ผมโดนของป่าวครับ เรื่องเกิดเมื่อกี้ 28/11/2554

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย surer, 28 พฤศจิกายน 2011.

  1. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    พึ่งหลุดเมื่อเวลา 28/11/2554 เวลา 09.15
    ข้าพเจ้าขอสาบานว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง

    คือหลังจากที่ผมขายของตลาดเช้า ตืน ตี 4-5 นี้แหละครับ
    พออยู่ถึง 2 โมงกว่า ก็เลยจะขึ้นมานอน แต่ก่อนนอนก็แวะเล่นเว็บนี้
    เรื่องมันเกิดที่ว่า
    เอาพอจำได้นะครับ

    ผมฝันก่อนว่า ผมปวดท้องอย่างมากและมีอะไรวิ้งช่วงท้องซีกขวา
    ทีนี้มีผู้ชายคนหนึ่ง ผมจำลักษณะไม่ได้ เอาสร้อยพระถ้าผมจำไม่ผิด
    น่าจะมีตระกุดด้วย มาให้ แล้วผมก็รู้ได้ทันทีว่าควรเอามันมาไล่อะไร
    ที่อยู่ในตัว ลืมบอกตอนแรกผมปวดมาก แล้วผมเริ่มรู้ว่ากำลังฝัน
    ผมเลยสวดมนษ์ แผ่เมตรา ทำไงก็ไม่หาย เลยลองปล่อยวาง
    ปล่อยมันไปเพราะผมคิดว่าฝันไง ปลากฏว่า หนักกว่าเดิม
    จนมีคนเอาสร้อยมาให้และครับทีนี้ ผมก็เอาสร้อยไล่
    สิ่งที่อยู่ในตัว ตอนมันอยู่ตรงท้างก้อนเท่าหัวเข่า
    พ่อเอามาไล่ขึ่นบนมันกลายเป็นก้อนเล็กๆวิ้งตามผิวหนังแทน
    พอเป็นก้อนเล็กปั๊บ ผมตืนดิครับ ตืนแบบ ลืมตาแต่ตัวขยับไม่ได้
    แต่เหมือนกับว่า อธิบายยากนิดหนึ่ง คือ
    รู้ตัวแล้วว่าตื่น เหมือนกับจิตผมยังเคลือนได้ผมยังเอาสร้อยนั้น
    ไล่ลูกกลมๆขึนบนแต่จนมาถึงคอ ผมไม่กล้าไล่ออก กลัวว่า
    จะติดคอตาย ผมก็เอาสร้อยออกมันก็ลงไปแถวท้องอีก
    ผมก็ไล่มันขึ่นมาอีก เป็นประมาณ 6 รอบ
    จนรอบสุดท้าย ไล่ลูกกลมๆ แล้วหล่นลง ไหปลาร้า
    แล้วทีนี้ผมก็รู้สึกหูอื่อพอหูอื่อเสร็จ ก็ขยับตัวได้
    แล้วก็มาพิมพ์ให้อ่าน ผมควรทำไงดี
    หาทางออกให้ทีครับ
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ก็อย่างที่ พยายาม จะแนะนำให้แต่ต้น แล้วว่า หากจะเข้าทาง "พุทธ"
    ต้องพิจารณาให้ดี ต้องหมั่นปฏิบัติเพื่อทราบผล แทนการอาศัย "เชื่อ"

    เพราะว่า หากมาทางนี้แล้ว ยังเอา "เชื่อ" เข้านำทาง เข้าว่า ไม่นาน
    จะถูกผลิกไปสู่ลัทธิอย่างอื่น ไม่มีวันค้นพบ หรือ เจอ พุทธ ที่แท้จริง
    ที่มีแต่ สันติ ร่มเย็น (ภายใน, ทราบซึ้งด้วยใจ อันเกิดจาก สัมผัสได้
    ด้วย รู้จริงเห็นจริง--ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ )

    * * * *

    ยกตัวอย่าง กรณี คุณไสย

    คุณไสย นั้น จะเอาไว้ เล่นงาน หรือ ต้อนคนเข้าเล้า วงการคุณไสย โดยใช้ "เชื่อ"
    เป็นสื่อ

    เมื่อไหร่ที่มีความ "เชื่อ" "อาศัยเชื่อนำทาง" เมื่อนั้น คุณไสยจะมีอำนาจ

    แต่ ชาวพุทธที่แท้ เขาไม่ได้ อาศัยเชื่อ เขาอาศัย "สติ" "สัมปชัญญะ"
    บริบูรณ์เข้าพิจารณา ปฏิบัติตามจนเห็นผล แล้วจึงเกิดศรัทธา อันมีฐาน
    ของความ สงบ สันติ เป็นประจักษ์พยานว่า ไม่ได้ อาศัยเชื่อ หรือ ศรัทธา
    แบบลอยๆ แบบ ขาดปัญญา

    ชาวพุทธที่แท้ๆ ก็จะไม่ โดนคุณไสย ที่ยังโดนคุณไสยได้อยู่ ก็เพราะ
    แอบแบ่งใจให้กับ ลัทธิอื่น ศาสดาอื่น หรือยัง "อาศัยเชื่อ" นั่นเอง

    * * * *

    จะเห็นว่า การ "เชื่อ" จะต้อง นำไปพิจารณา และ เอาไปปฏิบัติ มีการสอน
    เรื่องการ "เชื่อ" จะต้องทำอย่างไร จึงจะเกิดปัญญา

    หากปฏิบัติถูกต้อง "เชื่อ" จะนำภัยมาสู่เราไม่ได้
     
  3. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ก็ผมเป็นพุทธนิครับ จะให้เข้าอะไรอีก โห ไม่จบซักทีเรื่องแบบนี้
    ผมเป็นทุกข์นะครับตอนนี้
     
  4. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    คุณ เล่าปัง ต่อไปนี้ ไม่ต้องตอบกระทู้ผมนะครับ
    ผมขอร้องละคนเครียดๆ ผิดมากหรอ ที่ผมไปเชื่อคริส
    ผิดมาใช่ป่าว คุณอย่าใจแคบดิครับ
    จริงใจไม่จริงใจ มันอยู่ที่ใจครับ ไม่ใช่การ บวช
    เรื่องบวช ของผมยังไม่ถึงเวลา ไม่ต้องมาบังคับอีกนะ
     
  5. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ตอนนี้ยังปวดท้องอยู่เลย
     
  6. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ตอนไปฝึกกสินนั้นถูกเปิดมโนวิญญาน คือเขาบอกคุณแต่ข้อดี แต่ไม่บอกผลข้างเคียงบางอย่าง คุณน่าจะอยู่ขอนแก่นนะครับ(ใช่หรือไม่) ลองสวดมนต์พระคาถาธารณปริตรครับ น่าจะดีขึ้น(แต่ยังไม่หายครับ) คุณต้องไปรดน้ำมนต์ครับ แถวบึงสีโครตมีสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งอยู่ติดบึง ท่านช่วยคุณได้ครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  7. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ตอนนี้ผมอยู่ ศรีเกษ ครับ พึ่งกลับจากขอนแก่น
    พอดีพ่อ ไม่สบายหนัก ช็อคแล้วอ๊วกครับ
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เดี๋ยว เรื่องบวช จะเห็นว่า ผมไม่ได้พูดแล้ว มีแต่ คุณที่ยังคิด และ พูดอยู่

    ซึ่งหากผมไม่ได้พูดแล้ว การยกเรื่อง บวช จึงเป็นเรื่องของ ศีล ที่ผิดปรกติของคุณเอง

    * * * *

    มาดูกันต่อ เรื่อง อาศัย "เชื่อ"

    นักมายากล เวลา เล่นกล เขาก็จะอาศัย ฝูงชน ที่เชื่อเรื่อง เล่นกล นั่นมี และให้
    ความสุข พูดง่ายๆว่า ผู้ชมส่วนใหญ่ พร้อมด้วยการเชื่อ แต่ปากอาจจะปฏิเสธ
    และทำเป็น รู้ว่าแสดงอย่างไร แต่ พอเขาเริ่มแสดง ก็ ตื่นตาตื่นใจ จับไม่ถูก งง
    ไปกับกลด้วย

    นักมายกล เขาก็ทราบ เรื่อง ผู้ชมนั้น ย่อมอาศัยเชื่อ ดังนั้น กลเม็ดเคล็ดลับส่วน
    ใหญ่จึงอยู่ที่ การวางหมากหลอก เพื่อเบนสายตา คนที่ อาศัยเชื่อ จะส่าย
    สายตา ทำให้เขามีเวลามากพอที่จะทำอีกอย่าง ณ จุดที่ สายตาผู้ชมไม่ได้จับ
    จ้อง เมื่อนั้น กลมันก็สำเร็จ ทั้งๆที่ การเปลี่ยนแปลง อาจจะใหญ่ และ ง่ายๆที่
    จะจับผิดได้ แต่ คนเราพร้อมไม่เห็น

    คุณไสยก็เช่นกัน ก็เริ่มจาก การอาศัยเชื่อ อาจจะไขว้ด้วยอาการเจ็บ หรือ ชี้น้ำ
    ว่า ตรงนั้นเจ็บ เสร็จแล้ว ก็เอา สิ่งหนึ่งมาลวงให้จับ แล้วทำให้รู้สึกว่าดี

    คนก็จะเชื่อในสิ่งที่ว่าดี รับเอามาในสิ่งนั้น โดยไม่รู้เลยว่า นั่นแหละ กำลังรับ
    คุณไสยเข้าตัว

    การเอื้อมมือไปรับ แม้ในฝัน หากรับเอาของเขามาแล้ว ไม่ว่าคนๆนั้นจะมาใน
    รูปแบบอะไร ก็ถือว่าเป็น ธรรมภายนอก

    หากไปรับอะไรมาจาก ธรรมภายนอก ไม่ได้มาจาก ข้างในตนเอง ก็จะตกสู่
    ข่ายวังวนของ คุณไสย ซึ่งมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป บางวงการก็เรียกว่า
    "ศาสนา" เพราะอาศัย มีผู้แสดงกลคนแรก มีสาวกผู้เชื่อ มีการละเล่น
    มาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน
     
  9. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ครับขอบคุณครับ เห่อ ไม่รู้จะทำไงดี เครียดมากเลย
     
  10. หวันเที่ยง

    หวันเที่ยง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +7
    <center>พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)</center></pre> <table width="90%" align="center" background="" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td>[​IMG]</td> </tr><tr><td vspace="0" hspace="0" width="100%" bgcolor="darkblue">[​IMG]</td></tr></tbody></table> <table height="50" width="600" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>
    [2] โยนิโสมนสิการ (การใช้ความคิดถูกวิธี คือ การกระทำในใจโดยแยบคาย มองสิ่งทั้งหลายด้วยความคิดพิจารณาสืบค้นถึงต้นเค้า สาวหาเหตุผลจนตลอดสายแยกแยะออกพิเคราะห์ดูด้วยปัญญาที่คิดเป็นระเบียบและโดย อุบายวิธีให้เห็นสิ่งนั้นๆ หรือปัญหานั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย - reasoned attention: systematic attention; analytical thinking; critical reflection; thinking in terms of specific conditionality; thinking by way of causal relations or by way of problem-solving) และเป็น ฝ่ายปัญญา (a factor belonging to the category of insight or wisdom)
    “ภิกษุทั้งหลาย เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่ ย่อมมีแสงอรุณขึ้นมาก่อน เป็นบุพนิมิต ฉันใด ความถึงพร้อมด้วยโยนิโสมนสิการ ก็เป็นตัวนำ เป็นบุพนิมิต แห่งการเกิดขึ้นของอารยอัษฎางคิกมรรค แก่ภิกษุ ฉันนั้น”
    “เราไม่เล็งเห็นองค์ประกอบภายในอื่นแม้สักอย่างเดียว ที่มีประโยชน์มากสำหรับภิกษุผู้เป็นเสขะ เหมือนโยนิโสมนสิการ ภิกษุผู้มีโยนิโสมนสิการ ย่อมกำจัดอกุศลได้ และย่อมยังกุศลให้เกิดขึ้น”
    “เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่น แม้สักข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้สัมมาทิฏฐิที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เจริญยิ่งขึ้น เหมือนโยนิโสมนสิการเลย”
    “เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่น แม้สักข้อหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ความสงสัยที่ยังไม่เกิด ก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ถูกขจัดเสียได้ เหมือนโยนิโสมนสิการเลย”
    “โยนิโสมนสิการ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่, เพื่อความดำรงมั่นไม่เสื่อมสูญ ไม่อันตรธานแห่งสัทธรรม” ฯลฯ
    ธรรมข้ออื่น ที่ได้รับยกย่องคล้ายกับโยนิโสมนสิการนี้ ในบางแง่ ได้แก่ อัปปมาทะ (ความไม่ประมาท - earnestness; diligence), วิริยารัมภะ (การปรารภความเพียร, ทำความเพียรมุ่งมั่น - instigation of energy; energetic effort), อัปปิจฉตา (ความมักน้อย, ไม่เห็นแก่ได้ - fewness of wishes; paucity of selfish desire), สันตุฏฐี (ความสันโดษ - contentment), สัมปชัญญะ (ความรู้ตัว, สำนึกตระหนักชัดด้วยปัญญา - awareness; full comprehension); กุสลธัมมานุโยค (การหมั่นประกอบกุศลธรรม - pursuit of virtue); ฉันทสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งฉันทะ - possession of will), อัตตสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งตนคือมีจิตใจซึ่งพัฒนาเต็มที่แล้ว - self-possession; self-realization), ทิฏฐิสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งทิฏฐิ - possession of right view), และ อัปปมาทสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งอัปปมาทะ - possession of earnestness)

    <table class="ref" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td width="50%">S.V.2-30;
    A.I.11-31;
    It.9. </td><td>สํ.ม. 19/136-137/34, 154-155/41
    องฺ.เอก. 20/68/15, 124/24;
    ขุ.อิติ. 25/194/236</td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table>
    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
    http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=2
     
  11. จักรราศี

    จักรราศี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,086
    ตกลงฝันเหรอครับ

    งง
     
  12. จักรราศี

    จักรราศี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,086
    ไม่เชื่อ ก็โดนได้ครับ

    อย่าว่าแต่ไม่เชื่อ คนไม่เคยรู้จักเลยว่าคุณไสยคืออะไร เพราะฉะนั้น เรื่องความเชื่อ ไม่มีแน่นอน

    ยังโดนได้เลย

    เยอะแยะ
     
  13. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ตอนแรกฝันก่อน ทีนี้ตื่นแต่ตัวแข็ง ขยับแต่จิตได้ครับ
    ไล่ไปไล่มา ลูกกลมๆ ในตัว ไหลลงไห้ปลาร้า
    แล้วหูก็อื่อ แล้วก็หลุด แบบว่าขยับตัวได้
    แต่ตอนนี้มีอาการปวดท้องครับ
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ใช่ ที่พูดว่า ไม่เชื่อก็โดนได้ อย่าง พระโมคัลลานะ เป็นเลิศด้านฤทิธิ์ หรือ
    คุณไสย ก็แล้วแต่จะเรียก ท่านก็ โดน มารเข้ามาแอบอยู่ในท้อง

    ท้องท่านปวดไหม ก็ต้องปวด มารมันเข้ามาเล่น มาทำอะไรของมัน เรียกว่า
    ต่อให้เป็น เอทัคคะทางฤทธิ์ของชาวพุทธ ก็โดน คุณไสยเล่นได้

    และ ถ้าจำไม่ผิด ต่อให้ เอทัคคะด้านปัญญา ก็โดน มารเล่น ได้ หรือ
    โดนคุณไสยได้

    แต่ ทำไม ชาวพุทธถึง พูดได้เต็มปากว่า ไม่โดนคุณไสย พ้นจากคุณไสย
    สิ้นเชิง ทั้งๆที่ มันก็อยู่ในท้องนะ แต่ ทำไม ชาวพุทธแท้ๆ ถึงได้ พูดได้
    เต็มปากว่า ไม่โดนคุณไสย

    ตรงนี้ ก็ขึ้นกับ โยนิโสมนสิการ ความไม่ประมาท และ กัลยาณมิตร ที่ดี
    เท่านั้นแหละ ที่จะพาเห็น พาเข้าใจ ว่าทำไม พระท่านถึง ปรารภว่า พ้น

    ทำไม ท่านถึงไม่เครียด.......

    น่าสนใจดีนะ

    ดังนั้น ปฏิบัติเข้ามาแล้ว ก็หมั่นสดับธรรม ฟังให้แยบคาย เข้าหากัลยาณมิตร
    ที่ดีที่สุด(มรรค8) และ ท้ายที่สุดก็ยังต้อง ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
     
  15. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ผมก็ไม่รู้นะว่าโดนของป่าว
    แต่ว่าผมอยู่ศรีสะเกษเรื่องพวกนี้ มีเยอะมากเลยละครับ
    ทั้งปอบ ทั้งเปรต ที่มีให้เห็นชัดๆ ก็ปอบเข้าคนนี้แหละครับ
    เข้าทีต้องพาไปวัด ไม่งันตายแน่
     
  16. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อันนี้ ปรารภส่วนตัวกับ จขกท นิดนึง

    ต้อง ปรารภ เพื่อให้ จขกท ท่านได้พิจารณา รักษาประโยชน์ของตน

    สมมติว่า การศรัทธาอะไรก็ตาม อันนั้นมันจะเป็นประโยชน์ ก็ต้องเข้าใจ
    และปฏิบัติให้ถูก

    คุณศรัทธาอะไรก็ตามแต่ เวลา มาเจอชาวพุทธแท้ๆ เจอพระแท้ๆ ท่านจะ
    มีวาจาไม่นับถือศาสดาอื่น อันนี้ คุณพึงพิจารณาไว้ พระที่คุณนับถือมาก
    ท่านนั้น ผมก็เชื่อแน่ว่า ท่านจะไม่ นับถือศาสดาอื่น ดังนั้น หากวันไหน
    คุณจะไปหาพระ เพื่อรับประโยชน์ เกิดไปเจอคำสอนท่าน ที่ท่านจะพูดให้
    เลิกถือศาสดาอื่น หรือ เลิกถือมั่นศาสดาไหนๆ คุณก็ต้องสำรวมไว้

    ต้องระวังไว้ ถึง ความคลอนแคลนของจิตคุณเอง ที่ไม่ศรัทธามั่นในศาสดาอื่น

    พอเจอผัสสะกระทบ แล้ว ใจคุณสั่นไหว คลอนแคลนสงสัยในศาสดานั้นๆในใจคุณ

    คุณต้องเข้าใจว่า มันเกิดจาก ใจที่คุณคลอนแคลงเอง ไม่ใช่ไป โทษว่า คนอื่น
    พูดจนทำให้คุณ "คลอนแคลน"

    คุณต้องมี จิตตั้งมั่น เป็นกลาง ต่อการเห็น ศรัทธาที่คลอนแคลนไปมา ไม่สามารถ
    ตั้งได้จริง ของคุณเอง ว่ามันมีอยู่ และ เป็นอยู่ เป็นก่อนหน้าอยู่แล้ว

    เพราะ หากจิตคุณไม่คลอนแคลน ไม่แอบปรามาสศาสดานั้นๆในใจคุณไว้ก่อนอยู่แล้ว

    ไม่มีทางหรอกที่ใครจะไปโยกให้สิ่งที่คุณถือ นั้นสั่นคลอนได้

    ดังนั้น หากสิ่งนั้น ศรัทธานั้น จะสั่นคลอน พึงทราบว่า ใจคุณสั่นคลอนอยู่ก่อนแล้ว

    ใจคุณไม่ตั้งมั่น ไม่เป็นกลาง ไม่หนักแน่น อยู่ก่อนแล้ว

    จึงไม่ควรไปโทษใคร ว่า มาพูดจา ทำให้เราสั่นคลอน มันเป็นไปไม่ได้ จริงไหม

    หากมันจะเป็นไปได้ ก็นะ คุณย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า ใจคุณสั่นไหวเอง รู้ลงไป ดูลงไป

    จนกว่า ศรัทธาในศาสดานั้นๆ จะเป็น ที่พึ่งได้จริง ก็จะไม่เกิดการสั่นไหวอีกเลย
     
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ทีนี้ ธรรมดาของขัตยมานะ ผู้นำสูงสุด เขาจะพึงใจ ชอบใจไหม หาก
    สาวกของตน มี ศรัทธาให้กับ ผู้นำสูงสุดคนอื่น

    เหมือน คุณเป็น สามี มี ภรรยา มี นางกำนัน คอยป้อนอาหารให้กิน
    หาน้ำให้ดื่ม จัดการบ่อน้ำให้สะอาดปราศจากพิษ มีเหล่าทาส และบริวาร
    มากมาย คอยบรวงสรวงสิ่งที่มีแต่คุณใสๆ ไม่ใช่ คุณไสยๆ ให้

    แล้ววันหนึ่ง คุณไปพบว่า มีนายทาสี นางทาสา ตนหนึ่ง แอบมี ศรัทธา
    ให้กับ ผู้นำสูงสุดคนอื่น

    คุณใน ฐานะ สามี จะพึง วางใจ ในคนๆนั้นอีกไหม ว่า เขาจะ บรวงสรวง
    สิ่งใสๆให้ ไม่ใช่บรวงสรวงแต่เป็นพริกกับเกลือ เล่นให้แสบท้องอยู่

    ในฐานะ สามี เจ้าผู้ครอง คุณ จะลงโทษ คนที่มี ศรัทธาเป็นอื่นอย่างไร จึงจะสาสม

    หากจับไม่ได้ คั้นไม่ตาย ไหลไปเรื่อย อ้างคุณความดี ให้ คุณต้องยอมน้อมรับ

    ก็ไม่แน่ พอจับไม่ได้ คั้นไม่ตาย ก็เลยต้อง อาศัย หาพริกหาเกลือกให้กิน ให้มัน
    สาสมกันไปวันๆ เหมือน เด็กๆ หยอกแกมข่ม



    แต่ หากไปเจอ ผู้นำ สามี ที่ไม่ดีแบบคุณนะ โอย... ไม่รู้จะเจออะไร ....เนาะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2011
  18. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ผมก็ไม่เคยว่าใครนิ พูดจา ทำให้เราสั่นคลอน นิครับ
    ส่วนพระที่ท่านว่าอาจจะหมายถึงหลวงพ่อเกษมสินะ
    จริงๆแล้วผมก็นับถือหลวงพ่อนะแต่ก็อย่างว่าแหละ
    ไม่ได้ถือว่าที่สุด ผมไม่มีหลวงพ่อที่นับถือที่สุดหรอก
    ผมนับถือหลายท่านนะ หลวงปู่เพ็ง อยู่ศรีเกษ ผมก็นับถือท่าน
    ไม่ใช่ว่าผมนับถือแต่หลวงพ่อเกษม
    อีกอย่างผมเลือกที่จะมองคำสอนดีๆครับ ถ้าท่านบอกให้ผมเลิกนับถือศาสนา
    ผมก็ไม่เลิกหรอก ทุกอย่างอยู่ที่ตัวผม อีกอย่างผมยังไม่เคยเจอท่านเลย
    หลวงพ่อเกษมอะ เคยดูแต่ในคลิบ ส่วนท่านเล่าปังควรจบเรื่องเหยียดศาสนาได้
    แล้วนะครับ อย่างที่ผมบอก ถ้าคิดว่าผมไม่จริงใจก็ไม่ต้องเสวนาได้
    ท่านเลือกที่จะคุยได้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2011
  19. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    พระพุทธเจ้าใจกว้างพอครับ ท่านไม่เหยียดศาสนาหรอก
     
  20. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ใครบอกหละว่า ต้องเจอตัวเป็นๆ

    ในทาง จิต แค่ ส่งใจไป เขาก็รับกันได้แล้ว

    ทีนี้ คนรับนั้น จริงๆหรือไม่จริง ใช่หรือไม่ใช่ ตรงหรือไม่ตรง ก็ไม่รู้

    การสื่อสารมันขัดข้องได้ สารส่งไปแล้ว จิตส่งออกนอกไปแล้ว คนรับสาร
    คนแปลงสาร อาจจะเป็นใครก็ได้

    ทีนี้ คนรับสาร สมมติว่า เขาเลี้ยงผี เลี้ยงเทวดา เอาไว้เยอะ ผี แล เทวดา
    ที่ได้รับบุญ โอนเข้า โอนออกอยู่ มาเห็น คุณทำตาแวววาวใสๆ ว่า นับถือ

    แต่อีกส่วนหนึ่งก็พูดว่า ไม่หมดใจ แอบแบ่งให้ศาสดาอื่น

    คนรับสารหากดี หากตรง หากใช่ ก็ เรื่องหนึ่งนะ

    แต่ ระหว่างทางคนรับสาร เป็นเทวดา เป็นผี เป็นสาง สัพเพเพระเลยนะ
    เขาก็นับถือของเขา ก็เหมือนคุรออกปากนับถือนั้นแหละ แล้วสมมติว่า
    ผี เทวดา สาง เขาไม่ได้ ดีอย่างคุณ แต่ มาเห็นคุณทำตาแป๋วๆ พุด
    ถึงคนที่เคารพ แต่ ใจไม่บริสุทธิ แอบปันใจไว้ด้วย เขาเห็นแล้ว เขาจะ
    ทำอะไรคุณอย่างไรหละ

    ดังนั้น ทุกข์ มันเกิดจาก ตัวเอง ที่ส่งจิตออกนอก เอาไว้ นั้นแหละ
    ก่อเอาไว้เอง ไม่ใช่ไปโทษใคร


    สัปปายะบุคคล กัลยาณมิตร ที่ดี ต้องหาให้เจอนะ เจอ ส่งจิตออกนอก
    ก็ยังพอทำเนา ไม่เสียหาย แต่ ก็นะ เทวดาที่รายล้อม มันก็ไม่แน่ไม่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...