ถึงกินเจตลอดชีวิต ไม่รักษาศีล ไม่เจริญภาวนา ก็อย่าหวังรอดจากนรก โดยหลวงปู่แหวน

ถึงกินเจตลอดชีวิต แต่ไม่ทำทาน ไม่รักษาศีล ไม่เจริญภาวนา ก็อย่าหวังรอดจากนรก หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ เมตตากรุณาสั่งสอนไว้ว่า "การเจริญสติบำเพ็ญภาวนาเท่านั้นถึงจะบรรลุพระอรหันต์ได้ การตัดกิเลสตัณหาต้องใช้พระกรรมฐานเท่านั้น พระกรรมฐานมีให้เลือกตั้งสี่สิบกอง"

ในอดีตมีคนเคยมาชวนหลวงปู่ฉันเจ ฝ่ายหลวงปู่ท่านตอบว่า "ถ้ากินเจมันประเสริฐเป็นบุญใหญ่นัก วัว ควาย ก็คงเป็นพระอรหันต์หมดแล้ว คนเราจะกินอะไรไม่สำคัญ สำคัญที่ว่ากิเลสตัณหาตัดได้หรือเปล่า แล้วการกินเจก็ไม่ช่วยให้กิเลสตัณหาลดลง แต่ถ้าจะกินเพื่อสุขภาพละก็อนุโมทนา

แต่การกินเจไม่ช่วยให้พ้นนรกได้หรอก คนกินเจลงนรกก็เยอะแยะ เพราะกิเลสตัณหายังเต็มหัวมันอยู่" ท่านดูใจของท่านเองก็ได้นี่ ว่ามันประเสริฐตรงไหนหรือยัง ถ้ายังไม่ประเสริฐให้รีบแก้ ราคะ โทสะ โมหะ ที่เผาหัวอยู่นั่นล่ะ มันเป็นสิ่งที่ท่านต้องแก้เสียโดยเร็วพลัน ไม่ใช่วัน ๆ เที่ยวแต่ชวนหาคนมากินผัก

คนเรามันประเสริฐเลิศได้ด้วยความประพฤติ มิใช่เพราะการกิน ถึงกินเจตลอดชีวิต แต่ไม่ทำทาน ไม่รักษาศีล ไม่เจริญภาวนา ก็กินเจเสียเปล่า หาประโยชน์มิได้ แล้วยังไม่ช่วยให้ตัวเองพ้นจากขุมนรกในสมัยพุทธกาล

พระเทวทัตตั้งตัวเองเป็นศาสดาแล้วตั้งโกหัญญกรรม ๕ ประการคือ
๑. ให้อยู่ในเสนาสนะป่า ตลอดชีวิต ห้ามตั้งวัด ห้ามเข้าเมืองเลย
๒. ให้ถือบิณฑบาต ตลอดชีวิต อาหารที่มีคนมาถวายหลังบิณฑบาตให้ทิ้งให้หมด
๓. ให้ทรงผ้าบังสุกุล คือผ้าที่เขาทิ้งแล้วและผ้าเนื้อเลว ตลอดชีวิต ผ้าเนื้อดีเผาทิ้งให้หมด
๔. ให้อยู่โคนไม้ ห้ามนอน ตลอดชีวิต
๕. ให้งดฉันมังสาหาร คือห้ามกินเนื้อ ตลอดชีวิตพระพุทธองค์บรมศาสดาไม่ทรงอนุญาต ตรัสว่า "ไม่ควร ควรให้ปฎิบัติได้ตามศรัทธา" ด้วยทรงเห็นว่า ยากแก่การปฎิบัติ เป็นการเกินพอดีไม่เป็นทางสายกลาง พระเทวทัตจึงโจทก์โทษพระบรมศาสดา ประกาศว่า คำสอนของตนประเสริฐกว่า คนที่มีปัญญาบารมีน้อยหลงเชื่อ ยอมทำตนเข้าเป็นสาวก ครั้นพระเทวทัตได้ภิกษุยอมเข้าเป็นบริษัทของตนแล้ว ก็พยายามทำสังฆเภท ตั้งตัวเป็นศาสดาเสียเอง แล้วท้ายที่สุด พระเทวทัตก็โดนธรณีสูบ ไหม้อยู่ที่อเวจีมหานรก...

 

แต่ถ้าการปฏิบัติเท่าๆกัน คนกินเจไม่เบียดเบียนสัตว์ย่อมไปสวรรค์สูงกว่า

อย่าลืม การเบียดเบียนสัตว์หรือคน ก็บาปเหมือนกัน ไม่ใช่กินแต่ไม่ได้ฆ่า ไม่บาปนะ ถือว่าร่วมมือกัน เหมือนผู้รับซื้อของโจร มีความผิดด้วย แม้จะไม่ได้เป็นผู้ขโมย

 

คุณคงเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนอยู่ ให้ไปศึกษาพุึทธวจนะเสียใหม่ครับ อย่าคิดเองเออเองเลยครับ

 

มีปัญหาอะไรกับคนกินเจหรือครับ? ผมเห็นกระทู้แบบนี้บ่อยมากๆ
ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าพวกคุณขัดอกขัดใจอะไรเขาหนักหนา
ในเมื่อคนเขาจะลดละเลิกสิ่งที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้อง แทนที่จะให้กำลังใจเขา
กลับบั่นทอนกำลังใจกันอยู่เนืองๆ ในข้อความของคุณก็บ่งบอกเองว่า
"ตามศรัทธา"
หมายเหตุ ผมไม่ได้หมายถึงพวกอนุตตรธรรมนะ ที่มีการดูหมิ่นคนไม่กินเจ
แต่ก็นั่นแหละ ที่จริงเรื่องสนับสนุนให้คนละเนื้อสัตว์เป็นเรื่องเดียวของลัทธินี้
ที่ยังพอรับได้

 

ลองกลับไปศึกษาใหม่นะครับ ว่าตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสท่านตรัสว่าอย่างไร

อย่านึกเองคิดเอง มันจะเป็นการทำให้คนเข้าใจผิดธรรมคุณจะบาปหนักกว่าเดิม

ผมเชื่อพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยะเจ้าครับ

การรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นบุญหรือไม่
การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำอะไร เป็นบุญหรือไม่เป็นบุญนั้น ต้องอาศัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วย
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง คือ

๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานต่างๆ
๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม
๑๐.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความคิดเห็นของตนให้ตรง
เมื่อเทียบเคียงกับบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ วิธี แล้ว ไม่พบว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติ คือ รับประทานแต่พืชผักเป็นวิธีทำบุญข้อใดเลย จึงไม่นับว่าเป็นวิธีทำบุญในพระพุทธศาสนา
ลองคิดดูว่าถ้าการกินพืช เช่น ผัก หญ้า ได้บุญ แล้วสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ก็ต้องได้บุญมากกว่ามนุษย์ เพราะสัตว์พวกนี้กินพืชตลอดชีวิตไม่กินเนื้อสัตว์เลยตามที่หลวงปู่แหวนท่านตรัสสอนไว้ ถ้ากินพืชอย่างเดียวแล้วได้บุญป่านนี้วัว ควาย มันเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว

 

ไม่ได้มีปัญหาครับ แต่อยากจะให้เห็นถูกตามความเป็นจริง ที่แท้จริง ไม่ใช่เห็นถูกตามความเข้าใจของตัวเองที่นึกเอง คิดเอง นึกเอาเอง แบบนี้มันจะได้ดีที่ไหนครับ

เพราะกินเจไม่ได้บุญจริงๆ ครับ คนที่กินเจก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ แต่ให้เข้าใจให้ถูกต้อง แล้วการทำความเห็นให้ถูกต้องย่อมได้บุญด้วยเพราะ ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความคิดเห็นของตนให้ตรง อยู่ในบุญกริยาวัตถุ 10 ไม่ใช่กินเจแล้วนึกว่าตัวเองเป็นคนมีบุญเยอะแบบนั้นคิดผิดถนัดครับ โอกาสตกนรกก็มีมากขึ้น ถ้าไม่มีทานศีลภาวนา

 

กินเจไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ตั้งกระทู้จิกกันได้บ่อยๆ ยิ่งช่วงหน้าเจนี่ ยิ่งหนัก
อือม์ ไม่ได้ว่าอะไรจริงๆ นะเนี่ย
คนเขาก็คงคิดว่าต้องการให้ชีวิตนั่นล่ะ เลยไม่อยากกิน
แต่ก็มีคนบางกลุ่มเอาคำครูบาอาจารย์มาเปรียบเทียบคนกับวัวกับควาย
ผมจะเชื่อดีไหมเนี่ยว่าไม่ได้ว่าอะไร???
ลำพังส่วนตัวผมเชื่อครับว่าไม่ได้ว่าอะไร แต่คนอื่นที่เขามีเจตนาดีจริงๆ อยากละชีวิต
อยากให้ชีวิตเป็นทาน (อย่างน้อยก็ตามความคิดเขา) จริงๆ มาอ่านเจอแบบนี้บ่อยๆ
มันเสียกำลังใจเขา ไหนๆ ก็ปฏิบัติธรรมแล้ว ให้กำลังใจคนหน่อยไม่ได้รึไงครับ
อย่างน้อยก็บอกให้เขารู้ว่าเขาทำมาดีแล้ว แต่ต้องทำดีเพิ่มด้วยการรักษาศีลให้ครบ
ภาวนา อะไรก็ว่าไป ไม่ใช่เอาไปเปรียบกับวัวกับควาย

 

ไอที่ท่านบอกว่า ไม่ใช่เอาไปเปรียบกับวัวกับควาย นี่พระอรหันต์ หลวงปู่แหวนท่านสั่งสอนให้เราเข้าใจนะครับ ไม่ใช่มัวแต่โง่อยู่ หลงว่ากินเจแล้วได้บุญอยู่ ท่านสั่งสอนให้เราฉลาดขึ้นโดยการเปรียบเปรยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นนะครับ ที่ท่านเปรียบกับวัวควายก็จะได้เข้าใจไงครับ เพราะบางคนไม่ยอมรับความจริง จะได้มองเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง จะได้รู้ว่าวัวควายมันกินหญ้ามาทั้งชีวิตมันไม่เห็นเป็นพระอรหันต์เลย? หลวงปู่แหวนท่านสอนไม่ตรงกับกิเลสคุณหรือครับ?ถึงได้มาตำหนิแบบนี้?

ผมถึงได้โพสเพื่อให้คนที่กินเจได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นไม่ใช่มัวแต่กินเจ ไม่ถือศีลเพราะเดี๋ยวนี้ก็พูดกันปาวๆว่ากินเจอิ่มบุญ ทำให้คนที่กินเจเข้าใจผิดๆไปตามๆกันว่ากินเจแล้วได้บุญครับ และอย่างน้อยก็ทำให้เขาได้ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนามากยิ่งขึ้น ไม่ใช่มัวแต่รักษาน้ำใจเขาแบบไม่ลืมหูลืมตาครับอย่างน้อยก็ต้องบอกความเป็นจริงตามพระรัตนตรัยให้เขาได้รู้ เพื่อที่จะได้ต่อไปถึงนิพพาน

 

การกินมังสวิรัต คือการไม่กินเนื้อสัตว์ เท่ากับ คุณสามารถรักษาศีลข้อ 1 ได้ละเอียดมากขึ้น คือไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ส่งเสริมให้คนอื่นฆ่าสัตว์ จะเห็นได้ว่าสมัยก่อนไม่มีโรงฆ่าสัตว์ คือคนที่ฆ่าสัตว์ก็จะเป็นพวกนายพราน หรือไม่ก็กินสัตว์ที่ตายเอง แต่สมัยนี้มีโรงฆ่าสัตว์ และก็เป็นการฆ่าแบบทรมานและโหดร้ายด้วย เมื่อมีผู้พบเห็นก็เลยทำให้ไม่อยากจะกินเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการไม่สนับสนุนให้มีการฆ่าสัตว์ ก็ถือว่ารักษาศีลข้อที่ 1 ได้ละเอียดยิ่งขึ้น แต่ว่าถ้าไม่กินเนื้อสัตว์แต่ผิดศีลข้ออื่น ๆ อีก 4 ข้อ ก็ยังต้องตกนรกอยู่ดี ถือว่ายังละกิเลสอย่างอื่นไม่ได้ ถ้าจะให้ดีก็รักษาศีลให้ครบทุกข้อ ทั้งกาย วาจา ใจ ดีกว่า ถ้าถือว่าเราไม่กินเนื้อสัตว์แล้วเราดีกว่าคนอื่น อย่างนี้ก็ถือว่าเรายังไม่ผ่าน ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ศีลข้ออื่น ๆ ก็มีความละเอียดเหมือนกัน อย่างเช่น คนที่วางแผนฆ่าคน โดยจ้างวานให้คนอื่นไปฆ่า คนที่วางแผนผิดมากกว่าคนฆ่า หรืออย่างให้เงินคนไปทำแท้ง ก็ถือว่า รู้เห็น สนับสนุนให้เขาทำแท้ง ก็ผิดไปด้วย อย่างตัวเราไม่กินเหล้า แต่ให้เงินคนอื่นไปซื้อเหล้า ก็เป็นการสนับสนุนให้คนอื่นทำผิดศีล พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า ไม่ทำผิดศีลด้วยดัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นทำผิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นทำผิดศีล

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ .. พระพุทธองค์มิเคยกล่าวเจาะจงว่า กระทำสิ่งใดจะได้บุญสูงกว่า หรือ ได้ไปสวรรค์ หากแต่การกระทำของตนเองเท่านั้นที่จะทำให้คนนั้นได้ไปสวรรค์ หรือ ได้บุญเท่านั้น

 

จขกท.. คะ
ปล่อยให้คนที่เขามีอคติกับคำสั่งสอน เขาจมอยู่กับความคิดเขาไปดีกว่าค่ะ เพราะเขานั้นยังเข้าไม่ถึงหลักของการทำบุญที่แท้จริง และไม่เข้าใจถึงพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ .. การที่เขาพยายามหาเหตุผลมามากล่าวอ้างแบบมีโทสะจริตนั้น อธิบายมากแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางเข้าใจและเข้าถึงหรอกค่ะ ยิ่งนำภาษาทางพระมาพูดด้วยแล้วยิ่งสับสนและงงไปใหญ่ .. จากการตั้งข้อสังเกตุ ไม่รู้ว่าเขาได้ผ่านการบวชเรียนมาบ้างหรือไม่ หรือ ได้ศึกษาวิชาพุทธศาสนามาบ้างมั้ย ... และจากการตีความในคำพูดแล้ว เขาไม่พยายามเข้าใจอะไรและตั้งกำแพงกั้นความคิดคนอื่นตลอดเวลาค่ะ .. ปล่อยให้เขาจมอยู่ในความคิดตัวเองต่อไปเถอะค่ะ แค่ตัวเราที่เข้าใจก็พอ เพราะชีวิตใคร ชีวิตมัน กรรมใครกรรมมัน ความดีใครความดีมัน ... แค่เราเผยแพร่ก็ถือว่าบุญกับชีวิตตัวเองแล้วค่ะ คนอื่นจะรับหรือไม่ก็เรื่องของเขาเถอะนะคะ

 

ทุกวันนี้ กินเจ เพื่อต้องการล้างลำไส้และสุขภาพตัวเองแต่โดยปกติ ซึ่งเมื่อก่อน ต้องถือศีลและสวดมนต์ทุกคืนช่วงเจ 10 วัน (ยอมรับว่ามีแต่สิ่งดีๆที่เข้ามาในชีวิตมาก) แต่อาหารเจไขมันเยอะ จึงต้องเลือกทาน และที่สำคัญจะไม่เน้นไปทางอาหารทีทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ เพราะเท่ากับเรายังไม่ละซึ่งรูปลักษณะนั่นเอง .. เพราะถ้าทานเจจริงๆ ต้องทำได้แบบ "เจ้าแม่กวนอิม " ท่านทานแต่พืชผักล้วนๆ แต่ก็ต้องผ่านวิบากรรมมากมายกว่าจะบรรลุจนเป็นเทพ อีกทั้งท่านเองก็มิได้สอนว่า ให้งดทานเนื้อสัตว์ หากแต่ถ้าใครจะปฏิบัติเพื่อเป็นการถวายศีล ทานบารมีนั้นแด่ท่าน การไม่ทานเนื้อสัตว์จึงเป็นเรื่องที่ดียิ่ง เท่านั้นเอง ... โดยเฉพาะคนที่ตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะละเว้นการทานเนื้อสัตว์ช่วงทานเจ และรักษาศีล ถ้าทำได้จริงก็จะเกิดกุศลต่อตนเองจริงๆ นั่นเอง

 

ถ้า เราพิจารณาอาหารที่ เรากินทุกมื้อ ก็เป็นวิปัสสนาอย่างหนึ่งนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบใดๆก็ตาม มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และอาหารที่เรากิน ก็ทำให้เราดำรงขันธ์ ไว้ได้

 

ได้เข้ามาอ่านในกระทู้นี้แล้วพิจารณาดู ผู้น้อยว่าเราน่าจะมาศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นซึ่งกันและกันน่าจะดีกว่านะครับ อย่าได้ต่อว่าหรือทัดทานทำให้เกิดความแตกแยกซึ่งกันและกันเลย
ขอท่านท่านหลายจงอย่าได้มั่นใจในหลักธรรมคำภีร์ท่องตามคัมภีร์เพียงอย่างเดียว พระพุทธเจ้าเองก็ทรงสอนให้ใช้ปัญญาพิจารณาควบคู่กันไปด้วย อย่าได้เชื่อคนอื่นไปเสียหมดโดยที่ไม่ได้ใช้ปัญณาพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน
ส่วนหนึ่งผู้น้อยเห็นด้วยอย่างยิ่งกับหัวข้อในกระทู้นี้ เพราะการกินเจอย่างเดียวนั้นไม่ได้บุญจริงๆ
เพราะการกินโดยการละเว้นเนื้อสัตว์นั้นเรียกว่าการกินมังสวิรัติไม่เรียกว่าเจ
เจหมายถึงการกินโดยปราศจากเนื้อสัตว์ ของคาว และผักฉุน 5 อย่าง รวมทั้งรักษาศีลด้วยอย่างน้อยศีล 5 ขึ้นไป และทำจิตใจให้บริสุทธิ แบบนี้ถึงจะเรยกว่าทานเจ ดังนั้นจึงไม่ได้ถือว่าจะสามารถรักษาศีลข้อ 1 ได้บริสุทธิเท่านั้น ยังจะต้องปากเจจากวาจาและการพูดด้วย เป็นการตั้งใจรักษาศีลข้อที่ 4 ด้วย แบบนี้จึงจะเรียกว่าทานเจอย่างแท้จริงครับ
ส่วนตัวผู้น้อยนั้น ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ตั้งใจกินเจตลอดชีวิต ตอนนี้ฝึกกินเจบริสุทธิมาแล้ว 2 ปี ความรู้สึกต่อร่างกายนั้นนอกจากจะปรกติดีแล้ว กลัทำให้รู้สึกแข็งแรงสุขภาพดี ทั้งกายใจ
ผู้น้อยตอนนี้อายุ 24 ปี เป็นคนจังหวัดสุรินทร์ ผู้น้อยเป็นคนหนึ่งที่ถ้าเกิดอาการโมโหแล้วจะโมโหร้ายมาก อาจจะเป็นตามกลุ๊ปเลือดหรือหลายปัจจัยร่วมด้วยก็ตามเรียกได้ว่าไม่กลัวใคร เมื่อก่อนนี้ถ้าโมโหต่อให้มาเป็น 10 ก็ไม่กลัวสักนิด ว่าไปแล้วก็ละอายใจเหลือเกิน ทุกวันนี้ได้แต่สำนึกขอขมาบาปกรรมเหล่านั้น
แต่บัดนี้ตั้งแต่กินเจนั้นรู้สึกมีอารมณ์ที่สุขุมเยือกเย็นขึ้น ไม่เคยโกรธ ไม่เคยโมโหร้ายอีกต่อไป ใครว่าอะไรก็ไม่โกรธเพราะก่อนที่เราจะโกรธเรายังมีเวลาฉุดคิดนิดนึงว่า ที่เขาว่าเรานั้นมันจริงหรือไม่ หากจริงสมควรโกรธไหม และถ้าหากไม่จริงก็ควรโกรธคือไม่ มีแต่การย้อนมองส่องตนเอง รู้ว่าตัวเรานั้นยังเลวอยู่มากเรานั้นยังเป็นเพียงผู้น้อยต่ำต้อยเพิ่งเริ่มปฎิบัติบำเพ็ญธรรมยังไม่มีคุณสมบัติใดที่จะถือโทษ โกรธ หรือสั่งสอนใครได้
ขอให้ทุกท่านลองพิจารณาดูเถิดว่าการกินเจนั้น เราไม่ได้ทำร้ายให้ใครเดือดร้อน เราไม่เคยว่ากล่าวให้ร้ายผู้ที่กินเนื้อสัตว์แต่อย่างใด เราปฏิบัติตามธรรมะของเรา ท่านปฏิบัติธรรมะของท่าน มีอะไรก็มาแบ่งบันความรู้ความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้ โดยการเปิดใจให้เป็นกลาง อย่าเพิ่งเป็นน้ำที่เต็มแก้วไปเสียก่อน
ส่วนตัวผู้น้อยมีพี่น้อง 3 คน ผู้น้อยเป็นคนโต มีน้องชายคนกลางอายุ 20 ปี น้องสาวคนเล็กอายุ 15 ปี กินเจหมดทั้ง 3 คน ตอนนี้ น้องๆคงไม่ห่วงมากนัก พ่อแม่เองก็เป็นกัลยาณมิตร ไม่ได้ขัดขวางการกินเจของลูกๆแต่อย่างใด ต้องขอกราบขอบพระมหากรุณาทิคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ให้โอกาศผู้น้อยได้บำเพ็ญธรรมอย่างราบรื่น
ผู้น้อยขอตั้งจิตเดินตามมพระหาปณิธานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลพิภพ
คนฟ้าร่วมปณิธาน จาคะกว้างใกล ปรกโปรดสี่ทิศ เทิศทำรงค์ปฏิปทา
ทุกภพทุกชาติขอติดตามเหล่าพระพุทธโพธิสัตว์จุติปรกโปรดเวไนย์สัตว์ด้วยปณิธาน
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระศรีอริยเมตไตรยเปลี่ยนโลกโลกีย์เป็นวังบัวบาน
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดไม่สิ้นเวไนย์สัตว์ในทะเลทุกข์ปฏิญานไม่บรรลุพุทธะ
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระพุทธกษิติครรถ์นรกภูมิไม่ว่างปฏิญานไม่บรรลุพทธะ
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระมัญชุศรีโพธิสัตว์อยู่ฉุดช่วยเวไนย์สัตวบรรลุธรรมในแดนโลกีย์มิยอมบรรลุพุทธะตลอดกาล
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ปฏิบัติในมหามรรคญานมหาปฏิปทา 10
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระพุทธะจี้กงโปรดไม่สิ้นเวไนย์สัตว์ในสามภพปฏิญานไม่คืนแดนนิพาน
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณพระโพธิสัตว์จันทรปัญญาโปรดไม่สิ้นเวไนย์สัตว์ในสามภพปฏิญานไม่คืนแดนนิพาน
ทุกภพทุกชาติขอติดตามพระมหาเมตตากรุณาธิคุณท้าวสักกะเทวราชเทพเจ้ากวนอูอยู่ร่วมแตกดับพร้อมฟ้าดินด้วยจิตใจห้าวหาญเด็จเดี่ยว
โปรดสิ้นสาธุชนทั้งชายหญิงพิทักษ์องค์การฟ้าปกป้องวงการธรรม รักษามัชฌิมาปฏิปทาการบำเพ็ญคุณธรรมบารมีที่ได้สั่งสมมาทุกภพทุกชาติขออุทิศแก่เวไนย์สัตว์ในภูมิวิถี 6 ทั้ง 3 ภพ 10 ทิศ อีกทั้งบิดรมารดาและผู้มีพระคุณที่ได้ล่วงเกิน

 

แต่ก็ยังดีกว่า ศีลก็ไม่รักษา เจก็ไม่กิน เอาแต่คอยจับผิดคนอื่น อ่ะๆๆๆๆๆ

 

ใครคอยแต่จับผิดคนอื่นครับ?

ประโยคข้างต้นผมบอกไปหมดแล้ว ว่าที่ผมโพสข้อความธรรมะที่หลวงปู่แหวนท่านสอนมานี้ เพื่อประโยชน์อะไร ถ้าจะบอกว่าผมคอยจับผิดคนอื่นไปไกลๆเลยครับ แล้วที่บอกว่าศีลก็ไม่รักษา คุณรู้จักตัวผมดีแล้วหรือถึงพูดแบบนี้?

 

โมทนาครับ

 

สิ่งไหนดี ก็ทำกันไปนะครับ ไม่ต้องมาถกเถียงกันละ
แล้วแต่บุญ กรรม ของแต่ละคน คงไม่เท่ากัน
ใครได้เท่าไร แค่ไหน ก็รับไปเท่านั้นนะ
ดีๆๆ ถูกๆๆกันทุกความคิดครับ

 

ดีดีดีดีดี ทุกคนๆๆ