช่วยชะลออาการจอประสาทตาเสื่อมของผู้ใหญ่ จึงมีการศึกษาประโยชน์ของลูทีนที่มีต่อการปกป้องจอประสาทตาของทารกและเด็กเล็ก เพิ่มมากขึ้น

บทบาทของลูทีนที่มีต่อดวงตานั้น พบว่าภายในจอประสาทตาของคนเรา มีร่องเล็กๆ อยู่จุดหนึ่งที่มีเซลล์รับภาพจอประสาทตา ซึ่งเป็นจุดที่แสงตกกระทบ และทำให้คนเราสามารถมองเห็นภาพที่ชัดเจนในแต่ละวัน ซึ่งบริเวณเซลล์รับภาพนี้มีสารสีเหลือง หรือลูทีนอยู่หนาแน่นมากที่สุด โดยจะพบได้ตรงชั้นเนื้อเยื่อที่หล่อเลี้ยงเส้นประสาท ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดที่สำคัญมากต่อการมองเห็น หากบริเวณดังกล่าวเสื่อม หรือเสียไป อาจทำให้สูญเสียการมองเห็น หรือตาบอดได้ โดยสารลูทีนในเซลล์รับภาพของจอประสาทตานี้ จะทำหน้าที่สำคัญคือ คอยกรองแสงสีฟ้า ซึ่งเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา และเป็นแสงที่หลีกเลี่ยงได้ยากเพราะมีอยู่ทั่วไปรอบๆ ตัวเรา ซึ่งทั้งแสงจากดวงอาทิตย์ แสงจากโทรทัศน์ แสงจากจอคอมพิวเตอร์ แสงจากหลอดไฟ เป็นต้น

นอกจากนี้ ลูทีนยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในดวงตาของคนเราอีกด้วย เพราะดวงตาของเราจะมีสารอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นตัวทำลายเซลล์รับภาพและทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับจอประสาทตาทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้

ลูทีนถือเป็นสารอาหารที่มีความ สำคัญในการปกป้องจอประสาทตา โดยลูทีนจะทำงานร่วมกันกับกรดไขมันดีเอชเอและเอเอซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการด้านการมองเห็นของเด็ก โดยดีเอชเอและเอเอ จะทำหน้าที่เหมือนเป็นหลอดไฟ ส่วนลูทีนจะทำหน้าที่เหมือนเป็นสารเคลือบหลอดไฟไม่ให้เสื่อมเร็ว และนอกจากลูทีนจะพบมากในดวงตาของคนเราแล้ว ยังพบได้ในสมองในส่วนที่เกี่ยวกับการมองเห็นถึงร้อยละ 66 จึงเชื่อว่าลูทีนมีส่วนช่วยในการรับภาพและส่งต่อไปยังสมองได้ดีขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สารอาหารลูทีนนี้ ร่างกายของคนเราไม่สามารถสังเคราะห์สารลูทีนขึ้นมาใช้เองได้ จะต้องกินเข้าไปเท่านั้น โดยพบมากในน้ำนมแม่ เด็กแรกเกิดที่ได้กินนมแม่นั้นจะได้รับลูทีนผ่านทางน้ำนมโดยตรง หากไม่ได้รับสารอาหารที่ช่วยปกป้องดวงตาอย่างเพียงพอ

ดังนั้น การดูแลปกป้องดวงตาและเอาใจใส่เรื่องการกินอาหาร จะทำให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็น มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีพัฒนาการทางสายตาที่สมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องให้ลูกได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 1 ขวบ

 

รีบมาเจอแฟนๆ อย่าเพิ่งตอบโพสท์ กระโดดลุยตะนาวฯกันเลย

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า"เจ้าถ้ำ"!!!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

นิทานรอบกองไฟ เวียนมาถึงตาผมเล่ามั่ง เป็นเรื่องคุณเทพที่ผ่านวินาทีวิกฤติ
อสุรา-รากษส ชนิดขี้หดตดหาย หวิดตายคาน้ำตก ไม่ใช่คาอก...ผมเล่าโดยมี
คุณนงนั่งตาโตฟังข้างๆ เล่าจบผู้อาวุโส ตบอกผาง

"พิธีอาจารย์ไม่ได้ผล" คุณเทพบ่นเบาๆ

"เกือบได้ แต่ไม่ตรงตามประสงค์มัน ผีถ้ารุก เราต้องรบ ห้ามรอมชอมครับ" ผมพูด
ตามตรงด้วยประสบการณ์ฟาดฟันกับภูติผี ตะนาวศรีหลายหน

"เว้นแต่ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ล่วงล้ำก้ำเกิน ก็ว่ากันไป บางทีเขาไม่รู้ ว่าเราไม่มีเจตนา
บางครั้งเราก็พลาดไปปรามาสกันโดยไม่ตั้งใจ อย่างนั้น ขอขมา ขออภัยกันได้"

ผมชัดติดลม...ร่ายยาวสองชาวกรุงชาย-หญิง ฟังกันหูผึ่ง!

"อย่างอสูรน้ำตัวนี้ไม่ใช่...จุดมุ่งหมายมันคือ อาหาร...ตัวตาย ตัวแทนหรือบริวาร
ลักษณะมุ่งร้ายหมายขวัญ มีเป้าหมายชัดเจนรอมชอมมีไมตรีกับมันไม่ได้ครับ"...
ผมสรุปให้คุณเทพ-คุณนงที่อ้าปากหวอฟัง

"กระสุนลงอาคมน้องพราน แค่แตะน้ำมนต์ไม่กี่หยด ขลังจัง อาจารย์ทำพิธีแทบตาย
สู้ไม่ได้"...คุณเทพกึ่งรำพึง กึ่งถามกับผม

ผมยิ้ม..."รากษส แพ้โลหะครับคุณเทพ นอกจากน้ำมนต์ยังมีกระสุนลูกปรายที่ไม่ใช่
ดินปืนอย่างเดียว มันลงล็อคโดยบังเอิญ อีกอย่างอสูรน้ำตนนี้ อยู่ที่นี่มานานเกินควร
อาจได้เวลาไปเกิดใหม่ เพราะมันอดอยาก ปากแห้งมากไม่เคยมีโอกาสกินคน หรือหา
บริวารมาแทน อิทธิฤทธิ์ถดถอย เหมือนนักมวยไม่ได้ฝึกซ้อม"...ผมว่าไปนั่น

ผมไม่อยากบอกเล่าคุณเทพถึงคุณวิเศษเอนกอนันต์ขององค์ปู่ท่ากระดานที่ ไม่อยาก
ให้หลวงปู่เป็นจุดสนใจของใคร ไม่ปรารถนาอาราธนา รบกวนท่านเกินความจำเป็น

สิ่งใดที่เป็นไปตามชะตา เส้นทางแห่งดวงดาว วิถีแห่งกรรม ขอให้มันเป็นไปตามนั้นเถิด!

"ทำไมน้องพราน มีความรู้เรื่องพวกนี้มาก?"...คุณเทพสงสัยไม่เลิก ด้วยเห็นผม
ยังหนุ่มน้อย ด้อยอารยะ ไหงเชี่ยวชาญกว่าอาจารย์ชั้นดี หรือหมอผีชั้นยอดที่แก
อุตส่าห์หิ้วติดตัวมาจากบางกอก

ผมหยิบท่อนฟืนใหญ่ ซุนเข้ากองไฟให้เป็นก้อนถ่านแดง เพื่อปลดปล่อยความร้อน
ได้นานกว่าไม้ติดไฟลุกโพลง...ไม่รีบร้อนตอบคำถาม เพราะผมนึกถึงสิ่งที่คาใจ ขึ้น
ได้ปัจจุบันทันด่วน

"ถามจริงๆ คุณเทพกับคณะ มาเที่ยวถ้ำ อย่างเดียวหรือครับ?"...ผมไม่อ้อมค้อมล่ะ ไม่มี
โอกาสช่วงไหนดีเท่านี้...ช่วงแห่ง นิทานรอบกองไฟ กลางป่าตะนาวศรี อาจไม่คลาสสิค
เท่านิทานชาวทะเลทรายแห่งดินแดนเมโสโปเตเมีย แต่ก็น่าดูชมไปอีกแบบ

คุณเทพอึกอัก โดนย้อนศรด้วยคำถามแทนคำตอบจากผม คุณนงทำหน้าเลิ่กลั่ก ผมดู
ออกว่า คุณนงคนงามไม่มีลับลมคมในซ่อนเร้น เธอแค่ผู้หญิงก๋ากั่น ขาลุย ชอบเที่ยว
ชอบผจญภัยที่แปลกใหม่ คงไม่รู้จุดมุ่งหมายหรือความนัยของคนบางคน

" เรามาหาเหล็กไหล" !!

 

ที่สุด...คุณเทพยอมเปิดปาก อา...เหล็กไหล มหานิยายมหัศจรรย์แห่งตำนาน
ของขลัง ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี ผมเคยได้ยิน ได้ฟังเรื่องราวบ่อยครั้ง แต่ยังไม่
เคยเห็น หรือคิดว่ามันมีจริงในโลกนี้!

ช่วงวินาทีพิศวง ที่ความจริงชาวคณะถูกเผยเป้าหมายแท้จริง ผมกลับลืมไปว่า
ที่ห้อยคอผมนั่นไง...หลวงปู่ฤาษีผสมธาตุอัศจรรย์พันลึกชนิดนี้ให้ผมชม เมื่อผม
เป็นนายช่างร่วมสร้างนานกว่าพันปี!!

หลวงปู่ฤาษีเนรมิตเหล็กไหลผสานเป็นเนื้อเดียวกลมกลืนเข้ากับชินสังฆวานร เอา
เหล็กน้ำพี้เคล้า ใส่ตามด้วยกัน โลหะธาตุ ที่มิอาจรวมตัวกันได้ ทุกสูตรทางเคมีใน
โลกนี้ ถูกผูกตรึงไว้ด้วยมนตราแห่งผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ พลังจิตเหนือโลกหาไหนปาน

เมื่อเสกฤทธิ์คลุมไว้ด้วยเตโชธาตุ สนิมที่บังเกิด กับองค์โลกธาตุ จึงเป็นสนิมแดง
ลูกหว้าดังทาชาด งอกปกปิดเนื้อเหล็กไหล ครอบเหล็กน้ำพี้ไว้ เป็นสนิมงามเปล่ง
ปลั่ง ไม่เหมือนสนิมแดงกระดำกระด่าง ดังที่เห็นกันในวัสดุพื้นๆทั่วไป สนิมนี้จะคลุม
ธาตุเหล็กไหลไว้ จนกว่าเจ้าของหมดวาสนา หมดอายุขัยครอบครอง!!!

หากห้วงเวลาที่บิดเบี้ยว การเดินทางอันบิดเบือนมิติสุริยะจักร ทำให้ความทรงจำ
ของผม ตกหล่นตรงแห่งหนใดสักที่ ระหว่างลอยล่องผ่านเวลาที่ไม่มีอยู่จริง
ณ ถ้ำฤาษี

คำว่า "เหล็กไหล"จากปากคุณเทพ จึงกระตุ้นภาพเงาบางๆลางเลือนในจิตใต้สำนึก
ของผมให้ฉายกระจ่างออกมา

"เหล็กไหล ดียังไง?" ผมถามคุณเทพด้วยความอยากรู้จริงๆ ไม่ใช่ลองภูมิ คุณนง
ก็ขยับตัวสนใจ เอามืออังไฟไล่ความหนาว

นิทานรอบกองไฟเที่ยวนี้ จึงเป็นทีคุณเทพเล่าบ้าง...

 

คุณเทพเริ่มว่า..."ผมก็ยังไม่รู้แจ้งทุกอย่างนะ รู้แต่ว่า เหล็กไหลมีคุณสมบัติ...
1 ปืนยิงไม่ออก...2 ไม้ขีดจุดไม่ติด พิชิตไฟและความร้อน...3 เสพน้ำผึ้งเป็น
อาหาร ...4 ราคาแพงมาก น้ำหนักบาทเดียว เป็นล้าน!!!

ส่วนคุณสมบัติปลีกย่อยอื่นๆมีอีกพอควร แต่ผมไม่ฟัง ไม่ได้ยินแล้วเพราะกำลัง
หูอื้อ ตาลายกับคำว่า ล้าน!

อู้ฮู ผมคราง ห้วงเวลานั้น อย่าว่าเงินล้านเลย เงินร้อยกว่าจะหาได้ต้องอาบเหงื่อ
ต่างน้ำ สายตัวแทบขาด เงินพันไม่ต้องพูดถึง เงินหมื่นลืมไปเลย...เงินแสน เงิน
ล้าน เป็นตัวเลขเหมือนนิทานนอกจักรวาล

"มีคนซื้อจริงหรือครับ?"...ผมถามย้ำ เหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ ปากถามแต่สมอง
เตลิดเปิดเปิงไปไกล

"ผมมีเพื่อนต่างประเทศ ยืนยันว่าถ้าเหล็กไหลมีคุณสมบัติตามนั้น เขามีคนซื้อ
แน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์"...คุณเทพยันขึงขัง ผมเชื่อแกครับ เชื่อหมดหัวใจ เพราะ
ผมรู้ว่า คนที่ผ่านชีวิตแบบเศรษฐีร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำรอบโลกเช่นคุณเทพ ไม่ใช่คน
ปัญญาอ่อน ที่จะโดนใครหลอกให้มาหาเหล็กไหล

ตัวแกเองนั่นแหละ คือหัวหน้าคณะ ทุกคนในทีมล้วนเป็นองค์ประกอบ เป็นฟันเฟือง
ที่คุณเทพคอยหมุนให้เดินตาม แม้แต่อาจารย์เลิศ

ลองไม่มีคุณเทพซะคน ใครจะทำอะไรได้? ต่อให้มีเหล็กไหลก็ไม่รู้เอาขายที่ไหน?
ขายใคร? ก้อนเป็นล้าน เมืองไทยสมัยนั้น ไม่มีคนมีเงินซื้อแน่นอน!

 

เอาสามท่อนพอท้วมๆนะครับ พักก่อนละ
เจอกันพรุ่งนี้ครับ
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน

 

ราตรีสวัสดิ์เช่นกันครับ

 

มีพี่ๆคนไนสนใจจะขุดหาสมบัติบ้างไหมครับ เป็นปราสาทโบราณผมเคยไปสำรวจมาเมื่อเกือบสี่สิบที่แล้ว และเมื่อปลายเดือนที่แล้วไปสำรวจอีก ผมว่าบางภาพอาจจะเป็นการเขียนบอกที่ฝังสมบัติไว้ก็ได้นะครับว่าจะไม่ลงแล้วเชียว ได้อ่านก่อนจะไปธุระและเที่ยวเลยเอารูปมาลงครับ

 

รอช่วงนี้มานาน เหล็กไหลมาล่ะ เนื้อเรื่องหลักมาแล้ว คอยเป็นกำลังใจ คอยอ่านครับ