ควรรึไม่ที่จะขอเช่น อายุเท่านี้ บริวารเท่านี้ สูงเท่านี้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย liketoeatapple, 14 มีนาคม 2016.

  1. liketoeatapple

    liketoeatapple Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +86
    กาลเมื่อบรรลุพระโพธิญาณ


    มีโทษ ดีร้าย มิบังควรประการใด ท่านใดกล่าวเช่นใดบ้าง ขอสดับเป็นเมตตา ธรรม
     
  2. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ได้ครับ เป็นออฟชั่นเสริม ถ้าอธิษฐานมากต้องสร้างเหตุให้มากตามครับ

    แต่หัวใจสำคัญคือช่วยเหลือสรรพสัตว์
     
  3. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    ตามนี้ครับ ทุกอย่างมันมีกฏเกณฑ์ ระเบียบ แบบแผน ตามกำลัง
    สิ้นสุดจะมีโบนัส พิเศษให้
     
  4. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +2,226
    ถ้าอยากได้ ต้องปรารถนาก่อนได้รับพุทธพยากรณ์เสียด้วย
    เพราะเมื่อได้รับพุทธพยากรณ์ ท่านจะทำนายอายุให้เรียบร้อย

    ดังนั้นความปรารถนาแบบนี้ ต้องตั้งไว้ตอนสร้างบารมีช่วงแรกเลย
     
  5. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ไม่ต้องขอครับ

    ยามเป็นพระโพธิสัตว์ ยังลงนรกเพื่อโปรดสัตว์ได้ ยุคสมัยแห่งโลกมนุษย์จะต้องสนใจไปใย พิจารณาแค่ช่วงเวลาที่โลกเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงในช่วง อายุขัยมนุษย์ 100 ปี ถึง 80,000 ปี ช่วงเวลาใด เมื่อตรัสรู้ สรรพสัตว์ได้ประโยชน์สูงสุด คือ หลุดพ้นทันที จำนวนมากหรือปริมาณมากสุด ก็คือ สมัยนั้น

    ทั้งนี้ อายุ ความสูง ก็เป็นไปยุคของโลกมนุษย์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องขอหรืออธิษฐาน ส่วนบริวารก็ไม่ต้องขอ เดิมปณิธานคือ ขนสรรพสัตว์เข้าสู่นิพพาน ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์ยังสอนธรรม จนคนบางคนไปตรัสรู้เองเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้ พระโพธิสัตว์ไม่ห้ามเลย ถ้าทราบภายหลังกลับยินดีในความตรัสรู้ของท่านเสียอีก ดังนั้น แม้บำเพ็ญมาจะช่วยส่งเสริมพุทธเกษตรอื่น เช่น เกิดเป็นพระในศาสนา แล้วเผยแพร่พระธรรม จนมีสรรพสัตว์หลุดพ้น ก็ย่อมยินดี การปรารถนาบริวาร เอาเฉพาะเรื่องจำนวน ว่าจำนวนใด มีโทษอย่างหนึ่งที่เห็นตามตำนานคือ การมีความหลงผิดและไปเป็นมารขัดขวางพุทธเกษตรอื่น

    ดังนั้น จำนวนบริวาร จึงไม่ต้องขอ อยู่ที่การบำเพ็ญบารมี ไม่ว่าจะเกิดยุคโลกสมัยใด ทำได้ทั้งสิ้น ถ้าประเภทปัญญา จะเกิดบ่อยมากแค่นั้น

    สำหรับสายอื่นๆ ลองพิจารณา ยิ่งสายศรัทธา หรือวิริยะ อาจมีข้อจำกัดให้ตนเวลาบำเพ็ญ คือ อาจตั้งจิตว่า จะไม่อย่างนั้น อย่างนี้ เวลาบำเพ็ญ เช่น จะไม่ฆ่าสัตว์เลย โปรดอย่างเดียว แต่บางองค์อาจจะตั้งว่า ต่อให้ต้องปราบปราม ถ้าโปรดสัตว์ได้ ก็ต้องลงภาคปราบ ก็ลงมาฆ่าคนฆ่าสัตว์ได้ โดยพิจารณาเอาที่ประโยชน์สูงสุดของสรรพสัตว์มากกว่า บางองค์อาจตั้งใจ ขอบำเพ็ญเป็นสายพระหรือนักบวช ไม่ยอมลงวรรณะกษัตริย์เลยก็มี บางทีสายเมตตา บางคนจะอายุยืนในสมัยมนุษย์และอยู่สูงบนพรหมโลกบ่อยๆ มุ่งปณิธานถือคติไม่ฆ่าสัตว์เลย ไม่ปราบปรามสัตว์เลย ก็ต้องละเว้นดารสอนสัตว์เหล่านั่นไป เวลาในโลกมนุษย์จะน้อยลง เวลาสวรรค์พรหมโลกจะบ่อย ชาติที่เกิดมนุษย์ก็จะน้อยตาม ลองคิดดู องค์หนึ่งเกิดตายในช่วงพันปีเป็น สิบครั้ง แต่องค์ที่เข้าสายบวชและเมตตา ถ้าไม่ละทิ้งภูมิพรหม จะไปเกิดเป็นพรหมตามแรงสมถะที่สูง อายุแค่ช่วงแว่บของชั้นสูง ก็ผ่านไปหลายพันปีแล้ว พลาดการโปรดสัตว์ในหลายรอบพันปี

    ส่วนปลีกย่อยเหล่านี้ ก็มีผลต่อพุทธเกษตร

    แต่ว่า อายุ ความสูง แม้เป็นสายใดก็ได้ เพราะมีคำกล่าวแล้วว่า ธรรมดาพระโพธิสัตว์จะตรัสรู้ ย่อมลงได้ในโลกมนุษย์ยุค ที่มีอายุ100 - 80,000 ปี ดังนั้น สามารถลงได้ทั้งนั้น แต่จังหวะที่สัตว์ในพุทธเกษตรจะพร้อมหรือเปล่า ซึ่งสามารถทำส่วนนั้น ตรงการบำเพ็ญบารมีโปรดสาวก ได้ คือ ยิ่งสอนให้สาวกฉลาดหลบนรกได้บ่อย ก็ยิ่งทำให้สาวกมีปัญญาเลือกเกิดตามสมัยที่เหมาะสมได้

    ดังนั้น ถ้าเห็นว่าทำบำเพ็ญมาบริบูรณ์แล้วในส่วนสาวก แต่ต้องพิจารณาส่วนสรรพสัตว์โดยรวมว่า เวลาใดเหมาะสมที่สุด คือ สรรพสัตว์หลุดพ้นสูงสุด ต้องเลือกตามวาระนั่น อีกครา

    ดังน้ัน จึงอยู่ที่ทัศนะในการบำเพ็ญ ซึ่งคาบเกี่ยวกับสายหรือประเภทบารมี
     
  6. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +2,226
    ขออายุ ขอบริวาร ยังพอโอเคนะ

    แต่ขอความสูง นั้นเอาเข้าจริงมันตลกนะ เพราะความสูงมันต้องสัมพัน
    กับคนทั่วไปในยุคนั้น ถ้าเราไปสูงกว่าเขา 2 เท่า เราก็ไม่ใช่คนปกติในยุคนั้นแล้ว
    มันจะดูกลายเป็นยักษ์ไป การสอนสั่งมันจะเรียกว่าสอนมนุษย์ด้วยกันหรือ
    หรือจะกลายเป็นอุปสรรคไปเสียอีก

    อีกประการ จะเรียกว่าขอ ก็ไม่ใช่ แต่เป็นความปรารถจะดีกว่า
    เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่จะได้ด้วยการขอ แต่ได้ด้วยความปรารถนา
    ซึ่งเมื่ออธิษฐานแล้วกรรมจะกำหนดหรือผลักดันปัจจัยเหตุการณ์
    ให้เราต้องสร้างกรรมต่างๆนานา เพื่อให้เป็นไปตามปรารถนานั้น
    ส่วนจะได้ไม่ได้ คือเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นเราได้สร้างบารมีตอบสนอง
    สำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่เรานั้นล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2016
  7. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ช่วงบำเพ็ญบารมีเราสามารถอธิฐานได้ครับว่าอยากโปรดสัตว์ในยุคไหนช่วงอายุของเวนัยฯ(คนที่เกิดในยุคนั้น) ๑๐๐ - ๑๐๐,๐๐๐ ปี
    ไม่มีโทษใดๆๆ เลยครับ
    เดี๋ยวผมจะช่วยอธิบายทีล่ะอย่างนะครับ

    เรื่อง บริวาร นั้น เราๆๆๆไม่สามารถจะรู้ได้เลยนะครับ ว่าบริวารของพระพุทธเจ้าแต่ล่ะพระองค์มีเท่าไรกันแน่นะครับ แต่พระพุทธเจ้าทุกๆๆพระองค์จะมี อัครมหาสาวก ๒ รูป มหาสาวกอีก ๗๘ รูป ซึ่งเป็นตัวแทนความสามารถแต่ล่ะด้านของพระพุทธเจ้านะครับ เหมือนกันทุกๆๆพระองค์ครับ

    ส่วน
    เรื่อง อายุ ความสูง นั้น อายุกับความสูงจะเกี่ยวเนื่องหรือสัมพันธ์กันครับ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปอุบัติในยุคไหน คือ ช่วงอายุ ๑๐๐ - ๑๐๐,๐๐๐ ปี ซึ่งความสูงของแต่ล่ะยุคนั้น ก็จะเป็นมาตรวัดของความสูงของยุคนั้นๆๆนะครับ แต่จะไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับยุคอื่นไม่ได้เลยนะครับ ว่าสูงกว่า หรือต่ำกว่านะครับ มากกว่าหรือน้อยกว่านะครับ เพราะมนุษย์ที่ไปเกิดในยุคนั้นก็จะสูงหรือมีมาตรวัดตามยุคนั้นๆๆ นะครับ
    การหมุนของดวงดาว การนับวัน เดือน ปี ก็อาจนับไม่เหมือนกันนะครับ

    ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><CENTER>ควรรึไม่ที่จะขอเช่น อายุเท่านี้ บริวารเท่านี้ สูงเท่านี้

    </CENTER>
    </TD><TD>permalink
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><?XML:NAMESPACE PREFIX = FB /><FB:LIKE></FB:LIKE>
    <SCRIPT type=text/javascript src="http://connect.facebook.net/en_US/all.js" async="true"></SCRIPT>
    <SCRIPT> window.fbAsyncInit = function() { FB.init({appId: '233132393539', status: true, cookie: true, xfbml: true}); }; (function() { var e = document.createElement('script'); e.type = 'text/javascript'; e.src = document.location.protocol + '//connect.facebook.net/en_US/all.js'; e.async = true; document.getElementById('fb-root').appendChild(e); }()); </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript> google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625"; google_ad_slot = "0551074580"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280;</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 336px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 280px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_expand><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 336px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 280px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_0 onload="var i=this.id,s=window.google_iframe_oncopy,H=s&&s.handlers,h=H&&H,w=this.contentWindow,d;try{d=w.document}catch(e){}if(h&&d&&(!d.body||!d.body.firstChild)){if(h.call){setTimeout(h,0)}else if(h.match){try{h=s.upd(h,i)}catch(e){}w.location.replace(h)}}" height=280 marginHeight=0 frameBorder=0 width=336 allowTransparency name=aswift_0 marginWidth=0 scrolling=no allowfullscreen="true"></IFRAME></INS></INS>
    กาลเมื่อบรรลุพระโพธิญาณ


    มีโทษ ดีร้าย มิบังควรประการใด ท่านใดกล่าวเช่นใดบ้าง ขอสดับเป็นเมตตา ธรรม









    :cool:({) สวัสคีครับทุกๆท่าน ผมให้ความเห็นแบบนี้นะ ครับ ในส่วนตัวผม ใครคิดแบบไหน ก้แล้วแต่ความคิด ส่วนบุคคล แตผมคิดของผม แบบนี้ ด้วยการปราถนาพระโพธิญาณ ของแต่ละท่าน ว่าอยู่ ในแบบไหน มากกว่า เช่น ในสายของ แบบ ปัญญาธิกะ ด้วยการทำความเพียรสร้างบารมี นั้นน้อยกว่า ศรัทาธิกะ น้อยกว่า วิริยาธิกะ ปัญญาธิกะ บำเพ็ญ ๔ อสงไขย กำไลยอีกแสนมหากัป ถ้า ศรัทธาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๘ อสงไขย กำไลยแสนมหากัป ถ้าวิริยาธิกะ ก็บวกเข้าไปอีก เท่าตัว บำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขยกำไลย แสนมหากัป


    ด้วยเหตุที่ว่า การบำเพ็ญบารมี น้อย อายุจึงน้อย บริวารก็น้อย ลาภก็น้อย คนที่มาเกิด ในยุคของท่าน จึงมีพวก คนชั่ว มากนั่นเอง คนมีศิลธรรม น้อยกว่า คนชั่ว เปรียบเสมือน คนยุคนี้นี่แหละ ตรงยุค ขององค์สมเด็จ พระผู้มีพระภาคเจ้า องค์ปัจจุบัน คนยุคของท่าน จึงมีทุกรูปแบบ แต่การเป็นพระพุทธเจ้า เสมอเหมือนกันหมด เป็นแต่เพียง อายุกาล ลาภ พระสาวก ไม่เท่ากัน เพราะ ด้วยอาศัย ยิ่ง บำเพ็ญนาน อายุกาล ลาภ พระสาวก ก็มาก ไปตามลำดับ และ สัตว์นรก พวกที่มาจาก อบายภูมิ หมดสิทธิ์ ไปเกิด ในยุคของ ท่านที่ปราถนา แบบ ศรัทธาธิกะ และยิ่งด้วย วิริยาธิกะด้วยแล้ว หมดสิทธิ์เลย สำหรับ สัตว์นรก ฉนั้น อายุกาล จึงไม่เหมือนกัน ครับ :cool:
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ด้วยเหตุที่ผมก็ ทำความเพียร มาในด้าน วิริยาธิกะ เหมือนกัน ตราบใด ที่ท่าน ทั้งหลาย ยังสร้างบารมีไม่เต็ม หรือเต็มแล้ว ยังไม่ได้ ตร้สรู้ เป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกะพุทธเจ้า และตรัสรู้ เป็นพระอรหันต์ ก็ตาม เกิดยุคไหน ก็มีอายุเท่านั้น แต่ถ้าท่าน ปราถนา มาในแบบ ยุคของ ศรัทธาธิกะ และยุคของ วิริยาธิกะ ท่านก็ก็ต้องไปเกิด ได้ มรรคผล ตามยุคของท่าน เหล่านั้น ถ้าท่านไม่หักเห มาเป็นพระสาวกของ ในสมัย ปัญญาธิกะ ในสมัย พุทธกาล ก็มีตัวอย่าง ยิ่งในสมัยนี้ด้วยแล้ว พุทธภูมิ ในด้าน ปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ หรือ วิริยาธิกะ ลามาเป็น สาวก ขององค์สมเด็จ องค์ปัจจุบัน มากมายครับ เพื่อ ต่ออายุ พระพุทธศาสนา ในพลังจิต มีให้อ่าน เยอะแยะครับ :cool:


    ฉนั้น มันจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ ของขั้น ทำความปราถนา ปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ ทำไปๆ เดี๋ยวปัญญามันก้เกิด หรือได้รับฟัง จากบุรพาจารย์ ที่ท่านรู้ ตามที่เราบำเพ็ญมา ถึงจุดสุดท้าย ตัวเราเองนั่นแหละ มันรู้ ของมันเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...