มีวิธีทำให้ตัดใจจากแฟนได้ไหมครับ ..

เพราะว่าด้วยการเสพคุ้นในสิ่งๆนั้น (เสพความสวย,เสพคารามณ์,เสพกลิ่น,เสพสัมผัส และเสพทางใจ(เวลาเค้าอยู่ใกล้ๆ เราไม่เหงา)) จะทำให้โหยหา เมื่อลาจาก ดั่งคนเสพยา แล้วลงแดง

ต้องอาศัยการบำบัด อาศัยเวลา จึงจะกลับมาเป็นปกติ

ไม่ใช่แค่คนอย่างเดียวที่ต้องอาศัยเวลา สรรพสิ่งก็ต้องอาศัยเวลา เช่นพืชบ้านเี่รา เข้าไปอยู่ทะเลทราย มันก็อาจตาย ได้ทันที หากแต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป มันก็จะปรับตัวได้ อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ไม่นานก็แกร่งยิ่งพืชทะเลทราย เป็นแน่นอน

อาศัยเวลาพาให้ลืม แล้วย่นเวลาด้วยพฤติกรรมที่ทำให้ลืม

พืชไม้เค้าก็ไม่ใช้แต่เวลา เขาพึ่งกลไกแห่งตนที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา ประสานกับสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับเขาหาสภาพแวดล้อมให้ได้ เพื่อความอยู่รอด

เราก็เหมือนกันนอกจากอาศัยเวลา ให้หาสั่งคำสอน และการปฏิบัติ ที่พอให้บรรเทาทุกข์ ให้เรามีสุข ไว้ แล้วเสพมันเข้าไป เดี๋ยวก็ลืมเอง เรื่องแฟน

 

ขอบคุณครับ

 

ถ้าคุณตัดสินในะไปพึ่ง บารมีหลวงพ่อจรัญ ท่านแล้วคุณต้องตั้งสัจจะว่าจะอยู่กี่วัน 3,5,7วัน


แล้วต้องทำให้ได้เมื่อวันที่ดิฉันกลับออกมานั้น ที่วัดมีคนไปปฏิบัต 1600 คน เยอะมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้จะ

เยอะเหมือนเมื่อ อาทิตย์ที่แล้วมั้ย ขอให้คุณตั้งใจปฏิบัติให้ดีค่ะ คุณจะชนะทุกสิ่ง ที่สำคัญชนะใจตัวเอง

ได้ "เมื่อก่อนดิฉันก็ปฏิบัติจริงค่ะ แต่ปฏิบัติไม่ถูกวิธี สวดมนต์ก็เช่นกัน สักแต่ว่าสวดๆไปแล้วแผ่เมตตา

กรวดน้ำ ซึ่งมันไม่ถูกวิธี เจ้ากรรมนายเวรเขาก็ไม่ได้รับบุญนั้นๆ พึ่งมาเข้าใจก็เมื่อไปที่วัดนั่นแหละค่ะ

ก็เลยนำและจำปฏิบัติที่บ้าน และคิดว่ามีโอกาสก็จะกลับไปปฏิบัติอีก '



ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าค่ะ

 

3 วันครับ ตั้งใจไว้แล้ว พรุ่งนี้จะเดินทางครับ เจออุปสรรคยังไงก็สู้ครับ ขอบพระคุณครับ

 

ก็เพราะโดนทิ้งจึงทำให้เห็นทุกข์ ก็เพราะเห็นทุกข์จึงทำให้เข้าหาธรรม

สรุป ฟันธง ที่เกิดขึ้นกับคุณโชคดียิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1

 

ความรักนี้หนอ ทำให้มนุษย์เราไม่ว่าชายหรือหญิง ต้องเสียใจ เป็นเรื่องธรรมดาของการไม่สมหวังโดยเฉพาะเรื่อง 'ความรัก' เพราะมีเรื่องของการคาดหวังอยู่ด้วยไงล่ะคะ เอ๊ะ เอ๋ อ่านดูแล้วอาจจะคิดว่า เอ๊ ยัยคนนี้ ช้าก่อนค่ะ กะเคยเหมือนกันหละค่ะ ใจร้าวเหลือเกินแล้วใจเอย(u)...มันเป็นบทเรียนชีวิต

ดิฉันทำแบบนี้ค่ะ(คิดงก ๆ แบบนักบัญชี) debit เข้ามาก่อน และกะค่อยๆ credit ออกไปแล้วในวันนี้และก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ก็จะเป็น profit แล้วหละค่ะ เป็นภูมิต้านทานอย่างนึงค่ะ กะถ้าไม่มีบทเรียนบทนี้ในชีวิตตอนนู๊นนนนน .. เราจะไปเข้าใจหัวใจของคนอื่นได้อย่างไร โดยเฉพาะบริวารของเราเอง ลูก หลาน เพื่อนน่ะ แต่เอาน่า สู้สู้ สะสมไว้ วันนึงคุณได้ใช้ความรู้สึกตอนนี้ช่วยใคร ใคร ได้อีกหล๊าย หลายเลยค่ะ ขออนุโมทนา ล่วงหน้าเลย

ยากกกค่ะที่ผ่านพ้นความรู้สึกเหล่านี้ ก็แหม..นะ ตัดใจนะ ไม่ใช่ตัดกระดาษ ขนาดตัดกระดาษ..เรายังต้องใช้กรรไกร แล้วตัดใจล่ะ..กะต้องใช้เวลานะซี
ตอนนั้น.. กะด้ายแต่คิดว่า วันนี้ไม่มีเขาแล้วหมู่เฮาจะอยู่ได้งัย :'( และพรุ่งนี้จะเดินยังไงล่ะหืออ... ใช้เวลา 3 เดือนเต็ม ๆ สวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็น ณ ตอนนั้นจำได้เลย จัดทำหนังสือสวดมนต์เล่มแรกว่า "ทางธรรม" รวบรวมทุกบทสวดนั่นละเช้า-เย็น เช้า-เย็น 3 เดือนเต็ม หลุดค่ะ ไม่ใช่หลุดโลกนะคะ กรรมเรื่องความรักผิดหวัง น่าจะถูกลัดเลาะ กระเทาะกรรมไปแล้วแหละ ถึงกลับมาได้ และก็ได้เริ่มเข้าสู่ร่มเงาของศาสนานับแต่นั้นมา หมั่นทำบุญ ทำทาน ถือศีล ภาวนา และตอนนี้นึกย้อนกลับไป อยากจะเขก กะโหลก [Embarrass ตัวเองจิงจิง คิดเข้าไปด้ายยย จะอยู่ยังไง ก็จมูกมีกะหายจัยเข้าจิ จะเดินยังไง ขาก็อยู่นี่นา คนๆ นั้นไม่ได้ตัดไปด้วยจักหน่อย

ทีนี้ลองพิจารณาดูนะคะ... อะไรฤา จึงทำให้ท่าน จขกท. คิดว่าตัวเองดีน้อยกว่าคนอื่น แย่จัง เราต้องมีศรัทธาในตนเองนะคะ ก่อนที่จะให้คนอื่นศรัทธาในเรา คิดว่าตัวเราเองทำดีที่สุดของเราหรือยัง ถ้าดีแล้ว ก็อย่าเสียใจนาน เวลามันเดินไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เคยหยุดรอใครสักที กว่าจะรุ้ตัว ว๊า เสียดายจัง..หลงไปทำไรอยู่ตั้งนาน ในช่วงเวลานี้จะคิดถึงก็คิดไป ยังอยากรักก็รักไปค่ะ แต่ต้องมีวันเลิกรานะ ขนาดงานเลี้ยง สนุกจะตาย ยังมีเลิกรา แล้วเรื่องเศร้า ๆ เราจะเก็บไว้ทำไมนาน จิงไหมคะท่านนน อิอิ ^_^

โมทนาสาธุค่ะ กับการจะไปปฎิบัติธรรม สุดยอดเลยค่ะ เห็นไหมคนมีปัญญามักจะมองเห็นหนทางดับทุกข์ แต่ก่อนจะไปปฎิบัติธรรมนะคะ เห็นถามอยู่นิดนุงว่า ขอคำแนะนำที่ทำให้ตาสว่าง ก็เปิดไฟไว้ใก้ล ๆ ตาก็ได้ค่ะ (i)หลังจากนั้นก็ใช้น้ำตา..หรือน้ำสะอาดที่สุดเลยค่ะ ชะล้างมันซะ ครั้งเดียวก็เกินพอนะ นะ

ขอยืนยันด้วยเกียรติ์ที่ครั้งนึงเคยเป็นเนตรนารี และเป็นหัวหน้าหมู่ด้วยนะคะ ว่าคุณก้าวผ่านได้แน่แน่ สู้ สู้ เอาใจช่วย ใช้ธรรมะ เทอราปี ไปก่อนนะ เจริญสติ บ่อย ๆ แผ่เมตตาแยะ แยะค่ะ ^^ สาธุธรรมค่ะ

 

ถาม – จะตัดใจจากคนรักเก่าได้อย่างไรคะ?

พยายามทุกวิถีทางแล้ว ทั้งอ่านหนังสือ ทั้งสวดมนต์ ทั้งทำใจคิดต่างๆนานา พอใช้อุบายอย่างหนึ่งๆก็เหมือนจะได้ผลบ้าง

แต่พอเวลาผ่านไป ใจก็วกกลับมาที่เก่าอีก กลุ้มใจมาก เหมือนจะไม่สามารถตัดได้ขาดอย่างแน่นอนตลอดไป




ดังตฤณ - ที่คุณอ่านหนังสือ สวดมนต์ หรือพยายามนึกคิดไปต่างๆเพื่อให้เกิดการตัดใจนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นแค่ยาแก้ปวดชั่วคราว คุณไม่ได้กำจัดตัวเชื้อโรคที่ฝังอยู่ในตับไตไส้พุงออกไปเลย ฉะนั้นพอยาแก้ปวดหมดฤทธิ์ เชื้อโรคก็มาผลัดเวรแผลงฤทธิ์ต่อ


อาการที่ถูกต้องของการถอนพิษรักนั้น ไม่ใช่ความพยายาม ‘ตัดใจ’ เพราะใจเป็นสิ่งที่ไม่มีคมมีดชนิดไหนๆตัดได้ขาด พฤติกรรมทางจิตที่ถูกต้องคือ ‘สละออก’


ซึ่งเป็นอาการที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย เนื่องจากเคยชินที่จะ ‘เอาเข้าตัว’ กันทั้งนั้น ซึ่งนั่นแหละครับคือการเพาะชำนิสัยหวงทุกข์ หวงยางเหนียวยึดติดกับปฏิกูลทางอารมณ์โดยแท้


แต่ละคนมีพลังหรือศักยภาพในการสละออกแตกต่างกัน และศักยภาพดังกล่าวนี้ไม่ใช่มีกันด้วยความบังเอิญ กับทั้งไม่ใช่ความสามารถเฉพาะทาง


จิตที่มีดี ที่สามารถสลัดขยะหรือปฏิกูลทางอารมณ์ออกได้ง่ายนั้น คือจิตของผู้ที่เคยชินกับการสละออกเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เฉพาะเรื่องรักใคร่หรือเรื่องเงินๆทองๆอย่างใดอย่างหนึ่ง


นี่เป็นการมองภาพกว้างภาพรวม ถ้าคุณ
อ่านเกมของจิตออก จะเห็นความสัมพันธ์ทั่วถึงกันหมด


ไม่มีใครฝึกเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการตัดรัก แต่ทุกคนสามารถฝึกที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสละอารมณ์ส่วนเกินกันได้ทุกแง่


เมื่อพูดถึงการฝึก คุณจะต้องนึกถึงการทำไปตามลำดับขั้น จากง่ายไปหายาก ในที่นี้คุณจะฝึกสละ ก็ต้องไล่ลำดับจากการให้ในสิ่งที่สามารถให้ได้ง่ายๆก่อน


สำคัญคือคุณต้องทำเป็นประจำ จนกระทั่งจิตเกิดความชินในอารมณ์อยากให้ อยากสละออก


ตามหลักการแล้ว การสละทรัพย์เล็กๆน้อยที่เป็นส่วนเกินของตนให้ผู้อื่นหรือสัตว์อื่น จัดเป็นอุบายฝึกจิตคิดสละขั้นพื้นฐาน ยกตัวอย่างเช่นถ้ามีหมาแมวจรจัดมาเข้าบ้าน (ซึ่งพบได้เป็นปกติทั่วทุกหัวระแหง)

คุณเหลือเศษอาหารเช้าหรือเศษอาหารเย็นที่จะทิ้งอยู่แล้ว ก็แค่เอาใส่จานให้พวกมัน หรือแม้ถ้าคุณอยู่ในเขตที่มีน้ำมีบ่อซึ่งสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ เพียงสาดน้ำล้างจานอาหารที่มีเศษข้าวเศษเนื้อติดอยู่ลงไป โดยคิดว่าดีแล้ว เศษอาหารนี้จะตกถึงปากถึงท้องพวกสัตว์ในน้ำ นี่พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสว่าเป็นที่มาแห่งบุญเช่นกัน


อย่าดูถูกว่าการให้ของเล็กน้อยเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเมื่อคุณให้จนเป็นอารมณ์ชินที่จะสละแล้ว ก็เป็นการเพาะนิสัยในทางทาน เป็นผู้สามารถให้โดยไม่จำเป็นต้องให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน


อานิสงส์ของการเป็นบุคคลเช่นนั้นแหละ คือที่มาของกำลังของใจ ที่มาของความสามารถสละขยะส่วนเกินออกจากใจโดยง่าย

หากคุณยังไม่มีกำลัง ยังไม่รู้จักความสุขในการสละออก การทิ้งขยะย่อมยาก แต่เมื่อเริ่มเป็นสุขกับการทิ้งขยะบ้างแล้ว พอเกิดอารมณ์อาลัยบุคคลหรือวัตถุไร้ค่าใดๆ ใจก็ฉลาดพอจะเริ่มเห็นตัวอารมณ์นั้นเป็นส่วนเกิน


ตรงนี้ต้องฝึกด้วย คือฝึกเห็นว่าตัวอารมณ์อาลัยนั่นแหละเป็นส่วนเกิน ทำนองเดียวกับเห็นเศษอาหารเหลือทิ้ง หรือเสลดสกปรกในปากที่ไม่จำเป็นต้องอมไว้


ยังไม่ต้องหวังว่าจะทำได้อย่างดีในระยะเริ่มต้น แต่คุณจะพบว่าหากหมั่นฝึกสละของเล็กๆน้อยๆ ฝึกสละความถือโกรธผูกใจเจ็บ ฝึกกระทั่งเจียดเงินส่วนเกินของรายได้เพื่อทำบุญทั้งกับคนอนาถาซึ่งอยู่ต่ำกว่า เรื่อยไปจนถึงพระสงฆ์องค์เจ้าผู้มีศีลสัตย์ผู้อยู่สูงกว่า ในที่สุดจิตจะมีอานุภาพมากขึ้นเรื่อยๆ


เพราะเกิดพลังความสว่าง มีศักยภาพสูงในการคิดสละ ซึ่งเมื่อบวกกับการฝึกหัดมองให้เห็นชัดว่าอารมณ์อาลัยเป็นเพียงปฏิกูลของจิต ในที่สุดคุณก็จะสลัดได้ราวกับคนถ่มเสลดลงพื้นโดยปราศจากความหวงแหนแม้แต่น้อยครับ


ถาม – เวลาใครพูดถึงแฟนเก่าให้ฟังก็คิดมากขึ้นมาอีก หรือฝันถึงเขาอีก ทั้งที่คล้ายตัดใจได้เด็ดขาดไปแล้ว อย่างนี้แปลว่าใจเราลึกๆยังมีเขาอยู่ใช่ไหมคะ?



ดังตฤณ - ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ การคิดว่าส่วนลึกยังตัดไม่ขาดนั้นออกแนวลึกลับ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจอะไรตรงตามจริงขึ้นมา พิจารณากันสดๆตามเรื่องที่เกิดขึ้นดีกว่า


คนเรานั้นเดิมทีมีดวงจิตที่เป็นอิสระอยู่ แต่พอคิดถึงใคร พอพูดถึงใคร ใจก็เกิดกระแสโยงไปเชื่อมกับคนๆนั้นทันที


ขอให้คุณลองนึกถึงภาพตัวเอง เห็นในใจราวกับเป็นใครอีกคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ตามลำพังในที่โล่งๆ จากนั้นจินตนาการดูว่าถ้าภาพนั้นคิดถึงใคร หรือพูดถึงใครขึ้นมา ก็จะมีกระแสผูกพันเข้ากับบุคคลนั้นเกิดขึ้นทันที

อย่างไรก็ตาม พอคิดจบ หรือพูดจบ กระแสความผูกพันนั้นจะหายไป เว้นแต่คุณจะยังคงคิดพะวงถึงใครอีกคนอยู่เรื่อยๆ กระแสความผูกพันก็จะยังมีอาหาร ยังมีตัวหล่อเลี้ยงเอาไว้ไม่ให้ขาด


พูดง่ายๆว่าคุณสร้างพันธะขึ้นมาด้วยความพะวงคิดถึง ถ้ายังตัดนิสัยความพะวงคิดถึงไม่ได้ พันธะก็เกิดขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ ต่อให้ตัดใจจากคนเก่าไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม


สิ่งที่ล่อให้เกิดความพะวงคิดถึง มักเป็นญาติหรือบุคคลใกล้ชิดกับแฟนเก่า หรือไม่ก็เป็นการเจอตัวแฟนเก่าตรงๆ


ภาพที่กระทบตา เสียงที่กระทบหูในขณะหนึ่งๆนั่นเองจะสะกิดให้นึกถึงเรื่องดีๆในหนหลัง


เว้นเสียแต่จะมีความทรงจำที่เลวร้ายมาหักลบ หรือจิตใจหันเหไปทางคนอื่น หรือใจผูกพันกับภาวะโสดอิสระแน่นแฟ้นกว่าภาวะมีห่วงคล้องคอ อันนั้นเองภาพและเสียงที่เกี่ยวข้องกับแฟนเก่าจึงจะหมดอิทธิพลกระทบใจคุณอย่างสิ้นเชิง


หากสังเกตอาการทางจิตของตัวเองอย่างใกล้ชิด คุณจะพบว่าการคิดถึงใครสักคนมี ๒ ขั้นใหญ่ๆ

๑) ขั้นที่สักแต่คิดถึงเฉยๆ ความผูกพันเบาบาง ขั้นนี้พอมีสิ่งอื่นมากระทบหูกระทบตา ใจคุณจะหันเหไปทางใหม่ทันที โดยไม่รู้สึกหลงเหลือเยื่อใยตกค้าง


๒) ขั้นที่เกิดปรากฏการณ์เสมือนมียางเหนียวยื่นออกจากใจคุณไปแปะติดกับบุคคลอันเป็นเป้าหมาย ขั้นนี้ต่อให้มีสิ่งอื่นมากระทบหูกระทบตา ใจคุณคล้ายเรือที่ถอนสมอไม่ขึ้น ต้องแช่นิ่งอยู่ที่เดิมนั่นเอง
พันธะหรือยางเหนียวเป็นสิ่งที่หน่วงเหนี่ยวให้ใจขาดอิสรภาพ ขาดความโปร่งสบาย ขาดความเป็นตัวของตัวเอง ยิ่งเหนียวแน่นเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกคับแคบ ทึบแน่น และมีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนอื่นมากขึ้นเท่านั้น


ในกรณีของคุณ หากทราบว่าพันธะเกิดจากความพะวงคิดถึงหรือพูดถึง ดังนั้นวิธีตัดวงจรความผูกพันอย่างง่ายๆก็คือเลิกพูดถึงเขาเสีย และเมื่อใดรู้ตัวว่าคิดถึงเขา ก็หาเรื่องอื่นมาเปลี่ยนความคิดเสียแทน

หรือถ้าหลีกเลี่ยงที่จะคิดถึงและพูดถึงไม่ได้ ก็ให้รู้เท่าทันตัวเองว่ากำลังคิดในขั้นเฉยๆหรือคิดในขั้นที่มียางเหนียว


เรื่องพื้นๆ ธรรมดาๆ แต่คนส่วนใหญ่จะนึกไม่ถึงกันครับ ความผูกทางจิตทางใจนั้นเกิดขึ้นง่ายแสนง่าย และต่อเยื่อต่อใยติดใหม่ไม่ยากเย็นเลย ไม่จำเป็นต้องอาศัยพลังลึกลับหรือไสยศาสตร์ใดๆเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น แต่ในทางกลับกันก็อาจตัดเยื่อตัดใยได้สบายๆเหมือนกัน ขอเพียงคุณมีสติเท่าทันขณะของการเกิดความคิด สังเกตเข้าไปเห็นได้ชัดๆว่าปฏิกิริยาทางใจของตัวเองเป็นอย่างไร เกิดยางเหนียวหรือยัง ยางเหนียวเป็นคุณหรือเป็นโทษ


เมื่อใจยอมรับว่ายางเหนียวเป็นโทษ ทำให้เกิดความอึดอัดคับข้อง ในที่สุดก็เกิดปัญญาด้วยตนเอง เห็นว่าไม่น่าคิดมากให้เกิดยางเหนียวไปเปล่าๆ


คุณจะเป็นนักตัดใจ หรือเป็นคนอกหักที่ได้ดีรวดเร็วกว่าใครๆ กับทั้งมองออกไปเห็นความจริงที่เกิดขึ้นกับคนทั้งโลก คือคนทั้งโลกไม่รู้ตัว ไม่รู้เท่าทันกลอุบายตื้นๆของกิเลส ไม่เห็นกันเลยว่าเพียงปราศจากอาการทางใจที่ยื่นยางเหนียวไปเชื่อมกับใคร สายใยก็จะหลุดไปเอง

และขอเพียงมีสติ มีความเข้าใจกลไกของจิตตรงจุดนี้ดีๆ คุณจะแก้ปัญหาได้ครอบจักรวาลทีเดียว ไม่เฉพาะเรื่องคนรักเก่าเท่านั้น



ถาม – เรากำลังทรมานมาก แฟนเราเพิ่งบอกเลิกด้วยเหตุผลระหว่างเราที่ไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้ เนื่องจากมีความสัมพันธ์แบบยากที่จะถูกยอมรับ เราเข้าใจเหตุผลดี แต่การมีเขาอยู่ทำให้เราอุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว ทรมานใจเหลือเกินกับการต้องอยู่ไปวันๆโดยไม่มีเขา ถ้าไม่เหนี่ยวรั้งเขาไว้เราจะอยู่ยังไง


ดังตฤณ - อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกทิ้ง ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายเลือกที่จะทิ้งขยะชิ้นหนึ่งออกจากใจ


อย่าคิดว่าเราต้องเป็นฝ่ายเหงา ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายเลือกพักร้อนอย่างสบายใจสักระยะ

อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายทรมาน ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายเลือกทำความสุขให้แก่เขา


อย่าคิดว่าเราควรเหนี่ยวรั้งเขา ให้คิดว่าเราควรเป็นฝ่ายให้อิสระเป็นทานแก่คนอื่น


ถ้าเปลี่ยนมโนกรรม (กรรมทางความคิด) จากมืดเป็นสว่างได้ ชีวิตก็จะสว่างเองครับ จิตที่สว่างย่อมอบอุ่นเป็นสุข มีแต่ใครๆวิ่งมาหา มีแต่ความอิ่มเต็มเบิกบาน มีแต่อยากได้อิสระให้ตนเองและใครๆทั้งโลก

จำไว้ว่าทำใจได้ก็เจอคนใหม่ได้ แต่ถ้าทำใจไม่ได้ก็เจอแต่น้ำตากลิ่นเก่าท่าเดียว


ให้ตัวคุณในวันนี้เป็นคนเลือก อย่าให้ตัวคุณที่ตายไปแล้วเมื่อวานเป็นคนเลือก




ที่มา:

 

คุณพินิจธรรม ไม่มีใครเป็นที่พึ่งเราได้เท่ากับใจของเรา อดีตเหมือนนาฬิกาที่เดินผ่าน เหมือนสายน้ำที่ที่รินใหล ตัวเราเอ็งจะเข้าใจเรามากที่สุดเป็นกำลังใจให้ครับ dank

 

ขอให้ท่านรับมือกับเรื่องราวต่างๆอย่างมีสติ เมื่อท่านใช้สติในการตรึกตรองปัญหาดูแล้วท่านก็จะเกิดปัญญารู้และเข้าใจเรื่องราวต่างๆที่มันเกิดขึ้น ส่วนเรื่องของอารมณ์ ก็ขอให้เรียนรู้และเข้าใจมันต่อไปครับ แต่ขอให้ท่านอดทนและมีกำลังใจ ครับ เรื่องราวต่างๆก้อจะผ่านไป ครับ สู้ๆๆนะครับ



ความรัก นั้น มีก็ทุกข์ ไม่มีก็ทุกข์ แต่ถ้าเข้าใจความรักได้ ก็จะไม่เป็นทุกข์ครับ

 

คุณถามวิธีมาเนี่ยครับ ผมฟันธงว่าไม่ว่าใครจะมีคำแนะนำแสนดียังไง คุณก็ทำไม่ได้หรอกครับ เพราะคุณไม่ได้ต้องการคำตอบจริง ๆ แม้กระทั่งการที่จะไปปฏิบัติธรรมเพื่อหนีปัญหา มันก็คือการหนีและชั่วคราวเท่านั้น (แต่ก็ยังดีที่หันหน้าเข้าหาธรรมะมากกว่าไปดื่มเหล้า เที่ยวหญิงครับ)

ผมอยากให้คุณลองนึกตามนะครับ นึกด้วยสติ ผู้หญิงที่เฉดหัวคุณทิ้งทันทีที่รู้ว่าคุณมีหนี้เนี่ย มันน่าเอามาทำพันธุหรือครับ? ต่อให้สวยน่ารักแค่ไหนแต่ถ้าแต่งไปแล้วแม่งออกไปล่อกับทุกคนที่มีเงิน คุณจะมีความสุขจริง ๆ หรือครับ? มันไม่มีคนภายนอกที่ไหนหรอกครับเค้าจะมารักเราจริง ๆ อย่างที่พระท่านนึงเคยกล่าวไว้ รักกันมากนักลองเอาถ่านร้อน ๆ วางบนหัวคนละก้อน คุณจะปัดที่อยู่บนหัวคุณก่อนหรือปัดให้แฟนคุณก่อนครับ (เอาจริง ๆ นะครับ ไม่เอาคำตอบแนวหล่อสวยแลดูดี)

สงกรานต์นี้นะครับ กลับไปหาแม่นะครับ เอารดน้ำดำหัวท่าน เอาน้ำมาล้างเท้าท่าน ขอขมาท่านและพาท่านไปกินข้าวดี ๆ ครับ เพราะนี่คือผู้หญิงคนเดียวและคนสุดท้ายที่พร้อมจะตายแทนคุณได้แบบจริง ๆ ครับ อย่าไปยึดติดกับรักแบบหญิงชายมากครับ มันว่างเปล่าครับ จริง ๆ

 

ชอบประโยคนี้เพราะว่าชัดเจนดีค่ะคุณ Dank :VO (f)

 

ขอโทษด้วยนะครับที่ออกความคิดเห็น คือว่า ผู้หญิงน่ะชอบผู้ชายเข้มแข็งครับ ผู้ชายที่พูดจริงทำจริง รักษาสัญญา ไม่ขี้เกลียด มองแต่อนาคต ถ้าผู้หญิงไปจากเรานั้นก็น่าจะแสดงว่าเราต้องมีบางอย่างแหละครับที่เค้ามองเห็นแล้วว่าอยู่กันไปตัวเขาก็จะลำบาก เค้าก็มีสิทธิเลือกสิ่งที่เค้าคิดว่าดีให้กับตัวเค้าครับ ไม่มีใครอยากได้หัวหน้าครอบครัวที่ไม่เข็มแข็ง ไม่ขนขวาย น่าเบื่อ หลอกครับ ผมไม่ได้ว่าคุณเจ้าของกระทู้ว่าไม่เข็มแข็งนะครับ แต่ผมกำลังจะบอกจะคนที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ว่า ดูที่ตัวเองให้มากๆ รู้จักสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง อย่าท้อกับปัญหา ทุกอย่างมีทางแก้ อย่างน้อย เวลามันก็จะแก้ของมันเอง เข้าวัดได้ แต่เข้าวัดแล้ว ออกจากวัด แล้วยังไงต่อ ต้องคิดด้วย ชีวิตที่เหลือ ไม่ใช่แค่สามวันในวัดนะครับ หรือถ้าออกจากวัดแล้ววันหนึ่งคุณเจอเหตุการณ์คลายๆแบบนี้อีก คุณก็เข้าวัดอีกอย่างนั้นหรือครับ ผมว่าถ้าจะแก้ แก้ที่ตัวเองดีกว่ามั้ย หาอะไรทำ อย่าทำตัวให้ว่าง จุดมุ่งหมายคืออะไร ไปให้ถึง ยิ้มกับทุกคน ไม่คิดเอาเปรียบใคร เดี๋ยวเงินมาคุณก็มีความสุขเองละ พอมีความสุขแล้วค่อยเข้าวัด ดีกว่ามั้ย เป็นผู้ชายที่ใช้ได้น่ะ ไม่ใช่ของง่ายหรอกนะครับ แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไม่ได้ ถูกบ้างผิดบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ทำเต็มที่แล้วหรือยัง ถ้าบอกว่าทำเต็มที่แล้ว แล้วมันยังไม่ได้ ก็แสดงว่าคุณยังไม่เต็มที่กับมันจริงๆหรอกครับ ต้องพยายามให้มาก ตั้งใจ อย่าหวั่นไหว พูดน้อย ทำมาก ผู้หญิงเค้าจะเห็นเองว่าอะไรแข็งอะไรอ่อน เป็นที่พึ่งของเค้าได้ ขอบคุณครับที่อ่าน

 

แก้จุดบกพร่องของตัวเอง

พอมีความสุขแล้วค่อยเข้าวัด ดีกว่ามั้ย ...............

///////////////////////////////////////////////////////////////////////

OK ครับ ตามนั้น (ช่วงหยุดสงกรานต์ทางวัดไม่สะดวก)

ส่วนเธอจะไป ก็แล้วแต่จะไป ห้ามไม่ได้ ผมตัดใจละครับ .....

ขอบคุณสำหรับความเห็นดี ๆ ของทุกท่าน ....

จะแ้ก้สิ่งไม่ดีของตัวเอง พัฒนาสิ่งที่ดี และใช้ธรรมะ รักษาใจควบคู่กันไปครับ

ขอบคุณครับ

 

กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

สิ่งดีๆที่สร้างกันมาก็ทำให้เกิดความผูกพันทางใจ (ที่ดี) ตรงข้ามถ้าสร้างสิ่งร้ายๆให้กันมา (ก็เกิดความแค้นเคืองทางใจ)

ทั้งหมดเป็นธรรมดา ทุกคนต่างแสวงหาความสุขความสะดวกสบาย เขาไป เราทำใจ กาลเวลาจะช่วยให้ดีขึ้น

 

แหม่ กำลังกินขนมอย่างอร่อยเห็นรูปแล้วอิ่มกะทันหัน

เป็นกำลังใจให้นะคะ เดี๋ยวคุณต้องได้เจอคนที่รักคุณ ในสิ่งที่คุณเป็น

และอย่าลืมรักตัวเองด้วยนะคะ catt1

 

เดี๋ยวก็ดีขึ้น มันเป็นไปตามธรรมชาติ
ตอนนี้คุณทำได้แค่เฝ้าดูมัน รู้ว่าเมื่อไหร่คิดถึง หรือโกรธ เกลียด แค่รับรู้ มันเกิดเมื่อไหร่ก็รู้เท่านั้นเอง เดี๋ยวมันก็เข้ากฏไตรลักษณ์เอง คือไม่เที่ยง เดี๋ยวเวลาผ่านไป ถึงตอนนั้นคุณจะจำรายละเอียดได้แค่ร่างๆ แทบไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งคุณเคยเสียใจจะเป็นจะตายเพราะคนๆนี้ แล้วจะร้องว่า เราไม่น่าเสียเวลาเศ้ราใจนานขนาดนั้นเลย

อกหักบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน ^__^ เราเป็นบ่อย จนชิน แรกๆอาจจะเสียใจนาน เป็นปีเลย แต่หลังๆ อกหักเป็นว่าเล่น เลยเริ่มเหลือ แค่อาทิตย์สองอาทิตย์ มันเป็นไปตามธรรมชติ ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนแปลงไป

 

ศาลา นารี วิถี คงคา ไม่มีใครเป็นเจ้าของ

 

ผมว่านะ ถ้าแฟนคุณทิ้งเพราะคุณเป็นหนี้สิน ผมว่านั่นไม่ใช่รักแท้หรอกครับ

แค่การเปลี่ยนผันของกรรมที่อาจทำให้คุณได้เจอคนที่รักคุณจากตัวคุณมากกว่า

ปฏิบัติธรรมลองสมถะกรรมฐานดูสิครับให้ใจสงบแล้วลองพิจารณาดูจิตตัวเองดูว่าฟุ้งซ่านแค่ไหน สู้ๆๆนะครับ อกหักไม่ยักกะตายนะ