หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ว้าว!สุดยอดเลยครับ

 

พอดีเพิ่งได้มาครับ รุปหลังมีตะกรุด,ชานหมาก,จีวร,พลอยเสก
ทันหลวงปู่หรือเปล่าครับ
เคยเห็นแต่หลังจีวรแจกหลังหลวงปู่มรณาภาพ.....

 

เป็นล็อกเก็ตรุ่นเดียวกันนั่นแหละครับ เพียงแต่ผู้ที่ได้ไป นำของเหล่านั้นมาบรรจุเพิ่มเข้าไปครับ.. แบบนี่ก็ดูน่าใช้ยิ่งขึ้นอีกครับ..

 

ไม่ทันหลวงปู่ แต่ประสบการณ์มาก

ลูกสาวผมห้อยติดตัวอยู่ ๑ องค์........

 

สุดยอดเลยครับพี่อำนาจ เนื้อหามวลสารเข้มข้นมากครับ สาธุ

 

ภาพนี้ น่าจะสมัยสมัยที่คณะศิษย์ขออนุญาตจัดงานผ้าป่าถวาย เพื่อสร้างพระมหาเจดีย์ธัมมจารีสุขังเสติ เมื่อปี 2548 เมื่อครั้งหลวงปู่ยังจำพรรษาอยู่ที่กุฏิหลังแรกครับ..

ตามปกติแล้ว หลวงปู่ท่านไม่ค่อยรับผ้าป่า กฐิน นะครับ ท่านมักจะปฏิเสธ โดยบอกว่าวัดนี้เพียงพอแล้ว และเรื่องเงินเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะดูวุ่นวาย เป็นภาระกังวล ไม่ค่อยถูกจริตกับพระป่าอย่างองค์หลวงปู่ที่ปลีกตัวหาความวิเวกอยู่ป่าอยู่เขาเป็นวัตรมานาน... แต่ทว่าลูกศิษย์ชุดถวายงานสร้างพระมหาเจดีย์ได้ขอร้องให้องค์หลวงปู่เมตตาอนุญาตให้จัดผ้าป่า เพื่อหาปัจจัยเพื่องานก่อสร้างพระมหาเจดีย์ได้ ซึ่งงานดังกล่าวนี้ ทางวัดจัดรับผ้าป่ากันแบบเรียบง่าย ที่ลานกลางวัด ท่ามกลางแมกไม้เขียวชอุ่มอยู่โดยรอบ ตามแบบฉบับวัดป่ากัมมัฏฐานแต่เก่าก่อนที่ถือปฏิบัติต่อๆกันมาครับ
โดยชาวบ้าน ลูกศิษย์ลูกหาที่มาร่วมงานก็ต่างเอาเสื่อ กระสอบปุ๋ย กระดาษ มาปูลาดเพื่อรองนั่งกันเปื้อน นับว่าเป็นงานบุญใหญ่ของทางวัดเทพธารทอง ในรอบหลายปีที่นานๆจะมีขึ้นสักครั้ง วันนั้นได้ยอดปัจจัยล้านกว่าบาท เกือบๆสองล้าน(ทั้งๆที่สมัยนั้นวัดของท่าน เป็นวัดป่าที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก ก็นับว่าเยอะมากแล้วครับ)

และจากที่ผมสังเกตุงานบุญของพระสายป่า ที่เหมือนจะเป็นทำเนียม หรือจิตสำนึกที่ดีงาม คล้ายๆกันแทบทุกวัดนั้น ก็คือความเป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้คนต่างมาร่วมบุญด้วยใจที่ศรัทธา ถึงแม้จะมีการนำอาหารมานั่งกิน หรือเอาเศษกระดาษมาปูรองนั่ง ฯลฯ แต่พอเสร็จงานแล้ว ต่างก็ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ให้อย่างสะอาด เรียบร้อย ไม่ต้องปล่อยให้เป็นภาระของพระสงฆ์องค์เณรเลยครับ.. สาธุ

และนอกจากงานผ้าป่าดังกล่าวแล้ว อีกไม่กี่เดือนถัดมา ทางวัดก็ได้จัดงานกฐินอีกครั้งหนึ่ง และนับจากงานกฐินครั้งนั้นแล้ว ก็ไม่ค่อยได้จัดงานบุญอย่างเป็นทางการอีก นอกจากงานมุทิตาจิตเนื่องในวันคล้ายวันเกิดขององค์หลวงปู่ และงานตักบาตรพระมหาอุปคุตเท่านั้นครับ..

 

หน้าหนาวแล้ว.. เอาหมวกไหมพรม กับพวงมาลัยมาถวายหลวงปู่ ที่วัดเทพธารทองครับ

พอหลวงปู่ใส่หมวกแล้ว ท่านดูน่ารักมากเลยนะครับ.. สาธุ​

 

ห่มผ้าให้หลวงปู่ท่านด้วยดีไหมครับ...................

 

กราบพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่พิศดู เหนือเศียรเกล้าครับ กราบ กราบ กราบ
อนุโมทนาบุญกับหมอเอ็กซ์ด้วยนะครับ เห็นรูปแล้วหลวงปู่แล้วทำให้รู้สึกเย็นมากครับ เห็นแววตาของความเมตตาต่อสัตว์โลกครับ

 

ถ้าหาผ้ามาห่ม จะทำให้ปิดลายของจีวรท่านครับ แตถ้าคิดจะห่มจริงๆ ก็คงต้องห่มผ้าคล้ายๆที่พระห่มน่ะครับ
แต่ที่ผมเอาหมวกไหมพรมไปใส่ถวายให้รูปหล่อหลวงปู่ท่าน ก็เพราะว่าสมัยที่ท่านยังทรงขันธ์อยู่ ท่านชอบใส่หมวกไหมพรมครับ โดยเฉพาะเวลาที่อากาศเย็น อีกประการหนึ่ง ถ้าใส่หมวกให้ท่านแล้ว จะยิ่งดูเหมือนหลวงปู่ท่านมีชีวิตชีวา คนที่มากราบท่าน ก็จะมีความรู้สึกว่าคล้ายกับท่านนั่งอยู่ครับ
นี่ก็ตั้งใจว่า คราวหน้าเวลาเข้าไปวัด จะเอาไปใส่ถวายรูปหล่อหลวงปู่มั่น กับท่านพ่อลีด้วยครับผม.. สาธุ

 

ผมเคยลง พระธรรมธาตุที่ขึ้นในวัตถุมงคลทั้งรูปกระดาษ และรูปหล่อของหลวงปู่กันไปแล้ว วันนี้มาดูพระธาตุที่แปลสถาพจากธาตุขันธ์ในส่วนต่างๆขององค์หลวงปู่พิศดูกันบ้างนะครับ.. ซึ่งพระธาตุเหล่านี้ได้แปลสภาพเองในกาลต่อมา เมื่อมีผู้นำไปบูชา ทำให้ผู้ปฏิบัติบูชา และผู้ที่เคารพศรัทธามีความมั่นใจอย่างชัดเจนในคุณธรรมขององค์ท่าน ที่อยู่เหนือทุกสภาวะของโลก ผู้ที่ห่างไกลจากกิเลส อาสวะ ผู้พ้นแล้วจากชาติ ชรา มรณะ และหมดสังสารวัฏ คือ การเวียนว่ายตายเกิดตลอดกาล...
ซึ่งพระธาตุขององค์หลวงปู่พิศดู ที่ได้ยกมาแสดงให้ทุกท่านได้ชมนี้ มีทั้ง..
- ที่เสด็จมาอยู่เอง
- ที่แปลสภาพจากเส้นเกศา
- ที่แปลสภาพจากอัฐิธาตุ
- ที่แปลสภาพจากอังคารธาตุ
- ที่แปลสภาพจากโลหิต-น้ำเหลือง

พระธาตุ ที่เสด็จมาอยู่บนองค์พระ ของหลวงปู่ครับ




พระธาตุที่แปลสภาพจาก เส้นเกศา ของหลวงปู่




พระธาตุที่แปลสภาพจาก อัฐิ ขององค์หลวงปู่




พระธาตุที่แปลสภาพจาก โลหิต-น้ำเหลือง ขององค์หลวงปู่

​

 

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558
คณะของเราได้เดินทางไปทำพิธีบวงสรวง เป็นการปิดท้ายพิธีกรรม ในการจัดสร้างองค์มัจฉานุแล้วนะครับ..
ที่ศาลมัจฉาณุ อ.เมือง จ.สมุทรสาครเวลา ประมาณ 12.00 น. ครับผม.. เพื่อความสมบูรณ์แห่งพิธีกรรมในการจัดสร้าง
ประมวลภาพ พิธีบวงสรวงองค์มัจฉานุครับ..

ทำพิธีอ่านโองการบวงสรวง โดย..ท่านอาจารย์ นี้ ลูกศิษย์เอกพ่อแผ้ว ผ่องสว่าง สายตรง(และหลานแท้ๆ)หลวงปู่พริ้ง อินทโชติ วัดบางปะกอก


อาจารย์นี้เจ้าพิธีกรรม ทำพิธีเจิมน้ำมันอนันตคุณ108 ที่องค์มัจฉานุ เป็นปฐมฤกษ์ก่อนครับ






จากนั้นพวงเราก็ช่วยกันทำพิธีเจิมน้ำมัน ที่องค์มัจฉานุทุกองค์กันต่อครับ โดยโยงสายสิญจน์มาจากองค์มัจฉานุองค์ใหญ่ประจำศาลมาพาดที่แขนของทุกองคนครับ















​

 

ได้เวลาแจกแล้วใช่ไหมครับ

 

ครับผม

 

มัจฉานุบุตรแห่งพญาหนุมาน ผู้เก่งทั้งบนบก และใต้น้ำ..
มัจฉานุรุ่นแรก ศิษย์หลวงปู่ท่อน ญาณธโรจัดสร้าง ใต้ฐานบรรจุผงพรายกุมารและสีผึ้ง น้ำมันของหลวงปู่ทิม หลวงปู่แก้ว หลวงปู่ทาบ จ.ระยอง ฯลฯ แท้ๆเลยครับ

มัจฉานุนี้ต้นแบบของพิมพ์ได้ล้อพิมพ์ของอาจารย์อนันต์ สวัสดิเสาวนีย์ อดีต ผอ.กองช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรณ์ ที่เคยปั้นให้ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิมจัดสร้างไปเมื่อปี 38 จนโด่งดังกลายเป็นตำนานไปเรียบร้อยแล้ว แต่รูปหล่อมัจฉานุชุดนี้ได้เพิ่มดอกบัวที่มือด้วย เนื่องจากว่าองค์มัจฉานุมีดอกบัวทิพย์เป็นอาวุธคู่กายนั่นเองครับ
และเพิ่มฐานให้หนาขึ้น เพื่อที่จะได้เจาะรูเพื่อบรรจุมวลสารได้มากยิ่งขึ้นครับ..
งานนี้ท่านอาจารย์อนันต์ได้มอบผงว่าน 500 ชนิด ของหลวงปู่พรหมา จ.อุบลฯ ที่เคยใช้ในการจัดสร้างวัตถุมงคล และมัจฉานุรุ่นเก่ามาก่อน เพื่อนำมาผสมกับผงพรายกุมารแท้ๆ และสีผึ้ง น้ำมันเสก ของหลวงปู่ทิม อิสริโก และหลวงปู่แก้ว เกสาโร ฯลฯ และสุดยอดมวลสารในด้านเมตตา ที่ใช้บรรจุใต้ฐานมัจฉานุรุ่นนี้โดยเฉพาะครับ..

ส่วนพิธีกรรมนั้นได้ขอเมตตาจากองค์หลวงปู่ท่อน และครูบาอาจารย์หลายรูป รวมถึงได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกรวมทั้งสิ้น 27 พิธีด้วยกัน.. ซึ่งผมจะค่อยนำมาเล่าให้ฟังเป็นลำดับๆต่อไปครับ.. เพราะเรื่องนี้เขียนวันเดียวไม่จบแน่นอนครับ

​

 

เฮง เฮง เฮง นะครับทุกท่าน

 

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้
ขอให้ร่ำรวย
สมความปรารถนา
เงินทองไหลมา
เหลือกินเหลือใช้
ทุกเรื่องราบรื่น
ร่ำรวยเงินทอง
กำไรมากมาย

<img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/75c/vkjPL.gif" /></a>

<img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/5c3/i9pL2.gif" /></a>​

 

สาธุๆ รอๆๆๆครับ

 

เอ็กซ์ ขอความรู้ด้วยครับ มัจฉานุ บางตนสีออกแดง ๆ เกิดจากอะไรครับ ผมว่าเป็นเอกลักษณ์สวยดี

 

ไม่แน่ใจครับ แต่พอสันนิจฐานได้ว่า น่าจะเกิดจากโลหะต่างๆที่ผสมกันแล้ว มีอ่อนมีเข้มต่างกัน
แต่ที่น่าแปลกก็ตรงที่ ส่วนใหญ่ส่วนที่เกิดสีแดง มักจะเกิดที่บริเวณศรีษะไล่ลงมาถึงเพียงเครึ่งลำตัวเท่านั้นครับ.. กลายเป็น 2 สีเลย