นี้หรือสิ่งสุดท้ายจากพ่อ ทิ้งไว้ให้ลูกผู้กตัญญู

นอกเรื่องซะงั้น โผล่มาเรื่องศีล 5 ได้ไงเนี่ย คุยกับผมคำก็ 555 สองคำก็ 555 ผมก็ยังคิดๆอยู่ว่ากำลังคุยกับคนสติดีอยู่หรือเปล่าเห็น 555 เรื่อย มาบอกผมให้รักษาศีล 5 กรุณาเตือนตัวเองก่อนดีกว่ามั้ยครับ

 

มุกโง่ๆ

 

ค่ะ นี้คือการอธิบายที่กระจ่างเลย ดิฉันได้สมบัติแล้ว และ ดูแลพ่อมาด้วยกันกับพี่คนรองซึ่งเคยหนีตามผู้ชายไปค่ะ พี่คนรองทิ้งงานกลับมาดูแลพ่อตอนพ่อไม่เหลืออะไรแล้ว ด้วยความสงสารลูกที่เจ้าช่างมีความกตัญญูดูแลพ่อ นี้คือสิ่งสุดท้ายที่พ่อจะมอบให้ลูกคนนี้ได้ คือเงินที่เหลือจากงาน ซึ่งก็หลายแสนอยู่ พอได้ประทังชีวิตก่อนจะหาหลักใหม่ได้ แต่สุดท้ายเหมือนฟ้าแกล้ง พี่คนโตเอาไปหมด ด้วยเหตุผลว่า เค้าเคยออกเงินค่ารักษาพ่อ ...
พ่อเคยพูดสั่งไว้ ดิฉันก็ได้บอกอาๆตามคำสั่งเสียพ่อแต่ก็ไร้ผล ก็คนจะเอา
ส่วนลูกอีกห้าคน ก็ได้มรดกมีฐานะที่ดีทุกคน ไม่มีใครอยากได้เงินทูนหัวก้อนนี้เลย อยากให้พี่คนรองได้ไว้ แต่ก็พูดไรไม่ได้ค่

 

ให้คำแนะนำสิ่งที่ดิฉันเข้าใจผิดด้วยค่ะ น้อมรับทุกความคิดเห็น ตอนนี้เหลือแม่ผู้แก่ชราและเจ็บป่วยอีกคน ซึ่งดิฉันเป็นผู้ดูแลเองคนเดียวจะได้ปฎิบัติถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ

 

1. เงินที่ได้จากงานศพไม่ใช่เงินที่่เป็นมรดก ..
งานศพมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ หลายหมื่น บางงานก็อาจจะถึงแสน
ซึ่งถ้าหักค่าใช้จ่ายก็ต้องเหลือน้อยกว่านั้น ถูกไหม

(จริงๆ ค่ารักษาพยาบาล แพงกว่านั้นมากนะ ผมขอเดา
เพราะพี่ชายผมก็เคยป่วยเป็นมะเร็ง ค่ารักษาแพงมาก)

ดังนั้นเงินจากงานศพ จะเป็นของใครนั้น ผมว่าคุณเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปคิดเอาเอง
ว่าเงินที่ควรจะยกให้ใคร อันนี้คือประเด็นแรก (ที่คุณเข้าใจผิดไปเอง)
และพ่อคุณซึ่งต้องพึ่งการรักษาและค่ารักษาจากลูกคนหนึ่งอยู่
ดังนั้น จริงๆ แล้วคุณยังคิดอยู่เหรอว่า พ่อคุณยังมีสิทธิ์ในเงินตรงนี้
อีกทั้งคนที่มาร่วมงาน คือ เขามีเจตนามาช่วยค่าใช้จ่ายงาน/ค่ารักษาพยาบาล
หรือว่าเอาเงินมาให้พ่อคุณใช้เล่นๆ (คุณลองพิจารณาดู)

ในความเป็นจริง ค่าใช้จ่ายที่ได้จากงานศพ ควรเป็นของกองกลาง
ซึ่งครอบครัวคุณยังเหลือแม่ ถ้าแม่คุณอยู่ในฐานะเป็นหลักของบ้าน
ก็ต้องยกให้แม่คุณจัดการ เพื่อใช้จัดการในกิจการงานอื่่นๆ ของบ้านต่อ

แต่ถ้าแม่คุณอาศัยอยู่กลับลูกคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นหลักของบ้าน
เงินส่วนนี้ก็ควรเป็นของลูกคนที่จัดการกิจการกิจกรรมหลักของบ้านนะครับ

2. พี่สาวคนรอง คุณก็บอกเองว่า .. พี่น้องช่วยกันจ้างมาดูแลพ่อ
ดังนั้นเขาก็มีเงินในส่วนค่าจ้างด้วยส่วนหนึ่ง

และอย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่า เงินจำนวนแสนสองแสน มันไม่ได้มากพอจะเปลี่ยนชีวิตคนได้
เพราะผมเคยเห็นคนขายทีตัวเองได้เงิน 3-4 ล้านมา แป๊บเดียวยังหมดเลย

ดังนั้น ผมไม่อยากให้ไปคิดมากกับเงินในส่วนตรงนั้น
ยิ่งพี่สาวคนรองคุณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีงานทำแล้ว
ยังต้องพึ่งพี่ๆ น้องๆ ผมว่า ควรรักษาความสัมพันที่ดีของพี่น้องและครอบครัว
จะดีกว่า โดยอย่าให้เงินก้อนนี้มาสร้างปัญหาว่ามันควรจะเป็นของใคร
หรือไปมีส่วนแย้งมันกลับมา สุดท้ายมันจะได้เสียมากกว่าได้

3. คุณบอกเองใช่ไหมว่า พี่สาวคนรองบอกเองว่า จริงๆ ไม่ได้ต้องการเงินจากงานศพ ต้องการมาดูแลพ่อจริงๆ

แล้วที่คุณเล่ามาว่า พอจบงาน พี่สาวคุณร้องไห้ กำเงินเหรียญจากงานศพ เพระถูกพี่สาวอีกคนเอาเงินไป

ผมว่า จริงๆ แล้วพี่สาวคนรองคุณ ไม่ควรจะคิดไปได้เงินในส่วนนี้เลยครับ
(ซึ่งปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งคือ พี่น้องหลายคน คงพูดให้เขามีหวังไปแล้ว)
ซึ่งสิ่งที่ควรทำ คือ คุณสามารถช่วยอธิบายให้พี่สาวคุณได้ว่า
อะไรคือสิ่งที่ควรทำในการดำเนินชีวิตในอนาคตมากกว่า

 

ชาวพุทธ หลายคนเข้าใจเรื่องบุญ ผิดกันมาก
หลายคนเชื่อว่า ทำบุญปุ๊บ ต้องได้ผลปั๊บ ... ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดมาก

จริงๆ ผลบุญโดยมากจะให้ผลชาติหน้า
แต่ที่จะให้ผลบุญในชาตินี้เลยนั้น ก็มีอยู่ แต่ต้องเป็นบุญที่ใหญ่มากๆ
จึงจะส่งผลเลยในชาตินี้ .. ซึ่งมีโอกาสน้อยมากจะเป็นเช่นนั้น

ดังนั้นไม่ควรหวังผลบุญในชาตินี้ (หรือตามใจตนปรารถนา) กันนะครับ
สิ่งที่ได้ในชาตินี้ คือ ความปิติ ความอิ่มใจ ที่ได้ทำความดีไป ครับ
คือสิ่งที่บอกว่า บุญ ความดี มีอยู่จริง

 

ผมว่าคุณไปให้หมอเช็คสมองบ้างก็ดีนะครับ ชักจะเพี้ยนไปกันใหญ่ละ คิดเอง ตัดสินใจเอง แทน จขกท.หมดเลย รู้ดีกว่าตัว จขกท.เองซะอีก ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแท้ๆ

1.เงินจัดงานศพ ใช่ครับควรเป็นส่วนกลาง แต่พี่สาวร่ำรวยไม่มีสิทธิ์มายึดเอาไปหมด อีกทั้งพ่อก็สั่งเอาไว้ก่อนตายแล้วด้วย แต่สุดท้ายพี่ก็มายึดเอาไปหมด อันนี้ไม่ถูกต้อง 100% การจะมาอ้างว่าค่ารักษาพยาบาลแพงอันนั้นมันคนละเรื่องครับ อ้างเพื่อจะเอาเงินคืนมากกว่าทั้งๆที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ ดังนั้นอย่าเอาเรื่องค่ารักษาพยาบาลมาพูด มันไม่เกี่ยวกัน เพราะไม่อย่างนั้นระหว่างที่ จขกท.อยู่ดูแลพ่อมาหลายปีดีดักนี้ จขกท.ก็อ้างเอาเงินจากงานศพได้เหมือนกันสิครับ ไหนจะค่าอาหาร ค่ายา ค่าเสียเวลา ในการดูแลพ่อ คนเป็นลูกมีหรือที่ให้พ่อให้แม่แล้วมาคิดเอาคืน เพราะมรดกสมบัติก็ได้ไปแล้ว นี่อะไรยังมาเอาเงินจัดงานศพไปอีกทั้งๆที่พ่อไม่ได้ให้ เท่ากับว่าพี่สาวร่ำรวยคนนั้นกะจะไม่ให้เข้าเนื้อตัวเองเลยถูกมั้ย ทั้งๆที่ตนเองก็ไม่เคยมาอยู่ดูแลพ่อเลย การที่ตนเองจะต้องมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลมันก็สมควรแล้วที่ต้องทำ ดังนั้นเงินจากงานศพควรให้พี่สาวคนรองตามที่พ่อสั่งเสียเอาไว้มันถึงจะถูกต้องที่สุดแล้ว คุณ (-*-) คิดไม่ถูกนะครับ ไปปรับสมอง ปรับความคิดใหม่นะครับ

2.เรื่องเงินจัดงานศพ จขกท.ไม่ได้คิดเอง แต่เป็นการคุยตกลงกับพ่อ ซึ่งตอนนั้นมีแค่ตัว จขกท.กับพี่สาวคนรองที่อยู่ดูแลพ่อ จึงคุยกันได้แค่นี้ เข้าใจนะครับ

3.คุณ (-*-) เก่งมากถึงขนาดมาเข้าใจหัวอก เข้าใจจิตใจของพี่สาวคนรองยิ่งกว่า จขกท. เสียอีก คนอาไรเก่งเหนือโลกปานฉะนี้ ไม่รู้ ไม่เห็นอะไร แต่พูดได้เป็นฉากๆ คิดเองได้หมด ตัดสินใจแทน จขกท.ได้หมด จขกท.มาบอกเองยังไม่เชื่อเขาแนะ ไม่ยักกะรู้ว่ามีคนแบบนี้ในโลกด้วยแฮะ

ถ้า จขกท.มาอ่าน ผมขอแนะนำว่าให้หยุดสนทนากับคุณ คุณ (-*-) ดีกว่าครับ คุยกับเค้ารังแต่จะเสียเวลาเปล่า เพราะผมรู้สึกว่าระบบความคิดของเค้าจะผิดเพี้ยน ผิดธรรมชาติ ในสมองเค้ามีแต่เรื่องเงิน บวก ลบ คูณ หาร อย่างเดียว เค้าไม่รู้เลยว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะ ป่วยการที่จะไปคุยกับคนแบบนี้ครับ

 

เจ้า alkuwaiti นี่เอ็ง ถึงขนาดไปบังคับให้ จขกท ไม่ต้องฟังข้าเลยเหรอ .. เอ็งนี่แน่นะ

จริงๆ คนเขาจะฟังไม่ฟัง มันอยู่ที่ เหตุผล และ ประโยชน์ ไม่ใช่เหรอ?

อะไรที่ มีประโยชน์ หรือ ไม่มีประโยชน์ ... นี่เอ็งคิดว่า จขกท คิดไม่ได้เหรอ
เลยต้องพูดชักจูงบังคับกันขนาดนั้น 5555

 

คุณ thong_tae ทำไมคุณไม่เล่าส่วนที่ขาดไปล่ะ?

คุณคิดว่าทำไม พี่สาวคนที่เอาเงินไป เขาคิดอย่างไร จึงได้ทำแบบนั้นลงไป
เขาใช้สิทธิ์อะไร .. ไหนคุณลองเล่าให้ฟังสิครับ

ซึ่งถ้าคุณไม่รู้ .. ผมว่า ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรต้องอาย ที่จะไปถามหาเหตุผลกับพี่คนนั้นนะ!

(ถ้าสิ่งที่คุณคิดจะทำ ว่ามันดีจริง คุณจะไม่มีทางอายที่จะทำ เพราะว่า
คุณต้องรู้ว่าผลมันมีประโยชน์มาก ควรแล้วที่จะต้องทำ

แต่ถ้าคุณไม่กล้าทำ ก็แสดงว่า ส่วนหนึ่งคุณไม่เข้าใจว่ามันมีประโยชน์มาก
ซึ่งสิ่งนั้นอาจเป็นแค่ความรู้สึก อยากของคนเท่านั้น

ดังนั้น ถ้าสิ่งนั้นมันดีมีประโยชน์มากจริง คุณควรลงมือทำให้ถูกต้อง)

 

วันหลังถ้าเอ็ง จัดงานบุญ มีคนส่งเงินมาผ่านเอ็ง .. นี่เอ็งจะงุบงิบเป็นเงินเอ็งเลยไหมว่ะ ข้าสงสัย?

เอ็งไม่พิจารณาเจตนาและวัตถุประสงค์คนให้บ้างเลยเหรอ 5555

 

เจ้า alkuwaiti,

ข้าเสนอ จขกท ว่าอย่าไปใส่ใจกับเงินก้อนนั้น

แต่เอ็งคงจะ Anti ข้า ก็คงจะเลือกตรงกันข้ามกับข้า
คือ เงินก้อนนั้นควรเป็นของพี่สาวคนรอง ถูกไหม

ดังนั้น เอ็งก็ชวน จขกท ไปตบตีแย้งเงินจากพี่สาวคนนั้นกลับมาสินะ.
พี่สาวคนรองเขาจะได้มีเงินใช้งัย

ส่วนต่อไปเป็นยังงัย ใครจะไปรู้ ไว้ว่ากันที่หลัง แบบนั้นใช่มั้ยวิธีเอ็ง?

 

กรรมมุนาวัตตีโลโก นะครับ สัตว์ย่อมเป็นไปตามกรรมจ้าา

มีพระท่านหนึ่ง เล่าไห้ฟัง่ว่า พอท่านโตพอรู้ภาษา พอจับความรุ็สึกใจ

ตัวเองได้ เวลา เจอหน้าพอ อยู่กับพ่อ มันไม่พอใจ มันร้อน กายร้อนใจไปหมด

ไห้อึดอัดอย่างไรไม่บอกไม่ถูก ก็ไม่ทราบว่าเกิดิจากอะไร เป็นแบบนี้มาตลอด

จนกระทั่งพอเสียชีวิต (เกียจ ไม่ถูก ไม่ชอบ ขุ่นเขืองพ่อตัวเอง โดยไม่มีสาเหตุ)

..แต่แปลกอย่างหนึ่ง เด็กชายนี้ ตั้งแต่เกิดมา จากท้องมารดา ข้อเท้า ทั้งสอง

ข้าง จะมีรอยคล้ายๆมัดหวาย มัดอยู่โดยรอบ ข้อเท้าทั้งสองข้างคล้ายเป็นแผล

เป็นตั้งแต่กำเนิด

ความเดินต่อ พอพ่อท่านตาย ก็ขอไห้ท่านบวชหน้าไฟให้ ท่านก็ทำตามแม่

ก็คือบวชให้ คิดว่าจะบวชสั้นๆ แต่บวชแล้วสบายใจ ก็เลยบวชยาวเลย

คราวนี้ ตัวท่นเอง เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย รักสงบ รุ้สึกว่าชีวิต เหมาะกับการใช้ชีวิต

ในผ้าเหลือง พอไม่นานก็สนใจ กับการนั่งสมาธิ ทำไปทำมา อาศัยของเก่า

บวกกุศลกรรม ทำไห้ตัวท่านเองได้ญาณทัศนะ ในขณะนั่งสมาธิภาวนา

พอจิตสงบ ก็เกิดภาพอัศจรรย์ขึ้นในมโนใจ เป็นภาพชัดเจน

เป็นภาพย้อนอดีต เห็นภาพตัวเอง เป็นคนไทย ถูกทหารพม่า จับเป็นเชลย

เอาหวาย มัดข้อเท้า เหตุการณ์ เกิดที่น้ำตกแห่งใดแห่งหนึ่ง ภาพมีต่อไปว่า มี

ทหารพม่านายหนึ่ง ตั้งใจฆ่าท่าน และท่านรุ็ใน๘ณะนั่งสมาธิว่า คนท่ีตั้งใจจจะ

ฆ่าท่านก็คือ พ่อท่านเองในชาติปัจจุบัน ชาตินั้นเกิดเป็นทหารพม่า ทหารพม่า

นายนั้น ใช้มีดดาบฟันเชลยคนไทย ก็คือตัวท่าน และถีบตกน้ำตก ตายใน ณ ที่

แห่งนั้น ด้วยอาศัย จิตที่ผูกอาฆาตร พยาบาทจองเวร ท่านก็เลย ตามมาเกิดเป็น

ลูก ของทหารพมา่คนนั้น ชาติปัจจุบันนี้ละ เป็นคนไทยทั้งคู่..

พอท่านรู้เห็นเช่นนั้น ด้วยอำนาจกุศลกรรมที่ทำมา ทำไห้ทา่นสลดใจ ในการ

เวียนว่าย ตายเกิด ในการพยาบาทจองเวร พอรุ็ต้นสายปลายเหตุแท้จริงแล้ว

ท่านตั้งใจอธิษฐานจิตอย่างแน่วแน่

ขออโหสิรรม ซึ้งกันและกัน อะอษฐานเสรฺจ ทำสมาธิแพร่เมตตา หลังจากวันนั้น

เป็นต้นมา อาการรุ่มร้อน อึดอัด ภายในใจโดยไม่ทราบสาเหตุ ก็หายไปอย่ง

าปลิดทิ้ง กรรมมันซับซ้อน โทษใครดี ใครเลว ไม่ได้หรอก ถ้าเราไม่รู้จริงว่า

อดีตเค้าทำกันมาอย่างไร ภาพท่ีเราเห็นนปัจจุบัน แท้จริงสาเหตุ อาจจะไม่ใช่

อะไรอย่างที่เราคิดก็ได้ คนที่เราว่าดี อดีต(อดีตชาติ) เค้าอาาจะเคยเลว

ผลเลยออกมาอย่างที่เห็น อนุโมทนาสาธุ ครับ

 

1. เงินที่เหลือประมาณ 2 แสนค่ะ อาจเปลี่ยนชีวิตใครไม่ได้ และ ไม่ใช่มรดก แต่เป็นความตั้งใจจากพ่อผู้ล่วงลับ สั่งเสียดิฉันและพี่สาวคนรองไว้ ท่านช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาเจ็ดปีค่ะ ช่วงปีสุดท้ายเข้าโรงพยาบาลบ่อยรักษาตามอาการของโรค เบาหวาน และ ต้องให้อาหารทางสาย เจาะหน้าท้อง ถ่ายบ่อยมากทั้งกลางวันกลางคืน เราสองคนดูแลพ่อดีมากยิ่งกว่าเด็กอ่อน พยาบาลกับหมอ ยังชม
พี่สาวคนโต คงเกิดความละอายใจที่ไม่เคยดูแลพ่อเลยมาตลอดหลายปี บ้านติดกันแต่นานๆจะเดินมาดูสักครั้ง จึงบอกว่า พี่ไม่ได้ออกแรง ก็ขอออกเงินค่ารักษาเอง แรกๆดิฉันพาไปรับยาที่โรงบาลรัฐแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย แต่ระยะหลัง พี่สาวผู้ร่ำรวยพารักษาตัวเอกชน สักระยะไม่กี่เดือน พี่ก็เริ่มบ่นเรื่องค่าใช้จ่าย ดิฉันเลยพารักษารัฐบาลอีกจนเสียชีวิต เงินสองแสน พี่สาวคนโตซื้อกระเป๋าสองใบค่ะ ตั๋วเครื่องไปต่างประเทศค่ะ แต่พี่คนรอง คือ ข้าวสารกรอกหม้อ ก่อนที่ลูกสาวจะหางานทำได้

ส่วนเสาหลักของบ้านคือ ดิฉันเองค่ะ มีความประสงค์ให้พี่สาวคนรองเช่นกัน แม่คงจัดการไรได้ไม่มาก เพราะท่านก็ชราเหลือเกินอายุแปดสิบกว่าเช่นกัน ส่วนดิฉันก็ไม่เข้าไปยุ่งกับเงินทูนหัวของคนมาร่วมงาน เงินทำบุญ แต่สงสารพี่คนรองเหลือเกิน ให้เงินส่วนตัวไปนิดหน่อยพอ และ ตกลงกับแม่ว่า พอได้เงินจาก ธกส ก็จะแบ่งให้พี่คนรอง พอได้ใช้จ่ายบ้างจนกว่าลูกพี่สาวจะหางานทำได้ แต่ได้ข่าวแว่วๆ ว่าพี่สาวคนโตจะเก็บไว้เองอีก แต่รอบนี้แม่คงไม่ยอม
พี่ชายอีกสี่คนก็ไม่มีใครกล้าแย้ง เพราะ ไม่เคยมาดูแลพ่อเหมือนกัน เงินก็ให้เป็นเงินเดือนพี่คนรอง คนละ พันสองพัน
ดิฉันเสาหลักของครอบครอบก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเงินก้อนนี้ค่ะ
เงินทำบุญ เงินที่พ่อสั่งไว้ กลัวเป็นบาปติดตัว

ขอบคุณคุณ alkuwaiti ที่เข้าใจและตีความหมายในสิ่งที่ดิฉันเล่าได้อย่างชัดเจน

 

ดิฉันก็เล่าเหตุผลแล้วนะค่ะ อยากให้กลับไปอ่านกระทู้ อีกครั้งค่ะ
พี่สาวคนโตบอกว่า เสียค่าโรงพยาบาลมา เลยเก็บเงินส่วนนี้ไว้เอง พี่สาวคนโตบอกว่าพี่ไม่เคยดูแลพ่อก็ขอจ่ายเงินค่ารักษา พ่อก็คงไม่คิดว่าพี่คนโตจะคิดเอาคืนเลยสั่งเสียว่าให้พี่คนรองที่อยู่ดูแลท่าน

 

(( คอยเช็คขี้ ป้อนข้าว แม้แต่ข้าวสารกรอกหม้อยังไม่มี นั่งร้องให้ กุมเหรียญสิบสองเหรียญที่เก็บได้ตอนไปดับธาตุ ร้องให้อย่างน่าเวทนา นี้หรือพ่อ ที่พ่อทิ้งไว้ให้ลูกคนนี้ แค่นี้เองเหรอ))
__________________________________________________
..คำพูดเท่านี้แหละ จะเจตนาหรือไม่ ก็ต้องขอขมานะครับ

บุพการี ผู้มีมีคุณ กตัญญู กตเวทิตา พระพุทธเจ้าตรัสไว้

เราตอบแทนคุณท่านที่เลี้ยงดูเรามา พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นคนดี

ใครไม่ทำก็เรื่องของ ใครทำใครได้ อะไรที่ทำกับพ่อ แม่ ในด้านดี


แม้สักเล้กน้อย บุญกุศลมหาศาลทั้งนั้นนะครับ ทำบุญกับพ่อแม่ ตอบแทนท่าน

ดูแลท่าน ตัว ผู็ทำ ใด้ สะสม เสบียงทุนทรัพย์ อันประเสริฐยิ่ง

ใครจะอยู่ค้ำฟ้า ตายหมดทุดคน จนรวย ไม่มีความหมาย

บุญอันนี้แหละ กันนรกดีนัก ชงักดีนักแล รวยล้นฟ้า กันนรกไมไ่ด้นะครับ

มีแต่จะดึงลงดิ่งลึกลงไป เพระาทำไห้คนหลุ่มหลงมัวเมา ทำดีแล้ว ทำถูกแล้ว

มองไปบนฟ้าสิ ทำสมาธิสักเล็กน้อย จะเห็นเทวดา โมทนากระหึ่ม อยู่บนท้องฟ้า

ส่วนคนเนรคุณ พยามยม ก็นั่งมองรออยู่ข้างล่าง ต่อจากนี้ไปไม่มีใครอยู่เกิน100ปี

ก็ตายกันหมด...

 

พระคุณพ่อ เลิศฟ้า มหาสมุทร

พระคุณพ่อ สูงสุด มหาศาล

พระคุณพ่อ เลิศฟ้า สุธาธาร

ใครจะปาน พ่อฉัน นั้นไม่มี

 

นี้แหละค่ะ ที่แม่สอนดิฉันมาตลอด ดิฉันตอบแทนพระคุณพ่อแม่โดยไม่หวังสิ่งใด พี่คนรองอาจจะผิดตรงที่หวังเงินส่วนนี้มาก ตอนนี้เค้าประกาศว่าจะตัดขาดแม่ผู้แก่ชรา รูปหน้าศพ พ่อดิฉันบอกให้เอากลับ ก็ไม่เอาแล้ว เวรกรรมจริงๆ

 

อืม.. คิดกันเอาเองนะ .. ผมก็คงไปเช่นกัน

 

อันที่จริง ลูกกตัญญู ยังมีอีกคนนะ ก็คือคุณ thong_tae นั้นเอง

ลูกกตัญญูอย่างคุณ thong_tae .. ไม่อยากได้อะไรตอบแทนบ้างเหรอ?

 

ขอแนะให้ท่านปล่อยวางเถิดครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ของเก่ายังใช้หนี้ไม่หมดเลย ดูถ้าจะได้สร้างบุญกุศลได้ดูแลตอบแทนพระคุณบิดาเพื่อเป็นกุศลเป็นเกราะป้องกันตนให้พ้นภัย แต่จิตยังอกุศลด้วยแรงกรรมแทนที่จะได้บุญมาช่วยให้บรรเทาทุกข์กลับสูญเปล่า เฮอะเวรกรรมๆ สาธุ