เส้นทางนักแสวงหาพระสมเด็จ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย phak622, 7 กรกฎาคม 2012.

  1. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87
    คุณ phak622 ครับพระสมเด็จวัดระฆังมีแต่ปูนเปลือกหอยดิบเพียงอย่างเดียวหรือ แล้วมีปูนเปลือกหอยสุกไหมครับ
     
  2. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    ไม่มีครับ!
     
  3. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87
    เนื้อเปลือกหอยดิบกับเปลือกหอยสุกต่างกันมากไหม ที่เข้าใจหอยดิบน่าจะบดหยาบกว่าหอยสุกทำให้เห็นเศษเปลือกหอยเป็นชิ้นใหญ่ๆในหอยดิบ ถูกต้องไหมครับ
     
  4. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    ปูนเปลือกหอยดิบ. สรรพคุณคือ แกร่ง เดี๋ยวตอนมืดจะลงรูปว่าเป็นเปลือกหอยประเภทไหน ในการบดแบบดิบๆนั้นจะยากมากเพราะแข็งเราต้องทุบแรงๆจึงแตกได้. เมื่อบดได้ละเอียดก็มาทำเป็นส่วยผสม คุณสมบัติของมันก็จะดึงตัวมารวมกันอีกด้วยตังอิ้วประสานเมื่อนานเข้ามันจะยิ่งแกร่งขึ้นๆ. เนื่องเพราะสมเด็จท่านชอบในความสวยและคุณค่าแห่งความดิบมากกว่า. เพราะตอนที่ทำใหม่พระจะขาวนวลสวยในองค์ที่แก่ปูนท่านชอบอะไรที่มีค่าในตัว. แต่ท่านโทนี่ถามเหมือนมีข้อสงสัย. ซึ่งเราๆบางท่านก็จะเข้าใจว่ามีอย่างอื่นอีก อธิบายอย่างนีครับ

    1.พระที่แก่ปูน(หมายถึงปูนเปลือกหอยดิบนะครับ). จะมีความขาวนวลแกร่งมุกๆแห้ง
    2.พระที่แก่ผงก็คือใส่ผงชนวนมากกว่า เราจะดูคือ นึกถึงช็อกเขียนกระดาน ผงจะเป็นแบบนั้นจะไม่เกาะตัวกันแต่จะดูดความชื้นได้ดีเพราะความหนาแน่นในตัวมีน้อยกว่าเนื้อปูน มองดูก็จะฉ่ำๆแต่ไม่ได้หมายความว่าฉ่ำมากมายอะไร
    ที่นี้เราเอาสองอย่างมาเทียบกัน. นึกถึงรถยนต์. BMWสีขาวมุก. กับBMWสีขาวเฉยๆ. นั่นคือข้อแตกต่างระหว่างเนื้อสองอย่างนี้. แต่ทั้งสองจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันกลมเกี่ยว. เป็นผืนแผ่นเดียวกัน
    แต่อยากดูว่าแก่เนื้อไหนก็นึกถึงรถBMWที่ว่า.

    ที่เราพูดอยู่คือเนือที่พื้นหรือภาษาศิลปะเรียกว่าแบล็คกราว เมื่อครกนั้นผสมแก่ปูนเอามากดพิมพ์นี้ พิมพ์นี้บล็อกนี้นั้นมักจะเนื้อเป็นแบบนั้นคือแก่ปูนไปเสียทั้งหมด. ดังนั้นถ้าเราเพิ่มการสังเกตุเข้าไปอีกว่าเราเห็นว่าพิมพ์ใหญ่สมมุติบล็อกนี้เนื้อพระแก่ปูนหรือแก่ผง. พิมพ์ใหญ่บล็อกนั้นจะเป็นเนื้อแบบนั้นทุกองค์เท่าที่เห็นมาและควรจะเป็นอย่างนั้น ดังนั้นถ้าพิมพ์ใหญ่บล็อกดังกล่าวเนื้อพระต่างจากที่เคยเห็นมาแปลกแล้วต้องพิจารณามากกว่าเดิมอีก. ดังนั้นที่ท่านโทนี่ถาม คำตอบคือมีแค่นี้ในพระสมเด็จวัดระฆัง. ส่วนเนื้อที่ผสมได้สมบูรณ์ที่สุดแต่ก็ถือว่าแก่ผงนิดหน่อยคือ เขียวก้านมะลิ. ท่านโทนี่หรือเพื่อนสมาชิกลองเอาหลักของผมไปไล่ดูได้ครับ. ****แยกใหญ่ให้เล็ก รวมเล็กให้ใหญ่*****. ผมนั่งส่องทุกๆวันวันนี้เจออย่างนี้วันพรุ่งนี้อีกอย่างในพระองค์เดียวกัน. นี่เป็นหลักของผมแยกออกแล้วรวมเข้า. และถ้าจะพูดถึงลายเซ็นเนื้อพระบอกได้ดีที่สุดครับ. หลักมีสามพิเศษมีอะไร. ผมก็พูดไปเรื่อยไม่รู้ตอบคำถามถูกข้อรึเปล่า555>_<
     
  5. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    เมื่อถูกเผาสิ่งที่หายไปคือความุก ความนวล. ความนุ่ม. จะขาว
    เมื่อเอาพระแกปูนดิบวัดระฆังกับบางขุนพรหมมาหัก. เนื้อในวัดระฆังจะเปล่งนวลมุกเงาสวยชมพูระเรื่อๆ เหมือนแก้มเด็ก แต่บางขุนพรหมจะขาวโบ๊ะโป๊ะแป้ง ต่างมั้ย. แต่บางขุนพรหมก็จะค่อยมาแต่ต้องจัดๆหรือเผาไม่สุกเท่าไหร่

    น่าจะพอเข้าใจการเปรียบเทียบของผมนะครับ
     
  6. sunsky

    sunsky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +65
    อ่านแล้วสนุกดีครับท่านเจ้าของกระทู้ ...................:cool:
     
  7. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    [​IMG]
    ผมอยากให้ศึกษากันแบบสนุกๆอย่างนี่แหละครับ ข้อมูลผมไม่มีอะไรมาเป็นสิ่งที่อ้างอิงก็วิเคราะเอาแบบได้ความรู้รกๆสมองไปแถมสนุกอยากให้เป็นอย่างนั้น ส่วนการทดสอบหรือลองภูมิอะไรนี่มาถามผมผมเองก็ต้องใช้ข้อมูลที่ผมมีวิเคราะผิดถูกไม่มีคำตัดสินหรอกครับ แต่คำตอบๆสิ่งที่คาใจได้รึเปล่า พระสมเด็จถ้าใครได้ส่องและค้นหาศึกษาจะบอกว่าการส่องพระอย่างอื่นจืดไปเลยอันนี้ไม่ได้ดูถูกพระนะครับหมายถึงความรู้สึกที่ได้รับ
     
  8. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    หอยโบราณที่อายุเป็นพันปีครับแข็งมากเนื้อในมุก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. sunsky

    sunsky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +65
    ผมว่านะพระสมเด็จนะดูไม่อยากหรอกครับเพราะท่านมีเอกลักษณ์ของท่าน แต่โอกาศที่เราจะเจอท่านสิครับอยากกว่าครับ....:boo:
     
  10. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    เนื้อพระส่งผลอะไรต่อธรรมชาตืของเนื้อพระ?
         เนื่องจากเป็นการผสมเนื้อพระเข้าด้วยกันไม่ใช่เพราะไม่ได้ตักตวงให้เท่ากันเพียงแต่ว่าทำไมอย่างมากกว่าอย่างนี้มากกว่าทำไมไม่ทำให้เท่ากันจดสูตรส่วนผสมใว้ก็ได้. เนื้อพระจะได้เหมือนกันสวยเหมือนกันหมด เหตุผลมีเหตุผลเดียวครับสำหรับข้อมูลส่วนตัวของผม คือมวลสารที่หาได้ทำได้ในแต่ละครั้งไม่เท่ากันจึงทำให้เกิดมีมากมีน้อยขึ้นแต่มีครบจึงต้องเอาไอ้ที่มีมากผสมลงไปเยิะเพื่อให้พอแก่การสร้าง จึงเกิดเนื้อพระในพระสมเด็จ. 3อย่างหลักๆคือ
    1.เนื้อแก่ปูน(ปูนเปลือกหอย)
    2.เนื้อแก่ผง(ผงชนวน)และ
    3.เนื้อแก่มวลสาร

       เนื้อที่เป็นดังกล่าวมาทั้ง3นั้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของเนื้อพระอย่างไรบ้าง
    *****-น้ำหนักในองค์พระแต่ละองค์ อันนี้สังเกตุได้ง่าย
     1.ก่ปูน. เนื่องจากปูนเปลือกหอยมีความหนาแน่นแกร่งสูงเรียกว่าน้ำซึมผ่านยาก ย่อมมีน้ำหนักมากตามไปด้วย ดังนั้นพระที่แก่ปูน. เมื่ออยู่ในมือเรานั้น จะเกิดความรู้สึกหน่วงๆมือมากหน่อย
    2.พระที่เนื้อแก่ผง ความหนาแน่นน้อยครับ น้อยกว่าปูนเยอะน้ำหนักจะหน่วงๆเหมือนกันครับแต่เราจะรู้สึกได้ว่ามีน้ำหนักแต่ไม่ถึงขั้นปูน
    3.แก่มวลสารอันนี้ถ้ามวลสารเยอะน้ำหนักก็ยิ่งเบาเข้าไปอีกเพราะมวลสารแต่ละอย่างรวมๆกันความหนาแน่นไม่เท่าผงเลยในปริมาณที่เท่ากัน. จึงจะได้ความรู้สึกเบาแบบชัดเจนแต่ก็ยังคงความหน่วงใว้
    *****-การยุบตัวหดตัวของเนื้อพระแต่ละอย่าง
    1.แก่ปูนดังที่เคยกล่าวมาครับว่าด้วตัวเนื้อปูนหอยนั้นแน่นอยู่แล้ว เมื่อความแน่นของเนื้อปูนเยอะมารวมกันก็เกิดความแน่นขึ้นโดยการดึงตัวมารวมกันบวกกับแรงกดพิมพ์พระทำให่ความหนาแน่นในตัวองค์พระมีมากการยุบตัวหรือหดตัวมีได้น้อยแต่ก็มีผิวพระก็ค่อนข้างจะตึง ถ้ามีเม็ดเศษพระที่ตัดขอบก้อนเล็กก้อนใหญ่ผสมอู่การหดตัวออกจากเม็ดมวลสารนั้นจะน้อย
    2.เนื้อแก่ผง อันนี้ให้เรานึกถึงทรายที่เรามาเทในกะบะ อัดให้แน่นแล้ว เราเอาน้ำมาราด นั่นแหละครับการยุบตัวจะมากว่าเนื้อปูนจะเป็นช่วงๆไป
    3.เนื้อที่แก่มวลสารนั้นเนื่องจากปริมาณจะน้อยกว่าทั้นสองอย่างข้างต้นมากเมื่อเทียบกันแต่ที่เรียกแก่มวลสารเพราะมีมวลสารมากและเม็ดมวลสารจะโชว์ให้เห็นใน. แต่มวลสารแต่ละอย่างอย่างเกสรย่อยสะลายได้สีที่จะเกิดขึ้นในองค์พระไม่ใช่แต่การยุบตัวที่มากแล้วในจุดมี่มวลสารไปรวมกันอยู่มากๆมันยังส่งผลให้เกิดหลุมในองค์พระเพราะเหตุที่ย่อยสะลายไปหลุดออกไป
       เป็นการอธิบายธรรมชาติที่ควรจะเกิดขึ้นกับเนื้อนั้นแบบพอเป็นแนวทาง
    ดัวนั้นคร่าวๆ้ราจะได้เห็นอะไร
    1.แก่ปูนองค์พระโดยรวมจะแน่นแกร่งนวลยุบตัวน้อยผิวจะตึงกว่า
    2.แก่ผงจะมองเห็นการยุบตัวเป็นช่วงๆตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างบางที่ก็ยุบกันเยอะเลยผิวพระจะดูไม่แกร่งเท่าปูนแต่มีความแกร่งเพราะปูนก็ผสมอู่แต่จะดูฉ่ำหนึกๆนึ๊บๆประมาณนั้นครับ
    3.แก่มวลสารพระจะเกิดหลุมเพราะมวลสารหลุดจะยุบตัวมากถ้าจำพวกเกสรหรืออะไรที่ย่อยสะลายได้ดีก็จะหลุดออกง่ายถ้าอยู่บนผิวพระมากๆ. น่าจะพอเข้าใจบ้างนะ

    นี่คือข้อมูลส่วนตัวเหมือนเดิมครับไม่รับรองความปลอดภัยวิเคราะหาเหตุหาผลเอาเอง
    มันเป็นแง่มุมที่เราไม่ใช่สิที่ผมเอามาดูเราจะไปเจอพระที่ใช้ช้ำมาพระล้างมา คือพระที่เรามีโอกาสน่ะครับ อย่างพระช้ำไไม่เท่าไหร่แต่พระล้างสิ่งที่หายไปคือผิวเดิมพระที่แสดงออกถึงความเก๋าบวกเก่ามาแต่เกิดแต่เมื่อพระถูกล้างผิวหน้าหลุดไปเสียไปแต่การยุบตัวหดตัวที่บอกได้ว่าเก่าจริงตามธรรมชาติไม่หายไปเอียงดูส่องดูลูบดูคำดูจับดูดูให้หมดก็ยังคงเหลืออยู่เพราะการเกิดโดยธรรมชาติแบบนีติดตัวพระมาแต่เกิดมาเรื่อยๆซึ่งพระล้างมันจะดูใหม่ๆ้ราอาจจะไม่สนใจแต่ถ้าเราเข้าใจเราอาจจะใช่เลยก็ได้.  คือจุดประสงค์ผมอยากให้ได้มีกัน พยายามบอกในแง่มุมที่พระปลอมทำไม่ได้. เกศปลีที่เคยกล่าวใว้ว่าพระหายากแต่เจอแท้เลย. นี่ก็ข้อมูลใหม่ๆ.   ฐานชั้นแรกลายเซ็นก็ใหม่ไม่บอกก็หลงกันอยู่. แต่ก็แล้วแต่เชื่อไม่เชื่อ. พระนอกพิมพ์อันนี้ไม่ว่า. แต่ผมเองก็เรียนรู้ศึกษามาเช่นกันถ้ามีโอกาสเจอพระนอกพิมพ์ผมเก็บแน่แต่ในใจผมถ้าจะเอามาบูชา ศึกษามาแล้วนี่ทำไมเราไม่หาที่เป็นพิมพ์หลักบล็อกหลักห้อยคอล่ะผมคิดอย่างนี้.   ผมก็เลยเจาะว่าแล้วหลักคืออะไรอะยึดได้ ก็เห็นมีหลวงวิจารณ์นี่แหละชัดเจนตายตัวและแน่นอนที่สุดอธิบายได้.  พระนอกพิมพ์ผมก็มีครับเนื้อวัดระฆังแน่นนอนแต่ผมถามตัวเองว่าเนื้อใช่พิมพ์ก็ใช่แต่. ความรู้ศึกของคนที่ชอบและแสวงหาพระสมเด็จนั้นมันไม่ถึงวัดครับเหมือนยืนอยู่หน้าวัดหรือในบริเวณวัด. แต่ถ้าเราตั้งใจเก็บครับพระนอกพิมพ์ก็เก็บเอามาศึกษาบูชาแต่ใจคือพิมพ์นิยมได้มาปุ๊ปนะเหมือนเรานั่งกราบพระประธานอยู่ในโบสถ์วัดระฆังอิ่มไปหมดครับแม้พระองค์ที่ได้มาจะหักจะช้ำจะสึกจะร้าวหรือจะสวยหรือเป็นพิมพ์รองพิมพ์บ๊วย. นี่ครับคือปลายทางของนักแสวงหา. ผมไม่เคยเอากระทู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพาณิชย์เลยดังนั้นกระทู้นี่เพื่อศึกษาแสวงหาและผมให้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อชี้ทางอยากให้มีเป็นจุดประสงค์ ดังนั้นการเชื่อไม่เชื่อข้อมูลที่ได้รับไม่ใช่เรื่องของผมเลย.  เช่นกันเวลาผมรับข้อมูลผมก็บอกตัวเองว่านี่ใช่นี่ไม่ใช่เรื่ิงของผมล้วนๆ.  

         แต่ขอทิ้งท้ายนิดนึงว่า.  ถ้าผมไม่ได้อาจารย์ชี้แนะแบบนี้อาจจะเอ็กคูซีฟ. กว่านี้มาก. ผมก็คงหลงเลิกคิดไม่เป็นไม่เข้าใจ. แต่ในใจอยากได้อยากมี. แต่มืดแปดด้าน. หาจุดเริ่มทางเดินช่องซอยที่จะไปต่อไม่เจอ.  ท่านที่คิดว่าจะเล่นลิงไปเอาหนังสือพรัสมเด็จสี่สีมาสักเล่มแล้วเปิดดูเถอะครับจนหน้าสุดท้าย.   แล้วเอาความรู้ที่ได้ไปหาพระสมเด็จ.      อีก10ชาติร้อยชาติก็หาไม่เจอ.  เพราะไม่มีใครคนไหนที่จะเขียนหรือดูจากภาพมาถ่ายทอดออกมาให้เหมือนดูของจริงอยู่ไม่ได้. แค่คำว่าเม็ดขาวขุ่น.  คนเรายังคิดต่างกันครับ.  นับประสาอะไรกับความหนึกนุ่มแกร่ง.   ยิ่งแล้วใหญ่เพราะตาคนิราไม่เหมือนกัน.   อย่างรูปพระรูปใหญ่ในหน้านี้นั้น.  เขาก็มองว่านี่คือหนึกนุ่ม มวลสารดี. แต่พิมพ์ไม่สวย.  ที่มองแบบนั้นเพราะเอาความรู้ที่รับมาประมวลผลมาได้แค่นั้น. และเป็นประเภทที่ไม่ละเอียด.  ผมเคยบอกว่าเนื้อใช่เมื่อไหร่พิมพ์ก็ใช่. แต่เราคิดว่าเนื้อใช่แล้วนี่ไปดูพิมพ์แม้สึกก็ทะแม่งๆไม่สวยเลย.   แสดงว่าเนื้อที่เราดูว่าใช่ในทีแรกนั้น. ยังไม่ใช่.   เออ!  ผมพูดเรื่องอะไรอยู่นี่แต่บังเอิญว่าผมพูดตรงๆนะครับผมเห็นพระดังว่านั้นแล้งมัน. ไม่สบายใจกลัวเพื่อนร่วมทางผมหลงเส้นทางเลยไปกล่าวถึง.  เอาเป็นว่าอ่านกันสนุกๆครับ
     
  11. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    มันก็พูดได้ว่า. เราเจอองค์ง่ายก็ง่ายแต่เราไปเจอองค์ดูยากก็ยากครับ. แต่โอกาสที่จะเจอกับการดูให้เป็นนั้นยากเท่ากัน. เพราะถ้าเป็นหมายถึงเป็นจริงนะครับ. เจออยู่เรื่อย. แต่เอามาครอบครองไม่ได้. นี่ครับยากที่สุด. ดูเป็นจริงยากเท่ากับโอกาสที่จะเจอ. แต่การได้มาครอบครอง. ยากกว่าเยอะครับ. ดูเป็นได้เจอ ไม่ได้ครอบครอง. ได้ครอบครอง. ดูไม่เป็น. ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช่. แต่ให้ใครไม่ได้เพราะพ่อให้แม่ให้ติดตัวต่างฯลฯมากมาย. ยกเว้น. อาจจะได้ถ้า. มีทุนทรัพย์บวกกับกล้าที่จะลงทุนบวกกับอะไรหลายๆอย่าง. สุดท้ายมีเงินก็อาจจะเสียทั้งเงินและอื่นๆ. ยากมั้ย. ไม่ง่ายหรอกครับจะได้ครอบครองสำหรับบางคนแต่สำหรับบางคนก็ง่ายๆครับ
     
  12. ชาติชาววัง

    ชาติชาววัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +392
    ขอร่วมศึกษาด้วยคนครับพี่ ดูองค์นี้แล้วคิดว่าเป็นไงบ้างครับ ช่วยวิจารณ์หน่อยครับพี่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    ถ้าขอบหรือเส้นบังคับพิมพ์มาที่จุดนัดพบ. เป็นของหลวงวิจารณ์มีได้เฉพาะพิมพ์ใหญ่เป็นพิมพ์อื่นไม่มี. เส้นบังคับพิมพ์มาที่จุดนี้แสดงถึงช่วงยุคปลายที่ท่านแกะพิมพ์
    เมื่อเป็นเช่นนั้น. "ลายเซ็นที่ผมเคยกล่าวมา"ต้องนำมาใช้เสมอ(สำหรับผม)
    1.ฐานชั้นแรกไม่ใช่ตามแบบฉบับของหลวงวิจารณ์
    2.ฐานสิงห์ซ้ายองค์พระต้องชัดกว่าขวาองค์พระเสมอแต่นี่ตรงข้าม
    3.ไม่มีใบหูให้เห็น

    นี่คือองค์ประกอบที่ผมใช้. จริงๆคัดออกได้ตั้งแต่ฐานชั้นแรก เนื้อผมไม่ดูเพราะมองไม่เห็นครับ

    ดังนั้นในความคิดของผมแบบส่วนตัว. ถือว่าเป็นพระเก๊เลยเหตุเพราะ
    1.ไม่มีวัดอื่นที่เส้นบังคับพิมพ์มาที่จุดดังกล่าว
    2.ความสมส่วนในงานช่างไม่สวยโดยเฉพาะวงแขน

    ถ้าให้เดาต่อ. ผู้ถามดูพิมพ์พระไม่ขาดแต่ไปชอบเอาเนื้อพระ! ซึ่งผมมองไม่เห็น เลยทำให้คัดพระองค์นี้ทิ้งไม่ลง

    ตอบตรงๆครับไม่ใช่เซียนนะครับแต่เรามาร่วมศึกษากัน และไม่ต้องเอาใบประกาศหรือใบรับรองมาตอนจบนะครับ. เพราะผมดูของผมเองล่วงเกินอภัยด้วยครับ
     
  14. ชาติชาววัง

    ชาติชาววัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +392
    เป็นคำตอบที่ดีครับท่าน เป็นพระที่เนื้อแปลกครับเลยต้องศึกษาต่อไปครับ(มวลสารครบครับ)ขอบคุณครับที่แนะนำมาครับท่าน
     
  15. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    พิมพ์พระคืออะไร. เป็นสิ่งที่มีความคงที่ตายตัวในบล็อกแม่พิมพ์. เส้นตรงกดพระออกมาก็ต้องตรง เส้นโค้งกดพระออกมาก็ต้องโค้ง แต่ธรรมชาติการผ่านกาลเวลาการอยู่ในกรุของพระนั้นคนละเรื่ิอง. เส้นในองค์พระตอนแรกก็เท่าเส้นร่องที่แกะในบล็อกแต่ละบล็อกนั่นแหละครับ แต่พระสมเด็จมียุบตัวหดตัว. ประการแรก. มันต้องไม่ใหญ่กว่าเส้นที่อยู่ในบล็อกพิมพ์ ประการที่สอง มันสามารถเล็กลงกว่าเส้นที่อยู่ในบล็อกพิมพ์เพราะมันต้องหดตัว คือการกระชับตัวของเนื้อ. แต่จะเล็กเกินไปก็ต้องพิจารณ์ให้ดีๆ

    ถ้าตั้งใจสังเกตุเส้นซุ้ม กับลำแขนขวา มีขนาดต่างกันครับในพิมพ์ใหญ่แต่ถ้าเราจับจุดมันทำให้เรารู้ว่า ลำแขนขวาเท่านี้ซุ้มต้องเท่าไหน หรือซุ้มเท่านี้ลำแขนต้องประมาณนี้ แล้วไล่ไปอีก ฐานสิงห์ต้องเท่านี้. เพราะเส้นสายเหล่านี้นูนขึ้นมาเหมือนกันยุบตัวหดตัวเหมือนกันถ้าทำให้ขนาดเปลี่ยนไปเพราะหดตัวยุบตัวก็ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันเคยสังเกตุกันบ้างรึเปล่าครับ. ใครบอกพระไม่มีจุดตายจุดสลบมีแต่ไม่มีคนหาไม่รู้จักการสังเกตุจับจุด. สัดส่วน เพราะอะไรครับเพราะบล็อกพิมพ์เป็นแบบนั้นเส้นสายขานดเท่านั้น. ใหญ่กว่าคนละบล็อกไม่ใช่อันนี้แน่นอน. นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่สำคัญต้องสังเกตุ สังเกตุจากอะไร รูปก็ได้ครับในเรื่องแบบนี้เอาองค์เขาซื้อขายกันนั่นแหละง่ายดี. แม้ไม่มีของจริงดูแต่เราก็รู้หลักนิดๆหน่อยตรงนั้นบ้างนี้บ้าง

    นี่ก็เกล็ดเล็กๆน้อยๆครับ. ศิลปะคือผลงานของช่าง. ดูงานที่ช่างทำ บอกได้ว่านี่ต้องช่างทำนี่ช่างฝีมือดีทำ. เฮ้ยนี่งานของคนนั้นนะคนนี้นะ. พระสมเด็จเจ้าประคุณเป็นผู้สร้างทั้งหมด. แต่บล็อกพิมพ์เป็นงานของช่างผู้แกะพิมพ์แล้วมารวมกันเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่บล็อกหลวงวิจารณ์.

    ฝากนักแสวงหาด้วยนะครับ รวมถึงท่านที่คิดว่าของตนแท้แล้วหรือคิดว่ารู้แล้ว. อย่านิ่งนอนใจไปครับ
    อย่าหลงกับคำยอขอคนที่วิจารณ์พระเราดีอย่าอคติกับคำติที่เขาพูด. แต่ให้วิเคราะเอาว่าจริงใช่ไม่ใช่อย่างไร.
    เพราะบางคนคิดว่ามีแล้วหลงอยู่กับพระตนเองอวดโชว์. และคิดว่าตนเองเป็นเซียนไปสะอย่างนั้น แต่จริงๆยังหลงทางกับพระเก๊ของตนเองอยู่เลย ต้องส่องแล้วพัฒนาการตัวเองครับ. ดูจากรูปถ้าไม่ชัดจริงๆแล้วบอกว่าเนื้อมวลสารดีมีครบ. *******โกหกครับ*******เนื้อนี่กว่าผมจะไล่ดูผมส่องแล้วส่องอีกเพราะเนื้อหลักต้องครบไม่ครบไม่ใช่ ดังนั้นการดูจากรูปบอกเนื้อดี. ผมพูดเลยว่าคนๆนั้นโกหกแม้กระทั่งตนเองแสดงว่าไม่รูหรอกว่าต้องดูอะไรบ้างในเนื้อนั้น. ผมไม่อยากให้หลงหรืองงได้รับคำชมดีใจแต่ไม่เคยได้ความรู้อะไร ผมไม่ได้บอกว่าผมเก่งนะครับบอกอีกครั้งนึง. แต่เราต้องมีหลักการดู ตอบคำถามได้. หลักของผมวันนี้ใช้อย่างนี้วันหน้าผมเจออะไรที่เข้ามาใหม่หลักนั้นๆอาจจะเพิ่มหรือลดหรือใช่หรือไม่ใช่. ได้ทั้งนั้น. แต่ตอนนี้ยังไม่เปลี่ยน. จึกอยากบอกว่า. ไร้หลักก็ไม่มีที่ยึด. แล้วดูพระอย่างไรครับ
     
  16. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    อันนี้บทความของผมเองครับเขียนให้สมาชิกชมรมอ่านสนุกๆคัดลอกเอามาให้อ่านกันเล่นๆเป็นน้ำจิ้มๆกันลองอ่านเล่นๆครับ
    ฐานสิงห์ในพระสมเด็จวัดระฆังโดยเฉพาะที่ท่านหลวงวิจารณ์เป็นผู้แกะพิมพ์

    ผมจะพูด ในส่วนที่เจาะลึกว่าต้องดูอย่างไรเพื่อเป็นการสะดวกในการคัดพระให็ได้พระแท้ให้พ้นจากพระเก๊. 
    1.อันนี้สำคัญเป็นอย่างแรกเลยครับที่ต้องดู คือ. เอาองค์พระเป็นหลัก ฝั่งซ้ายมือขององค์พระคือตรงที่เป็นลักษณะแบบตะขอหรือขาโต๊ะนั่นแหละครับ. ฝั่งซ้ายขององค์พระจะต้องชัดกว่าอีกฝั่งเสมอครับ คือเรียกง่ายๆว่าในบล็อกพิมพ์ฝั่งนี้แกะลงไปลึกกว่าอีกฝั่งนั่นเองดังนั้นไม่ว่าจะกดพระลงไปในพิมพ์อย่างไรฝั่งซ้ายองค์พระก็ต้องชัดกว่าเสมอเพราะในบล็อกแกะได้ลึกกว่านั่นเอง ถ้าเราเจอว่าพิมพ์ใหญ่พระสมเด็จวัดระฆังฐานสิงห์ฝั่งขวาตรงปลายฐานและที่เป็นขาโต๊ะหรือรูปเหมือนตะขอนั้นชัดคมกว่าฝั่งซ้ายองค์พระละก็. หลีกให้ห่าง. จากให้ไกลครับ.  เพราะนอกจากจะไม่ใช่ที่หลวงวิจารณ์ท่านแกะพิมพ์แล้ว ยังไม่สามารถตีเข้าวัดอื่นได้ลูกศิษย์สร้างก็ไม่ได้.  ช่างอื่นๆก็ไม่ได้. เพราะมันคือพระเก๊1000%ครับ. ไม่บอกไม่รู้ครับเพราะนี่คืออีกหนึ่งลายเซ็นที่หลวงวิจารณ์ทำใว้ในพิมพ์ใหญ่ทุกบล็อกครับ
    2.อันนี้เป็นมุมมองครับ ถ้าเข้าหลักเกณท์ในข้อที่1แล้วเส้นฐานสิงห์จะต้องตกท้องช้างนิดหน่อยครับคือโค้งเป็นท้องช้างนิดๆบริเวณกลางฐานครับแต่ว่าจะแลดูเหมือนตรง แต่ไม่ตรงถ้าตรงแข็งทื่อๆมาอาจจะเป็นพระเซาะพิมพ์ได้ ให้ดูและระวังด้วยครับ
    3.ปลายฐานฝั่งขวาองค์พระจะโค้งตวัดขึ้นหาฐานชั้นแรกแต่ต้องส่องถึงจะชัดเจน เป็นทุกองค์ครับทุกบล็อกแต่ว่าอาจจะสึกได้ต้องพิจารณาได้ว่าน่าจะมีครับ

    นี่คือความพิเศษในจุดพื้นฐานที่ไม่ค่อยมีคนรู้หรอกครับแต่สมาชิกชมรมนักแสวงหาพระสมเด็จจะต้องคัดพระได้ดูพิมพ์พเป็นจริง.  เพราะผมตั้งชมรมเพราะต้องการจัดให้เป็นพิเศษหน่อย.   ครับ
         สรุปว่าตอนนี้เรามี3จุดหลักที่จะต้องสังเกตุในเบื้องต้น 3จุดคือ
    1.ฐานชั้นแรก
    2.หูรำไร
    3.ฐานชั้นที่สองหรือฐานสิงห์

    ในผู้ที่เริ่มศึกษาพระสมเด็จหรืออาจจะศึกษามานาน ในจุดเหล่านี้อีก10ปีผมว่าอาจจะไม่รู้เลยแต่ท่านที่เป็นสมาชิกในชมรมเพียงวินาทีแรกที่อ่านนั่นคือสุดยอดตำราพระสมเด็จครับ. ผมเปิดเผยจุดพื้นฐานที่ไม่ธรรมดาเพราะไม่ต้องการให้ผู้ที่แสวงหาแม้ได้เพียงองค์สึกก็เอาเพื่อบูชาติดตัว ต้องหลงอยู่กับพวกมารพระเก๊. เพราะบางทีผมเห็นในหลายๆกระทู้เอาพระมาโชว์บอกสอนคนอื่นยังเอาพระเก๊มาเลยแล้วเราก็เพิ่งเริ่มก็หลงกับข้อมูลเดิมๆหรือข้อมูลที่ผิดๆไม่มีเหตุผลรับรองมีแต่อ้างวิชาการ. 3จุดนี้ประกอบกับจุดพื้นฐานต่างๆที่ผู้รักในพระสมเด็จจะต้องรู้อยู่แล้วเช่นซอกรักแร้ซ้ายขวา เป็นต้นเมื่อเอาสามจุดบวกความรู้พื้นฐานต่ามสื่อต่างๆ. พระองค์ใดที่ผ่านหลักเกณที่ผมว่ามานั่นคือ. มาแล้ว60-80%ที่เหลือคือรายละเอียดของพิมพ์และสำคัญคือเนื้อพระ. นี่แหละครับคือเคล็ดลับวิชาง่ายๆแต่ทรงพลัง. การหาพระสมเด็จที่จะให้ผ่านจุดต่างๆที่กล่าวมา. ย่อมยากกว่าเดิมปกติแต่ก็ใกล้เป้าหมายของนักแสวงหาพระสมเด็จมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก

             อีกขั้นหนึ่งที่ก้าวไปมากกว่าเดิมครับ.  phak622
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2012
  17. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87
    ดูอายุพระ 40 ปี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3in1.jpg
      3in1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      506.9 KB
      เปิดดู:
      258
  18. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    พระสมเด็จคือการเรียนรู้ศึกษาถึงจะไปถึงที่ๆปราถนา ดังนั้น

    ***การเรียนรู้ที่ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด ก็คือการศึกษาจากประสบการณ์และความรู้ที่ผู้อื่นลงทุนศึกษามาก่อนครับ***
     
  19. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    นึกถึงหินอ่อนอะไรก็ได้ แล้วเอามวลสารทั้งหมดไปใว้ในหินอ่อน. แต่ผิวพระสมเด็จอาจจะไม่ตึงเรียบทุกจุดแบบหินอ่อนแต่เปรียบเทียบได้. มวลสารจะอยู่ข้างในเนื้อแต่มองแล้วเหมือนอยู่ข้างนอกลอยเด่นอยู่. มันพูดให้เข้าใจได้ยากจริงๆเรื่องเนื้อจะเอาเนื้อให้ดูก็ไม่มีกล้องที่ซูมได้ขนาดนั้นและสีเหมือนองค์จริงเฮ้ย!
     
  20. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87
    มีจุดไหนผิดพิมพ์บ้างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134.5 KB
      เปิดดู:
      291
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138.8 KB
      เปิดดู:
      173

แชร์หน้านี้

Loading...