เส้นทางนักแสวงหาพระสมเด็จ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย phak622, 7 กรกฎาคม 2012.

  1. ชอบพระ

    ชอบพระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +11
    ..ใช่เม็ดแบบนี้หรือเปล่า..ครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ตั้งใจธรรม

    ตั้งใจธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +483
    ขอบคุณครับคุณphak622 ผมอาศัยการเรียนรู้จากธรรมชาติครับ เนื้อหา พิมพ์ทรง ได้ความรู้มากเหมือนกัน ที่มีเทคนิคการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่ได้รับเพิ่มเติมครับ ถ้าเรามีองค์ครูสักองค์ก็คงจะดีนะครับ แต่พระแท้หายากแต่ถ้าเราหมั่นเรียนรู้สักวันพระแท้คงมีให้เราชื่นใจครับ....ขอบคุณครับ
     
  3. brutus

    brutus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,250
    ค่าพลัง:
    +2,082
    ถ้าผมมีสมเด็จวัดระฆังแท้ๆ องค์ครูอยู่ในมือสักองค์ผมคงพอแล้วครับ จะนั่งส่องนอนส่องทั้งวันเลย เอแต่เราจะรู้ได้ยังว่า องค์ของที่เรามีอยู่นี่เป็นพระแท้จริงๆ กลายเป็นไก่กับไข่เลยอะไรเกิดก่อนกัน
     
  4. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    1.ถ้าหมายถึงพิมพ์นี้เกศทะลุซุ้ม(นิยม)ขอตอบว่าใช่ครับ สูงกว่าและอวบกว่าครับ
    2.เนื่องจาก พิมพ์พระในยุคของหลวงวิจารย์นั้นพิมพ์ใหญ่มีมากกว่า 1 บล็อก ครับ. ดังนั้น พิมพ์ใหญ่ที่มีผ้าทิพย์ ก็มี ไม่มีผ้าทิพย์ก็มี มีผ้าทิพย์แต่บางและองค์ติดไม่ชัดมองไม่เห็นก็มีครับ
    3.แล้วแต่มุมมองครับ แต่หลักคือว่า ฝั่งขวาขององค์พระนั้น จากปลายหูจะค่อยๆไล่สูงขึ้นไปถึงหน้าพระพักร์. คล้ายกับการขับรถขึ้นเนินสวยๆ. ขึ้นง่ายลงง่าย แต่ฝั่งซ้ายขององค์พระ คือจะตั้งฉากมากกว่านั่นเองครับ. แล้วเราลองหันหน้าเราเองนะครับไปทางซ้าย แล้วถ่ายภาพ ฝั่งซ้ายของเราจะเป็นเงามีมุมที่ฉากมากกว่าครับ.  แต่แล้วแต่คนมองครับ
    4.ชายสังฆฎิ. อย่างนี้ดีกว่าครับ. ถ้าเห็นผ้าทิพย์. ก็ควรที่จะพอเห็น แต่ไม่ตายตัวครับบางองค์ก็มีแต่ว่าสึกไปตามการเวลาเราก็มาดูเรื่องธรรมชาติอยู่ดีละครับ. อย่างพิมพ์เกศทะลุซุ้มนั้นก็ไม่มีให้เห็นครับ. แต่ในส่วนหน้าอกพระก็มีวิธีการพิจารณาอีกครับค่อยว่ากัน อย่างพิมพ์ใหญ่พระประธานเกศจรดซุ้ม มีผ้าทิพย์รางๆจางๆมีเส้นสังฆฎิ.ให้เห็นแต่เป็นส่วนที่นูนสึกไปก็ได้ครับ
    5.ในองค์ที่ติดไม่ดีไม่แน่นหดตัวยุบตัวอาจจะต้องพิจารณามากเพราะอาจจะไม่เห็น แต่ส่วนใหญ่จะพอมองเห็นครับแต่ต้องดูแล้วผ่านการเวลานะ. ส่วนตำแหน่งนั้น ถูกครับแต่คาดเคลื่อนได้นิดหน่อยนะครับถ้าพิมพ์เคลื่อน หรือหดตัวของมวลสาร ถ้าไม่เห็นก็จะฟันทิ้งเลยไม่ได้ครับต้องพิจารณาหลายอย่างว่าทำไมถึงหายไป.  แต่ผมยังไม่เคยเห็นองค์ไหนไม่มีเลยนะครับเห็นลางๆนะก็ถือว่ามีนะครับ

    เป็นเพียงสิ่งที่ผมพอรู้. ถูกผิดไม่ต้องว่านะครับ. แต่อยากให้มีแนวทางการวิเคราะ. เท่านั้นครับ. 
    เจตนาป่วนหรือไม่ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ. แต่เจตนาที่ผมมีให้ไม่ป่วนนะครับ.  "เจตนาอยู่ในใจ. กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา".  แต่ถ้าแบบนี้ ถามภาพรวมหลายๆพิมพ์. เมื่อศึกษาหลายๆพิมพ์สิ่งหนึ่งที่จะเป็นอุปสรรคคือความสับสนจำผิดจำถูกครับให้ระวังด้วยครับ
     
  5. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    วีธีรู้ไม่ยากไม่ง่ายครับว่าแท้ไม่แท้. ขอแค่ได้มา ผมเคยมีความรู้สึกเช่นนี้ครับ. แต่เมื่อทุกอย่างมันมาได้พอเหมาะพอดีเหมือนที่ผมกล่าวใว้ข้างต้นแต่เริ่ม. เราจะรู้เอง. มีความรู้. มีบุญนำพา. มีศรัทธา. มีเชื้อ. สมเด็จท่านจะดูความตั้งใจเท่านั้น. ว่าแต่ว่าท่าน. คิดว่าท่านรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จแค่ไหน. ท่านคิดดีทำบุญถึงท่านหรือไม่ระลึกถึงหรือไม่. ศรัทธาที่มีอยู่ที่พระสมเด็จหรือตัวท่านเวลานึกถึง. ท่านมีอะไรที่พอที่จะให้สมเด็จท่านเชื่อว่าเราศรัทธาจริง. ท่านเป็นพระที่เป็นอริยะ. มีสักคำสอนนึงหรือบทที่ท่านเทศสอนสักบทสักคำในหัวหรือไม่. ฯลฯ. "อย่าเที่ยวหยิบยืม. ยืมมาก็ต้องใช้คืน". ดังนั้นเราต้องทำให้เยอะๆทำอะไรแล้วแต่ท่านจะคิดทำ. แล้วเวลาท่านจะมาโปรดเชื่ิอผมเถอะเราจะย้อนกลับไปคิดว่า. ช่างยากช่างเย็นเหลือเกิน(สำหรับบางคน)แต่บางคนก็ไม่คาดไม่คิด. แล้วเก๊แท้จะหายไป แต่ตัวท่านจะพบเจอแต่สิ่งดีๆ. อย่างเช่นแม้ทำอะไรที่คิดว่าเขาจะโกธร. ก็เหมือนไม่มีอะไร. แม้ตัวต่อมีอยู่เป็นฝูง. ยังไม่ทำอะไร. นี่แค่เรื่ิองเล็กน้อยที่เจอ. มันไม่ใช่นิทานมาหลอกขายของ เพราะที่พูดให้ฟังไม่มีของมาขาย. มีเพียงกำลังใจ. ว่าทำตัวเองให้อยู่ในเส้นทางเข้าใว้ครับแสวงหาต่อไป. ตลอดชีวิตก็ยอม สู้ๆครับ
     
  6. huyakorn

    huyakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +369
    แล้วอย่างนี้ล่ะครับ

    [​IMG]

    แบบนี้ใช่เม็ดเขียวที่ว่าหรือเปล่าครับ มีทั่วทั้งองค์ หน้า-หลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  7. huyakorn

    huyakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +369
    องค์นี้ก็คงกดทีหลังเหมือนกัน หรือเปล่าครับ

    [​IMG]

    ถ้าผู้ทำตั้งใจกดมวลสารทีหลังล่ะครับ เป็นไปได้หรือเปล่า
    เพราะผู้สร้างคงไม่ได้ทำแบบโรงงานแต่เพียงอย่างเดียว คือ กดๆๆ แล้วก็ ปาดๆๆ คงจะต้องใส่ความศรัทธา ความบรรจง ความปราณีต ลงในองค์พระที่เขาทำ เพื่อเป็นพุทธบูชา และบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  8. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87
    คุณ phak622 ครับ มวลสารสีเขียวนี่ใช่หยกจากเมืองจีนหรือไม่ครับ
    หรือว่าเป็นตะไคล่เสมาครับ หรือว่าเป็นมวลสาร
    พิเศษอย่างอื่นที่ทำขึ้นนอกเหนือจากนี้ครับ
     
  9. คนตาก2555

    คนตาก2555 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +1
    รออ่านอย่างเดียวครับชอบมากกระทู้นี้ได้ความรู้เพิ่มมาอีกครับ
     
  10. ตั้งใจธรรม

    ตั้งใจธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +483
    ขอบคุณครับคุณphak622 ที่เสียสละเวลาตอบคำถาม คำตอบที่ได้ผมจะเกบไว้เป็นข้อมูลในการพิจารณาพระสมเด็จครับ เพราะบางคำถามที่ผมถามนั้น ผมเห็นคำตั้งเป็นข้อสังเกตในการพิจารณาพระสมเด็จครับ ส่วนเรื่องพิมพ์ที่เป็นสากลผมไม่หวังอยู่แล้วครับ มันไกลไป แต่ถ้าถามว่าได้พระสมเด็จที่เป็นของหลวงปู่โตเป็นผู้สร้างผมก็ดีใจแล้วครับ เพราะผมเล่นพุทธคุณมากกว่าครับโดยส่วนตัว พุทธพาณิชย์ผมไม่สนใจอยู่แล้วครับ ไม่ต้องดิ้นรนมากครับ ถ้าเราคิดแต่หาสากลเพื่อพุทธพาณิชย์ เราไม่มีทางที่จะเจอของแท้ และพลาดของดี
    ผมชอบตอนทิ้งท้ายบทความคุณphak622 มากครับที่สอดแทรกธรรมะทิ้งท้ายเตือนสติทุกครั้งเสมอ ดีครับเราจะได้รู้ว่าตัวเราทำอะไร ขอบคุณครับ...:cool::cool::cool:
     
  11. ตั้งใจธรรม

    ตั้งใจธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +483
    สวัสดีครับคุณTonypwm ผมมีความเข้าใจเช่นเดียวกัน คือมวลสารสีเขียวที่เห็นจะเป็น หยก กับ ตะไคล่เสมา ครับ คือความเข้าใจผมเป็นอย่างนี้ครับ หยกจะมีความมันวาวครับ แต่ถ้าตะไคล่ใบเสมาจะออกเขียวไม่มีความมันครับ ขอบคุณครับ:cool::cool:
    (ความเห็นส่วนตัว)
     
  12. praboran

    praboran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +192
    หารูปหลวงปู่โตในอินเตอร์เน็ตตามที่ชอบแล้วนำไปล้างรูปจบครับ อย่าเสียเวลาหาพระมาเล่นราคาเลย เจ็บตัวเปล่าๆ
     
  13. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    :cool::cool:
    สุดยอดครับ สิ่งนี้แหละที่ต้องการรู้
    ถ้าได้ภาพประกอบจะเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่งครับ
     
  14. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    ใจเย็นๆครับ. ติเพื่อก่อครับ. บอกเพื่อให้เอะใจ. ไม่เชื่อไม่เป็นอะไร. ขออภัยที่ล่วงเกิน

    1. การสร้างมวลสาร
    2. มวลสาที่หามา
    3. มวลสารที่มีคุณค่า

    - การสร้างมวลสาร ก็ได้แก่เอาที่เราเข้าใจกันปูนเปลือกหอยดีบ,ดินสอพอง,ปูนขาว ฯลฯ. และที่มาทำเป็นช็อกอีก. เป็นต้นเหล่านี้คือมวลสารที่ท่านสร้างขึ้น
    - มวลสารทีหามาหรือของดีที่ได้รับมอบมา ก็อย่างพวกเศษพระกำแพง. พวกอิฐกำแพง เป็นต้น
    - มวลสารที่มีคุณค่าอยู่ในตัว. ท่านเห็นท่านก็เอามาใส่ เช่นเราจะเห็นหรือเคยได้ยินเนื้อน้ำมัน เนื้อน้ำมันก็คือเนื้อเทียน แต่เป็นเนื้อเทียนชัย. เทียนชัยก็คือเทียนที่จุดเอาฤกษ์เอาชัยเอาน้ำตาเทียนที่จุดแล้วมาเป็นมวลสารคือมีค่าในตัวไม่ต้องปลุกเสกก็ได้ เป็นต้น

    แล้ววิธีการสร้าง เรื่องมวลสาร เอามวลสารใส่ในครกคือการทำมวลสารให้พร้อมกดพิมพ์ ไม่ใช่มาบดเพราะบดมวลสารใว้แล้วดังนั้น มวลสารทุกอย่างถูกกดไปในพิมพ์พร้อมกัน. แล้วตัดขอบ ส่วนที่ตัดขอบก็หมาดๆแล้วก็บดๆโยนใส่ครกเหมือนเดิม. เมื่อมากดในองค์ต่อไปเม็ดที่ตัดขอบก็ไปอยู่ในพระองค์อื่นแล้วตัดขอบโยนใส่ครก มวลสารสีดำใหญ่ที่สุดที่เคยเห็น เอาก้านธูปมาเผาแล้วทุบไปทีนึงหยิบชิ้นใหญ่สุดมาดูครับ ค่าเฉลี่ย. มวลสารดำ10เม็ด มวลสารแดง1เม็ด. ประมาณๆเทียบดูเฉยๆเป็นการเปรียบเปย. ดังนั้น. ไม่มีกดทีหลัง

    ผมเคยพูดว่า. ระวังจะหลงใหลความงามของพระเก๊. จนบอกว่าเก๊ก็เอาไม่เป็นไร. ไม่ใช่เราหลงทางในการศึกษาแสวงหาพระสมเด็จ. แต่เรานั้นจมอยู่ในน้ำแล้ว
     
  15. Apollo14

    Apollo14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +199
    พิมพ์ดูดีนะครับ แต่เนื้อ มวลสารเยอะเกินไปหน่อย ยังไม่เคยเห็นรูปสมเด็จที่มีมวลสารเยอะขนดนี้มาก่อนเลยครับ ส่วนตัวชอบพิมพ์ครับ ผิดพลาดยังไงขออภัยครับ
     
  16. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    พูดได้เจ็บตับมากๆ ยกนิ้วให้เลย หุหุ:cool:
     
  17. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    [​IMG]


    แล้วองค์นี้เป็นอย่างไรบ้างครับ

    ขออนุญาตคุณ itthi 03 นำรูปมาลงกระทู้นี้นะครับ
    เพราะผมว่าองค์นี้ก้ำกึ่งมาก ว่าแท้หรือไม่ครับ
     
  18. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    ห้ามว่ากันนะครับ ผมไม่พดเรื่องพิมพ์ดีกว่าแต่อยากให้สังเกตุเรื่องธรรมชาติครับ
    1. ผมให้สังเกตุว่ามีการบิ่นตรงมุม(ถ้าไม่บิ่นพระคงเป็นเหลี่ยม) เกิดจากอะไรไม่ทราบได้ แล้วให้สังว่าผิวที่ดูมันๆที่ผิวพระนั้น ว่าทำไมบริเวณรอยบิ่นถึง มันไปด้วย เพราะถ้าพระบิ่นหรือหักเนื้อในองค์พระจะไม่เป็นเหมื่อนว่ามีอะไรเตลือบอยู่ ต่อให้บิ่นนานแล้วก็ไม่ทำให้เนื้อส่วนที่บิ่นมาเหมือนส่วนผิวด้านหน้าได้จัดเหมือนกันขนาดนี้ลองสังเกตุและพิจารณาดูครับ
    2. เสันบังคับพิมพ์ ตรงจุดที่ผมใช้ลูกศรชี้นั้น เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้นึกถึงกระดาษA4 ใช้กรรไกรตัดกระดาษให้ตรงกันโดย ตัดจากหัวกระดาษมาได้ครึ่งนึง แล้วเปลี่ยนด้านมาตัดอีกฝังนึงโดยกะให้เป็นเส้นเดียวกันกับที่เราตัดมาแล้ว (ไม่รู้เข้าใจรึเปล่า) แล้วถ้าเราตัดไปเลื่อมๆ(ไม่รู้ใช้คำไหนดี)กับเส้นเดิมที่ตัดมา มันจะเป็นอย่างไร เพราะการตัดขอบพระกดทีเดียวน่าจะจบแล้วนะครับ

    ดูเรื่องธรรมชาติอย่างเดียวไม่ดูอย่างอื่นเป็น2จุดที่ผมมองว่า ผิดธรรมชาติครับ
    พอดีภาพใหญ่เปิดมาเลยเห็จุดนี้อย่าว่าผมนะ ร่วมกันศึกษาดีกว่าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d11.jpg
      d11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      937
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2012
  19. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
    แสดงว่าข้อสงสัยผมก็ใช้ได้เหมือนกัน
    เหลือแต่เนื้อที่ดูเหมือนจะหนึกนุ่มซะจนมันวับ .. ซะน่ากลัวครับ
    หายสงสัยครับ

    ขอพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
     
  20. phak622

    phak622 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +402
    วิชาการกันต่อนะครับ สนุกๆกับการศึกษา มันเป็นเพียงข้อมูลหลักการพิจารณาเล็กๆน้อยๆจากผม ส่วนท่านสมาชิกที่เสพข้อมูลก็ต้องพิจารณาวิเคราะข้อมูลกันเอาเอง เด้อๆ
    คราวนี้ผมจะขออนุญาตทุกท่านพูดถึงธรรมชาติของพิมพ์พระการเคลื่อนของพิมพ์
    องค์แรกองค์ครูของผมครับองค์ที่สององค์สองคลองเทียบกันดูเพราะทั้งสององค์เป็นพิมพ์เดียวกัน
    1.การเคลื่อนของพิมพ์เกิดจากอะไร
    2.ตามจุดที่ลูกศรชี้นั้นเป็นจุดที่ชี้ให้ถึงการเคลื่อนในแต่ละจุดทีสัมพันธ์กันสอดคล้องกัน
    3.เราได้รับรู้อะไรเพิ่มเติมจากการเคลื่อนของพิมพ์พระ
    การเคลื่อของพิมพ์ทั้งสององค์เกิดจาก หลัก ในบล็อกจะเป็นหลุมในองค์พระจะนูน เมื่อการยกบล็อกออกต้องยกบล็อกขึ้นตรงๆถึงจะได้พิมพ์พระที่สวยงาม แต่บังเอิญว่าช่างที่ยกบล็อก ในองค์แรก ยกมุมทางด้านล่างซ้ายมือขึ้นก่อน ยกไม่เท่ากัน ทำให้ส่วนที่เว้าเข้าไปในบล็อกที่เป็นเส้นซุ้มไปกดทับเนื้อส่วนที่เป็นเส้นซุ้ม เนื้อพระเลยถูดันหรือโย้หรือขเยื้อน
    และไล่มาที่ซอกแขนก็จะถูกดันเช่นกัน ไล่ไปที่จุดประสานมือก็ถูกดันเช่นกัน ไล่ไปที่ฐานก็ถูกดันเช่นกัน พอที่จะนึกภาพออกบ้างมั้ยครับ เช่นกันครับองค์สองคลอง นั้น ถูกยกบล็อกแม่พิมพ์เอียงเช่นกันโดยยกขึ้นจากมุมด้านล่างขวามือขององค์พระแนวการเคลื่อนก็ลองสังเกตุดูครับ ไล่มาตั้งแต่เส้นซุ้ม มาที่ซอกแขน มาที่จุดประสานมือ มาที่ฐานไม่ได้วงจะบุ๋มนิดนึง สิ่งที่ผมพูดเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาที่ไม่มีใครได้พูดถึง แต่การสร้างเป็นการทำจากมือคน องค์ที่ไม่เคลื่อนก็เยอะองค์เคลื่อนก็แยะ ผมหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจ และเมื่อเข้าใจแล้วก็ขอให้พิจารณาเป็นธรรมชาติเพราะจุดนี้เท่าที่เห็นพระเก๊มาไม่มีทำแต่เมื่อมีข้อมูลออกมาต่อไปไม่แน่ครับ ด้งนั้นในตอนนี้เรามีจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมแล้วถ้ามีพระอยู่คิดว่าเอาหละมาหมดแล้วก็ฝากพิจารณาจุดนี้ด้วยถ้ามีครับ แต่ยังหาพระสมเด็จ ที่เด็ดๆไม่ได้ก็เอาใว้เป็นหลักพิจารณาได้ครับในการแสวงหา ไม่ได้บอกว่าของผมถูกแต่ลองพิจารณาเอาครับ แล้วทีนี้คำถามว่าเราได้อะไรเพิ่มจากแนวเคลื่อนของพิมพ์พระบ้างครับ
    1.ไม่ใช่การงัดออกแต่ยกบล็อกออกจากองค์พระโดยคว่ำบล็อกลง
    2.พระไม่ได้ถูกสัมผัสจากมือเลยแม้แต่เวลาตัดขอบ
    3.เมื่อเป็นการยกบล็อกออกแสดงให้เห็นว่า ถ้าบล็อกลึกแบบที่ท่านโทนี่กรุณายกมาเป็นแบบศึกษา อาจจะต้องถึงขั้นเขย่าออกไม่รู้จะออกรึเปล่า แต่พระสมเด็จบล็อกตื้นหมายความว่า นอกจากหลุมที่เป็นองค์พระเป็นเส้นซุ้มแล้ว ส่วนที่ลึกที่สุดของพื้นผิวพระคือขอบกระจกนั้นเองครับท่านก็ลองพิจารณาดูว่าเส้นขอบกระจกลึกแค่ไหน น่าจะมองภาพออกดังนั้นเวลายกบล็อกพระจึงหลุดออกมาง่ายครับ
    หวังว่าคงเข้าใจที่เขียนนะครับ

    พระแท้พร้อมให้พิจารณาทุกจุด พระเก๊ยังไงก็ต้องโพล่ (ถ้าใจเป็นกลาง)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • JKK_7869 - Copy.JPG
      JKK_7869 - Copy.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      2,092
    • JKK_7168.jpg
      JKK_7168.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.1 MB
      เปิดดู:
      1,609
    • ววว.JPG
      ววว.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.7 MB
      เปิดดู:
      754
    • vv.jpg
      vv.jpg
      ขนาดไฟล์:
      5.6 MB
      เปิดดู:
      1,244

แชร์หน้านี้

Loading...