ภัยพิบัติและความเลวร้ายต่างๆจะหยุดเมื่อคนทั่วไปรู้ความจริงของสวรรค์ พระศรีอารย์

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็น.... คำตอบง่ายง่าย ที่จะนำมา ซึ่งการรู้แจ้ง ไม่มีตัวกูของกู การทำงานเพื่อเป้าหมายสูงสุด ไม่อยากให้ใครติดกับดักอยู่ที่นี่ ไม่มีความสุขแท้แม้อยู่ในวิมาน
ใช่แต่ว่าเอาตัวรอด เมื่อมองเห็นเขาก็จักมองเห็นตัวเอง จึงทิ้งกันไม่ได้ จิตแท้บริสุทธิ์ดังดวงหนึ่ง ทุกชีวิตมีสิทธิ์ ความเสมอภาคและเท่าเทียม คำว่าเพื่อนทุกข์ หายถึงมิตร แต่มิตร ในความหมาย คือความเท่า ปราศจาก ยศ ชั้นอำนาจ

 

เพราะมืดจึงสว่าง และสว่างจึงมีเงา นั่นเพราะเรามีกันและกัน.. เพื่อนรัก

 

ตอบท่าน วสุธรรม ท่านเข้าใจถูกแล้วครับ
ปัจจัตตัง เสมือนเชื่อมต่ออย่างไร้ขอบเขต คล้ายอินเตอร์เน็ต เมื่อเชื่อมต่อ จึงรู้
นิทานอิสป ไม่ได้ให้จดจำ สัตว์ที่พูดได้
ความหมาย สื่อความเข้าใจในเรื่องราวต่างหาก ที่จับต้องไม่ได้ ไม่มองเห็น
เราโตเกินเด็กแล้ว ให้อ่านอิสป อย่างที่เป็น มิได้อ่าน อย่างที่เห็น
ขออภัย ในการสื่อข้อความนะครับ อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย ขอบคุณมากครับ ที่ เข้ามาอ่าน และได้มีประกายเล็กๆเกิดขึ้นแล้ว

 

หรือว่า ... จะเป็นเราจริง ๆ ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่เลย

 

ท่านwacaholic เคยเห็นหลุมขาวและหลุมดำ หมุนด้วยกัน แต่อยู่คนละแห่งไหม

 

เคยในอดีตครับ แต่ขณะนี้ผมได้เลิกมองหลุมทั้งสองนั้นว่าเป็นสีไปแล้วครับ

 

ขอบคุณมาก เท่านี้ท่านก็มองเห็นตัวท่านที่อยู่ในสรรพสิ่งแล้ว ดีใจด้วยนะครับ ไม่ต้องรอให้ตายก็สัมผัสได้ หวังว่าคงจะช่วยท่านอื่นๆได้ต่อไป

 

เพื่อชำระบาป "เมืองกรุงเทพฯ" จึงถูกสร้างใหม่ขึ้นถึง 2 ครั้ง!


แต่เดิมที จ. กรุงเทพฯ ถูกเรียกว่า "อโยธยา" มาจนถึงรัชกาลที่ 3
แต่เพราะ ร.4 ศึกษาธรรมมากและเรียนรู้โหราศาสตร์หยั่งอนาคต
จึงทราบว่าจะเกิดภัยแก่เมืองกรุงเทพฯ เพราะบาปกรรมที่ทำไว้กับ
พระเจ้าตากสิน ท่านจึงแก้ไขและชำระสะสาง ด้วยการกระทำดังนี้


1. ตั้งชื่อเมืองใหม่ว่า "สยาม" ถือว่า "กำเนิดเมืองใหม่"
2. ตั้งเสาหลักเมืองใหม่ ซ้อนของเก่า (เอาของเก่าออกไม่ได้)
3. ตั้งกษัตริย์องค์ที่สอง (พระปกเกล้าฯ) เพื่อร่วมบารมีเป็นพระอินทร์กับพระวิษณุกรรม
4. เคลียร์กรรมกับ "นายช่วง บุนนาค" ซึ่งเป็นภาคหนึ่งของพระเจ้าตากที่จะมา "เอาคืน"


ทุกอย่างที่ทำไป ไม่ใช่ทำเอาหน้าหรือโชว์ใครว่าทำได้ในสิ่งที่ไม่มีใครทำ แต่ล้วนมีเหตุผล
จำเป็นและสำคัญมาก เพื่อ "อนาคตของลูกหลาน" ทั้งสิ้น ทว่า กรรมนี้ไม่จบด้วยการเจรจา
แม้เจรจากับภาคแบ่งของพระเจ้าตากสินได้ ทว่า กรรมที่ทำไว้ค้างชำระ อย่างไรก็หนีไม่พ้น
สุดท้ายวาระกรรมมาถึงอีกรอบในสมัย ร.8 พรเจ้าตากแบ่งภาคมาเป็น "ปรีดี พนมยงค์" ที่
เข้าร่วมกับคณะราษฏร์เปลี่ยนการปกครองของไทย และถูกอีกภาคหนึ่งของ... ที่มาเปลี่ยน
ประเทศสยามให้เป็น "ไทย" อีกคครั้งหนึ่ง ทว่า แม้กรุงเทพฯ จะถูก "สร้างใหม่" ซ้อนทับที่
เดิมถึง 2 ครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สามารถชำระสะสางกรรมเก่าได้หมด ดังนั้น ภัยพิบัติจึงมาเยือน

 

วะว้าววๆๆๆ พระเจ้าตากสินแยกร่างแบ่งร่างได้ด้วยหรอฮ้าฟฟ สุโค่ยยย
ภาค 1 >> นายช่วง บุนนาค
ภาค 2 >> ปรีดี พนมยงค์
ภาค 3 >> เป็นใครอะครัฟ ?
แล้วจะมีอีกกี่ภาคครับ

 

สวัสดีครับคุณ wawa ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับอิอิ

 

เรื่องของกรุงเทพ ก็คือกรุงเทพ ภัยพิบัติมันจะมา แต่ไม่ใช่แค่กรุงเทพที่หายนิ

หลายสิบจังหวัดก็หายตามไปเหมือนกัน

ปีนี้น้ำท่วม ถ้าระบายลงสู่ทะเลแล้ว มันก็พอประทังให้พ้นไปได้

ปีหน้าท่วมอีก ถัดไปท่วมอีก น้ำลงทะล เมื่อทะเลหอบอุ้มน้ำไม่ไหว

มันก็ตีย้อนมาที่บนฝั่ง กรุงเทพ มาถึง น่าจะราว ๆ พิษณุโลก อุตรดิตถ์

ฉะนั้น กรุงเทพจะทำยังไง มันก็ต้องจม

ห่วงก็แต่ในหลวง อยู่ที่ศิริราช

 

เท่าที่รู้สึกได้ นะครับ นี่แค่ เป็นการเริ่มต้น เท่านั้นเองครับ
เพราะ เมื่อ เพลง พระยาโศก (พระยาธรรมมิกราชโศก) ได้เริ่มบรรเลงขึ้นแล้ว มันก็ต้องมี บทเพลงและท่วงทำนอง ที่ ยาวอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะว่า การชำระสะสาง ที่เกิดจาก การที่ เทพเทวดาทั้งหลาย ได้พากัน ยกขบวนทัพลงมาเพื่อ ปกป้อง สืบสานต่ออายุของพระศาสนานั้น เป็นสิ่งที่ นำพามาด้วยก็คือ ความดี บุญ บารมี ทั้งหลาย ซึ่งมันก็คือ พลังงานที่ดี เพื่อ มาชำระสะสาง พลังงานที่ไม่ดี ที่มีอยู่ในใจคนทั้งหลายนั่นเอง
มันเป็น สิ่งที่ หลีกเลี่ยงมิได้ จำต้อง ยอมรับ สภาพครับ เพราะพลังงานดี บุญบารมีของเหล่าเทพเทวดา ย่อมต้อง อยู่ร่วมกับ จิตใจที่ตกต่ำ ของเหล่ามนุษย์ที่หลงอยู่ในโลกที่ชั่วไม่ได้ ฉันใด การที่ต้อง อยู่ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงต้อง หลีกเลี่ยงมิได้
แล้วยุคนี้ หลังกึ่งพุทธกาล 2500 ปี 1250 ปี ต่อจากนี้ เป็นหน้าที่ของเหล่าเทพเทวดาทั้งหลาย ที่ต้อง ลงมาเพื่อ ดูแลปกป้อง รักษาพระศาสนา ตามหน้าที่ ก็ ต้อง ปล่อยให้มันเป็นไป ตาม กรรมครับ

วาระนี้เป็นวาระหน้าที่ของเหล่าเทพเทวดา เขาน่ะครับ ต้องยอมให้ครับ

 

รักษาศีล ๕ ก็จะปลอดภัยขึ้น แม้จะเดือดร้อนบ้าง หรือถ้าต้องตายก็ไปดีเกือบจะแน่นอนจ้า