รบกวนผู้รู้ช่วยทีครับเกี่ยวกับการนั้งสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย thaiza257, 18 มกราคม 2014.

  1. thaiza257

    thaiza257 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2014
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    คืออยากถามครับว่า เวลานั้งสมาธิแล้วผมนั้งไปได้ซักพักเหมือนมันมีชีพจรมา วนๆขยับอยู่ตรงหน้าผาก บางทีก็เหมือนมีอะไรมากดบริเวณกลางหน้าผาก(กดเบาๆ) อย่างนี้คืออะไรหรอครับแล้วผมควรจะปฏิบัติอย่างไร?
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ปฏิบัติกรรมฐานกองไหนอยู่ ก็ให้อยู่กับกรรมฐานกองนั้นครับ

    อาการทางกายใดๆไม่ต้องไปสนใจ

    ไปเพ่งตรงนั้นมากระวังจะเปิดตาที่สามนะ 555+

    .
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0> <TBODY> <TR> <TD> <CENTER> จักระกลางหน้าผาก หากได้รับการกระตุ้นอาจก่อให้เกิดทิพยจักขุญาณได้

    </CENTER>
    </TD> <TD> permalink
    </TD></TR></TBODY></TABLE> <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>


    <SCRIPT type=text/javascript src="http://connect.facebook.net/en_US/all.js" async="true"></SCRIPT> <IFRAME aria-hidden=true id=fb_xdm_frame_http title="Facebook Cross Domain Communication Frame" style="BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none" src="http://static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=28#channel=f12cd945b7bac26&channel_path=%2Ff61%2F%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B9%2589%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2593%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589.356282/%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df3b88cd08c7b012%26&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org" frameBorder=0 allowTransparency name=fb_xdm_frame_http scrolling=no tab-index="-1"></IFRAME><IFRAME aria-hidden=true id=fb_xdm_frame_https title="Facebook Cross Domain Communication Frame" style="BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none" src="https://s-static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=28#channel=f12cd945b7bac26&channel_path=%2Ff61%2F%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B9%2589%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2593%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589-356282.html%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df3b88cd08c7b012%26&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org" frameBorder=0 allowTransparency name=fb_xdm_frame_https scrolling=no tab-index="-1"></IFRAME>

    <IFRAME style="DISPLAY: none" src="https://www.facebook.com/connect/ping?client_id=233132393539&domain=palungjit.org&origin=1&redirect_uri=http%3A%2F%2Fstatic.ak.facebook.com%2Fconnect%2Fxd_arbiter.php%3Fversion%3D28%23cb%3Df29cc9a2576deac%26domain%3Dpalungjit.org%26origin%3Dhttp%253A%252F%252Fpalungjit.org%252Ff12cd945b7bac26%26relation%3Dparent&response_type=token%2Csigned_request%2Ccode&sdk=joey" frameBorder=0 allowTransparency name=f256befe1726d08 scrolling=no></IFRAME>


    <SCRIPT> window.fbAsyncInit = function() { FB.init({appId: '233132393539', status: true, cookie: true, xfbml: true}); }; (function() { var e = document.createElement('script'); e.type = 'text/javascript'; e.src = document.location.protocol + '//connect.facebook.net/en_US/all.js'; e.async = true; document.getElementById('fb-root').appendChild(e); }()); </SCRIPT> <SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625"; /* 336x280 */ google_ad_slot = "0551074580"; google_ad_width = 336; google_ad_height = 280; //--> </SCRIPT> <SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT> <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20140114/r20140107/show_ads_impl.js"></SCRIPT> <SCRIPT>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT> <IFRAME id=google_ads_frame1 height=280 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=280&slotname=0551074580&adk=2822876698&w=336&lmt=1389990521&ea=0&flash=11.9.900.170&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff61%2F%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B9%2589%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2593%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589-356282.html&dt=1389990521737&shv=r20140114&cbv=r20140107&saldr=sb&correlator=1389990521759&frm=20&ga_vid=1761993109.1389199960&ga_sid=1389990273&ga_hid=430597151&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=420&u_his=0&u_java=1&u_h=1080&u_w=1920&u_ah=1050&u_aw=1920&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&dff=verdana&dfs=16&adx=-2&ady=-2&biw=1899&bih=938&oid=3&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Furl%3Fsa%3Dt%26rct%3Dj%26q%3D%26esrc%3Ds%26source%3Dweb%26cd%3D2%26ved%3D0CCwQFjAB%26url%3Dhttp%253A%252F%252Fpalungjit.org%252Ff61%252F%2525E0%2525B8%252588%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525A5%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252587%2525E0%2525B8%2525AB%2525E0%2525B8%252599%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%25259C%252&trunc=1&dtd=54" frameBorder=0 width=336 allowTransparency name=google_ads_frame1 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>
    [​IMG]



    ถาม : ช่วยอธิบายเรื่องของจักระกลางหน้าผากหน่อยครับ

    ตอบ : จริงๆ ก็ เป็นเรื่องของ ทิพยจักขุญาณ นั่นแหละ เพียงแต่ว่าทางด้านทิเบตเขามีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์สูงมาก เขารู้ว่า พวกต่อมไพเนียล ถ้าได้รับการกระตุ้นในระดับหนึ่ง จะช่วยสร้างทิพยจักขุญาณได้ เขาก็เลยใช้วิธีกระตุ้นด้วยการเจาะหน้าผากแล้วฝังสมุนไพรลงไป อาจจะเป็นไปได้ว่า พอได้รับการเจาะแล้วฝังสมุนไพร ทำให้ความรู้สึกไปจับอยู่ตรงนั้นได้ชัดเจนขึ้น แน่วแน่ขึ้น ก็เลยทำให้เกิดตาที่สามขึ้นมาได้

    แต่ว่าตาที่สามจริงๆ ไม่ได้เห็นตรงนั้น ยังเห็นด้วยใจเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเขาอาศัยการแพทย์มาเสริมเข้าไป ซึ่งก็คือจักระตรงกลางหน้าผากนั่นแหละ

    ถาม : กลางหน้าผากจะโล่งไปตลอดใช่ไหมครับ ?

    ตอบ : จริงๆ คนที่สามารถเห็นพวกนี้ได้ไม่ต้องเสียเวลาไปทำหรอก เขาเป็นอยู่แล้ว อินเดียเขาเรียกว่า กุณฑาลินี เขาบอกว่าเป็นแหล่งพลังงานมหาศาล

    ถาม : แล้วการที่เราใช้กำลังตัวเอง กับการใช้คาถาของครูบาอาจารย์ ผลก็จะเป็นอีกแบบหนึ่งใช่ไหมครับ ?

    ตอบ : จริงๆ แล้ว สมควรที่จะใช้คาถาแล้วอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ช่วย เพราะไม่อย่างนั้นเท่ากับว่าเราไปฝืนกรรม ผลนั้นจะตกแก่เรา ถ้าหากว่าเราขอบารมีครูบาอาจารย์ ท่านจะได้คอยกันให้หรือไม่ก็รับไปแทน

    ถาม : อย่างเวลารับขันครู ?

    ตอบ : ใช่..ไม่อย่างนั้นก็รับเละอยู่คนเดียว กระแสกรรมเหมือนกับลูกปืนที่ยิงมา แล้วเราไปยืนขวางจะโดนใคร ? ก็โดนเรานั่นแหละ

    ถาม : ช่วยแนะนำวิธีการรู้ด้วยตนเอง ให้เข้าใจชัดเจนหน่อยครับ ?

    ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก แค่เรากำหนดความรู้สึกว่าอยากรู้เรื่องอะไร แล้วก็ทิ้งความรู้สึกนั้นเสีย จากนั้นก็ภาวนาทรงอารมณ์ให้เต็มที่ คลายออกมาแล้วอธิษฐานขอใหม่อีกทีก็จะเป็นแล้ว แค่นั้นเอง อย่างคุณไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกฝนอะไรมากมายแล้ว

    ถาม : การรู้นี่ให้รู้ด้วยตัวเองเลยนะครับ ไม่จำเป็นต้องมีนิมิต ?

    ตอบ : ให้ระมัดระวังไว้ด้วยว่า ไม่ใช่เฉพาะงานเพิ่มขึ้นเท่านั้น เรื่องก็จะเพิ่มขึ้นด้วย พอเรารับรู้ได้ก็เหมือนกับโทรศัพท์ติดต่อกันได้ ต่อไปเราก็รับเละอยู่คนเดียว

    ถาม : คำว่างานเพิ่มขึ้นกับเรื่องเพิ่มขึ้นเป็นอย่างไรครับ ?

    ตอบ : อย่างเช่น เขาขอให้ทำนั่นทำนี่ หรือไม่ก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา เรารับรู้มากเกิน บางทีก็ไปแบกเอาไว้แทนจนเครียด

    บุคคลบางประเภท ถ้าหากมารขวางตรงๆ ไม่ให้เขาเข้ามรรคผล คนประเภทนี้จะสู้ตะบันราด เพราะเขารู้ว่าผ่านได้แน่ เขาก็จะไม่ขวางด้วยวิธีนั้น แต่จะดึงให้ไปทำงานชิ้นนั้น ทำงานชิ้นนี้ ซึ่งเป็นงานเพื่อส่วนรวม เป็นอานิสงส์ใหญ่ที่เราเห็นอยู่ จะดึงเราไปทำตลอด จนเราไม่มีเวลาปฏิบัติเพื่อมรรคผลของเราเอง ซึ่งเป็นวิธีขวางของเขาอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าไปรู้เข้า เรื่องพวกนี้จะเข้ามาเยอะ

    ถาม : ก็จริงครับ

    ตอบ : เขาไม่ได้ขวางเรา เขารู้ว่าถ้าขวางเราสู้ แล้วนิสัยอย่างเรานี่ผ่านได้แน่ เขาก็ใช้วิธี “คนนั้นน่าสงสาร ไปช่วยเขาหน่อย” “สถานที่นี้น่าบูรณะ เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ไปทำเสียหน่อย” ทำเราให้มีงานอยู่ตลอด จนไม่มีเวลาปฏิบัติของเราเอง

    ถาม : กรณีอย่างว่า เราต้องละวางดีใช่ไหม ?

    ตอบ : ใช่..ถึงเวลาแม้แต่ดีก็ต้องละ

    ถาม : การทำอะไร ถ้าเราเองทำทางเดียวเหมือนกับว่าจะมีตัวล่ออยู่ แต่ถ้าขยายไปหลายๆ ทางแล้วเราเลือกเอง จะดีกว่าไหมครับ ?

    ตอบ : ดีกว่า..แต่ว่าเราต้องไม่ลืมเป้าหมายของเรา ถ้าเราลืมเป้าหมายเดี๋ยวก็โดนจูงไปไกลอีก


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕


    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ - หน้า 6 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน
     
  4. thaiza257

    thaiza257 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2014
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณมากครับ ขอถามอีกข้อนึงครับคือ เราจะรู้ได้ยังไงว่าที่เรานั้งสมาธินั้นอะถูกแล้ว?
    ผมหัดนั้งสมาธิด้วยตัวเองอะครับ แล้วครูบาอาจารย์ไม่แน่ใจว่ามีรึเปล่า
     
  5. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ควรถามตัวเองนะ ว่า ปฏิบัติไปเพื่ออะไร เป้าหมายของตัวเองคืออะไร ผลของการปฏิบัติ อะไรก็แล้วแต่ ผลของมันตรงตาม กรรมฐาน ที่เราปฏิบัติไหม

    ถูกไม่ถูก

    เทียบตามพระไตรปิฎก หนึ่ง
    เทียบตาม วิสุทธิมรรค หนึ่ง

    ปฏิบัติตาม กรรมฐาน40 ห้อง นี้ครับ

    ในกรรมฐาน40 นี้ไม่ผิดแน่นอนครับ

    ถ้าไปฝึกแปลกๆ นอกเหนือจากนี้ ก็ตัวใครตัวมันนะ

    ยิ่งถ้าไม่ตรงตามใน ตามพระไตรปิฎก หรือ ตำรา วิสุทธิมรรค นี่ให้พิจารณาด้วยตนเอง เอาครับ

    หรือ ตาม ครูบา อาจารย์พระอรหันต์ พระอริยเจ้า ที่นิพพานไปแล้วครับ ที่ได้เทศน์สอนเอาไว้แล้วครับ

    และถ้าสมัยนี้ ระวังพิจาณาให้ดี มีพระ มีคน สอนผิดๆ ทำให้หลง และเสียเวลา โดนหลอกเยอะแยะครับ

    .

    คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน ๔๐ กอง
    โดย พระราชพหรมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    http://www.palungjit.org/smati/k40/index.htm


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2014
  6. thaiza257

    thaiza257 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2014
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    อ่อขอบคุณครับ
     
  7. topnank

    topnank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,899
    ค่าพลัง:
    +874
    อาการกด จะเกิดขึ้นมากจากการเพ่งไปที่หน้าผากเป็นเวลานาน ๆ และการทำสมาธิเป็นประจำวันทุกวัน แต่ถ้าสังเกตให้ดี จะเป็น ตึงและชา ทำแบบนี้นาน ทุกวัน ลืมตาก็กำหนดให้ตึงได้ เรียกว่าเป็นการกำหนดสมาธิ
    การตึงและหน่วงแบบนี้กำหนดในการเรา ทุกส่วน
    กำหนดให้มาที่ลิ้น ลิ้นก็ชา กำหนดที่กลางฝ่ามือ ฝ่ามือก็ร้อน และหน่วงที่กลางฝ่ามือ
    แต่ถ้ากำหนดที่หน้าผากนานๆ การตึงจะขยานไปทั่วหัว แต่ส่วนใหญ่จะกลัวหัวจะระเบิด บางคนกลัวเส้นเลือดในหัวแตก
    แต่ขอบอกว่าของดีครับ ทำให้ตึงมาก ๆ เห็นไฟมาเป็นอันว่าใช้ได้
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : (ไม่ชัด) เวลาสวดมนต์กำหนดเป็นตัวอักษรกลางหน้าผาก สวดไปสวดมาตึงมากจนปวด ?

    ตอบ : ใครบอกให้กำหนดกลางหน้าผากวะ ...! บอกว่าให้นึกถึงตัวหนังสือขึ้นมาเป็นตัว ๆ เลย ไม่จำเป็นต้องกลางหน้าผาก ลักษณะนั้นเราไปเพ่งความรู้สึกอยู่จุดเดียว จะตึงมาก บางทีพาให้ปวดหัวไปเป็นวัน ๆ เลย ถ้าหากว่านึกเป็น มันอยู่ตรงไหนก็ได้ เอาไว้ในอกก็ได้ เอาไว้ในท้องก็ได้ อย่าไปนึกถึงกลางหน้าผาก ตรงจุดกึ่งกลางหน้าผากน่ะ เป็นจักระ คือแหล่งพลังงานที่ใหญ่มาก บางคนเขาเรียกว่ามังกรหลับ อย่าไปปลุกให้มันตื่น ปลุกให้ตื่นเมื่อไหร่ ? จะมีพลังงานมหาศาลบอกไม่ถูก
    คราวนี้ของเราอยู่ ระหว่างเคาะประตูมัน บางทีจะเกิดอาการต่อต้านกับร่างกายขึ้นมา อย่าพยายามนึกถึงมันเป็นดี ถ้าเครียดมาก ๆ มันปวดมันตึงตรงนั้น ถ้าแก้ไม่ตกเอาถ่านไฟฉายมาก้อนหนึ่ง เอาตูดถ่านแปะหน้าผากตัวเองไว้ พักหนึ่งจะหาย เพราะว่าตอนที่ปวดเกิดจากไฟฟ้าสถิตในตัวของเรา สะสมในจุดนั้นมากเกินไป เอาถ่านไฟฉายมาแปะไว้หน่อย มันจะถ่ายเทเข้าถ่านจะหายเอง
    ถาม : เวลาเรานึกถึงพระเป็นอุนุสติ เราจะกำหนดพระด้วยวิธีการต่าง ๆ กลายเป็นความเคยชิน แต่ปวดตลอด ?
    ตอบ : ของเราเจตนาตั้งมั่นมากเกินไป ทำใจเบา ๆ สบาย ๆ นึกถึงท่านเห็นหรือไม่เห็นให้มั่นใจว่าอยู่ตรงบนั้นก็พอ อย่าไปจดจ่อมากเกินไป จดจ่อมากเกินไปเป็นการใช้สายตาเพ่ง แต่ว่าเป็นการเพ่งทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่ เป็นการกระทำที่ผิด ที่เรากำหนดภาพเป็นมโน คือห้วงนึกของเรา นึกถึงแบบเรานึกถึงบ้าน นึกถึงรถของเรา นึกถึงคนที่เรารักเรารู้จักอย่างนั้น ไม่ใช่ไปนึกเพ่งให้เห็น นึกเพ่งให้เห็นเป็นการใช้กำลังใจผิด ดีไม่ดีก็เป็นไมเกรนไปเลยก็มี

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2014
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ปวดหัวเป็นไมเกรน สามารถรักษาได้ด้วยการปฏิบัติสมาธิ​

    ถาม: ปวดหัวมาก หมอบอกว่าเป็นไมเกรน เมื่อนั่งสมาธิเอาใจไปไว้กับหัวจะปวดมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเอาไว้ที่อกจะไม่เป็นไร ?

    ตอบ: การปฏิบัติสมาธิภาวนา ถ้าทำถูกวิธีจะช่วยรักษาโรคไมเกรนหรือโรคจากความเครียดต่างๆ ได้ดี เมื่อทราบว่าเอาใจไปไว้ที่หัวแล้วจะปวดมาก ก็ให้เปลี่ยนไปไว้ที่อกซึ่งไม่ปวดแทน โดยเฉพาะการปวดหัวนั้น เกิดจากเศษกรรมที่ดื่มสุราเมรัยมาในอดีต ชาตินี้ให้พยายามรักษาศีลข้อนี้ให้บริสุทธิ์ และหมั่นปฏิบัติสมาธิภาวนา จะได้พ้นจากกรรมส่วนนี้เร็วขึ้น


    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺปญฺโญ
    เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    http://palungjit.org/threads/ปวดหัวเป็นไมเกรน-สามารถรักษาได้ด้วยการปฏิบัติสมาธิ.154942/
     
  10. thaiza257

    thaiza257 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2014
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณมากครับผม
     
  11. thaiza257

    thaiza257 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2014
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    อ่อเข้าใจแล้วครับขอบคุณมาก เกือบไปปลุกมัน อิอิ แต่ถ้าผมฝึกแบบกำหนดลมหายใจออกภาวนาพุทธโธไปเรื่อยๆ แล้วให้จิตรู้ลมหายใจ อย่างนี้ไม่ได้ปลุกใช่ไหมครับ?
     
  12. วรรณนรี05

    วรรณนรี05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +903
    ต้องถามก่อนว่านั่งสมาธิเพื่อความสงบหรือต้องการมีอะไรพิเศษที่เหนือะรรมชาติ การนั่งสมาธิหากมันตรึง ก็พักเสียเพราะเวลานั้น เส้นประสาทมันตรึงจึงเกิด อาการอย่างที่เจ้าของกระทู้ถาม นั่งเพื่อความสงบกำหนดรู้ ลมหายใจเข้าออก ถ้าชำนาญ ก็ภาวนา คำที่ใจตนเองชอบ เริ่มจากคำสั่นๆ เพียงเท่านี้ก่อน
     
  13. thaiza257

    thaiza257 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2014
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    อ่อครับผมนั่งเพื่อความสงบครับ
     
  14. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อานาปานสติ ครับ กรรมฐานกองนี้ มีอะไรแปลกๆ เยอะมากมาย แต่คนไม่ค่อยรู้กันหรอกนะ มีอะไรแปลกๆอีกเยอะ ต้องปฏิบัติถึง แล้วจะรู้เอง ไม่มีบอกไว้ในตำรา

    ฝึกใหม่ๆ รู้ลมหายใจ มันเป็นอุบายอย่างนึง เพราะ ลมหายใจเป็นสิ่งหยาบ ช่วยในการทำให้จิตสงบ

    แต่พอปฏิบัติไประดับนึงแล้ว เราต้องปล่อยลมหายใจ เพราะจิตเริ่มความเป็นทิพย์ จิตระเอียดขึ้นเราก็ต้องไปอยู่กับคำภาวนา อยู่กับผู้รู้ แทนนะครับ

    เพราะลมหายใจ ยาว เราก็รู้ ว่าลมหายใจยาว

    ลมหายใจไม่มี เราก็ให้รับรู้ ว่าลมหายใจไม่มี แล้วให้มีสติอยู่กับคำภาวนาแทน

    ถ้ามัวแต่ ยึด ไม่ยอมปล่อยลม ลมหายใจ เดี่ยวพอไปถึงขั้น ไม่มีลมหายใจ ลมหายใจไม่มี เดี่ยวจะติดเอาแค่ตรงนั้น ไม่สามารถไปต่อได้นะ

    คนส่วนใหญ่ ส่วนมาก ลมหายใจไม่มี ไม่หายใจ พอถึงช่วงนี้ ก็ติดกันตรงนี้กันเยอะครับ

    ให้มีสติ อยู่กับคำภาวนา อยู่กับผู้รู้ แทนครับ

    ที่สำคัญ คำภาวนา ห้ามทิ้งเด็ดขาดครับ จะสมาธิ หรือแม้กระทั้ง ฌานหนึ่ง ปฐมฌาน ก็ยังต้องอาศัยคำภาวนาเลยครับ

    .
     
  15. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ไปฝึกหลักสูตร สมาธิกับหลวงปู่วิริยังก็ได้ครับ

    หากอยู่ใกล้กรุงเทพฯ จะได้ไม่หลงทาง
    หรือ ลองเสริทกูเกิ้ล ก็ได้ครับ

    ในเวปนี้ก็เห็นมีเพื่อนๆมาลงไว้อยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...