-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่มีประโยชร์มาก ๆ กับผู้ที่ศรัทธาในองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต คนหลงทางจำนวนมากที่ได้เข้ามาอ่าน หรือผ่านไป ผ่านมาได้เข้ามาอ่านก็เกิดความรู้ความเข้าใจหูตาสว่าง ตื่นจากความฝันมาดูโลกแห่งความจริงกันนักต่อนักแล้ว ขออนุโมทนาสาธุครับ และขอบุญกุศลที่ก่อเกิดจากจิตใจอันบริสุทธิ์ของเจ้าของกระทู้จงนำพาท่านและครอบครัวให้ประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป

 

555+ มีรายการจุดไต้ตำตอซะแล้วงานนี้

ระวังเขาจะแถเอาสีข้างถูกล่าวหาว่าพ่อของคุณjuni buddhitb ไปลอกพิมพ์ของเก่าสมัยสมเด็จโตมาอีกซะล่ะ

 

เมื่อไหร่พวก"พระกุวังหน้าสากลนิยมไม่ยอมรับ เก๊มือผี ปาหี่จัดฉากกินส่วนต่าง โฉ่งฉ่างล้างโลก โจ๊ดประตูหลัง" จะหมดไปซักทีหนอ

 

สุดยอดครับคุณจอนนี่ คราวนี้จะได้รู้ว่าใครจริงใครปลอม

 

ขอบคุณมากมายในทุกๆสิ่งครับ

ความจริงผมไม่มีพระสมเด็จวัดพระแก้วและวัดพระธาตุพนมเลยซักองค์
เห็นสวยดี และราคาพอหาได้ กำลังจะเช่า พออ่านประวัติเห็นอ้างถึงในวังก็เลยลองตามประวัติศาสตร์ดู
"นิยายขายพระ" ไม่มันเข้ากับประวัติศาสตร์ ก็เลยลองเอามาลงให้ พสมช ได้ลองอ่านและช่วยกันวิเคราะห์ดู เผื่อมีประโยชน์ต่อท่านอื่น

ครั้งแรกก็ลังเลอยู่เหมือนกันครับ ด้วยว่า ผมดูพระไม่เป็น แต่ก็ลองเสี่ยงเอาลงลองดู
3-4 วันแรก ก็แหยงๆอยู่เหมือนกัน เพราะยังไม่มี พสมช เข้ามาร่วมให้ความคิดเห็น

ถึงวันนี้ ใจชื้นขึ้นเยอะครับ
แต่จนป่านนี้ ผมก็ยังดูพระไม่เป็น(กำลังหัดดูพระหลวงพ่อคูณ เพราะผมอยู่ขอนแก่น ทำงานที่ชัยภูมิ) เพราะไม่มีพระแท้ให้ดูให้ศึกษาครับ ได้แต่หาดูรูปในเน็ต ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแท้หรือปลอม

ขอบคุณอีกครั้งครับ

 

เริ่มต้นน้องใหม่อย่างผมต้องขออภัยก่อนนะครับ
ในข้อที่ว่าพระกรุวังหน้า มีจริงหรือไม่ ผมไม่ทราบ(เกิดไม่ทันเหตุการณ์ด้วยซิ)

แต่ผมได้ฟังเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับกระทู้นี้เรื่อง สมเด็จวังหน้า

อ่านดูแล้วโปรดใช้พิจารณาเอาเทอน
เพื่อนของพี่ชายผมเล่าให้ผมฟังดังนี้ พี่ชายรู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งพ่อของเขาเป็นลูกชายของข้าราชการผู้ดูแลวังหน้า(ผมจำชื่อพ่อเขาไม่ได้ครบแต่มียศเจ้าพระยาฯ) เขาเล่าให้พี่ชายผมฟังว่าไม่ว่ามีการเปิดกรุที่ใดเขาจะนำพระมาเก็บไว้ที่วังหน้าทั้งนั้น รวมถึงกรุวัดเกศไชโยด้วย เรื่องพระสมเด็จไม่ต้องพูดถึงเยอะมากๆๆๆ หากวังหลัง วังหน้า หรือในวังจะทำพระครั้งใดต้องนำมาทำหรือเก็บที่วังหน้าตลอด รวมถึงสมเด็จวัดพระแก้วด้วย และมีทุกพิมพ์ ที่สำคัญมีเบญจพาคีเนื้อทองคำก็มากด้วย และยังมีพระเบญจพาคีเนื้อทองคำแบบพิเศษที่ใหญ่เป็นเมตรด้วย(เขาเล่าให้ฟังนะ) มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ฟ้าผ่าที่วังหน้าทำให้ไฟไหม้ หลังจากนั้นมีการย้ายที่ตั้งใหม่ ส่วนพระสมเด็จไม่ค่อยมีใครสนใจจะเอาไปไหนก็เอาไปเพื่อนพี่ผมเขาอยู่และเล่นกับพระเครื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วตอนนั้นยังไม่ได้มีมูลค่าอะไรเลยแต่พี่เขาก็เก็บไปไว้ที่บ้านเขา พี่บอกผมว่าเขามีเป็นรถกระบะเลย

และเพื่อนพี่บอกว่าสมเด็จวัดพระแก้วนั้นมีจริงจะลงรักปิดทอง ทองคำที่ปิดต้องเก่า(ตากุ้งแห้ง)

ท่านคงหาว่าผมโม้ตามเขา หรือโดนเขาหลอกละซิ คนมีพระสมเด็จปล่อยองค์เดียวรวยเป็นล้านๆๆๆแล้ว พี่ผมบอกว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่มาขอเช่าเยอะมากแต่เขาก็ไม่ให้เลย หากเขาจะให้เขาก็ให้เปล่าๆไม่คิดตังค์ ซึ่งพี่ชายผมก็ได้มาหนึ่งองค์เป็นสมเด็จเกศไชโยเจ็ดชั้นพิมพ์นิยม เนื้อปูนเปลือกหอยองค์นี้บางกว่าพระในตลาดมากน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง กลิ่นหอมมวลสารมาก

สรุปโดยส่วนตัวผม ผมว่าสมเด็จวัดพระแก้วหรือสมเด็จวังหน้านั้นมีจริง แต่ไม่น่าจะเป็นพระกรุที่นั้นน่าจะเป็นพระเก็บมาจากการเปิดกรุมากกว่า

 

ครับ คุณจอนนี่เยี่ยมยอดมากครับ ตอนเปิดกรุไม่รู้ตอนไหน รู้แต่ว่าตอนบูรณะวัดพระแก้ว ไม่มีพระเครื่องอยู่แน่นอน หากมีเยอะอย่างทุกวันนี้ หลังคาวัดพระแก้วคงพังลงมาก่อนที่จะบูรณะแน่นอน อีกอย่างมีคนอยู่ในเหตุการณ์คือพี่ศุภฤกษ์ ซึ่งตอนนี้กลับจากอเมริกา มาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว มีตัวตนจริง ๆ ไม่โมเม มีข้อมูลและหลักฐานขนาดนี้แล้ว ยังมีคนหลงเชื่ออีก ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ คงได้แต่มองดูพวกท่านเฉย ๆ ครับ แค่สมเด็จหลัง ร.๕ มีหนวด พ.ศ.2411 ก็มีหลักฐานมาให้เห็นแล้วว่าไม่มีจริง เป็นไปไม่ได้ เพราะสมัยนั้นยังไม่ได้ใช้ พ.ศ.ด้วยซ้ำ แค่นี้ไม่เชื่อก็ไม่รู้จะเรียกพวกท่านว่าอะไรแล้ว

 

หากจะให้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
สำหรับผม ก็คิดว่า พระวังหน้า มีจริง เพราะ วังหน้า ก็คือ ทัพหน้า เมื่อเวลาทำศึกสงคราม ดังนั้น เวลาออกรบ เหล่าทหาร จึงน่าจะมีเครื่องรางของขลัง หรือ พระเครื่อง พกติดตัวยามออกรบ และเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ ก็เก่งกล้าด้านคาถาอาคม​

สมัยรัชกาลที่ 1 ต้องทำสงครามใหญ่กับพม่า เพื่อแย่งดินแดนยึดครอง โดยรัชกาลที่ 1(ทองด้วง) เป็นทัพหลวง และ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล(สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท-บุญมา-ราชอนุชา พ.ศ.2325-2346 และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร กรมพระราชวังบวรสถานมงคล-ราชโอรส ) เป็นทัพหน้าและรัชทายาท

สมัยรัชกาลที่ 2 ช่วงนี้พม่าถูกอังกฤษรุกราน จึงไม่ค่อยมีสงคราม มีแต่การก่อกบถภายใน และการต่อต้านขบวนล่าอาณานิคม แต่ก็โปรดให้สมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ ดำรงตำแหน่งกรมพระวังบวรสถานมงคล (ทัพหน้าและรัชทายาท)

สมัยรัชกาลที่ 3 พม่าตกเป็นของอังกฤษโดยสิ้นเชิง แต่ก่อนจะตกเป็นของอังกฤษ พม่าก็ทำสงครามแย่งดินแดนจากไทย(แสนหวี เมืองพง และเชียงตุง) และสงครามเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ และไทยต้องเสียดินแดนบางส่วนให้อังกฤษ
และโปรดให้กรมหมื่นศักดิพลเสพ เป็น สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ ดำรงตำแหน่งกรมพระวังบวรสถานมงคล (ทัพหน้าและรัชทายาท)

สมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มเปิดประเทศ ไทยเสียดินแดนสิบสองปันนาให้จีน เพราะรบแพ้ และเสียบางส่วนให้ฝรั่งเศส ในรัชสมัยนี้ ไม่สถาปนากรมพระราชวังบวร แต่ทรงสถาปนาให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ 2 และเมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สวรรคต ก็ไม่สถาปนากรมพระราชวังบวรอีกเพราะทรงเกรงว่าจะเกิดการแย่งชิงราชบัลลังก์กันกับราชโอรส

สมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ. 2411-2415 (สมเด็จโต ถึงชีพิตักษัย) สยามไม่มีสงคราม แต่ก็มีการสถาปนากรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เป็นกรมพระราชวังบวร (สถาปนาปี พ.ศ.2411 ก่อนที่พระองค์จะมีอำนาจโดยแท้จริง ทำให้พระองค์ทรงมีความรู้สึกอึดอัดเดียวดาย เมื่อพระองค์ทำพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 มีอำนาจการบริหาร จึงทำให้เกิดวิกฤตการณ์วังหน้าขึ้น)

ก่อนออกสงคราม เหล่าทหารคงใช้ "เครื่องรางของขลัง และ พระเครื่อง" พกติดตัวออกไป(สำหรับคิดว่าใช้ป้องกันให้แคล้วคลาด) แล้วหลังจากกลับจากสงคราม คงนำพระเครื่องและเครื่องรางของขลังต่างๆกลับมารวมกับพระเครื่องที่แจกจ่ายไม่หมด เอาไปเก็บไว้ในวัด โดยอาจรวมกันเก็บไว้ในที่ใดที่หนึ่ง ของวัดใดวัดหนึ่ง หรือหลายๆวัด

แต่...
พระเครื่องที่ผมตีว่า "ปลอม" และ "น่าจะปลอม" ตามกระทู้นี้
คือ พระเครื่อง(ส่วนมากเป็นพระสมเด็จ) ที่นักหลอกขายพระ ตีว่า เป็นพระที่แตกกรุออกมาจากวัดพระแก้ว วัดพระแก้ววังหน้า และ วัดพระธาตุพนม
ตามนิยายที่นักขายพระแต่งขึ้น เท่านั้น​

สรุปคือ
1.นิยายขายพระ ไม่ใช่เรื่องเกิดขึ้นจริง หากพระสมเด็จตามกระทู้นี้ ตีว่าเป็นพระแตกกรุออกมาตามในนิยายขายพระและทันสมเด็จโต คือ พระปลอม
2. หากพระสมเด็จตามกระทู้ หาที่มาที่ไปได้ อาจจะเป็นพระแท้ แต่สร้างในภายหลังและไม่ทันสมเด็จโต แน่นอน
3. พระวัดพระแก้ววังหน้า น่าจะมีจริง แต่ไม่ใช่ พระสมเด็จตามกระทู้นี้แน่นอนครับ

ด้วยความขอบคุณที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ๆ

 

พิจารณาคำให้การของคุณมืดบอดแล้ว ท่านยังให้ข้อมูลสนับสนุนว่าสมเด็จวัดแก้วเป็นของแท้นั้นยังไม่แน่นพอ อย่างน้อยคุณต้องหาพยานวัตถุ เช่น บันทึกเก่าที่สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้จริง และต้องมีภาพถ่าย และบันทึกต่าง ๆ ในการขนย้าย เช่น บันทึกการตรวจรับ ฯ เพราะของแบบนี้ถ้ามีการขนย้ายจริง ต้องมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานมีคนตรวจมีคนรับแน่นอน เอามายืนยันเลยครับ ถ้าท่านไม่มีหลักฐานมายืนยัน คำให้การนั้นยังเชื่อถือมิได้

 

คุณโอกระบี่ครับ ผมยอมรับว่าผมนี้ตัวน้อย มิบังอาจที่จะไปสืบค้นถึงการภายในราชวังเช่นนั้นได้เลย มีแต่เพียงผู้ที่ยังให้การได้เท่านั้น ทั้งในที่นี้คงไม่สำคัญถึงขนาดต้องนำพยานหลักฐานมาแสดงโดยแจ้งชัดดอก เพราะที่ผมได้บอกไปนั้นผมก็ไม่ได้เห็นประจักษ์กับตาตนเอง แต่ที่ผมเห็นคือ พระสมเด็จเกศไชโยที่เขาให้พี่ผมมาเท่านั้นเป็นพระแท้โดยไม่ต้องเสียตังค์แม้แต่บาทเดียวแค่ชอบใจกันก็พอและเขาบอกพี่ว่า รอให้เกิดปฏิหารก่อนแล้วค่อยเลี้ยมทองนะ(พี่เพิ่งได้มาประมาณสองสามเดือนได้กระมัง)
เดี๋ยวหากมีเวลาเข้า กทม.จะถ่ายรูปสมเด็จเกศไชโยองค์นั้นมาให้ดู
(สักวันเราคงได้รู้ ความลับไม่มีในโลก)

 

มั่วนะครับ

เพื่อนของญาติลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนของเพื่อนอีกทีของพี่ชายของพ่อของเพื่อนของลุงที่เป็นญาติของอากงที่สนิทกับอาม่าบ้านข้างๆ เป็นญาติสายเดียวกับ ทวดที่เป็นบ่าวคนสนิทของข้าราชการสายวังหน้าเคยให้พระสมเด็จวังหน้าผมมาองค์หนึ่ง หลังมีรัชกาลที่ห้าด้วย...

อะฮิๆ เชื่อผมไหมนี่

 

สมเด็จมีอายุ 140 ปี เป็นอย่างน้อย นับจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต สิ้นชีพิตักษัย ปี พ.ศ.2415 ตอนนี้ก็ 140 ปี เข้าไปแล้ว ถ้ามีกลิ่นหอม ก็จบกันล่ะครับ ไม่ต้องดูอย่างอื่น เก๊สนิท ผมพูดตามหลักวิชาการนะครับ ไม่ใช่เซียนอะไร ลูกอมผงยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วแท้ ๆ จะไม่มีกลิ่น และแห้งสนิทครับ ทั้ง ๆ ที่มีอายุน้อยกว่าพระสมเด็จเยอะครับ

 

สมเด็จมีอายุ 140 ปี เป็นอย่างน้อย นับจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต สิ้นชีพิตักษัย ปี พ.ศ.2415 ตอนนี้ก็ 140 ปี เข้าไปแล้ว ถ้ามีกลิ่นหอม ก็จบกันล่ะครับ ไม่ต้องดูอย่างอื่น เก๊สนิท ผมพูดตามหลักวิชาการนะครับ ไม่ใช่เซียนอะไร ลูกอมผงยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วแท้ ๆ จะไม่มีกลิ่น และแห้งสนิทครับ ทั้ง ๆ ที่มีอายุน้อยกว่าพระสมเด็จเยอะครับ

 

พอเข้าใจนะครับว่า โจ๊ค
จะให้หัวเราะ หรือ ร้องให้ ในการลำดับญาติ ดีครับ

 

สิ้นชีพิตักษัย เป้นราชาศัพท์ ใช้กับหม่อมเจ้า ไม่ใช้กับพระสงค์ครับ

และเพราะ สมเด็จโต ไม่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช เลยใช้คำว่าสิ้นพระชนม์ไม่ได้

เลยยังคงใช้คำว่า

มรณภาพ

อยู่ครับ

// มาแก้ให้ครับ ไม่ได้จับผิดหรือหาเรื่องแต่การใด