เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ส่วนตรงนี้ ผมเขียนเองด้วยสำนวนของผม ล้วน จากปากคำหลวงพ่อที่บอกผมไว้ จากปากคำ หลวพ่อ เสียน ลูกศิษย์ หลานหลวงพ่อ และ จาก ที่ผมค้นคว้า เอาเรื่องมาผูกเอา ผมไม่เคยคิดว่าจะมาเขียนเรื่องหลวงพ่อ ไม่งั้น ถามไว้ชัดเจนแล้ว แต่ที่เขียน การอ้างอิงมีหลักฐาน พยาน บุคคล และ เอกสาร ที่หาได้

๑) สายหลวงพ่อพัก วัดโบถส์ อันนี้ยืนยันอีกท่าน ว่าหลวงพ่อไม่ทัน หลวงพ่อพัก แต่ได้ตำรามา อันนี้ผมไปสืบอีกสายคือสาย เบ็นอยุธยา เบ็นแนะนำว่าท่านอาจจะศึกษามาจาก หลวงพ่อผ่อน วัดขุมทอง ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงพ่อพัก หลวงพ่อเคยบอกผมเองว่า รู้จักคนมีตำราหลวงพ่อพักอยู่ที่โพธิ์ทอง แต่ตายไปซ่ะก่อน เลยติดตามไม่ได้ไม่งั้นผมคงได้เห็นตำราหลวงพ่อพักได้ถ่ายรูปมาอวด

๒) หลวงพ่อ ชวน วัดยางมณึ วัดดั้งเดิมของท่านตอนบวช องค์นี้เก่งมากครับ เขาซื้อตะกรุดโทนเนื้อทองแดงของท่านกัน ถ้าไม่แน่ใจจะตกลงกันว่า เอาไปลองยิง ถ้ายิงไม่ออกก้เป็นตะกรุดหลวงพ่อชวนครับ เรียกว่ามั่นใจถึงขนาดนั้น

๓) หลวงพ่อ ชั้ว วัดตูม (องค์นี้ผมไม่มีข้อมูลท่านเลย จะพยายามหามาน่ะครับ ให้ บันทึกนี้สมบูรณ์ในอรรถรส ให้เห็นภาพของหลวงพ่อทรงที่เรามองไม่เห็น)

๔) หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ถ้าหลวงพ่อทรงได้วิชาหลวงพ่อเดิมน่าจะมาจากท่านนี้ หลวงพ่อนุ่มเป็นพระอุปัฌาย์ และพระ อาจารย์ของหลวงพ่อ มี วัดม่วงคัน สหธรรมมิก สนิทมากของท่านอีกองค์ ยันต์หลังเหรียญบินของท่าน ก็ ก็อบมาจากยันต์หลังเหรียญของหลวงพ่อนุ่มครับ

๕) หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ องค์นี้เป็นปรมาจารย์ทางเบี้ยแก้ สายอ่างทอง ท่านหนึ่ง ไม่เป็นรองใคร เบี้ยมีเอกลักษณ์ เล่นหาได้ มีหลายขนาด มีประสบการณ์ ถ้าเล่ากัน บันทึกได้หลายเล่ม ผมพึ่งฟัง รุ่นน้องเล่าให้ฟังว่า ไปหาของตามบ้านในวิเศษฯ เจอบ้านหนึ่งมีเบี้ย คนสามีเล่าให้ฟังว่า เมียแกฆ่าตัวตาย โดยปืนลูกซอง (คงจะเอาปืนจอคางแล้วเอานิ้วกระดิกไก) ปรากฎว่าแชะๆครับ นึกขึ้นได้ แกมีเบี้ยหลวงพ่อคำอยู่ในตัว พอเอาเบี้ยออก เปรี้ยง ดับครับ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครโกหกมาเล่าน่ะครับ พยานยังมีอยู่ เบี้ยหลวงพ่อคำค่อนข้างมีราคา และปริมาณเยอะพอหาได้ แต่หาแท้ๆยากน่ะครับ ที่เล่นกันน่ะ .....สะรู้ตู้ครับ

๖) อาจารย์ฆราวาส หมอฟู

๗) อาจารย์ฆราวาส หมอเปรี้ยว อาจารย์ฆราวาส หมอฟู กับหมอเปรี้ยวนี้ เป็นศิษย์ ของ หมอน้อย ฆราวาสผู้วิเศษ ( ท่านนี้เก่งจริงๆ ) ของวิเศษชัยชาญ มีท่านหนึ่ง เป็นเขยของ อาจารย์หมอน้อย แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านไหน อันนี้เป็นข้อสรุปของหลวงพี่พระครู อุปถัมท์ธรรมรังสี ส่วนอาจารย์องค์อื่นท่านไม่ทราบ จากที่ผมศึกษามาน่าจะมี

๘) หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ องค์นี้สรรพคุณเกินกว่าคำที่จะหามาบรรยาย อันนี้ในมุมมองท่านพระครู หลวงพ่อมุ่ยน่าจะเป็นสหธรรมิกรุ่นพี่ ที่นับถือกันมากกว่า ผมเอาตามท่านว่าก็แล้วกัน เป็นเด็กอย่าไปอวดรู้ผู้ใหญ่ แต่หลวงพ่อทรงบอกผมเองว่า ไปหาบ่อยมาก เหมือนผมไปหาหลวงพ่อทรง เรียกว่า ว่างก็ไป การไปหาบ่อยๆ แล้วมานั่งมองหน้ากันคงไม่น่าใช่ หลวงพ่อมุ่ยท่านคงเอ็นดูพระหนุ่มใหญ่องค์นี้มากพอสมควร เพราะขนาดสร้างเหรียญบินรุ่นแรก ท่านก็มานั่งเป็นประธานให้ หลวงพ่อทรงก็ใฝ่รู้วิชา หลวงพ่อมุ่ยน่าจะแนะนำ"อะไร "มาให้บ้าง อันนี้ผมเคยกราบเรียนถามหลวงพ่อทรงตรงๆว่า หลวงพ่อเรียนอะไรมาจากหลวงพ่อมุ่ยบ้างครับ ท่านว่าแอบเรียนมาบ้าง

๙) หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว องค์นี้เป็นอาจารย์หลวงพ่อเกรียงวัดวังน้ำเย็น เพื่อนสนิทท่าน ทั้ง สามองค์ คือ หลวงพ่อ เกรียง หลวงพ่อทรง หลวงพ่อมี เคยถีบจักรยาน ไปเที่ยวกันไกลๆ ข้ามจังหวัดยังมี สมัยยังหนุ่มโดยนัดมาเจอกัน การถีบไปเที่ยวกันเฉยๆ คงไม่ใช่ แต่ไปเรียนวิชากันมากกว่า เพราะแต่ล่ะท่าน อาคมขลังทั้งนั้น อาจารย์องค์หนึ่งที่น่าจะไปหาคือหลวงพ่อ ซวง นี่เอง

๑๐) หลวงพ่อ ภู (หรือ พู ) วัดดอนรัก หลวงพ่อทรงมีรูปหลวงพ่อพู ใส่กรอบติดที่หัวนอนของท่าน ในที่พักส่วนตัวท่านที่บ้านหลาน คนไม่รัก ไม่นับถือกันคงเอารูปมาไว้หัวนอนน่ะครับ หลวงพ่อพู นี้ ท่านที่เล่นตะกรุดควรทราบว่า ตะกรุดของท่านคือสุดยอดตะกรุดของสยามประเทศดอกหนึ่ง ไม่เป็นรองใครในแผ่นดินไทยนี้เด็ดขาด พกใส่กระเป๋ากางเกงได้ คาดเอวได้ มีทั้งโทนและ คาดเอว เป็นสุดยอดของปรมาจารย์ของอ่างทองท่านหนึ่ง ในยุคหนึ่ง ทั้งตำรวจ ทั้งมือปืน ในอ่างทองต่างคาดตระกรุดของหลวงพ่อพู เพราะประสบการณ์ฉกาจฉกรรณ์มาก อันนี้เขาบอกผมมา หลวงพ่อทรงท่านก็ ดำเนินรอยตามมาในการทำตะกรุด โดย ตะกรุดเอกของท่านก็คือ ตะกรุดมหาจักร และ เทพรัญจวน

๑๑) หลวงพ่อวัดปากน้ำ อาจารย์อีกองค์ของหลวงพ่อเกรียง อันนี้หลวงพ่อเกรียงท่านบอกผมเอง ว่าไปเรียนกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนผมไปขอตะกรุดท่านกับเพื่อน (ตอนนั้นผมไปหาท่านที่วัด วังน้ำเย็น ประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๒/๓๔ เสียดายที่ไม่ได้คุยท่านละเอียด และถามท่านถึงหลวงพ่อทรง ไม่งั้นผมคงเจอหลวงพ่อทรงมาก่อนหน้านี้หลายปี ) หลวงพ่อวัดปากน้ำมีบารมีมากขนาดไหน หลวงพ่อเกรียงไปเจออะไรดีๆ คงมาบอกเพื่อนมั่ง นอกจากนั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อผาด วัดไร่ ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อทรง เมื่อออกจากวัดยางมณี ก็ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อผาด ถึงประมาณ ๖ ปี ซึ่งหลวงพ่อผาดก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำเหมือนกัน มีรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตั้งบูชาตรงที่ๆท่านรับแขก หลวงพ่อทรงน่าจะศึกษามาด้านนี้บ้าง แต่ศึกษาแบบเสือ ซ่อนเล็บ ไม่คุย ไม่อวด ทำให้พลังจิตท่านสูงยิ่ง

ผมจบประวัติของหลวงพ่อทรงอย่างคร่าวๆ น่ะครับ ท่านอาจจะมองเห็นว่า หลวงพ่อไม่ได้ไปศึกษา วิทยาคมที่ไหนไกลๆ แบบธุดงค์ไป หรือ ไปหาอาจารย์ไกลๆแบบที่เขาเขียนกัน ( เช่นไปหาหลวงพ่อเดิมถึงวัดหนองโพ ) เพราะคณาจารย์แถวอ่างทองลุ่มแม่น้ำน้อย ยุคนั้น เก่งจริงๆ ไม่ว่าพระหรือ ฆราวาส สืบเชื้อสายวิชาของลูกวิเศษชัยชาญ มาตั้งแต่ยุครบกับพม่า เช่นหลวงพ่อพัก วัดโบถส์ หลวงพ่อ นุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อ หรุ่ม วัดบางจักร หลวงพ่อพู วัดดอนรัก หลวงพ่อผ่อนวัดขุมทอง ( บุตรบุญธรรมหลวงพ่อพัก ) หลวงพ่อ ชวน วัดยางมณี หลวงพ่อชั้ว วัดตูม หลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง(องค์นี้ก็อิทธิฤทธิ์ สุดยอด มีคนจัดให้เป็นเบอร์หนึ่งด้านอิทธิฤทธิ์ ของวิเศษฯที่เดียว ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า และเรียนมาอีก ร้อยกว่าอาจารย์!!!! ) หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ฯลฯ ยังมีที่ดังเงียบๆอีกน่ะครับ นอกนั้นยังมีจังหวัดข้างเคียง เช่น สุพรรณบุรี ( หลวงพ่อมุ่ย ) และสิงห์บุรี ( หลวงพ่อซวง ) แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อไม่ต้องไปไหนไกล ถึง อิสาน หรือ เหนือ เพราะอาจารย์เก่งๆ รอบตัวเยอะ แค่ นั่งเรือ หรือ ถีบจักรยานไปก็เหลือเฟือแล้วที่จะศึกษาให้เก่งได้ครับ

 

ข้อความทั้งหมดเขียนมาเมื่อ ๗ ปีที่แล้ว ที่จริงเก่ากว่านั่น อีก เพราะผมเริ่มเขียนจริงๆในเว็บหนึ่ง แต่มีความขัดแย้งกัน จึงเลิก แต่มีน้องท่านหนึ่งที่เป็นแฟนคลับเสียดาย มาชวนผมเขียนต่อที่พลังจิต ผมไม่ใช่นักเล่นเว็บไม่รู้จักด้วย น้องท่านนั้น คุณ น ก็อบข้อความเก่ามาให้ ผมมาเปิดกระทู้ใหม่ เปลี่ยนชื่อ จากชื่อเดิม ผ่านมา มาเป็น พี เสาวภา ตามชื่อเล่น P หรือ peace ที่แปลว่าสันติ และ คำว่าเสาวภา มาจากสถานที่ที่ผมเกิดและ โตมา

ผมเขียนมา ด้วยความอดทน ผ่านเหตุการณ์มาเยอะ ที่เป็นอุปสรรค คอยสกัด และต้องทำมาหากิน ในหน้าที่การงาน ด้วยความเหนื่อยยาก แต่ผมกัดฟันเขียนมาเรื่อยมา เข้าปี จะเป้นปีที่แปดแล้วครับ ไม่น่าจะมีใครในพลังจิด เขียนเรื่องหลวงพ่อ เดียวมาได้ ตั้งแปดปี ( หลวงปู่พระครูบุญศรี พระอาจารย์ของผมมาเพิ่มทีหลัง เพราะมีคนถามถึงว่าอาจารย์ผมคือใคร )

ข้อสรุปมีได้ ว่า

๑) ผมรักหลวงพ่อจริงๆ จึงอดทนเขียนมาด้วยเรื่อยๆด้วยขันติ แม้จะมีพวกพ่อค้าพระ ขายพระเป็นวัตถุมา เอาเงินมาเข้ากระเป๋าตัวเอง หาเรื่องผม ถึง ๕ คราว แต่ไม่มีท้อครับ

ความจริง ก็คือความจริง และเขียนมันถึงมาได้ ถึงปีที่ ๘ นี่แหละครับ

๒) หลวงพ่อทรงเป็นของจริง คนถึงตามอ่านมา ถึงบัดนี้ สามล้านกว่าคลิ้ก จะใกล้ สี่ล้าน ไม่เกิน สิ้นปีนี้ถึงแน่นอน เปิดกระทู้ประมูล ได้เงิน เกินสองล้านบาท ทำบุญ ทำทานทุกบาทตามหลักฐานและ มีโครงการณพันบุญที่เดินทางมาได้ ถึง ๑ ใน ๓ ของระยะทางแล้ว

ส่วนข้อหา ที่กล่าวหาว่าผมเป็นนายทุนขายของที่ผมเขียนเชียร์ คนที่กล่าวหา ก็ไปตามกรรม ตามกฎหมายและ ความจริง จะกล่าวแค่นี้ แม้ใกล้จะถึงที่สุดแล้ว ผมเขียนมาตั้ง ๗ ปี คงขายพระเพลิน จำนวนน่าจะมากพอสมควร เลยขอซื้อพระที่คนอ้างว่าผมขายจนรวย อย่างนั้นต้องจำหน่ายพระออกไปมากมายครับ

ผมรับซื้อคืนทุกองค์ให้ราคาพันเท่า จากที่ท่านเคยจ่ายเงินซื้อของผมไป

ล็อกเก็ตหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ที่มีผู้กล่าวหาว่าผมทำขาย ผมเลยซื้อคืนให้ องค์จัมโบ้ ผมซื้อคืน องค์ล่ะ ล้านบาท จ่ายสด

ประกาศมาข้ามปี จนบัดนี้ ยังไม่ได้ ซื้อคืนแม้แต่องค์เด๊ยว คนซื้อของจากผม มีมากมาย ดันไม่เอาเงินล้าน หรือ พันเท่า สมมุติซื้อจากผมไป ๑๐๐ ผมซื้อคืนให้ราคา พันเท่า คือ ๑๐๐,๐๐๐ บาท พวกลูกค้าผมดันไม่เอาเงิน ไม่มีใครเอามาขายคืนผม ผมไม่สามารถซื้อพระคืนได้แม้แต่องค์เดียว

ท่านว่าแปลกไหมครับ ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ คนอยากเก็บพระองค์เล็กๆ ราคาหลักแสน หลักล้านไว้ พระใหม่แท้ ๆ อายุแค่ไม่กี่ปี

ทำไมไม่แปลก........ เพราะคนๆนั้น มันไม่มีครับ

 

เขียนมาถึงตรงนี้ จะสรุปว่าข้อความนี้เขียนมา ถึง ๗ ปีแล้ว และ ผมเป็นคนเขียนครับ แม้จะได้ต้นร่างมาจากท่านพระครูอุปฯ แต่ท่านเมตตาให้ผมมา

สามารถรับรองทั้งทาง พฤตินัย ว่าผมเป็นเจ้าของ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และสามารถ รับรองได้ ทางนิตินัย มีกฎหมายรองรับ หลายกฎหมายครับ เป็นสิทธิทางปัญญา ทีผมค้นคว้า สำนวนของผม และ ผมอดทนมาด้วยตัวเอง ๗ ปี มีความถูกต้องไม่มีผู้รู้มาแก้ไข หรือ คัดค้าน และใช้ทุนรอนส่วนตัวมา จะไม่พูดอะไรด้านกฎหมายเหมือนเป็นการขู่ เหมือนอวดรู้ แต่สิ่งนี้ ข้อความข้างบนนี้ ผมเป็นเจ้าของครับ

มีคดี เหตุการณ์ลิขสิทธิ์ ทางปัญญานี้ บท เพลงแค่ ลอก ตัวโน็ต ทำนองมา ห้าตัว ก็ไม่ได้ครับ ขึ้นศาล แพ้มาแล้วครับ เพราะเป็นของๆเขาตามปัญญาความสามารถของเขา แม้จะแค่ตัวโน็ต ๕ ตัว

แต่ของผมมีเป็น สองพันกว่าหน้า ( อันนี้พูดแบบเหมารวม ) ผมจึงปรามว่า เมื่อของเป็นของผม ท่านเอาไปใช้ไม่ได้ครับ ผมเป็นเจ้าของ ผมไม่อนุญาต และตามมารยาท ท่านจะนำไปใช้ ต้องขออนุญาตผม ที่เป็นเจ้าของครับ ถึงจะเรียกว่าสุภาพชน

เหมือนท่านมีของๆท่านวางอยู่ พอพ้นตาท่านมีคนมาถือวิสาสะ มาหยิบไปใช้ ท่านจะ ยินดีหรือไม่ครับไม่ว่าเหตุผลใดๆ ผู้นำไปใช้ต้องขออนุญาต หรือ บอกกล่าวให้ท่านทราบก่อน ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร ที่ไหน ใช้ทำไม มีการเสียหายได้หรือไม่ ฯลฯ หลายเหตุผล คนมีมารยาทคงทำแบบนี้น่ะครับ

ทำไมผมถึงต้องทำแบบนี้ มันมีสาเหตุครับ เล่ากันต่อไปในความเห็นหน้า

 

ผมได้เขียนไว้หลายทีว่า ท่านผู้เจริญ สามารถเอาข้อเขียนผมไปใช้อ้างอิงได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ถ้า

๑) เอาไปเผยแพร่ปฏิปทากิติคุณชื่อเสียงหลวงพ่อในทางที่ดี ให้กว้างไกลออก

๒) เอาไปช่วยพระศาสนาหรือ ช่วยคนที่ตกทุกข์แสนสาหัส

๓) เอาไป อ้างการซื้อขาย ถ้าท่านเอาเงินนั้นไปช่วยบุพการี คุณพ่อ คุณแม่ ที่แก่เฒ่าและ เจ็บป่วย

ผมอนุญาตครับ เพราะ คุณพ่อ คุณแม่ของท่านอาจจะเคยเป็นคุณพ่อ คุณแม่ของผมในอดีตชาติมา หรือ เอาไปช่วยชาติ ศาสนา ช่วยคน ผมซ้ำยิ่งชอบ เพราะผมเชื่อเรื่องบุญ กรรม ผมก็จะได้อานิสงค์ไปด้วยถ้าข้อเขียนผมไปช่วยสถาบัน หรือ บุคคลได้

นอกจากนี้ห้ามเอาไป อ้างอิงการซื้อขาย ประมูล ทุกอย่าง ไม่ให้ เอาไปอ้าง เอาไปอิง เอาไปแอบ ใส่ในที่ที่มีการซื้อขายวัตถุมงคลหลวงพ่อ การทำเช่นนั้น ไม่อนุญาตครับ ถ้าจะทำ ต้องขออนุญาตและ มาพูดคุยกันก่อน เพราะมันมีเหตุผลในตัวมันครับ ( ยังมีต่อ )

 

เหตุผลหลักๆที่ผมห้ามคนคัดลอกเอาไป แอบอ้าง อิง เพราะ

จากหน้า ๕ ผมเขียนไว้เมื่อ ๗ ปีที่แล้ว ผมเล่นพระหลวงพ่อทรงไปตามหลักฐานครับ ไม่ใช่พึ่งเขียนขึ้น แต่เขียนมานานแล้ว

พระของหลวงพ่อทรง มีแยกออกตาม แนวทางข้างบน ๔ แนวทาง

อันนี้ไม่รวมของส่วนตัวที่เอาไปให้ท่านเสก จาร น่ะครับ เพราะคงมีไม่มาก และมีจริงๆด้วยเพราะหลวงพ่อทรงท่านเมตตา ใจดี และมีพระเวทวิทยาคมขลัง บารมีสูง อะไรที่ท่านเสกเป่าจะมาแนว หลวงพ่อมุ่ย อาจารย์องค์สำคัญของท่าน คือไม่นิ่ง มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงๆมาช่วยอุดหนุนคนที่ใช้บูชาให้เกิด โชคลาภ แคล้วคลาด ร่มเย็น แก้ปัญหาอุปสรรคไปได้ การเรียนก็เรียนผ่านสอบผ่านไปได้ด้วยบารมีของท่าน

พระ ๔ แนวทางนี้ ผมเขียนย้ำ ถ้าจะเล่นหา เล่น ข้อที่ ๒ ถึง ๔ ครับ เพราะชัดเจน สบายใจ

ส่วนแนวทางที่ ๑ มีจริงๆ มีเยอะซ่ะะด้วย เพราะมีนายทุนเขียนหนังสือเชียร์ ทำขายมาจากโรงงาน ทำมากรุ่น ทำแทบทุกๆ สองสามเดือน จะมีรุ่นวัดสร้างออกมา และ หลวงพ่อท่านก็เมตตาเสกให้จริงๆ ..........

แต่หาความชัดเจน ด้าน การทำลายโค็ด ทำลายพิมพ์ จำนวนการสร้าง การเสก ไม่ชัดเจน ชัดเจนในนิตยสารที่เขียนเชียร์ แต่ คนอยู่วัด หรือคนไปที่วัดไม่ค่อยทราบครับ... รู้แต่ว่าที่วัดมีวางขาย ถ้าหมด วัดก็ต้องไปซื้อมาขายต่อ เหมือนกัน ตกลงมันยังไง

ถ้าเป็นของนายทุน ก็ให้นายทุนเขารับรองน่ะครับ

อย่าเอาผม และ ข้อความของผมไปเกี่ยว เพระาข้อความผม รวมสรุปแล้ว ว่าผมไม่เล่นพระแนวนี้ ไม่ใช่ไม่ดี แต่ไม่แน่ใจครับ ถ้าเอาข้อความผม ทีล่ะหน้า เอาไปอ้าง แอบๆ ปนๆ กันไป คนจะเข้าใจผิดว่าผมเขียนให้เล่นพระแนวนั้น

ผมเขียนว่าพระแนว ที่๑ นี้เล่นได้ถ้า

๑) ที่มาที่ไปดี ท่านรับมากับมือหลวงพ่อ อันนี้ชัดเจน เจ๋งแน่ๆ ดีสุดๆ หรือ ซื้อมาจากคนที่รับมากับมือหลวงพ่อ ท่านเชื่อเขาก็ให้เขารับรองมาน่ะครับ ท่านได้ของดี

๒) ของนั้นมีรอยจารลายมือหลวงพ่อ ท่านจารไว้เพียบใครไปหา เอาถวาย ก็ให้ท่านจารเป็นถาดๆก็เห็นประจำ มีแยะ และ อันนี้ชัวร์ปึ้ก ว่าผ่านมือท่าน ก็ลายมือท่านอยู่ที่นั่น

๓) มีโค็ด ท ไม่มีหัว หรือ วศด เป็นโค็ดของวัดแท้ๆ ผมไม่ได้ทำน่ะครับ มีคนทำมาถวายๆ และใช้ตอกวัตถุมงคลมาหลายปีที่วัดนั่นแหละ จนท่านล่ะ สังขาร จึงได้มีการทำลายโค็ด จากอดีต พระวิโรจน์ที่ครอบครอง ท่านยินดีด้วยมีพยานหลายคน

เล่นแบบนี้จบครับ เล่นได้

ว่ากันแบบมีหลักฐาน มาแนวข้างบนน่ะครับ เล่นหาสบายใจ โดยเฉพาะท่านที่มาทีหลัง

 

ท่านที่เอา ข้อความผมไป ท่านนี้ก็ไม่ใช่ท่านแรกมีก่อนหน้า ผมก็ตามไปเตือนทุกท่าน ส่วนใหญ่พอทราบ จะขอโทษและ แสดงเจตนาเพื่ออ้างอิงหลวงพ่อ ในทางที่ดี ผมก็ไม่มีปัญหา

ยกเว้นที่เตือนแล้วแต่โมโห โวยวาย ด่าทอผม จนลามปามด้วยถ้อยคำ หมิ่นประมาท ด่ามาข้ามปี จนทนไม่ไหว ซึ่งคนนี้ ตอนนี้คดีความมีกันอยู่และใกล้จบจบยกสองแล้วครับ

และท่านที่เอาไปใช้ ไม่บอกกล่าว ไม่ทราบเจตนา ถึงไม่คุยกัน ท่านลบแล้ว ผมก็พอใจ ส่วนท่านอาจจะไม่พอใจผม ผมก็กราบขออภัย แต่ถ้าทำอีก หรือ ด่าว่าผมมากๆ ผมเอาให้ทนายอ่านแล้ว เข้าข่ายหมิ่นประมาท ผมอาจจะไปแจ้งความตามสิทธิของผมน่ะครับ เพราะผมไม่ชอบให้คนมาด่าออกอากาศ ในถ้อยคำที่หยาบคายและ อาจจะเป็นเท็จได้ เพราะผมไม่ได้รู้จักอะไรท่าน ไม่ได้มีหนี้กับท่าน....ที่ผมจำเป็นต้องทน

แต่ถ้าไม่ลามปาม ลบแล้วตามที่ได้ขอร้อง แจ้งเตือน.......ก็เลิกกันไปครับ

ทำไมต้องทำแบบนี้ สาเหตุเพราะผมเขียนมา เป็นสองพันกว่าหน้า ( มีท่านอื่นผสม แต่ผมถือว่าผมเป็นเจ้าบ้าน ) พระหลวงพ่อทรง เขียนมา ๗ ปีไม่มีตก คนยิ่งนิยมมากขึ้น เข้ามาอ่านมากขึ้น เล่นพระตามแนวที่ผมแน่ะนำ โดยไม่ต้องมาซื้อจากผม ...แหะๆ เมื่อคนนิยมมากขึ้น ตลาดมันก็กว้างขึ้น ประสบการณ์ของหลวงพ่อก็ แพร่หลายออกไป

คนใหม่ก็เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อเข้ามาใหม่ ยังไม่เข้าใจแนวทางของผม แต่อ่านไปบ้างบางหน้า จำสำนวนผมได้ เจอข้อความ สำนวนที่ไหน นึกว่าพี เสาวภา อยู่ที่นี่ พระที่นี่ก็น่าจะ ใช่พระที่ผมเขียน.........................แต่ มันไม่ใช่น่ะครับ ผมไม่รู้ไม่เห็น พระอะไรที่ท่านขาย จะสวย จะแท้ จะเก๊ จะเสริม จะอะไรๆ ผมไม่ได้เห็นด้วยครับ แต่ไปมีข้อความที่ผมเขียนให้อ่านประกอบการขาย การประมูล

ท่านจะซื้อขายอะไรมันเรื่องของท่านน่ะครับ

อย่าเอาผมไปเกี่ยวข้อง อย่าเอาข้อความของผมไปเกี่ยวข้องถ้าผมไม่อนุญาต ท่านขายอะไร ท่านก็เขียนของท่านไป แนวที่ท่านต้องการ คอมฯ ท่านก็มี ไม่ใช่ผมมีคอมฯ คนเดียว

อยากได้เรื่องหลวงพ่อทรงแบบไหน พระเครื่องแนวไหน ท่านเขียนของท่านรับรองของท่านครับ ไม่มีใครสามารถไปห้ามท่านได้ ที่ห้ามได้คือ อย่าเอาผม และ ข้อความผมไปเกี่ยวข้อง กราบขอความกรุณาเชื่อฟังกัน

ถ้าคนหนึ่งทำได้ ก้อบเอาข้อความไปใช้ใน FB ตัวเอง พระหลวงพ่อทรงแพร่หลายไปมากๆ คนที่สองก็ทำมั่ง และ คนต่อไปเรื่อยๆ เพราะในนี้มีสองพันกว่าหน้า อยากได้หน้าไหน ก็ก็อบไปแปะการขาย ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตกลงที่ผมอดทนเขียนมา ๗ปีกว่าๆ สองพันกว่าหน้า ก็ไม่เขามาในเจตนารมณ์ของผม เพราะใครจะเอาไปใช้อ้างอย่างไรก็ได้ ตามใจฉัน เอาไป อ้าง อภินิหาร และ ตามด้วยขายพระแบบไหนๆ ก็ตาม

ผมไม่มีทางทราบครับ

เพราะฉนั้น กราบด้วยความเคารพ ท่านจะขายอะไร มันก็เรื่องของท่านน่ะครับ ผมไม่มีมีอาชีพตามแบบท่าน ท่านจะเขียนอะไร จะโชว์อะไรท่านก็โชว์ของท่าน ไม่ใช่เอาข้อเขียนผมไป ท่านจะขายอะไรก็ รับรองของท่าน ไม่ใช่ ขายไป แล้วคนซื้อวิ่งมาใหผมรับรอง คนที่ซื้ออาจจะไม่ชอบคำตอบก็ได้ครับ

เพราะผมพูดไปตามตรง กับที่ผมเขียนครับ มันมีหลักการณ์ครับ

 

วันนี้ดึกมาก ถ้าจะขอพอก่อน พรุ่งนี้จะมาต่อ แบบเบาๆน่ะครับ

 

วันนี้ก็มา ดำเนินชีวิตกันอีกวันน่ะครับ ดำเนินชีวิตด้วยสติครับ

 

​

ติดตามตลอดนะครับ แต่ไม่ค่อยได้แสดงความเห้นอะไรมาก เพราะ 7 ปี แสดงความเห้นไปหลายกระทุ้ อิอิ ที่ติดตามมา จริงๆตามมาตั้งแต่สวนขลัง จนมาถึงพลังจิต ถ้าคนอ่านแบบชัดๆไม่อคติ จะทราบเจตนาครับ เพราะหลักฐานตามเหตุผลนั้นชัดเจน ผมจึงตามมาอ่าน และยึดแนวทางนี้ในการเล่นหา ถึงของจะมีให้เล่นหาน้อย แต่เหมาะมากสำหรับคนที่มาไหม่ ได้มีหลักยึดครับ ได้ไม่เป็นเหยื่อ เป็นหมูให้เขาเชือดแฮ่ๆ ไหนๆก้มาแล้ว ขอดโชว์พระกริ่งอุ้มบาตร พิมพ์ของวัด มีเพียงเนื้อทองแดงรมดำ(และรมดำก้นเงิน) และเนื้อ เงิน เท่านั้น ในภาพเนื้อทองแดงรมดำ ตอกโค้ด ตามาตรฐานตามแนวทาง โค้ด ท ไม่มีหัวของวัด และ วศด ครับ

 

พระกริ่งท่านสั่งช่างแถววัดไผ่แหลม ช่างเดียวที่หล่อชุดวิสาขาห์๔๙ ราคาเนื้อทองแดงองค์ ๒๕ บาทส่วนก้นเงิน อาจารย์หมีเขาเสนอหลวงเพิ่มมูลค่าพระ โดยปิดเงิน อาจารย์หมีเขาทำให้แต่เงินผม จำนวนน่าจะแค่หลักสิบ ส่วนเนื้อเงิน ตอนแรกช่างมันทำไว้ใช้เอง แต่สวยงามดีคงมีการสั่งเพิ่มครับ พระนี้บอกตามตรงแม้ทุนน้อย แต่เนื้อหาเจตนา ดีมาก หลวงพ่อสั่งเอง เสียดายผมเก็บไว้น้อย น่าจะเก็บสัก ๑๐๐ องค์เผื่อตอกโค็ด ท ไม่มีหัวไว้ด้วย เจ๋งเลย

 

ผมเอง แสดงเจตนา ยืนยันชัดเจนมาเข้าปีที่ ๘ ว่าผมไม่มีอะไร หรือ อยากมีอะไร กับนักขายพระ

นักขายพระซ่ะอีกที่อยากมีอะไรกับผม ทั้งอยากหาเรื่องด่าผม ถ้าเห็นว่าผมขัดผลประโยชน์การขายของ หรือ อยากอิงกับข้อเขียน กระทู้ของผม

นักขายพระดีๆ มีสัจจะมีเยอะ ผมโมทนาและ คบหา เป็นเพื่อนกันก็หลายคน เพราะเขาเหล่านี้ ช่วยเผยแพร่เกียรติคุณหลวงพ่อในทางวัตถุ ในทางที่ดี ให้กว้างไกล และคุยรู่เรื่อง ไม่ แอบๆ อ้างๆ อิงๆ

ในเวลาเดียวกัน นักขายพระ แย่ๆขายพระปลอม พระเสริมไม่สนใจ ทั้งที่รู้ หรือ แย่ไปกว่านั้น พระอะไรยังไม่รู้ เอามาขาย พอคนถาม ไปก็อบข้อความต่าง ๆของคนอื่นเอามาอ้างอิง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับพระที่ขาย แบบเดียวกับที่ผมโดนเอา ข้อความที่ดึงมาให้ดูว่า คนเขียนมีความรู้น่ะ แล้วเอาไปโพสท์ ทำให้ FB หรือ Blog ดูดี................. โดยผมไม่ได้ทราบมาก่อน และ ไม่ได้ยินยอม อะไรด้วย

กับนายขายพระประเภทนี้ กราบเรียนบอกเลย ผมไม่อยากจะยุ่งกับท่าน ท่านอยู่ของท่าน ขายของท่านไป อย่ามายุ่งกับผมเลย แล้วเอาผมหรือบทความของผมไปเกี่ยวไป อ้างอิง ท่านอยู่ของท่านรับรอง พี เสาวภา ไม่ไปสนใจ มันอยู่คนล่ะบ้านกัน แต่กราบขอความกรุณาอย่ายุ่งกับผมเลย

ท่านอยากขายอะไร ท่านเขียนของท่านเอง รับรองของท่านเองน่ะครับ

ส่วนผมจะเสนอ แนวทางเลือกให้ท่านผู้อ่านที่สนใจ พระเครื่อง เครื่องรางของหลวงพ่อ ทรงอีกแนวทาง ตามความจริง หลักฐานที่ผม ค้นคว้ามา ตามความจริง

ใครจะชัดเจน ใครถูก ใครผิด ให้ผู้อ่าน ในโลกไซเบอร์ เป็นคนตัดสินใจครับ

เข้าแปดปีที่ผมเขียนเรื่องหลวงพ่อทรงมา คนอ่านเข้ามาอ่าน สามล้านเกือบหกแสนคลิ้ก แฟนคลับ หลักหลายพัน หรือ ถึงหมื่นคน ต่างประเทศก็มี คงบอกอะไรท่านได้บางอย่าง

 

ส่วนพระของหลวงพ่อที่ผมแนะนำ สงสัยเหมือนกันว่า มันหายไปไหน หมด จึงว่าน้อย เพราะเอาเท่าที่คิดได้

๑) พระเนื้อผง ทำที่วัด

พระรูปเหมือน หลักหมื่น ชัวร์ๆ น่าจะเกิน สองหมื่นองค์ ตามที่ผมประเมิน พระชุดนี้ ทิด ส ไม่ได้ทำคนเดียว ทำกันหลายคน ทำกันหลายที ทำแทบทุกวัน จน มามีพิมพ์อื่นจึงเปลี่ยน หลวงพ่อแจกด่ะ น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของท่าน ที่แจกมันจนเพลิน ท่านไปไหนเอาพระใส่ถุงไปด้วย เอาไป แจก นั่งอยู่ ใครยื่นมือมาแจก แจก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ และ แจก ....ฟรี ขนาดนอนในโรงพยาบาลยังแจก ( พิมพ์นักธรรม )

พระแหวกม่าน ต้องมีหลักหมื่นขึ้นไป แจกเหมือนกัน สวยจนคนมาลอกพิมพ์ ไป

พระนักธรรม พระพระเอกของวัดมอญ ต้องมีหลักหมื่น แน่นอน ทำครกเดียวก็ ปั้มได้ ๔๐๐ ถึง ๕๐๐ องค์ เพราะองค์เล็ก ไม่เปลืองเนื้อ จำนวนหมื่นนึงแค่ ยี่สิบกว่าครก และ ตั้งแต่มีโม่ไฟฟ้า ที่ผมซื้อไปถวายหลวงพ่อด้วยเงินส่วนตัวของผม เช้า ทำ หนึ่ง ครก บ่ายทำหนึ่งครก สบายๆ บางทีบ่ายทำสองครก ถึงสามครก จนเย็น มืดๆหน่อย ทำเดือนเดียวได้หลักหมื่นแล้วครับ

พระ โพธิ์ เก้าใบ พลิกแผ่นดิน อันนี้เนื้อที่ทันหลวงพ่อเสก อาจจะไม่ถึงหมื่น เพราะเหตุผลที่ท่านอาจจะไม่ทราบ คือ ทำยากครับ มีสอง หน้า พิมพ์ แล้ว ถ้าเนื้อเหลวมา เอาวางหน้าที่ถูกวางจะแบนไป อย่างนั้น พอเนื้อหมาดๆหน่อย ต้องเอามาปั้มซ้ำ ยุ่งยาก เนื้อต้องผสมพอดี และถ้าแข็งไป พิมพ์ได้ไม่กี่องค์ ผงแข็งเป็นก้อนซ่ะแล้ว คนพิมพ์พระไม่ชอบ มันยุ่งยาก และไม่ค่อยทำ ไม่มันน่ะ เขาว่า

เคล็ดเลย คือว่า พระเนื้อ มีนาคม ที่คุณ น ท่านว่า ท่านตั้งชื่อดี ผมของอนุญาตนำมาใช้ เนื้อนี้ ใช้กาววิทยาศาสตร์ มาเป็นปิ้บครับ พอพิมพ์ออกมา จะเหลวดี นุ่มดี ใช้ง่าย

แต่พระรุ่นเก่าๆ จะเป็นน้ำมันตั้งอิ้วครับ

พระเนื้อน้ำมันตั้งอิ้ว และ กาว ท่านที่มีทักษะดูพระ ออก ง่ายดังปอกกล้วย มาถึง พ.ศ. นี้ น้ำมันตั้งอิ้ว ยังมีกลิ่นฉุนอยู่เลย

ส่วนเนื้อมีนาคม น่ะ แรกๆ หอมเย็นๆ นานๆไป กลิ่นหายครับ เขามีฐานเป็นน้ำ น้ำจึงระเหยไว ไม่เหมือนน้ำมันตั้งอิ้ว ระเหยช้า

หรือ ถ้ากลิ่นหายไป เนื้อหาจากน้ำมัน และ กาว มันต่างจากกันโดยสิ้นเชิงครับ ท่านที่ดูพระเป็น พอจะดูออกครับ

ผมบอกเคล็ดไปแล้วน่ะครับ ที่บอกได้ เพราะเห็น ใกล้ชิด เป็นคนซื้อถวาย น้ำมันตั้งอิ้วเพราะ ชอบ เนื้อจะทนทาน ส่วนกาว ซึ่งพวก นักทำพระชอบ พวกโรงงาน พวกศูนย์ ชอบ จะเป็น กาว เพราะทำง่ายครับ ผสมแล้วแค่กวน นวดให้เข้ากันใช้ได้เลย แต่นานไป ยี่สิบ สามสิบปี เนื้อจะยุ่ยได้ครับ ต้องระวัง กาวนี้ท่านเสี่ย ศ ผู้ใจบุญ เอามาถวายหลวงพ่อ หลายปี้บ

พระชุด ขี่คอ หรือ พุทธซ้อน อันนี้ ผมเชื่อว่าถึงหมื่นองค์ เพราะเสี่ย ศ สั่งทำ สั่งลุย ครับ ทุกครั้งที่ท่านมา แล้วชุดท้ายน่าจะมีเนื้อกาวครับ

พระชุด ซุ้มกอ วัด แยกง่ายจากศูนย์ น่าจะหลักพัน

พระชุด สิวลี ห้ามจน เนื้อแยกง่ายจากศูนย์ น่าจะหลายพันทีเดียว เจอบ่อยเหมือนกัน

นอกนั้นเครื่องรางพวก เบี้ย หลักพันแน่นอน ฟันธง เพราะคนซื้อหอย ส่วนใหญ่ และ ปรอท ถวายคือผมนี่เอง ทำหลายครั้งมา ทำมาเรื่อยๆ ผมและนายหมี ต้องไปหาหอย หลายครั้ง จนบางที หมดเป็นร้านๆ ยกถุงเขามาเลย

ตะกรุดยิ่งแล้ว พอผมหาตะกั่วได้ พระที่วัดช่วยจาร กันใหญ่ มีหลายองค์ หลักพัน ดอกแน่นอน และทองแดง ด้วย รวมกันน่า จะหลายร้อยกิโล ซื้อทีก็เป็นหลักสิบๆกิโลแล้ว ขนไปหลายเที่ยว ในเวลา สามปีนี่ คือ ๔๗ ๔๘ ๔๙ เลขไมล์รถผม ขึ้นหลัก สองแสนน่ะครับ ท่านว่ากี่เที่ยว ผมไ่ได้จำ แต่ผมไปวัดน่ะ เป็นร้อยเที่ยวครับ ไปหาหลวงพ่อสนุก พอทิ้งระยะไปหน่อย ท่านก็โทรมา ทำคุญนั่นคุยนี่ แต่ผมรู้ว่าผมไม่ไปหา ผมรีบบึ่งรถไปหาหลวงพ่อทันที ผมไปซื้อแทบทุกครั้งที่ ตะกั่วหมด ผมจะไปซื้อที่ร้านแล้ว เอาไปถวายหลวงพ่อ พอหลังๆหลวงพ่อจะให้เงิน ผมไม่เอาครับ อยากได้บุญมากกว่าตังค์

นอกนั้นยังมีพวกของซื้อ ที่หลวงพ่อซื้อมา พวกปลัด ตะโพน สายคาดลูกสะกด ลูกสะกดเอง ผมซื้อไปถวายหลวงพ่อ หนึ่งถุงครับ ประมาณ ยี่สิบกิโลครับ อุ้มมาหลังแอ่นเลย ( ไม่ใช่หลังผม ) มีหลายหมื่นเม็ด

รูปหล่อเล็ก ของโรงเรียน หลายพันแน่นอน

เหรียญนั่งพาน หลายพันแน่นอน

เหรียญบิน ทั้งสองพิมพ์ น่าจะหลักหลายพัน หรือ ถึงหมื่น

เหรียญรุ่นสอง ที่ ๒.๑ และ ๒.๒ ถึงหลักหมื่นครับ ต้นทุนเหรียญล่ะ สอง หรือ สามบาท

พระเนื้อน้ำมัน หลายพ.ศ. รวมๆกันหลักพันครับ เป็นสมเด็จ นางพญา แนววนี้ครับ เลียนแบบหลวงพ่อมุ่ย

พระที่วัดอื่นทำมาขอหลวงพ่อเสก หลายหมื่นแน่นอน ผมตามเก็บหลายวัด แน่ะนำไปแล้ว

พระที่ตอกโค็ด ท ไม่มีหัว วศด และที่หลวงพ่อจารไป ตลอด สองสามปี ถึงหลักหมื่นแน่นอน

ยังมีผ้ารอยเท้า รวมๆกัน น่าจะหลายร้อย

เอาเท่าที่นึกได้นี่ จากข้างบนลงมา หลายหมื่นองค์แล้วน่ะครับ

ทำไมจะหายาก ท่านที่มาใหม๋ เล่น พระรูปเหมือนเลย มีเยอะ แจกไปอย่างเดียว ที่เหลือ ตกค้างที่วัดก็แท้ชัวร์ หาไปคล้องคอ ไม่มีทางพลาด ประสบการณ์น่ะมีแล้วครับ ( ยังมีต่อ )

รวมๆแล้วมันหลายหมื่น แต่เอ .......หายไปไหนหมดกันหนอ

 

กราบสวัสดีพี่พี และ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน
อย่างที่พีกล่าวไว้ครับแนวทางการสะสม หรือ อาราธนา บุชา พระของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อทรงนั้น มีแนวทางที่ชัดเจนให้ทราบอยู่แล้ว และ ผมก็ถือปฏิบัติมา

 

ข้างบนน่ะ หน้า ๕ น่ะครับ เขียนไว้ เมื่อปี ๒๕๕๑ เจ็ดปีล่ะ ผมเคยไปแจ้งความไว้ที่ สน บางกอกน้อย หลักฐานยังมีอยู่ครบ อายุความ คงหมดแล้ว ต้องเช็คกับทนายอีกที ในแง่ หมื่นประมาท และ พรบ คอมฯ แต่ถ้าเจอกันอีก มารุมด่าผมอีก โดนอีกแน่นอนครับ ผมจะเอาของเก่าที่แจ้งความไว้ ไปรวมกับของใหม่ ให้ตำรวจ เป็นหลักฐานการพิจารณา คุณ ปทุมฯ คุณ สุขุมฯ คุณ พ. คุณคลองฯ ( น่าจะล่วงลับไป เพราะชอบท้าสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมปรามว่าอย่าเลย มาท้าออกอากาศ มันเลื่อนลอย อวดชาวบ้าน ไปสาบานกันที่บังลังค์ศาลดีกว่า ศาลท่านให้ สาบานก่อนให้ปากคำครับ อันนี้ สาบานชัดๆเลย แต่ไม่มีใครมาสักคน คนท้าล่วงลับไปก่อนก็มี ...อันนี้กล่าวด้วยความเคารพ เห็นใจลูกๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ )

เจอกันอีกที ก็ดีนะ reunion หน่อย จะได้ล้างตากัน อะไรๆ ผงในตาที่มัน ค้างๆอยู่ ให้ตามันใสกันทั้งสองฝ่ายน่ะ ด่าผมเยอะๆ ผมชอบ ด่าให้เป็นปีแบบ นายนักรักเลย...เหอๆๆ ท่านปทุม ท่านเก่งด้านนี้...คริๆ

ที่เขียนนี่ผมไม่มีเจตนาอะไร แค่ ขอเปลี่ยนเบอร์ เจ็ดปีที่แล้วเบอร์มันเก่าน่ะครับ เบอร์ใหม่คือ 086 813 2111

อีเมล์ : nemoh75@gmail.com

Line : santipri

มีท่านส่งรูปพระและเครื่องรางมาบ่อยๆ ส่งมาทาง ไลน์น่ะครับ สดวกดี ตอบง่าย

 

กริ่งรุ่นนี้ ก้นเงิน เพิ่มมูลค่า น่าเล่นหา มีโค็ดชัด มีจารอีก รุ่น หลวงพ่อสั่งทำ ครับ ผมลงไว้แต่ไม่ทราบหน้าไหน คุณครูแสงแข คุณแม่ไม่ค่อยสบาย เลยไม่ทราบจะพึ่งใครดีครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ

ถึงพี่พีและพี่น้องทุกๆท่าน ผมได้กราบเรียนหลวงพ่อถึงเจตนาในการทำบุญเรียบร้อยแล้ว ท่านรับทราบและโมทนาด้วย ส่วนเรื่องของการสร้างพระใหญ่ปางประทานพร นั้นหน้าตักองค์พระมากกว่า ๑๒ เมตรแน่นอนครับ สามารถอธิษฐานชำระหนี้สงฆ์ได้หลวงพ่อรับรอง ส่วนในขั้นตอนการถวายปัจจัยเนื่องจากมีทีมงานและกัลยาณมิตรหลายได้ได้แจ้งความประสงค์จะถวายปัจจัยพร้อมกัน ผมจึงปรึกษากับทีมงานว่าจะรวบรวมปัจจัยและนำถวายหลวงพ่อในวันอาทิตย์ ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ซึ่งตอนนี้ปัจจัยก้อนแรกของพี่น้องบ้านเหรียญบิน ๑๐๐๐๐ บาท และกำลังรวบรวมปัจจัยอีก ยอดสุทธิจะแจ้งให้ทราบครับ

ภาพที่เห็นเป็นภาพล่าสุดที่ผมไปที่วัดมาครับ

 

ยืนยันการรับเงินด้วยครับ จะได้สบายใจ ไม่ต้องถามให้แน่ใจ

 

มีของสวยๆอยู่เรื่อยเลย ...เสี่ยโจ นี่

 

ขอยอด ๑๐๐๐๐ บาทจากบ้านเหรียญบินฯ ไม่รอบริจาครวมได้ไหมครับ บริจาคไปเลย จะร่วมกันเดี๋ยวดูความคืบหน้า ทำอีกก็ได้ครับ หรือมีใครสนใจร่วมบุญพระใหญ่ ก็เชิญเลยครับ

 

ข้อเขียนและรูปภาพในกระทู้เหรียญบินฯตกอยู่ในหมวดวรรณกรรม ตามมาตรา ๔ ของ พรบ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับการคุ้มครอง ผู้ใดจะนำไปใช้ต้องได้รับการยินยอมจากผู้สร้างสรรค์ ผู้ใดละเมิดถือว่า ละเมิดกฎหมายตาม พรบ ลิขสิทธิ์ ๒๕๓๗ มีโทษ ทั้ง จำ หรือ ปรับ หรือ ทั้งจำทั้งปรับได้ ตามมาตรา ๖๙ - ๗๗

ผมนำคำเตือนมาใส่ไว้ที่ลายเซนต์ เพื่อปรามผู้ที่ชอบไปก็อบข้อความ และ รูปภาพของคนอื่น แล้วนำไปใช้ ในชิ้นงาน คอมฯ ของตัวเอง จะด้วยเจตนาใดๆก็ตาม เช่น ช่วยเผยแพร่ อ้างอิงการขาย ใส่แล้วทำให้ ชิ้นงานดูดี เพราะมีข้ออ้างอิงของคนอื่น อย่าทำครับ ถ้าไม่ขออนุญาตเขาก่อน

ชิ้นงานที่สร้างโดยผู้สร้างสรรค์ มีหลายอย่างเช่น

วรรณกรรม โปรแกรมคอมพิวเตอร์ นาฏกรรม

ศิลปกรรม ที่รวมหลายความหมายเช่น ๑) งานจิตรกรรม ๒) งานประติมากรรม ๓) งานภาพพิมพ์ ๔) งานสถาปัตยกรรม ๕) งานภาพ ถ่าย ๖) งานภาพประกอบ ๗) งานศิลปประยุกต์

งานดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง นักแสดง งานแพร่เสียง แพร่ภาพ

ของเหล่านี้มีลิขสิทธิ์ครับ ได้การคุ้มครองสิทธิทางปัญญา ตามกฎหมาย พรบ ลิขสิทธิ์

สรุปว่า เอาไปทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง ไม่ว่าทั้งหมด หรือ บางส่วน นำไปเผยแพร่ ให้สาธารณชน หรือ การโฆษณา

มีความผิดครับ มีบทลงโทษ ตามมาตรา ๖๙ ถึง ๗๗ ของ พรบ ลิขสิทธิ์ ๒๕๓๗ มีโทษ ทั้ง จำ หรือ ปรับ หรือ ทั้งจำและปรับ

เมื่อโดนโทษแล้ว พ้นโทษมา ไปทำอีก โดนอีกครับ เป็นสองเท่าของที่โดน

ท่านจะเห็นว่า โทษรุนแรงไม่ใช่ จิ้บๆน่ะครับ เพราะของเหล่านี้ มีเจ้าของ เป็นของๆเขา ถ้าเขาไม่อนุญาต ไปถือวิสาสะ คัดลอก เอามาแสดงต่อสาธารณชน ไม่ขออนุญาตเขา ไม่อ้างที่มาที่ไปว่า เครดิตของใคร ใครเป็นคนสร้างสรรค์ เจ้าของเขาเอาเรื่อง ก็.... เอวังกิ่ม

นอกจากนั้น ยิ่งทางเจ้าของเขาไปเตือนว่าของๆเขา ยังโมโหโกรธา ทำเป็นเสียหน้า จับกลุ่มกันวิพากษ์ วิจารณ์ เจ้าของชิ้นงานให้ได้รับความเสียหาย ต่อสาธารณ ในสื่อ คอมพิวเตอร์ จะโดนข้อหา หมิ่นประมาท และ ผิด พรบ คอมฯ ๒๕๕๐ ( พรบ คอมฯ มีปรับปรุงอีก หลาย พ.ศ. ) อีกสองกฎหมายน่ะครับ เป็น คดีอาญาทั้งสิ้น

เพราะฉนั้น ด้วยความไม่รู้กฎหมาย คนองปาก คนองปากกา นึกว่าตัวเองแน่ในโลกสี่เหลี่ยมที่บ้าน มีพฤติกรรม นักเลงคอมพิวเตอร์ นักเลงคีบอร์ด เมื่อเขามาเตือน ก็เกิดการโมโห ไปด่าว่า พูดให้เขาเสียหาย ออกอากาศอีก อาจจะคนเดียวหรือ ทั้งกลุ่ม แนวร่วม

ทั้งตัวเอง เจ้าของ หรือ แอดมิน และ พวก ... อาจจะ...

จะโดน สามกฎหมายครับ พรบ ลิขสิทธิ์ , หมิ่นประมาท และ พรบ คอมฯ

ผมเตือนท่านแล้ว อย่าทำอีก

ท่านใดที่โดนละเมิด สงสัย ผมให้คำปรึกษาได้ ที่ 086 813 2111 ร.ท. สันติ ศรีงาม หรือ พี เสาวภา เบื้องต้น ถ้าท่านถูกละเมิด แล้วคิดไม่ออกว่าจะทำอย่าไรต่อไป อย่างไหนก่อนหลัง ว่า ท่านควรจะทำอย่างไร แค่รวบรวมหลักฐานของท่าน พิมพ์ออกมา ยังไม่ต้องจ้างทนาย เพราะคดีอาญาเป็น คดีความผิดต่อแผ่นดิน ท่านมีอัยการเป็น โจทก์ให้ และ ถ้าท่านจ้างทนายเอง ก็สามารถ เป็น โจทก์ร่วมได้ ถ้าท่านมีเงินพอ

ท่านเอาหลักฐาน พิมพ์ออกมา เอา คอม laptop หรือ tablet ไปที่โรงพัก แจ้งความต่อ เจ้าพนักงาน เปิดคอมฯ ให้ท่านดู เพื่อกันเหนียว พิมพ์ พรบ ลิขสิทธิ์ , หมิ่นประมาท และ พรบ คอมฯ เย็บเล่มไปประกอบ ท่านอยู่เขตไหน เปิดเครื่องมา ถือว่า เกิดเหตุ ณ ที่นั้น อยู่ สุรินทร์ หนองคาย ยะลา เบตง ในพระราชอาณาจักร ที่กฎหมายคุ้มครอง แจ้งความที่นั่นครับ ไม่ต้องมา กทม

เมื่อแจ้งความที่นั่น ให้ข้อมูล สถานที่เกิดเหตุ ผู้ละเมิด ตามที่สืบทราบว่า ชื่อไร ชื่อแฝงอะไร เบอร์ โทรติดต่อ อะไร ให้เจ้าพนักงาน เพียงแต่จำไว้ว่า กฎหมายของไทย เป็นระบบกล่าวโทษ ผู้กล่าวโทษ จะต้องหาหลักฐานเอง ในกรณีนี้ ถ้าท่านแจ้งความ เจ้าพนักงาน จะ ค้นหารวบรวมหลักฐาน ในโลกไซเบอร์นี่ ให้พยายาม รู้หน้า รู้เบอร์โทร เจ้าหน้าที่ ท่าน ก็ มีแนวทางสืบสวน จะทราบหมดครับ บางทีแค่จิ้มที่ปลายนิ้ว

เบอร์โทรเติมเงินเดียวนี้ก็ต้องบังคับลงทะเบียนแล้วน่ะครับ โดย คสช ซึ่งดีมาก ท่านไปทำธุรกรรมใดๆ กับผู้ที่ใช้ เบอร์เติมเงิน ไม่เปิดเผยตัวเอง แสดงให้เห็นถึงเจตนาให้ระวังครับ

ทำแค่นี้ครับ แค่แจ้งความในเบื้องต้น นอกจากนั้นถ้าท่านเสียหาย ยังสามารถเรียกร้องทางแพ่งได้อีก แต่ ศาลอาญา ท่านจะไม่ให้น้ำหนักมาก ในทางแพ่ง ท่านอาจจะ ฟ้องร้องเอง ทางศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหาย ค่าเสียโอกาส ได้อีก ช่องทางครับ

ที่นี้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ท่านก็หมั่นสอบถาม เพราะเจ้าพนักงานท่านอาจจะงานเยอะ เจ้าพนักงานก็จะมีหมายเรียก เชิญผู้ถูกกล่าวหา มาให้ปากคำ หมายเรียกไป ไม่มา ส่งไปอีก ตามอารมณ์เวลานั้นของเจ้าพนักงาน ก็อาจจะกลายเป็นหมายจับได้ ที่นี้ยิ่งยุ่งใหญ่ แจ้งความไว้ที่เบตง ผู้ถูกกล่าวหาก็ต้องไปที่เบตงครับ เอาทีใกล้บ้านท่านน่ะและเอาให้เข็ด ถ้าเจ้าพนักงานสอบสวนแล้ว โจทก์ แน่ หลักฐานแน่น ตกลงกันไม่ได้ ประนอมกันไม่ได้ สมควร ส่งฟ้อง อัยการท่านพิจารณาแล้ว สมควรฟ้องทีนี้ ก็ศาลแถวนั้นแหละครับ หรือ ศาลจังหวัด แล้วแต่เขตๆไป ก็ว่ากันไปตามขบวนการ

ตกลงผู้ละเมิดและคณะ ( ถ้าคนองปาก เฮฮากันสะใจในที่สาธารณ ประจานเขามากๆ )

จะโดน ๑) กฎหมาย พรบ ลิขสิทธิ์

ถ้ายังโวยวาย ด่าเขาอีก แม้ คนเดียว หรือ ทั้งกลุ่ม ทางคอมพิวเตอร์ในสื่อสาธารณ ทั้งคนเดียวหรือ กลุ่ม จะโดน ข้อหา
๒) หมิ่นประมาท และ ๓) พรบ คอมฯ ๒๕๕๐

และ ๔) ยังจะโดนฟ้องทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายได้อีกครับ ถ้าศาลอาญาลงโทษ

และถ้าเกิด ขึ้นหลายกรรม หมายความว่า ละเมิด หลายที่ หรือ ด่าหลายครั้ง หลายวัน หลายเวลา จะโดนแยกกรรมออกมาอีกได้ ตามที่ศาลท่านวินิฉัย หมายความว่า หนึ่งเวลา ในหนึ่งวัน เป็น ๑ กรรม ด่าหลายเวลา จะเป็นหลายกรรม ด่าอีก หลายๆวัน เป็น หลายๆๆๆๆๆกรรม

๑ กรรม หนึ่งโทษ ครับ หลายกรรมก็นับรวมเข้าไป อ่วมครับ อาจจะโดนไปที่โทษสูงสุด ของกฎหมายนั้นๆ

อยากลอง เชิญได้ครับ

ผมเอามาลง ให้ท่านได้รู้ว่า มันมีกฎหมายอยู่ บ้านเมืองมีขื่อ มีแป ไม่ใช่ คิดจะทำอะไร ทำตามอำเภอใจได้ อยากจะทำก็ทำ ไม่สบใจก็รุมด่าเขา ท่านจะโดนตามข้างบนที่ผมกล่าวมา

ส่วนท่านที่โดน ละเมิด โดนด่า คิดอะไรไม่ออก ไปไม่ถูก โทรมาปรึกษา ผมได้ ผมยินดีให้คำแนะนำ ตามเบอร์ที่ให้ ช่วยกัน ต่อต้าน พวกมนุษย์ลุง มนุษย์ ป้า ที่ไม่เคารพ กฎหมายของสังคมส่วนรวม อย่าให้พวกนี้มีที่ยืน เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูกหลานกันน่ะคนครับ ไม่มีทนาย ผมแนะนำให้ได้ แบบหลายราคา คนกันเอง เป็นทนายที่ทำคดีแบบนี้ จะเอาแบบระดับ จังหวัด หรือ ระดับประเทศ ผมแนะนำให้ไปต่อยอดกันเองครับ

เรามาป้องกันสิทธิ์ของเรา ช่วยกันทำให้กฎหมายมันศักสิทธิ์ ไม่ใช่มีแค่ตัวอักษร เพราะคนคิดว่า ยุ่งยาก ไม่อยากยุ่ง ยอมมนุษย์ลุง มนุษย์ป้า ทำไปเรื่อยๆตามอำเภอใจ ระเบียบสังคมมันจะไม่เกิดครับ

และเมื่อเรารู้ซ่ะะแล้ว เข้าใจเบื้องต้น เราจะได้ไม่ไป ละเมิด หมิ่นประมาทผู้ใดครับ เพราะที่ผมแจงมา ถ้าท่านผิด โดน หลายปีครับ และ โดนปรับ และจะโดนฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งได้อีก เอาเวลาเงินทอง ไปเลี้ยงครอบครัวและ คนที่รักดีกว่าครับ อย่าไปคนอง ด้วยความไม่รู้ หรือ ยโสโอหัง อนาคตอาจจะสั้น ไปจบที่ตะรางครับ ออกตารางมา ประวัติเสีย ทีนี้ไปทำงานที่ไหน มีประวัติไม่ดีติดไป นายจ้าง ทราบ ท่านจะซวยอีก

คอมพิวเตอร์ มีทั้งส่วนดี และส่วนร้าย ส่วนดี คือ หาความรู้ ได้กว้างขวาง ยิ่งเป็นหลายภาษา จะได้อ่านได้เจอสิ่งที่ไม่เคยได้เจอ ได้ยิน มาก่อน สนุกมาก และ เป็นครูที่ดี

แต่ส่วนเสียทำให้ เกิดการติดหน้าจอ ติดเกมส์ ไม่เป็นการทำมาหากิน หรือ เรียนหนังสือ นอกจากนั้นโลกมันแคบลง มโน เผลอไปว่าตัวเองรู้หมด ใหญ่โต หรือ บางคนใช้ ชื่อปลอม หน้าปลอม ทำให้มีสองลักษณะ คือ ตัวตนที่แท้จริงชื่อจริง กับตัวตนที่ปลอมมา เอาตัวตนที่ปลอมมาไป ละเมิด หรือ หมิ่นประมาท เขาโดยคิดว่าเขาไม่มีทางรู้ อย่าน่ะครับ โลกมันแคบ วิทยาการล้ำไปแล้ว ทางการเขาตามจับได้หมดครับ

พวกที่ทำแบบนี้ บางทีมีชื่อปลอม เป็นสิบๆชื่อ มีหลายบทบาทมาก ใช้ชื่อนี้ไปทำโน้น เอาชื่อนี้ไปทำแบบนี้ เอาอีกชื่อไปเป็นลูกคู่ ตื้นๆมาก เพราะแอดมิน ที่เขาคุมเขาก็รู้ได้ จาก IP เมื่อ แอดมินเขารู้ได้ มีหรือ ที่เจ้าหน้าที่จะไม่ทราบ ใช้ชื่อใหม่อีก ก็อีก ๑ กรรมครับ ทำหลายๆที หลายชื่อ โดนเข้าหลายๆๆๆๆกรรม ศาลท่านเห็นพฤติกรรมมันแย่ ท่านจะติดคุกหัวโต โดนปรับ โดนฟ้องร้องทางแพ่ง มาร้องว่า ไม่มีจ่ายเขา จะโดนฟ้องล้มละลาย ไปอีก ที่นี้มีอะไรจะโดนยึด ไปใช้หนี้น่ะครับ ทั้งบ้าน ที่ดิน อสังหา ที่มีด้วย จะกลายมาเป็นใช้หนี้เขาซ่ะ

อย่าไปทำ ความชั่วไม่ทำ ซ่ะเลยจะดีกว่าครับ

กราบขอบคุณท่านที่เข้าใจในสิทธิของผมน่ะครับ ขอให้ทุกท่านรักษาสิทธิขอท่านไว้ให้ดีน่ะครับ