ชมรมศินารา กำลังเปิดรับสมัคร เปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7 วันที่ 14 ก.ค. 56 คลิกหน้าสุดท้ย

อย่าเพิ่งสับสน และ งงงวย นะครับ

อ.ขออธิบายโดยเรียบเรียงอีกครั้ง เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ
แต่หากไม่สมบูรณ์ ตกหล่น เพิ่มเติม รบกวนชี้แนะด้วยนะครับ

อ้างอิงจาก คุณ phudit999

จากความเข้าใจ ขอแยกประเด็นหลักไว้ 4 ประการ
1) กายขันธ์
2) กายทิพย์
3) สัญญาเดิม (ของเดิม)
4) การเปิดบารมีวิชชาสาม

ปกติมนุษย์ที่อุบัติมาในโลกมนุษย์ มากจาก 2 สาเหตุหลัก
1) มาจากเบื้องบน
2) มาจากเบื้องล่าง

มาจากเบื้องบน ส่วนใหญ่จะลงมาเพื่อสร้างกุศล เพื่อยกภพภูมิตนเองให้สูงขึ้น
ให้อ่าน เพิ่มเติม
1) "ไตรภูมิพระร่วง"
2) แก่นพระพุทธศาสนา โดย อ.ภราดภาพ

สมมติว่า เรามีดวงจิตจากชั้นสวรรค์ หัวหน้าชั้นนั้น ก็จะติดตามมาด้วย
หากเรามาจากชั้นพรหม หัวหน้าชั้นนั้น ก็จะติดตามมาด้วย
จิตในชั้นเหล่านี้ ล้วนเป็นกุศล แต่ต้องต่อสู้กับกิเลสตัณหาในแดนกรรม

สำหรับผู้จากมาชั้นล่าง (นรกภูมิ) ที่ใช้กรรมหนัก กรรมรอง ไปเกือบหมดแล้ว
จะเหลือก็แค่เศษกรรม ก็จะขึ้นชดใช้กรรมที่เหลือ
ด้วยความเมตตาเสด็จพ่อยามาที่ท่านให้โอกาสได้สร้างกรรมดี
แต่ส่วนใหญ่ที่มาเป็นมนุษย์มักมีจิตใจหยาบช้าอยู่
และจะต้องปฏิบัติดี สร้างกุศล จึงจะกลับไปยังสู่สุขคติภูมิได้

เราก็ต้องกับมาดูที่ดวงจิต (Jitta) อันเป็นธาตุรู้
มีคุณลักษณะ รับ จำ คิด รู้ และแสดงออกมาทางพฤติกรรม
หากมีสติคุม ย่อมคิดดี พูดดี ทำดี ครับ

แม้ดวงจิต จะมีการแบ่งออกเป็นหลายลักษณะและวิจิตรพิศดาร
จะมีกี่ดวงก็แล้วแต่ แต่หากแบ่งอย่างง่าย ก็คือ จิตกุศล และ จิตอกุศล

โดย จิต จะมีสัญญาเดิม ก็คือ ยถากรรม ที่ได้ซับซ้อนและทับถมกันมาเรื่อยๆ
เขาจึงเปรียบจิตและกายไว้ดังนี้
กายสังขาร = เสื้อผ้าอาภรณ์
จิต = สิ่งที่ดำรงอาศัยอยู่

เมื่อเสื้อผ้าอาภรณ์เสื่อมลงหรือเก่าแล้ว
(จิต) ก็ต้องเปลี่ยนชุดใหม่
แต่จะได้ดีกว่าเดิม หรือ เก่ากว่าเดิมหรือไม่นั้น
ก็ขึ้นอยู่กับบาป บุญ นะครับ

ย้อนกลับมาที่ ขันธ์ หรือ กายธาตุ อันเป็นแหล่งบรรจบของธาตุ
ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพลังงานแห่งชีวิต หรือที่เรียกว่า
ปราณ (Prana)

เมื่อภรรค์มารดาได้รับการปฏิสนธิ การก่อเกิดชีวิตก็จะเกิดขึ้นในทันที
โดยดวงจิตที่เกี่ยวพันธ์นั้น จะมาอุบัติขึ้น ณ ขณะเดียวกัน

หมายความว่า ความเป็นมนุษย์ได้กำเนิดเกิดขึ้นแล้ว 1 ชีวิต
โดยมี กาย + จิต = ดิน น้ำ ลม ไฟ + จิต (ยถากรรม)
หรือ ขันธ์กายมนุษย์

ส่วนขันธ์ห้า ตามนิยาม ก็คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ก็คือ กาย + จิต นั้นเอง (รบกวนอ่านเพิ่มเติม)

ส่วนกายทิพย์ ก็คือ สภาวะหนึ่งของพลังงานที่เกิดอยู่ในกายขันธ์ในรูปแบบของ
พลังงาน ที่รู้สึกได้ แต่จับต้องไม่ได้ (เฉพาะมนุษย์)

กายทิพย์ มีหลายระดับ อาทิ (ไม่รวมพืช สัตว์ ที่มีลักษณะเฉพาะตัว)
- ระดับมนุษย์ที่ได้รับการฝึกฝน บ้างก็เรียกว่า อทิสมานกาย (การถอดกายทิพย์)
- ระดับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากแบ่งทางมหายาน ก็เรียกว่า สัมโภคกาย หรือ อณูทิพย์ หรือฉัพรังสี หรือเปล่งรัศมี
หรือศัพท์ในทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า ออร่า (Aura) บ้างก็เรียกว่า ปราณ

รัศมีขอออร่า นี้เอง ที่วัดถึงความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิก็ตาม
สำหรับผู้บรรลุธรรมเท่านั้นที่มีรัศมีออร่าที่ศรีษะ ที่เรียกว่า HOLO
ส่วนนักปฏิบัติขั้นสูงจะมีรัศมีออร่าตามร่างกายทั่วไป

ขอพักก่อน มีต่อ

 

ประกาศ เต็มแล้วครับ ปิดรับสมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

1) คุณทองกร 1
2) คุณทองกร 2
3) คุณ VitVian 1
4) คุณ VitVian 2
5) คุณ VitVian 3
6) คุณ chutintorn_tani
7) คุณ odet
8) คุณอะอุ
9) คุณ fondadum
10) คุณพิทยาธร
11) คุณณาตยา
12) คุณปิยะวัฒน์
13) คุณ Fleur_gib 1
14) คุณ Fleur_gib 2
15) คุณ Fleur_gib 3
16) คุณ chpu2555
17) คุณ sanannan (พรหมพิริยะ) ชำระเงินแล้ว
18) คุณสิงหราช 0802209281
19) คุณณัฏฐชัย
20) คุณเติมบุญ
21) คุณทัชดล (พิทยาธร)
22) คุณวินิต (พิทยาธร) ชำระเงินแล้ว
23) คุณ Champion ชำระเงินแล้ว
24) คุณ pik ชำระเงินแล้ว
25) คุณสลักจิต
26) คุณบุญสม
27) คุณพงศธร 1
28) คุณพงศธร 2
29) คุณพงศธร 3
30) คุณพงศธร 4
31) คุณพงศธร 5
32) คุณพงศธร 6
33) คุณ nongninew 1
34) คุณ nongninew 2
35) คุณพงษ์ทณัฐ
36) คุณประทีป
37) คุณ jirapornkongmun
38) คุณ sorot
39) คุณ wukecheng 1
40) คุณ wukecheng 2
41) คุณธานินทร์ moon111 (1)
42) คุณหทัยรัตน์ moon111 (2)
43) คุณอมรินทร์ (โต)
44) คุณ khunnang
45) คุณ pimmanee
46) คุณทัตพงศ์ (จากสงขลา)
47) คุณระพีพัฒน์
48) คุณพงศธร 7
49) คุณพงศธร 8
50) คุณ jessy
51) คุณ skinny_k 1
52) คุณ skinny_k 2
53) คุณมนตรี (tui) 1
54) คุณมนตรี (tui) 2
55) คุณอัครพงศ์
56) คุณ rapeepat
57) คุณพงศธร 9
58) คุณสมศักดิ์ 1*
59) คุณสมศักดิ์ 2*
60) คุณสมศักดิ์ 3*
61) คุณพสุธร 1 (อนุเคราะห์)
62) คุณพสุธร 2 (อนุเคราะห์)
63) คุณอภิรดา
64) คุณ otcc
65) คุณเอกราช
66) คุณประนต
67) คุณเอกสิทธิ์ 1 *
68) คุณเอกสิทธิ์ 2 *
69) คุณสมโภชน์ 1 *
70) คุณสมโภชน์ 2 *

จำนวนผู้สมัคร 70 คน

เต็มแล้วครับ ปิดรับสมัคร

ติดต่อสอบถาม
อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695

โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
เลขที่ 009 117 1393
ประเภท ออมทรัพย์

 

ยินดีครับ

 

อันดับต่อมา ก็คือ

สัญญาเดิม (ของเดิม) กับการเปิดบารมีวิชชาสาม
ก่อนอื่น สัญญาเดิม ก็คือ หน่วยความจำที่จิตจัดเก็บไว้อย่างถาวร

สัญญาเดิม ก็คือ ฮาร์ทดิสก์ (Harddisk)
ส่วนจิต ก็คือ หัวเข็ม (Needle)

การอ่านของเดิมได้ มีหลายปัจจัย
1) จำหมายรู้ได้ ตามสัญชาติญาณ หรือ จิตใต้สำนึก ที่ถูกเปิดออก ได้บ้างไม่ได้บ้าง
2) เจริญสมาธิ จากการฝึกฝน จนย้อนของเดิมได้ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง

หัวเข็ม จะอ่านข้อมูลเดิมได้ ต้องสะอาดมากพอ อย่าลืมว่าชาติภพมันซ้อนมิติ
และทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ผู้เจริญสมาธิ ก็ต้องมีศีลครอบด้วย จึงจะสามารถย้อนอดีตได้ชัดนะครับ

ส่วนการเปิดบารมีวิชชาสาม เป็นเพียงแค่เครื่องมือตัวหนึ่งที่จะช่วยให้การดึงสัญญาเดิมกลับมา
ไม่ว่าจะเป็นยถากรรมที่เกิดขึ้นในอดีตชาติ หรือ ปัจจุบันชาติ รวมถึงครูบาอาจารย์ที่ไม่มีตัวตนนะครับ

ประเด็นสำคัญอันเป็นวาระ 3 ประการในการเปิดบารมีวิชชาสาม

1) เปิดผ่าน ครูบาอาจารย์มาผ่านให้รับรู้ถึงเจตนารมณ์ (ผ่านนะครับ ไม่ใช่ประทับทรง คนละแบบกัน)
2) เปิดไม่ผ่าน เนื่องจากไม่สามารถรับพลังครูบาอาจารย์ได้ หรือได้ก็แผ่วเบา อันนี้ ต้องกลับไปฝึกสมาธิและสร้างกุศลให้มากขึ้น
3) เปิดไม่ผ่าน เนื่องจากติดว่ากรรมสะท้อนหน้างาน กล่าวคือ กรรมเบียดบัง จนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถผ่านได้
(สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่แปดเปื้อนกรรม) ดัวยเหตุปัจจัยหลายๆ กรณีที่เปิดไม่ผ่านติดกรรม ดังนี้

กรรมปัจจุบันชาติ
- กรรมจากการพร่องศีลห้าร้ายแรง เช่น ทำแท้ง ปรามาส กาเม ฆ่าคนตาย ฯลฯ
- กรรมจากแรงอธิษฐานจิตปัจจุบัน ฯลฯ

กรรมจากอดีตชาติ
- กรรมชาติภพ
- กรรมจากแรงอธิษฐานจิตในอดีต ฯลฯ

อาการแต่ละเคสข้างต้น จะเกิดขึ้นเฉพาะหน้างานหรือปรัมพิธีการเท่านั้น
ไม่เปิดทางโทรศัพท์ ไม่เปิดส่วนตัว หรือไม่เปิดในสถานที่ไม่อันควรเด็ดขาด
อันนี้ ต้องไปชมกันเองนะครับ

 

มีความแตกต่างจาก วิชา สายสัญญาบารมี อย่างไร

หรือว่า ไม่แตกต่าง

 

แหม...เราลำบากใจนะเนี่ย มาเรียกเราว่านักปราชญ์ เท่ห์ไปป่ะ

จินตนาการไม่รู้ว่าชอบหรือไม่นะ แต่มันติดอยู่กะตัวตลอดเลยล่ะครับ
อิสระเสรี เหนืออื่นใด มิยอมให้ใคร ใช้ครอบครอง (ถ้าไม่เต็มใจ)
คงไม่ต้องปลดปล่อยมั้งครับ เพราะมีเสรีอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ส่วนตัวเองก็คงไม่ต้องปล่อย เพราะไม่มีใครบังอาจมาควบคุมได้
แม้เทพทั้งหลาย ยังควบคุมได้แค่นิดหน่อย เป็นระยะๆ
ไม่ใช่ว่าเก่ง แต่เพราะเลือดบ้าแรงมาก และค่าความเพี๊ยนสูงเกินเหตุ

วลีงามๆ ที่เราพล่ามออกมา ไม่รู้ว่าของใครบ้างนะครับ
อ่านดูแล้วเหมือนโดนอะไรสิงเป็นระยะๆ อยู่ตลอดเลย
หลายประโยคก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองเป็นคนเขียน
ทั้งที่ตัวเองเขียนอยู่เห็นๆ
ไม่อยากเชื่อหรอกว่าตัวเองจะทำได้ถึงขนาดนี้
คนที่ทำได้ น่าจะต้องเป็นคนดีได้กว่านี้ อีกหลายขนาน
หลายอย่างที่เรายังพร่องอยู่ บ้างก็เกินไปแยะ หรือไม่เต็มบาทก็มี

ยินดีถ่ายทอดครับ ทั้งๆ ที่สงสัยว่าจะโดนรีโมททางจิตอยู่นะเนี่ย
แต่ก็สนุกดีครับ ในเมื่อชีวิตติดอนัตตาแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ทำมากนัก
(กรุณาระวังแมงโม้ด้วยนะครับ เราเลี้ยงไว้แยะเชียว ปล่อยไม่อายด้วย 555)

ขอบคุณท่านเจ้าสำนักวิชชาสามด้วยครับ ที่จะคอยชมเพื่อชื่น

ค้างคาวแห่งแสง
.

 

อ. เคยมีประสบการณ์กับสายสัญญาบารมี
ตั้งแต่ตัวพ่อ อ. ประหยัด โก๋แก่ กบแก่ ฯลฯ
ได้สนทนากับท่านเหล่านี้
และเข้าใจถึงวิธีการพอสมควร

ทั้งรูปแบบและพิธีการแตกต่างกันครับ

เพียงแต่ไม่อยากเปรียบเทียบว่าดีกว่า เด่นกว่า ด้อยกว่า ฯลฯ
เพราะคงไม่เกิดประโยชน์ในการเชิงเปรียบเทียบ
มีแต่ทำให้ขัดเคืองใจกัน เพราะคงไม่มีใครอยากให้ใครทำลาย
ความเชื่อและศรัทธาของตน

เหมือนดั่งศาสนาเปรียบเทียบ
ต่างคนก็ต่างบอกว่า ศาสนาตนดี ประเสริฐกันทั้งนั้น
ฮีโร่ ก็คือ ฮีโร่ แล้วแต่ใครจะรังสรรค์
สุดท้าย ก็ไม่พ้นที่จะจ้องทำลายล้างกัน

ทุกลัทธิทุกวิธีการมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ผู้สัมผัสต้องพิจารณาด้วยปัญญาอย่างถ่องแท้

ศินารา ไม่เคยประกาศว่าของตนเองดี ประเสิรฐแท้
เราทำด้วยใจ ด้วยเนื้อแท้ มีบ้างที่โดนตำหนิ
แต่ก็น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ

ถือว่าโดนน้อยสุดแล้ว หากไปเทียบกับคนมีญาณ
พวกหมอดู หรือลัทธิอื่นๆ เช่น เขากะลา อนุตรธรรม
ญาณทิพย์ ญาณเทพ สัญญาบารมี ฯลฯ

ปกติ ศินารา จะทำไปเรื่อยๆ เงียบๆ
เปิดเต็มทุกรอบ ล้นทุกรอบ
ไม่เคยไปปรามาสว่าใคร ด่าทอใคร
เพราะเราถือว่า ทุกเจ้าพิธี ทุกลัทธิ ต่างมุ่งมั่นต้องการสร้างคน
เป็นคนดีด้วยกันทั้งสิ้นครับ

 

โมทนา สาธุ

ขออธิบายเพิ่มเติมหน่อยนะครับ
พลังแห่งเบื้องบน (องค์เทพเทวัญ) ในรูปแบบอณูทิพย์ที่ส่งลงมา
เปรียบเหมือนว่า
จิตเราเป็น "จานรับ"
ส่วนญาณทิพย์ของพระองค์เป็น "ดาวเทียม"

การส่งสัญญาณจากดาวเทียมไปยังจานรับ
ในเคลื่อนสัญญาณ (carrier wave) จะนำพาข้อมูลไปยังจานรับ
แล้วส่งต่อไปยังจอภาพทีวี หรือมือถือ

การสื่อสารจะเกิดขึ้นระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ
ผู้ส่งไม่ค่อยมีปัญหาหรอ
แต่ผู้รับซิ กิเลสยังอย่างหนาแล้ว ยังไม่ฝึกอีก ถือว่าคุณภาพ Low
บางคนติดสงสัย หรือไม่ก็งี้เง่า แถทุกเรื่อง กวนทุกที่ คุณภาพ Very Low

ดังนั้น จิตเรานี้แหละสำคัญ จะรับได้ดี ก็ต้องมีจิตที่สะอาดพอ
ฝึกจิตมาดี ก็จะเป็นเนื้อเดียวกับผู้ส่ง ที่เรียกกันว่า การรวมจิตเป็นหนึ่งเดียว
หรือศัพท์เทคนิคเรียกว่า "ปรมาตมัน"

พวกคนมีองค์ จิตรับรู้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่สื่อสารไม่ได้

พวกร่างทรง จิตรับรู้ได้ สื่อสารได้ สติ (อายตนะ) ถูกปิดเกือบหมด
บ้างก็ 70 - 80 % บ้างก็ 90-95 % ควบคุมไม่ค่อยได้

คำว่า "ประทับทรง" ไม่ได้หมายความว่า ท่านประทับกายสังขาร
ท่านอยู่ข้างบนเปรียบเหมือนดาวเทียมสั่งการทางเคลื่อนพาหะ
ขืนให้ท่านสวมร่างซิ มีหวังกายสังขารพังจ๊ะ

พวกญาณแฝง จิตรับรู้ได้ สื่อสารได้ มีสติ รู้และควบคุมได้ ในระดับต่างๆ
อณูทิพย์ของท่านมาแฝงร่าง หรือ สวมร่าง เป็นระยะๆ เช่น
แฝงระดับ 70 - 80 %
แฝงระดับ 90 %
แฝงระดับ 95 %

แค่อณูทิพย์แฝงนะครับ (เศษเสียวของผงธุลี)
ไม่ใช่ทั้งหมดทั้งองค์ หากมาทั้งองค์ เราเรียกว่า "อวตาร"
ไม่ได้อยู่สั่งการอยู่ข้างบนเหมือนดาวเทียมนะครับ

พวกญาณแฝงนี้เอง ที่เป็นเป้าหมายหลักที่นักปฏิบัติวิชชาสามต้องการ
เพราะเป็นคุณวิเศษอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้พัฒนาการดีขึ้น
ยิ่งแฝงมาก แฝงเนียนได้มากเท่าใด ยิ่งดี
พระองค์ท่าน รู้วาระจิตของร่างดี
ดังนั้น เราจะคิดอะไร ท่านรู้ล่วงหน้าหมด
ท่านสามารถสั่งการทำงานได้โดยที่เรารับรู้ได้ว่า
นี้ไม่ใช่ตัวเรานะ ครูบาอาจารย์เขามาชี้แนะ

ยิ่งเราได้บรรยายธรรม ตัวรู้ก็จะมาช่วยเต็มกำลัง
บรรยายแบบน้ำไหลไฟดับ ลื่นไหลเป็นจรวด
แต่นานวันเข้า เราจะไม่รู้ถึงสิ่งนี้อีกแล้ว
ท่านไม่อยู่แล้ว ไปแล้ว ลูกเก่งแล้ว
ทำหน้าที่ของเราต่อไป จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ครับ

 

คนจีน ถือว่า "ค้างคาว" (ฟู : ภาษาจีน) เป็นสัตว์มงคล
ดังนั้น คำว่า "ค้างคาวแห่งแสง" ก็น่าจะหมายถึง ผู้นำความสุข โชคลาภ และอายุยืนยาวมาให้ นะครับ
ช่างตั้งฉายานามเรียกขานได้เหมาะสมดีจัง

หากท่านไม่โดนค้างคาวสิง ก็ต้องเป็นพระจี้กง มาร้อยเรียงกลอนให้ฟัง ถึงได้ไพเราะ และสำนวนโวหาร ล้ำสมัย
เกินกว่าคนธรรมดาจะเข้าใจได้นะครับ

โมทนา สาธุ

 

ตัวตนที่แท้คือ กายทิพย์ ประจำขันธ์
แต่ถูกพลังงานสูงขับดันออกจากร่าง
(มาในรูปแบบส่งพลังงานให้กายขันธ์รับ
กายขันธ์ ไม่รู้ว่านี้คือการขับกายทิพย์ออกจากร่าง)

กายทิพย์จะสู้พลังงานสูงเหล่านั้นก่ไม่ได้
จึงจำเป็นต้องออกจากร่างไป ....
พอดี เป็นผู้มีศีล จึงได้ดำรงอยู่บนสวรรค์

ดีใจ ดีใจ (ดีใจคือกายทิพย์ ที่ถูกขับออกจากร่างตายก่อนตาย และได้ไปสวรรค์)
เสียใจ เสียใจ (เสียใจคือ ต้องมาเกิดใหม่ หมดสิทธิ์พัฒนาตนเอง)

ว่าวลอยๆ บ่ มี อะหยัง เน้อ

เพราะไปประกาศหาชื่อ กายทิพย์เทวดาที่มีชื่อ...........
เทวดาที่มีชื่อนี่ นามสกุลนี่ ก่ มา จริงๆ อ้าวดันมาอยู่บนสวรรค์ได้อย่างไร กายขันธ์ยังไม่ตายเลย งง จริง ๆ

 

ขอแสดงความเห็นในมุมมองนี้
กายทิพย์ (ทิพย์)

มนุษย์อุบัติเกิดในแดนโลก จะไม่มีสภาวะทิพย์ใดๆ ถือว่าเป็นเพียงแค่พลังงาน
จนกว่า จะได้รับการฝึกอบรมทางจิต และบ่มเพาะคุณธรรม
ไม่งั้น พวกที่มาจากเบื้องล่าง ก็มีสภาพทิพย์กันหมดนะครับ

คำว่า ทิพย์ หมายถึง ความเป็นคุณวิเศษ เช่น ทิพย์จักขุญาณ
ทิพย์ญาณบารมี ฯลฯ

ส่วนครูบาอาจารย์หรือองค์เทพ ท่านไม่ขับไล่จิตดั่งเดิม
แม้ว่าท่านจะมีพลังทิพย์ที่เหนือสามัญวิสัยก็ตามที
แต่ท่านจะแฝงเพื่อปฏิบัติภาระกิจใดภาระกิจหนึ่งจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
แล้วท่านก็จะกลับวิมานทันที

เว้นแต่ ถูกแทรกด้วยเหล่ามาร สัมภเวสี หรือสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย
อันนี้ ช่วยไม่ได้ พวกที่แทรก ก็จะแช่อยู่นี้แหละ เรียกว่า กินบุญ ครับ
จะทำการสิ่งใดที่เป็นกุศล ก็ประสบแต่อุปสรรคขัดขวางในหมู่มาร

บางคนมีครูบาอาจารย์หลายองค์
แต่ละองค์ ก็จะซ้อนๆ กัน โดยองค์แรกที่ปรากฎ มักจะเป็นองค์ประธานครับ
แต่หากองค์ประธาน ไม่อนุญาต องค์อื่นๆ อย่าหวังจะได้ปรากฎ

บางคน บูชาองค์เทพและองค์พุทธะ เยอะมาก ผ่านมากหลายองค์
ก็ต้องขานทีละพระนาม กว่าจะหมดคิว ต้องเบรกกลางครัน
ไม่งั้นงานนี้ ยาว และ นาน ครับ

 

ประกาศ เปิดรับสมัครเรียน..ทิพย์ญาณวิชชาสาม วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.56 (มีค่าใช้จ่าย 899 บ.)

ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเรียนทิพย์ญาณวิชชาสาม
วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม


1) คุณเยาวเรศ 089 224 9555
2) คุณ...
3) คุณ...
4) คุณธัญญธัญญา
5) คุณเล็ก (Panajung)
6) คุณ moon111
7) คุณเหรียญทอง
8) คุณ wichakornku
9) คุณสมพร 1 081 774 6952*
10) คุณสมพร 2 081 774 6952*
11) คุณสมพร 3 081 774 6952*
12) คุณวายุวารี
13) คุณกำธร 081-3118662
14) คุณวาทินี 081-3118662
15) คุณปรียานุช 081-3118662
16) คุณเติมบุญ
17) คุณอมรินทร์ (โต) 089 900 1269
18) คุณแว๋ว (ระยอง)
19) คุณธีรวัฒน์ 086 368 4884
20) คุณ baimon22
21) คุณอภิรดา
22) คุณ lookyee
23) คุณกฤชณัท : 084-1433354
24) คุณเสถียร24 : 081 955 0906



รับจำนวน 50 คน
จำนวนผู้สมัคร 24 คน
คงเหลือ 26 คน

ติดต่อสอบถาม
อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695

โปรดชำระเงินภายในวันที่ 8 มิถุนายน 2556
โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
เลขที่ 009 117 1393
ประเภท ออมทรัพย์

รายละเอียดเนื้อหาทิพย์ญาณวิชชาสาม

หลักการและเหตุผล
วิชาทิพยญาณวิชชาสามว่าด้วยการนำทิพยญาณมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
และช่วยเหลือผู้อื่นด้วยจิตอาสา ด้วยอำนาจแห่งทิพย์ อันประกอบด้วย
1) ทิพจักขุญาณ
2) อตีตังสญาณ
3) อาสวักขยญาณ

ซึ่งอำนาจเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับการฝึกฝน อย่างถูกวิธี วิชานี้จะเป็นพื้นฐานในรายวิชาอื่นๆ
อาทิ ทิพยญาณพยากรณ์ ทิพยญาณหัตถเวชบำบัด ทิพยญาณอ่านโองการและทิพยญาณเปิดญาณบารมี
รวมถึงการเป็นเจ้าพิธีการต่างๆ เป็นต้น



ระยะเวลาฝึกอบรม : 1 วัน

ค่าใช้จ่ายต่อท่านต่อครั้ง : 899 บาท
- ค่าสถานที่
- ค่าดำเนินงาน
- ค่าวิทยากร
- ค่าอาหารเที่ยง
- ค่ากาแฟขนมตอนเบรคพัก

หมายเหตุ ปัจจัยส่วนที่เหลือจากการฝึกอบรมนี้ จะนำไปใช้เพื่อการกุศลต่อไป

ขั้นตอนการอบรม :
1) ภาคทฤษฏี : ทิพยญาณวิชชาสาม จิตภาวนา จิตตานุภาพ
2) ภาคปฏิบัติ : สอบอารมณ์พระกรรมฐาน
3) ภาคทดสอบ : ประเมินผลความคืบหน้า สอบคุณวิเศษ

สถานที่อบรม : วัดผ่องพลอยวิริยาราม

 

ถูกต้องนะคร้าาาาาบบบบบ

 

ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเรียนทิพย์ญาณวิชชาสาม
วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

1) คุณเยาวเรศ 089 224 9555
2) คุณ...
3) คุณ...
4) คุณธัญญธัญญา
5) คุณเล็ก (Panajung)
6) คุณ moon111
7) คุณเหรียญทอง
8) คุณ wichakornku
9) คุณสมพร 1 081 774 6952*
10) คุณสมพร 2 081 774 6952*
11) คุณสมพร 3 081 774 6952*
12) คุณวายุวารี
13) คุณกำธร 081-3118662
14) คุณวาทินี 081-3118662
15) คุณปรียานุช 081-3118662
16) คุณเติมบุญ
17) คุณอมรินทร์ (โต) 089 900 1269
18) คุณแว๋ว (ระยอง)
19) คุณธีรวัฒน์ 086 368 4884
20) คุณ baimon22
21) คุณอภิรดา
22) คุณ lookyee
23) คุณกฤชณัท 084-1433354
24) คุณเสถียร24 : 081 955 0906
25) คุณปวริศา : 087 086 0028
26) คุณดุษฏี : 087 086 0028

รับจำนวน 50 คน
จำนวนผู้สมัคร 26 คน
คงเหลือ 24 คน

ติดต่อสอบถาม
อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695

โปรดชำระเงินภายในวันที่ 8 มิถุนายน 2556
โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
เลขที่ 009 117 1393
ประเภท ออมทรัพย์

 

อ้าว...บังเอิญดีๆ อีกแล้วครับท่าน
ตอนตั้งชื่อค้างคาวแห่งแสงนะ ไม่ทราบว่าเป็นสัตว์มงคลนะครับ
เอ..หรือเคยอ่านทราบแล้วลืมไปแล้วก็ไม่รู้นะ ความลืมเราดีมาก 555

ตอนหาชื่อเท่ห์ๆ มาใช้นะครับ ตอนนั้นแค่ต้องการหาอะไรซักอย่าง
ที่ตรงกันข้ามกัน และให้มาอยู่ด้วยกัน โดยหลักการของเซ็นครับท่าน
เพื่อแสดงถึงอะไรบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้ เข้าใจไม่ได้ เข้าถึงได้โดยยาก
เป็นการสื่อถึงการรวมแสงสว่างกับความมืดเข้าด้วยกัน หลอมสิ่งนั้น กั้นมายา
อืม..แล้วอะไรอีกน้า คำพูดเท่ห์ๆ จำไว้ใช้ตั้งแยะ เวลาจะใช้ก็นึกไม่ออก เฮ้อ..

พระจี้กงอาจจะมาสิงก็ได้นะ เพราะเด็กๆ ก็ชอบดูอยู่เหมือนกัน
งิ้วแถวบ้าน เด็กๆ เคยดูบ่อย แต่ชอบนาจาจังแฮะ ชอบล้อหมุนๆ วิ่งเร็วจี๋
แต่เรื่องกลอนนี่ เข้าใจว่าเป็นท่านสุนทรภู่มากับท่านศรีปราชญ์นะครับ เดาเอานะ
เพราะตอนแต่งนักรบแสงตอนแรก นึกกลอนได้แต่ท่อนที่เป็นเพลงอ่ะ ที่ว่า

"เห็นโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง" เนี่ยใช้บทนี้แหละครับ เป็นต้นแบบ จำแม่นเชียว
คงโดนสิงตั้งแต่หน้าแรกเลยล่ะครับ เขียนไปก็ชื่นใจตัวเอง เก่งจังเลย...

คนธรรมดาอ่านคงลำบากหน่อย แต่ท่านอ่านได้ แสดงว่าไม่ธรรมดาแน่เล้ย

ขอบคุณที่ชมเชย
ฟังแล้วเสบยหู
ชื่นใจใครรู้อยู่
ชื่นตาหู แลหัวใจ

ค้างคาวแห่งแสง
.

 

ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเรียนทิพย์ญาณวิชชาสาม
วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

1) คุณเยาวเรศ 089 224 9555
2) คุณ...
3) คุณ...
4) คุณธัญญธัญญา
5) คุณเล็ก (Panajung)
6) คุณ moon111
7) คุณเหรียญทอง
8) คุณ wichakornku
9) คุณสมพร 1 081 774 6952*
10) คุณสมพร 2 081 774 6952*
11) คุณสมพร 3 081 774 6952*
12) คุณวายุวารี
13) คุณกำธร 081-3118662
14) คุณวาทินี 081-3118662
15) คุณปรียานุช 081-3118662
16) คุณเติมบุญ
17) คุณอมรินทร์ (โต) 089 900 1269
18) คุณแว๋ว (ระยอง)
19) คุณธีรวัฒน์ 086 368 4884
20) คุณ baimon22
21) คุณอภิรดา
22) คุณ lookyee
23) คุณกฤชณัท 084-1433354 ชำระเงินแล้ว
24) คุณเสถียร24 : 081 955 0906
26) คุณดุษฏี : 087 086 0028
27) คุณภัคจิรา : 083 798 8922 ชำระเงินแล้ว
28) คุณวิภาพร : 086 937 8317

รับจำนวน 50 คน
จำนวนผู้สมัคร 28 คน
คงเหลือ 22 คน

ติดต่อสอบถาม
อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695

โปรดชำระเงินภายในวันที่ 8 มิถุนายน 2556
โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
เลขที่ 009 117 1393
ประเภท ออมทรัพย์

 

เรียน อาจารย์ภราดรภาพ

อ. ครับมีคำแนะนำพิเศษสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ไหมครับ

จริงๆแล้ว อ.กาโต้ ได้แนะนำให้ผมไปช่วยฝังเข็มที่วัดผ่องพลอย จะได้เจอกับ อ.ขาว
แล้ว อ.ขาว จะได้สอนวิชาการรักษาให้

วันเสาร์ที่ผ่านมาผมไปร่วมพิธีมิสซาฉลองวัด (โบสถ์คาทอลิก) ในชนบท คาดไม่ถึงว่ามีชาวบ้าน
มาให้ฝังเข็มมากกว่าที่คิดไว้ก่อนทีนี้เราก็พักผ่อนไม่ค่อยจะพอเสียด้วย ระหว่างที่ผมทำการรักษา
ด้วยการกดจุดและฝังเข็มผมก็จะสวดภาวนาสั้นๆในใจไปด้วย ต่อมาพิธีมิสซาขอบพระคุณก็ได้เริ่มขึ้น
จริงๆแล้วปกติผมจะไม่ทำการรักษาใครในระหว่างพิธีเพราะถือว่าพิธีมิสซาเป็นคารวกิจสูงสุดต่อพระเจ้า
ในความเชื่อของคาทอลิก

แต่ในวันนั้นหากไม่ทำก็ไม่ทราบว่าจะได้เดินทางกลับกี่โมงก็เลยทำการรักษาไป
ระหว่างนั้นรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มล้าเริ่มไม่ไหวเข้าใจว่าจะถูกพลังเสียในตัวคนไข้มากเกินไป
เพราะร่างกายตัวเองไม่แข็งแรง ก็เลยภาวนาในใจขอให้พระจิตเจ้า (พระวิญญาณบริสุทธิ์)
ทรงช่วยเราอีกแรงเพราะลำพังตัวเราคงจะไม่ไหว หลังทำการรักษาเสร็จครบทุกคน
รู้สึกว่าร่างกายผมไม่เพลียมากอย่างที่คิดครับ

ตอบ คุณหมอ
อ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
ที่คุณหมอได้ช่วยเหลือญาติธรรมทีีได้มารักษากันมากมาย
แม้คุณหมอจะนับถือศาสนาคริตส์ มีความคิดและกรอบประเพณีที่เคร่งครัดก็ตาม
แต่ด้วยใจเมตตาของคุณหมอที่มีต่อสรรพสัตว์

คุณหมอ เป็นคนแรกของศินารา ที่มาเปิดบารมีกับพระตรีเอกานุภาพ (Trinity)
ที่มีต่อพระยะโฮวา (พระบิดา) พระบุตร (พระเยซู) และ
พระจิต (วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระบิดาและพระบุตรมารวมกัน)
โดยไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นกับคำว่า "ศาสนา" มาแบ่งแยกการสร้างคุณงามความดี

ซึ่งอยากและน้อยคนนักที่จะแสดงศักยภาพทั้งความสามารถ ความศรัทธา
ต่อพระองค์เพื่อมวลมหาชน

อ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ณ โอกาสต่อไป จะเชิญคุณหมอมาช่วยเหลือญาติธรรมศินารา
ทั้งนี้ ก็เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระตรีเอกานุภาพ และคุณงามความดี
ของคุณหมอในโอกาสต่อไปครับ

ชมรมศินารา
ขอนอบนัอมและกราบนมัสการพระตรีเอกานุภาพ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

อาเมน

 

แหม่ม เข้ามาอ่านครับ และไม่ได้มารบกวน แต่ หากสงสัยว่า เปิดวิชาสามนี้สามารถเปิดได้ทุกคนหรือป่าวหรือเฉพาะคนที่มีบารมีถึงหรือมีบุญเก่าแต่ถ ูกปกปิดไว้ ไม่ให้รับรู้ถึงพลัง แล้วบุคคลธรรมดาล่ะ ส่วนตัวผมก็เปิดบารมีนะ แต่จะเป็นกลุ่มคนที่สายบารมีถึงจะเปิดให้ไม่ได้รับสมัครอะไร ถ้าสัมผัสคนนั้นได้และถึงเวลาของเขาก็จะเปิดทันที และการเปิดนั้นผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่คนเหล่านั้นเมื่อมีพลังจะได้ช่วยรักษาช่วยจุลต่อศาสนา สร้างกรรมดี แต่บุคคลมาเปิดบางคนเขาอาจจะมีกรรมที่ต้องการช่วยเหลือ อนึ่งการช่วยคนเราไม่หวังผลตอบแทน แต่อาจมีค่าใช้จ่ายซึ่งก็แจงไปให้เขาร่วมทำบุญ ผมก็ไม่รู้นะการเปิดวิชาสามเนี่ยจะใช้ญานบารมีพิธีสิ่งของอะไรประกอบ แต่ถ้าคิดจะช่วยคนต้องสุดตัวทำไม่หวังผลเพราะคนเหล่านั้นเขาคงจะมีทุกข์มาให้เราช่วยเหลือ อาจต่างความคิดกับผม แต่ผมรักษาคนมา4เดือนไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตาม กรรมใดๆที่เขามีมาผมรับช่วยหมดและไม่เรียกเงินหรือหวังผลมีจะทำบุญก้อไม่ขัด ไใ่มีก็ไม่ว่า แถมเปิดบารมีโดยไม่คิดอะไร เพราะถ้าเราคิดจ
ทำเพื่อศาสนาและสรรพสัตว์ในโลกนั้นต้องมีจิตใจบริสุทธิ์ช่วยด้วยกายใจที่เต็มพร้อม ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันขัดๆๆหน่อยๆกับการให้โอนเงิน แต่ก้อไม่ได้มาก่อกวนนะแค่มองว่ามีสิทธิ์ที่จะทำ แต่ถ้าคิดจะช่วยคนจริงทุกอย่างต้องให้เขาทำบุญด้วยจิตศรัทธาโดยไม่เดือดร้อนตัวเอง ถึงจะเป็นมหากุศลครับผม

 

ตอบ เปิดไม่ได้ทุกคนครับ แล้วแต่วาระตามที่กล่าวไว้แล้ว
รบกวนกลับไปอ่านให้ละเอียด พิจาีรณา และไตร่ตรองอีกครั้งนะครับ

ตอบ ยินดีที่่ท่านเองก็มาสายเปิดญาณบารมี ไม่แน่ใจว่าสายสัญญาบารมี
หรือว่าเป็นร่างทรงองค์เจ้าครับ

อนึ่งการช่วยคน เดิมเราไม่เก็บค่าใช้จ่ายมา 6 ปีแล้วครับ แต่คราวนี้เรามีค่าใช้จ่าย
ซึ่งก็แจงไปให้เขาร่วมทำบุญอย่าัังชัดเจนครับ

ตอบ แต่ละพิธีการ/เจ้าพิธีการไม่เหมือนกันครับ
ถ้าจะให้ชี้แจง ก็มาดูด้วยตาตนเอง น่าจะดีกว่า
เราไม่ได้หวังผล เพราะสิ่งที่ได้เราก็บอกเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ไปแล้ว เรามีบุญใหญ่ที่ต้องสร้างนะครับ
นั้นก็คือ ศาสนาสถาน ศินารา มันดาลา (Sinara Mandala)



ปัจจัยที่เรารับและเรียกเก็บ ด้วยกำลังใจกำลังกายของเราเอง เพราะต้นทุนดำเนินการเราสูงนะครับ
เราไม่ได้เรี่ยไรบุญ ไม่เรียกร้องศรัทธา หรือ ลาภสักการะ ไม่หวังบริวาร เราสอนคนให้เป็นคนดี
มากด้วยความสามารถ เราบอกบุญปัจจัยด้วยเหตุและผลอันควรที่เหมาะสมครับ

หากเราหวังศรัทธาเพื่อเปิดโอษฐ์และเปิดบารมีบังหน้า เพื่อหวังลาภสักการะ
หวังบริวาร เรี่ยไรเงินภายหลัง อันนี้ เรียกว่า อัปรีย์ จังไร ครับ

ตอบ ยินดีครับ ที่ตัวท่านได้สร้างบารมีอย่างเต็มกำลัง คุณกับผมมีเป้าหมายเดียวกัน
แต่สภาวะต่างกันนะครับ เดิมผมไม่เคยเก็บเงินเลย แต่ด้วยเหตุผลที่ต้องการสร้างศาสนาสถาน เราจำเป็นต้องเก็บครับ

ตอบ เมื่อวาระมาถึง ฐานบารมีพื้นฐานคุณเต็ม คุณต้องสร้างที่ยากกว่า และยิ่งใหญ่กว่า เพื่อมวลชน
หากคุณไม่ใช้มหาปัญญา คุณทำสิ่งนี้ได้อยากครับ