จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    http://www.youtube.com/watch?feature=endscreen&NR=1&v=0yrUXqH1MHg

    ขอโมทนาสาธุๆ กับพระเจ สัน ปิยาจาโร (ยัง)
    ที่ท่านเลือกเดินสายตรง
    เดินตรงเข้าสู่ มรรค ผล นิพพาน

    และอยากให้พวกเราได้รับฟังธรรมะของหลวงพ่อพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ศิษย์สายตรงหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    ท่านได้เมตตาอธิบายถึงประโยชน์อันจะเกิดอย่างมหาศาลจากการทำสมาธิ (สัมมาสมาธิ)
    โดยจุดประสงค์ของการทำสมาธิคือ "สะสมพลังจิต"!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2012
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,814
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    เรื่องประทับใจ


    ไม่มีคําว่าบังเอิญในศาสนาพุทธ อนุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ;aa41
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,814
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    กราบอาจารย์เพ็ญค่ะ ที่ตอบคุณเอิ้น ตรงกับที่อยากถามเลย ขอบพระคุณค่ะcatt1
     
  4. แสงจันทร

    แสงจันทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +2,618
    ต้องขอขอบพระคุณมากนะค่ะ คุณลูกพลังที่ได้นำวิชาธรรมโอสถมาให้ทราบ ขออนุญาตสำเนาเก็บไว้เผื่อจะมีประโยชน์ต่อไปในภายหน้าค่ะ
     
  5. แสงจันทร

    แสงจันทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +2,618
    สวัสดีค่ะพี่ภู ครูเพ็ญ ครูดัช ครูวิทย์ ครูลูกหว้า ครูลูกพลัง ครูอัญญะมณี ครูนก ครูนิวเวฟ ครูโจ ครูจารุณีและทุกท่าน

    วันนี้วันที่ 29 แล้วใกล้วันสำคัญของบรรดาคนส่วนหนึ่งที่ชอบความท้าทาย และความโลภ วันนี้แสงจันทรเลยอยากจะขอพูดถึงสักหน่อยค่ะ เพราะเมื่อหลายปีก่อนตัวแสงจันทรเองก็เคยเป็น แต่ไม่ใช่ชอบความท้าทายนะค่ะ ชอบที่ลงทุนน้อยได้เงินเร็ว อย่าเพิ่งงงค่ะ ก็เรื่องหวยนั่นเอง ตอนนั้นมีหวยบนดิน เป็นช่วงที่พี่ชายของสามีเสียและเค้าได้สั่งคนรอบข้างว่าถ้าเสียเมื่อไหร่ให้ซื้ออายุนะ เมื่อถึงเวลาที่เค้าไปแล้ว พวกญาติก็พากันซื้ออายุ(เค้าตายก่อนวันเกิด3-4 วัน) ดังนั้นก็จะซื้ออายุใหม่ แต่เราก็ซื้อด้วยเหมือนกันเพียงแต่เน้นอายุตอนเสีย งวดนั้นได้เงินมาร่วมแสน ลงทุนนิดเดียวได้เงินดี งวดต่อมาซื้อใหม่ เฉียดค่ะ ไม่ถูก สุดท้ายเงินที่ได้มาก็หมด เพราะความโลภ พอเงินที่ได้มาหมดก็ได้สติ เลิกแล้วไม่ซื้อแล้ว จนเวลาผ่านไปนานเหมือนกัน เริ่มฝันเห็นเลข ก็ไหนไหนฝันแล้วซื้อเสียหน่อย ชุดเดียวเองปรากฎว่าถูกอีก งวดต่อมาก็ฝันอีก แต่ไม่ได้ซื้อเพราะคิดว่าเพ้อเจ้อไปเอง ออกตัวที่ฝันอีกแล้ว ทีนี้ก็เริ่มเข้าคอมหาดูเว็บต่างๆๆ ยังไม่ซื้อจนฝันบ่อยขึ้นจึงเริ่มเข้าสู่อบายมุขแล้ว เพราะถูกหวยติดๆๆกันหลายงวด บางทีได้ยินเสียงบอกตัวเลข บางทีเห็นตัวเลข บางทีต้องตีความบ้าง แต่ตีความนี่ตีไม่ค่อยเป็น จึงทำให้ถูกบ้างผิดบ้าง หลังๆๆนี่ฝันเห็นเลขแต่จะไม่ตรงงวดจะไปออกงวดต่อไปบ้างหรืองวดหน้าโน้นบ้าง ทำให้เงินที่ได้มาก่อนหน้านั้นหมดไป สามีมักจะบอกอยู่เสมอว่าอย่าไปซื้อเลขเลย แต่เราไม่สนใจ และที่สำคัญเวลาที่หวยออกนั้นใจคอไม่ปกติกระวนกระวายว่าจะถูกหรือเปล่าเรียกว่าทุกข์ได้เลย เมื่อเวลาประกาศเลขแล้วถ้าออกตรงที่ซื้อก็ดีใจ เรียกว่ามีความสุข แต่มันก็มีความรู้สึกดีประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นก็กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่าเลขที่ออกไม่ตรงที่ซื้อ นั่นหมายถึงเราหมดเงินไป และเสียอารมณ์ หงุดหงิด อันนี้จะทุกข์ไปนานหลายวัน และจะเริ่มใหม่ในงวดต่อไป เงินที่ได้มาเป็นกอบเป็นกำก็หมดไปในที่สุด เพราะอารมณ์ของความโลภนั่นเอง ปัจจุบันไม่มีแล้วความโลภเช่นนั้น เลิกแล้วอบายต่างๆๆ เมื่อพิจารณาย้อนกลับไปแล้วจะเห็นได้ว่าตลอดเวลาที่มัวจมกับอบายมุขเช่นนั้นหาความโปร่ง โล่งสบายในจิตไม่ได้เลย มีแต่ความกังวล ความเครียด สติหายไปนี่คือเวทนาอีกตัวที่ทำให้เกิดความทุกข์ ท่านที่เข้ามาในกระทู้นี้จะมีสักกี่คนที่เป็นเหมือนแสงจันทรในอดีต ถ้าท่านรู้สึกว่าเหมือนก็อยากจะบอกท่านว่า ไม่มีใครไม่เคยทำสิ่งที่ดีและไม่ดี เมื่อรู้ว่าสิ่งใดที่ไม่ดีเหล่านั้นทำให้ตัวเองต้องทุกข์ ก็ควรปล่อยวางทุกข์เหล่านั้นเสีย หันมาทำสิ่งที่ดีดีเข้าสู่ชีวิตดีกว่าไหม สิ่งดีดีที่ทำให้เราสบายใจ นิ่ง สงบ เมื่อค้นพบหนทางแล้วอย่ารอช้าเลย เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำไหล ไม่เคยย้อนกลับคืน และท่านจะไม่พบกับคำว่า"เสียใจ"อีก
     
  6. jprabs

    jprabs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +1,229
    ความคิดเป็นงานของจิต

    [​IMG]

    หลายท่านเกิดความท้อแท้ หมดหวังในการปฏิบัติของตนเอง
    เพราะปฏิบัติเท่าไรจิตก็ไม่นิ่งสักที จิตคอยแต่จะออกไปคิด
    ฟุ้งปรุงแต่ง เสียใจกับอดีตบ้าง ฝันหวานกับอนาคตบ้าง
    ก่อความรำคาญอึดอัดให้กับตัวผู้ปฏิบัติเป็นอย่างมาก
    ขอท่านอย่าได้วุ่นวายใจเพราะความซุกซนของจิตไปเลย
    จิตมีธรรมชาติเป็นเช่นนั้นแล...

    ธรรมชาติของจิตนั้นเป็นธาตุรู้ เป็นผู้รับรู้อารมณ์ความคิดต่างๆ
    ที่มากระทบอายตนะ แต่ถึงแม้ไม่มีปัจจัยภายนอกใดๆ มากระทบ
    จิตก็สามารถส่งออกไปคิดปรุงแต่งได้เอง เพราะความคิดเป็นงานของจิต

    การเจริญสมถะกรรมฐานเป็นการสะสมพลังงาน โดยการให้จิต
    ได้หยุดนิ่งเพื่อพักผ่อน เมื่อจิตอิ่มตัวแล้วจึงใช้จิตนี้ออกไป
    ทำงานต่างๆ เช่นคิดสร้างสรรค์ แก้ปัญหา รวมถึงการพิจาณา
    ธรรมะเพื่อความหลุดพ้นด้วย ดังนี้แล้วจะเห็นได้ว่าความคิดนั้น
    เป็นธรรมชาติและเป็นงานหลักของจิตเลยทีเดียว
    จิตที่นิ่งเฉยสงบอยู่ภายใน ไม่คิดไม่สนใจอะไรแท้จริงคือ
    จิตขี้เกียจ จิตหดหู่ จิตซึมเศร้า จิตที่มีพลังงานนั้นเขาจะ
    นึกคิดอยู่ตลอดเวลา ขอให้เข้าใจประเด็นตรงนี้ด้วย

    เมื่อท่านรู้ว่าธรรมชาติของจิตเป็นเช่นนั้นแล้ว ท่านก็ต้องรู้ด้วย
    ว่าจิตนี้ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ดังนั้นขอให้ท่านใช้สติตามดู
    สภาวะที่เกิดขึ้นกับจิตอย่างเป็นกลางที่สุด หากท่านต้องการ
    รู้ธรรมเห็นธรรมตามที่พระพุทธองค์ตรัสสั่งสอนไว้ ท่านต้อง
    ศึกษาหาความจริงในจิตตนเองนี้แหล่ะจึงจะถูกต้องและ
    ตรงเป้าที่สุด ดูอย่างเป็นกลาง ดูอย่างเป็นธรรมชาติ

    เมื่อท่านเอาจิตเกาะพระอยู่เรื่อยๆ เนืองๆ ก็ถือว่าท่านได้ฝึกสะสม
    พลังงานให้กับจิตของตนเองแล้ว ต่อไปเมื่อจิตอิ่มตัวจิตจะ
    ออกทำงานของเขาเองอัติโนมัติ ถึงตรงนี้ให้ท่านใช้สติ
    ตามรู้อย่างเดียวว่าจิตเขาเป็นยังไง คิดอะไรอยู่บ้าง อย่าบังคับ
    ให้คิด อย่าข่มให้เลิกคิด ให้ทำความรู้สึกว่าจิตนี้ไม่ใช่เรา
    เราเป็นอีกคนนึงที่คอยสะกดรอย ตามดูพฤติกรรม

    ท่านจะได้พบกับความจริงตามธรรมชาติของจิต เปรียบเสมือน
    เด็กน้อยที่เมื่อมีกำลังก็วิ่งเล่นเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่หยุดหย่อน
    แต่เมื่อเหนื่อยแล้วก็จะกลับมาพักผ่อน กินนอนให้อิ่มหนำสำราญ
    แล้วก็ออกไปเล่นอีก ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อจิตมีพลังงานก็จะออก
    ไปคิดฟุ้งเรื่องราวต่างๆ เมื่อเหนื่อยก็จะหลบเข้าไปจำศีลอยู่
    ภายใน นิ่งเฉยไม่คิดฟุ้งใดๆ บางครั้งก็เข้าไปอยู่ในสมาธิของ
    เขาเองโดยที่เราไม่ต้องกำหนดให้เป็นไปแต่อย่างใด
    สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ เราก็แค่
    รู้ให้ทันว่าจิตมีสภาวะเช่นไร ไม่ต้องไปวุ่นวายบังคับขู่เข็ญ
    ให้เขาเป็นอย่างที่เราต้องการ

    เหตุที่ท่านทุกข์ใจก็เพราะท่านไปบังคับจิต
    ไม่ยอมปล่อยให้จิตทำหน้าที่ของเขาตามธรรมชาติ
    ความอึดอัดท้อแท้เป็นทุกข์ ความยึดมั่นถือมั่น
    ว่าจิตนี้เป็นเราเป็นของเราคือสมุทัย การเพียรพยายามเอาสติ
    ตามรู้ดูจิตอย่างเป็นกลางคือมรรค ต้องเจริญให้มากๆ เช่นนี้แล้ว
    ท่านก็จะรู้สึกเบาสบาย ไม่ทุกข์ร้อนกับจิตดวงนี้อีกต่อไป
    จะคิดก็คิดไป ฉันก็เอาสติตามดูเธอ จะฟุ้งก็ฟุ้งไป จะนิ่งสงบ
    ก็นิ่งไป ฉันไม่เดือดร้อนใดๆ ด้วยอีกแล้ว

    จิตนี้แท้จริงคือตัวทุกข์ เพราะเกิด-ดับอยู่ตลอดเวลา
    แสดงความเป็นไตรลักษณ์ให้เห็นบ่อยที่สุด
    บ่อยครั้งกว่าธรรมธาตุใดๆ ในจักรวาล

    -----------------------------------------
    ฝนกำลังตก เย็นสบายดีแท้
    โห...มองออกไปรถติดมว้ากกก :z2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2012
  7. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917
    [​IMG]


    พุทธานุสสติ เป็นกรรมฐานที่ง่ายมีแต่กำไร

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] "[FONT=trebuchet ms,sans-serif]การสร้างพระพุทธรูป นี่เป็นพุทธบูชาเป็น พุทธานุสสติ ในกรรมฐาน ๔๐ กอง ท่านบอกว่ากำลัง พุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงพระนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่น ก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ใช่ไหม... ทีนี้ถ้าเราต้องการสร้างให้สวยตามที่เราชอบ เห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าหากโยมเห็นว่าพระที่ทำด้วยโลหะสวยกว่า ชอบมากกว่า โยมก็สร้างแบบนั้น"

    [/FONT]
    [/FONT]​
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] --------------------------------------------[/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] "อาตมานี่เป็นคนเกาะ "พุทธานุสสติกรรมฐาน" เป็นอารมณ์ตลอดเวลา ถ้าวันไหนไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าวันนั้นตายดีกว่า ทิ้งไม่ได้ไม่ยอม มันจะเป็นอย่างไร จะป่วยจะไข้จะปวด ยิ่งป่วยยิ่งหนักเกาะติดเลย ป่วยนิดเดียวไม่ยอมคลาย จิตไม่ยอมคลาดสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียกว่าเราถือว่าเราเกาะพระพุทธเจ้าตายมันจะลงนรกก็เชิญ พระพุทธเจ้าท่านจะลงกับเราก็เอา ใช่ไหม ท่านคงไม่ยอมลงนะ"

    [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif](คัดลอกบางตอนจาก หนังสือพ่อรักลูก หน้า ๑๕๑)[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2012
  8. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932



    ก่อนอื่นก็ต้องของโมทนาสาธุ.. กับท่านโมกขทรัพย์อย่างมากๆด้วยครับ ในเรื่องของบุญบารมีเดิม(กำลังใจ)ของท่านนั้นสูงมากๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความเพียร.. อีกทั้งยังแถมธรรมะให้แก่ผู้อ่านได้เป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจ เป็นธรรมทานแก่ผู้อื่น ก็ต้องขอโมทนาสาธุ สาธุอีกสักครั้งด้วยความจริงใจครับ..

    ความจริงแล้วท่านโมกขทรัพย์กับพวกเราชาวจิตบุญนี้เป็นญาติธรรมกันนะครับ.. เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีเช่นเดียวกัน.. (เพียงแต่ว่า.. อันตัวเรา(คนเดียวนะครับ)เป็นศิษย์นอกคอกเท่านั้นเอง.. แต่ก็ยังเป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออยู่ดีนะครับ..อิอิ)
    ดีใจครับที่ได้พบเจอญาติธรรมกัน.. มีอะไรก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน สนทนาธรรมแลกเปลี่ยนปสก.ทางธรรมกัน เป็นลูกหลานที่ดีของหลวงพ่อกันนะครับ.. หมั่นปฎิบัติดีปฎิบัติชอบตามปฎิธานของหลวงพ่อของพวกเรา..

    ความจริงเห็นท่านโพส์ในกระทู้ตั้งแต่ตอนสายๆแล้ว แต่ว่าพอดียุ่งๆงานทางโลกอยู่ทั้งวันจึงยังไม่ได้อ่าน ก็พึ่งจะมาได้อ่านเมื่อซักพักใหญ่ๆนี่ เห็นการปฎิบัติธรรมของท่านแล้วรู้สึกเสียดาย.. ว่าท่านนั้นใกล้เพียงแค่เอื้อม มรรคผลนิพานมากๆแล้ว..
    ก็ขออนุญาติแลกเปลี่ยนแบ่งบันประสบการณ์กันก็แล้ว (มิบังอาจชี้แนะท่านหรอกครับ)
    สรุปbackground:-
    - ทรงศีลได้บริสุทธิ์ (หรือเกือบบริสุทธิ์99.99%แล้ว? ข้อนี้เราไม่ทราบวาระจิตท่านนะครับ)
    - ท่านสามารถเข้าออกฌานได้จนเป็นวสี ได้สมาบัติ4
    - โดยอาศัยกรรมฐานอานาปานสติ+จิตเกาะพระ+กสิน(ดูซิ..จะไม่เป็นญาติธรรมกันกับพวกเราได้อย่างไร) ในการเข้าฌาน
    - พอออกจากฌานลึกมา ก็พิจารณาอริยสัจ นั่งวิปัสสนากายคยานุสติ เวทนานุสติ
    - แถมอนุสติอื่นๆอีกมากมาย
    - มีฤทธิ์ทางใจ
    - นั่งภาวนาสมาธิประมาณวันละ4ชม.คือเช้า2ชม.+ดึกอีก2ชม.

    ความเห็น(แลกเปลี่ยนกันนะครับ):-
    - ฌานของท่านเป็นอารัมมณูปนิชฌาน(ซึ่งท่านทำได้ดีมากอยู่แล้ว)
    - ท่านควรจะเพิ่มเติมลักขณูปนิชฌานเข้าไปด้วยคือการทรงฌานภายใต้อริยบทต่างๆให้ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน (คือเพิ่มเติมอีก20ชม.ที่เหลือเข้าไปในหนึ่งวัน)
    - เมื่อท่านสามารถทรงฌานได้ตลอดเวลาแล้ว ท่านก็สามารถเจริญวิปัสสนาได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน จนเกิดเป็นวิปัสสนาญาณได้อย่างตลอดต่อเนื่อง
    - แค่ท่านทำเพิ่มอีกสองข้อนี้เท่านั้นแหล่ะ ไม่นานนักท่านก็จะบังเกิดดวงตาเห็นธรรมและถึงมรรคผลนิพพานในชาตินี้เลย (และเป็นชาติสุดท้ายของท่านแล้ว.. ท่านไม่ต้องมาเกิดอีกแล้วเพราะท่านก็ทราบอยู่แล้วว่า "การเกิดนี่มันทุกข์แสนสาหัสจริงๆ" )

    ถ้าบังเอิญว่าท่านได้ปฎิบัติตามความเห็นแลกเปลี่ยนนี้อยู่แล้ว เราก็ต้องขออภัยมาเป็นอย่างสูงด้วยเพราะว่าอันตัวเรานั้นไม่ทราบได้ ก็สืบเนื่องมาจากได้อ่านเท่าที่ท่านเขียนมาเท่านั้น..

    สุดท้ายนี้ขออารธานาบารมีแห่งพระรัตนตรัย ช่วยดลบันดาลให้กุศลผลบุญของข้าพเจ้าที่สั่งสมมาทุกภพชาติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จงถึงแก่ท่านโมกขทรัพย์ด้วย ให้ถึงพร้อมทั้ง ศีล สมาธิ ปัญญา และสำเร็จมรรคผลนิพพานในภพชาตินี้ด้วยเทอญ.. สาธุ
     
  9. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดีครับ พอดีได้pmจากคุณDhammanee เลยอ่านตั้งแต่หน้าแรกมาเรื่อยๆ จนมาหน้าที่12 (แต่แอบอ่านหน้าสุดท้ายก่อน ฮิๆๆๆ)สนใจในการฝึกเกาะภาพพระมากครับ จึงอยากขอคำชี้แนะจากท่านทั้งหลายครับ ตอนนี้ผมฝึกตามภาพที่ผมเอาเป็นรูปประจำตัว แต่พอหลับตาดันเห็นท่านเป็นเงาดำ รอบข้างดันขาว ทรงตัวอยู่ไ้ด้ซัก5วิได้ ขอขอบพระคุณครับ<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->[FONT=&quot]ขอเข้าสูนิพพานในชาตินี้เทอญ
    [/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]สวัสดีค่ะ คุณวัฒน์ยินดีต้อนรับสู่จิตเกาะพระนะค่ะ ในที่สุดเราก็ได้มาร่วมเดินทางไปพร้อมๆ กัน อิๆ (คือดิฉันก็กำลังฝึกจิตเกาะพระอยู่ค่ะ แต่ว่ายังติดของเดิมเลย ต้วมเตี้ยม อยู่นี้แหล่ะค่ะ อิๆ) มีเรื่องเล่าสู่กันฟังว่า เมื่อวันจันทร์ที่แล้วนี้แหล่ะค่ะ ที่ดิฉันรู้ตัวว่ามีสติมากขึ้นจากการที่ระลึกนึกถึงภาพพระได้บ่อยขึ้นมากมากในวันั้น แต่ภาพพระไม่ชัดน่ะค่ะ พอตกเย็นค่ะประมาณ 5 โมงเย็น นั่งอยู่หน้าคอมจะหลับซะให้ได้ จะบอกว่าเพลียเหนื่อยจากงานก็ไม่ใช่ เพราะไม่ยุ่งเลย อีกอย่างดิฉันไม่เคยนอนกลางวันไม่ชอบเพราะตื่นขึ้นมาแล้วปวดหัว ยิ่งตอนโพล้เพล้นี้ไม่เลย แต่วันนั้นรู้สึกว่าง่วงสุดๆ ทนไม่ได้เลย ต้องไปงีบ ก่อนหลับก็มองภาพพระจนหลับไปเกือบ 2 ชม. โอ้..มายกอด เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย....
    [/FONT]
     
  10. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    จิตพร้อมไม่ได้เป็นเรื่องเด่น เลยหากระทู้ไม่เจอ ดีนะที่พี่เพ็ญบอก ว่าอยู่ตรงไหน 5555
    มารายงานตัวแล้วค่ะพี่ดัช หายไปนานเพราะไปปลีกวิเวกมา
    อยู่คนเดียวนานๆ แล้วมันวังเวง วิเวก วิโหว๋เว๋ 5555
    กลับมามีแต่ความเมตตา กำลังใจเกินร้อย
    อ่านของแต่ละท่านเหมือนได้ชาร์ทแบตไปในตัว สาธุกับทุกท่านค่ะ

    บางครั้งความเจ็บป่วยทำให้เรา(กาย)ได้พัก ได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง(จิต)มากขึ้น
    ขอให้พี่วิทย์หายไวไวนะคะ สู้สู้
     
  11. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    โมทนาสาธุ สาธุกับคุณเกษด้วยครับ..
    การให้ธรรมาทาน ถือเป็นกุศลบุญอันสูงสุดแห่งทานบารมีเลยนะครับ..
    สาธุๆหลายๆๆเด้อออ..

    ที่สำคัญอย่าลืมให้ธรรมะตัวเองหลายๆด้วยเด้ออ..ด้วยการตั้งความเพียรปฎิบัติตามเป้าหมายที่คุณครูแนะนำเป็นขั้นๆไปนะครับ..

    ขอให้คุณเกษและคุณวัฒน์เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ..สาธุหลายๆ..<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ความว่าง ก็คือ ความว่าง<!-- google_ad_section_end -->


    สาธุ ได้บุญด้วยกันนะค่ะ คุณพี่ลูกพลัง เกษก็หวังว่าในการให้ธรรมทานในครั้งนี้ คงจะช่วยส่งผลให้เกษได้ทำจิตเกาะพระได้ไวขึ้นนะค่ะ สาธุ สาธ สาธุ๊
     
  12. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    หลายวันก่อนฝันว่ามีคนนอนเจ็บอยู่ไม่ไกลจากเรา เราคิดว่าเราไม่ใช่หมอเราจะช่วยเค้าได้ไหม ลังเลอยู่สักพักจึงเข้าไปช่วย ในใจก็คิดว่าถ้าเราตัดสินใจเร็วกว่านี้ เราอาจจะช่วยเค้าได้ทัน
    แล้วจิตมันก็รู้ขึ้นมาว่าพระท่านมาสอนธรรมะ

    "อย่าคิดว่าเราเป็นใครแล้วจึงช่วยเขา แต่ให้ช่วยเขาโดยที่ไม่ต้องคิดว่าเราเป็นใคร"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2012
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอเอาใจช่วยดวงจิตคุณsupatorn คนแรกเลยนะครับ
    พยายามต่อไปนะครับ
    นรก นิพพาน เราต่างหากที่จะต้องกำหนดเอง
    มิใช่ให้พี่กรรม หรือน้องฟ้ามากำหนดกันนะครับ

    ฮาตาเกะ คาคาชิ
    สู้ๆ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มิถุนายน 2012
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาสาธุในธรรมาทานด้วยครับ

    ปล. ฝนกำลังตกหรอ?
    อึมม..ระวังฝนตกใส่เสื้อเป็นรู รูไร?..รูเยิ๊บ...เลิฟยู งั๊ยยย! ฮ่าๆ

    เก็ตป่ะ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มิถุนายน 2012
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุๆในธรรมาทาน
    ผมขอชมแสงจันทรหน่อยนะ ในฐานะที่เธอมีดวงตาเห็นธรรม
    ผมอยากให้ผู้กำลังทำจิตเกาะพระกันอยู่นี้ ขอให้ดูคุณแสงจันทรเป็นตัวอย่าง คือ
    ผู้ที่จิตยกแล้วจะเป็นในลักษณะแบบนี้ คือ จิตคนที่มีธรรมอยู่ในใจ คือ
    จะเห็นอะไรก็เป็นธรรมะทั้งสิ้น
    ธรรมะทุกอย่างจึงล้วนเป็นธรรมชาติ บริสุทธิ์ ผุดผ่อง
    เพราะจิตเกิดปัญญาแล้ว จิตผ่านวิปัสสนาแล้ว จิตก็เข้าไปถึงธรรมชาติ
    จิตจึงเข้าไปรับรู้ถึงความเป็นจริงนั้นๆได้


    จิตผ่องใส วันนี้เสนอ...
    ถาม : อะไรเอ่ย เข้าไปมีเสียง ออกมามีเสียง ยิ่งเข้าลึกยิ่งมีน้ำ
    ตอบ : 7-eleven
     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ***ขอขยายอีกครั้ง

    ขอโมทนาสาธุๆ ในธรรมาทาน
    จิตตรึงตรา ตรึงใจจริงๆ โดยเฉพาะสมเด็จองค์ปฐม ปางจักรพรรดิ์
    นึกถึงทีไร จิตรวมเป็นสมาธิทุกที

    สาธุๆ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มิถุนายน 2012
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ต๊ายตาย! สัญญาหายกันหมดชาวจิตบุญ สัญญาเธอก็หายตามพี่สาวไปด้วย ฮ่าๆ

    กระทู้นี้ไม่เป็นเรื่องเด่นน่ะ ดีแล้วจะได้เหมือนๆกัน อย่าไปเด่นเลยไม่ดีหรอก โลกธรรม8 ละกันให้ได้จะดีมาก
    ถึงว่ากำลังจะถามพี่สาวอยู่แล้วนะ ว่าเธอหายไปไหน
    นึกว่าไปทาสีกับครูดัชซะแร๊ววว


    หัวเราะวันละนิด จิตแจ่มใส
    ถาม : อะไรเอ่ย…..ข้างบนมัน ข้างล่างเหนื่อย
    ตอบ : ก็คนแบกมันไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มิถุนายน 2012
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,814
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    เวลาทําสมาธิเกาะพระและเกาะท่านภูcatt1ด้วยค่ะ ขอให้เพื่อนๆในกระทู้นี้ถึงนิพพานกันทั้งหมดค่ะ สาธุๆๆๆๆ
     
  19. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    การปรับพื้นฐาน.. สำหรับผู้ฝึกใหม่

    การปรับพื้นฐาน.. สำหรับผู้ฝึกใหม่

    ก็ขออนุญาญาติเอาคำตอบของคำถามคุณวัฒนามาแบ่งปันผู้อื่นๆด้วยครับ..

    คุณวัฒนา, ให้วางกำลังใจตามนี้เลยนะครับ:- (รับรองไม่เกิน2อาทิตย์เห็นผลแน่นอน)
    - ตั้งความเพียรว่า จะต้องทำให้ได้ "ไม่มีคำว่ายอมแพ้ในพจนานุกรมของตนเอง" "บูรพาไม่แพ้"
    - ให้ละวางเรื่องอกุศลกรรมในอดีตของตนเองลงให้หมดทุกๆเรื่อง เพราะว่ามันจะเป็นนิวรณ์เหนี่ยวรั้งจิตตนเองไม่ให้ไปไหนได้ไกล (อย่างไรเสียเราก็กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้อยู่แล้ว ใช่ไหมครับ.. ให้วาง วางๆๆๆๆ แล้วก็วางซะ..)
    - ให้มีศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างยิ่งยวด (คือถ้ายังทำไม่ได้จริง.. ก็ให้แกล้งทำจิตทำใจของเราว่า "เราศรัทธาในพระรัตนตรัยขนาดแลกได้ด้วยชีวิต" ทำเช่นนี้อยู่เนืองๆค่อยๆอบรมจิตใจตนเองไป แกล้งนะ..แกล้งทำหลอกจิตของตนเอง ผลแห่งการแกล้งทำไปทำมา เดี๋ยวมันจะเป็นจริงไม่ต้องแกล้งอีกต่อไป)
    - ทรงความเชื่อว่า อบายภูมิ มนุษยภูมิ สวรรค์พรหมภูมิ และนิพพานภูมิ มีอยู่จริง, บาป-บุญ มีอยู่จริง.. วันหนึ่งภายภาคหน้าเมื่อข้าพเจ้าบังเกิดฤทธิ์ทางใจแล้ว ข้าพเจ้าก็จะขอไปดูให้เห็นกับตา(ใน)แบบจะๆเลย..
    - ตั้งจิตให้มั่นทรงสมาธิแล้วขออธิษฐานจิตว่า "เราขอยกเลิกการอธิษฐานจิตใดๆก็แล้วแต่ ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบันทุกภพชาติทั้งหมดทั้งสิ้นออกไป แล้วขออธิษฐานจิตใหม่ในวันนี้ว่า เราจะขอเข้าถึงมรรคผลนิพพานในภพชาตินี้ด้วยเทอญ..", 
    - "นิพพานัง ปรมัง สูญญัง" - นิพพานเป็นความว่างอย่างที่สุด + "นิพพานัง ปรมัง สุขขัง" - นิพพานเป็นความสุขอย่างที่สุด หมั่นท่องให้ขึ้นใจเพราะว่าเป็น "อุปสมานุสติกรรมฐาน" เวลาว่างๆไม่มีอะไรจะคิดก็ให้คิดถึงเรื่องนี้ควบคู่กันไปกับการเจริญ"มรณานุสติกรรมฐาน" คือ จะอะไรกันนักกันหนา สุดท้ายก็ตายอยู่ดีไม่มีข้อยกเว้น เกิดสิบตายสิบ เกิดล้านตายล้าน, ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง-ความตายเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน อันตัวเราอาจจะตายได้ทุกขณะเวลานาทีซึ่งมิอาจทราบได้ ดังนั้นก็จะขอปฎิธรรมในทันทีตลอดเวลาเก็บทุกเม็ด เผื่อว่าถ้าเกิดตายไปแบบกระทันหันจะได้ไม่เสียชาติเกิดในบวรพุทธศาสนานี้ เมื่อเราตายไปก็จะขอไปนิพพานที่เดียวเท่านั้น ที่อื่นๆไม่เอาแล้ว ไม่อีกแล้ว พอแล้ว.. หมั่นพิจารณาอยู่เนืองๆแทนที่จะไปคิดฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อยเรื่องอื่นๆที่ไร้สาระแก่นสารและไม่เป็นประโยชน์
    - มี"สติ"ระลึกรู้ในการไม่ทำผิดศีล(ศีล5) แค่5ข้อเท่านั้นเอง การทำงานทางโลกอาจจะมีสถานการณ์ที่ทำให้เราสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดศีล ก็ต้องหมั่นมีสติและใช้ปัญญาในการหลีกเลี่ยงแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ได้เพื่อ "ทรงศีลให้บริสุทธิ์" 
    - มีสติไม่ฟุ้งซ่าน คือเวลาปฎิบัติไปเรื่อยๆท่านจะพบกับความมหัศจรรย์ทางจิตเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่ต้องตื่นเต้น ให้วางกำลังใจดังนี้ คือให้นำสติตามรู้ตามดูจิตมหัศจรรย์ของเราเองไปเรื่อยๆ เมื่อมันเกิดขึ้นเองเดี๋ยวมันก็ดับไปเอง ไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องกลัวตาย(อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ถ้าแม้นว่าจะตายในขณะปฎิบัติก็เอาเลย..) รู้ๆๆๆๆๆลูกเดียว แล้วก็วางๆๆๆๆ จงจำเอาไว้ให้แม่นๆเลยสูตรสำเร็จ "รู้-วาง เกิด-ดับ" แค่นี้แหล่ะคือหัวใจ

    ด้วยพื้นฐานเพียงเท่านี้ไม่น่ายากจนเกินไปสำหรับผู้มีความตั้งใจจริงและถ้าปฎิบัติได้ก็มีสิทธิ์เข้าถึงการสำเร็จเป็นอริยบุคคลขั้นต้นนั่นคือ พระโสดาบันกันเลยนะครับ.. 

    เมื่อวางกำลังใจพื้นฐานกันได้แล้ว ต่อไปก็นี่เลย..

    เคล็ดวิชาจิตเกาะพระ.. สำหรับผู้ฝึกใหม่

    เอาสั้นๆง่ายๆนะครับ แต่ว่าเป็นเคล็ดวิชา นี่ถ้าทำได้ รับรองก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คือ
    1. ให้มีสติระลึกนึกถึงพระให้ได้ตลอด ทั้งวันทุกอริยาบท ส่วนภาพพระจะชัดเจนหรือไม่นั้น อย่าพึ่งไปซีเรียส ทำแบบสบายๆชิวๆระหว่างทำกิจการงานใดๆก็แล้วแต่.. ให้มีสติรู้ว่าจิตเกาะพระอยู่ มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็บ่เป็นหยัง..
    2. ความชัดเจนของภาพพระจะตามมาภายหลังเอง.. อย่าไปเข่นว่าต้องให้ได้ๆ.. (เดี๋ยวจะยิ่งช้าเข้าไปใหญ่..)
    สรุปคือว่า ให้นำ้หนักจำนวนครั้งในการระลึกนึกถึงพระให้มากๆเข้าไว้เป็นหลักก่อน ความชัดเจนในภาพเดี๋ยวก็จะตามมาเองในภายหลัง.. 
    (คล้ายๆกับนักมวยนะ.. ให้ออกหมัดถี่ๆบ่อยๆ ต่อยโดนไม่โดนไม่เป็นไร ชกลูกเดียว..)

    ถ้าเป็นภาษาทางการนะ หัวใจเลยเขาเรียกว่า "การมีสติระลึกรู้ รู้สึกตัวทั่วพร้อม" 
    แต่ในที่นี้เราระลึกนึกถึงภาพพระ เพื่อเป็นการปฎิบัติสมถกรรมฐานควบคู่กับวิปัสสนากรรมฐานไปพร้อมๆกันเลย (2 in one..) แถมทำได้ทั้งวันทั้งคืน ถ้าลืมก็แสดงว่าเรา "สติเผลอ" ก็ไม่เป็นไร..ให้กลับมาระลึกนึกถึงใหม่ "อย่าเผลอ" ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ..แล้วท่านก็จะพบกับความมหัศจรรย์ทางจิตของตัวท่านเอง..

    เอ้าสองวันนี้บ่นมากไปแล้ว..

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ.. สาธุ สาธุ
    __________________
    ความว่าง ก็คือ ความว่าง
     
  20. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๒๘ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา


    กับจิตบุญดวงที่ ๒๘
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ



    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...