ความเห็นเกี่ยวกับการแจกพระธาตุ

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย นายตถาตา, 16 กรกฎาคม 2010.

  1. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    ก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ

    แต่เราต้อง "มองตามหลักความเป็นจริง" ด้วย
    คิดดู...หาก "ผู้ให้" อยู่เหนือสุดของประเทศ
    และ...หาก "ผู้รับ" อยู้ใต้สุดของประเทศ
    มันจะเป็นอย่างไร

    เราเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ขอรับพระธาตุทางไปรษณีย์
    เพื่อนำมาสักการะบูชา...ความสุขใจของคนตัวเล็กๆ
    ซึ่งใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในห้องเล็กๆ กับรอบบริเวณบ้าน
    นานๆ ถึงจะได้ออกไปไหนสักที...

    หาก "ผู้ให้" มีจิตใจบริสุทธิ์..."ให้" เพราะ "อยากให้"
    และ "ผู้รับ" มีจิตใจบริสุทธิ์..."รับ" เพราะ "อยากนำมาบูชา"

    ความสุขใจที่ได้สักการะบูชาบารมีแห่งองค์พระธาตุ...
    ความอิ่มเอมใจ...ที่ไม่ได้เบือดเบียนใคร แม้แต่ตัวเอง
    ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน

    หากกลัวว่าจะเป็นการปรามาส...ก็ขอขมาท่านด้วยจิตเจตนาบริสุทธิ์

    ขอเป็นกำลังใจให้กับ "ผู้ให้" ทุกท่าน และ "ผู้รับ" ทุกท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2012
  2. baled

    baled Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +40
    ผมว่านะ เพชรอยู่ไหนก็คือเพชร อยู่ในดิน หรืออยู่ในโคลน ก็คือเพชรใช่ไหมครับ
    ถ้าผู้ได้รับแล้วปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลังได้รับ นั้นคือบุญครับ
     
  3. พระดร

    พระดร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +49


    ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจตนา
     
  4. แบดบอย

    แบดบอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +356
    และต่อไปจะได้รับแจกอีกเปล่าครับ ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ ไม่รุ้ว่าผิดหรือถูก
    รู้แต่เพียงว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
     
  5. อวตาร888

    อวตาร888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,070
    เห็นด้วยกับคุณกระจก6ด้านครับ ตอนแรกผมก็เคยขอรับทางไปรษณีเหมือนกัน ตอนหลังก็ได้ไปถามหลวงพ่อท่าน ท่านก็บอกว่าไม่สมควรอย่างยิ่งเพราะเป็นการปรามาส จากนั้นมาก็ไม่กล้าทำอีกเพราะกลัวครับ ส่วนมากที่ได้ขออัญเชิญมาจะนำไปถวายวัดต่างๆเกือบทั้งหมดจะเก็บไว้บูชาอย่างละองค์ ที่เราขอมาก็เพื่อจะนำไปให้ตามวัดที่ได้ไปทำบุญ ไม่ใช่เอามาเก็บสะสมให้เกิดกิเลส และอีกอย่างไม่ไช่เป็นของที่จะซื้อขายกันได้ ตอนหลังผมก็ได้ไปอัญเชิญจากพ่อโชคดีเพื่อนำไปถวายวัดต่างๆที่ได้มีโอกาสไปทำบุญ น่าอัศจรร์ยพระธาตุที่ผมบูชาได้เพิ่มตลอด 2-3เดือนผมจะเปิดดูและทำความสอาดครั้งหนึ่งก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงตลอด ขออนุโมทนากับผู้ให้ด้วยครับ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2012
  6. pupreecha

    pupreecha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +86
    เห็นด้วยค่ะ..ทุกสิ่งอยู่ที่เจตนา อยู่ที่คนที่รับไปแล้วเค้าทำตัวสมกับที่มีพระธาตุไว้ครอบครองหรือเปล่า .. บางคนมีห้องพระอย่างดีจัดโต๊ะหมู่บูชาราคาหลักหมื่นหลักแสน แต่ไม่เคยปฎิบัติทานศีลภาวนาเลย..
     
  7. พ่อณภัทร

    พ่อณภัทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    7,877
    ค่าพลัง:
    +3,633

    เข้ามาอ่านเพื่อความรู้ครับ และขอขอบคุณเจ้าของข้อความข้างบนนี้และความเห็นอื่นๆ ทุกความเห็นครับ ผมบูชาพระอรหันต์ธาตุจากผู้ที่รับมาจากพิธีบุญนำมาให้ด้วยตนเองถึงบ้านด้วยความเคารพบูชาเท่าเทียมกับพระธาตุและวัตถุมงคลที่ได้รับมาทางไปรษณีย์ครับ
    ขอขอบคุณในเจตนาที่เป็นกุศลและไม่ปรามาสก้าวล่วงในเจตนาของผู้อื่น และขอเป็นกำลังใจให้ทำต่อไปครับ
     
  8. jomaker

    jomaker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2012
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +2,264
    การให้ทาน เราบริสุทธิ์ใจที่จะให้ แม้ว่าจะผ่านช่องทางใด ให้แล้วก็ถือว่าท่านเจตนาดี
    คนรับ รับไปบูชา รับไปเก็บใว้จะได้ผลบุญหรือไม่ อยู่ที่คนรับ

    การส่งของ ถ้ามาขัดว่า ไม่เหมาะไม่ควร
    แต่เจตนาท่านคือการทำทานให้บุญ ขัดแค่เรื่องส่ง ก็เหมือนปิดทางทำทานไปแล้วละครับ
    ลองคิดดูว่าถ้าให้ไปรับเอง บางคนอยู่คนละภาค เค้าต้องหาทางไปรับโดยลำบาก เจตนาดีแต่ลำบากคนรับ

    ผมว่าเรื่องพวกนี้ ล้วนมาจากจิตปรุงแต่งของคนเอง คิดกันไปเองว่า ดีหรือไม่
    อะไรคือดี อะไรคือไม่ดี

    ลองคิดดูกันครับ คำว่าให้บุญให้ทานคืออะไร
     
  9. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    อัพ
    อัพ
    อัพ
     
  10. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760

    อัพ
    อัพ
    อัพ
     
  11. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    เอาง่ายๆ คุณจะส่งอัฐิบิดามารดาทางไปรษณีย์ไหม

     
  12. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    ผมถึงไม่ไปเข้าคิวขอไง
     
  13. ปราดับ

    ปราดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +140
    บัวสี่เหล่าตามนัยอรรถกถา
    1.ดอกบัวพ้นน้ำ(อุคคฏิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
    2.ดอกบัวบัวปริ่มน้ำ(วิปจิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
    3.ดอกบัวใต้น้ำ(เนยยะ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
    4.ดอกบัวจมน้ำ(ปทปรมะ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    อนุโมทนาในโพสต์นี้ค่ะ
    แต่อ่านแล้ว ก็มีทั้งเข้าใจแลไม่เข้าใจค่ะ
     
  15. ปราดับ

    ปราดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +140
    อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร)
    กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10
    หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร

    1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
    2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
    3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
    4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
    5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
    6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
    7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
    8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
    9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
    10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
    ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
    สูตรนี้ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ แห่งวรรณะกษัตริย์ ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาละมะนั้นเป็นชาวเกสปุตตะนิคม ในแคว้นโกศล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผลตามหลัก 10 ข้อ
    ตัวอย่าง
    1.อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา ประเภท "เขาว่า" "ได้ยินมาว่า" ทั้งหลาย
    2.อย่าได้ยึดถือถ้อยคำสืบๆกันมา ประเภท "ใครๆว่า" "โบราณว่า" ตามกระแส
    3.อย่าได้ยึดถือโดยความตื่นข่าวว่า เข่าว่าอย่างนี้ ประเภทข่าวลือ ข่าวโคมลอย ทั้งหลาย
    4.อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา อย่าไปตามตำรามากนัก ตำราว่าอย่างนั้น ต้องออกมาเป็นอย่างนั้น เท่านั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะอย่าลืมว่า ตำราบางเล่ม คนแต่งก็มั่วมาบ้าง เขียนไม่ครบบ้าง ใส่ไข่เอาเองบ้าง คนมีกิเลสไปแก้ไขตำรา คนมีผลประโยขน์ ไม่แก้ไขตำราเท่ากับเราโดนหลอก
    5.อย่าได้ยึดถือโดยนึกเดาเอาเอง เช่น เข้าใจเอาเอง หรือข้อมูลไม่พอ ใจร้อนเดาสุ่มเอา มั่วๆ เอา
    6.อย่าได้ยึดถือโดยการคาดคะเน การคาดการณ์ตามประวัติศาสตร์ ตามสถิติ ความน่าจะเป็น ซึ่งอาจจะผิดก็ได้ เพราะเห็นแค่ร้อย อย่าเหมาว่าที่ร้อยเอ็ดจะเป็นไปด้วย
    7.อย่าได้ยึดถือตรึงตามอาการ อย่าเห็นว่าอาการแบบนี้ น่าจะเป็นแบบนี้ ให้คิดเผื่อๆไว้ด้วย เช่น เห็นคนไข้เป็นแบบที่เคยรักษาคนอื่นๆมาก่อน อย่าไปตรึกเอาเองว่าเป็นแบบนั้น เห็นเงาก็จ่ายยาได้ เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า อย่าเข้าข้างตนเอง นั่งสมาธิเห็นโน่น เห็นนี้ อย่านึกว่าเป็นจริง เพราะอาจจะเป็นจิตหลอกจิต
    8.อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่า ต้องกันกับทิฐิของตัว อย่าเอาความเห็นของตนเป็นใหญ่ อะไรที่ตรงกับที่ตนคิดไว้เท่านั้นที่เชื่อได้ คนคิดแบบนี้ ดื้อตายชัก
    9.อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ ระวังจะโดนหลอก อย่าลืมว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    10.อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา การยึดอาจารย์ของตนเองมากไป ก็ไม่ดี ควรทำตาม ทดสอบดู ถ้าผิดพลาดก็ไม่ต้องเชื่อ ถ้าทำแล้วดีขึ้นก็แสดงว่าเชื่อได้


    ที่มา : :: Buddha 4 u ::
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2012
  16. Chakarinat

    Chakarinat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,460
    ค่าพลัง:
    +1,897
    เก็บใส่ผอบ แล้ววางไว้ในที่อันควร เมื่อท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ สวดมนต์ภาวนา หมั่นสร้างบุญ สร้างกุศล องค์ท่านจะกลับมารวมตัวหรือแปรสภาพกลายเป็นองค์ใหม่หลายๆ องค์

    ขออนุโมทนา
     
  17. aetipp

    aetipp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ ปราดับ ครับผม เพราะทุกอย่างเป็นสัจธรรมแห่งความไม่เที่ยง พระพุทธองค์ทรงเหลือไว้ให้เราเพียงสิ่งที่นี้ที่เป็นตัวแทนอันใกล้ชิดมากที่สุด ต่อจากนั้นอยู่ที่เราว่าจะดีได้ หรือดี ไม่ได้ ต่างหากคือคำตอบ แต่การส่งไปรษณีย์หรือไม่ไปรษณีย์ ไม่ผมคิดว่าน่าจะไม่สำคัญซักเท่าไหร่ เหมือนคนกินเนื้อ กับคนกินเจ ไม่ต่างกัน แต่สำัคัญที่การปฏิบัติธรรมเพื่อให้หลุดพ้นมากกว่า ไม่ใช่สักแต่รู้ ก็ได้เพียงแต่รู้ หลวงปู่เจี๊ยะถึงได้สอนไว้คำหนึ่ง " ไอ้ห่า บวชแล้วปฎิบัติธรรมสู้ คนแก่ไม่ได้แล้วจะบวชไปทำไม " เหมือนกันถ้าเราคิดว่ากินเจ(ปัจจุบันผมก็ทานมังสะวิรัติตลอดชีวิต)แต่ไม่เคยปฏิบััติตนตามแนวทางเพื่อหลุดพ้นเลย ก็ได้แต่ส่วนนั้นคือไม่เบียดเบียนสัตว์แต่การหลุดพ้นยังต้องฝึกอีกเยาะๆๆๆๆๆๆๆ
    คุณ cPark พูดถูกครับผม ถ้ารับศรัทธา แล้วปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นให้เราเห็นเองครับผม แม้นดินก้อนเดียวที่สร้างเป็นรูปตัวแทนพระพุทธองค์หรือครูบาอาจารย์ ปาฏิหาริย์ก็จะเกิดให้เห็นเพียงเราศรัทธาเพียงพอครับผม ทุกเหตุเป็นปัตจัตตัง ทั้งเรื่องส่งพระบรมสารีริกธาตุทางไปรษณีย์และเรื่องศรัีทธา นี้ เหมือนคนฝึกกับคนไม่ฝึกก็จะต่างกัน คนไม่ฝึกพูดได้ก็เพียงรู้มา แต่คนฝึกเขาจะไปด้วยเหตุแห่งปัตจัตตังอันนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลของการทุ่มเทฝึกอีกทีครับผม น้อมอนุโมทนาสาธุกับกระเจ้าของกระทู้ ที่เสนอแนะแนวการถกถึงปัญหาเรื่องนี้ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2012
  18. ข้าผู้น้อย

    ข้าผู้น้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +81
    ส่วนตัวผมเป็นผู้รับ ก่อนที่ผมจะได้รับ ผมจะอธิษฐานขอขมาพระธาตุท่านแล้ว
    ก็อธิษฐานต่อเทพเทวดาที่รักษาพระธาตุว่า ขอให้เทพเทวาทั้งหลายได้โปรดช่วยดูแลรักษาพระธาตุในระหว่างทางที่พระธาตุเสด็จมา อย่าได้มีผู้ใดปฏิบัติดูหมิ่นปรามาส
    โดยเจตนาหรือไม่เจตนาแก่พระธาตุเลย ขอได้โปรดช่วยรักษาพระธาตุนั้นให้อยู่ในที่สมควรเท่าที่พอจะทำได้ เถิด
     
  19. ศิริเทพ

    ศิริเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +795
    น่าคิดๆๆๆ
    จากข้อความบ้างส่วนจาก มูลนิธิ พระบรมธาตุ ในพระสังฆ์ราชราชูปถัมภ์
    สมัยนี้ เเจกพระธาตุกันว่าเล่น ทำกันเป็นเด็กเล่นขายของ นึกอยากจะเเจกก็เเจก มีส่งกันทางไปรษณีย์ ทำยังกะพัสดุสิ่งของ ที่หาง่าย ไม่มีค่า อนาถใจ นึกถึงรุ่นเก่าก่อน ในอดีต ที่พระบรมสารีริกธาตุ เป็นเครื่องบรรณาการชั้นเลิศ ยิ่งกว่าเงินทอง มีค่ามากกว่าเงินทอง ไม่ว่าจะเอามาทำเป็นของเล่น ทำยังไงก็ได้ เอาความมักง่ายเข้าว่า ขอฝากกับทุกๆคน ที่ดูเเลเพจพระธาตุทั้งหลาย ช่วยๆกันอภิบาลพระบรมธาตุ
    เปลี่ยน ความคิด การมอบใหม่ ดีมัื๊ย?
    มารับเอง จะใกล้ หรือ ไกล ถ้าต้องการ เพื่อนำไปบูชาเป็นมงคล ต้องไปอัญเชิญถึงที่ เพื่อให้ความเคารพ น้อมสักการะ ต่อ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบุญต่อ คนที่ไปอัญเชิญ สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2014
  20. potilan

    potilan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2014
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +40
    ดูที่เจตนาครับ ผมว่าดีไม่ดีอยู่ที่ใจครับบริสุทธิ์พอหรือไม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...