พุทธภูมิ คุยเรื่องอจินไตย

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Sirius Galaxy, 24 ตุลาคม 2013.

  1. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    อยากขอเพิ่มเติมในส่วนของการเจริญอิทธิบาทสี่ค่ะ เพิ่งนึกออก ส่วนตัวคิดว่า ผู้ที่จะเจริญอิทธิบาทสี่ได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติอีกข้อคือได้อภิญญาห้าเป็นขั้นต่ำ เหตุเพราะอย่างน้อยต้องสำเร็จกสิณแม่ธาตุทั้งสี่อันมีดินน้ำลมไฟ เพื่ออธิษฐานเติมธาตุสี่ให้ร่างกายอันประกอบด้วยธาตุสี่ที่พร่องอยู่เป็นนิจ. นี่เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะใครมีความรู้ดีๆมาแชร์กันได้นะคะ
     
  2. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
  3. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ขออาราธนาพระบารมี แห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันตเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหลาย เทพเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอบารมีแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า พระกกุสันโธพุทธเจ้า พระโกนาคมพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้า พระศรีอาริยเมตไตรย์

    ขอบารมีแห่งองค์พระอรหันตสาวก พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระมหากัสสป พระอานนท์ พระอนุรุทธ พระมหากัจจายนะ พระอุบาลี พระราหุล พระอุปคุต พระนาคเสน พระครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่มั่น หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤษีลิงดำ หลวงปู่ศุข ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่แหวน หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่สิม หลวงปู่หลุย หลวงพ่อชา หลวงพ่อพุธ หลวงพ่อสด หลวงตามหาบัว

    ขอบารมีองค์พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช พระพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อวัดเขาตะเครา หลวงพ่อวัดบ้านแหลม

    โปรดช่วยดลบันดาล ให้เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง มีความยุติ สงบสุข ให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ให้ประเทศชาติมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างแท้จริง อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ยึดมั่นในระบบรัฐสภา การตัดสินพิพากษาคดีความเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ยึดในตามหลักตัวบทกฏหมาย ประเทศชาติมีการพัฒนาเจริญก้าวหน้า

    ขอให้พระภูมิเจ้าที่ เจ้ากรุงพาลี นางพระธรณี นางพระคงคา พญามัจจุราช นายนิติยบาล ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ พระสยามเทวาธิราช วีรกษัตริย์ไทยทุก ๆ พระองค์ จงปกป้องคุ้มครอง มวลมนุษย์แห่งประเทศสยามของเรา ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลาย ผลร้ายที่จะเกิดแก่ประเทศไทย จงกลายเป็นผลดี ขอให้ผู้ไม่ปรารถนาดี ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คิดแย่งชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน จงมีสติ มีธรรมะ พิจารณาอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เพื่อให้บังเกิดสันติสุขอันแท้จริงในประเทศไทย

    อนึ่ง ด้วยบารมี แห่งพระเจ้าเบื้องบนทุกๆ พระองค์ ท่านผู้สำเร็จทั้งหลาย และด้วยพลังแห่งธรรมะ การปฏิบัติบูชา บำเพ็ญจิตภาวนาของข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นพลังแห่งความบริสุทธิ์ แปรสภาพพลังแห่งอภิญญาฝ่ายดำ พลังแห่งมหันตภัย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ จงบรรเทาและยุติไปในที่สุด ขอให้เกิดพลังแห่งสันติสุข และสันติภาพอันถาวร ในประเทศไทย และในโลกมนุษย์ ตลอดไปด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ขอคุย เรื่อง ฌานวิสัย สักเล็กน้อย
    จากที่เคย สังเกตุพบ คือ เมื่อมีการนำเอาเรื่องที่จะเกิดในอนาคต ที่เห็นในฌานมาบอกคนอื่นแล้ว เหตุการณ์นั้นมักจะไม่เกิดขึ้นจริง
    ดังนั้นจึงอยาก นำเอาเรื่องที่จะเกิดในอนาคต ที่เห็นในฌานมาบอกคนอื่น คือ จะมีการปะทะ ตะลุมบอนกัน ของกลุ่มคนจำนวนมากและมี คนบาดเจ็บ ล้มตาย จำนวนมาก เป็นที่น่าสลดใจ เกิดขึ้น
    เมื่อบอก ออกไปแล้ว หวังว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นจริง ถึงแม้จะโดนดูถูกว่า ฌานทัศนะไม่แม่นยำ ก็ไม่เป็นไร เพราะยังดีกว่าเกิดมีการปะทะกัน บาดเจ็บ ล้มตายจำนวนมาก
     
  5. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    "ก็ต้องมั่นศึกษาความรู้ให้รอบด้านด้วย เพราะโลกสมัยนี้มันเปิดกว้างในความรู้เกือบจะทุกระดับ เป็นโอกาสที่ดีที่พุทธภูมิจะหาความรู้เพื่อใช้สั่งสอนสัตว์โลก

    ที่สำคัญอยู่ที่ตัวพุทธภูมิเองต่างหากที่จะสามารถดำเนินการกระทำให้เกิดด้วยพรหมวิหารสี่ได้ตลอดเวลา ถ้าขาดตัวนี้ก็จบเพราะเจตนาที่ออกไปก็ผิดเพี้ยนไปจากพุทธภูมิแน่นอน"


    สาธุ อนุโมทนาค่ะ :)
     
  6. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    อจินไตร อย่างที่หนึ่งของผมนะครับ

    การที่จะบำเพ็ญเมตตาสูงสุดได้นั้น ต้องฟื้นโดนฆ่า แล้วต้องฟื้นจากความตาย
    เพื่อมาบอกรักบุคคลที่ฆ่าเรา จึงจะถือว่าผ่านเมตตาสูงสุด หรือเล่า หรือไม่ต้องขนาดนั้นเสมอไป
     
  7. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    แล้วถ้าสมุติว่าใช่ สมมุติว่า ต้องทำหลักจากบารมีเต็มแล้ว
    แล้วบุคคลที่บารมียังไม่แก และยังไม่เต็ม จะสามารถทำขนาดนั้นได้ใหม


    ...
    .
    .
     
  8. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    อีกอย่างก็กำลังคิดว่า โพธิสัตว์เท่านั้นที่สามารถเป็นพญามารรึเปล่า

    โพธิญานต้องเลยเลวสุดหรือเปล่า
    แล้วก่อนเป็นพุทธเจ้าแล้ว โพธิญานทุกคนมักจะเป็นพญามารหรือเปล่า

    เหตุที่เป็นพญามารก็เพราะ ขัดใจกันเรื่อง ความถูกต้องของธรรม
    เลยประกาศตนเป็นพญามารใช่หรือเปล่า

    เป็นเรื่อง ไม่น่าคิด ไม่น่าหาคำตอบ ไม่ควรรู้ ถึงรู้ก็ไม่ควรพูด ใช่หรือเปล่า

    คิด คิด คิด คิด

    แล้วตัวเราซักวันจะกลายเป้นพญามารของใครหรือเปล่า

    คิด คิด คิด คิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2014
  9. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม กับ องค์ปู่ฤาษีเกศแก้ว ณ อาศรมสถานบ้านโคกกุง

    อดีตชาติท่านทั้งสองเคยเป็นเพื่อนรักสนิทกันมากที่สุด เมื่อมาพบกันในชาติปัจจุบันจึงทำให้มีความสนิทชิดเชื้อมาก จนบางครั้งมองดูแล้วอาจเป็นความไม่เหมาะสมเพราะต่างสถานะต่างเพศบรรพชิตและนักพรต บางครั้งมองดูแล้วอาจเป็นความไม่ควรเพราะดูสนิทสนม เหมือนเพื่อนกันมากกว่าที่จะเป็นผู้เคารพต่อสมณเพศ แต่สำหรับหลวงพ่อสายทองแล้วท่านไม่ได้มีทิฏฐิมานะในส่วนนี้ใดๆเลย

    การปฏิบัติธรรมผู้หนึ่งมุ่งหลุดพ้นในชาติปัจจุบัน จนสามารถปฏิบัติกิจพรหมจรรย์จบในชาตินี้ (ท่านหลวงพ่อสายทอง) ส่วนอีกท่านคือผู้บำเพ็ญพุทธภูมิ สร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคต (ท่านฤาษีเกศแก้ว) และเป็นที่เชื่อมั่นได้ว่าระดับพระอริยเจ้าหลวงพ่อสายทอง รับรู้เรื่องราวของฤาษีเกศแก้วและยืนยันว่าฤาษีเกศแก้วนั้นจักได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนในอนาคต (แต่ไม่ได้ระบุว่าจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดในอนาคต) นั้นคือความสัมพันธ์ที่มีมาจากอดีตชาติจวบจนสู่ปัจจุบัน ที่ท่านทั้งสองได้โคจรมาร่วมมหาบารมีร่วมกันอีกครั้งในกิจกรรมทั้งหลายที่สร้างประโยชน์ให้ชาวโลก

    หนึ่งในนั้นที่ท่านทั้งสองได้กระทำร่วมกันคือการสร้าง หล่อพระพุทธรูปปางคันธารราษฎร์ องค์จำลองเนื้อทองคำแท้ ๑๐๐ % หนักประมาณ ๕ กิโลกรัม ประดิษฐานอยู่ในพระพุทธรูปปางคันธารราษฎร์องค์ใหญ่ ซึ่งเป็นพระประธานในศาลาใหญ่เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    เรื่อง ปุพเพนิวาสนุสสติญาณ การระลึกชาติของหลวงปู่มั่น
    (เรื่องเล่าหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
    (บันทึกโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ)

    เท่าที่ผู้เล่าได้ฟังมา เกี่ยวกับการเกิดในชาติก่อนและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ชาติหนึ่งนั้น ท่านพระอาจารย์เกิดในมณฑลยูนนาน ในตระกูลขายผ้าขาว มีน้องสาวคนหนึ่ง เคยสงเคราะห์ช่วยเหลือกัน มาชาตินี้ คือ นางนุ่ม ชุวานนท์ คหบดีชาวสกลนคร ผู้สร้างวัดป่าสุทธาวาสให้ และท่านก็ได้สงเคราะห์ด้วยธรรมเป็นที่พอใจ

    ชาติหนึ่งเกิดที่โยนกประเทศ ปัจจุบัน คือ เมืองเชียงตุง ประเทศพม่า ในตระกูลช่างทำเสื่อลำแพน (เสื่อลำแพน คือ เสื่อปูพื้นทำด้วยหวาย) ท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นนายช่างใหญ่ องค์ท่านเป็นผู้จัดการ ส่วนพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นคนเดินตลาด

    ชาติหนึ่งเกิดที่แคว้นกุรุรัฐ ชมพูทวีป (ประเทศอินเดีย) ผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ เจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เป็นพี่ชาย คือ พระปทุมราชา ผู้ครองแคว้นกุรุ ท่าน (พระอาจารย์มั่น) เป็นเสนาบดี พระอาจารย์เทสก์ เทสรํสี เป็นหลานหัวดื้อ ใครบอกไม่เชื่อ นอกจากท่าน พระบิดาจึงมอบให้ท่านฯ ดูแล ได้เฝ้าพระพุทธเจ้าเฉพาะพระพักตร์ และได้ตั้งความปรารถนาขอเป็นพระพุทธเจ้าต่อหน้าพระพักตร์

    ชาติหนึ่งเกิดที่ลังกาทวีป (ประเทศศรีลังกา) และบวชเป็นพระ ได้เข้าร่วมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 ซึ่งมีพระเป็นหมื่น พักเสนาสนะร่วมกัน สององค์บ้าง สามองค์บ้าง ท่านว่าได้อยู่เสนาสนะเดียวกับท่านวิริยังค์ (พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินธโร) เป็นเพื่อนกันมาจนบัดนี้ ท่านฯ ว่า
     
  11. ปทุมมุต

    ปทุมมุต ผมเป๋นใตร?

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +286
    ขอท่านเป็นพญามารให้กระผมได้ปะ เอาแบบไม่จริงจังมากนะ เดี๋ยวกระผมจะเผ่นซะ....แบบว่าเราตกลงเซ็นสัญญาฮั้วกันใว้ก่อน อิอิ
     
  12. เวโรจนะ

    เวโรจนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +129
    ถ้าเรื่องบาตร เรื่องอิทธิบาทจบลงแล้ว ขออนุญาติเสนอเรื่องจิตบ้างครับ ใคร่อยากทราบ
    ประสบการณ์หรือไม่ก็ภูมิรู้ภูมิธรรมที่แต่ละท่านมี จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง(จริงอยู่ถ้าลุยในภาคปฏิบัติไปเรื่อยๆ วันหนึ่งข้างหน้า ต้องได้รู้ได้เห็นประจักษ์ชัดเอง แต่การสนทนา
    ปราศัยแลกเปลี่ยนก็มีประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน)
    จิต,ใจ,มโน,วิญญาณ,วิญญาณธาตุฯ พระพุทธองค์ตรัสว่าคืออันเดียวกัน ในที่นี้ขอหยิบยกประเด็น จิตสัมผัสจิต การสื่อสารกันโดยตรงของจิตดวงหนึ่งกับอีกดวงหนึ่ง
    โดยไม่ต้องอาศัยหยิบยกสัญญา(ความจำ) ซึ่งต้องใช้ภาษาบัญญัติ ที่มีหลายชาติ
    หลายภาษา อันเป็นเหตุให้สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง มีประสบการณ์ประกอบนิดๆดังนี้ครับ
    - เมื่อก่อน หลวงพ่อเจ้าอาวาส(วัดหนึ่ง) ซึ่งเป็นพ่อของกระผมเอง เล่าว่า เทพเทวา
    ที่เชิงเขาข้างวัดนี้เยอะไม่แพ้บนเขา คราหนึ่งท่านนั่งสมาธิจิตรวมลง เทวดาส่งเสียงทักทาย สนธนาปราศัยหลายอย่าง จบลงด้วยเขาให้หวยเพื่อช่วยในการสร้างพระพุทธ
    รูปยืนบนชะง่อนหินหน้าผา...ตอนเช้ามาท่านก็ให้หวยชาวบ้าน และชาวบ้านก็ถูกหวยระนาว (การเล่นหวยเป็นอบายมุขขอเตือน) นำปัจจัยมาช่วยสร้างพร้อมทั้งแรงกายจน
    สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
    - คืนหนึ่ง หลวงพ่อนั่งสมาธิอยู่ จิตรวมลง มีผึ้งบินมาวนรอบกาย บอกให้ช่วยหน่อย
    มีชาวบ้านชื่อโน้นชื่อนี้ กำลังต่อยรังของพวกเขา เพื่อจะเอานำ้หวาน ท่านจึงออกจากสมาธิ ถือไฟฉายเดินไปตรงจุดที่ผึ้งบอก(ในเขตวัด ซึ่งท่านไม่รู้มาก่อนว่ามีรังผึ้งอยู่ตรง
    นั้น เพราะเป็นวัดป่าติดเชิงเขาเนื้อที่กว้างและบางส่วนยังรกและเป็นป่าดั้งเดิม) เดินไปใกล้ๆเห็นเงาตะคุ่มชาวบ้านสองสามคนวิ่งหนีไป และมีรังผึ้งอยู่ตรงนั้นจริงๆ
    กระผมมีโอกาสัมพาษย์ ลักษณะการสนธนาของจิตมนุษย์กับเทวดา,มนุษย์กับสัตว์
    เดรัจฉานละเอียดพอสมควรเพราะท่านเป็นพ่อผมเอง อิอิ
    - ส่วนตัวกระผมเองตอนบวชมีเพียงกระแสจิตมาสัมผัสสะกิดใจให้นึกถึงกิจวัตรที่เคยทำ
    แล้วลืมไปทำ......แล้วบรรดาพวกท่านที่กำลังอ่านอยู่นี่ละ เป็นอย่างไร เล่าแลกเปลี่ยน
    หรือไม่ก็ช่วยวิเคราะห์บ้าง ขอบคุณ
     
  13. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ความเป็นมาของชาวไทย : หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    (บันทึกโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ)

    พระปฐมเจดีย์เป็นเจติยสถานที่ตั้งอยู่ในประเทศสุวรรณภูมิ ที่เรียกว่า "แหลมทอง" คือประเทศไทยในปัจจุบัน ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า เมื่อครั้งมีการทำสังคายนาครั้งที่ ๓ นั้น พิเศษคือ มีพระมหากษัตริย์ทรงพระปรีชาสามารถอันกว้างไกล เห็นว่า พระพุทธศาสนามารวมเป็นกระจุกอยู่ที่ชมพูทวีป หากมีอันเป็นไปจากเภทภัยต่างๆ พระพุทธศาสนาอาจสูญสิ้นก็ได้ จึงมีพระประสงค์จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ สำหรับพระสงฆ์สายต่างๆ ผู้เล่าจะไม่นำมากล่าว จะกล่าวเฉพาะที่มายังสุวรรณภูมิประเทศ ตามที่ท่านพระอาจารย์เล่าให้ฟัง ท่านที่เป็นหัวหน้ามาสุวรรณภูมิคราวนั้น ตามประวัติศาสตร์ที่ได้จารึกไว้ คือท่านพระโสณะ และท่านพระอุตตระ

    การส่งพระสงฆ์ไปประกาศพุทธศาสนาคราวสังคายนาครั้งที่ ๓ นั้น อย่าเข้าใจว่า จัดแจงบริขารลงในบาตรและย่าม ครองผ้าเสร็จก็ออกเดินทางได้ ต้องมีการจัดการเป็นคณะมากพอสมควร รวมทั้งพระสหจร และสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ด้วยเป็นกระบวนใหญ่ การเดินทางรอนแรมระยะไกลไปต่างประเทศ พระสงฆ์ผู้เป็นหัวหน้า และสหจร ท่านคงมีสายญาติ และญาติโยมผู้เคารพนับถือตามไปด้วย คงไม่ปล่อยให้ท่านเหล่านั้น เดินทางไปลำบาก ต้องมีคณะติดตามเพื่อจะได้คอยช่วยเหลือหุงหาเสบียงอาหารในระหว่างเดินทาง อีกอย่างหนึ่ง หากพบภูมิประเทศที่เหมาะสม ก็ตั้งถิ่นฐานแสวงโชคอยู่ที่สุวรรณภูมิประเทศได้ จึงได้พากันมาเป็นกระบวนใหญ่

    ชนชาติเจ้าของถิ่นเดิม ที่อาศัยอยู่ในสุวรรณภูมิประเทศมีอยู่แล้ว แต่คงไม่มาก หากมีอันตรายจากสัตว์ร้าย และเภทภัยต่างๆ มาย่ำยีเบียดเบียน การป้องกันก็ลำบาก เพราะกำลังไม่พอ นครปฐมคงเป็นที่รวมชุมชน กระบวนการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และนักแสวงโชคจากชมพูทวีป คงเอาที่นั้นเป็นจุดเริ่มต้น ชาวสุวรรณภูมิก็คงได้ยินกิตติศัพท์เช่นกัน จึงต้อนรับด้วยความยินดี

    การเผยแผ่พระพุทธศาสนาก็ดี การแสวงโชคของญาติโยมที่ตามมาก็ดี ได้รับการสนับสนุนด้วยดี ประกอบกับผืนแผ่นดินก็กว้างใหญ่ไพศาลอุดมสมบูรณ์ ชาวประชาถิ่นเดิมก็ยอมรับนับถือพระรัตนตรัย และศีล ๕ มีการสร้างวัดถวาย คงเป็นวัดพระปฐมเจดีย์เดี๋ยวนี้ ส่วนนักแสวงโชคก็คงประกอบสัมมาอาชีพไปตามความสามารถ และปฏิบัติพระสงฆ์ไปด้วยพร้อมๆ กัน นี้คือชนชาวชมพูทวีปที่ได้เข้ามาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก นักแสวงโชคเหล่านั้น เมื่อประสบโชคแล้ว แทนที่จะหยุดอยู่แค่นั้น ก็นึกถึงญาติๆ ทางชมพูทวีป กลับไปบอกข่าวสารแก่ญาติๆ จึงมีการอพยพย้ายถิ่นฐานตามกันมาอีก

    ลุศักราชประมาณ ๕๐๐ ถึง ๙๐๐ ปี หลังพุทธปรินิพพาน อาเพศเหตุร้ายก็เริ่มเกิดขึ้น
    เนื่องจากชนชาติชาวเปอร์เซีย ในปัจจุบัน คือ แถบตะวันออกกลาง เกิดมีลัทธิอย่างหนึ่งขึ้นมา ในปัจจุบันคือ ศาสนาอิสลาม ได้จัดขบวนทัพอันเกรียงไกร รุกรานเข้าสู่ชมพูทวีป คือ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน อินเดียสมัยนั้นมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่งอาศัยของชาวชมพูทวีปทั้ง ๗ รัฐ รวมทั้งชาวศากยวงศ์ของพระองค์ อยู่ด้วยกันฉันท์พี่น้อง การเตรียมรบจึงไม่เพียงพอ เมื่อกองทัพอันเกรียงไกรยกเข้ามา การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบสิ้นชาติก็เกิดขึ้น การหนีตายอย่างทุลักทุเลของรัฐเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร มหาวิทยาลัยนาลันทาเอย พระเวฬุวันเอย พระเชตวันเอย บุพพารามเอย รวมทั้งพระสงฆ์เป็นหมื่นๆ ประวัติศาสตร์ก็ได้จารึกไว้แล้ว ตายเป็นเบือราบเรียบเป็นหน้ากลอง

    ชาวรัฐโกศลและรัฐเล็กรัฐน้อย เช่น ลิจฉวี มัลละ ก็ทะลักเข้าสู่ดินแดนชเวดากอง คือ พม่า มอญ ไทยใหญ่ ในปัจจุบัน ชาวมคธรัฐ มีเมืองราชคฤห์เป็นราชธานี ก็หนีตามสายญาติที่เดินทางมาก่อนแล้ว มุ่งสู่สุวรรณภูมิ รวมทั้งรัฐเล็กรัฐน้อย มีรัฐสักกะ โกลิยะ และอื่นๆ ก็ติดตามมาด้วย แยกเป็นสองสาย สายหนึ่งไปทางโยนกประเทศ คือ รัฐฉาน ปัจจุบันอยู่ในพม่า และเลยไปถึงมณฑลยูนนานของประเทศจีน

    รัฐใหญ่ในครั้งพุทธกาล คือรัฐมคธ เป็นไทยในปัจจุบัน รัฐโกศล คือ พม่า (เมียนมาร์ในปัจจุบัน) ท่านพระอาจารย์เล่าว่า พม่าและไทย พระพุทธเจ้าทรงโปรดและตรัสสอนเป็นพิเศษ สองประเทศนี้จึงมีพระพุทธศาสนาที่มั่นคงมายาวนาน และจะยาวนานต่อไป แต่พม่าเป็นเมืองเศรษฐีอุปถัมภ์ สมัยเป็นชาวโกศล ก็มีคหบดี คือ ท่านอนาถบิณฑิกะและนางวิสาขาเป็นผู้อุปถัมภ์ แต่ไทยมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก พิเศษกว่าพม่า

    ชาวพม่ามีอุปนิสัยทุกอย่าง โดยเฉพาะความซื่อสัตย์ เหมือนคนไทย เป็นมิตรคู่รักคู่แค้น จะฆ่ากันก็ไม่ได้ จะรักกันก็ไม่ลง ท่านว่าอย่างนี้ สมัยพุทธกาล รัฐมคธมีปัญหาอะไรก็ช่วยกัน บางคราวก็รบกัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ มาเป็นไทยเป็นพม่า ก็รบกัน ประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้แล้ว

    ส่วนพระปฐมเจดีย์นั้น ผู้เล่ากราบเรียนถามท่านพระอาจารย์ ท่านตอบว่า คงจะสร้างเป็นอนุสรณ์การนำพระพุทธศาสนามาสู่สุวรรณภูมิเป็นครั้งแรกฟังแต่ชื่อก็แล้วกัน ปฐมก็คือที่หนึ่ง คือ พระเจดีย์องค์แรก ท่านกล่าวต่อไปว่า คงบรรจุพระธาตุพระอรหันต์รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุด้วย เมื่อมีการบูรณะแต่ละครั้ง ผู้จารึกเรื่องราว มักบันทึกเป็นปัจจุบันเสีย ประวัติศาสตร์เบื้องต้นจึงไม่ติดต่อ ขาดเป็นขั้นเป็นตอนว่า คนนั้นสร้างบ้าง คนนี้สร้างบ้าง แล้วแต่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น

    คำพูดแต่ละยุค มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสมัย ย้อนถอยหลังกลับไป คำว่า ประเทศพม่า คนไทยจะไม่รู้จัก รู้จักพม่าว่า เมืองมัณฑะเลย์หรือหงสาวดี และคนพม่าก็จะไม่รู้จักคำว่า ประเทศไทยจะรู้จักไทยว่า เมืองอโยธยาเรื่องราวเหล่านี้ ผู้เล่าได้ฟังมาจากท่านพระอาจารย์มั่น และพระอาจารย์ชอบ

    ต่อไปจะได้เล่าเรื่องชนชาวไทย ชนชาวลาว
    ท่านพระอาจารย์เล่าว่า ชาวลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ก็คือชาวนครราชคฤห์ หรือรัฐมคธ เช่นเดียวกับชาวไทย ไทยและลาวจึงเป็นเชื้อชาติเดียวกัน แต่หนีตายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาคนละสาย ลาวเข้าสู่แดนจีน จีนจึงเรียกว่า พวกฮวน คือ คนป่าคนเถื่อนที่หนีเข้ามา โดยชาวจีนไม่ยอมรับ จึงมีการขับไล่เกิดขึ้น (ประวัติศาสตร์ไทยเขียนไว้ว่า ไทยมาจากจีน เห็นจะเป็นตอนนี้กระมัง)

    ความจำเป็นเกิดขึ้น จึงมีการต่อสู้แบบจนตรอก ถอยร่นลงมาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ตามสายญาติ คือ ไทย สู่สิบสองจุไทย สิบสองปันนา หนองแส และแคว้นหลวงพระบาง ปัจจุบันก็ยังมีคนไทยตกค้างอยู่ พอถอยร่นลงมาถึงนครหลวงพระบาง เห็นว่าปลอดภัยแล้ว และภูมิประเทศก็คล้ายกับนครราชคฤห์ จึงได้ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นั่น และอยู่ใกล้ญาติที่สุวรรณภูมิด้วย คือ นครปฐม เป็นพวกที่มาตั้งอยู่ก่อน และพวกที่เข้ามาตอนหนีตายคราวนั้น
    การสร้างบ้านแปลงเมืองเป็นมาโดยราบรื่น โดยให้ชื่อว่า"กรุงศรีสัตตนาคนหุต" (เมืองล้านช้าง) จนถึงพระเจ้าโพธิสารเป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์มีราชโอรส ๒ พระองค์ ชื่อเสียงท่านไม่ได้บอกไว้ พอเจริญวัย พระเจ้าโพธิสารทรงเห็นว่า เมืองปัจจุบันคับแคบ มีภูเขาล้อมรอบ ขยายขอบเขตยาก การเกษตรกรรมทำนาไม่เพียงพอ และเพื่อเป็นการขยายอาณาจักรด้วย จึงส่งราชโอรสองค์ใหญ่ ไปตามลำแม่น้ำโขง มาถึงเวียงจันทน์ จึงได้ตั้งบ้านเรือนขึ้น มีเมืองหลวงชื่อว่า"กรุงจันทบุรีศรีสัตตนาคนหุต"

    ส่วนพระราชโอรสองค์น้อง ได้ไปตามลำน้ำน่าน มาตั้งบ้านเมืองอยู่ที่สุโขทัย โดยมีเมืองหลวง ชื่อว่า"กรุงสุโขทัย" ท่านพระอาจารย์แปลให้ฟังด้วยว่า"สุโขทัย"แปลว่า "ไทยเป็นสุข" เหตุที่อยู่ที่นี้เพราะปัจจัยในการครองชีพเอื้ออำนวย และใกล้ญาติทางนครปฐม ไปมาหาสู่ก็สะดวก ท่านว่าอย่างนี้

    นครปฐมก็มีเมืองหลวง คือ"ทวาราวดีศรีอยุธยา"ที่เรียกว่า ยุคทวาราวดี นั่นเอง เวียงจันทน์จึงเป็นพระเจ้าพี่ สุโขทัยเป็นพระเจ้าน้องนครปฐม สุโขทัย หลวงพระบาง เวียงจันทน์ ก็คือ ชนชาติชาวราชคฤห์ในครั้งพุทธกาลนั่นเอง

    การอพยพหนีตายคราวนั้น บางพวกลงเรือข้ามทะเล ไปขึ้นฝั่งที่นครศรีธรรมราชก็มี ซึ่งมีพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเป็นสักขีพยานว่า ชาวใต้ทั้งหมดก็เป็นชนชาติรัฐมคธในครั้งพุทธกาล เหมือนกันกับชาวพม่า มอญ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ก็คือ ชาวโกศล ในครั้งพุทธกาลนั้นเอง
     
  14. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    มีปัญหา เรื่องขบคิด

    1. ใครว่างช่วยค้นดูด้วยว่า ที่ผ่านมา ไม่ต้องไกลมาก มีพระพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกะ มากี่พระองค์แล้ว

    2. ทำไมพระพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกะ ถึงมีอายุขัยน้อย

    3. ในสมัยพระพุทธเจ้าประเภทอื่นนั้น โลกจะมี คอมฯ ดาวเทียม มือถือ อินเตอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊ค ไลน์ และในอนาคต อาจจะมีจานบิน เหมือนพระพุทธเจ้าพระองค์นี้หรือไม่

    4. โลกที่มี คอมฯ ดาวเทียม มือถือ อินเตอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊ค ไลน์ เกิดขึ้นในสมัยพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะทุกพระองค์หรือไม่
     
  15. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    เอาเรื่องน่าสนใจมาฝากครับ เห็นว่าน่าจะเข้ากับกระทู้นี้ได้จึงเอาลิ้งค์มาลงไว้ให้อ่านครับ
    http://www.vichadham.com/
     
  16. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    สาธุ ขอบคุณครับ
     
  17. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    มีึความรู้พิเศษ เกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมีของพระพระพุทธเจ้า จากธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ มาฝากครับ เป็นข้อมูลที่อยู่ในข่ายเรื่องอจินไตย ผมยังไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องทั้งหมดหรือไม่อย่างไร แต่การที่มีข้อมูลบ้างย่อมมีประโยชน์ในการวิเคราะห์และตรวจสอบกันต่อไปครับ

    ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

    สำหรับท่านที่ต้องการอ่านหนังสือ ebook ฉบับเต็ม สามารถดาวโหลดได้ที่นี่ครับ
    ธรรมประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2015
  18. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559


    สาธุ __/|\__ ขออนุโมทนาครับ

    ทราบว่าเล่นเฟสบุ๊คด้วย ผมก็จำไม่ได้ว่าแอดไปเมื่อไหร่
    ก็ไม่ค่อยได้คุยกันในเฟสบุ๊ค
    ทราบว่าท่านเป็นผู้ศึกษามาก่อน ขอแสดงความคาราวะครับ ถือเป็นรุ่นพี่

    ผมยอมรับว่าชอบเรื่องอจินไตยมาก เรื่องปฏิบัติธรรมนั้น เป็นที่ทราบดีว่า พุทธภูมิปฏิบัติเท่าไหร่ก็ไม่บรรลุ ก็แค่เข้าไปรู้ไปเห็นสภาวะ ซึ่งผมก็ผ่านมาแล้ว

    ตอนนี้ผมมีความคิดขึ้นมา อยากจะขอข้อคิด ข้อคิดเห็น ในประเด็น

    เมื่อสิ้นอายุพระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และเวลาได้ล่วงเลยไป ได้ล่วงเลยไป ปีแล้วปีเล่า ปีแล้วปีเล่า พระสัทธรรมได้อันตรธานเลือนหายไป ไม่มีพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ก็คงมีแต่พระปัเจกพุทธเจ้า มีฤษี มีนักบวชอื่นๆ ผู้ที่จะบรรลุ มรรคผล มีน้อยนัก หรืออาจหาไม่ได้อีก

    โลกว่างเว้นจากพระสัทธรรม ไม่มีพระธรรมเทศนา ไม่มีผู้บอกศีลธรรม และพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ไม่ได้เผยแผ่ ไม่ได้สอนบอกธรรม แต่โลกยังมีการสร้างบุญสร้างกุศล เช่น การให้ทาน การสร้างสาธารณะประโยชน์ ยังมีผู้ที่ทำบุญกุศลคุณงามความดี แล้วตายไปได้ไปบังเกิดในสวรรค์

    สำหรับบนสวรรค์ เมื่อกาลเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป ผ่านไป นานนับนาน เทพ เทวดา ที่อยู่บนสวรรค์ ก็ได้ประพฤติ ปฏิบัติธรรม ก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ เป็นลำดับ ตามภูมิชั้น และได้จุติไปอยู่ชั้นที่สูง ที่ปราณีต และปฏิบัติจนได้มรรคผลนิพพาน เข้าถึงพระนิพพานบนสรวงสวรรค์แห่งนั้น

    ทำให้สวรรค์ชั้นฉกามาพจร ว่างเว้นจากพระอริยเทวดา หรือเทวดาที่บรรลุธรรม

    คำถาม คือ

    1. ในสมัยนั้นยังมีให้เห็นการสมาทานศีล 5 กันอยู่หรือไม่ หรือยังมีผู้ถือศีล 5 กันหรือไม่

    2. เมื่อสวรรค์ชั้นฉกามาพจร ว่างเว้นจากพระอริยเทวดา หรือเทวดาที่บรรลุธรรม และมนุษย์ที่ไปเกิดบนสวรรค์ก็ดี ไปเกิดเป็นเทวดามารก็ดี ไปเกิดเป็นเทวดาอสูรก็ดี พวกเขาเหล่านั้น ล้วนเป็นผู้ที่ยังมีกิเลส ซึ่งจะมีโอกาสทำให้เกิดสงครามบนสรวงสวรรค์ดังเช่นที่ผ่านมาได้หรือไม่ เช่น สงครามระหว่างเทวดากับอสูร, สงครามระหว่างพญานาคกับพญาครุฑ, สงครามระหว่างพญานาคกับพญานาคด้วยกันเอง ซึ่งสงครามทั้งหลายต่างๆเหล่านั้น ล้วนเป็นวิบากกรรม ให้ต้องมาทำสงครามกับบนโลกมนุษย์

    3. มีวิธีไหน ที่จะหยุดสงครามทั้งหลายเหล่านั้นได้ ทั้งบนสวรรค์ และบนโลกมนุษย์

    ขอแสดงความนับถือ
    ขอบคุณครับ
     
  19. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    สวัสดีครับ ผมมีเฟซบุคแต่ระยะหลังไม่ค่อยได้อัพเดทสักเท่าไรครับ ถ้าจำไม่ผิด ผมน่าจะไปแอดท่านไว้นานแล้วครับ ถ้าอายุก็อาจเรียกพี่ได้มั้งครับ แต่ความรู้ความสามารถผมยังไม่มากครับ ยังต้องฝึกฝนบำเพ็ญบารมีอีกนาน

    ผมก็ชอบศึกษา เรื่องลึกลับ เรื่องอจินไตย ศาสนา วิทยาศาสตร์ มนุษย์ต่างดาว ผีต่างๆ ฯลฯ เช่นกันครับ แต่เรื่องความสามารถพิเศษส่วนตัวในการไปเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้ผมคิดว่ายังทำไม่ค่อยได้ครับ ถือว่ายังใช้งานไม่ได้จะดีกว่า ผมอาศัยการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งความรู้ต่างๆเอาครับ ทั้งจากหนังสือบ้าง อินเตอร์เน็ตบ้าง จากท่านที่พอรู้เรื่องเหล่านี้บ้าง แล้วมาคิดวิเคราะห์เอาครับ

    ผมจะลองตอบคำถามดูนะครับ จะถือเป็นจริงจังนักไม่ได้เพราะเป็นการประเมินจากความรู้เท่าที่ผมมีครับ

    1.ในสมัยที่ว่างเว้นจากพระศาสนา อาจมีผู้เจริญในศีลธรรมได้เหมือนกันครับ เช่น ในทวีปอื่นที่ไม่ใช่ชมพูทวีป เพราะจะมีศีลธรรมพื้นฐาน มีหิริโอตตัปปะอยู่ในใจ สำหรับในชมพูทวีปก็อาจมีได้เช่นกัน เช่น ในแดนลับแลที่เป็นถิ่นของมนุษย์ที่ถือศีล 5 ประจำใจ ในยุคสมัยที่มีความรุ่งเรืองทางจิตใจกันมาก เช่น ในยุคที่มีอายุยืนมากๆ หรือในยุคที่มีจักรพรรดิผู้ทรงความดีมาปกครอง ถ้าในยุคที่จิตใจเสื่อมทรามลง ก็อาจจะมีในกลุ่มพระโพธิสัตว์หรือท่านที่มีบารมีธรรมสูงลงมาบำเพ็ญบารมีเป็นมนุษย์ เว้นแต่บางเวลาที่มีวิบากกรรมบางอย่างที่เลี่ยงได้ยาก เช่น ยามที่ต้องทำสงครามปกป้องบ้านเมืองครับ

    2.น่าจะขึ้นอยู่กับวิบากกรรมที่เคยเกี่ยวเนื่องกันมาครับ

    3.เมตตาธรรม เป็นคุณธรรมสำคัญที่ทำให้มนุษย์และสรรพสัตว์อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
    การให้ทาน การให้อภัยและการรักษาศีลไม่เบียดเบียนกัน ล้วนอาศัยความเมตตาเป็นเหตุสำคัญ ถ้าทั้งผู้นำและประชาชนมีในโลกนี้เมตตาธรรมกันถ้วนหน้า ตำรวจ ทหาร การทำสงครามก็ไม่จำเป็นต้องมี

    แต่ในความเป็นจริงจะพบว่าไม่ง่ายนักที่จะทำให้ไม่เกิดสงครามเลย เพราะมีเหตุปัจจัยที่ผลักดันอยู่เบื้องหลัง เช่น วิบากกรรมที่เคยทำร่วมกันมาและยังจองเวรกันอยู่หรือยังไม่อโหสิกรรมต่อกัน รวมทั้งการที่มนุษย์และสรรพสัตว์ยังมีกิเลสอย่างหยาบกันอยู่เป็นส่วนมาก ทำให้ขาดศีลธรรมประจำใจ จึงยังต้องเบียดเบียนซึ่งกันและกันแบบนี้

    ทางแก้พอมีอยู่แต่ก็ทำได้เพียงบางส่วน(เพราะสรรพสัตว์มีปัญญาที่แตกต่างกันเปรียบเหมือนบัวสี่เหล่าและยังมีปริมาณมากมายเหลือคณานับ) ต้องอาศัยกำลังพระโพธิสัตว์ทั้งหลายและผู้ที่มีคุณธรรม มีสัมมาทิฏฐิมาช่วยกันให้ความรู้ ปรับทัศนคติในการดำเนินชีวิตใหม่ให้มีสัมมาทิฏฐิ และแนะนำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายดำเนินไปในทางที่เป็นบุญกุศล คือปลูกฝังให้มีความเมตตาเป็นเบื้องต้น และประกอบความดีอันเกิดจากการให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ให้รู้ว่าอะไรเป็นทางเจริญ อะไรเป็นทางเสื่อม ให้รู้เรื่องกฏแห่งกรรม ภพภูมิต่างๆรวมทั้งพระนิพพาน ฯลฯ

    ผมอาจจะตอบได้ไม่ครอบคลุมนัก แต่ก็ตอบเท่าที่คิดได้ในตอนนี้ครับ ถ้ามีท่านอื่นมาช่วยตอบเสริมเพิ่มเติมให้ก็ยินดีครับ
     
  20. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211

แชร์หน้านี้

Loading...