พุทธภูมิ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ธรรมะ

พุทธศิลป์แห่งภูดานไห โดยองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช

ขอนอบน้อม กราบ กราบ กราบ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
องค์พระมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพระพุทธเจ้า IT Man/28.11.2555​

 

วันนี้ 28 พ.ย. เวลาประมาณ 9.30 น.องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้เดินทางกลับภูดานไหแล้วโดยมีคุณหมูและคุณปุ้ม คุณนก คุณหญิง คุณอ๋า คุณหนุ่มร่วมเดินทางไปส่ง
ขอให้ทุกๆท่านที่ได้ร่วมประกอบกิจการเผยแพร่ศาสนาขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ครั้งนี้ได้รับอานิสงส์ผลบุญจนให้เข้าสู่นิพพานในอนาคตกาลเบื้องหน้าทุกๆท่านเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

สวัสดีครับญาติธรรมทุกๆท่าน ผมเองเพิ่งแยกทางกับคณะขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่บ้านคุณโกศล-โคราช ถึงบ้าน16.30น.โดยประมาณ คณะของคุณจ๊อกกี้ได้เดินทางไปส่งท่านต่อที่มหาสารคามเพื่อโปรดญาติธรรมอีกท่านหนึ่ง คาดว่าพรุ่งนี้คงกลับถึงภูดานไหอย่างเป็นทางการ ก็เข้ามาทักทายกันหลังจากที่ได้มีโอกาสติดตามองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ในวาระธรรมะสัญจรเพื่อโปรดนรธ.และญาติธรรมที่ได้กราบนิมนต์ท่านไว้ ซึ่งการเดินทางในวาระนี้นั้นยาวนานกว่าที่ผ่านๆมา(7 พ.ย.-1ธ.ค.2555) มีหลากหลายประสบการณ์ที่ได้พบเจอทั้งตื่นเต้น ประทับใจและประหลาดใจในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางโปรดญาติธรรมตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวาระสุดท้ายของการเดินทาง ความจริงแล้วยังมีต่อที่มหาสารคามในค่ำคืนนี้ รวมๆแล้วประทับใจตลอดเส้นทางครับ จะนำมาเล่าสู่กันฟังในเร็วๆนี้นะครับ

ขอเจริญในธรรม
สมาชิกธรรม

 

วาระแรกการมาเยือน กทม.ของพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช

ในการมาเยือน กทม.ของพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชตั้งแต่วันที่ 22 พย 2555 ถึง29พย2555 นั้นมีเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นแต่จะยังไม่กล่าวถึงจะขอนำภาพเหตุการณ์ในแต่ละสถานที่ซึ่งมีภาพมากมายจากหลายท่านที่ได้ถ่ายไว้ จะขอนำภาพบางส่วนที่ผมถ่ายไว้ (ไม่ค่อยไดัถ่าย)มาลงให้ลูกศิษย์และญาติธรรมที่ไม่ได้ร่วมเดินทางได้ชมกันก่อน เนื่องจากภาพมีจำนวนมากเพื่อความสะดวกจึงขออนุญาตนำลงใน facebook โดยเข้าไปที่ facebook แล้วค้นหาคำว่า "ภูดานไห" นะครับ

 

ขอแสดงความยินดีและโมทนาสาธุกับท่านพิเชฐและคณะศิษย์ทุกท่านที่มีโอกาสถวายการต้อนรับ,อุปัฏฐากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ตลอดเส้นทางจวบจนถึงภูดานไหทุกประการครับ

 

ในวาระที่พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ได้มาโปรดลูกศิษย์ที่กรุงเทพฯ ท่านได้นำแสงสว่างแห่งธรรม มาสาดส่องยังภายในใจของญาติธรรม ต่างได้รับแนวทางปฏิบัติกันไปโดยถ้วนทั่ว ท่านได้อรรถาธิบายธรรมนับแต่พื้นฐานเริ่มต้นโดยลำดับขั้นตอน ไปตามภูมิจิตภูมิธรรมของแต่ละท่าน ในเบื้องต้นให้เกิดสัมมาทิฐิ ความเห็นถูกในวิถีทางปฏิบัติ

ส่วนหนึ่งของธรรมเทศนา ที่พอจะจดจำนำมาถ่ายทอดแบ่งปันแก่ทุกท่าน ที่พลาดโอกาสไปในวาระนั้น อาจไม่ได้ถ้อยธรรมที่สื่อความหมายความเข้าใจได้สมบูรณ์เหมือนดังที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้แสดง แต่พยายามให้ตรงต่อธรรมมากที่สุดเท่าที่ปัญญาอันน้อยนิดพอจะจดจำรับรู้เข้าใจได้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสต่อธรรม ที่ท่านได้เมตตา นำมาชี้แนะสั่งสอน

ท่านได้กล่าวถึงการภาวนาว่า ในเบื้องต้นผู้คนพากันปฏิบัติด้วยเพราะหวังในผลบุญ
หากอยากได้บุญมาก ก็หมั่นระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า(พุทธานุสติ)ให้มาก ระลึกนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอน น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติ
หากได้ทำบ่อยๆบุญบารมีก็จะเกิดมากขึ้น เมื่อเต็มเปี่ยมก็จะบังเกิดปัญญาญาน ได้รู้ เข้าใจในธรรม รู้แจ้งในสัจจธรรม

ได้มองเห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงตามความเป็นจริง
เห็นทุกสิ่งตกอยู่ในไตรลักษณะที่ไม่อาจยึดถือ ครอบครอง บังคับบัญชา..

เมื่อจิตได้เข้าใจความเป็นจริง และยอมรับความเป็นจริงอันนั้น จิตก็ปล่อยวางอุปทานความยึดถือ อันเกิดจาก อวิชชาความไม่รู้ ที่พาให้ดวงจิตต้องมาเวียนว่ายตายเกิดในภพน้อยภพใหญ่นับครั้งไม่ถ้วน (เมื่อแสงสว่างบังเกิดขึ้น ความมืดก็หายไป..)

จิตปล่อยวาง ด้วย ปัญญาญาน ความรู้แจ้งเห็นจริง...ในสัจจะธรรม
ปล่อยวางในอัตตาตัวตน ความเป็นเรา ของของเรา (วางอัตตาลงได้ ก็พบอนัตตา..)
จนที่สุดแล้ว ปล่อยวางจิต(ผู้รู้) ด้วยตัวจิตเอง

เป็นเนื้อหาใจความส่วนหนึ่ง ในธรรมเทศนาขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ที่นำมาถ่ายทอดโดยสังเขป ในส่วนอื่นๆ(ยังมีอีก) คงได้นำมาแบ่งปันในโอกาสต่อไปครับ

ขอเจริญในธรรม
นรธ.ภูเบศวร์

 

วาระที่พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ได้มาโปรดลูกศิษย์ที่กรุงเทพฯ (ต่อ)

ในขณะหนึ่งที่ญาติธรรมกำลังนั่งรอฟังธรรมด้วยความสงบ ช่วงเวลาได้ผ่านไปนานพอสมควรสำหรับภาวะเงียบงันเช่นนั้น
ท่านได้กล่าวในเวลาต่อมาว่า การทำตัวให้นิ่งเป็นเวลานานๆนั้นยาก การทำใจให้นิ่งยิ่งยากกว่า เพราะเราไม่ชิน เราชินกับการไม่อยู่นิ่ง ชินต่อการคิดนึกปรุงแต่ง จะทำใจให้นิ่งได้ก็ด้วยการฝึกใจ ใช้อุบายฝึกใจ โดยระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า มิใช่ระลึกเพียงแต่รูปของท่าน แต่ให้ระลึกถึงธรรมของท่านด้วย

การใช้อุบายโดยการภาวนา”พุทโธ” ก็เพื่อให้เราเข้าถึงพุทธะภายใน เราหลับตาแต่เพียงภายนอก แต่ภายในให้ตื่นขึ้น พุทโธ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ตื่นรู้ทั่วพร้อมทั้งกายและใจ รู้ความเคลื่อนไหว สิ่งที่เกิดขึ้นภายในกายในใจเรา และเบิกบานด้วยใจไม่ถูกครอบงำจากกิเลส อันเป็นสิ่งร้อยรัดให้ใจเศร้าหมอง ใจที่เศร้าหมองนั้นจะนำพาจิตเราให้ไปสู่ทุคติ

สมาธิ คือความตั้งใจมั่น ตั้งใจมั่นต่อการประพฤติปฏิบัติ ตั้งใจมั่นต่อการภาวนา
การภาวนาอย่ามุ่งหมายแต่เพียงความสงบ อย่าหยุดเพียงแค่ความสงบ(เอคตารมณ์) ต้องให้รู้ให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในใจด้วย

ความสงบภายในนั้น มีทั้งสงบระงับเป็นอารมณ์เดียวหรือที่เรียกว่าเอคตารมณ์ ซึ่งผลแห่งความสงบนี้จะเกิดปิติ สุข เบากายเบาใจ ใจจะมีพลัง เป็นเหมือนใจได้รับการพักผ่อน(พักจากการคิดนึกปรุงแต่ง) บางครั้งใจรวมลงสู่ความสงบแบบนี้ ร่างกายเหมือนจะหายไปเลย เหลือแต่เพียง"ตัวรู้"อยู่เท่านั้น
และความสงบภายในอีกแบบหนึ่ง คือความสงบที่รู้กายรู้ใจ รับรู้ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายในใจ แต่ไม่ไปเกี่ยวข้อง หรือวุ่นวาย กับความเคลื่อนไหวนั้น เห็นแต่ละสิ่ง ต่างทำหน้าที่ของใครของมัน ใจก็ทำหน้าที่รู้ ไม่เข้าไปยึดถือหรือบังคับบัญชาสิ่งที่ปรากฏขึ้นในใจนั้น และท้ายที่สุดเห็นทุกสิ่งรวมลงสู่กฏแห่งไตรลักษณ์

การทำสมาธิภาวนา ให้เป็นไปตามสภาวะของจิตในแต่ละขณะนั้น หากจิตรวมลงสู่ความสงบก็ให้จิตสงบนิ่งอยู่อย่างนั้น จนกว่าจิตจะถอนตัวออกมารับรู้ พิจารณาธรรม
หรือหากจิตอยู่กับการรับรู้ พิจารณาธรรม ไม่รวมลงสู่ความสงบเป็นอารมณ์เดียว ก็ให้จิตทำงานอย่างนั้น ซึ่งท้ายที่สุด จิตก็อาจเคลื่อนเข้าสู่ความสงบเมื่อเพียงพอต่อการพิจารณาแล้ว
(ทั้งนี้สุดแล้วแต่สภาวะจิตของแต่ละวัน แต่ละขณะ ในวันหนึ่งๆเราอาจรับรู้เรื่องราวต่างๆมามากมาย อาจสะสมความคิดนึก ปรุงแต่ง จนเมื่อถึงเวลาภาวนา การจะทำให้จิตสงบก็เป็นไปได้ยาก หากจิตเป็นเช่นนั้น เราก็มองดูความคิดนึกปรุงแต่ง ด้วยความสงบ.../.ผู้เขียน. )

การภาวนาคือการศึกษาเรียนรู้และเข้าใจในธรรมชาติของจิตเรา ธรรมชาติของสิ่งทั้งหลาย รู้และเข้าใจด้วยความซื่อตรง นั้นคือ รู้ตามความเป็นจริง เห็นทุกสิ่งมันเป็นของมันอย่างนั้น. (..ตถตา..)

มีแต่ใจที่ถูกครอบงำและบีบคั้นจากกิเลส ที่ต้องการให้มันเป็นอย่างอื่นตามความต้องการ ตามความพอใจของเรา จึงเกิดความทุกข์ขึ้น

หากเรามองเห็นทุกสิ่ง..มันเป็นของมันอย่างนั้นและยอมรับในความเป็นจริงของมัน ใจของเราก็เบาสบาย ไม่ทุกข์เพราะอยากให้เป็น หรือไม่อยากให้เป็น เพราะความจริง มันเป็นของมันอย่างนั้น เป็นสัจจธรรมในตัวของมันเองอย่างนั้น.

เมื่อเราเข้าใจในสัจจธรรมความเป็นจริง ในวันหนึ่งเราอาจรำพึงขึ้นมาในใจ

“โอ้..ตถตา...มันเป็นเช่นนั้นเอง.”

ขอเจริญในธรรม
นรธ.ภูเบศวร์

 

ด้วยความยินดีครับ.....ก็ขอให้ทุกๆท่านจงมีส่วนในบุญกุศลที่ผมและคณะฯได้กระทำแล้วทุกประการทุกท่านเทอญ.....สาธุ

ในระหว่างนี้ผมเองอยู่ในช่วงเคลียร์ภาระกิจทางครอบครัว คาดว่าอีก2-3 วันคงเรียบร้อย หลังจากนั้นก็พร้อมที่จะติดตามองค์พ่อแม่ครูอาจารย์อีกวาระหนึ่ง เร็วๆนี้ครับ..... ยังไม่ทราบแน่ชัด.....ที่แน่นอนก็คือร่วมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ภูดานไหอย่างที่เคยกระทำมาอย่างแน่นอนครับ.....

เจริญโลกเจริญธรรม
สมาชิกธรรม/นรธ.พิเชฐ

 

ขอกราบแทบเท้าองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ผู้มีบุญญาบารมี


องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
...ความเป็นคนชอบสงสัย คิดปรุงแต่งเรื่องต่าง ๆ ทำให้จิตสงบได้ยาก แม้ลูกจะโง่เขลา ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าท่านก็ยังเมตตาดึงจิตที่ตกต่ำของลูกให้ขึ้นมาก่อนจมดิ่งลงภพภูมินรก เปรต เดรัจฉาน แม้กระทั่งความสงสัยข้อสุดท้ายในบางสิ่งบางอย่าง ก็แจ่มแจ้งปรากฏให้เห็นกับตาให้รู้กับตนจนรู้จริงประจักษ์แจ้งใน "บุญญาบารมีของพ่อแม่ครูอาจารย์" ลูกขอกราบขอขมาในความสงสัย
... ต่อไปนี้ลูกจะหมั่นระลึกถึงพระธรรมคำสอนที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้เมตตามอบให้ลูกเพื่อเป็นทางเดินให้พ้นอาสวกิเลส จะคิด ทำ พูด สิ่งที่เป็นธรรม เพื่อทดแทนพระคุณความเมตตาของท่าน เมื่อลูกได้พบพระผู้มีบุญญาบารมีแล้วลูกจะไม่ยอมปล่อยให้เวลาแม้แต่วินาทีเดียวผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ในทางธรรมเลย สาธุ สาธุ สาธุ

... หมายเหตุ เห็นภาพที่ท่านนักรบธรรมได้ถ่ายภาพ เห็นองค์ที่เป็นดวงแสงต่าง ๆ ด้วยความโง่เขลาอับปัญญาก็สงสัยว่าดวงแสงต่างๆ ปรากฏได้อย่างไร ... บัดนี้ความสงสัยได้ถูกทำลายหมดสิ้นแล้ว เมื่อข้าพเจ้าได้ถ่ายภาพนี้ด้วยตนเองโดยใช้โทรศัพท์มือถือ ในโอกาสที่ได้รับความเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้จากพ่อแม่ครูอาจารย์ให้ติดตามท่านและคุณแม่ชม พร้อมทั้งพี่อ้อยและน้องอั๋น ไปยัง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 6-8 ธันวาคม 2555

 

โมทนาสาธุครับ...
มีเพื่อนธรรมใกล้ไกล ให้ความสนใจความก้าวหน้าในทางธรรมผ่านบอร์ดฯ ของคุณ Chomphunut อยู่นะครับ

 

ไม่รู้จะโพสต์ หรือบรรยายอะไรมากไปกว่าแสดงความรู้สึกนะครับ

ช่วงสัปดาห์กว่า ๆ ที่ผ่านมานี้ พวกผมทั้งหลายที่อยู่มหาสารคาม
ต่างได้รับการกระทุ้ง การขนาบผ่านการเทศนาสั่งสอนดวงจิตที่ยังมืดบอด
อยู่หลายครา คนปัญญาน้อยอย่างผมก็ได้แต่รับฟัง
กว่าจะเข้าใจได้ว่าตนได้รับการกระทุ้งก็ผ่านพ้นไปหลายวัน

และจากการที่ได้รับใช้องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมื่อคราโพนพิสัยครั้งล่าสุด (6-8 ธ.ค.)
บังเกิดนิมิตขึ้นทั้ง 2 คืน และเกิดเหตุการณ์ที่ช่วยเรียกสติคืนกลับมาอีก 1 เหตุ
ซึ่งเหล่านี้ต่างตอกย้ำคำสั่งสอนที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้โปรดเมตตา
มานับครั้งไม่ถ้วน

เหนือกว่าคำว่าอิจฉา คงต้องใช้คำว่า โมทนาสาธุ กับท่านที่สามารถรับเอาธรรม
จากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ มาใช้ในการขัดเกลาดวงจิต กำจัดกิเลสอาสวะทั้งหลาย
ได้อย่างรวดเร็ว แม้ได้ฟังเพียงครั้งเดียว ซึ่งต่างจากตัวผม ได้สดับรับฟังธรรม
มาก็นับครั้งไม่ถ้วน กลับเข้าใจในธรรมอันนั้นช้ามาก

แต่นิมิตคืนก่อนที่จะกลับมาภูดานไห ต้องขอแปลเป็นอุบายธรรม (ไม่ขอเล่าในนี้นะครับ)
เพื่อนำเอาไปเป็นกลยุทธ์เพื่อก้าวผ่าน อุปสรรค ปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องพบ
ต้องประสบในภายภาคหน้าให้ได้

ขอโมทนาสาธุในธรรมอันเกิดขึ้นกับทุก ๆ ท่านด้วย
และขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปทุกหมู่เหล่าครับ

 

สวัสดีครับทุกๆท่าน ช่วงนี้ภาระกิจมากจริงๆขอให้ญาติธรรมชมภาพธรรมะสัญจรครั้งล่าสุดผ่านทาง facebook===>ภูดานไห ตามที่ท่านจีรังจิตได้ลงไว้ให้ชมกันก่อนเรื่อยๆนะครับ พบกันได้ที่ภูดานไหพรุ่งนี้เป็นต้นไปครับ


ขอเจริญในธรรม
สมาชิกธรรม

 

พุทธศิลป์ภูดานไห โดยองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช (ฉบับปรับปรุง)

ขอนอบน้อม กราบ กราบ กราบ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
องค์พระมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ด้วยเศียรเกล้า
รวบรวมงานพุทธศิลป์บางส่วนระหว่างปี พ.ศ. 2554-2555 อันสร้างจากสองมือแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
ได้เมตตา ปั้น แกะ จาร เขียน วาด รูปเหมือนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ประดิษฐานไว้บนกระดาษ ผ้า ปูน ดินแม่น้ำโขง หินแม่น้ำโขง(ปฐวีธาตุ) ฯลฯ
เพื่อมอบให้ลูกศิษย์และญาติโยมทั้งหลายได้อัญเชิญไปภาวนาเป็นพุทธานุสสติ ธรรมานุสสติ สังฆานุสสติ
เป็นกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อความเจริญงอกงามทั้งทางโลก ทางธรรม จนถึงที่สุดแห่งความพ้นทุกข์ต่อไป

ทั้งนี้...ข้าพเจ้ากราบขออนุญาตอัญเชิญภาพเกศาธาตุและภาพบุญฤทธิ์แห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ประดิษฐานร่วมด้วย​

- Download ภาพต้นฉบับขนาด 3000x4500 Pixel (20"x30") ได้ที่...
- พุทธศิลป์ภูดานไห2555.JPG หรือที่ : พุทธสถานภูดานไห: 291: พุทธศิลป์ภูดานไห
- ขอโมทนาสาธุกับทุกท่านที่ได้ช่วยเผยแพร่ ประกาศ พิมพ์ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
- IT Man : สร้างเมื่อ 11 ธันวาคม 2555 เนื่องในวาระองค์พ่อแม่ครูอาจารย์จักธรรมะสัญจรมาโปรดฯ (23-25 ธ.ค.2555)
- และวาระปฏิบัติธรรมข้ามปี 2555-56 ณ พุทธสถานภูดานไห จ.กาฬสินธุ์

 

สำหรับทุกท่านที่จะวางแผนการเดินทางเพื่อไปปฏิบัติธรรม หรือเพื่อกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช

 

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาธรรมะสัญจรมาโปรดแม่สอด-เชียงใหม่

กราบเรียน ญาติธรรมและเพื่อน นรธ.ทุกท่าน,

ด้วยความเมตตาขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ โดยองค์ท่านได้เมตตารับนิมนต์มาธรรมะสัญจร (ครั้งที่ 4) โปรดบ้านสุขสมบัติ หมู่บ้านพฤกษา-กาสะลอง (ทางเข้าติดกับร้านอาหารข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง สาขาแม่สอด) ในเย็นวันที่ 23 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป (โดยผมจักเดินทางไปรับองค์ท่าน คุณแม่ฯและท่านพิเชษที่ภูดานไหในวันที่ 21-22) จากนั้นพอเห็นสมควรแก่เวลาแล้ว องค์ท่านก็จักพาขึ้นเชียงใหม่เพื่อไปสักการะพระพุทธบาทสี่รอย ถ้ำผาป่อง และถ้ำหลวงเชียงดาว แล้วถึงจักย้อนกลับมานำพาญาติโยมปฏิบัติธรรมข้ามปี (31 ธ.ค. 55-1 ม.ค. 56)

ทั้งนี้โปรแกรมการเดินทางหรือแวะสถานที่สำคัญทางพระศาสนา อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามองค์ท่านเห็นว่าเหมาะสม

จึงกราบเรียนมายังญาติธรรมทุกท่านที่มีความสะดวกจักเข้ากราบรับฟังธรรมะจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ตามสถานที่หรือจังหวัดดังกล่าวข้างต้น

เรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอต้อนรับและขอโมทนาสาธุทุกประการครับ
IT Man/13.12.12

 

<a href="http://s2.uppic.mobi/share-F5E2_50CC620C.html"><img src="http://s2.uppic.mobi/image-F5E2_50CC620C.jpg" border="0"></a>

“วิถีทางแห่งการเข้าถึงพุทธธรรม” ณ พุทธสถานภูดานไห
คำว่า “ให้มีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง” ดิฉันได้ยินและได้ท่องคำนี้มานาน แต่ไม่เคยรับรู้และซึ้งในความหมายจนกระทั่งวันที่ได้ก้าวเข้ามาที่พุทธสถานภูดานไห และได้ฟังพระธรรมจากคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
ช่วงเวลานี้ทรัพย์สิน การงาน ครอบครัว ยังเป็นไปได้ดีตามอัตภาพเช่นเดิม แต่สิ่งที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไปคือความรู้สึกที่ทุกข์น้อยลงเหมือนกับว่า “เมื่อทุกข์กำลังเข้ามา คำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์จะวาบขึ้นมาเหมือนเป็นปราการกั้นให้ทุกข์นั้นก็ค่อยจางไป จางไป”
ดิฉันเข้าใจถูกหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะคะว่านี่คือลักษณะของ “การมีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง”
พุทธสถานภูดานไห คือ ดินแดนที่ทำให้ดิฉันได้เข้ามาพบพระธรรมที่แท้จริง ทำให้ดิฉันระลึกถึงพระคุณแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และได้พบพระสงฆ์ ผู้เป็นดังพ่อแม่ครูอาจารย์ที่คอยสอน คอยเตือน คอยชี้โทษ คอยกล่าวคำขนาบจนทำให้ดิฉันสามารถหาวิธีจัดการกับทุกข์ที่อยู่ในใจด้วยการระลึกถึงคำสอนของท่าน
วันนี้สิ่งที่ฉันรู้สึกว่าต้องทำคือ “ทำอย่างไรผู้คนในโลกนี้จะมีโอกาสได้พบพ่อแม่ครูอาจารย์ ได้ฟังพุทธธรรมที่พ่อแม่ครูอาจารย์น้อมนำมาสอน และได้ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า” เหมือนที่ดิฉันได้รับโอกาสนี้
ดิฉันจึงขอปวารณาทำถนนขึ้นวัดที่ไม่ต้องอาศัยการผ่านที่นาของคนอื่น เนื่องจากถนนที่ใช้ปัจจุบันเป็นการใช้ถนนของชาวบ้านในละแวกนั้นซึ่งไม่สะดวกต่อการเดินทาง และที่สำคัญคือการเข้าออกที่รบกวนการวิปัสสนาของผู้มาปฏิบัติธรรม
การก่อสร้างถนนจะเริ่มต้นในวันจันทร์นี้ค่ะ จะเริ่มจากการถมดิน ลูกรัง และทำลานจอดรถ ด้วยปัจจัยจากศรัทธาของดิฉัน ร่วมกับญาติธรรมทางมหาสารคาม คือคุณพี่อ้อย คุณน้องอั๋น และจากญาติธรรมทางกรุงเทพฯคือ คุณแม่แดง (UN) รวมได้ 120,500 บาท (ปีใหม่นี้จะมีถนนขึ้นวัดที่สะดวกขึ้นแล้วค่ะ)
หลังจากถนนดินและลูกรังเสร็จแล้ว ก็จะเริ่มเทคอนกรีต ซึ่งอาทิตย์หน้าญาติธรรมจากทางกรุงเทพฯ โดยมีคุณหนุ่ม (UN) เป็นผู้บอกบุญ จะโอนปัจจัยส่วนหนึ่งมายังดิฉันเพื่อนำถวายเพื่อนำไปราดคอนกรีต ต่อไป
ตอนนี้ดิฉันหลับตามองเห็นถนนที่เป็นเส้นทางถึงธรรม ณ พุทธสถานภูดานไห มีความงดงาม ประณีต และทำให้ผู้มาเยือนที่ย่างก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ อันสงบร่มเย็นภายใต้ดินแดนแห่งธรรมที่ร่วมกันสร้างจากพลังศรัทธาอันมุ่งมั่นและยิ่งใหญ่ของลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาในองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
ดิฉันขออนุญาตบอกบุญมายังทุก ๆ ท่าน ที่มีจิตศรัทธาประสงค์จะร่วมบุญเพื่อการบวรพระพุทธศาสนาครั้งนี้ ด้วยการสร้าง “วิถีทางแห่งการเข้าถึงพุทธธรรม” สามารถร่วมบุญครั้งนี้ได้นะคะ
ขออนุโมทนาบุญพลังศรัทธาเพื่อบวรพุทธศาสนาครั้งนี้ของทุก ๆ คนด้วยนะคะ ฝากภาพการถวายใบปวารณา เพื่อร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ

 

กระผมขอโมทนาสาธุกับคุณ Chomphunut และคณะท่านเจ้าภาพทุกท่าน ทุกประการด้วยครับ

IT Man/16.12.12

 

แจ้งเปลี่ยนแปลงกำหนดการและวิธีการธรรมะสัญจรโปรดแม่สอด

ตามที่กระผมได้รายงานเรื่ององค์พ่อแม่ครูอาจารย์จักธรรมะสัญจรครั้งที่ 4 มาโปรดแม่สอดตามรายละเอียดข้างต้นนั้น
คุณแม่บุญชมตระหนักถึงระยะทาง เวลา ความลำบากในการเดินทางไกลระหว่างแม่สอดถึงภูดานไหผ่านรถยนต์ดังนี้คือ
- ระยะทาง ไป-กลับ ประมาณ 1,500 กม.
- ระยะเวลา ไป-กลับ ประมาณ 12+12 ชั่วโมง
- ความยากลำบากในการเดินทางของผมที่ต้องตีรถไปกลับเป็นระยะทางไกล
- ที่สำคัญคือหลังจากออกพรรษามานี้ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ฯรับอาราธนานิมนต์เดินทางธรรมะสัญจรโปรดคณะศิษยานุศิษย์ จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนธาตุขันธุ์เลย
- จึงสมควรที่คณะศิษย์ทั้งหลายควรที่จะรักษาธาตุขันธุ์องค์ท่านเอาไว้โปรดพวกเราไปตราบนานเท่านาน
- และวาระสำคัญอันใกล้นี้องค์ท่านจักเป็นประธานในการปฏิบัติธรรมข้ามปี (29 ธ.ค. 55 - 1 ม.ค. 56) ณ พุทธสถานภูดานไหอีกด้วย
ดังนั้นคุณแม่จึงให้คณะศิษย์พิจารณาเปลี่ยนแปลงวิธีการเดินทางใหม่ที่จักถึงแม่สอดรวดเร็วกว่าเดิม นั่นคือผ่านทางเครื่องบินโดยสาร ก็พอดีกับคุณโยมไก่ ที่เป็นคนกุดหว้า พึ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศและได้มากราบองค์พ่อแม่ครูอาจารย์พอดี เธอได้ติดต่อประสานงานจองตั๋วเครื่องบินให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีรายละเอียดคือ
- ออกเดินทางจากภูดานไหในวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค. 55 ถึงแม่สอดในวันเดียวกัน โดย
- คณะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ฯขึ้นเครื่องสายการบินนกแอร์จากอุดร-เชียงใหม่ เวลา 09:15-10:35
- คณะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ขึ้นเครื่องสายการบินนกแอร์จากเชียงใหม่-แม่สอด เวลา 14:50-15:40

กระผมจึงกราบเรียนมายังคณะศิษย์ยานุศิษย์ให้รับทราบโดยทั่วกัน

อนึ่ง ท่านสามารถร่วมบุญในการเดินทางธรรมะสัญจรในวาระนี้และอื่นๆกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ได้ที่บัญชีพุทธสถานภูดานไห:
ชื่อบัญชี นางบุญชม ยางธิสาร
เลขที่ 4160396194
ธนาคารกรุงไทย สาขากุฉินารายณ์
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์
โทร. 081 392 4093
โดยกรุณาส่งรายนามท่านมาที่ it.man@hotmail.co.th หรือ 087 683 2992 กระผมจักได้กราบเรียนถวายองค์ท่านต่อไป

ขอกราบโมทนาสาธุทุกประการ
IT Man/16.12.12

 

ธรรมะสัญจร ภูดานไห - สุรินทร์ ระหว่างวันที่ 7 -9 พ.ย. 2555

 

ธรรมะสัญจร ภูดานไห -สุรินทร์ -โคราช ระหว่างวันที่ 9 - 11 พ.ย. 2555
............................................................................................
วาระธรรมสัญจรโคราชเมื่อวันที่ 9-11 พ.ย. 2555 คุณจ๊อกกี้และคุณพีรญา ( อ้วน ) ได้น้อมถวายที่ดินจำนวน 5 ไร่พร้อมต้นสักนับพันต้นแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ พ. สุรเตโช เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรม
ขอโมทนาบุญกับครอบครัวคุณจ๊อกกี้ด้วยครับ

ขอเจริญในธรรม
สมาชิกธรรม/นรธ.พิเชฐ