โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ป๋าจิไม่ว่างก็ให้ใครเข้ามาจองแทนก็ได้ครับ

 

สวัสดีสมาชิกใหม่ทุกๆท่านครับ กติการ่วมบุญเม็ดประคำลงข้อมูลไว้ให้แล้วนะครับ เบอร์บัญชีร่วมบุญเดี๋ยวรอคุณทุเรียนทอดครับ

 

"ซึ่งเมื่อครูบาอาจารย์ท่านนั้นพิจจารณาแล้ว ท่านก็บอกว่า สามารถตัดแบ่งกันได้.. และท่านยังได้เมตตาอธิษฐานขอรวมพลังจากเม็ดประคำ 108 เม็ดให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกด้วย หมายความว่า ประคำทุกเม็ดจะมีพลังเท่ากับประคำถึง 108 เม็ด ท่านเรียกว่า " ร้อยแปดรวมเป็นหนึ่ง หนึ่งเป็นร้อยแปดน่ะ.."

 

สมาชิกใหม่บางท่านอาจยังไม่ทราบว่าดูเวลาของพลังจิตตรงไหน อยู่ทางด้านล่างสุดเลยครับ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xZECd68vNsjI5cEj" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e02/xAzQ94.png" /></a>​

 

มาแว๊ววววว มารอด้วย..

 

ek378471677th ปลวกแดง

 

วันศุกร์บ่าย3โมงไม่ว่างทำงานอยู่ก็ให้น้องเข้ามาแทนเด้อ

 

สมาชิกใหม่รายงานตัวค้าบ..55

 

ยินดีต้อนรับครับคุณApichart01

 

สำหรับท่านที่ชอบประคำของหลวงปู่พิศดู งานประมูลร่วมบุญสร้างมณฑปหลวงปู่ ประมาณวันที่ 11ธ.ค. ประมูลส่งท้ายปี2557 ในกระทู้นี้ครับ อาจจะมีให้ประมูลร่วมบุญแต่จะเป็นประคำสวมคอหรือประคำข้อมือยังไม่ทราบครับ ประมาณต้นเดือนน่าจะทราบแล้วว่าลูกศิษย์มอบวัตถุมงคลอะไรมาให้ร่วมบุญกันบ้างครับ ยังไงถ้าได้รับรูปที่ส่งมาจะลงให้ชมกันครับ

 

ขุนแผนนำฤกษ์สร้างเพียง21องค์ อยู่ในรายการประมูลร่วมบุญครับ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xohVc1Hex4D6EyTS" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/5bd/XAQkNg.JPG" /></a>​

พระผงพุทธะมงคล หรือที่หลายๆคนเรียกว่า ขุนแผนพุทธะมงคล ที่จัดสร้างโดยท่านอาทิตย์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาล จังหวัดชลบุรี(ในสมัยนั้น) และคณะ เมื่อปี 2553
เป็นพระทางเมตตาที่น่าใช้มากเช่นกันนะครับ ถือว่าเป็นพระที่สร้างได้เป็นเอกลักษณ์ และแหวกแนวพระทุกรุ่นขององค์หลวงปู่เลยก็ว่าได้ ก็คือเป็นพระพิมพ์ขุนแผนที่แกะพิมพ์ขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์ของวัดโดยเฉพาะเลย และอีกหนึ่งในจุดเด่นของพระชุดนี้คือ เป็นพระรุ่นเดียวที่มีการนำผงพรายกุมาร มาเป็นมวลสารเพื่อจัดสร้างครับ นับว่าไม่เหมือนกับพระชุดใดๆที่หลวงปู่ท่านเคยสร้าง และเสกเลย และที่สำคัญที่สุดหลวงปู่ท่านยังตั้งชื่อพระชุดนี้ด้วยว่า " พระผงพุทธะมงคล " เนื่องจากนำผงพุทธะมงคลมาผสมเป็นมวลสารอีกด้วยครับ..
อันผงพุทธะมงคลนี้ แท้จริงแล้วก็คือ การรวมมวลสารต่างๆหลายๆอย่าง ที่เกี่ยวกับองค์หลวงปู่ และมวลสารที่อยู่ในวัดเทพธารทอง เช่น.. ผงที่ใช้ทำพระรุ่นเก่าๆของหลวงปู่ ดอกไม้ มาลัย และของที่ใช้บูชาพระและที่ลูกศิษย์นำมาบูชาหลวงปู่ ผลไม้ อาหารที่หลวงปู่ฉันเหลือ กากยาสมุนไพรต่างๆที่หลวงปู่เสกไว้ ผงไม้มงคล ผงธูป กำยานหอมต่างๆ แป้งกะแจะ น้ำอบ น้ำมันหอมต่างๆที่หลวงปู่ท่านเสกไว้ ฯลฯ เหล่านี้รวมเรียกว่าผงพุทธะมงคล หรือมวลสารพุทธะมงคล เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้องค์หลวงปู่ท่านได้น้อมถวายบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า จัดเป็นของมงคลชั้นสูง ท่านมักจะสั่งว่าให้เอาไปทำผง สร้างพระ สร้างเครื่องราง ห้ามเอาไปทิ้งเดี๋ยวจะเสียประโยชน์ เป็นของมีคุณค่า ฯลฯ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของชื่อ พระผงพุทธะมงคลนั่นเองครับ

 

มาปูเสื่อรอครับ อิอิ

 

ปูเสื่อรอต้องมีชุดข้าวเหนียว-ลาบ-ส้มตำมาเสริฟด้วยนะครับ

 

ไม่ได้เอาเสื่อมาปู ขอนั่ง รรรรรรรรรรรรร ด้วยคนนะครับ

 

ขอลุ้นด้วยนะคะ...สาธุ

 

เข้ามานั่งรอดูเฉยๆหรือครับ555

 

ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ครับ ได้ลุ้นแล้วก็ได้บุญด้วยครับ

 

อุบาสิกาคนหนึ่งถามว่า.....

ทำบุญอะไร มากและน้อยอย่างไร จึงจะได้บุญมาก

....ทำบุญ นั้น มีเจตนาศรัทธาเป็นทุนก่อน จะมีวัตถุหรือไม่ก็ตาม ศรัทธานั้นเต็มเปี่ยมบริบูรณ์อยู่ในใจแล้ว ยิ่งมีวัตถุสิ่งของเป็นเครื่องแสดงให้ไปก็ยิ่งเพิ่มศรัทธาขึ้นเป็นทวีคูณ นี่เรียกว่าบุญ บุญคือความยินดีในสิ่งที่ตนให้แล้วเกิดเต็มเปี่ยมขึ้นมาในใจ

...ทำทาน นั้น จะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม คิดจะให้แล้วก็ให้ไปเลย ไม่ว่าสิ่งของอะไรทั้งหมด ถ้ามีเจตนาศรัทธาเลื่อมใสในบุคคลผู้รับและสิ่งที่ตนให้นั้น หรือเอ็นดูต่อบุคคลผู้รับนั้นแล้วให้ไป เรียกว่าทาน สมดังคำว่า ทำนํ เทติ เท ก็หมายความว่า เทให้ ทอดให้ ให้สิ่งของจึงเรียกให้ทาน

สรุปได้ว่า ทำทาน คือให้สิ่งของพัสดุนั้นไม่ว่ามากหรือน้อย หยาบหรือละเอียด ไม่ปราถนาผลตอบแทน แต่มีเมตตาจิตเป็นพื้นฐานแม้ที่สุดให้ด้วยแก้ความรำคาญ เรียกว่า ทำทาน

การทำบุญนั้น ต้องมีเจตนาศรัทธาเป็นพื้นฐานก็การให้นั่นแหละเรียกว่า "ทำบุญ" จะให้สิ่งของอะไรมากหรือน้อย หยาบและละเอียดก็ตาม ให้แล้วหวังผลตอบแทน เช่น ปรารถนาว่า ด้วยอำนาจอานิสงส์ที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญแล้วในครั้งนี้ ขอให้ได้มนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบัติ เป็นต้น

...ทำกุศล นั้น คือ ทำบุญทำทานนั่นเอง แต่เป็นกุศลไม่ว่ามากหรือน้อย วัตถุมิใช่ตัวบุญแท้ ตัวบุญแท้มันเกิดที่หัวใจคือเจตนาของบุคคลนั้นต่างหาก ถ้าเจตนาศรัทธาในขณะใด ในบุคคลใด ในสถานที่ใด ในที่นั้นๆ ได้บุญมาก ฉะนั้น บุญในพุทธศาสนานี้คนทำจึงไม่รู้จักหมดจักสิ้นสักที พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาไว้สองพันกว่าปีแล้วว่าทำบุญได้บุญเช่นไร มาในปัจจุบันนี้หรือในอนาคตต่อไปก็ได้อย่างนั้นเช่นเคย คนทำบุญมากเท่าไรก็จะได้บุญมากเท่าที่ตนนั้นสามารถจะรับเอาไปได้ เหมือนกับคนนับเป็นหมื่นๆ แสนๆ ถือเทียนมาคนละเล่ม ไปขอจุดจากผู้ที่มีเทียนที่จุดอยู่แล้ว ย่อมไดแสงสว่างตามที่ตนมี เทียนเล่มโตหรือเล่มเล็ก ส่วนดวงเดิมที่ตนขอจุดต่อนั้นก็ไม่ดับ เทียนหลายดวงยิ่งเพิ่มแสงสว่างยิ่งๆ ขึ้น ไปอีก

.....ปุจฉาวิสัชนาในประเทศ โดย พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (เทสก์ เทสรังสี)

 

สาธุ.. โมทนากับสมาชิกทุกท่านด้วยนะครับ..

 

ปูเสื่อรอด้วยครับ