ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ดังนั้น ดอกบัวมีสาม แบบ สามระดับ

ระดับเล็กๆเริ่มต้น บานในใจคน...เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิได้เลือก
ระดับกลางบานในโลก รวมสรรพจิตวิญญาณทุกภพภูมิ...เป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ระดับใหญ่ บานรองรับโลกทั้งใบ ห่อหุ้มโลกเอาไว้..เปรียบว่า..ไม่แบ่งแยกใคร

 

ไม้ตาย..สุดท้าย.....กราบสุนัขไม่ได้..อย่ามาอ้างว่าตนบรรลุธรรม...

 

ผู้ที่สำเร็จอรหันต์แท้จริง...เขาไม่มี มหาเวทย์ดูดดาว...แต่จะใช้ วิชากระบี่สะท้อนกลับ...ในแบบของพระพุทธะ...เหมือนกระบวนท่าไร้ลักษณ์ไร้ตัวตน..ใครเขาขว้างบูมเมอแรงมาไส่เรา..ไม่โดนใคร มันก็วกกลับ ของมันเอง....กรรมสนองกรรม กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตอบสนอง..นั่นเอง

 

ที่จริงแล้ว...วิชาเดินลมปราณ...ไม่มีจริง เพราะลมปราณมันมีของมันอยู่แล้ว ในร่างกาย
แต่ การชำระอวิชชาต้องมี...หมายความว่า..สะจิตตะ ปะริโยทะปะนัง...การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ..คือสิ่งจำเป็น..

หรือ สัพพะปาปัสสะอะกะระนัง...การไม่ทำบาปทั้งปวง..ต้องหยุดได้จริงๆ...ถึงจะได้ กุสะรัสสูปะสัมปทา....การทำกุศลให้ถึงพร้อมได้....จึงจะถึงพร้อมได้...

เอตัง พุทธา นะสาสะนัง...ธรรมสามอย่างนี้ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

 

การไม่ทำบาปทั้งปวง...หมายถึง..สงบแล้วอย่างแท้จริง(ฌาณ)
การทำกุศลให้ถึงพร้อม..หมายถึง..การสะสมปัญญาเต็มรอบแล้ว ที่จะ(ญาณ)
ชำระจิตของตนให้ขาวรอบ..คือ ชำระความไม่รู้ที่มีในตน(เข้าถึงพระไตรลักษณ์ ถึงอนัตตาธรรม)

รอบอะไร รอบวงจร การเกิดของ วัฏสงสาร...สมุปจกิจบาท....ชำระอวิชชา ไม่ไห้มีวิญญาณ..เกิดร่วมในทุก กระบวนการขั้นตอน โดยรอบครบ ทุกจุดของวงจร...

 

ที่วรณ์นิ โพสมามันไม่ใช่ธรรมบัวบานนะ
เดี๋ยวคนมาอ่าน เขาจะเข้าใจผิดเอา

 

ธรรมบัวบานไม่มีวิธีฝึกสมาธิแบบตันตระยานนะครับ
มีแต่การพัฒนาอินทรีย์ห้า "ในชีวิตจริง" เช่น ขณะทำงาน


ผมจึงยกตัวอย่าง เด็กแว๊นซ์, เด็กแนว ฯลฯ ว่าเขาเดินธรรมอยู่ครับ

 

ผมก็ไม่ได้บอกว่า เป็นธรรมบัวบานตามที่คุณ เข้าใจหรอกนะ
เพราะธรรมที่คุณพูด....เด็กแว้นเด็กแนวพวกนั้น..มัน ไม่ไช่แนวผม

 

ธรรมบัวบานที่คุณเห็น...ที่คนอื่นเห็น...แต่แน่ใจหรือว่า...คุณเข้าใจ

 

แล้วคุณ เก้าร้อยสามสิบ...เข้าใจว่ายังไงครับ

 

ธรรมบัวบานเป็นเรื่องของใจและความรัก


ไม่ใช่เรื่องของสมอง, ความรู้ และปัญญาทางธรรมอะไรทั้งนั้นครับ
ไม่ว่าคุณจะรู้มากแค่ไหน (แบบเถรวาท) หรือคุณจะมีปัญญาว่องไว
อย่างไร (แบบวัชรยาน) หรือคุณจะฝึกอะไรมามากมาย (แบบตันตระ)
ทั้งหมดนั้น ก็ไม่ใช่แนวธรรมบัวบานเลย แนวทางของธรรมบัวบานสำคัญ
ที่ใจ ไม่ใช่สมอง ไม่ใช่ที่ความรู้ แต่สำคัญที่ "คุณใจไหม?" วัยรุ่นเขา
รู้จักคำว่า "ใจหรือไม่ใจ" เช่น แหม๋ นายไม่ใจเลยว่ะ คือ ไม่มีใจ ไม่
เต็มใจที่จะทำด้วยหัวใจที่แท้จริง อะไรแบบนั้น ต่อให้เก่งแค่ไหน
ฝึกอะไรมามากมาย ก็จะไม่สำเร็จธรรมบัวบานหรอกครับ


เพราะธรรมบัวบานสำคัญที่ "ใจและความรัก" แค่นั้นเอง

 

เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ เพราะยังยึดมั่นธรรมเดิมจึงยังไม่สามารถรับธรรมใหม่ได้ หรือเพราะธรรมนี้ไม่เหมาะสมกับวัย หรือเพราะธรรมนั้นง่ายเกินไปจนยากจะเข้าใจ หรือเรายังไม่เปิดใจว่ายุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่เราถือตำราเล่มเดิม เกือบละครับ

 

ครับ

ธรรมใดๆ ไม่อาจเลิกได้ด้วยแค่การเลือกตามใจเรา
ทุกอย่างถูกผูกมัดปักหมุดไว้ด้วยอำนาจแห่งกรรม
และเจ้ากรรมนายเวร พ่วงอีกมากมายนักหนาเกิน
จะถอนตัวออกจากธรรมหนึ่งไปสู่ธรรมหนึ่งได้

ดังนั้น ผมจึงไม่เคยสนใจคนที่ไม่ใช่ ว่าเขาจะเชื่อไหม?

และการที่ผมก้าวมาสู่ธรรมนี้ได้ ผมรู้ว่ามันยากขนาดไหน
ผมต้องใช้วิชามาร ขับถ่ายพลังธรรมเก่าลงในอินเตอร์เน็ต
ให้คนอื่นรับช่วงต่อไปแทน เหมือนถ่ายทอดทายาทอสูรไง
และเมื่อพลังธรรมเก่าหมดแล้ว ปลดให้คนอื่นรับไปแทนแล้ว
ผมจึงเปิดรับ ดึงเอาพลังธรรมใหม่ จากพวกเด็กแนวมาได้ครับ


เรื่อง ธรรมะ ไม่ใช่ง่ายๆ แค่คิด แค่อยากได้ ตามใจเราก็ได้ ไม่ใช่ครับ

 

ขอโทษนะครับคุณวรณ์นิ. ผมไม่ได้รับธรรมบัวบาน เพิ่งรู้จักในกระทู้นี้. เอง

ชีวิตดีขึ้นคือเรื่องของคุณ flozen. flower. ลองย้อนกลับไปอ่านใหม่นะครับ

 

.
เขียน ๒๒.๑๑

ท่านดอกน้ำแข็งไม่เบื่อเจ้าวอนบ้างหรือครับ
เรื่องที่ตัวเองไม่รู้ แต่ก็ยังพล่ามไปได้เรื่อยเปื่อย
ว่าแต่ ธรรมอะไรของท่านน่ะ มีคนสำเร็จแล้วมากไม๊


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

ดีใจจัง ซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่แต่เก่า และแท๊ปเลทเก่าแต่ใหม่เอี่ยมอ่ะ

 

งานคือสิ่งที่เราเบื่อ ก็ต้องทำนะครับ กระต่ายป่า

 

เหมืิอนคนที่ไปรับขันธ์มา
อยู่ๆ มาบอกว่าจะเลิกแล้ว
จะเอาตามใจอยากเลิกก็เลิก


ไม่ได้หรอกครับ จะเลิกก็ต้องมีวิธี

 

งั้นธรรมบัวบานที่ท่านกล่าวก็เน้นเฉพาะกลุ่มนี้เป็นหลักเพื่อเป็นฐานในอนาคตเหรอครับ
เน้นใจความรักความรู้สึกความเป็นพวกพ้องคือถ้าเข้าพวกได้ก็ได้ใจเลย สติปัญญาสมาธิ ค่อยมาอบรมกันทีหลังแบบนี้เหรอครับ หรือว่าไม่ต้องใช้ ใช้แค่ความรู้สึกเชื่อใจไว้ใจก็พอแล้ว งืมแบบนี้ก็น่าจะไปได้นะครับเพราะถ้าไม่ต้องสอนใครมากมายใช้แค่ใจก็พอ เพราะใจเขารู้ถูกรู้ผิดเป็นเข็มทิศในตัวของมันเองอยู่แล้ว

 

อันที่จริงผมก็ยังไม่เข้าใจอะไรชัดเจนครับ. แต่ชอบอ่านเรื่องของคุณ. flozen. flower. มานานมาก. เป็นแฟนประจำ. ตามอ่านเงียบ ๆ. มาตลอด. เป็นพวกชอบเรื่องแปลกๆ

ก็ต้องขอบคุณ. คุณวรณ์นิ. ที่ถามคำถามมาเรื่อย ๆ. ทำให้เรื่องราวกระจ่างขึ้นครับ

 

สัทธรรมปุณฑริกสูตร เป็นธรรมอัศจรรย์
พลังธรรมจะทำหน้าที่นำทางพวกเขาเอง


แค่จูนจิตใจของพวกเขาให้ตรงคลื่นก็พอ