จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ...คนที่มีจิตว่างไม่ยึดมั่นถือมั่น ในตัวตนของตนนั้น เรียกว่าเป็นคนที่มีศีลที่แท้จริง.

    ...และเต็มเปี่ยมที่สุด ด้วยศีลภายนอก และภายใน ศีลภายนอกนั้นเป็นศีลที่ล้มลุกคลุก

    -คลาน คือศีลที่เราเจตนาว่าจะเว้น อย่างนั้น เราจะเว้นอย่างนี้แล้วเราเว้นไม่ได้...ลุ่มๆ...

    ...ดอนๆ อยู่นั่นเอง...เพราะว่าไม่รู้จักปล่อยวางตัวตน ปล่อยวางของๆตนเสียก่อน...

    ...คึกขอให้ไม่มีความว่างจากตัวตนเสียก่อน...ศีลก็มีขึ้นไม่ได้...แม้จะมีก็ ลุ่มๆ ดอนๆ...ไม่เป็น...

    ...อริยะกัตศีล...คือไม่เป็นศีลชนิดเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้าได้...เป็น "โลกิยศีล"ขึ้น

    ...มาได้..."ถ้าเมื่อใดมีจิตว่างแม้ชั่วขณะหนึ่งวันหนึ่ง หรือคืนหนึ่งก็ตาม มันก็มีศีล...

    ...ที่แท้จริงตลอดเวลาเหล่านั้น....ธรรมะจากท่านพุทธทาสภิกขุ กราบน้อมรับเจ้าค่ะสาธุ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2013
  2. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    โมทนาสาธุค่ะ ดีแล้วๆ ฝึกแยกกายแยกจิตไปน่ะ กายก็ทำงานทางโลกไป ส่วนจิตก็นึกถึงพระไปถี่ๆ บ่อยๆ อยู่เนืองๆ ไปตลอดทั้งวันเลยน่ะ

    ส่วนที่ว่า เหมือนมีภาพเห็นครูบาอาจารย์หลายท่านสลับกันมา แล้วต่อมาท่านก็รวมกันเป็นองค์เดียว ท่านกำลังจะบอกว่า ที่พวกท่านเดินถึงฝั่งกันมาได้นี้ ก็เพราะมาจากพระธรรมอันเดียวกัน คือพระธรรมของพระพุทธเจ้าของพวกเรานั่นเอง สาธุ
     
  3. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ;aa51มาแล้วววว...นางฟ้าตัวน้อยของพวกเรา...ผู้ที่จะมารับช่วงต่อ...วิชาจิตเกาะพระ รุ่นต่อไป..รึเปล่าน๊า...:z10

    ปล. มีคนถือตะกร้าหมากให้พวกเราแล้วพี่แนท..555..
    ;aa53
     
  4. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๑๓๘ ณ วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๖

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๑๓๘
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ​


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มิถุนายน 2013
  5. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตนำรายงานของพี่แนทที่ส่งเข้ามาขึ้นกระทู้ เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบความเป็นมาในการฝึกจิตเกาะพระของคุณสำรวย-UK และขอให้ทุกท่านได้โมทนาบุญใหญ่นี้กับเธอโดยถ้วนหน้ากันด้วยเถิด...สาธุๆๆ...;aa24;aa24;aa24

    เรียน ท่านพี่ภู และ คุณครู จิตเกาะพระ ทุกท่านทราบ...

    พี่แนท ขอแนะนำ จิตบุญ รายล่าสุด ที่ เพิ่งจะยกจิต วันนี้ 23/06/2556 เวลาประมาณ 20.00 น. ที่อังกฤษ คือ คุณสำรวย โบเดน

    ขอเล่า ประวัติ ความเป็นมา ของคุณสำรวย ให้ทุกท่านทราบ ดังนี้ ค่ะ ...

    คุณสำรวย โบเดน อายุ 45 ปี เพื่อนสนิท ทางธรรม ของคุณเพ็ญ UK มานานเกือบ 10 ปี ...คุณเพ็ญ ได้แนะนำ คุณสำรวย ให้รู้จัก จิตเกาะพระ ตั้งแต่ ปลายปีที่แล้ว แต่ในช่วงเวลานั้น ...ยังไม่ถึง เวลา วาระของคุณสำรวย ...เนื่องจากติดภาระทางโลก อย่างหนัก จวบจนกระทั่ง ... วันที่ 19 /05/2556 ที่ผ่านมา ในงาน ถวายผ้าป่า ที่ วัดสันติฯ
    เบอร์มิงแฮม ที่ทางสมาคมจิตเกาะพระ ไปร่วมบุญ ... ทำให้ ได้เจอกับพี่แนท ที่นั่น ... นี่เป็นจุดเริ่มต้น
    หลังจากวันนั้น ได้ ประมาณ 1 อาทิตย์ คุณเพ็ญ ก็โทรมาหาพี่ บอกให้ ติดต่อ เพื่อนเธอ ...เพราะเธอรู้ว่า เพื่อนเธอ ปฏิบัติธรรม มานาน ก่อนเธออีก แล้ว เธอรู้ ด้วยว่า เพื่อนเธอ ติดวาระกรรมอยู่ ...ทำให้ การปฏิบัติธรรม ไม่ก้าวหน้า เธออยากให้ พี่แนท แนะนำ การปฏิบัติธรรม จิตเกาะพระ ให้เพื่อนเธอ ซี่งเขา สนใจอยู่แล้ว ... แต่ ปัญหาใหญ่ ก็คือ เพื่อนเธอ ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย เนื่องจาก ทำงาน ถึง 3 แห่ง ใน 1 วัน คุณสำรวย ทำงาน เป็นเวลา 103 ชั่วโมง ต่อ อาทิตย์ เธอมีเวลานอน เพี่ยงแค่ 3 ชม ต่อวัน เป็นอย่างนี้ มาเป็น เวลา 7 ปี ...
    เมื่อมีโอกาส ได้ คุยกัน การเรียนการสอน ก็เริ่มขี้น พี่แนท ได้ทำการ สอบสังโยชน์ 10 อย่างละเอียด ถึงได้ทราบว่า ...คุณสำรวย ได้ปฏิบัติ ธรรม มานาน กว่า 15 ปี มีครูบาอาจารย์ ที่เคารพ คือ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ซึ่งคุณสำรวย เคยได้ ทำบุญกับท่าน เพียง ครั้งเดียว จริงๆ แต่ได้ นำเอา หลักคำสอนของท่าน มาปฏิบัติเอง และมี ครูบาอาจารย์ อื่นๆ ตามหนังสือ ธรรมะ ที่เธอจะหาอ่านได้ เป็นแนวทางปฏิบัติตลอดมา...
    เมื่อสอบอารมณ์ สังโยชน์ 10 ในแต่ละข้อ . พี่แนท ต้องขอบอกว่า .. ทึ่งมากๆ ที่ เธอผ่าน สังโยชน์ 10 ได้หมดจด เกือบทุกข้อ ...และวัดกำลังใจ บารมี 10 ก็เหมือนกัน ... ผ่านหมด แบบ ปรมัตถบารมี ด้วย ยกเว้น เพียง ข้อเดียว คือ อธิษฐานบารมี ที่เธอ ไม่กล้าคิด ว่า ตัวเองจะไปนิพพาน ได้ในชาตินี้ ... รู้แต่ว่า " ฉันจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว " ... จิตคุณสำรวย ณ ตอนนั้น อยู่ที่ อนาคามีผล เรียบร้อยแล้ว มาประมาณ 6 ปี แล้ว เธอ รายงานอารมณ์ จิต พระอนาคามี ให้พี่แนท ทราบแบบละเอียด เรื่อง กามฉันทะ มันหลุดลอยออกไป นานแล้วค่ะ ประมาณ 6 ปีแล้ว รวมทั้ง อารมณ์ ปฏิฆะ ด้วย ... เธอไม่มี คำว่า " พอใจ " หรือ " ไม่พอใจ" เธอมีแค่ อารมณ์ หนึ่งเดียว เธอว่าอย่างนั้น ..มีแต่ อารมณ์ เฉยๆ ซี่งเป็นมานานมากแล้ว เรื่อง อารมณ์ นิพพิทาญาน น่ะ มีมาตั้งนานแล้ว จนตอนนี้ เธอทรง อารมณ์ สังขารุเบกขาญาน ได้มานานแล้ว ...
    หลังจาก สอบอารมณ์ สังโยชน์ 10 เสร็จ ก็เริ่มนัด ประชุมกัน กับ คุณเพ็ญ และ พี่ภู เพื่อจะได้ ช่วยกัน ยกจิต คุณสำรวย เมื่อตอนต้นเดือน มิถุนายน นี้ ... แต่ไม่สำเร็จ ... พระท่านเปิดให้เห็น กรรมในจิต มาขวางอยู่ ... ก็ต้องหาวิธี แนะนำเธอ ให้ ไปแก้ไข จุดนี้ ก่อน ขณะเดียวกัน เธอเริ่ม จับภาพพระ เรียน การเดินมรรค จิตเกาะพระ ไปด้วย ...แต่ การปฏิบัติ ก็ไม่คืบหน้า ผ่านมา 2 อาทิตย์ พี่แนท ก็ต้อง นัดกันประชุม ใหม่ เพื่อสอบอารมณ์ เธอ ก็ทราบ วาระกรรมที่ ขวางการปฏิบัติอยู่นั้น ยังไม่หลุด จนต้อง ขอบารมี พระพุทธเจ้า มาช่วยสงเคราะห์ ... จึงจะสำเร็จ ... ในวันที่ 16/05/2556
    หลังจากวันนั้น เป็นต้น มา การเรียน การสอน จิตเกาะพระ ก็เริ่มต้นอีกครั้ง แต่ อุปสรรค ก็ยังมีตลอด ... เธอยัง ไม่สามารถ จับภาพพระ ได้เป็นอัตโนมัติ ... พี่ก็เริ่มแปลกใจ ว่าต้องติด ปัญหาอะไร สักอย่าง ... การส่งรายงาน การบ้าน ก็เริ่ม ห่างออกไป ... พี่ก็ไม่ยอมปล่อย ก็รายงานไปทางคุณเพ็ญ ช่วยกัน ตาม ช่วยกันค้น จนเจอ ปัญหา ว่า ...จิตเธอเข้าอุเบกขา ...จิตติดเฉย .. สติ ไม่ต่อเนื่อง
    พอทราบปัญหาแล้ว ก็นัดกัน ประชุมอีกครั้ง เพื่อช่วยกัน แก้ปัญหา จุดนี้ ให้เธอ โดยที่ ต้องโทรศัพท์ เข้าหาเธอ ทางโทรศัพท์ มือถือ เพื่อพูดคุยกัน ... ท่านพี่ภู ก็ได้สงเคราะห์ ... ชี้แจงปัญหา ..พร้อม กระทุ้ง ให้เธอเกิดปัญญา แก้ปัญหา ด้วยการเจริญสติ ให้ต่อเนือง ให้เธอกลับไปใช้ คำภาวนา ว่าพุทโธ เหมือนเดิม พร้อมกับ นึกภาพพระ เป็นระยะห่างๆ ...พอเธอเข้าใจ เธอก็เริ่ม ปฏิบัติเลยทันที นั่นคือ เมือวาน เวลาประมาณ 10.00 น ที่อังกฤษ .... จนกระทั่ง วันนี้ เธอโทรมารายงาน การบ้าน พี่แนท ก็ได้สอบถาม ถึงการปฏิบัติ เธอก็ว่า เธอเจริญสติ ต่อเนื่อง ด้วยพุทโธ ตลอด แล้ว ภาพพระ ก็เห็นอยู่ในจิต ตลอด ...

    คุยกันไป พี่แนท ก็บอกเธอว่า สำรวย เธอรู้ไหม เธอติดอะไร อยู่นิดเดียว ...คือ เธอ ไม่กล้าคิดจริงจัง ว่าจะไปนิพพาน ในชาตินี้ เพราะเธอรู้ว่า เธอได้ อนาคามีแล้ว ....เธอไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว ...เธอติด สังโยชน์ ข้อ 9 คืออุทธัจจะ ความฟุ้งข้อ 10 คือ อวิชชา ...แค่นี้ ติดอยู่นิดเดียว ...พอเอาหนังสือ หลวงพ่อ อ่านให้เธอฟัง ทั้งหมด ที่เป็น คำพูด หลวงพ่อ เท่านั้นแหละ เธอหลุด บอก หนู เห็น ไฟสว่างมาก เป็นทาง ขี้นไป แล้ว ก็ภาพพระ ปรากฏทันที พี่ก็เลย เริ่ม ยิงคำถาม 3 คำถาม ทันที ว่า...

    1. คิดว่า ร่างกายนี้ เป็น เรา เป็นของเรา ไหม? ร่างกายนี้ มีในเรา หรือว่าเรามีในร่างกายไหม? เธอตอบ หนักแน่น ไม่ใช่พี่มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ....หนูคิดอย่างนี้ มาตั้งนานแล้วค่ะ

    2.ถ้าธาตุลม ดับ ตอนนี้ ยังมีห่วงอะไรมั้ย? ตอบ ไม่มีแล้ว ไม่ห่่วงอะไร แล้ว พร้อมตายทันทีค่ะ เพราะหนูรู้แล้วว่าไปนิพพานแน่นอน แล้วค่ะ ...

    3.มั่นใจนะว่า จะไปนิพพาน ไม่ไปแวะ สวรรค์ พรหม ก่อนนะ? ตอบ หนักแน่น ไม่แล้ว ไปเลยไปนิพพาน เล่าจบปั๊บเธอ พุ่งจิตเกาะพระบาทท่านทันที ... พร้อมกับร้องไห้ ด้วยความปิติ จนกลั้นไม่อยู่ ....

    หลังจากนั้น อีกประมาณ ครึ่งชัวโมง โทรมาเล่าให้ฟัง ด้วยความปิติ อัศจรรย์ใจ ว่า จิตมันเบา โล่ง ว่าง เย็นขนาดนี้ ...แล้วกายที่เคยปวดเมือยมากๆจากการทำงาน มันหายเป็นปลิดทิ้ง กายเบา ตัวเบา ... เธออธิบาย ความรู้สึก เปรียบเทียบ ให้ฟัง เหมือนกับ ว่า จิตเธอเหมือนแก้วที่ใสมากๆ เหมือนกับ มีพลังพุ่งทะลุกำแพงได้เลย เธอว่างั้น ...หลังจากนั้น เธอก็โทรไปรายงานอารมณ์ พระนิพพานนี้ ให้คุณเพ็ญ ฟัง อีกอย่างละเอียด ...ที่พี่แนท แนะนำไป คือ ให้เธอนั่งเขียน รายงาน อารมณ์ ความรู้สึกเธอ ใส่กระดาษ แล้วส่งไปรษณีย์ มาให้พี่แนท ที่บ้าน แล้ว จะพิมพ์ ส่งรายงาน ให้ ครูทุกท่านทราบ เนื่องจาก ไม่สามารถ ใช้ คอมพิวเตอร์ ได้ ค่ะ ... จบรายงานแต่เพียงเท่านี้

    โมทนาสาธุค่ะ ...

    ณัฐชยา
    จบ 85
    รายงาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มิถุนายน 2013
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาบุญกับคุณสำรวย โบเดน จิตบุญดวงที่ ๑๓๘ สายUK
    พร้อมด้วยครูแนทและครูผู้เกี่ยวข้องด้วยครับ
    เห่อๆถึงฝั่งซะทีนะคุณสำรวย เพราะคุณเพ็ญเขาเป็นห่วงเพื่อนมาก
    เอาจิตให้พ้นก่อน ต่อไปร่างกายมันจะเป็นยังไงก็ปล่อยเขาไปตามธรรมชาติ
    เพราะยังไงๆร่างกายนี้มันต้องตายแน่ๆอยู่แล้ว แต่จะตายตอนไหนอย่าไปสน
    สิ่งสำคัญผู้ปฏิบัติจะต้องฉลาดคือต้องแยกจิตออกมาจากขันธ์๕ก่อนที่ขันธ์จะดับลง
    กายสูญแต่จิตไม่สูญ อย่าไปหลงกายมากนัก แต่ให้สนใจจิตมากๆ
    เพราะจิตไม่สูญแล้วมันจะไปไหน จะลงต่ำหรือขึ้นสูงก็ขึ้นอยู่กับสภาวะจิต
    ก่อนจะดับขันธ์นั้นจิตปล่อยวางมากน้อยแค่ไหน
    เป็นอันว่าเข้าใจกันดีแล้ว ปฏิบัติกันต่อไปตราบจนสิ้นอายุขัยของตน
    อย่าลืม ครูผู้สอนวางกำลังใจอย่างไร สตังค์ทิ้งได้แต่สติทิ้งไม่ได้เลย
    พยายามเลี้ยงลูกให้โตคือช่วยเหลือตนเองมากๆ งั้นครูดูแลไม่ไหว
    โดยเฉพาะจิตผู้ใฝ่พระนิพพานด้วยแล้ว จะต้องทำอินทรีย์๕ให้เข้มแข็งอยู่เสมอ
    ขืนปล่อยกายปล่อยใจเผลอสติบ่อยจนจิตตก อันนี้ไม่แตกกับจิตปุถุชน
    แล้วมันจะมีประโยชน์อันใด
    โดยเฉพาะวันๆนึงมัวแต่สนใจจริยาผู้อื่น ไม่สนใจมรรคผลของตนเอง
    ผมก็เตือนกันได้แค่นี้แหล่ะ จิตยกกันแล้วไม่มีผู้ใดได้กรรมสิทธิ์จริงๆหรอก

    สำหรับอาการจิตยกมันเป็นยังไง ก็ให้ไปถามเจ้าของจิตยกเอาเอง
    อธิบายไปก็ไม่รู้เรื่อง ถึงว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็นเรื่องปัจจัตตังก็ด้วยเหตุนี้นี่เอง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มิถุนายน 2013
  7. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขออนุโมทนาสาธุ กับ สํารวย จิตบุญดวงที่ ๑๓๘ และครูพี่แนท ครูพี่ภู ครูน้องเกษ และครูผู้เกี่ยวข้องทุกๆท่าน ที่ทําให้จิตสํารวยได้หลุดพ้น และได้เห็นทางสว่างจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง และได้เป็นผู้เดินตามพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวกของท่าน ขอให้ทุกๆท่านโดยเฉพาะอย่างยิ่งครูพี่ภู ผู้เป็นผู้นําสื่อ"สมาคมจิตเกาะพระ"ของท่านพ่อองค์ปฐม และหลวงพ่อฤาษีลิงดํา ที่สํารวยได้ศรัทธากราบไหว้ท่านมาตลอดได้ทําให้สํารวยมีวันนี้ได้ ขอให้ทุกๆท่านจงเป็นผู้เจริญในธรรมของท่านยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ นิพพานัง ปารมัง สุขัง ทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุค่ะ
     
  8. มณีตรี

    มณีตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +1,201
    ภายนอกที่งามเลิศ
    นั้นเกิดจากภายในก่อน
    กี่ภพกี่ชาติซ้อน
    หนาวร้อนก่อนเคยมา
    ข้างในที่ใสงาม
    เกิดจากความเพียรอุตสาห์
    มีศีล ทาน ภาวนา
    พร้อมแล้วหน้าจะงดงาม
    มองเพ่งพิศเพียรพร่ำ
    มองแล้วย้ำที่ภาวนา
    ว่าบุญและกรรมพา
    ให้ใบหน้านั้นสร้างงาน
    บุญทำแต่กรรมแต่ง
    อย่าขัดแย้งด้วยวาจา
    ลองคิดดูซิว่า
    ใจและหน้าแตกต่างกัน..?
    เปรียบเทียบก็ใช่เรื่อง
    อย่ามัวเปลืองเสียเวลา
    ให้จำไว้เถอะว่า....ชาติหน้า...อย่าเกิดเลย..สาธุๆ (กรรมใครกรรมมันเนอะ!!)​


    “มณีตรี..อุลตร้า”​
     
  9. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ขออนุโมทนากับ คุณสำรวย จิตบุญที่ ๑๓๘ และคุณครู แนท ครูเกษ และผู้

    ...ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ท่านได้ทำหน้าที่ของท่านได้รับมอบหมายมาจากท่านพ่อฤาษีลิงดำ

    ...บุญกุศลครั้งนี้ที่ทุกๆท่านได้ร่วมกันทำ ได้ช่วยให้จิตบูญดวงนี้ที่ท่านพ่อตามหาจนเจอ...

    ...กว่าจะขุดขึ้นมาได้ เพราะจิตดวงนี้จำศีลอยู่ตลอดเวลาเหมือนกบหน้าร้อนที่ไม่มีเสียง

    -ร้องรบกวนใครๆ จนเมื่อวันที่ ๒๓ มิ. ย ๑๓ ฝนตกลงมา จิตบุญดวงนี้จึงออกมารับความ

    ...ซุ่มฉ่ำ เสียงฟ้าร้อง ฟ้าแล้บ เสียงเทวดาโห่ร้องกล้องกังวาล ต้อนรับ ลูกหลานของท่าน

    -ท่านพ่อจิตบุญที่ ๑๓๘ ที่เป็นดอกบัวที่พ้นน้ำให้พวกเราได้มาร่วมอนุโมทนากัน และมีอีก

    ...ท่านหนึ่งที่ผู้เขียนอดที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้ คือ อาจารย์ ภูทยาน ที่ท่านได้ขุดเจ้ากบที่จำ

    -ศีลอยู่นาน และหลายครั้งหลายรอบไม่หลับไม่นอน พอเสียงฟ้าร้องทีไร นั่นแหละท่านจะ

    ต้องเตรียมพร้อมจนมีฝนตกลงมา...จนได้ดอกบัวดอกนี้ ผู้เขียนก็ปลื้มปิติดีใจไปกับพวกเราจิตบุญทุกๆดวง

    - ที่ได้จิตดวงบริสุทธิ์ดวงนี้มาบูชาท่านพ่อฤาษีลิงดำ ลูกขอน้อมถวายดอกบัวดอกนี้นะเจ้าคะ...

    ...นี่แหละสิ่งที่ลูกได้รับรู้คือความปลื้มปิติ จนต้องนำมาเขียนเป็นตัวอักษรถึงความรู้สึกปิติดีใจครั้งนี้ค่ะ.

    ...ขอน้อมกราบแทบเท้าท่านพ่อฤาษีลิงดำด้วยเศียรเก้ลาเจ้าค่ะ กราบ กราบๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2013
  10. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ขออนุโมทนากับนางฟ้าน้อยๆ น้องเจนนี่ และยินดีต้อนรับหนูน้อย

    น่ารักคนนี้ ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นความบริสุทธิ์ ของหนูน้อย ความไร้เดียงสาของเธอ

    และอริยาบถของเธอที่กำลังนั่งสงบอยู่นั้น มองเห็นได้เลยว่าเธอมีความสุขมาก

    เผื่อแผ่มาถึงผู้อ่าน ถ้าเด็กทุกคนทำได้เหมือนน้องเจนนี่คนนี้ คนที่ เป็นพ่อ เป็น

    แม่คงไม่ต้องเป็นห่วง เธอมีบุญเก่าติดตามมาจริงๆ นี่เพิ่งจะรู้ความ จำความได้

    เธอก็ได้มีภาพความสงบมาเป็นตัวอย่าง ความสงบของเธอ มาให้พวกเรา

    ได้ประทับใจ ซึ่งเป็นภาพที่บริสุทธิ์สดใส ยิ่งมองเท่าไร ก็ยิ่งประทับใจ ปิติใจ

    ...ขออนุโมทนากับนางฟ้าเจนนี่นะคะ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2013
  11. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    เวทนาก็เป็นธรรมเทศนาเครื่องเตือนเราอย่างเอกเหมือนกัน กาย เวทนา จิตธรรม เป็นสติปัฏฐาน ทางพ้นทุกข์โดยตรงไม่อ้อมค้อม เวทนาเกิดจากจิต อาศัยกายตั้งอยู่ จงถือเวทนาเป็นเป้าหมายของการตั้งสติดีมาก สุข ทุกข์ อุเบกขา ปรากฏขึ้นสัมผัสใจเหมือนรูป เสียงเป็นต้น มาสัมผัส ตา หู เป็นต้นแล้วก็ดับไปเช่นเดียวกัน จิตของเราถ้าไม่ตื่นเงาของตัวเองมันก็ดีเท่านั้น ขันธ์ทั้งห้า จึงทราบว่าเป็นเงาของจิต จงพิจารณาให้รอบคอบ อย่าหลงดีใจ เสียใจไปตามความความสุข ความทุกข์ ที่เกิดขึ้นจากกาย หรือจากจิต ความฉลาดพิจารณาขันธ์ ใครไม่ได้ไปหามาจากที่ไหน ย่อมเกิดขึ้นที่ใจของเราทั้งนั้น จงหาอุบายคิดค้นขึ้นมา เป็นปัญญาสอนตนเอง ความฉลาดเท่านั้นจะสามารถแก้ความโง่เขลาได้ นอกจากความฉลาดแล้วไม่มีทางจะเอาตัวรอด ฉะนั้นจึงพากันสนใจสร้างปัญญา...
    ที่มาธรรมะขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้า
     
  12. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    คําว่า"ความสงบ"มีหลายชั้น แม้แต่ใจจะยังเป็นอวิชชาอยู่ แต่ใจหาความสงบสุขเป็นเรือนพักได้ ก็จัดว่ามีที่พึง เช่นเดียวกับการเดินทางยังไม่ถึงที่พัก แต่มีอาหารและที่พักระหว่างทาง ก็จัดว่าดีกว่าไม่มี เมื่อยังไม่ถึงที่อยู่ตราบใด จําต้องอาศัยทั้งอาหารและที่พักอยู่ตราบนั้น จิตก็เช่นเดียวกัน แต่การทําลายอวิชชานั้นเปรียบเหมือนคนเดินทางถึงที่แล้วย่อมปล่อยวางหนทางที่เดินไปเอง เช่นเดียวกับเราขึ้นบันไดจนถึงห้องเรียนแล้ว ก็ย่อมปล่อยบันไดนั้น..
    ที่มา ธรรมะขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้า
     
  13. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    "การปฏิบัติคือการรู้ทุกข์ รู้กายรู้ใจนั่นเอง"

    ...ถ้ารู้ไม่ถูก ก็หลงไปสองข้าง หลงไปเผลอไปคิด...

    ...เผลอเข้ามาเพ่งไว้ กำหนดไว้ บังคับไว่สุดโด่งสองข้าง...

    ...ถ้ารู้ถูกต้อง เรียกว่าทางสายกลาง...

    ...คือการรู้กายรู้ใจตรงตามความเป็นจริง...

    ...เมื่อรู้ตรงตามความเป็นจริง...กายกับใจจะแสดงไตรลักษณ์ให้ดู...

    ...พระธรรมคำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชุโช น้อมกราบหลวงพ่อเจ้าค่ะ...
     
  14. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ...ขออนุโมทนากับ คุณสำรวยจิตบุญดวงที่๑๓๘ และคุณครูผู้สอนและ

    ...ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆท่านค่ะ เมื่ออ่านรายงานของคุณสำรวยอีกเป็นรอบ

    -ที่สี่ จึงได้ความคิดขึ้นมาว่า ไม่ว่าเราจะปฏิบัตินานสักแค่ไหน รู้สักแค่ไหน...

    ...นั้นบางทีเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเราติดตรงไหน เพราะฉนั้นเราถึงต้องมี ครู

    -บาอาจารย์มาเป็นผู้แนะนำ และเขี่ยเอาผงที่เข้าตาออกให้ เมื่ออ่านรายงานนี้

    ...แล้วทำให้ไดรู้ถึง คำพังเพยที่กล่าวว่า บุญมีแต่กรรมมาบัง แต่คุณสำรวยได้

    -เข้ามาถูกทางแล้ว เพราะท่านพ่อท่านได้เมตตาเขี่ยผงออกให้จนสำเร็จแล้ว

    ...ขออนุโมทนากับจิตบุญดวงนี้ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านค่ะสาธุ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2013
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    อย่าลืมสร้างกำลังใจของตนเอง
    อย่าไปหวังพึ่งแต่ผู้อื่น ช่วยตนเองดีที่สุด
    เพราะคนที่กำลังให้พึงก็ต้องตายเหมือนกัน

    อย่าลืมทำจิตใจของตนให้ผ่องใสอยู่เสมอ เพราะตรงนี้เป็นฝ่ายบุญกุศล
    อย่าลืมนะบุญกุศลก็คือ ความสบายใจของเรานั่นเอง มิใช่ใครอื่น
    อย่าทำลมหายใจของเราเต้นแรง เพราะนานไปจะเป็นโรคหัวใจหรือโรคไม่มีแรง
    ลมหายใจแรงในที่นี้มิใช่แรงเพราะออกกำลังกาย แต่แรงเพราะทำใจยอมรับไม่ได้
    การที่คนเราจะยอมรับกับสิ่งใดได้นั้น ต้องเริ่มต้นที่จิตใจ คือจิตยังหลง ยังยึดติด
    หรือจิตไม่ปล่อยวาง แต่จิตจะปล่อยวางด้วยก็ต้องปัญญา ปัญญาที่ได้จากสมาธิ
    สมาธิได้จากการเจริญสติ การเจริญสติให้ดี ให้ตั้งมั่นจะต้องรักษาศีลหยาบให้ได้ก่อน
    มันเป็นลำดับๆดังนี้
    ธรรมะนั้นเข้าใจไม่ยาก เพียงแค่เราค้นหาจิตตนเองให้พบเจอเสียก่อน
    เดี๋ยวต่อไปก็จะพบธรรมของตนในที่สุด เพราะธรรมใครธรรมมัน จิตใครจิตมัน
    ธรรมะของคนอื่นมานำมาสอนตนก็ยาก นอกจากผู้ปฏิบัติธรรมจนมีดวงตาเห็นธรรมเป็นของตน
    ธรรมะนอกจิตใจของเราก็ไม่ซาบซึ้งใจเท่าธรรมะที่ผุดมากลางใจของตนเอง
    ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า..ธรรมะของพระองค์เป็นปัจจัตตังนั่นเอง
    ธรรมะภายนอกหรือธรรมะของผู้อื่น ยังไงๆสู้ธรรมะที่เกิดจากจิตภายในตนเองไม่ได้
    เพราะธรรมที่ผุดออกมาจากจิตภายในนี้แหล่ะ จะกลับมาสั่งสอนตัวของเราเอง
    เมื่อก่อนเป็นคนที่นิยมผิดศีล แต่ตอนนี้ศีลครบ เพราะจิตมีธรรม
    เมื่อก่อนเป็นคนหยาบกระด้าง แต่ตอนนี้จิตอ่อนน้อมถ่อมตนได้เพราะจิตมีธรรม

    อย่าลืม ธรรมะมีอยู่ทุกลมหายใจ ธรรมะก็อยู่รอบๆกายใจของเรานี่เอง
    ธรรมะมิใช่อยู่ที่พระหรือวัด อยู่ที่ฆราวาสยิ่งมีเยอะกว่าพระอีก เพราะพระำม่ค่อยทุกข์
    ยิ่งฆราวาสที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรม มีสุขก็เป็นธรรม มีทุกข์ก็เป็นธรรมอีก
    คนที่คิดบวกนั่นแสดงว่าจิตมีธรรม คนที่จ้องให้อภัยคนนั้นก็ยิ่งมีพรมวิหาร
    เพราะถ้าไม่มีพรหมวิหารในใจก็จะให้อภัยกันไม่ได้ง่าย
    แต่คนที่จะทรงพรหมวิหารครบได้ ผู้นั้นจะต้องทรงสมาธิหรือฌานเป็นนิจนั่นเอง
    แค่นี้ก่อนเดี๋ยวจะยาว ยิ่งมีคนบ่นว่า พี่ภูพร่ำอะไรไม่รุ๊ ยาวจัง!
    แหม๊ ทีไปซื้อหนังพิมพ์เล่มตั้งหลายบาทไม่เห็นบ่นสักคำ แต่ธรรมะผมอ่านฟรี
    แถมถ้าคนจิตอ่อน อ่านไปจิตตกไป บางคนขยันทำจิตตกและไม่ยอมเก็บด้วย
    ถามจริงๆเห่อว่า วันๆนึงจิตเรามันเป็นบุญกุศลไหม
    ยังไงวันนึงขอให้จิตเราได้ตั้งฝ่ายบุญกุศลมากกว่าฝ่ายบาปหรืออกุศลก็พอแล้ว
    อย่าลมนะครับ กำลังใจหาได้จากเพื่อนกัลยาณมิตรหรือหาอ่านธรรมหรือฟังเทศน์
    หรือทำสมาธิก็จะดีมาก เพราะชำระล้างจิตบ่อยก็ดี เห็นกายสวยอย่างนี้เห่อ
    ต้องชำระกายกันทุกวัน แต่จิตสกปรกพวกเราคิดจะล้างกันบ้างไหม
    กิเลสเครือบจิต ตัณหาเคลือบใจ อุปาทานเคลือบทั้งกายทั้งใจ แล้วจะรอดไหม
    พยายามเตรียมจิตให้พร้อมกันเข้าไว้ เพราะความทุกข์มักมาทีเผลอ
    แต่ถ้ามาตอนเผลอ ว่าแต่ว่า เราจะรับมือกับมันไหวไหม๊
    แต่ถ้าเป็นทุกข์มากๆ จนอาจจะทำร้ายตนหรือคนรอบข้างเราเองก็เป็นได้
    ตามที่พวกเราเห็นเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน
    พอก็ได้ครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 มิถุนายน 2013
  16. pattranit uk

    pattranit uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +1,446
     
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คำว่า"ศรัทธา"
    นอกจากเราจะมีความศรัทธาในพระรัตนตรัย หรือผู้มีพระคุณกันแล้ว
    โดยเฉพาะนักปฏิบัติธรรมจะต้องศรัทธาในผลของการปฏิบัติของตน
    นี่แหล่ะ จิตเราจะมีความศักดิ์สิทธิืก็ตรงนี้แหล่ะ
    อย่าลืมนะ ความสำเร็จที่ไหน ถ้าไม่ใช่ที่จิตใจของตนเอง

    ให้ศรัทธาในผล มิใช่ไปหลงในผล เดี๋ยวจะกลับมาสร้างอัตตาละเอียดใหม่
    อัตตาตัวใหม่นี้ ใครๆก็แกะให้กันไม่ได้ ยิ่งกว่าตัวตนหยาบๆเสียอีก

    ความสุขที่เกิดจากจิตสงบนิ่งเป็นสมาธิก็ยังสู้ไม่ได้เลยกับ ทิ้งตัวรับรู้ของตน
    กำลังจะบอกว่า ลืมมันซะคราบมนุษย์ตนเอง จะไปมองเห็นกันได้ง่ายๆยังไงกับตัวรับรู้
    เที่ยวรู้คนอื่นไปหมด แต่ไม่ยักจะรู้ตนเอง
    นี่ไง พระเรียกว่า ติดตัวรู้ คือจิตตัวดีของเรานี่เอง
    ขนาดมีปัญญาสามารถมองเห็นตัวถูกรู้ก็ยังไม่วายไปหลงกัน คือนิมิตต่างๆนั่นไง
    แต่ไม่หลงนานหรอก แต่ก็อีกพักนึง กว่าจะหยุดออกมาจากตรงนั้นได้
    เหมือนนักภาวนาใหม่มักติดนิวรณ์ พอจิตเข้าถึงละเอียดปานกลางก็ติดปีติกันอีก
    เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พอจิตเข้าถึงละเอียดมากๆก็จะไปติดสุขจากฌานกันอีก
    พอเลยสมาธิหรือฌานหรือสมถะ เข้าสู่โหมดวิปัสสนามักหนีไม่พ้นคำว่านิมิตและของเดิม
    นั่นก็คือ อภิญญากันอีก แหม๊มันน่าเหนื่อยใจเป็นยิ่งนัก
    กว่าจตะเกียกตะกายไปถึงต้นละมุดกันได้นี่ไม่ใช่เรื่อง่ายๆ
    อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ผมกล่าวมานะ แต่ถ้าใครเดินทางนี้ก็พอจะทราบบ้าง

    จงจดจำไว้นะครับว่า ถึงกายเราจะยุ่งแค่ไหน แต่อย่าให้จิตเรามันยุ่ง
    พยายามค้นหาจิตตนให้พบเจอไวๆ แต่ถ้าใครพบแล้วก็เข้าไปถึงจิตในจิตไวๆ
    เพราะธรรมะของตนเองมันก็อยู่ภายในนั้น ยิ่งเข้าลึกมากเท่าใดเห็นมีแต่บุญกุศลทั้งนั้น
    ไม่ว่านรกหรือนิพพานก็อยู่ที่จิตเรานี่แหล่ะ มิใช่ที่ไหนดอก

    ขอฝากเป็นข้อสุดท้ายนั่นก็คือ ถ้าเรารักเคารพพระพุทธเจ้าจริงก็อย่าเอาจิตห่างท่านนะครับ
    ใครจะบอกว่าเป็นอุปาทานหรือเพ้อก็ช่างเขาเถอะ ดีกว่าจิตไปยึดไปหลงอย่างอื่น
    ยึดไปเห่อ ยึดแล้วทำจิตใจเราสงบสุขก็น่ายึด เดี๋ยวจิตเข้าถึงความละเอียดมากแล้ว
    ไม่ต้องให้มีใครมาบอกให้ปล่อยวาง ถึงเวลาจิตมันจะรู้เอง
    รู้แบบไม่มีเหตุผลหรือต้องมีใครอธิบาย
    ขอให้ดูพระอานนท์สำเร็จธรรมเป็นพระอรหันต์ในท่าใด
    เมื่อเลิกปฏิบัติ เลิกสนใจหรือทิ้งตัวผู้รู้เสียได้ กำลังจะเอนตัวลงนอนหัวไม่ทันถึงหมอน
    ก็ปิ๊งขึ้นมาทันที..สว่างโล่ง ยิ่งกว่าแสงพระอาทิตย์ซะอีก
    ขอฝากเพียงเท่านี้ก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 มิถุนายน 2013
  18. pattranit uk

    pattranit uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนากับคุณสำรวยUK จิตบุญดวงที่138และคุณครูแนทรวมถึงคุณครูที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ....
     
  19. Kim_UoonSo

    Kim_UoonSo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +5,937
    โมทนาสาธุกับคุณสำรวย UK และครูผู้สอนทุกท่านค่ะ
    วันนี้หมูจะแวะมาบ่น เย้ย!! มาเล่าเรื่องนึงให้อ่าน ไม่ได้เกี่ยวกับภัยพิบัตินะคะ แหะๆ


    เมื่อวานจะไปทำธุระแถวรามอินทรา ก็นั่งแท็กซี่จากหน้าบ้านไปถึงแฟชั่นฯ ขึ้นมาก็เจอแจ็คพอตเลย แท็กซี่อารมณ์เสียแต่เช้า บ่นเรื่องผู้โดยสารไม่มีมารยาท บ่นไป บ่นมาก็บอกว่า "เพิ่งโดนเมียด่ามา ยังจะมาเจอคนไม่มีมารยาทอีก" แหม่... อยู่ซอยเดียวกันซะด้วย ทั้งหมู ทั้งแท็กซี่ ทั้งผู้โดยสารปากไม่ดีกลุ่มนั้น...


    เราก็ได้แต่นั่งฟังแกบ่นไปเป็นระยะ พร้อมตามน้ำไปหน่อย ไปๆ มาๆ ก็เล่าเรื่องลูกสาว เรียนอยู่ต่างจังหวัด แต่ติดพ่อมาก มีอะไรก็ถามพ่อเสมอ แม้แต่เรื่องของผู้หญิง และมีอยู่ครั้งนึงที่ลูกสาวโทรมาถามพ่อว่า "เพื่อนของหนูตั้งท้อง จะทำยังไงดี?" ... งานเข้าเลยทีนี้ นั่งฟังไปแบบไม่อยากจะรู้และไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้


    พ่อก็ไม่รู้จะทำไง สรุปว่า ก็ไปหาลูกสาวและเพื่อนที่ต่างจังหวัด คุยไปคุยมาก็ว่าฝ่ายชายไม่รับผิดชอบ เด็กก็อยากเอาออก พ่อ (คนที่ขับแท็กซี่) นี่ก็ว่าไม่รู้จะทำไง ที่ทำแท้งที่ไหนก็ไม่เคยรู้ ไม่เคยไป ตัวเด็กที่ท้องเลยบอกหนูรู้จัก พร้อมไปด้วยกันหมดเลย... คนขับแท็กซี่บอกว่า "ไอ้เราก็ไม่รู้จักอะไร ที่ไหนได้เด็กมันรู้จักดีกว่าเราอีก... ที่ทำแท้ง"


    คนขับแท็กซี่ก็เลยได้จ่ายเงินห้าพันบาทค่าทำแท้งให้เพื่อนลูกสาวไป เสร็จแล้วก็พร้อมสอนการใช้ชีวิตให้ระมัดระวัง ฯลฯ จนเด็กหญิงคนนั้นเคารพ ขอเป็นลูกบุญธรรม ตั้งแต่นั้นมาก็เหมือนครอบครัวเดียวกันมาตลอด (แท็กซี่เล่าคร่าวๆ มาเท่านี้)


    ไอ้ตอนที่เราฟังก็รู้สึก... ตกใจที่เด็กหญิงรู้จักสถานที่ทำแท้งดีว่าควรไปที่ไหน แต่ที่ช็อคมากกว่าคือ ลุงแท็กซี่นี่พาไปด้วยแถมจ่ายเงินให้เสร็จสรรพทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลย แต่ที่ยังช็อคไม่หายอีกคือ ครอบครัวแท็กซี่คือ พ่อ แม่ ลูก พาเพื่อนลูกสาวไปทำแท้ง ... ไม่อยากนึกสภาพเลยว่าต่อจากนี้ชีวิตของคนเหล่านี้จะเป็นยังไง


    เราฟังไปก็เงียบ แล้วก็ขอขมากรรมกับเจ้ากรรมนายเวรของคนทั้งสี่ ที่ได้มาฟังเรื่องนี้ในวันนี้ก็คิดว่าไม่บังเอิญ เราเลยอุทิศบุญบารมีเราที่มีทั้งหมดทั้งมวลทุกภพชาตินำโดยบารมีพระพุทธเจ้า ส่งให้กับเจ้ากรรมนายเวร, เทวดาประจำตัว และบุคคลทั้งสี่ (รวมเด็กด้วยเป็น ๕)



    เล่าไปเล่ามา ก็มาถึงปลายทางพอดี พอลงรถเสร็จก็โล่งเลย... วันนั้นก็เลยแผ่บุญบารมีให้ทุกดวงจิตอย่างเต็มที่ พร้อมขอพระให้ปรับพลังบุญให้เหมาะกับทุกดวงจิต เราเดินทางไปที่ไหนก็แผ่ให้ตลอด แต่ก็ขอพระคุ้มครองจิตตนด้วยไม่ให้ใครมาวุ่นวาย เพราะขนาดไม่ตั้งจิตแผ่อะไรไป แค่ไปซื้อของแถวบ้าน ก็มีดวงจิตตามมาขอส่วนบุญ


    แถวบ้านมีป่ารกมาก เป็นบริเวณกว้าง แล้วก็มีวันนึงขับรถไปซื้อของเสร็จ กลับมาถึงบ้านก็รู้สึกปวดเอวมาก ก็เลยกำหนดจิตดู เห็นเด็กทารกสามคนเกาะเอวซ้ายของเราอยู่ ปวดมากๆ ก็รู้มาพร้อมกันเลยว่าเด็กพวกนี้คือเด็กที่ทำแท้งแล้วถูกทิ้งซากแถวป่าข้างทางแถวบ้าน เขาเห็นแสงสว่างจากจิตเรา (ที่เรามีจิตอยู่ในศีล๕ และปฏิบัติธรรมอยู่ในระดับหนึ่ง) เขาก็อยากมาขอส่วนบุญกุศลจากเรา แต่เด็กๆ เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็เลยได้แค่เกาะมา เราจึงมีอาการปวด ก็ต้องเข้าสมาธิแล้วขอขมากรรม แผ่ไปให้หลายรอบกว่าจะดีขึ้น


    ตรงนี้ก็ส่งบุญมั่วๆ ไม่ได้ เพราะผลกรรมจะย้อนมาที่เรา เราต้องขอขมากรรมกันก่อนถึงจะส่งให้ทุกคนได้ และก็ขออาราธนาบารมีพระคุ้มครองกายและจิตเราอีกที ที่เรามาไม่ได้จะมาอวดอะไรนะคะ แต่อยากจะบอกว่า ยังมีอีกหลายดวงจิตที่ไม่สามารถมาปฏิบัติธรรมได้เหมือนเรา เขาเฝ้ารอบุญบารมีอย่างหิวโหย และไม่รู้ต้องวนเวียนอีกนานเท่าไรกว่าจะได้ไปชดใช้กรรม และสร้างบุญบารมีเหมือนเรา จิตเหล่านี้เป็นจิตที่ถูกลืม ทั้งเด็กที่โดนทำแท้งและคนที่โดนข่มขืนตาย เขาไม่มีโอกาสได้มาสร้างคุณความดีเหมือนเรา ก็อยากจะฝากไว้สำหรับนักปฏิบัติว่า อย่ารอเวลา อย่ารอโอกาส นอกเหนือจากกรรมชั่วของเราที่จะมาตามทันเราเข้าสักวัน ก็คือ "เวลา" นี่ล่ะที่เราจะรอไม่ได้...


    ไม่เช่นนั้นมันอาจจะสายก็ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อใด เราจะตายดีหรือไม่ เราไม่มีทางรู้ ดังนั้นเราจึงประมาทกับชีวิตไม่ได้ เราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ตอนนี้ว่าตายไปแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ด้วยจิตของเราที่ตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ในศีล ในธรรม


    ส่วนเรื่องทำแท้งนี่ขอให้เป็นอุทาหรณ์นะคะ อย่าได้ทำบาปกรรมอะไรกับเด็กที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยอีกเลย เพราะเป็นการฆ่าคนๆ นึงที่บริสุทธิ์อยู่ "กรรมคือการกระทำ" ทำดี ไม่ดี ตัวกรรมนี่มันยังมีผลกับเราตลอดไปนะคะ


    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ



    ปล. ไว้ถ้าว่างจะแวะมาเล่าให้อ่านอีกนะคะ ยังมีเรื่องที่มีอุทาหรณ์เตือนสติเราอีกเยอะเลยค่ะ (แต่ก็จำได้ไม่หมดด้วยนะ.. ฮ่าๆ)
     
  20. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ สำรวย ,ครูผูสอนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...