พระพุทธรูปกอดสีกานั่งคร่อมบนตัก โผล่เวียดนาม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อีโต้, 28 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมศึกษาแต่พระไตรปิฏกไทยครับ แค่ไทยผมก็ศึกษาไม่หมดแล้ว ญี่ปุ่น และ จีน เป็นของฝ่ายมหายาน ผมไม่อยากศึกษาครับ แค่แนวคิดแต่ละลัทธิก็มากเกินพอศึกษา จนเป็นรูปต้นแบบของกระทู้นี้ไง....วัชระยาน ตันตระยาน....แล้วผลเป็นอย่างไร.....อย่าว่าแต่เถรวาทเองไม่เห็นด้วย มหายานด้วยกันเองยังแบน...

    พระไตรปิฏกไทยในเรื่องของ มงคล ๓๘ นั้นบอกชัดว่า ให้บูชาบุคคลที่ควรบูชาเป็นมงคลของชีวิต อย่างหนึ่งในมงคล๓๘ ประการ....

    ในเรื่องของบุพกรรมเรื่องอานิสงค์ต่างๆในเรื่องของการบูชาเจดีย์ เป็นเหตุอุปนิสัยให้พระอรหันต์หลายรูปบรรลุธรรม เรื่องชาดกต่างๆในสมัยพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมี ....ตลอดจนในเรื่องของการฝึกกรรมฐานในส่วนของพุทธานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ผมว่าแค่นี้คงเพียงพอที่จะตัดสินได้ในเรื่องนี้ เพราะถ้ามองถึงคุณประโยชน์ย่อมมีมากกว่าที่จะกล่าวได้แต่เพียงที่จะยึดว่าให้สร้างหรือไม่ให้สร้างอย่างไร

    ก่อนที่คุณจะพูดเรื่องพระไตรปิฏกอย่างไรนั้นผมว่าคุณควรที่จะศึกษาพระสูตรในคืนสุดท้ายก่อนการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ในเรื่องมหาประเทศ ๔ ก่อนแล้วค่อยมาพูดกันเรื่องพระไตรปิฏก.....
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ หรือ พระสถูปเจดีย์

    ใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถระ-เถรีคาถา ศึกษาได้ที่นี่ครับ มีกัลญาณมิตรได้รวบรวมไว้แล้ว....


    http://www.relicsofbuddha.com/page6-xp3.htm
     
  3. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ญี่ปุ่นจีน ผมไม่อยากศึกษา เพราะผมอ่านไม่ออก ดีกว่าไหมครับ แล้วที่พูดเรื่องวัชรยาน นี่คุณรู้เรื่องนิกายนี้ดีแล้วหรือ คุณบอกไม่อยากศึกษาแสดงว่า ไม่รู้อะไรเลย หรือรู้บ้างแต่ไม่แน่ใจว่าใช่ไหมใช่ปะครับ แล้วคุณว่ามันไม่ง่ายไปหน่อยหรอที่จะพูดในสิ่งที่คุณไม่รู้นะ

    ส่วนมหายานและเถรวาทไม่เห็นด้วย แล้วสองนิกายนี้เคยเห็นด้วยซึ่งกันและกันหรือเปล่า ก็เปล่า ไม่งั้นคงไม่มีเถรวาทมีมหายาน นี่ไม่นับแต่ละสำนักในเถรวาทในมหายานที่ไม่เห็นด้วยซี่งกันและกันนะ นับประสาอะไรกับวัชรยานที่เขาไปยกตัวเองขึ้นมาเป็นอีกยานหนึ่ง ก็เป็นธรรมดาที่ทั้งเถรวาทและมหายานจะไม่เห็นด้วย ก็เหมือนทางวัชรยานเขาก็ไม่เห็นด้วยกับทางเถรวาทและมหายานเหมือนกัน
    ต้องมองหลายๆๆด้านหน่อยคุณ

    อีกอย่างตันตระแบบพุทธนี่ต่างจากฮินดูนะ และตันตระแบบฮินดูก็มีหลายแบบนะไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระไปทั้งหมด ตั้งแต่หมายถึงวิธีทำสมาธิ 112 แบบ ไปจนถึงโยคะแบบหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับปราณ ช่องทางต่างๆๆภายใน เชนยังมีตันตระเลยคุณ อย่าไปตีคลุมหมด ต้องดูว่าเขาใช้ในความหมายแบบไหนด้วยตันตระ นี่มันได้หลายความหมายนะ ตั้งแต่วิธีทำสมาธิ อุบายในการทำสมาธิ นี่เขาก็เรียกว่าตันตระนะ ไปจนถึงการหมกหมุ่นในกามแบบไม่ลืมหูลืมตาภายใต้ความคิดว่าคุณเสพไปมากๆๆ คุณจะรู้เองว่ามันไร้ค่าและเลิกไปเอง เรียกว่าสลัดทิ้งไปเลย นี่คุณต้องมีปัญญามากๆๆ หรือ การกระทุ้งแรงๆๆบางอย่างคนเกิดญาณฉับพลัน นี่ก็ตันตระนะ มันกว้าง มาก
    จนไปถึงลัทธิบ้าๆๆ แบบเสพกามกรีฑายิ่งมากยิ่งนานหลายๆๆท่า แล้วเข้าใกล้พระเจ้าการตรัสรู้เท่านั้น

    ผมนึกถึงปณิธานข้อแรกของท่านพุทธทาสนะ
    คือศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จะต่างลัทธิหรือนิกายก็เถอะ เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน

    ถ้าหัดเอามาใช้บ้างก็จะดีกว่านี้นะคนทุกวันนี้
    แล้วอีกอย่าง ฝรั่งนี่มันก็น่าถีบจริงๆๆแหละ แต่เราก็ต้องมองว่าบางทีเขาอาจจะไม่รู้เรื่องก็ได้ แต่กรณีนี้น่าจะรู้เรื่องชัวร์ ก็สมควรที่เราจะแย้งแล้วล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมบอกไปตั้งแต่ต้นแล้วครับว่าผมไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอของเขา ถ้าผมจะมองแบบเถรวาทว่าเขาผิดจากพุทธศาสนาเดิม ซึ่งมันก็ไม่แปลก มหายานอย่างไรเขาก็ปรับปรุงอยู่แล้วซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับว่าเขาไม่เหมือนของเดิม แล้วมันจะแปลกอะไรหละครับ.....

    ผมไม่ศึกษาโดยตรงเพราะผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปศึกษาในสิ่งที่แปลกไป สิ่งที่เขารับฮินดูเข้ามาผสมกับพุทธ รับเต๋าเข้ามาผสมกับพุทธ ต่อให้การฝึกกรรมฐานของเขาจะมีแบบพิศดารอะไร จะไปเอาโยคะของพราหมณ์ จะไปเอาปราณของเต๋าเข้ามาผสม ถ้าของเดิมไม่มี ก็คือของใหม่นั่นหละครับ อาจเป็นกรรมฐานที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสอนก็ได้ อาจเป็นของฤาษี คณะศิษย์เล่าจื้อสอนมาก็ได้....อาจเป็นจุดประสงค์ที่เขาต้องการคือไม่หลุดพ้น จะไปสุขาวดี โพธิจิต อะไรก็แล้วแต่เขา อย่างนั้นก็ได้...

    ถ้าคุณจะเห็นว่าเขาดี ก็คงจะดีตามคุณว่านั่นหละมั้งครับ ผมบอกว่าผมไม่ชอบที่จะไปศึกษา แต่ผมก็ไม่ได้เหมาว่ามหายานเลวทั้งหมดทุกสาย ผมไม่ได้พูด ถ้าคุณเห็นและคุณชอบในปฏิปทาของเขา คุณชอบที่จะยึดและปฏิบัติตามแบบของเขา จะเอามานำเสนอบ้างก็ได้นิครับ ก็ไม่ได้ว่าอะไร อาจได้ความรู้เพิ่มขึ้น.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ประทานโทษนะครับ นิยามการปฏิบัติที่คุณชอบเรื่องตันตระตามที่ขีดเส้นใต้นั้น พระพุทธเจ้าท่านเคยกล่าวไว้ชัด อย่างไรถ้าคุณศรัทธา พิจารณาไว้บ้างก็ดี....

    [​IMG]

    3 อย่างเมื่อส้องเสพมาก ยิ่งไม่รู้จักพอ


    "ภิกษุทั้งหลาย มีอยู่ ๓ สิ่ง ที่เข้าไปส้องเสพแล้ว ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ

    3 สิ่งนั้นเป็นไฉน

    ความอิ่ม ความพอ ในการนอนหลับ ย่อมไม่มี

    ความอิ่ม ความพอในการเสพ(อบายมุข) สุราเมรัย ย่อมไม่มี

    ความอิ่ม ความพอ ในการเสพเมถุนธรรม (การเสพกาม) ย่อมไม่มี

    สามสิ่งนี้แล ไม่มีความอิ่ม ความพอ ในการเข้าไปส้องเสพ" ......


    อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต​


    ...................................................................................................................................

    เสพเข้าไปสนองกิเลสเข้าไปสิครับ เดี๋ยวจะบรรลุธรรมสักวัน บรรลุธรรมแบบตันตระยาน

    นี่ถ้าให้ผมมองหลายด้านอย่างนั้น ผมว่าผมขอมองด้านเดียวน่าจะดีกว่า จะขอมองด้านเดียวกับพระพุทธเจ้าท่าน
    ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013
  6. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    แน่นอนญี่ปุ่นนับถือเทพ พุทธผสมฮินดูและเค้าก้อไม่ใด้นับถือพระเค้าก้อบอกเค้านับถือเทพ ปะเทศเค้าไร้ศาสนา พระเอาใว้ไล่ผี สีกาเอาเหล้าให้พระฉัน
    แต่ที่ผมศึกษาคือ พระไตรปิฏกเนื้อหาที่แปลจากทุกชาติในพุทธศาสนาแน่นอนผมโตที่นี่ตั่งแต่เดกไทยอ่านๆออกเขียนใด้พอๆกับญี่ปุ่น
    คุนยังไม่รุ้อะไรเลยสักนิด ผมซื้อหนังสือที่ชาวญี่ปุ่นใด้ไปศึกษาจากอินเดีย จีน ไทย ลาว ๆลๆ และ ที่ผมพูดหมายถึงพระไตรปิฎกจากทุกที่เขียนใว้เนื้อความเดียวกัน ญี่ปุ่น ไทย อินเดีย ๆลๆ แปลเหมือนกันอ่านภาษาคนเข้าใจ ว่า พระพุทธเจ้าสั่งห้ามปั่นพระพุทธรูปห้ามสร้าง

    ผมไม่ใด้ชวนทะเลาะผมไม่ชอบสร้างศัตรู ความคิดคนเราต่างกัน งั้นผมขอจบเรื่องนี้ใว้ตรงนี้ แต่ ผมขอถามข้อสุดท้ายสองอย่าง

    ทั้งๆที่รุ้อยุ่ว่าพระพุทธเจ้าบอกว่า พระพุทธรูปห้ามสร้าง ห้ามปั่น ให้ทำตามคำสอน พระสงมีใว้เจริญรอยตามพระองค์ และใว้ให้เป็นตัวแทนพระองค์เพื่อให้ยืนยันว่าพุทธมีจริง แล้วทำไมคนเราถึงต้องไป ขัดคำสอน สร้างลัทธิมากมายบิดเบือนศาสนา จากปฏิบัติ ไปเหนกราบใหว้บูชาภาวนา ทั้งที่สมัยก่อน ก่อน ตรัสรุ้ รินิพาน ท่านท่องบทเดียว แค่บทแพร่เมตตา???

    ผมอยากให้คุนอ่านข้อความที่คุนพิม "ครับว่าผมไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอของเขา ถ้าผมจะมองแบบเถรวาทว่าเขาผิดจากพุทธศาสนาเดิม ซึ่งมันก็ไม่แปลก มหายานอย่างไรเขาก็ปรับปรุงอยู่แล้วซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับว่าเขาไม่เหมือนของเดิม แล้วมันจะแปลกอะไรหละครับ.....

    ผมไม่ศึกษาโดยตรงเพราะผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปศึกษาในสิ่งที่แปลกไป สิ่งที่เขารับฮินดูเข้ามาผสมกับพุทธ รับเต๋าเข้ามาผสมกับพุทธ ต่อให้การฝึกกรรมฐานของเขาจะมีแบบพิศดารอะไร จะไปเอาโยคะของพราหมณ์ จะไปเอาปราณของเต๋าเข้ามาผสม ถ้าของเดิมไม่มี ก็คือของใหม่นั่นหละครับ อาจเป็นกรรมฐานที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสอนก็ได้ อาจเป็นของฤาษี คณะศิษย์เล่าจื้อสอนมาก็ได้....อาจเป็นจุดประสงค์ที่เขาต้องการคือไม่หลุดพ้น จะไปสุขาวดี โพธิจิต อะไรก็แล้วแต่เขา อย่างนั้นก็ได้..."

    ผมอ่านจากพระไตรปิฎกผมไม่ใด้นับถือมหายานตามชาวญี่ปุ่น กรุณาเค้าใจไหม่ด้วย คุนอ่านของผมยังไม่ใด้ศัพท์คุนก็จับไปกระเดียดเสียแล้วคับ ที่คุนบอกว่าต่อต้านไม่เอา เต๋า ฮินดู คุนลองมองรอบๆตัวคุนดูสิคับรวมถึงตัวคุนด้วยนะ ว่าที่คุนนับถืออะไร จัดงานศพแบบ พรามห์ คนตายขายคนเป็น ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าบอกแค่ให้เผาร่างไปแล้วพิจรณาว่าร่างมันเน่าเหม็นมันสกปรก นี่จัดงานหรูหราเอาพระมาสวดสามวันสามคืน ใส่โรงหรูๆ ทั้งที่คนตายเขาเอาไปใด้แค่บุญกับบาป เวลาตกทุกข์มีปัญหาพึ่งหมอดู แทนที่จะแพร่เมตตา ขึ้นบ้านใหม่เอาพระไปสวดอิก ใช้พระไปในทางพราห์ม งานเทศการอะไรมาก็แห่พระพุทธรูปจุดธูปบูชาขอพรนุ่นนี่นั่นแบบฮินดู คุนยังกล้าพูดไหมตอนนี้ไทยเราไม่ต่างจากญี่ปุ่นมหายานที่คุนว่าเลย
     
  7. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    ที่ผิดจากศาสนาเดิมที่คุนว่ามันคือตัวพวกคุนที่กำลังทำกันคับ ผิดเพี้ยนไปมากจนจะเป็นศาสนาใหม่แล้วคับ ปากบอกพุทธ นับถือฮินดู จัดงานแบบพราห์ม สวดภาวนาอะไรมากมายทั้งที่ บทสวดที่พระพุทธเจ้าสอนใว้มีแค่แพร่เมตตา
     
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมไม่เคยกล่าวบอกว่าคุณนับถือมหายาน ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่เอาฮินดูหรือเต๋า ผมกล่าวว่ามหายานนั้นหลายสายเขารับเอาอย่างอื่นเข้ามาผสมมากไม่ว่าจะเป็นฮินดูหรือเต๋า....ผมว่าคุณควรที่จะไปอ่านให้ดีก่อนนะครับ....

    ผมไม่ได้ว่าคุณเลยนะ ที่จริงผมไม่ได้พูดกับคุณนะ ผมพูดกับคุณ Snow in the Summer แล้วคุณจะมาเดือดร้อนแทนเขาทำไมหละครับ หรือคุณเป็นคนเดียวกัน....
     
  9. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    คนละคนกันคับ ท่าผมเข้าใจอะไรผิดไปข้อโทษครับ แต่ กรุณาตอบคำถามผมสองข้อข้างบนที่ถามใว้ คลายความสงสัยผมหน่อย
     
  10. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    ท่าไใ่สะดวกในเมลบล็อคก็ใด้คับ
     
  11. nickybamby

    nickybamby เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +174
    ใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิงเนี่ย บินเมื่อใหร่ถ่ายคลิปชัดๆมาให้ชมกันด้วยนะครับ :boo:

    ขออย่าได้ทุกข์ และ สุข อีกเลย
     
  12. 9บัวรอบาน9

    9บัวรอบาน9 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +57
    โลกเปลี่ยน มนุษย์ก็เปลี่ยน สังคมก็เปลี่ยน

    เราแยกคำว่าศาสนากับสังคมออกจากกันได้ไหมครับ???

    วันนั้น กับ วันนี้ แต่ละวันมีหลายสิ่งเปลี่ยนไป

    เราหยุดความเปลี่ยนแปลงนั้นได้ไหมครับ?

    จริตคนนับล้าน ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างพ่อแม่ บุพการี

    เราบังคับให้ทุกคนคิดเหมือนกันได้ไหมครับ?


    ถ้าเราตอบคำถามพวกนี้ได้ เราสองคงไม่ต้องถกเถียงกัน...


    ขอบคุณและขอโทษที่ผมเพ้อเจ้อคร้าบบบบ :)
     
  13. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    ผมสังเกตุ คนที่อ่านพระไตย์ปิฎก ส่วนมากอ่านแล้วตีความเข้าข้างตัว น้อยคนจะตีความเข้าข้างธรรม

    ทำไมหนอ

    ผมไม่ได้โทษพระไตย์ปิฎกนะ ผมโทษคนตีความ เดียวมีปัญหาอีกขี้เกลียดจะเคลีย เข้าจั๊ย! !
     
  14. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    ศิลปะ แนวนี้คือแบบตันตริก มีมาหลังยุคพุทธกาลประมาณพันปีล่วงไป นิกายต่างๆ ในอินเดียแยกย่อยออกไปหลายสายหลังเถรวาทและมหายาน นิกายตันตระเป็นหนึ่งในมหายานที่เชื่อมโยงปรับเอาแนวความคิดของอินดูเข้ามาเพื่อหาพวกแลให้เข้ากันได้กับสังคมช่วงนั้นในยุคที่พุทธศาสนาตกต่ำและอ่อนแอด้วยเหตุความเสื่อมของพุทธบริษัท และความเสื่อม ทวีมากขึ้นเรื่อยๆ จุดที่เป็นสัญญลักษณ์ความเสื่อมแบบขีดสุดคือการถูกกษัตริย์มุสลิมทำลายอย่างถอนรากด้วยการเผามหาวิทยาลัยสงฆ์ขนาดใหญ่ที่เมืองนาลันทา ลัทธิและนิกายเหล่านี้ถูกกวาดออกไปด้วยพร้อมตำราดั้งเดิมของชาวพุทธ

    ความเห็นส่วนตัวเป็นเพราะความอัปมงคลที่มีการตีความเข้าข้างตนด้วยการเสพกามนี่แหละทำให้เกิดความเสื่อมอย่างใหญ่หลวงตามมา เพราะไม่สืบต่อพระธรรมของพระพุทธองค์ในแง่ทางปฏิบัติฝึกจิตตนเองด้วยปัญญาและการสำรวมระงับกาม

    การเสพกามเป็นการตอบสนองต่อกายภาพความกำหนัดของตนเองตามธรรมชาติแต่ไม่ได้ช่วยให้หลุดออกไปจากวงจรกิเลสพื้นฐาน เพราะยิ่งเสพมาก ทำมากก็ยิ่งเสื่อมมากทั้งกายและจิต

    ถ้าไม่เห็นด้วยกับศิลปแบบนี้ ก็อย่าช่วยกันเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ เพราะยิ่งเผยแพร่ออกไปมาก ทำให้ยากแก่การสื่อความให้คนทั่วไปที่มีกิเลสหนาได้เข้าใจ

    เวลาที่เหลือน้อยลงน่าจะทุ่มเทศึกษาเฉพาะความรู้ทางเถรวาทก็จะหมดไปอีกชาติหนึ่งแล้ว การให้รู้เพียงว่ามีนิกายต่างๆ เหล่านี้อยู่ รู้ที่มา ที่ไป ส่วนใครชอบศึกษาเป็นการส่วนตัวก็แล้วแต่จริตก็แล้วกัน
     
  15. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    เห็นด้วยค่ะ

    แบบนี้ก็เห็นที่เยอรมัน ในเมืองKöln ในร้านที่ขายเกี่ยวกับงานปั้นงานหล่อ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆอยู่หน้าร้าน เราเลยไม่รีรอรีบเข้าไปดูในร้าน ปรากฎว่ามีรูปปั้นพระพุทธรูปกับหญิงอย่างในภาพ ตอนแรกๆที่เห็นก็จิตตก คิดว่าทำไมเขาเอาพระพุทธรูปที่เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าของเรามาล้อเล่นอย่างนี้
    แต่อย่างว่าแหละ เขาไม่นับถือเขาถึงทำ ถ้าหากพวกเขาเข้าถึงธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เขาคงจะละอายในสิ่งที่ทำลงไปและผู้ที่ซื้อ-ขายก็เช่นกัน
     
  16. bizkitmanza

    bizkitmanza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2013
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +196
    ชาวพุทธที่ประเทศอื่นๆ เช่นจีน หรืออื่นๆเคยมีการประท้วงกับบ้างมั้ย
     
  17. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    อันนี้ เป็นวิธีคิดแบบของเขานะ แต่ตันตระนี่มันมีวิธีคิดอีกหลายรูปแบบ เลยล่ะ ไอ้ความคิดที่ว่า ถ้าคุณเสพบางอย่างไปมากๆๆจนถึงจุดหนึ่งแล้วคุณจะเบื่อหน่ายไปเองนี่ก็เป็นแบบหนึ่งของตันตระนะ ไม่ใช่ทั้งหมด อย่างการเพ่งรูปพระพุทธเจ้าที่ละเอียดมากๆๆหลากสีสัน นี่ก็เป็นวิธีปฏิบัติแบบตันตระนะ คุณเคยเห็นภาพศิลปะแบบทิเบตไหม ที่ไม่ใช่ไอ้ยุบยับ ที่พระพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์กอดกับคู่บารมี นะแต่เป็นรูปศิลปะแบบทิเบต ที่สวยๆๆสีเยอะๆๆละเอียดๆๆนะ บางรูปก็ดูน่ากลัว เรียกทังก้า อันนี้เขาเอาไว้เพ่งนะ คล้ายๆๆกสิณบ้านเรา นั้นแหละ จริงๆๆมันมีอีกหลายวิธีเขาก็เรียกว่าตันตระเหมือนกัน แต่ดูเรื่องกามมุทรา นี่คนจะเอามาพูดมากที่สุด แล้วนึกว่าคือทั้งหมดของตันตระ

    ทีนี้ เดี๋ยวผมแย้งนิดหนึ่ง ผมไม่ใช่คนของนิกายตันตระนะ หลายวันก่อนผมไปพูดเรื่องตันตระ ไม่ใช่คำสอนดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีรากฐานมาจากคำสอนเดิมเลย เป็นวิธีการตีความแบบหนึ่ง ของคนอินเดีย ยุคนั้น ที่คนอินเดีย เขาจะมีความคิดว่า ทุกๆๆการกระทำมันเป็นวิถีหมดแม้แต่การหมกหมุ่นอยู่ในกาม ที่พระพุทธเจ้าทรงหลีกเลี่ยง และผมก็พูดไปถึงเรื่อง อ. คนสำคัญๆๆที่นิกายตันตระ มักอ้างว่าเป็นผู้ก่อตั้งนิกายตน ไม่ใช่ความจริง

    ผมถูกด่าทันที จากคนที่นับถือวัชรยาน นี่แหละ ด่าเอาว่า บ้าตำราเอาตำรามาพูดโจมตีเขา แต่ไม่เคยไปปฏิบัติแบบเขา ผมยังแอบหัวเราะเลย
    ทีนี้ พอมาเล่าเรื่องตันตระให้คนพุทธเถรวาท ด้วยกันฟังว่า เขาคิดแบบนี้ ผมดันกลายมาเป็นผู้นับถือนิกายวัชรยานไป

    นี่มันแปลกแบบนี้ จริงไอ้ตันตระเนี่ย เราคนไทยนี่แหละมักไปได้ยินครั้งแรกว่า วัชรยานถือเอาพลังทางเพศเป็นเครื่องผลักดัน และ เราก็รับไม่ได้ เพราะเราคุ้นกับฝ่ายเถรวาทผมได้ยินครั้งแรก ก็ว่าเฮ้ยแม้งบ้าฉิบหายเลย ถ้าคุณไปพูดกับพวกทิเบตว่า เฮ้ยนิกายแกสอนแบบนี้ใช่ปะร่วมเพศบรรลุธรรมแล้วสวดมนต์เพิ่มราคะ อึบนานๆๆ พวกนี้ก็จะหัวเราะว่า เอ็งไปเข้าใจเอาเองแบบเด็กทารกแบบนี้ นิกายข้าก็ฉิบหายสิว่ะ และเขาก็คงจะพยายามอธิบายให้คุณฟังจนหูชานั้นแหละ และตัวผมเองนี่มารู้ทีหลัง หลังจากได้ไปคุยกับพวกนี้มาจริงๆๆว่า อ้อ โดยทั่วไปนั้นวัชรยานถูกนำเสนอในประเทศนี้อย่างผิดพลาดตั้งแต่ต้น นี่หว่า ผมจึ่งไปลองดูสิว่าเขาคิดว่ายังไงบ้างในลักษณะ ทัศนศึกษา ไม่ต้องไปเอาอย่างเขา แต่เรามองเขาด้วยความเข้าใจ


    ทีนี้ ผมจะพูดเรื่องรากฐานวิธีคิดของเขาก่อน ตันตระนี่มันกว้าง ไอ้วิธีคิด แบบคุณเสพไปมากๆๆเดี๋ยวคุณเห็นมันไร้ค่าไปเอง นี่เขาจะยกเอามาจาก พุทธประวัติเลย ก็ตอนที่พระพุทธเจ้าเห็นว่าความรื่นเริงในวังนี่มันเป็นสิ่งไร้ค่า ไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของชีวิต ตันตระ เขาก็อ้างว่า เอ้า คนทั่วไปไม่ได้โชคดี แบบพระพุทธเจ้านี่ เหล่านี้เขาก็เลยยังไม่เห็นว่ามันไร้ค่าไง เราก็จัดเต็มซะเลย นี่เป็นวิธีคิดของเขา

    ทีนี้ เขามีอีกหลายตัวอย่าง อย่าง พระนันทะ ที่นึกถึงความงามของคนรัก พระพุทธองค์เลยจัดให้ พาไปดูนางฟ้า แล้วพระนันทะเห็นแล้วหลงเลย บอกหวานใจผมนี่มันลิงตัวเมีย พระพุทธเจ้าก็บอก ดีงั้นเธออยากได้นางฟ้าไหม? ก็ต้องสั่งสมบุญบารมี สิ แล้วมาเกิดเป็นเทวดา ทีนี้พระนันทะก็ตั้งใจปฏิบัติธรรม แล้ววันหนึ่งท่านมาทบทวนเป้าหมาย เอ้าเฮ้ย ฉันทำอะไรว่ะเนี่ย ดูเป้าหมายฉันสิ น่าละอายใจจริง ท่านก็บรรลุธรรม

    ทีนี้ประเด็นคือ ตันตระก็ว่า เห็นไหมพระพุทธเจ้าใช้ตัญหาเป็นแรงจูงใจในการสอน เราเอาบ้าง

    นี่มันเป็นแบบนี้ เขาคิดแบบนี้ ผมก็เก็บมาเล่าให้ฟัง ทีนี้จะขอโยงมาที่ทฤษฏีบ้าง ประเด็นคือคนอินเดียนี่จะพุทธ จะฮินดู จะลัทธิอะไรก็เถอะเขาถือว่าคุณจะเป็นใครมันเป็นมรรควิธีหมด คุณเป็นอีตัวก็เป็นมรรควิธี คุณเป็นโจรก็เป็นมรรควิธี นี่แปลกใจไหม ผมเองเคยแปลกใจมาก แต่คุณดูในบาลีสิ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนคนธรรมดาเท่านั้น อีตัวก็เป็นศิษย์ท่าน โจรก็เป็นศิษย์ ท่านอย่างในพระสูตรของเถรวาทนี้พระพุทธเจ้าสอนโจรกลุ่มหนึ่ง เพราะโจรถามว่าทำอย่างไรก๊กโจรถึงจะตั้งมั่นได้ พระพุทธเจ้าทรงตรัสสนอง พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดว่า เป็นโจรนี่มันเลวระยำเลิกเถอะ แกมาถามฉันทำไม ท่านสอนว่า ประการแรกอย่าปล้นราชทรัพย์ แล้วก็อย่าข่มขืนสตรีจะเสื่อมเสียก๊กโจร อย่าปล้นใกล้ถิ่น แล้ว่าท่านก็สอนไปเรื่อย แล้วก็มีข้อหนึ่ง ข้อสุดท้ายท่านสอนว่า เมื่อถึงเวลาอันควร ควรเลิกเป็นโจรเสีย ท่านสอนเพื่อให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการและชี้ช่องทางที่ประเสริฐกว่าด้วย สูตรนี้คุณไปหาเองละกัน ผมโยนตำราทิ้งไปนานแล้วเก็บแต่สาระ ตั้งแต่หันมาปฏิบัติกับเขาบ้างเลิกแทะตำรา เลย ไม่จำว่าอยู่สูตรไหนข้อไหนวรรคอะไรให้รกสมองหรอก เม็มโมรี่ในหัวเซลล์สมองมีจำกัด ผมไม่เก่งขนาดนั้น

    กามสุขัลลิกานุโยคนั้น ไม่ใช่อะไรอื่นเป็นแนวคิดที่ว่าด้วยการเสพกามนี้เพื่อให้ถึงการหลุดพ้น อย่าคิดว่ากามสุขัลลิกานุโยคคือ การเสพสุขสามัญ มันเป็นทางเป็นลัทธิ พระพุทธเจ้าจึงบอกปฏิเสธกามสุขและการทรมานตนเอง คือท่านปฏิเสธแนวคิดแนวทางสุดสวิง 2 แนวในอินเดียในครั้งกระนั้น แล้วท่านเสนอแนวทางใหม่ ชาวเถรวาทถือว่าทางสายกลาง
    ทีนี้ มันก็มี คำกล่าวว่าคนฉลาด ไม่ควรไปยึดแม้แต่ทางสายกลาง นี่มันก็เป็นพุทธปรัชญา อีกนั้นแหละ ดูใน อุปมาธรรมเหมือนพ่วงแพ ไม่ก็สูตรที่ว่า การไปยึดเอาสมมติธรรมว่าจริงนี่เหมือนการตีงูผิดวิธีและกัน พวกวัชรยานก็เอาล่ะ หลังจากที่เรารู้วิธีหลีกจากการโต่งไปข้างหนึ่งแล้ว พวกนิกายนี้เขาเก่งเรื่องปรัชญาทางสายกลางที่สุดในโลกนะครับ อันนี้คนทั่วไปไม่รู้ แต่ใครชอบอ่านหนังสือจะรู้ว่าพวกลามะนี่มันอธิบายเรื่องทางสายกลางเก่งมากกว่าใครทั้งหมดนอกจากเรื่องการภาวนาที่โยงไปกับเรื่องความตายแล้ว ทีนี้เขาก็ว่าเอ้า เราจะตีความแบบนี้คือเราจะไม่สัมพัทธ์แค่ทางสายกลางเท่านั้นแต่ เราจะลองไปเล่นกับมันดูทางสุดโต่งทั้งหลาย เพื่อเรียนรู้อะไรบางอย่าง แล้วมันจะโน้มไปทางสายกลางเองโดยธรรมชาติ นี่คือวิธีคิดของเขา เขาจึงเอากามเอาการบำเพ็ญตบะบางอย่างที่ทรหดตามเทือกเขาหิมาลัยมาใช้ เพื่อเลียนแบบพระพุทธเจ้าที่ลองเรื่องพวกนี้มาแล้วแล้วรู้ว่าไม่ใช่ทาง คนปกติจะมั่วเมาไม่รู้นะครับ ต้องคนแบบพระพุทธเจ้า ทีนี้ชาวพุทธตันตระนี่เขารู้แล้วตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ภาษีมันดีกว่าโยคีก่อนพุทธกาล เขาไม่พอใจแค่ข้อสรุปว่า ให้เลี่ยงนะ คือเขาจะลองให้รู้ว่าทำไมจึงควรเลี่ยงจนอ้อ มันเป็นแบบนี้นั้นเอง คือเขาจะทำตัวประหนึ่งเป็นพระพุทธเจ้าไปเลย เขาถึงเรียกตัวเองว่า มรรคของผล

    วัชรยานไม่ใช่ลัทธิตันตระธรรมดา วัชรยานรับเอาตันตระมาด้วยวินัยชั้นสูง เป็นวิธีปฏิบัติของผู้ที่พร้อมไปด้วยวินัยแล้ว คือสมบูรณ์พร้อมไปด้วยพลังของสติ พลังของมนสิการอย่างพอเพียงและดังนั้นพลังอันนี้จะเปลี่ยนกิเลสให้เป็นโพธิ์ได้ พูดง่าย ๆ เมื่อกิเลสปรากฎและเห็นมันด้วยพลังของสติ พลังของมนสิการอย่างพอเพียง และดังนั้นพลังอันนี้จะเปลี่ยนกิเลสให้เป็นโพธิได้ พูดง่าย ๆ เมื่อกิเลสปรากฏและเห็นมันด้วยพลังของสติสมาธิ เมื่อนั้นกลับกลายเป็นปัญญาเกิดความสว่างไสวทางปัญญา ปราศจากกิเลสก็ไม่มีปัญญา กิเลสนั่นเองทำให้ได้ปัญญา

    ในสูตรของเถรวาทสูตรหนึ่งบอกว่า รูปดุจดังฟองน้ำ เวทนาดุจดังน้ำค้าง ( ต่อมน้ำ ) สัญญาดุจดังพยับแดด สังขารดุจกาบกล้วย วิญญาณดุจมายากล ข้อปฏิบัติที่ฝ่ายเถรวาทถือว่าขันธ์ 5 ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา พระนิพพานเป็นเป้าหมาย ดังนั้นพยายามจะแยกสังสารวัฏออกจากพระนิพพาน อันนี้วัชรยานและมหายาน ถือว่าเป็นวิกัลปะนะ เป็นเรื่องเพี้ยนไปเท่านั้นเอง เพราะว่าเมื่อคนติดอยู่ในห้วงสังสารวัฎแล้ว ไม่รู้จักสังสารวัฏตามที่เป็นจริง ก็จะสร้างพระนิพพานขึ้นมา แล้วพยายามที่จะหลุดพ้นจากสังสารวัฏ เพื่อเข้าสู่พระนิพพานและนั่นก็คือความฝัน ฝันซ้อนอยู่ในความฝันนั่นเอง ดังนั้นวัชรยานจึงจับประเด็นนี้แล้วพูดว่าเราจะไม่สอนให้คุณหนีสังสารวัฏแต่เราจะสอนให้คุณเรียนรู้อะไรบ้างจากมัน

    นี่มันเป็นแบบนี้ ทีนี้แหละปัญหามันเกิด ไอ้บ้าไอ้บอที่ไหนก็อาจจะปฏิบัติบ้าๆๆบอๆๆไปตามเหตุได้ แล้วบอกผมกำลังปฏิบัติตันตระครับ นี่ไงคือสาเหตุของความเสื่อมอย่างหนึ่งของพุทธศาสนาในอินเดีย ทีนี้ทิเบตเขารับมาพร้อมบทเรียนนี้ ดังนั้นเขาจึงทำตันตระในลักษณะที่ลับมากๆๆ คือ คุณต้องผ่านการทดสอบบางอย่างจากครู ก่อนคุณจึงจะฝึกฝนตันตระได้ เขาจะไม่สอนคุณจนกว่าเขาจะรู้ว่าคุณพร้อมแล้ว

    นี่ผมพูดจากแง่มุมของคนเถรวาทเหมือนคุณนั้นแหละ คุณถูกสอนอะไรเกี่ยวกับลัทธินี้มาในตำรา ผมก็ถูกสอนมาเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่มันไม่ใช่แบบที่คุณคิดหรอกนะ ผมก็แค่ว่าไปตามเนื้อผ้านะ ก็ไม่ได้ว่าวิธีเขาถูกต้องอะไรหรอก คุณไม่เห็นด้วยก็ตามสบายเลยครับ แต่ความไม่เห็นด้วยควรยืนอยู่บนความเข้าใจที่ถูกต้อง คือคุณรู้นะรู้จริงๆๆ ไม่ใช่พูดลอยๆ มิเช่นนั้นระวังเถิดมิจฉาทิฏฐิ อหังการ มมังการ อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆๆนะ

    อ้อ อันนี้ผมพึ่งไปคุยกับอ.มหาจุฬา มาผมอ่านงานวิจัยของพระคุณเจ้าแล้วตกใจมาก ที่ว่าไอ้ลัทธิตันตระนี่มันปนอยู่ในความเชื่อคนไทยมิใช่น้อย แต่เราไม่รู้เอง หลายๆๆสำนักปฏิบัติในบ้านเราที่อ้างว่าวิธีปฏิบัตินี้หายสาปสูญไปอ.ใหญ่เราพึ่งไปพบมาใหม่ จริงๆๆหารู้ไหมว่าไอ้วิธีพวกนี้แหละ มันมาจากเมื่อครั้งอดีตเมื่อครั้งนิกายมหายานและตันตระเคยรุ่งเรืองอยู่ในบริเวณประเทศไทยก่อนเราจะไปเอา พุทธเถรวาทแบบลังกาวงค์เข้ามาเนี่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  18. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    ขอบคุณครับ นานๆได้เปิดหูเปิดตา แต่ผมว่า ตันตระนี้สุ่มเสี่ยงเกินไป รักษาและปฎิบัติแบบที่
    บรรพบุรุษรักษาไว้ให้ เพื่อส่งต่อให้ลูกหลาน รักษาต่อ เพื่อมนุษยชาติ จะได้มีที่พักพิงอาศัย
    ยามร้อนรุ้ม เป็นเนื้อนาบุญ ของโลกเรา ต่อไปและต่อๆ ไปครับ ดีทีสุดแล้วครับ
     
  19. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    ทั้งๆที่รุ้อยุ่ว่าพระพุทธเจ้าบอกว่า พระพุทธรูปห้ามสร้าง ห้ามปั่น ให้ทำตามคำสอน พระสงมีใว้เจริญรอยตามพระองค์ และใว้ให้เป็นตัวแทนพระองค์เพื่อให้ยืนยันว่าพุทธมีจริง แล้วทำไมคนเราถึงต้องไป ขัดคำสอน สร้างลัทธิมากมายบิดเบือนศาสนา จากปฏิบัติ ไปเหนกราบใหว้บูชาภาวนา ทั้งที่สมัยก่อน ก่อนท่านตรัสรุ้ ปรินิพาน ท่านท่องบทเดียว แค่บทแพร่เมตตา???


    คนไทยตอนนี้พุทธแท้ร้อยเปอร์เซนต์ ไม่ใช่ผสม เต๋าหรือฮินดู คุนลองมองรอบๆตัวคุนดูสิคับรวมถึงตัวคุนด้วยนะ ว่าที่คุนนับถืออะไร จัดงานศพแบบ พรามห์ คนตายขายคนเป็น ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าบอกแค่ให้เผาร่างไปแล้วพิจรณาว่าร่างมันเน่าเหม็นมันสกปรก คนดูพิจรณาเกิดปันญาใด้บุญ คนตายก็ใด้บุญ นี่จัดงานหรูหราเอาพระมาสวดสามวันสามคืน บุญก็ไปใด้ตอนกรวดน้ำนิดหน่อย เอาเงินถวายให้พระบาปอีกเงินร้อนอีก พระกลายเป็นพราห์มจับเงินทำทุรกิจคนตายกับโยม จ้างพระมาสวด ใส่โรงหรูๆ ยิ่งใหญ่ ทั้งที่พระพุทธเจ้าท่านไม่ใด้ให้ทำ นั่นมันพราห์ม

    เวลาตกทุกข์มีปัญหาพึ่งหมอดูแทนที่จะแพร่เมตตา ขึ้นบ้านใหม่เอาพระไปสวดอิก งานเทศการอะไรมาก็แห่พระพุทธรูปจุดธูปบูชาขอพรนุ่นนี่นั่นแบบฮินดู คุนยังกล้าพูดไหมตอนนี้ไทยเราไม่ต่างจาก ญี่ปุ่นมหายาน หรือพวกฮินดูเลย


    ผมไม่ใด้อ่านพระไตรปิฎกแล้วเข้าข้างตัวเองนะผมก็ยังเป็นคนธรรมดา แค่อ่านแล้วมาเทียบกับพุทธบริษัท และ พระสมัยนี้ ทำไมมันถึงใด้ผิดเพี้ยนขนาดนี้ สิ่งที่พระท่านห้ามคนบอกโอเค สิ่งที่โอเคกลับไม่ทำ ไปเอาอย่างอืนมาทำแทนแต่งนุ่นเติมนี่ มันแหวกแนวมาก ผมก็อยากรุ้นะว่าคนเราคิดอะไรกันอยู่ ท่าจะบอกว่าสมัยมันเปลี่ยนคงไม่ใช่ เพราะพุทธศาษนาจะไม่เปลี่ยนตามสังคม ตอบผมหน่อยตอบนะไม่ใช่ไปนอกเรื่อง ขอร้องครับ เมลก้อใด้
     
  20. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    แนวคิดของเขานี่ขนาดขุดเอามาทั้งรากทั้งฐานแล้วนะ คิดกว้างใจกว้างขนาดเอาพระพุทธเจ้าท่านมาเลียนแบบ พระพุทธเจ้าท่านพาพระนันทะไปดู พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้พาพระนันทะไปเสพนะ

    ตันตระนี่เขาเสพจนให้เบื่อ จนให้เกิดนิพพิทาญานกันไปข้างหนึ่งเลย ไม่แปลกใจว่าทำไมลามะถึงมีเมียได้ ก็เพราะต้นความคิด รากฐาน เขาเป็นอย่างนี้นี่เอง เสพกามเพื่อบรรลุธรรม อย่างนี้ก็มี.....


    ซ้ำร้ายไม่พอ....

    หลักของพระธรรมสอนให้หลุดพ้นจากทุกข์ สอนให้เข้าถึงพระนิพพาน ตันตระยานไม่สอนให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ ไม่ให้หนีจากกองทุกข์ แต่สอนให้เรียนรู้จากมัน พูดง่ายๆก็สอนให้ตายแล้วเกิด ก็เกิดแล้วก็ตาย อยู่ในสังสารวัฏนี้ตลอดไป เรียนรู้เข้าไป ผมว่าสอนอย่างนี้นี่นะ ผมว่าไม่น่าจะไหว.....

    นิพพานคือฝันซ้อนฝัน เสพกามคือความจริง เหนื่อยเลย.....

    ขอบคุณที่แบ่งปันทรรศนะนะครับ....แต่สายนี้ผมว่า สุดๆแห่งความเพี้ยน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...