ไฟประหลาดใต้น้ำตก

นานหลายทศวรรษแล้ว ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าไฟใต้น้ำตกอีเทอนอลเฟรมของนิวยอร์ก ลุกโชนไม่รู้จักดับจากก๊าชในชั้นหิน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบล่าสุดของนักวิจัยสหรัฐฯ ปฏิเสธทฤษฎีดังกล่าวโดยสิ้นเชิง แต่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้อย่างชัดเจนว่ามันเกิดจากกระบวนการใด

เหล่านักค้นคว้าวิจัยจากมหาวิทยาลัยอินดีแอนา พบว่าชั้นหินใต้อุทยานเชสนัท ริดจ์ เคาน์ตี อันเป็นที่ตั้งของน้ำตก ไม่เพียงพอสำหรับผลิตก๊าซ ซึ่งนั่นหมายว่าธรรมชาติคงมีกระบวนการอื่นที่สามารถผลิตก๊าซได้เพียงพอสำหรับหล่อเลี้ยงเปลวเพลิงให้ยังลุกไหม้ชั่วกัลปาวสาน

ทั่วโลกมีไฟไม่รู้ดับทางธรรมชาติหลายร้อยแห่ง และแต่ละแห่งสันนิษฐานว่าก๊าซทางธรรมชาติจากชั้นหินโบราณเบื้องล่างที่เรียกกันว่าชั้นหินดินดาน คือสิ่งหล่อเลี้ยงเปลวเพลิงให้ยังคงลุกโชติช่วง อย่างไร
ก็ตาม อาร์นด์ท ชิมเมลมันน์กับเหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอินดีแอนา พบว่าชั้นหินที่อยู่ใต้เปลวเพลิงน้ำตกในนิวยอร์ก ไม่เพียงพอสำหรับก่อปฏิกิริยาเช่นนี้ได้

เชื่อกันว่าเปลวไฟชั่วนิรันดร์ที่อยู่ใต้น้ำตกอีเทอนอลเฟรมในนิวยอร์ก ถูกจุดด้วยคนพื้นเมืองอเมริกันหลายพันปีก่อน อย่างไรก็ตามจากผลวิจัยล่าสุด ชิมเมลมันน์ ระบุชั้นหินมีอุณหภูมิแค่ประมาณหนึ่งเท่านั้นและที่สำคัญมันไม่ได้เก่าแก่อย่างที่คิดไว้แต่แรก

ด้วยทั้งสองปัจจัยจึงหมายความว่าชั้นหินใต้น้ำตกในนิวยอร์ก จึงไม่สามารถสร้างก๊าซธรรมชาติได้เหมือนเหล่าเปลวเพลิงที่ไม่รู้จักดับอื่นๆทั่วโลก และพวกนักวิจัยก็ยอมรับไม่ทราบจริงๆว่ากระบวนการผลิตก๊าซใต้น้ำตกนิวยอร์กเกิดขึ้นจากวิธีการใด

ตามทฤษฎีแล้ว อุณภูมิของชั้นหินต้องอยู่ใกล้จุดเดือดของน้ำหรือร้อนกว่านั้น เพื่อสลายโมเลกุลคาร์บอนในชั้นหิน และปฏิกริยาเหล่านี้จะเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดก๊าซทางธรรมชาติ


http://manager.co.th/lite/ViewNews.aspx?NewsID=9560000057448

 

ขอบคุณความรู้ดีๆที่นำมาให้ทราบค่ะ

ธรรมะสวัสดี ^-^

ขออนุโมทนา สาธุจร้า

สาธุ สาธุ สาธุ]

 

น่าจะมีแหล่งก๊าซอยู่ใต้ชั้นหิน

 

สาธุ... สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมาได้นั้น ย่อมมีเหตุปัจจัยของมันอยู่เสมอ
และแท้จริงแล้ว มันก็เป็นของมันอยู่เช่นนั้นเอง

ขออนุโมทนาสำหรับธรรมทานด้วยนะครับ สาธุ

 

เห็นแล้วอยากไปนั่งเล่นใต้น้ำตกจัง....ใครอยากฝึกกสินไฟ ก็สบายเลย นั่งเพ่ง นั่งมอง ไม่ต้องกอไฟ หรือกลัวไฟไปไหม้ที่อื่นได้เลย.....อากาศก็คงไม่ร้อนนัก อยู่ใกล้น้ำ ธรรมชาติสร้างสรร

 

ขอบคุณสำหรับ สาระครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ

 

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ

 

ลอง search หารูปดูซูมใกล้ๆดูใน google แล้วจะเห็นต้นลมของไฟ จะเป็นเพลิงสีฟ้าชัดเจนลอยๆขึ้นมาก่อนจะมาเป็นเพลิงสีส้ม-แดง เปลวเพลิงไม่มีควันถ่านดำจากการเผาไหม้วัตถุเลย น่าจะเป็นก๊าซบริสุทธิ์ และ เป็นสารระเหยที่ไวไฟมากๆและไม่ทิ้งเขม่าคราบดำบนพนังของถ้ำ แถมยังไม่ดับในสภาพความชื้นสูงแบบเดียวกับไฮโดรเจน ไม่ใช่จากการเผาไหม้น้ำมันหรือถ่าน อาจเป็นขบวนการแยกไฮโดรจากน้ำโดยปัจจัยธรรมชาติ ณ จุดๆนั้นก็เป็นได้เพราะข้อสงสัยคือมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดพันๆปี ถ้าน้ำแห้งอาจจะดับก็เป็นได้ครับแต่โอกาสเป็นแบบนั้นจะน้อยกว่าเรื่องก๊าซมากครับ แต่ยังไงดูแล้วก็ชอบมากครับ ขอบคุณมาก

 

เปลวไฟชั่วนิรันดร

 

มาฝึกกสินที่อุทัยบ้างซิน้องชาย
พ่อแม่พี่น้องคิดถึงนะจ๊ะpity_pig

 

อ่านกระทู้นี้แล้ว ทำให้แน่ใจว่าบั้งไฟพญานาคท่าจะมีจริงๆ เพราะคล้ายๆกัน

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ไม่เคยรู้เลยว่ามีอะเรื่องเเปลกเรื่องนี้

 

ปล่องภูเขาไฟ แบบแตกรอยออกมาเหมือนสายแร่ แต่ไม่ถึงกับลาวาพุ่งออกมา ก็เลยออกมาแค่เปลวไฟ (อันนี้คิดเล่นๆ แบบฝรั่งครับ)