เรื่องเด่น ปฏิทินพลังจิตธรรมสัญจร 55 ตอน ร่วมบุญสร้างลานปฏิบัติธรรมกับ คบ. วิจิตร มนฺญโญ P. 44

กิจกรรมบุญ

อ้างอิงข้อมูลจากกระทู้ ปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร ๕๕[/SIZE][/SIZE]

 

ธรรมเฉพาะกิจ (๒)

​

​

รายละเอียดการจอง
๑. ท่่านที่ประสงค์จะร่วมเดินทาง กรุณาระบุชื่อกิจกรรมบุญที่ต้องการรวมถึงโอนเงินค่าพาหนะตามจำนวนที่กำหนด ข้างต้นเข้าบัญชีตามข้างล่างนี้ และมาโพสต์แจ้งชื่อ-สกุล-เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้และจำนวนเงิน-วัน เวลาที่โอนให้ทราบด้วย
ชื่อบัญชี : น.ส. ณญาดา ศราภัยวานิช
ธนาคาร : กรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาบางบัวทอง
เลขที่บัญชี : ๑๒๑-๐-๑๐๕๔๕-๔ (121-0-10545-4)
โทรศัพท์ : ๐๘๑-๗๓๕๙๒๖๑ (081-7359261)

๒. ในกรณีมีสมาชิกแจ้งความประสงค์ร่วมเดินทางเข้ามาเกิน ๑๐ คน จะลงชื่อเป็นที่นั่งสำรองและจัดที่นั่งทดแทนให้ในกรณีมีสมาชิกถอนตัวเนื่อง จากงานเข้า และหรือพิจารณาจัดรถเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนรถให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิก

๓. สมาชิกที่ชำระค่าเดินทางและประสงค์ยกเลิกการเดินทางหลังจากวันที่กำหนด จะทำการเปิดรับสมาชิกทดแทนและดำเนินการคืนเงินให้เต็มตามจำนวนหลังหักค่า ธรรมเนียมการโอน ๒๕ บาทเมื่อมีผู้แจ้งความประสงค์เดินทางและชำระเงินเข้ามา ยกเว้น ไม่มีสมาชิกทดแทน ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินค่าเดินทางให้หากการยกเลิกล่าช้าของท่านก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้จัด และในกรณีที่ขอชำระหลังวันที่ปิดรับการโอนแล้วแจ้งยกเลิกการเดินทางในภายหลัง จะต้องชำระค่าเดินทางเข้ามาเต็มจำนวน เนื่องจากเป็นการทำให้เสียสิทธิ์ของผู้อื่น และผู้จัดไม่สามารถรับภาระค่าเดินทางทดแทนได้ เนื่องจากทุกกิจกรรมบุญจะประมาณการค่าใช้จ่ายตามจริง

๔. เงินคงเหลือหลังจากชำระค่าบริการทุกส่วนแล้ว ผู้จัดขออนุญาตนำเงินคงเหลือทั้งหมดเข้าร่วมบุญต่าง ๆ ในทุกกิจกรรมบุญของกองทุนบึงลับแลต่อไป

หมายเหตุ
อ้างอิงข้อมูลจากหน้าที่ ๑๕ คคห. ที่ ๒๙๐

 

แจ้งความคืบหน้า และประกาศผังที่นั่งของพลังจิตธรรมเฉพาะกิจ (๒)

......ขออนุญาตแจ้งความคืบหน้าและประกาศผังที่นั่งของทริปธรรมเฉพาะกิจ (๒) ภูทอก-ภูเขาควาย-ร่วมงานบำเพ็ญกุศลครบรอบวันมรณภาพ ๓๒ ปี หลวงปู่จวน กุลเชฎโฐ จ. บึงกาฬ-หนองคาย-สปป. ลาว วันที่ ๒๕ เม.ย. - ๒๙ เม.ย. ๕๕ (๕ วัน ๔ คืน ) ให้ทุกท่านทราบโดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้

๑. การเดินทาง
รถตู้ปรับอากาศ จำนวน ๒ คัน
- พลังจิต ๑ จำนวน ๑๐ คน
- พลังจิต ๒ จำนวน ๑๐ คน

รวมสมาชิกร่วมเดินทาง ๒๐ คน
(เต็ม)


๒. วัน, เวลา/สถานที่ขึ้นรถ
วันพุธที่ ๒๕ เม.ย. ๕๕
เวลา ๒๒.๐๐ น. จุดนัดพบ ร้านกาแฟอเมซอน ปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า
- ตรวจสอบรายชื่อ
- จัดเก็บสัมภาระ นั่งประจำที่

เวลา ๒๒.๑๕ น. ล้อหมุน

​

แผนที่จุดขึ้นรถ ปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้า​

๓. ผังที่นั่ง
สมาชิกทุกท่านจะต้องจดจำหมายเลขรถ (พลังจิต ๑-๒) และแถวที่นั่งของตัวเอง และเมื่อเดินทางถึงจุดนัดพบ ขอให้แจ้งชื่อและหมายเลขแถวที่นั่งให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อตรวจสอบรายชื่อก่อนขึ้นนั่งประจำที่บนรถ

​

​

๔. การแต่งกาย
วันพุธ
แต่งกายตามอัธยาศัย

วันพฤหัสบดี (วันบวชเนกขัมม)
ผู้ชาย - เสื้อขาว-กางเกงขาว หรือสีน้ำตาลของวัดป่า
ผู้หญิง- เสื้อขาว-กางเกงขาว หรือผ้านุ่งสีขาว หรือสีน้ำตาลของวัดป่า (ตามอัธยาศัย)

วันศุกร์-วันเสาร์
แต่งกายตามอัธยาศัย

วันอาทิตย์
ผู้ชาย- กางเกงขายาว งดขาสั้นหรือสูงกว่าเข่า
ผู้หญิง- ให้นำผ้าซิ่น หรือผ้านุ่ง สำหรับสวมใส่หรือสวมทับกางเกงเวลาเข้าวัด


๕. อาหารและน้ำดื่ม
ประเทศไทย -โรงทาน และตามอัธยาศัย มีบริการอาหาร ๑ มื้อ (มื้อเย็นก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ)
สปป. ลาว - บริการอาหาร ๗ มื้อ

๖. กิจกรรมบุญในทริปนี้
<label for="rb_iconid_31"></label> ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดเจติยคีรีวิหาร (ภูทอก)
<label for="rb_iconid_31"></label> ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฒ์ วัดโพธิ์ชัย
<label for="rb_iconid_31"></label> ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดพระบาทแอ่วขัน (ภูเขาควาย)
<label for="rb_iconid_31"></label> ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฒ์ วัดศรีเมือง
<label for="rb_iconid_31"></label> ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฒ์ วัดสีสะเกด


๗. ยอดเงินรวมบุญ ณ วันที่ ๑๗ เม.ย. ๕๕ จำนวน ๓,๕๕๐ บาท
อ้างอิงข้อมูลจากหน้าที่ ๑๕ คลิก


๘. ทั่วไป (สำคัญมาก โปรดอ่านให้เข้าใจ)
กระเป๋าที่ใช้ในการเดินทาง - เป็นการเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ ๑๐ ที่นั่ง ไม่ใช่การเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งที่จัดเก็บกระเป๋าคือด้านหลังรถ เพราะฉะนั้นขอให้สมาชิกทุกท่านจัดเสื้อผ้าไปเฉพาะที่จำเป็นเพียงคนละ ๑ ใบ งดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หรือมีขนาดที่กินเนื้อที่จนเกินไป

จุดพักเข้าห้องน้ำ/ซื้อกาแฟหรือน้ำดื่ม - พัก ๒๐ นาที ต่อ ๑ จุด

การปฎิบัติเมื่อเดินทางถึงวัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก)
ภูทอก ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นวัดและเป็นสถานที่ ๆ คงความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ของภูทอก ที่พักในครั้งนี้ พระที่วัดท่านเมตตาให้ขึ้นไปพักที่ชั้น ๕ เพราะฉะนั้นสมาชิกทั้ง ๒๐ ท่านที่เดินทางไป จะต้องพึงรักษาความสงบ ความสะอาด งดการพูดคุยส่งเสียงดัง ถ่มน้ำลาย ทิ้งขยะ ตลอดระยะเวลาที่พักอยู่บนเขา และปฎิบัติตามกฎระเบียบของทางวัดอย่างเคร่งครัด

การปฎิบัติเมื่อเดินทางเข้า สปป. ลาว
- ผู้จัดได้ว่างจ้างไกด์ลาว ให้เป็นผู้ดูแลชาวคณะตลอดการเดินทางในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) เพราะฉะนั้น การปฎิบัติตัวในสถานที่ ๆ ไม่ใช่บ้านเมืองของเรา ขอให้สมาชิกทุกท่านให้ความเคารพในกฎ ระเบียบของสถานที่นั้น ๆ และประเทศนั้น ๆ อย่างเคร่งครัด
- วันเดินทาง สมาิชิกทุกท่านทำให้นำ passport ติดตัวไปด้วย สมาชิกท่านใดลืมนำมา และทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้า สปป. ลาว หรือมีเหตุใดที่ทำให้ท่านไม่ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ท่านจะต้องพักรอชาวคณะที่จังหวัดหนองคาย และรับผิดชอบตัวท่านเอง
- อุปกรณ์กันหนาว กันร้อนต่าง ๆ อาทิ เช่น หมวก แว่นกันแดด ร่ม ควรนำติดตัวไป รวมถึงยารักษาโรค สำหรับท่านที่มีโรคประจำตัว
- โรงแรมที่พัก จัดให้นอนห้องละ ๒ คน คืนแรกพักที่ วังเวียง คืนที่สองพักที่เวียงจันทน์
- อาหาร บริการฟรี ๗ มื้อ ตลอดการเดินทางใน สปป. ลาว


เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ขอให้ทุกท่านพึงรักษาเวลาในแต่ละสถานที่ตามที่ผู้จัดได้แจ้งไว้อย่างเคร่งครัด เพราะเวลาที่ล่าช้าเพียงไม่กี่นาทีอาจจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางโดยส่วนรวมและอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อหมู่คณะ และผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รอในทุกกรณี

 

ภาพน่าประทับใจ....จากควันหลงงานสงกรานต์ วัดท่าขนุน

ประเพณีสงกรานต์อันงดงามและดีงาม ที่สมควรอนุรักษ์และรักษาไว้ไม่ให้ไหลไปตามกระแสของตะวันตก กับประเพณีอุ้มพระสรงน้ำ ณ วัดท่าขนุน อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (เล็ก สุธมฺมปฺญโญ)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน













​

 

​

​

​

​

ประเพณีสงกรานต์-บวชเนกขัมมปฎิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติวัดท่าขนุน รุ่นที่ ๔ วันที่ ๑๓-๑๖ เมษายน ๒๕๕๕

​

รับชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ เว็บวัดท่าขนุน​

 

นับถอยหลังอีก ๖ วัน​

กับธรรมเฉพาะกิจ ๒
ภูทอก-ภูเขาควาย-ร่วมงานบำเพ็ญกุศลครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่จวน กุลเฃฏโฐ ปีที่ ๓๒
​

 

ธรรมสัญจร (๑๑)

พฤษภาคม





​

รายละเอียดการร่วมกิจกรรม
๑. ท่่านที่ประสงค์จะร่วมเดินทาง กรุณาระบุชื่อกิจกรรมบุญที่ต้องการรวมถึงโอนเงินค่าพาหนะตามจำนวนที่กำหนด ข้างต้นเข้าบัญชีตามข้างล่างนี้ และมาโพสต์แจ้งชื่อ-สกุล-เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้และจำนวนเงิน-วัน เวลาที่โอนให้ทราบด้วย
ชื่อบัญชี : น.ส. ณญาดา ศราภัยวานิช
ธนาคาร : กรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาบางบัวทอง
เลขที่บัญชี : ๑๒๑-๐-๑๐๕๔๕-๔ (121-0-10545-4)
โทรศัพท์ : ๐๘๑-๗๓๕๙๒๖๑ (081-7359261)

๒. ในกรณีมีสมาชิกแจ้งความประสงค์ร่วมเดินทางเข้ามาเกิน ๑๐ คน จะลงชื่อเป็นที่นั่งสำรองและจัดที่นั่งทดแทนให้ในกรณีมีสมาชิกถอนตัวเนื่องจากงานเข้า และหรือพิจารณาจัดรถเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนรถให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิก

๓. สมาชิกที่ชำระค่าเดินทางและประสงค์ยกเลิกการเดินทางหลังจากวันที่กำหนด จะทำการเปิดรับสมาชิกทดแทนและดำเนินการคืนเงินให้เต็มตามจำนวนหลังหักค่าธรรมเนียมการโอน ๒๕ บาทเมื่อมีผู้แจ้งความประสงค์และชำระเงินเข้ามา ยกเว้น ไม่มีสมาชิกทดแทน ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินค่าเดินทางให้หากการยกเลิกล่าช้าของท่านก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้จัด และในกรณีที่ขอชำระหลังวันที่ปิดรับการโอนแล้วแจ้งยกเลิกการเดินทางในภายหลัง จะต้องชำระค่าเดินทางเข้ามาเต็มจำนวน เนื่องจากทำให้เป็นการเสียสิทธิ์ของผู้อื่น และผู้จัดไม่สามารถรับภาระค่าเดินทางทดแทนได้ เนื่องจากทุกกิจกรรมบุญจะประมาณการค่าใช้จ่ายตามจริง

๔. เงินคงเหลือหลังจากชำระค่าเช่ารถและค่าใช้จ่ายทุกส่วนแล้ว ผู้จัดขออนุญาตนำเงินคงเหลือทั้งหมดเข้าร่วมบุญต่าง ๆ ในทุกกิจกรรมบุญของกองทุนบึงลับแลต่อไป

 

รายนามผู้ร่วมบุญ-ร่วมเดินทาง

ผู้ร่วมบุญ
๑. กองทุนบึงลับแล จำนวน ๕๐๐ บาท
๒. หลาน ๆ สกุล "ศราภัยวานิช" จำนวน ๕๐ บาท
๓. คุณ vietnam จำนวน ๑๐๐ บาท
๔. คุณเสาวนิตย์ จำนวน ๑๐๐ บาท
๕. คุณกอล์ฟ-หวาน จำนวน ๑๐๐ บาท
๖. คุณ kobkorn จำนวน ๑๐๐ บาท

รวมเงินร่วมบุญ ๙๕๐ บาท



ผู้ร่วมเดินทาง
๑. คุณ ญ.ผู้หญิง จ่ายแล้ว ลว. ๒๓/๔/๕๕
๒. คุณ odinid จ่ายแล้ว ลว. ๑๒/๕/๕๕
๓. คุณคนคนนี้น่ารัก* จ่ายแล้ว ลว. ๒๓/๔/๕๕
๔. คุณจุติญาน (๑) จ่ายแล้ว ลว. ๓๐/๔/๕๕
๕. คุณจุติญาน* (๒) จ่ายแล้ว ลว. ๓๐/๔/๕๕
๖. คุณปรียาภา* จ่ายแล้ว ลว. ๑๑/๕/๕๕
๗. คุณเกสรมณีช์* (๑) จ่ายแล้ว ลว. ๑๒/๕/๕๕
๘. คุณเกสรมณีช์* (๒) จ่ายแล้ว ลว. ๑๒/๕/๕๕
๙. คุณเฉลียว (๑) จ่ายแล้ว ลว. ๘/๕/๕๕
๑๐. คุณเฉลียว (๒) จ่ายแล้ว ลว. ๘/๕/๕๕
๑๑. คุณเฉลียว (๓) จ่ายแล้ว ลว. ๘/๕/๕๕
๑๒. คุณเฉลียว (๔) จ่ายแล้ว ลว. ๘/๕/๕๕
๑๓. คุณเฉลียว (๕) จ่ายแล้ว ลว. ๘/๕/๕๕
๑๔. คุณเฉลียว (๖) จ่ายแล้ว ลว. ๘/๕/๕๕
๑๕. คุณเฉลียว (๗) จ่ายแล้ว ลว. ๑๐/๕/๕๕
๑๖. คุณเฉลียว (๘) จ่ายแล้ว ลว. ๑๐/๕/๕๕
๑๗. คุณวรานิษฐ์ จ่ายแล้ว ลว. ๑๒/๕/๕๕*
๑๘. คุณ kobkorn (๑) จ่ายแล้ว ลว. ๑๒/๕/๕๕
๑๙. คุณ kobkorn (๒) จ่ายแล้ว ลว. ๑๒/๕/๕๕
๒๐. คุณกชพร*

(เต็ม)​

หมายเหตุ
๑. แจ้งยกเลิกการเดินทางภายใน : วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พ.ค. ๕๕
๒. ปิดรับการโอนชำระเงิน : วันศุกร์ที่ ๑๑ พ.ค. ๕๕ เวลา ๒๐.๐๐ น.
๓. ประกาศผังที่นั่ง : วันจันทร์ที่ ๑๔ พ.ค. ๕๕

 

มารู้จักสถานที่ ๆ ไปในธรรมสัญจร (๑๑) กันเถิด

​

​

๑. วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"><tbody><tr><td>ตั้งอยู่ที่วัดเขาวง บ้านเขาวง หมู่ ๕ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท ห่างจากตัาอำเภอพระพุทธบาท ประมาณ ๓ กิโลเมตร ที่ปากถ้ำมีอักษรมอญโบราณ (ปัลลวะ) ซึ่งเป็นแบบอักษรของชาวอินเดียฝ่ายใต้ ปรากฎมีในภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศไทยในสมัยก่อนสุโขทัย จนวิวัฒนาการมาเป็นอักษรขอมและ มอญโบราณ ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรง นำมาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นต้นกำเนิดอักษรไทย จนถึงทุกวันนี้อักษรจารึกถ้ำนารายณ์ มีข้อความ ๓ บรรทัด ถูกจารึกในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๒ (ยุคทวาราวดี) ในยุคนั้น ชนชาติมอญมีอำนาจรุ่งเรือง อักษรจารึก เขียนเป็นคำบอกร้อยแก้ว กรมศิลปากรแปลไว้ว่า

“กัณทราชัย ผู้ตั้งแคว้นอนุราธปุระ ได้มอบให้พ่อลุงสินาธะ
เป็นตัวแทนพร้อมกับชาวเมือง (อนุราธปุระ) จัดพิธีร้องรำ
เพื่อเฉลิมฉลอง(สิ่ง)ซึ่งประดิษฐานไว้แล้วข้างในนี้”
​

อ้างอิงจาก
(เทิม มีเต็ม และจำปา เยื้องเจริญ กองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ‘จารึกบนผนังปากถ้ำนารายณ์’ ในวารสารศิลปากร หน้า ๕๓-๕๗ ม.ป.ป.)


<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>

​

</td><td> จารึกนี้บอกให้ทราบว่า ท้องถิ่นแถบนี้มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลานาน และอาจจะเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง มาก่อน ซึ่งคำว่า ‘อนุราธปุระ’ เป็นชื่อเมืองโบราณในประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย และอาจจะแสดงว่าชาวลังกากับคนท้องถิ่นนี้ (มอญโบราณ) มีการติดต่อสัมพันธ์กัน จึงมีการอ้างชื่อเมือง เพื่อกำหนดให้ระลึกถึงกัน พร้อมทั้งจารึกอักษรไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เปรียบเทียบศึกษาจากบันทึกในพงศาวดารหลายฉบับระบุว่า ในสมัยอาณาจักรสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ.๒๑๖๓-๒๑๗๑) เคยมีปรากฏคณะสงฆ์ไทยเดินทางไปเมืองลังกาเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขา สุมนกูฏ แต่พระภิกษุลังกาได้บอกว่ามีรอยพระพุทธบาท ในประเทศไทยที่เขาสุวรรณบรรพต และเกิดการค้นพบรอยพระพุทธบาทบริเวณเทือกเขานี้ในเวลาต่อมา หรืออาจจะหมายถึงการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์และสยามวงศ์ตามที่ปรากฏในพงศาวดารของชาติไทย เราด้วย ก็อาจจะเป็นได้
</td></tr></tbody></table>
วัดเขาวง ตั้งอยู่เลขที่ ๖๒/๑ หมู่ที่ ๕ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โดยได้รับอนุญาตสร้างวัดเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ และได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดตามลำดับ จนกระทั่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๑ มีบริเวณกว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๕๑ เมตร เนื้อที่ ๑,๕๐๐ ตารางเมตร ดำเนินการผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖

สถานที่แห่งนี้เป็นศาสนสถานมาเป็นเวลายาวนาน สืบความไปถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเสด็จจากวังนารายณ์เมืองละโว้(ลพบุรี) ไปว่าราชการที่กรุงศรีอยุธยา ทรงผ่านประทับแรม ณ ถ้ำนารายณ์ ... และสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งทรงเสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท ก็ได้เสด็จประทับพักแรมในถ้านารายณ์ ซึ่งมีอากาศเย็นสบายตลอดปี และจากจารึกอักษรผนังปากถ้ำก็ปรากฏหลักฐานว่า ถ้ำนี้ได้เคยเป็น ที่บำเพ็ญกุศลมาตั้งแต่สมัยอนุราธปุระ เมื่อกว่า ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว ผ่านความรุ่งเรืองและเสื่อมโทรมและฟื้นฟูขึ้นเป็นวัดตามประเพณีการปกครอง แผ่นดินและ การสืบพระพุทธศาสนา ดังกล่าวข้างต้น
</td></tr><tr><td>

​

</td></tr><tr><td>

ปัจจุบันนี้ โดยการนำของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และพระธรรมสิทธินายก (ธงชัย สุขญาโณ) แห่งวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร วัดเขาวง ได้พัฒนาขึ้นมาสู่สภาพวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากรแล้วเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง และยังเป็นแหล่งพันธุ์ไม้และสัตว์หาดูยาก คือโมกราชินี (Wrightia SIRIKITIAE D.J. Middleton&Santisuk) จันผา, นกหัวจุก, กระรอกเผือก ฯลฯ เพื่อรักษาไว้เป็นมรดกวัฒนธรรมศาสนาของชาติไทยสืบไป

วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสระบุรี และปฏิบัติกรรมฐานตามสาย พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) มีหลักเจริญภาวนา มหาสติปัฏฐานสูตร รับผู้เข้าพักปฏิบัติธรรมตลอดทั้งปี ตามระเบียบและจารีตของสำนัก
</td></tr></tbody></table>

ขอบคุณที่มา : เว็บวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)​

 

<table class="text" bgcolor="#f0f0f0" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td valign="center" align="center"></td> <td width="6"></td> <td bgcolor="#999999" width="1"></td></tr></tbody></table>
๒. วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าทรงธรรม มีรอยปูชนียสถานที่สำคัญ คือ รอยพระพุทธบาท ที่ประทับไว้บนแผ่นหิน เหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี เป็นรอยพระพุทธบาทล้ำค่าซึ่งมีคุณลักษณะครบ ๑๐๘ ประการ ลักษณะของรอยพระพุทธบาทคล้ายเท้าคน ถือเป็นพลังแห่งศรัทธาของประชาชนทั่วทุกภูมิภาคความเชื่อและวิธีการบูชา ตามคติของคนโบราณกล่าวไว้ว่าหากได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทนี้ครบถึง ๗ ครั้ง จะได้ไปจุติในสรวงสวรรค์ แม้แต่ในชาติภพนี้ อานิสงส์ผลบุญจะส่งให้ชีวิตมีความสำเร็จสมหวังในทุกประการ

รอยพระพุทธบาทรอยนี้ค้นพบโดยพรานบุญ ในรัชสมัยสมเด็จ พระเจ้าทรงธรรมพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาระหว่างปี พ.ศ. ๒๑๕๓ - ๒๑๖๗ กว้าง ๒๑ นิ้ว ยาว ๖๐ นิ้ว ลึก ๑๑ นิ้ว มีหลักฐานในพงศาวดารของไทยว่า พระเถระจากอยุธยาไปนมัสการพระพุทธบาทบนยอดเขาสุมนกูฏ และได้รับคำแนะนำจากพระเถระในลังกาว่าในไทยเองก็มีรอยพระพุทธบาทอันแท้จริงซึ่งพระพุทธเจ้าได้ ประทับประทานไว้เช่นกัน สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมจึงมีพระดำรัสให้ทำการค้นหา จนพบในที่สุด

สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงจึงโปรดให้สร้างพระมณฑปน้อยครอบรอยพระพุทธบาท โดยมีมณฑปใหญ่ครอบอีกชั้นหนึ่ง สถาปนาขึ้นเป็นมหาเจดีย์สถาน ทรงอุทิศเนื้อที่โยชน์หนึ่งโดยรอบพระพุทธบาทถวายเป็นพุทธบูชา สำหรับบำรุงพระพุทธบาท โปรดเกล้า ฯ ให้ตัดถนนหนทาง และสร้างอารามวัตถุอื่น ๆ เช่น พระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาเปรียญ และเสนาสนสงฆ์เป็นต้น ซึ่งเป็นศิลปะตั้งแต่สมัย อยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ และยังมีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ที่ก้อนหินขนาดใหญ่ สูงจากพื้น ๑๖๐ เซนติเมตร เมื่อครั้งที่รัฃกาลที่ ๕ เสด็จนมัสการรอยพระพุทธบาทสระบุรีแห่งนี้

ลักษณะของพระมณฑปวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท ๗ ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว มีซุ้มบันแถลงประดับทุกชั้น มีเสาย่อมุมไม้สิบสอง ปิดทองประดับกระจกโดยรอบ ฝาผนังด้านนอกปิดทองประดับกระจกเป็นรูปเทพพนม พุ่มข้าวบิณฑ์ บานประตูพระมณฑปเป็นงานศิลปกรรมประดับมุกชั้นเยี่ยมของเมืองไทย พื้นภายในปูด้วยเสื่อเงินสาน ทางขึ้นพระมณฑปเป็นบันไดนาคสามสายซึ่งหมายถึง บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว ที่ทอดลงจากสวรรค์ หัวนาคที่เชิงบันไดหล่อด้วยทองสำริดเป็นนาค ๕ เศียร บริเวณรอบพระมณฑปมีระฆังแขวนเรียงราย เพื่อให้ผู้ที่มานมัสการได้ตีแผ่ส่วนกุศลแก่เพื่อนทั้งหลาย ส่วนพระอุโบสถ และพระวิหารต่างๆ ที่อยู่รายรอบ ล้วนสร้างตามแบบศิลปกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น

นอกจากนี้ ในบริเวณวัดยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธบาท ( วิหารหลวง ) ซึ่งเป็นเก็บรวบรวมศิลปวัตถุอันมีค่าอาทิ เครื่องทรงสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง ยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่าพัดยศของพระสมัยต่างๆ และท่อประปาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วิหารหลวงจะเปิดให้ชมเฉพาะช่วงที่มีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท


ขอบคุณที่มา : วิกิพีเดีย
​

 

​

๓. วัดถ้ำพระธาตุเจริญธรรม
​

ตั้งอยู่ที่ ต. สองคอน อ. แก่งคอย จ. สระบุรี เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ถ้ำพระธาตุบ่อปลา บริเวณภายในถ้ำ มีหินงอก หินย้อยตามธรรมชาติที่สวยงาม และมีพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารเป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำพระธาตุเจริญธรรม ต.สองคอน อ.แก่งคอย ระยะห่างจากจังหวัดประมาณ ๒๒ กม. ไปตามเส้นทางมิตรภาพระยะทาง ๑๒ กม. แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนราดยางอีก ๑๐ กม.
​

​

ภายในถ้ำแบ่งเป็นห้องขนาดใหญ่สองห้อง ห้องแรกเรียกว่า ถ้ำท้องพระโรง มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง และยังมีพระพุทธรูปประดิษฐานตามซอกหลืบถ้ำอีกหลายองค์ จากห้องแรกมีทางเดินแคบ ๆ ไปยังห้องที่ ๒ ซึ่งมีขนาดกว้าง ที่กลางห้องประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองไว้ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้สักการะ จุดเด่นของถ้ำนี้คือหินงอก หินย้อยที่สวยงาม ทางวัดได้นำไฟสปอตไลต์ส่องไปตามหินงอก หินย้อย ทำให้เกิดแสงระยิบระยับไปทั่วทั้งถ้ำ

​

การเดินทาง
เส้นทางแรก จากซุ้มประตูทางเข้า อ.แก่งคอย ริมทางหลวงหมายเลข ๒ ตรงไปราว ๑ กม. จะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวาตรงไปจนถึงตลาดเทศบาลแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปผ่านสี่แยก ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก แล้วตรงไปอีกประมาณ ๕๐๐ เมตร ถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ ๑.๕ กม. จะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวาแล้ววิ่งตรงไปประมาณ ๖ กม. พบสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ ๕๐๐ เมตรจะพบป้ายวัดพระพุทธบาทน้อย-บ่อโศกอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวไปตามป้าย แล้วตรงขึ้นไปอีกประมาณ ๒.๕ กม. เป็นทางลาดยางจนถึงทางเข้าวัด
เส้นทางที่สอง จากสระบุรีใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ ทางไปจังหวัดลพบุรีประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ถึงหน้าโรงเรียนพุแควิทยา ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนจะมีถนนสายพุแค-แก่งคอย เข้าไปประมาณ ๑๐ กิโลเมตร


ขอบคุณที่มา : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
​

 

รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ

 

ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ