กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lovepyou, 8 กรกฎาคม 2014.

  1. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    จากข้อความ "ปรับระบบการมองด้วยการใช้ตาปกติชำเลืองมาที่ลิ้นปี่ และมอง ผ่านจุดจักระที่ ๖ หรือจุดเหนือคิ้วซึ่งมันจะเป็นอัตโนมัติครับ เพื่อตัดกระแสความคิด"
    ผมขอถามเพิ่มนิดนึงครับ
    ---ข้อความนี้ หมายถึงระหว่างนั่งรับรู้ลมหายใจเข้าออกที่ปลายจมูกนี่ ตาก็ไม่ได้ปิดสนิท แต่แค่ชำเลืองดูที่ตำแหน่งลิ้นปี่ ใช่ไม๊ครับ แล้วก็ไม่ต้องไปนึกทีึ่หน้าผากด้วย
    ---คือบังเอิญ ผมเข้าใจผิดว่า นั่งหลับตาแล้วนึกภาพที่ลิ้นปี่ ครับ

     
  2. ถวายบูชา

    ถวายบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +560
    รบกวน คุณพี่นพการณ์ ในส่วนวิธีการฝึกการสวดคาถาจักรพรรดิ์ โดยใช้วิธีการที่แบบคุณพี่แนะนำ ใช้หลักการเดียวกันไหมครับ
    ขั้นตอน
    1.สวดจักรพรรดิ์พร้อมกำหนดลมหายใจเข้าออก ปิดตากำหนดชำเรืองมองลงที่ลิ้นปี่(ไม่ได้กำหนดภาพกสินหรือภาพพระใดๆ)
    2.หลังจากได้ทำดูรู้สึกถึงตรงตาที3มีความรู้สึกตึงหน่วง ในเวลาใช้สายก้มลงชำเรืองดูลิ้นปี่
    3.เราสามารถไม่ต้องลมหายใจ เพราะบางทีเวลาสวดคาถาตามลมเข้าออกไม่ทัน แต่สวดจักรพรรดิ์โดยหลักการข้างบนได้หรือไม่ครับ
    (ความเข้าใจของผมถ้าเราตามลมหายใจเข้าออกตรงจมูกและชำเรืองตาลงมองที่ลิ้นปี่เราจะได้ทั้งสติทางธรรมและกำลังสมาธิสะสมไปในตัว)
    4.เคยเห็นคุณพี่นพการณ์แนะนำบางท่านในการสวดคาถาจักรพรรดิ์แต่ทราบวิธีการในกระทู้นี้ในการปฏิบัติ
    ขอคำแนะนำในการปฏิบัติเรียนรู้และข้อเพิ่มเติมในสิ่งที่ผมต้องน้อมนำมาฝึกด้วยครับ
    ขอขอบคุณคุณพี่นพการณ์ ในการตอบคำถามในข้อต่างๆครับ โมทนาสาธุ...
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    เอาง่ายๆครับ..ที่เคยทำเมื่อก่อนลืมให้หมดนะครับ.ผมย้อน
    สาเหตุให้ดูเฉยๆครับว่าทำไปมันพัฒนาไม่ได้ เพราะฉนั้นไม่ต้อง
    จำครับ.เด่วทำตามที่แนะนำจะมีเครื่องรู้ได้ด้วยตัวเองครับ..
    .มาเริ่มต้นใหม่ดังนี้
    ๑.ทำความรู้สึกรับรู้ว่ามีลมกระทบเข้าและออกที่ปลายจมูกก็พอ
    ในขณะเดียวกันก็ดันให้ลมหายใจลึกถึงท้องร่วมด้วย แต่ห้าม
    ไปตามลมหายใจ...
    ๒.เวลานั่งให้หลับตาปกติลง ให้เหมือนๆมันไปชำเลืองมองที่ลิ้นปี่..
    คล้ายๆสายตาพระพุทธรูป....เด่วเราจะมีความรู้สึกว่ามีดวงตาอีกดว
    และตาดวงเดียวนี้มันจะมองผ่านจุดเหนือระหว่างคิ้วอัตโมมัติได้เอง.
    และก็ไม่ต้องไปสนใจดวงตานี้ครับ....

    ๓.และเราไม่ต้องสนใจอะไร อย่าเผลอไปกำหนดตามลม
    กำหนดจุดระหว่างคิ้ว
    มันจะเป็นการไปสร้างความคิด และสร้างกระแสจากสมองให้เกิดทันที
    และก็ให้ทำตามข้อ ๑ ไปเรื่อยๆครับ สนใจหลักข้อ ๑ พอครับ..
    เพราะความเคยชินเดิมๆเรื่องปกติที่มันจะกลับไปแบบเดิมๆ
    ครับเด่วก็ดีขึ้นครับ...
    ความรู้สึกรับรู้ว่ามีลมเข้าและออกที่ปลายจมูกครับ
    สำคัญที่สุดตอนนี้ครับ

    ปล.การพัฒนาระดับสมาธิก็คือ การลดคลื่นความถี่ต่างๆที่จิต
    มันไปเกี่ยวข้องครับ..คลื่นจากสมองมันเป็นอะไรที่เกิดร่วม
    และอยู่กับจิตเรามาตั้งแต่เราเริ่มท่องอ่านหนังสือได้
    มันจึงเป็นตัวขวาง.การพัฒนาระดับสมาธิเราครับ..
    เพราะฉนั้นเราจึงจำเป็นต้องตัดที่ตัวต้นเหตุก่อน..
    มันถึงจะพัฒนาในลำดับต่อไปได้ของมันเองครับ..
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ขออนุยาด ถามคุณนพ หน่อยครับ ว่า กสิณฝึกแล้ว ได้ประโยชน์เป็นประโยชน์อะไรต่อร่างกายและจิตใจบ้างครับ....ตอบแบบ สนุกสนานนะครับ อิอิ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ถ้านั่งแบบพิธีการนะครับ..
    ดวงตาเหมือนหลับครับหนังตาก็ปิด สังเกตุถ้าเราหลับตาลง
    ปกติลูกนัยต์จะชำเรือง
    ลงต่ำ หรือที่ส่วนตัวเรียกว่าชำเลืองมาดูลิ้นปี่
    หรือคล้ายๆดวงตาพระพุทธรูปครับ
    ระหว่างนั่งรับรู้ลมหายใจเข้าออกที่ปลายจมูกนี่
    ตาก็ไม่ได้ปิดสนิท แต่แค่ชำเลืองดูที่ตำแหน่งลิ้นปี่
    ใช่ไม๊ครับแล้วก็ไม่ต้องไปนึกทีึ่หน้าผากด้วย
    ที่ขีดเส้นใต้ตรงนี้เข้าใจถูกแล้วครับ..แค่ตรงลูกตาปกติ
    เหมือนเราหลับตานอน หนังตาปิดครับ
     
  6. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ผมไปเที่ยวป่าเขาในวัดมาครับ เอารูปธรรมชาติมาฝากครับ รูปศาลา เป็น รอยพระพุทธบาทครับ เขาว่างั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0251.JPG
      DSCN0251.JPG
      ขนาดไฟล์:
      7.1 MB
      เปิดดู:
      58
    • DSCN0245.JPG
      DSCN0245.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.7 MB
      เปิดดู:
      48
    • DSCN0244.JPG
      DSCN0244.JPG
      ขนาดไฟล์:
      7 MB
      เปิดดู:
      50
    • DSCN0228.JPG
      DSCN0228.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6 MB
      เปิดดู:
      82
    • DSCN0236.JPG
      DSCN0236.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.7 MB
      เปิดดู:
      55
    • DSCN0232.JPG
      DSCN0232.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.4 MB
      เปิดดู:
      59
  7. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เอารูปมาฝาก เผื่อคลายเครียดครับ อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0227.JPG
      DSCN0227.JPG
      ขนาดไฟล์:
      7 MB
      เปิดดู:
      54
    • DSCN0225.JPG
      DSCN0225.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.7 MB
      เปิดดู:
      58
    • DSCN0234.JPG
      DSCN0234.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.4 MB
      เปิดดู:
      57
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    คุณนพ มองดูรูปศาลาแล้ว เห็นอะไรมั่งครับ ดวงจิตกลมๆน่ะ เป็นของภูมิใดครับ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ตอบ..หลังจากอ่านข้างบนแล้วเนาะ...สมมุติว่า..ระบบหายใจเราเนี่ย
    ลมมันดันถึงท้องได้อย่างธรรมชาติแล้ว...และก็เรารู้สึกว่ามีคล้ายตา
    ที่ ๓ มันอยู่เหนือระหว่างคิ้วได้แล้วและปล่อยมันไป และไม่สนใจมัน
    ได้คล้ายๆว่ามันเป็นปกติกับเรา เพราะว่ามันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร
    กับเราเพราะว่าไม่ได้ใช้ความคิดนั้น.....

    ในช่วงระหว่างนี้ถ้าเราจับได้(จริงๆไม่ค่อยอยากบอกกลัวว่าบอกไป
    เด่วจะหลงตัวเอง)..ถ้าทำได้แล้ว ในระหว่างนี้ ตรงจุดเหนือระหว่าง
    คิ้วนั้น มันจะสร้างกระแสขึ้นมาอีกกระแสหนึ่งครับ..กระแสตัวนี้นี่หละ
    ที่เป็นกระแสที่จะขึ้นไปเชื่อมกับกระแสของครูบาร์อาจารย์ที่เรานับถือ
    ได้ครับ..คือ บุคคลส่วนมากจะมีความเคารพ นับถือ พระรัตน์ตรัย
    เป็นทุนอยู่แล้ว แต่ว่ามักจะเผลอไปสร้างกระแสความคิดขึ้นมาแบบ
    ไม่รู้ตัว คือ เผลอกำหนดตรงนั้นตรงนี้ เลยเป็นเหตุที่ขวางไม่ให้
    กระแสตรงนี้ที่สร้างจากจิตเราขึ้นไปเชื่อมกับข้างบนได้ไงครับ..
    พอนึกๆภาพออกไหมว่า ทำไมพยายามแนะนำให้ตัดความคิดให้ได้ก่อน..
    ถ้าตัวเรามันมีกระแสที่ออกจากจิตเชื่อมกับข้างบน ทำอะไรก็จะง่าย
    ความเข้าใจอะไรก็เสมือนว่ามีกระแสครูบาร์อาจารย์ท่านคอยกำกับอยู่
    ประมาณนี้...ทั่วๆไปเนาะ ถือว่าปรับความเข้าใจ...

    ที่นี้เมื่อลมลึกได้ปกติ ความรู้สึกที่ปลายจมูกปกติ เวลาเราสวด
    พระคาถาฯ..ก็ให้เราระลึกถึงครูบาร์อาจารย์ไว้...เนื่องจากระบบ
    หายใจที่แนะนำไป เป็นอุบายในการตัดความคิด เป็นอุบาย
    ในการสร้างสติทางธรรมและสร้างกำลังสมาธิสะสม..พอเราระลึก
    ถึงท่านๆ..จิตเรามันก็จะเชื่อมกับท่านได้เลย เนื่องจากมันข้าม
    กระแสความคิด มีกำลังสติและสมาธิสะสมที่เพียงพอ....

    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเชื่อมแล้ว..ถ้าครูบาร์อาจารย์ที่ไม่ได้มา
    สายพลังงาน ให้เราสังเกตุตรงช่วงกลางลำตัวตั้งแต่จักระที่ ๑ ถึง
    จักระที่ ๗ ความรู้สึกเกี่ยวกับกระแสลมภายใน มันจะวิ่งขึ้นรวมกัน
    ขึ้นไปข้างบนตรงๆขึ้นไปตรงกระโหลกศรีษะส่วนหน้าครับ..
    ถ้าเป็นครูบาร์อาจารย์ที่มาทางสายพลังงานด้วย คงไม่ต้องบอกเนาะ..
    ให้เราสังเกตุเพิ่มตรงความรู้สึกที่แนวกระดูกสันหลัง ก็จะมีกระแส
    พลังงานวิ่งขึ้นข้างบน ไปออกตรงกลางกระโหลกศรีษะและเชื่อม
    กับกระแสที่มาจากด้านหน้าหน้า....เวลานั่งสมาธิ
    จับถาดพระหลายองค์กรณ์เราจะขอบารมีท่าน หรือ จับพระ
    เพื่อปลุกเสก ก็ทำความรู้สึกแบบให้เกิดให้ได้ เห็นเส้นสายด้วย
    ยิ่งดี หรืออาจเห็นเป็นแสงร่วมด้วยก็ได้แล้วแต่คน
    เอาให้มันนิ่งๆ ขึ้นบน ได้นานที่สุดก็หรูแล้วววววว

    ทำอย่างนี้ได้ จับความรู้สึกอย่างนี้ได้..จิตเราจะก้าวข้ามเข้าสู่
    โหมดวิญญานธาตุได้ทันทีตอนนั้น
    โดยไม่ต้องมาฝึกกสิณเพื่อเป็นฐานแบบพี่ให้เมื่อย ๕๕๕
    เข้าใจหรือยังว่า ทำไมถาคาบทนั้น เค้าถึงว่าเป็นสายบุญฤิทธิ์
    และถ้าเราทำได้ ตาเราจะสามารถมองเห็นเส้นสายที่วิ่งออกจากตัว
    เราได้เป็นปกติและวิ่งขึ้นข้างบนได้ด้วย..ถ้าเราเห็นเป็นควันดำหรือขาวๆ
    ก็แสดงว่า มันกำลังปรับธาตุร่างกายที่บกพร่องให้เราได้อีกด้วย
    ปรับตามสภาพปัจจุบันนะ....

    อย่างพระธาตุหรือพระที่เราเชื่อว่าไม่มีกิเลส ปกติแล้วตัวจิตท่าน
    ก็จะมีเส้นสายพลังงาน ๒แนวอย่างที่เราให้ฟังนี่หละครับ แต่ท่าน
    มีตลอดทั้งวันไงครับ..บางท่านไม่เน้นพลังงานก็จะมีเหมือนกัน
    แต่อีกสายจะไม่ไหล แต่ว่ามันเชื่อมอยู่เพราะท่านไม่ใช้
    อย่างเราๆเป็นฆารวาลหน้าที่เรา ก็สร้างกระแสแบบนี้ให้มันเกิดกับ
    ตัวจิตเราให้นานมากที่สุดแม้ในขณะลืมตาปกติให้ได้นั่นหละครับ...
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ร่างกายก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อรักษาสุขภาพตัวเองได้
    ควบคู่กับการรับประทานอาหารที่ถูกหลักและการออกกำลังกาย..
    เพื่อชลอความเสื่อมของร่างกายก่อนวัยอันควรได้....
    และที่สำคัญหากรู้หลักการแล้ว กำลังจิตที่ได้ก็สามารถ
    นำไปช่วยรักษาร่างกายอื่นๆได้.ตามวาระและความเหมาะสมครับ...

    ด้านจิตใจ.ยกเว้นบ้าพลังนะครับ ๕๕๕ ..กำลังสมาธิสะสม
    ที่มากกว่า บวกกับกำลังจิตในระดับใช้งานได้..มันก็มีเครื่องรู้
    สิ่งที่มาเกาะเกี่ยวจิตได้ดีกว่า และก็มีกำลังเพียงพอในการตัด
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่มาเกาะเกี่ยวจิตได้ดีกว่าไงครับ..

    คือมันสมดุลย์กันในเรื่องการรับรู้และการตัด..คือถ้าเรารู้แต่
    กำลังไม่พอตัดมันก็จะหงุดหงิดไงครับ ๕๕๕๕ ยิ่งไม่มีเครื่องรู้
    ไม่มีตัวตัด ก็ปรุงไปตามเรื่องตามราว เล่าเป็นนิทานได้ ๑๐๘ จบ
    นั้นหละครับ เผลอก็คิดเองเอ่อเอง ยิ่งอาการหนัก...
    เครื่องรู้ตรงนี้ มันสามารถจับได้ แม้กระทั่งอารมย์ กิเลสละเอียดต่างๆ
    และมีกำลังในการตัดได้ ตัดออกจากจิตได้..โดยไม่เหลือตัวอุปโลกน์
    ตัวอื่นๆไม่ว่า ตบะ ฌาน ญาณ สติหรือตัวปัญญา สมาธิ กำลังจิต ครับ..

    โดยมากถ้าเราไม่มีตรงนี้มันจะเหลือพวกตัวอุปโลกน์อยู่ไงครับ
    บางที่เหลือสมาธิอยู่ กำลังจิตอยู่ในการข่ม ฯลฯ ทำนองนี้..
    จิตเรามันเลยแค่สงบๆเฉยๆ ไม่โปร่งไม่โล่งไงครับ..
    บางทีพอกิเลสมาก็หงุดหงิดอีก ๕๕๕
    ไม่ต้องเอาที่ปรุงแต่งไปเรื่อยเปื่อยนะครับ..
    ยิ่งไปกันใหญ่

    ปล.พอมองเห็นประโยชน์บ้างหรือยังครับ คริ คริ
    นี่ยังไม่พูดในเรื่องพิเศษกว่านี้นะครับ
    เช่น การพลิกเอากำลังตรงนี้เพื่อเคลียร์กระแส
    ที่ไม่ดีต่างๆ เช่น กระแสวิบากจร กระแสจากวิบากเก่าจากเจ้ากรรม ฯลฯ
    เอาที่มีประโยชน์กับตัวเราก็พอครับ..ขำๆเนาะ.
     
  11. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ตามที่ผมเข้าใจ นะครับ คือ สำหรับตัวผมเอง ตอนนี้เหมือน มันกำลัง ชดใช้กรรมอยู่น่ะครับ
    คล้ายๆว่า ที่เราฝึกชำระ อวิชชา มาได้ ก็เพื่อ เวลาเรารับกรรมชดใช้กรรม มันจะได้ ไม่ทุกข์ทรมานมาก ไช่แบบนี้หรือเปล่าครับ อิอิ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013

    พวกนี้ถ้าตาปกติแล้วมองผ่านรูปด้วยตาเปล่า..
    ก็พอบอกรูปร่างหน้าตาได้ครับ
    มีแต่ระดับพระพุทธฯเท่านั้นที่ความสามารถส่วนตัวตอนนี้
    ยังมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าจากรูปถ่ายนะครับ
    หรือมองหน้าฝากคนก็พอได้ครับ.แต่ยังสื่อสารไม่ได้ครับ
    แต่ยิ้มๆให้กันนะบ่อยครับ.ส่วนตัวถึงมองดูรู้ไงครับว่าใคร
    เป็นพวกร่างทรงที่ไม่ยอมรับตัวเอง ทั้งๆที่มันก็เคยพูดเองว่ามันเป็น
    แม้ว่าพวกนี้มันจะมีความสามารถบังตา
    คนทั่วๆไปได้แต่สายตาส่วนตัวพอทะลวงผ่านได้อยู่ครับ..
    .และระดับต่ำพระพุทธฯลงมาเล็กน้อย
    ส่วนตัวสามารถมองเห็นได้หมดครับเรื่องปกติมากครับ.
    .และส่วนตัวถ้าใครได้อยู่ใกล้ๆแล้ว
    ส่วนตัวก็ทำให้เห็นได้เหมือนๆกันครับ
    ไม่ใช่เห็นได้อยู่คนเดียวนะครับ..
    แต่ต้องตอบให้ได้นะครับ ว่าจะเห็นไปเพื่ออะไร ?
    ซึ่งตรงนี้จะพอทราบได้เองเช่นกันครับ

    แต่ส่วนมากไม่ค่อยสนใจเท่าไรครับ.ขี้เกียจพูดด้วยหละครับ..
    .เด่วพอไปมองแล้วจิตเรามันจะไปเชื่อม
    ทันทีครับ ต้องรีบเคลียร์ครับ.เด่วจิตจะไปรับกระวิบากเข้ามาครับ.
    ส่วนดวงจิตก็จับๆที่ดวงจิตเอาครับ..
    แต่ว่ามันก็จะมาเล่าๆพูดๆมันก็จะยังดูไม่
    สากลเท่าไรไงครับ...
    ดวงจิตบางทีก็มีทั้งใช่ไม่ใช่บ้าง มันก็พูดยากครับ แต่จับเรื่องพลังงานได้
    มันจะชัวกว่าหน่อย..ถ้ากระแสยังไม่ขึ้นบน
    มีสัมผัสก็เป็นภูมิกึ่งเทวดานี่หละครับ
    ถ้าดันมีเหวี่ยงๆเกี่ยวล่างด้วยพวกนี้ก็อสูรกายครับ..
    แต่ถ้าเป็นมนุษย์มีกระแสอย่างนี้ ประกันได้ล้านเปอร์เซนต์ว่า
    พอดวงจิตออกจากร่างกายจะลงข้างล่างแน่นอนครับ..
    ถ้ากระแสพอมีกระแส ๒ สายมีสัมผัสก็เป็นระดับเทพ
    แต่ถ้ามีกระแสเมตตาร่วมด้วยก็จะเป็นพรหม
    .แต่ถ้ายังเป็นวงกลมยังไงก็เป็นพรหมอยู่ครับ.
    ถ้าระดับสูงๆจริงๆจะกว้างๆไร้ขอบเขตครับ.แต่การปรากฏบางครั้ง
    ก็จำเป็นต้องสร้างความจำได้ก็มีครับ..
    .ถ้ากระแสไหลปรี๊ดๆขึ้นบนด้วยเป็นครูบาร์อาจารย์ระดับสูงๆ
    ส่วนท่านจะถนัดด้านไหน ก็ต้องดูลักษณะเฉพาะกระแสด้วยครับ.
    ว่าตรงไหนบอกว่าเด่นเรื่องอะไรทำนองนี้ครับ..และในวงกลม
    ก็ต้องดูด้วยครับ ดูดีร่วมประกอบการพิจารณาด้วยครับ..
    แต่ถ้าถามว่าเป็นอะไร ก็ขึ้เกียจพูดครับ เอาไว้รู้เองสนุกกว่าครับ...
    บางรูปเวลาที่ส่วนตัวถ่ายรูป มีมากกว่านี้อีกครับ เรียงเป็นชั้นก็มี
    เรียงแนวนอนก็มี เต็มด้านหลังก็มี ไม่ต้องตาดีก็เห็นแล้ว..
    ไม่อยากเอามาลงครับ.เห็นว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร
    .ยกเว้นเอาไว้ลงโชว์ฮาๆเฉพาะกลุ่มพอได้อยู๋..
    .
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    มันเรื่องปกติครับ.มันก็เป็นทุกคนนะครับ...
    .ถ้าจิตเรามันเคลียร์ได้ มันโปร่งโล่งได้มาก่อนเป็นทุนเนาะ..
    และเราก็ดันยังมีชีวิตอยู่..มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเคลียร์กระแสจร
    ต่างๆที่มันวนเข้ามาเรื่อยๆตอนที่เรามีชีวิตอยู่มากน้อยแค่ไหนนั้นหละครับ..
    และก็ขึ้นอยู่กับว่า ดวงจิตใครมีกระแสจรตรงนี้มากกว่ากันครับ..
    ใครมีมากก็เคลียร์มาก๕๕๕ ก็ว่ากันไป..
    ท่านที่เราเชื่อว่าท่านไม่มีกิเลสแล้ว
    ท่านเคลียร์ได้ตลอดอัตโนมัติทั้งวันไงครับ..
    ท่านจึงเหลือแต่จิตที่อาศัยอยู่ในกาย เพื่อทำหน้าที่โดยไม่ต้องมีใครบอก
    เพราะจิตท่านมันโล่งโปร่ง กว้างขยายอยู่แล้วไงครับ เครื่องรู้ท่านจึง
    มากมายตามมาเป็นลำดับนั่นหละครับ..

    ของคุณมันไม่ใช่เรื่องการชดใช้กรรมหรอกนะผมว่านะ ๕๕๕๕๕
    ปัญหาคือจิตมันโปร่งโล่งได้แล้ว แต่เจ้ากรรมดันไม่เคลียร์กระแสจร
    ไม่ว่าจากอดีตหรือปัจจุบันมากกว่าครับ ๕๕๕๕๕ รู้แล้วก็แล้วไป
    ช่วยแล้วก็แล้วไป เวลาปกติก็ให้โปร่งๆโล่งๆ ความสามารถจะใช้ค่อยใช้
    ใช้แล้วก็ใช้แล้วไป ก็วางๆซะ ไม่มันจะติดลมครับ..พอเจอเหตุการณ์
    แบบเดิมๆอีก ด้วยความที่มันติดพันธ์ จิตมันก็จะตี๊ดๆไปอีกแบบเร็วมาก
    จนเราจับมันไม่ทัน เพราะมันตั้งอยู่มันเลยไปอัตโมมัติไงคับ..๕๕๕
    ปัจจุบัน ผมว่ามันยังไม่ค่อยแล้วๆไป มากกว่านะครับ ๕๕๕๕๕๕๕
    กระแสจรหรือกระวิบากมันมีทุกคนนั่นหละครับ แห๋มๆๆๆ
     
  14. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เจ้ากรรมไม่เคลียร์กระแส แปลว่าอิหยังครับ
    ข้อยบ่อเข้าใจ เป็นหยังจังเป๋นจังซั่น
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ฮั่นแน่ แกล้งถามผมเป่า..๕๕๕
    เจ้ากรรมดันไม่เคลียร์กระแสจร(เป็นสำนวนครับ) ก็คือ
    ก็ตัวคุณเองนั่นหละที่ไม่วางเองยังไงครับ..
    สมาธิ สติ ปัญญา ตบะ ฌาน ญาณ กำลังจิต
    ความสามารถทางจิต ในเวลาปกติพวกนี้ต้องวางหมดครับ.
    .เรื่องเมตตาก็ต้องวางครับ..
    ที่ไม่วางแบบคาดไม่ถึง ณ ครับ ยกตัวอย่าง..
    อย่างคุณรู้ว่านาย ก เนี่ยทำอะไรไม่ถูก ณ เวลานี้..
    คุณก็จะมีความคิดเมตตาที่จะช่วยนาย ก มิหน้ำซ้ำช่วยครั้งแรก
    ไม่ได้ก็ยังจะพยายามช่วยนาย ก อีก.เมตตาตรงนี้มันเลย
    กลายเป็นตัวอุปโลกน์ซ้อนตัวอุปโลกน์ขึ้นมา หรือกลาย
    เป็นตัณหาซ้อนตัณหา หรือว่ากลายเป็นตัณหานำเมตตา
    นั้นหละครับ..มันก็เลยมาปิดซ้อนดวงจิตเราเข้าไว้โดยที่
    เราไม่รู้ตัวไงครับ..เนื่องจากมันเป็นฝ่ายดีเราเลยไม่ค่อย
    ให้ความสำคัญตรงนี้ มันเลยไม่เป็นอุเบกขารับรู้ไงครับ.
    กระแสแบบนี้หละครับ ที่มันมักจะเกาะคุณ หรือไม่ว่า
    ใครก็ตามที่มักจะมีเมตตา เห็นอกเห็นใจคนอื่นๆ
    บางคนก็เห็นใจมากซะจน เผลอเก็บเอามาเป็นอารมย์
    มาปรุงแต่งร่วมจนเสมือนตนเองเป็นดวงจิตที่มี
    ปัญหาเองซะงั้น..๕๕๕๕ แต่ว่ามันเป็นเรื่อง
    ธรรมดาที่เป็นกันได้ทุกๆคนครับ.แบบคาดไม่ถึงครับ..

    ปล.ประมาณนี้ครับ..
    .
     
  16. *ธรรมดา*

    *ธรรมดา* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +924
    มาแอบส่อง เอ้ย แอบฟัง คุณ Nop เงียบๆครับ
     
  17. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    กระทู้นี้ไปไกลได้อีกเยอะ คุณนพการมาตอบกระทู้ให้ความรู้ผู้ที่สนใจ เป็นวัยรุ่นแหละดีฝึกได้อีกนาน ฝึกสติก่อน พอเวลามีเรื่องมากระทบจะได้รู้ว่าแน่จริงหรือเปล่า จิตใจมนุษย์นี่แหละยากแท้หยั่งถึง สติคุมจิตได้จึงจะรู้ว่าปัญญาเกิดหรือไม่เกิด คนเก่งๆนี่เขาจะอยู่ร่วมกับโลกกับธรรมชาติ กับมนุษย์อะไรได้หมด ไม่ฟุ้ง บางคนเจตนาจะฝึกสมาธิฟุ้งซะงั้น คนอื่นๆเห็นก็กลัวว่าฝึกสมาธิแล้วจิตหลุด จริงๆแล้วเราฝึกควบคุมจิตต่างหาก อนุโมทนาบุญกับท่านๆที่ตั้งอกตั้งใจทุกคนเลย
     
  18. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    ผมชอบสงสารคนอื่นช่วย จนเผลอ เก็บเอาอรมณ์เขามาเป็นอารมณ์ตัวเองแบบนี้เป็นบ่อยมากๆ เจอมากับตัวบ่อยเลยครับ สงสัยต้อง อุเบกขาท่องไว้ๆ...
     
  19. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อากาศร้อนๆแบบนี้ กสิณอะไรช่วยได้บ้างครับ คุณนพ
    ร้อนชิบ....อิอิ

    กสิณแอร์ ก็โอเค กสิณพัดลมก็ลมร้อน กสิณน้ำแข็งหลอดก็เปลืองน้ำอัดลม
    กสิณห้างก็ใช้ได้

    สมมุติผมใช้กสิณกำหนดให้ร่างกาย เป็นก้อนน้ำแข็ง มันจะมีผลอะไรต่อร่างกายมั้ยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มีนาคม 2015
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    แฮ่ะๆอย่างผมเนี่ย เป็นพวกร่างทรงมั้ยครับ เข้าข่ายมั้ยครับ เพราะผมเคยมีองค์เข้า องค์ลง องค์ผ่าน เหมือนกันครับ แต่ผมมีสติรู้ตัวครับ ไม่หลงพลังวิเศษไปกับมัน แต่ก็มีบ้างที่อยากสนุก ก็ร่วมแสดงละครบ้าง อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...