ชมรมศินารา กำลังเปิดรับสมัคร เปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7 วันที่ 14 ก.ค. 56 คลิกหน้าสุดท้ย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ภราดรภาพ, 29 มีนาคม 2013.

  1. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

    1) คุณทองกร 1
    2) คุณทองกร 2
    3) คุณ VitVian 1
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ baimon22
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum

    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 9 คน
    คงเหลือ 61 คน

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  2. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

    1) คุณทองกร 1
    2) คุณทองกร 2
    3) คุณ VitVian 1
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ baimon22
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum
    10) คุณพิทยาธร
    11) คุณณาตยา
    12) คุณปิยะวัฒน์

    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 12 คน
    คงเหลือ 58 คน

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  3. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

    1) คุณทองกร 1
    2) คุณทองกร 2
    3) คุณ VitVian 1
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ baimon22
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum
    10) คุณพิทยาธร
    11) คุณณาตยา
    12) คุณปิยะวัฒน์
    13) คุณ Fleur_gib 1
    14) คุณ Fleur_gib 2
    15) คุณ Fleur_gib 3
    16) คุณ chpu2555
    17๋) คุณ sanannan (พรหมพิริยะ) ชำระเงินแล้ว

    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 17 คน
    คงเหลือ 53 คน

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
  5. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

    1) คุณทองกร 1
    2) คุณทองกร 2
    3) คุณ VitVian 1
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ baimon22
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum
    10) คุณพิทยาธร
    11) คุณณาตยา
    12) คุณปิยะวัฒน์
    13) คุณ Fleur_gib 1
    14) คุณ Fleur_gib 2
    15) คุณ Fleur_gib 3
    16) คุณ chpu2555
    17) คุณ sanannan (พรหมพิริยะ) ชำระเงินแล้ว
    18) คุณสิงหราช 0802209281 ชำระเงินแล้ว
    19) คุณณัฏฐชัย
    20) คุณเติมบุญ
    21) คุณทัชดล (พิทยาธร)
    22) คุณวินิต (พิทยาธร)

    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 22 คน
    คงเหลือ 48 คน

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  6. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

    1) คุณทองกร 1
    2) คุณทองกร 2
    3) คุณ VitVian 1
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ baimon22
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum
    10) คุณพิทยาธร
    11) คุณณาตยา
    12) คุณปิยะวัฒน์
    13) คุณ Fleur_gib 1
    14) คุณ Fleur_gib 2
    15) คุณ Fleur_gib 3
    16) คุณ chpu2555
    17) คุณ sanannan (พรหมพิริยะ) ชำระเงินแล้ว
    18) คุณสิงหราช 0802209281
    19) คุณณัฏฐชัย
    20) คุณเติมบุญ
    21) คุณทัชดล (พิทยาธร)
    22) คุณวินิต (พิทยาธร)
    23) คุณ Champion ชำระเงินแล้ว
    24) คุณ pik
    25) คุณสลักจิต
    26) คุณบุญสม
    27) คุณพงศธร 1
    28) คุณพงศธร 2
    29) คุณพงศธร 3
    30) คุณพงศธร 4
    31) คุณพงศธร 5
    32) คุณพงศธร 6

    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 32 คน
    คงเหลือ 38 คน

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  7. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    เรื่องเล่า แม่นก หัวใจพระโพธิสัตว์

    เรื่องราว...ประสบการณ์ตรง.......ที่ได้เข้ามาในชมรมศินารา

    วันเกิดปีนี้...เกิดมาทำไมไม่รู้...รู้แต่ว่าต้องช่วยเด็กพิการ

    13 พ.ค. 56 เป็นวันเกิดครบรอบ 41 ปีของฉัน ฉันเลือกเข้าศึกษาธรรมะกับ ชมรมศินารา ในวันที่ 12 พ.ค. ใกล้กับวันเกิด...

    ชมรมศินาราคืออะไรนะหรอ...ฉันก็พึ่งจะได้รู้จักไม่นานมานี่เอง ก็ไม่รู้ว่ารู้จักได้ยังไง
    รู้แต่ว่า อยากให้มีใครรับรู้ แบ่งเบาภาระที่กำลังทำอยู่อย่างสุดความสามารถ สำหรับที่นี่ถ้าดูกันผิวเผิน
    ก็จะเหมือนเป็นเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเวปของญาณทิพย์อีกที
    ฉันนั่งอ่าน นั่งศึกษาดูมาสักระยะหนึ่ง ทั้งทางธรรม ทั้งทางปาฏิหารย์ และที่ศินารามีเป้าหมายในชมรมว่า

    1) เปิดและสอนพระกรรมฐานวิชชาสาม
    2) ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมแห่งศินารา
    3) อนุเคราะห์และช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา
    4) ถักทอสายใยแห่งบุญกับองค์กร หน่วยงานและชมรมต่างๆ

    ก็คิดว่า เราก็เป็นคนหนึ่งที่ทำคุณให้กับสังคม น่าจะเข้าค่ายได้รับความช่วยเหลือ ไม่รอช้า
    ฉันขอสมัครเรียนตั้งใจให้ใกล้กับวันเกิด...

    วันที่ 11 พ.ค. 56 สลับวันพักผ่อนกับน้าจิตร (น้าที่ช่วยดูแลลูกเมื่อต้องไปทำงาน)...
    ฉันต้องเลี้ยงลูกทั้งวัน และเป็นแม่บ้านไปด้วย ทั้งกวาดบ้าน เช็ดบ้าน ล้างจาน ซักผ้า ทำกับข้าว
    ล้างขวดนม ปั่นนม ฝึกลูก แถมคืนนั้นลูกชายเริ่มเป็นหวัดทำให้กว่าจะนอนตั้ง 5 ทุ่ม แถม ตอนตี 1 นอนไม่ได้
    พ่อกับแม่ต้องตื่นมาอุ้มลูก เพราะเค้าหายใจไม่ออกอีกต่างหาก...เป็นเรื่องที่เหนื่อยจริงๆ สำหรับหน้าที่แม่อย่างฉัน

    วันที่ 12 พ.ค. 56 ตื่นแต่เช้า 6.00 น. รีบทำกับข้าว และกินข้าว เพราะบ้านของเรา
    เป็นโรคต้องกินข้าวเช้า ถ้าวันไหนไม่กิน วันนั้นจะหมดแรง หน้ามืดเลย ฉันจึงต้องตื่นมาเตรียมกลับข้าวแต่เช้า
    กะว่า จะออกจากบ้านซัก 7.30 น. แต่ทำไป ทำมา ได้ออกจากบ้าน 8.00 น.

    รีบขับรถจากสายไหม 54 (แถวดอนเมือง) ไปวัดผ่องพลอย (แถวบางนา) ไปถึงที่หมาย 9.00 น. ตรงเวลาแป๊ะ
    ตามอาจารย์นัด พอไปถึงเจอ อ.คารมเป็นคนแรก...ความจริงอ.ท่านนี้เป็นคนที่ฉันชื่นชอบเป็นอย่างมาก
    เพราะอ่านประวัติของท่านแล้วทึ่ง...จับใจความว่า ท่านเคยป่วยเป็นมะเร็ง เพราะเจ้ากรรมนายเวรจองเวร
    ไปตรวจที่รพ. หมอไม่เห็นว่าเป็นมะเร็ง แต่อ.ก็ยังยืนยันว่าเป็นอยู่ดี เพราะท่านเป็นคนมีญาณ
    จนในที่สุดก็สรุปได้ว่าเป็นมะเร็ง แล้วท่านก็รักษาด้วยวิธีหมอด้วยและด้วยการทำบุญ ทำทาน
    การช่วยเหลือคนด้วยญาณด้วย และบุญกุศลที่ทำ ท่านก็แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรของท่านเสมอ...
    เป็นระยะเวลานานหลายปี จนเจ้ากรรมนายเวร ยอมรับบุญและอโหสิกรรมให้ ท่านก็หายเป็นมะเร็ง...
    มหัศจรรย์จริงๆ แต่ก็ไม่ได้เขียนอยากให้งมงาย เพียงแต่ว่า การรักษาทางแพทย์ก็ควรรักษา
    ทางที่มองไม่เห็นเราก็ควรรักษา ฉันเชื่อว่าเวรกรรมมีจริงเสมอ ท่านหน้าตาใจดี...
    แล้วท่านก็บอกว่าให้ทะเบียนแล้วแป๊ะชื่อติดหน้าอก ฉันได้หมายเลข 8 ชื่อ นกค่ะ

    คนต่อมาที่เจอ...คุณเป้...มาทักทายครั้งแรก ฉันหน้าเสียอย่างบอกไม่ถูก...
    “แม่นกมาสาย เลยอดแนะนำตัวหน้าเวทีเลย”
    ฉันพูดไม่ออก อยากจะบอกว่า...ภาระกิจของคนเป็นแม่มันช่างเอยะจริงๆคะคุณเป้ข๋า...
    คุณเป้ เป็นชายหนุ่มที่เคยเป็นอิสลามมาก่อน แต่ด้วยความอยากรู้ในปาฏิหารย์ อิทธิฤทธิ์มาก จนยอมบวช
    ยอมเปลี่ยนศาสนา จากศาสนาอิสลามมาเป็นศาสนาพุทธ..จนทำให้แม่เสียใจ แล้วไปนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำคนเดียวตั้ง 3 วัน
    จนได้สัมผัสเจ้าแม่ตะเคียน และรู้ว่ามีพญานาคมาเล่นน้ำในถ้ำด้วย

    เจ๋งจริงๆ

    …ลักษณะบุคคลิก แรกที่รู้จัก พูดจาตรง จริงใจไม่ไก่กา ยอมรับว่าแรกๆ...ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่...
    แต่วันนั้น ถ้าไม่ได้คุณเป้ จิตใจฉันคงเศร้าหมอง เพราะง่วงนอนด้วย เหนื่อยล้าจากงานที่สะสมมาหลายปีดีดักด้วย

    ครึ่งเช้าวันแรก...อ.พงษ์ บัวสรรค์และอ.ภราดรภาพ บรรยายธรรมะ อย่างถึงแก่น ว่าชีวิตของเราเกิดมายากมาก
    และเมื่อได้เกิดมาแล้ว ได้ศึกษาธรรมะ ก็ยากขึ้นไปอีก ดังนั้นพวกเราทุกคนในวันนี้โชคดีอย่างมาก
    ที่ได้มาทำบุญศึกษาธรรมร่วมกัน...ฉันมาสายกว่าเพื่อนเลยนั่งหลังๆ ไม่ค่อยได้ยินสักเท่าไหร่ …
    และด้านขวามือของฉันเห็นเด็กคนหนึ่ง น่ารักน่าชัง...มีผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันไม่รู้จักชื่อ แต่หน้าเธอคุ้นๆ
    สงสัยว่าจะเป็นคนดังของชมรมศินารา...เธอชื่ออาจารย์ขาว...ฉันไม่ได้อ่านประวัติของ อ.ท่านนี้เลย
    รู้แต่ว่าเธอจะมาสอนวิชาหัตถเวชบำบัดด้วย ฉันอยากเรียนเพื่อไปช่วยเด็กพิการ...จะทำยังไงดีน้า...
    ถึงจะได้แนะนำตัวว่าเป็นใคร มาจากใคร เธอจะได้เมตตาช่วยฉัน ฉันเห็นเธอลงไปข้างล่าง จึงแอบรีบตามไปอย่างติดๆ
    ปรากฏว่าเธอไปเข้าห้องน้ำ...

    อดเลย...
     
  8. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ต่อ...

    จึงมานั่งที่เดิม...แต่เชื่อมะ...ในใจอยากเจอมาก...สักพักอ.ภราดรภาพ ประกาศหา อ.ขาวด้วย
    สักพักเธอขึ้นมา ยังกับรู้ว่าฉันอยากเจอ แถมยังมานั่งด้านหลังเลย ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญ
    หรือสิ่งที่ฉันเรียกร้องในใจ มาให้เธอนั่งใกล้ๆ

    สักพักเธอจับตัวฉัน เธอบอกว่าเห็นฉันแล้ว อดรักษาไม่ได้ ฉันรักษา..ช่วยแต่คนอื่น
    แต่ไม่เคยช่วยตัวเองเลย...จ๋อย... มันก็จริงของเธอ เพราะหลังๆ ฉันไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย
    ทั้งๆ ที่ตัวเองใจรักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ แต่ด้วยหน้าที่มันพันพัว จน…
    ไม่มีเวลาออกกำลังกายไปเลย...

    เธอจับตัวฉัน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น... แล้วบอกว่า ภายในฉันกำลังแย่หมดแล้ว ไม่ว่จะเป็นมดลูก ตับ หัวไหล่
    อะไรต่อมิอะไรสารพัดไปหมด...ฉันคิดว่า ขนาดนั้นเลยหรือเนี๊ย

    ตอนแรกอยากเจอเธอเพื่อเรียนหัตถเวช ไปช่วยเด็กๆ กลับกลายเป็นว่าตัวเองกำลังป่วยในอยู่
    ต้องรีบรักษาตัวเองก่อนที่จะป่วยหนักกว่านี้ เธอสอนฉันว่า ถ้าเราดูแลตัวเองไม่ดี แล้วเราจะไปช่วยคนอื่นไม่ได้
    และตอนนี้กำลังของแม่นกก็อ่อนแรงเต็มทีแล้ว...(เว๋อเลยเรา)

    กำลังตกใจ...พักเที่ยงพอดี...เหมือนมวยกำลังเมาหมัดโดยอ.ขาวสั่งสอนให้รักตัวเองมากกว่านี้
    ดูแลตัวเองมากกว่านี้ โดนหมัดแล้วหมัดเล่า...ระฆังพักยก มาช่วยพอดี
    คุณเป้...บอก แม่นกรีบไปกินข้าว เดี๋ยวหมด...ฉันจึงรีบไปกิน

    เมื่อหลายปีก่อน ฉันมักฝันบ่อยๆว่า ไปที่ไหนก็ไม่รู้ เป็นสถานธรรม มีรูปปั้นจีนองค์ใหญ่ ขนาดเท่าคนจริง หลายองค์
    ที่รู้จักเห็นมี พระสังฆจาย เจ้าแม่กวนอิม พระที่สวมหมวกเหมือนพระราชาจีน และอีกหลายๆ องค์
    ฉันไม่รู้จักชื่อหมด แต่จำรูปร่างได้ และได้ร่วมกินอาหารเจ กับเพื่อนซึ่งไม่เคยหน้าหน้ากันมาก่อนเลย
    มาร่วมกินเจด้วยกัน เป็นภาพนั่งกันเป็นกลุ่มๆ วงกลมหลายๆ โต๊ะ… และเพื่อนๆทุกคนไม่เคยรู้จักกัน
    แต่สามารถสนิทกันได้โดยที่ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น และในที่สุด ภาพนั้นก็ค่อยๆ ปรากฏจริงเหมือนในฝัน

    คือโรงเจที่ใต้ถุนตึก ชมรมศินารานี่เอง เหมือนเปี๊ยบเลย น่าแปลกจริงๆ ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลย
    (แบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรนะ) วันนั้นอาหารเจอร่อยมาก ข้าวก็นิ่ม รสชาติเข้มข้น เลยกินไป 2 จานเลย...

    พอขึ้นมาชั้น 2 ที่ชมรม ประตูทางเข้า ฉันไปนั่งแอบๆ ประตู มองเห็นอ.ขาว กำลังรักษาคนโน้นที
    คนนี้ที...ฉันก็มองเธออยู่ห่าง ด้วยความอิ่ม ความความเพลีย หนังตาเริ่มตก เพราะความง่วง
    เริ่มเข้ามาเยือน...สักพักฉันตกใจอีกครั้ง เมื่อคุณเป้มาทัก แม่นกวันนี้ดูไม่สดใสเลย ไปนั่งหลบมุมอยู่ทำไม มานั่งตรงกลางนี้...

    อีตาคุณเป้นี่...กระชากอารมณ์ฉันอีกแล้ว...แถมยังหาว่าฉันจิตใจเศร้าหมองอีกต่างหาก...
    แต่ก็เชื่อฟังโดยดี เดินไปนั่งตรงกลางเพื่อพูดคุยกับเพื่อนคนอื่น เพื่อลืมความง่วง...แล้วก็ได้ผล
    จริงๆ แล้วฉันต้องขอบคุณคุณเป้มากๆ ที่คอยดูแล เป็นเพื่อนอย่างดี ไม่ว่าฉันจะทำอะไร
    คุณเป้คอยเป็นห่วงฉันและคอยถามทุกๆ คน ฮึ่ม รู้ไหม คนมาครั้งแรก มันรู้สึกอบอุ่นดีค่ะ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในศินารา

    ช่วงบ่าย

    เรามีการเป็นแยกกัน 2 กลุ่ม
    กลุ่มแรก ใครยังไม่ได้เปิดบารมี ต้องไปเปิดกับอ.ภราดรภาพ
    กลุ่มที่สอง ใครที่เปิดแล้ว ให้ไปเรียนหัตถเวชกับอ.ขาว

    ฉันอยู่กลุ่มที่ 2 ไปเรียนหัตถเวช เรียนไป ง่วงนอนไป เพราะเสียงอ.ขาว สู้กับเสียง อ.ภราดรภาพไม่ได้
    ผู้เรียนจึงสับสน ตั้งใจเรียนบ้าง ง่วงนอนบ้าง...สรุป เรียนไม่รู้เรื่อง แล้วคอร์ดอ.ขาวก็จบลง...
    มีเพื่อนกลุ่มเล็กๆไปรุมรอบอ.ขาว เพื่อให้รักษา...ฉันก็คิดว่าไหนๆ มาแล้วอยากให้อ.รักษาคงจะดี
    เลยรีบเข้าไปกระแซะ กระแซะ…ในใจบอกว่า ช่วยรักษาหนูด้วย
    และแล้วก็ถึงเวลารักษาของฉัน

    ต่อเนื่องจากเมื่อก่อนกินข้าว อ.ขาวบอกว่าฉันไม่ค่อยดูแลตัวเอง เห็นครั้งแรกในตัวฉัน
    เห็นแต่เด็กพิการแล้วได้ยินเสียงว่า อย่ามายุ่ง แต่อ.ก็ยังยืนยันว่าจะรักษาฉันอยู่ดี

    มีต่อ.....
     
  9. rapeepat

    rapeepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +138
    สอบถามเพื่อ...ขอความรู้เพิ่มเติม...หน่อยครับ อ.ภราดรภาพ
    1.ถ้าไป เปิดบารมี..วิชาสาม..เราจะสามารถ รับรู้อะไรบ้าง ครับ ในครั้งแรก ถ้าเปิดได้
    1.1ในกรณี ที่เปิดไม่ได้ มีเหตุ...อะไรบ้างเป็นตัวกำหนด ครับ
    ตามที่ผม..เข้าใจไม่ทราบ..ว่าถูกหรือไม่ถูก...รบกวน อ.ภราดรภาพ แนะนำเพื่อเป็น ทานประดับความรู้เพิ่มเติม ด้วยครับ
    - สิ่งที่ผม ไม่เข้าใจและสงสัย..มาตลอด คือคำว่า วาระเวลา
    ถ้าเป็น แบบที่ผมได้กล่าวไว้ ข้างต้น ก็เท่ากับว่า ทุกอย่างถูก กำหนดไว้แล้วหรือครับ
    รบกวน ด้วยครับ
    เด็กน้อยในแดนธรรม....
     
  10. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ต่อ...
    ทันใดนั้น เธอตบ...อก...ฉันอย่างแรง ชนิดที่ว่าไม่ได้ตั้งตัว มันทั้งเจ็บ ทั้งมึน ทั้งชา
    เหมือนมีก้อนหินมาหล่นทับโดยไม่รู้ตัว ผู้คนรอบข้างก็ตกใจ แต่ฉันซิ ตกใจยิ่งกว่า คิดว่าอกจะช้ำไหมนะ...
    (กลับบ้านไปเปิด อกช้ำเป็นรูปตัว V ของลักษณะเสื้อที่ใส่ไปเลย) แล้วเธอก็เริ่มตบอีก แต่ไม่แรงเท่าครั้งแรก
    ตบไปเรื่อยๆ อยากจะบอกว่า ตอนตบ น้ำตาเกือบล่วง ตบไปเล่าไป (เจ็บโครตๆ แต่ก็ต้องทน)
    แล้วบอกให้ฉันยกแขน ว่าแขนฉันขาวน่ะ แต่ภายในกำลังแย่แล้ว มดลูกก็ร้อน ตับทำงานหนักจนจะไม่ไหวแล้ว
    เธอบอกว่าฉันทำงานบุญมาก มีบุญมาก มากจนร่างกายรับไม่ไหว แรงบุญที่ให้ร่างนี้ พูดแล้วก็ยังงง???? ไม่หาย
    แต่สิ่งที่เด็ดกว่านั้นเธอบอกว่า

    ฉันพึ่งไปช่วยเหลือเด็กพิการคนหนึ่งมา แล้วรอดด้วย เจ้ากรรมนายเวรของครอบครัวนั้นเลยแค้น
    เลยมาผูกพยาบาทฉันแทน เพราะดันไปช่วยเค้าให้พ้นทุกข์ ในใจคิดว่า ตายละหว๋า ตั้งแต่ลูกพิการมา
    ก็ช่วยครอบครัวเด็กพิการเกือบ 100 กว่าครอบครัวแล้ว แล้วแบบนี้ เจ้ากรรมนายเวรไม่ 100 กว่าคนหรอ!!!
    ก็มาเกาะฉันแทนละซิ เลยถามอ.ขาวไปตรงๆ เธอบอกว่าใช่....

    จะดีใจหรือเสียใจดีกันแน่ เธอบอกว่า ต่อไปฉันจะเป็นมะเร็งมดลูก เพราะตอนนี้มดลูกร้อนมาก
    ฉันเคยอ่านหนังสือธรรมะ ท่านว่าคนเป็นโรคมะเร็งคือโรคเจ้ากรรมนายเวรมาเบียดเบียน
    และฉันกำลังสร้างกรรมใหม่คือการช่วยเหลือคนพิการให้พ้นทุกข์ แต่ทุกข์นั้นดันมาตกที่ฉันเอง...แล้วใครอยากจะทำดี...
    เป็นบททดสอบที่ฉันไม่ได้อวดตัวเอง ว่าสอบผ่านสบาย แม้รู้ว่าต้องเป็น (แต่ในใจไม่อยากเป็น) ก็ยังต้องทำต่อไปอยู่
    ไม่รู้ตัวเองซาดิส หรือเปล่าแต่ ปนิธานฉันแน่วแน่อย่างแรง เธอบอกว่า ภายนอกร่างกายดูสดใส
    แต่พลังภายในใกล้หมดแรงเต็มทีแล้ว (เธอรู้ได้ไงเนี๊ย) ใช่ ฉันกำลังหมดแรง แต่เหมือนว่าจะสู้จนตัวตาย...
    ไม่รู้สู้กับอะไร สู้ทำไม รู้แต่ทำแล้วมีความสุข พอไม่ทำ ชีวิตมันว่างเกินไป มันไม่ชิน เพราะครั้งหนึ่งน้ำท่วม หนีน้ำ
    ไม่ต้องทำอะไร ลูกก็ไม่ต้องเลี้ยงเพราะลูกหนีไปต่างจังหวัดแต่ตัวเองอยู่กทม. เพราะต้องทำงาน งานเด็กพิการก็ไม่ต้องจัด

    ไปทำงาน กินข้าว นอน ช้อปปิ้ง เล่นกีฬา ทำอะไรตั้งเยอะแยะ เวลาก็ยังเหลือ เอาแต่นอน นอน นอน ก็เบื่อ
    ไม่เหนื่อย แต่ไม่มีความสุขเลย ทุกครั้งที่เหนื่อยมากๆ ฉันจะคิดถึงช่วงหนีน้ำที่ชีวิตว่างเปล่า ไม่ชอบเลย

    อ.ขาว ไม่เพียงแต่รักษา แต่ก็หาทางแก้ไข บอกให้ฉันก่อนจะช่วยใคร ก็ให้เจ้ากรรมนายเวรคนนั้นเปิดทางให้และหลังรักษา
    ให้หมั่นแผ่เมตตาให้เพื่อกรรมจะได้ไม่ติดค้างกัน
    - ครอบครัวคนพิการพ้นทุกข์
    - เจ้ากรรมนายเวรของเด็กพิการได้รับกุศลผลบุญ ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น
    - ฉันก็จะไม่เป็นโรคมะเร็ง (เพราะแรงแค้นของเจ้ากรรมนายเวร)

    แต่ ฉันต้องช่วยตัวเองให้มากกว่านี้ โดยออกกำลังกาย เล่นโยคะ กินอาหารเพื่อขภาพ ล้างลำไส้ ไขมัน
    โดยกิน โยเกริ์ต น้ำผึ้ง มะนาว นมสด แล้วถ้าที่นี่เปิดบารมีก็มารักษาตัว มาเอาอะไรไม่ดีออกจากตัวไปบ้าง
    เดี๋ยวจะให้อ.กาโต้ช่วยอีกแรง

    ขอบพระคุณ อ.ขาวมากที่กรุณาแม่นกอย่างแรง แม่นกจะทำตามทุกอย่าง เพราะอยากมีสุขภาพดี
    เพื่อจะได้ช่วยเหลือคนอื่นไปได้อีกนานแสนนาน ไม่น่าเชื่อตอนแรกคิดว่าจะไปเรียนรักษา เพื่อมาช่วยคนอื่น
    แต่ตอนนี้กลับต้องมาบำบัดตัวเองก่อน ฮึ่ม…เป็นบุญของฉันจริงๆ

     
  11. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ต่อ....

    แล้วก็ถึงเวลานั่งสมาธิ...
    อ.ภราดรภาพให้นั่ง 45 นาที ใช่ฉันเคยฝึกมาก่อน

    ฉันก็เริ่มนั่ง...นั่งสักพัก...ขาขวา ขาขวา ค่อยหนักขึ้น หนักขึ้น หนักเหมือนเป็นเท้าช้างยกเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น
    เหมือนเท้าไม่ใช่เท้าของตัวเอง จับแล้วไม่รู้สึกว่าจับเท้า ฉันเริ่มกลัว สักพัก เท้าเจ็บ
    เหมือนมีใครเอาธูปมาจึ้เท้า มันทั้งร้อน ทั้งเจ็บ อยากนอนขดตัว เกร็งหงิกงอ แต่ต้านไม่กล้านอน อาย
    ได้แต่เอามือจิกเท้าให้รู้สึก แล้วในใจคิดว่า ทำไมฉันถึงเป็นอาการเป็นนั้น นึกถึงเจ้ากรรมนายเวรครอบครัวน้องปาย
    ที่ฉันพึ่งช่วยเหลือเธอไป ฉันบอกเจ้ากรรมนายเวรว่า เดี๋ยวฉันจะแผ่เมตตาให้ แล้วก็แผ่เลย...
    อาการเจ็บก็ไม่ยอมหาย ฉันจึงบอกใหม่ว่า พรุ่งนี้วันเกิดฉันจะไปทำสังฆทานให้ จากนั้น…อาการก็ค่อยๆ หายไป หายไป

    แรงจริงๆ รู้ปุ๊บ เจ้ากรรมนายเวรก็มาปั๊บเลย

    ฉันเริ่มนั่งต่อ...นั่งๆ อยู่ กำลังจะได้สมาธิ เหมือนมีใครมาสะกิดอย่างแรง จนสะดุ้งสุดตัว
    สะดุ้งแบบนี้ 4 ครั้ง จนในที่สุดอ.ภราดรภาพก็บอกค่อยๆ ลืมตา…

    หลังลืมตา...

    หนุ่มใจดี คุณเป้ มาถามด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอย่างไรบ้าง ฉันรีบเล่าให้ฟัง คุณเป้บอก ทำไมต้องรอพรุ่งนี้
    ทำไมไม่ทำวันนี้ แล้วคุณเป้ก็บอก เวลาแผ่เมตตา แผ่อย่างเดียวอาจไม่ได้ผล เราต้องแผ่แล้วให้ธรรมะกับเจ้ากรรมนายเวรด้วย
    คุณเป้ให้ฉันหลับตา แล้วแผ่เมตตาพูดตามคุณเป้

    ฉันเป็นศิษย์ที่เชื่อฟัง อ.เสมอ...จึงหลับตาแล้วแผ่ตามคุณเป้...เท่านั้นแหละ น้ำตาฉันไหล
    เสมือนหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ้ากรรมนายเวรคนนั้นซะเอง น้ำตาแห่งความสำนึกผิดที่ทำให้ฉันเจ็บ
    ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย

    ไม่เป็นไร ฉันให้อภัยเสมอ เพราะพระพุทธเจ้าบอกว่า การให้อภัย คือการให้ทานอันสูงสุด
    และในขณะที่ฉันกำลังพิมพ์เขียนด้วยความเพลิดเพลินอยู่นี้ ตัวฉันเหมือนขึ้นสูงๆ ต่ำ ๆ ตลอดเวลา
    ไม่ค่อยได้ยินเสียงรอบโต๊ะ ทั้งๆ ที่เสียงที่ทำงานดังมาก ทำไมเป็นแบบนั้น????

    ต้องขอบคุณคุณเป้อีกแล้ว ที่มาช่วยครั้งที่ 3

    และช็อตที่ฉันจะลืมไม่ได้เลยคือ

    ก่อนหลับบ้าน อ.ภราดรภาพ ให้ไปทดสอบกับอ. แล้วบอกว่า ฉันมีตัวเด็กติดตาม เสมือนว่าตัวเองไปทำแท้ง
    หรือกรรมที่เกี่ยวกับการทำแท้งมา...เพราะคิดว่าตัวเองคงทำนายไม่แม่น (อยากรู้ว่าผลสอบเป็นอย่างไรเหมือนกัน
    ตกหรือผ่าน คุณเป้เล่าให้ฟังหน่อยนะคะ) ฉันบอก อ.ว่า ไม่ได้ไปทำแท้งมา แต่รับอาสากรรมจากแม่ของตัวเอง
    ที่เกี่ยวกับการทำแท้งเยอะมาก เพราะไม่อยากเห็นแม่ป่วย หรือไม่สบาย เพราะแม่เล่าให้ฟังว่า ตัวเองทำแท้งพวกพี่ๆ
    ก่อนหน้าเราเยอะ แถมยังไม่พอพาน้องสาวตัวเองทำแท้งด้วย ดังนั้นคนที่สนใจพระพุทธศาสนาทุกท่าน
    มักรู้ดีว่าการทำแท้ง เป็นบาปมาก ทุกครั้งไหว้พระ ฉันจึงแผ่แมตตา และขอร้องพี่ๆของตัวเอง ว่าอย่าทำร้ายแม่เลย
    เพราะเหตุนี้หรือเปล่า วิญณาณเด็กจึงติดตัวฉันมาตลอดเวลา จากนั้นก็จบพิธี

    มีต่อ....
     
  12. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ต่อ ....
    18.00 น. แล้ว 

    ฉันอยากกลับบ้านแล้ว เพราะเป็นห่วงลูก จึงเข้าไปลาอ.ทุกท่าน และท่านสุดท้ายที่ลาคือ 
    อ.พงษ์ บัวสวรรค์ ขอบอกว่า อ.ท่านนี้ อ่านประวัติแล้ว เป็นอะไรที่จำประวัติท่านไม่ได้เลย จำได้แต่ชื่อ 
    แต่สิ่งที่ทำให้จำแม่นคือ ท่านหน้าตา อบอุ่นใจดีเหลือเกิน ท่านบอกว่า ไหนๆ ก็มาแล้ว 
    ให้มานั่งสมาธิตรงหน้าท่าน ฉันเริ่มงง ว่าท่านจะทำอะไร ท่านยกมือ ให้ฉันยกมือขึ้นตามท่านด้วย 
    ไม่รู้ภาษาว่าให้ยกทำอะไร  สักพักฉันเริ่มแกว่งแขน ท่านแกว่งตาม แกว่งไป แกว่งมา 
    แรงฉันเริ่มมากขึ้น มากขึ้น มากจนสั่น สั่น เออ สั่นเหมือนชาวบ้านที่สั่นเลย

    ทำไมสั่น งงตัวเอง แต่ไม่ได้แกล้งสั่น แล้วน้ำตาก็ไหล ไหล ทำไมน้ำตาต้องไหล จนขี้มูกโปร่ง 
    แล้วสักพัก มือที่ปะทะกันก็มีความนุ่ม อ่อนโยน เบา สบาย ฉันอยากพูดอะไรก็ไม่รู้เป็นภาษา จำได้ว่า
    เป็นภาษาสรรเสริญเจ้าแม่กวนอิม น้ำตา และน้ำมูกยังไหลอยู่ ร้องไห้ ราวกับเป็นสายน้ำ

    อ.พงษ์ บัวสวรรค์บอกว่า สิ่งที่แม่นกทำ สวรรค์รับรู้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้ ท่านช่วย ท่านเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ 
    และเรื่องของพ่อแม่ของแม่นก จงจำไว้ว่า อย่าโทษตัวเอง ท่านเกิดมามีทั้งบุญ ทั้งบาป 
    มีบุญตรงที่มีเราเป็นลูก ส่วนบาป เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของใครได้ ทำได้ก็แค่เพียง 
    ชักชวนให้พ่อแม่มาทำบุญ 

    อ.ยิ่งพูด ฉันก็ยิ่งร้องไห้ มองหน้าท่าน ที่มีแต่ใบหน้าอ่อนโยน เมตตาอย่างที่สุด หน้าท่่านยิ้ม 
    ยิ้มทั้งหน้า ตา จมูก โดยเฉพาะปาก อบอุ่นเหมือนเป็นพ่อก็ว่าได้ บอกตามตรง ฉันไม่เคยรู้ว่าพ่อ 
    จริงๆ แล้วเค้าก็ทำหน้าที่อะไรให้ลูกบ้าง ไม่รู้ว่าความรักของพ่อที่ปรารถนาดีกับลูกในทางธรรมเป็นอย่างไร 
    แต่สัมผัสถึงความห่วงใย ความปรารถนาของอ.พงษ์ได้ จากใบหน้า คำพูด ท่าทาง กริยา 
    ที่มอบให้ฉันด้วยความจริงใจ มันเอิบอิ่มหัวใจอย่างบอกไม่ถูก มันทำให้ฉันแม้กายจะเหนื่อย 
    แต่หัวใจมันเอิบอิ่ม เชื่อไหม ในขณะที่พิมพ์อยู่นี้ ฉันขนลุกตลอด เพียงนึกถึงหน้า อ.พงษ์ 
    ที่มอบความเมตตาให้ในวันนั้น จนฉันอยากก้มกราบท่าน ท่านบอกไม่ต้อง ถ้าอ.เป็นผู้หญิง 
    ฉันคงเข้าไปกอดสักครั้ง แต่ท่านเป็นผู้ชาย คงไม่เหมาะสม จึงอยากจะฝากบอกผ่านตัวอักษรว่า
    วันนั้นอบอุ่นมาก รู้สึกไม่อ้างว้างเดียวดาย มีคนอื่นรู้ในสิ่งที่เราทำด้วยความตั้งใจ ด้วยความบริสุทธิ์ 
    ยิ่งทำให้มีพละกำลังมากขึ้นไปอีก

    อ.ถามว่าแม่นกเกิดมาเพื่ออะไร...ฉันบอกไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กพิการอย่างถึงที่สุด 
    ให้พวกเค้าพ้นทุกข์ให้ได้ จากสิ่งที่เราเคยทุกข์อยู่ มันเป็นหน้าที่ ที่ต้องต่อสู้กับความโหดร้ายของโรค 
    ต่อสู้กับกิเลสของคนอื่นที่ต้องการหาผลประโยชน์จากเด็กพิการ ต่อสู้กับจิตใจตัวเองว่าเข้มแข็งพอที่จะช่วยคนอื่น 
    ยืนกรานได้มากแค่ไหน และต้องการสร้างความเจริญให้ครอบครัวเด็กพิการให้มีอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ 
    ให้ทัดเทียมกับประเทศที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ที่ฉันไปดูงานมา... ฮึ่ม ชั่วชีวิตนี้ จะทำทันไหมนะ
    และในวันเกิดปีนี้ ฉันย่างอายุ 41 แล้ว เป็นปีมหาโชคที่สุด ได้พบแต่คนดีๆ ที่มาช่วยฉัน 

    ฉัน 1 คน ช่วยเด็กที่บ้าน เป็น 10 กว่าคน

    แต่ตอนนี้ คนที่ศินารา และคณะทีมทำงาน ไม่ทราบว่ากี่คน มาช่วยฉันคนเดียว
    นี่คือผลบุญที่ช่วยเหลือคนที่ตอบสนองมาหลายเท่าหรือเปล่าก็ไม่รู้

    แต่ที่ขอบคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เปิดทางให้ฉันรู้จักทุกๆ คน คงเป็นใครไม่ได้ นอกจากอ.ภราดรภาพ
    ที่ครั้งแรกโทรไปหาอาจารย์ ท่านรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว แถมให้เกียรติ์ฉัน เป็นแขกพิเศษเสมอ
    และคิดว่า ต่อไปถ้าฉันพอมีเวลาว่างช่วยเหลือเด็กพิการแล้ว จะให้ช่วยอะไรก็ยินดีเสมอค่ะ

    ฉันจะไม่มีวันลืมวันเกิดวันนี้เลย
    เวลาล่วงเลยมาจนถึง 18.30 น. ได้เวลากลับบ้านแล้ว ก่อนกลับบ้าน
    คนเดิม คุณเป้ ส่งลาด้วยสายตา 
    ขอให้กลับบ้านดีๆ เพราะคุณเป้ต้องทำหน้าที่ช่วยอ.ภราดรภาพอยู่ไปส่งไม่ได้

    ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากขอบคุณทุกๆ คนที่นี่ และคิดว่าเพียงแค่คำขอบคุณ 
    คงน้อยเกินไปสำหรับมิตรภาพอบอุ่นของชมรมศินารา

    ขอบคุณมากค่ะ
    แม่นก (ปล. เขียนไปขนลุกไป)
     
  13. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ขออนุญาติ ตอบแทนอาจารย์ภราดรก่อนนะครับ ช่วงนี้อาจารย์ยุ่งๆเรื่องงานบวชอยู่(แกเป็นเจ้าภาพ) อาจจะไม่ได้มาตอบ

    1.ถ้าไป เปิดบารมี..วิชาสาม..เราจะสามารถ รับรู้อะไรบ้าง ครับ ในครั้งแรก ถ้าเปิดได้

    ตอบ ถ้าเปิดผ่าน รับรู้ด้วยตัวเองเลยคือ คนที่ไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เชื่อเรื่องที่คนทำท่าทางแปลกๆ ก็จะเชื่อ เพราะเกิดกับตัวเองครับ และเมื่อกลับไปต่อยอดปฎิบัติเอง สำหรับผู้ที่มีของเก่าเยอะ หรือตั้งใจปฎิบัติมากแล้วถูกทางพอดี จะได้พบได้เจอครูบาอาจารย์(องค์เทพ)ด้วยตัวเอง ทั้งภาพก็ดี เสียงก็ดี มาคอยชี้แนะแนวทางในการปฎิบัติตนครับ (ทำให้ชีวิตดีขึ้น รู้วิธีแก้ปัญหา)

    1.1ในกรณี ที่เปิดไม่ได้ มีเหตุ...อะไรบ้างเป็นตัวกำหนด ครับ ตามที่ผม..เข้าใจไม่ทราบ..ว่าถูกหรือไม่ถูก...รบกวน อ.ภราดรภาพ แนะนำเพื่อเป็น ทานประดับความรู้เพิ่มเติม ด้วยครับ

    ตอบ เปิดไม่ได้มีหลายปัจจัย
    ๑ คือการปฎิบัติบำเพ็ญบารมียังไม่เท่าระดับครูบาอาจารย์ คือยิ่งครูบาอาจารย์ระดับสูง ก็ต้องบำเพ็ญมาก ถึงจะสื่อได้หรือเปิดบารมีผ่าน เช่นเป็น สายพระ ถ้าไม่รักษาศีลให้ดี ก็เปิดไม่ผ่าน แต่ในขณะที่ สายเทพ เน้นที่การสร้างบารมีด้วยการให้ทานเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นวิญญาณ ไม่ต้องมีศีล ไม่ต้องมีธรรม เข้าได้หมด(ผีเข้า) สำหรับคนที่ปฎิบัติไม่ดี จนครูบาอาจารย์ตนเองถอย วิญญาณจะเข้ามาหลอกหลอนได้(หลอกว่าเป็นเทพ เพื่อใช้งานเรา)

    ๒ ความลังเลสงใส ศรัทธาน้อย หรือไม่มีความศรัทธาอยู่เลย ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถเปิดผ่านได้

    ๓ เคยไปสร้างกรรมหนักไว้ เช่นทำแท้ง วิญญาณเด็ก จะมาขวางระหว่างครูบาอาจารย์ กับเรา ทำให้เปิดบารมีไม่ผ่าน แต่บางคน วิญญาณเด็กจะเข้ามาในร่างแล้วเพื่อฟ้อง หรือมาบอก สิ่งที่ตนต้องการได้

    - สิ่งที่ผม ไม่เข้าใจและสงสัย..มาตลอด คือคำว่า วาระเวลา
    ถ้าเป็น แบบที่ผมได้กล่าวไว้ ข้างต้น ก็เท่ากับว่า ทุกอย่างถูก กำหนดไว้แล้วหรือครับ
    รบกวน ด้วยครับ


    ตอบ วาระ มีหลายจังหวะเลยครับ ถูกกำหนดมาบ้าง แต่อีกส่วนก็อยู่ที่ตัวเราด้วย และผู้ที่มีบุญสัมพันด้วย

    ๑ ถึงวาระที่ครูบาอาจารย์เวียนมาพอดี พร้อมลงประทับ
    ๒ มีผู้เป็นสื่อกลางช่วยน้อมนำ ในที่นี้หมายถึง เจ้าพิธี
    ๓ ตัวกายสังขาล พร้อมที่จะรับการผ่านญาณบารมี

    ถ้าไม่ครบองค์ ก็จะเปิดไม่ผ่านครับ
     
  14. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    กรรมทำแท้ง.....สะท้านกรรม จากผู้ผ่านการเปิดบารมีวิชชาสาม

    เรียน อ.ภราดรภาพ


    อาจารย์คะ ได้ไปเปิดบารมีวิชชาสามเมื่อวันที่ 5 พ.ค.แต่ยัีงไม่ผ่าน ที่ไปพร้อมกับสามี
    เปิดไม่ผ่านทั้งคู่ ติดกรรมเรื่องแท้งลูกค่ะ ไม่ทราบอาจารย์จำได้ไหม
    หลังจากกลับมาก็พากันไปไหว้พระแก้วมรกต ไปไหว้ศาลหลักเมือง ไหว้พระแม่ธรณี สวดมนต์ไหว้พระ

    นั่งภาวนาทุกวัน อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และลูกที่เสียไป นั่งภาวนาทุกครั้งนั่งได้ไม่เกิน 20 นาทีค่ะ

    ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น มาวันนี้สวดมนต์ ขออโหสิกรรม ภาวนาเหมือนทุกๆครั้ง แต่นั่งสมาธิซักพัก

    ร่างกายก็เริ่มขยับเอง ตัวโน้มไปข้างหน้า ในจิตที่เห็น เห็นเหมือนหน้าเด็กทารกที่อยู่ในท้องแม่นะคะ
    ลักษณะตัวเค้าเหมือนขดตัวอยู่ในท้องแม่ ใจเราก็นึกถึงลูกเลย แล้วเราก็อุทิศบุญให้เค้า ขอขมากรรมกับเค้า

    ซักพักมือของเราเริ่มขยับไปเองคล้ายๆ กับร่ายรำมือขวาข้างเดียวค่ะ ตกใจเหมือนกันแต่ก็พยายามภาวนาพุทโธๆ

    ไปเรื่อยๆ มือก็ขยับมาท่านั่งสมาธิเหมือนเดิม ต่อมาตัวก็เริ่มโน้มไปข้างหน้าจนหัวแทบจะติดพื้น
    แล้วค้างอยู่อย่างนั้นนานมากๆ จนสามีเดินเข้ามาเราเลยลุกขึ้่นนั่งปกติ ระหว่างที่ตัวขยับอยู่นั้น
    น้ำตาไหลพรากเลยค่ะ
    ดูเวลานั่งสมาธิไปได้ 1 ชั่วโมงแต่เหมือนผ่านไปแป๊บเดียวเองค่ะ
    ไม่ทราบว่าอาการแบบนี้
    ใช่การแสดงอัตลักษณ์ของครูบาอาจารย์ของเราหรือเปล่าค่ะ
    เพราะตอนทำพิธีที่วัดเรายังเปิดไม่ผ่านเลย
    และอย่างนี้แสดงว่าลูกของเราเค้าให้อภัยกับเราแล้วหรือเปล่าคะ

    ขอบพระคุณอาจารย์มากนะคะ

    วันที่ 9 มิ.ย. จะไปเปิดบารมีอีกครั้งค่ะ ลงชื่อไปแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

     
  15. rapeepat

    rapeepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +138

    ขอ อนุโมทนา บุณกับท่าน ด้วยครับที่ให้ความกระจ่าง ในการนี้

    ผมขอเพิ่มรายระเอียดเพิ่มเติม..เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น....ทุกตัวอักษร..เป็นความเข้าใจ ส่วนตัว...บางครั้งอาจ.จะมีความเข้าใจที่ไม่ตรง กับหลายๆท่าง ต้องขออภัย..ก่อนล่วงหน้ากับ ทุกท่านด้วยครับ..ร่วมถึงเจ้าของกระทู้ด้วยครับ....

    มนุษย์เราเกิดมาจะมีองค์บารมีคุ้มครองสังขารกันทุกคน..จะเป็นองค์เทพ พรหมหรือสัมภเวสี ก็แล้วแต่กุศลมูลเดิมหรือสัญญาที่ได้ทำกันไว้ ตั้งแต่อดีตชาติ การเชิญองค์บารมีของตนเองมาประทับร่าง หรือเรียกว่า การเปิดพระโอษฐ์ ใช่ว่าเมื่อเปิดแล้วจะได้เป็น คนทรง หรือ ร่างทรง กันทุกคนไป เพราะว่า มีสำนักทรงจำนวนมากที่เทพของตนเอง ไม่มีหน้าที่ หรือว่าไม่มีบารมีพอ ที่จะเปิดพระโอษฐ์ได้ แต่ชอบที่จะใช้ คำพูดเพื่อที่จะให้พ้นตัวไปว่า ยังไม่ถึงเวลา คือถ้าหากจะพูดว่าตัวเองเปิดไม่ได้ ก็จะทำให้ คุณค่าของอาจารย์นั้นดูด้อยลงไป ทำให้เกิดการหลงทาง บอกไปผิดๆ ว่าของศิษย์เป็นเทพองค์ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเชิญ ท่านลงมาประทับ บ้างท่านจะสื่อกับสังขารมาภายในจิตเอง อย่านี้เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการยกย่องศิษย์คนนั้นไปในตัว เพื่อที่จะได้ผูกใจศิษย์ คนนั้นไว้ ให้หลงอยู่กับเจ้าสำนัก เพื่อที่จะได้ลาภสักการะต่อไป....

    องค์บารมีประจำสังขาร ถ้าเปรียบกับพระไตรปิฎก (คนที่มีไว้แต่ไม่เคยเปิดอ่านเลย หรือเมื่อเปิดอ่านแต่ก็ไม่เข้าใจ ก็คงต้องมีพระมาแปลให้ และแม้ว่าจะได้รับพระธรรมคำสั่งสอน ของพระพุทธองค์ ที่ตกทอดกันมา 2449 ปีก็ตาม หากไม่ได้ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ ก็หาเกิดประโยชน์อันใด แก่ผู้อ่าน )องค์บารมีประจำสังขารก็เช่นเดียวกัน เมื่อไม่ได้เปิดองค์ประทับร่าง ก็มีไว้เพียงคุ้มครองเจ้าของร่าง ได้เป็นบางคนเท่านั้น (แต่ไม่ทุกคน) หากองค์บารมีคุ้มครองสังขารมนุษย์ได้ทุกคน คนเราก็คงไม่ประสบเคราะห์กรรม เจ็บป่วย ไม่ประสบอุบัติเหตุ ไม่ถูกผีเข้า หรือคุณไสย และอีกประการหนึ่ง องค์บารมีก็ไม่สามารถ ป้องกันร่างจาก เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ ได้

    การเปิดพระโอษฐ์ หรือการเปิดให้คนเราพูด ภาษาเทพได้ จะทำให้เทพที่คุ้มครอง ร่างของเราสามรถมาประทับร่างได้ บางคนได้สร้างสมบารมี ไว้ในอดีตชาติมามาก มีกุศลมูลเดิมมามาก เมื่อเปิดแล้วจะพูดภาษาเทพได้อย่าง คล่องแคล่ว ภายในเวลาอัน รวดเร็ว ซึ่งปฏิบัติอีกไม่นาน ก็สามารถ สื่อสารกับ องค์บารมี เป็นภาษา มนุษย์ได้ ส่วนมากองค์เทพเหล่านี้ จะลงประทับร่างเพื่อคุ้มครองร่างเท่านั้น
     
  16. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม
    ค่าใช้จ่าย 299 บ.


    1) คุณทองกร 1
    2) คุณทองกร 2
    3) คุณ VitVian 1
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ baimon22
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum
    10) คุณพิทยาธร
    11) คุณณาตยา
    12) คุณปิยะวัฒน์
    13) คุณ Fleur_gib 1
    14) คุณ Fleur_gib 2
    15) คุณ Fleur_gib 3
    16) คุณ chpu2555
    17) คุณ sanannan (พรหมพิริยะ) ชำระเงินแล้ว
    18) คุณสิงหราช 0802209281
    19) คุณณัฏฐชัย
    20) คุณเติมบุญ
    21) คุณทัชดล (พิทยาธร)
    22) คุณวินิต (พิทยาธร) ชำระเงินแล้ว
    23) คุณ Champion ชำระเงินแล้ว
    24) คุณ pik
    25) คุณสลักจิต
    26) คุณบุญสม
    27) คุณพงศธร 1
    28) คุณพงศธร 2
    29) คุณพงศธร 3
    30) คุณพงศธร 4
    31) คุณพงศธร 5
    32) คุณพงศธร 6
    33) คุณ nongninew 1
    34) คุณ nongninew 2
    35) คุณพงษ์ทณัฐ
    36) คุณประทีป
    37) คุณ jirapornkongmun
    38) คุณ sorot
    39) คุณ wukecheng 1
    40) คุณ wukecheng 2
    41) คุณธานินทร์ moon111 (1)
    42) คุณหทัยรัตน์ moon111 (2)
    43) คุณอมรินทร์ (โต)

    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 43 คน
    คงเหลือ 27 คน

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  17. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    สำหรับผมยังไงก็ยังมองว่า สำคัญที่คุณเรียกว่า การเปิดโอษนั้น ไม่ได้เกี่ยวที่เจ้าพิธีจะมีบารมีพอหรือไม่พออะไรหรอก มันอยู่ที่บารมีตัวเราเองทั้งนั้น ถ้าเราปฎิบัติไม่ดี สร้างแต่กรรมชั่ว บารมีไม่สร้าง ไม่มีใครเปิดให้ผ่านได้หรอกครับ

    ถ้าบำเพ็ญบารมีด้วยตัวเอง สุดท้ายก็ย่อมต้องสื่อได้ แต่ว่าแต่ละคนมีเวลาไม่เท่ากัน แต่การเปิดบารมีวิชชาสาม เหมือนเป็นการสื่อสารกับครูบาอาจารย์ เพื่อให้ท่านเมตตา ลดระยะเวลาบำเพ็ญให้เราหน่อย บางท่านบารมีใกล้จะเต็มแล้ว ก็สามารถเปิดผ่านได้ แต่ถ้าใครที่ไม่เคยสร้าง มีสะสมไว้น้อย ยังไงก็ไม่ผ่าน ต้องกลับไปปฎิบัติอยู่ ผมไปลองมาหลายที่แล้ว ที่รับเปิดโอษ โม้ว่าทำได้ ๑๐๐% ไม่มีใครหน้าไหนทำได้หรอกครับ เพราะมันไม่ได้ขึ้นกับเขาทั้งหมด ผมไปลองมาหมดแล้ว ใครที่ว่าเก่งๆ สามารถเปิดโอษ เปิดบารมี ให้ครูบาอาจารย์(ครูบาอาจารย์นะ ไม่เอาผี)มาลงประทับผมได้ละก็ ให้มาเลย เพราะผมก็ติดคำว่า วาระเหมือนกัน และวาระนี้ มันอยู่ที่การลดละนิวร ซึ่งก็คือการปฎิบัติของตนเองนั่นแหละ พวกคนที่ไม่เคยปฎิบัติ ทุศีล สร้างกรรมไม่ดีไว้เยอะ แล้วไปสำนักโน้นนี่นั้น แล้วเปิดผ่าน แน่ใจหรือว่าเป็นเทพ นั่นน่ะผีทั้งนั้น ตนเองปฎิบัติได้เท่าไร สิ่งที่ได้ก็เท่านั้นแล เมื่อรักษาศีล แบบผีๆ ก็ได้ผีๆมาอยู่เป็นองค์ ถ้ารักษาศีลเป็นพระ ก็ได้องค์พระ หลักๆก็มีเท่านี้เอง ผีก็พูดภาษาแปลกๆได้ ถ้าคนไปเปิดตามสำนักผี แล้วโดนครอบผีมา เจ้าตัวก็หลงเชื่อศรัทธางมงายอยู่แล้ว โดนผีหลอกให้ทำอะไรก็เชื่อ เชื่อว่าผีมันเป็นเทพ อันนี้น่าเศร้า สังเกตุง่ายคนโดนผีเข้า อารมณ์แปรปรวน รั้นหัวชนฝา ก้าวร้าว เก็บตัว พูดคนเดียวเป็นเรื่องเป็นราว เพ้อเจ้อ

    เรื่องร่างทรง มันขึ้นกับการปฎิบัติของตน ถ้าเราไม่ฝึกจิต(ทำสมาธิ) เพื่อให้กำลังจิตเรามีกำลัง ที่จะต้านทานสายญาณบารมีนั้นๆได้ ก็เป็นร่างทรงไปทั้งชาติ เราพัฒนาตนเองต่อยอด ให้ข้ามจุดนั้นไปได้ เมื่อจิตเรามีกำลังมากขึ้น เราจะพัฒนาเป็นญาณแฝงไปเอง คือองค์มา แต่ควบคุมเราไม่ได้ แต่เราได้ยินและสื่อสารกับท่านผ่านจิตนั่นแล

    จะเป็นอะไร ร่างทรง คนมีองค์ หรือญาณแฝง ก็สุดแท้แต่ตัวเองเป็นคนเลือกทั้งสิ้น บารมีไม่ถึง ขี้เกียจปฎิบัติ เปิดไม่ผ่าน ไม่ใช่เรื่องที่จะไปโทษคนอื่น ต้องโทษตนเองเท่านั้นแล
     
  18. rapeepat

    rapeepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +138
    บุญใดกุศลใด..ที่ คุณ tsukino2012 ร่วมถึง อ.ภราดรภาพ และทุกท่านที่คิดดีทำดี มีจิตเป็นกุศลมูลดี เพื่อสร้างคุณประโยชน์ ที่ดี ร่วมถึงพัฒนาจิตใจ และเป็นสื่อกลาง ขององค์เทพ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ใดๆ ขอให้ทุกท่าน เจริญด้วยญาณ บารมี มีกุศลมูลยิ่งๆขึ้นไป เพื่อบำเพ็ณเพียรเพื่อช่วยเหลือ ผู้ตกทุกข์และสืบสาร พระพุทรศาสนาต่อไป และขอให้ทุกท่านถึงจุดที่ใจตั้งมั่นและตั้งหวังด้วย เถิด ขออนุโมทนา บุณกับทุกท่าน ด้วยครับ

    เด็กน้อยในแดนธรรม....
     
  19. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ขอพรนั้นจงย้อนกลับไปสำเร็จสู่ท่าน ด้วยเถิดดดดดดดด
     
  20. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม

    1) คุณทองกร 1
    2) คุณทองกร 2
    3) คุณ VitVian 1
    4) คุณ VitVian 2
    5) คุณ VitVian 3
    6) คุณ baimon22
    7) คุณ odet
    8) คุณอะอุ
    9) คุณ fondadum
    10) คุณพิทยาธร
    11) คุณณาตยา
    12) คุณปิยะวัฒน์
    13) คุณ Fleur_gib 1
    14) คุณ Fleur_gib 2
    15) คุณ Fleur_gib 3
    16) คุณ chpu2555
    17) คุณ sanannan (พรหมพิริยะ) ชำระเงินแล้ว
    18) คุณสิงหราช 0802209281
    19) คุณณัฏฐชัย
    20) คุณเติมบุญ
    21) คุณทัชดล (พิทยาธร)
    22) คุณวินิต (พิทยาธร) ชำระเงินแล้ว
    23) คุณ Champion ชำระเงินแล้ว
    24) คุณ pik
    25) คุณสลักจิต
    26) คุณบุญสม
    27) คุณพงศธร 1
    28) คุณพงศธร 2
    29) คุณพงศธร 3
    30) คุณพงศธร 4
    31) คุณพงศธร 5
    32) คุณพงศธร 6
    33) คุณ nongninew 1
    34) คุณ nongninew 2
    35) คุณพงษ์ทณัฐ
    36) คุณประทีป
    37) คุณ jirapornkongmun
    38) คุณ sorot
    39) คุณ wukecheng 1
    40) คุณ wukecheng 2
    41) คุณธานินทร์ moon111 (1)
    42) คุณหทัยรัตน์ moon111 (2)
    43) คุณอมรินทร์ (โต)
    44) คุณ khunnang
    45) คุณ pimmanee
    46) คุณทัตพงศ์ (จากสงขลา)
    47) คุณระพีพัฒน์

    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 47 คน
    คงเหลือ 23 คน

    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695


    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...