"สมบัติพ่อให้" เฉพาะในส่วนของ "วัตถุมงคล"

สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 2 ที่บูชาที่บ้านสายลม ปี 2535 <!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->องค์นี้ ผมบูชามาจากบ้านซอยสายลม ปี 2535

 

ผมเอง จำไม่ด้ว่า ได้รับฟังองค์หลวงพ่อฯ หรือว่า อ่านหนังสือพบมา
แต่ที่ จำได้ชัดเจน ว่า..

องค์หลวงพ่อฯ บอกว่า....
".. ปี 38 ประเทศไทย จะมี.... เป็น...."

ผมเองก็คอยเฝ้าดูตลอดมา ตั้งแต่ที่ องค์หลวงพ่อ ยังไม่ละสังขาร
(ละสังขาร วันที่ 30 ตุลาคม 2535)

ก็รอดูผ่านมา.. กระทั่งผ่านพ้น ปี 2538 ไปแล้ว
เหตุการณ์ ตามที่องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้.. ก็ยังไม่ปรากฎ

กระทั่งถึง ปีนี้ (พ.ศ.2554)
จึงได้พอเข้าใจความหมายได้บ้าง....

หลายท่าน.. อาจจะสงสัย ว่า.. คือ เรื่องอะไร..

เอาไว้ใกล้วันคล้ายวันเกิดขององค์หลวงพ่อฯ
ค่อยมาคุย เรื่องนี้ กันต่อ.. ครับ

...................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

ถวายสังฆทานเทียนพรรษา 9 วัด

http://palungjit.org/threads/สิ่งอันเป็นมงคล-มอบให้เพื่อบุญเข้าพรรษา-ถวายสังฆทานเทียนพรรษา-9-วัด.293757/

ภายใน วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2554 เท่านั้น

<!-- google_ad_section_end -->......................................................................................................................................................

 

​

​

​

พระยอดธง พิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับ สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดท่าซุง (บูชาขึ้นสร้อยคอ)​

โดยท่านพระครูประจวบฯ วัดโพธิ์สุทธาวาส ทำนได้ขออนุญาตจาก องค์หลวงพ่อฯ อย่างเป็นทางการ​

การทำพิธีพุทธาภิเษก องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ในทำนอง ว่า..
ท่านฯ นั่งเฉย ๆ (ทรงกำลังฌาณสูงสุด) ส่วนเรื่องทำพิธีพุทธาภิเษก เป็นเรื่องของพระฯ (พระพุทธเจ้า)​

ส่วนใหญ่ ก็จะเป็น สมเด็จองค์ปัจจุบัน เป็นประธานฯ
แต่ก็มีบางครั้งที่มีองค์สมเด็จฯ ที่เกี่ยวข้อง (เคยเป็นพ่อ) กับองค์หลวงพ่อฯ เมตตามาเป็นประธานฯ
เช่น สมเด็จพระพุทธกัสสปะ สมเด็จพระพุทธธีปังกร​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นการพุมธาภิเษก อันเนื่องด้วย "สมเด็จองค์ปฐม"

สมเด็จองค์ปฐม ย่อมเสด็จมาเป็น "ประธานฯ" พร้อมด้วย พระพุทธเจ้า มากมาย​

พวกเราที่เป็น "ศิษย์แท้" ย่อมที่จะทราบถึง กำลังคุณค่าแห่ง พุทธานุภาพ​

หากจะถามว่า เมื่อพระพุทธองค์ ทรงเมตตามาเป็นประธานทำพิธีฯให้แล้ว
พระพุทธองค์ ท่านฯจะทรงเลือกทำพิธี เฉพาะของวัดท่าซุง เท่านั้นหรือ..
คงไม่ใช่.. ใช่ไหมครับ..​

จึงไม่พึงกล่าวว่า "นอกวัดฯ" ไม่สำคัญเท่าของ วัดท่าซุง
สร้างนอกวัดฯ ก็ดี.. ในวัดฯ ก็ดี.. พระพุทธเจ้า เหมือนกันไหม
ไม่ว่า จะเป็น รุ่นนี้ หรือ รุ่นอื่น ๆ หรือ รุ่นไหน ๆ ก็ตาม

หากพูดไป เพียงเพื่อประโยชน์บางส่วน หรือ เพื่อตนเอง
จะเป็นโทษแห่ง การปรามาสต่อพุทธานุภาพ โดยตรง​

อีกประการหนึ่ง ที่เคยกล่าวไว้หลายวาระ ว่า..

การที่กล่าวว่า..

พระองคนี้ แท้.. ทั้งที่ เลียนแบบ
พระองคนี้ เลียนแบบ.. ทั้งที่ แท้​

หากมีพิธีการ "พุทธาภิเษก" ตามที่ได้อธิบายไว้ ดังข้างบน นี้

อย่างนี้ ก็จะเข้าข่าย โทษการปรามาส ได้เช่นกัน​

การอธิบายมานี้ เพียงเพื่อ หวังว่า จะเป็น "สติ" ให้พวกเราได้คำนึงถึงกันไว้

เพื่อให้เกิดเป็นประโยชน์ โดย สาธารณะ เท่านั้น​

............................................................................................................................................................................................

 

โมทนาบูญกับท่าน"มหาหินด้วยครับ" ขออนุญาติ Show พระคำข้าว รุ่น 3 ปี 2534


พระคำข้าว รุ่น 3 มีพระบรมสารีริกธาตุ เสด็จ ถึง 3 องค์







<!-- google_ad_section_end -->

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>





</FIELDSET>

 

<!-- google_ad_section_end --> ​

เรื่องพระคำข้าว รุ่น 3 นี้.. มีเรื่องจะเล่าสู่กันฟัง....​

สมัยหนึ่ง ที่ พระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อฯ มาที่บ้านสายลม
วันนั้น บังเอิญ ผมได้นั่งอยู่ รอโมทนาบุญกับเขา ด้วย...​

ท่านอาจารย์ยกทรง กราบเรียนถามองค์หลวงพ่อฯ.. ในลักษณะว่า..
"..พระคำข้าว รุ่นแรก กับ รุ่นหลัง อานุภาพต่างกันอย่างไรครับ"​

องค์หลวงพ่อฯ.. ตอบ ในทำนองว่า..
(ใช้คำนี้ เพราะว่า กลัวว่า จะไม่ตรงกับคำพูดขององค์หลวงพ่อฯ ทุกคำพูด)
"..ก็เหมือนกันละลูก พุทธานุภาพ เหมือนกัน เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้า ท่านทำ"
"..แต่ รุ่นหลัง นี่ หนักหน่อย"​

........................................................................................................................................................​

ตรงนี้ พวกเราก็ต้องทำความเข้าใจ คำว่า "หนักหน่อย" ของท่านฯ กันเอาเอง​

เพราะว่า พระคำข้าว รุ่นหลัง รุ่นสุดท้ายนี้ พวกเราต้องเข้าใจ เรื่องพื้นฐานก่อนว่า..
พระเดชพระคุณ องค์หลวงพ่อฯ ท่าน ตาย เกิด.. ตาย เกิด.. ถูกต่ออายุ ถึง 8 ครั้ง
ด้วยกำลังฌาณ กำลังญาณบารมีของท่านฯ ท่านจะทราบถึง วันที่ต้อง ตายจริง ไหม​

ด้วยกำลังความรู้ ความเข้าใจ ความศรัทธา ของกระผมฯ
ผมฯ ก็ขอตอบว่า.. ทำไมจะไม่รู้ละ​

ดังนั้น พระคำข้าว ชุดนี้ (ชุดหลัง)
ก็ต้องเป็น ชุดสุดท้าย ที่ท่านจะทำพิธีพุทธาภิเษก (เฉพาะ พระคำข้าว)
คำว่า "หนักหน่อย" จึงน่าจะหมายถึง กำลังบารมี 16 อสงไขย ขององค์หลวงพ่อฯ​

หากจะใช้ คำว่า "ทิ้งทวน" จะได้ความหมายที่ลึกซึ้ง​

เหตุที่ "ทิ้งทวน"
ก็เพราะว่า "พระคำข้าว" นี้เอง....​

ที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ "รู้จัก" พระพุทธศาสนา กันไปทั่วโลก
จะเป็นสิ่งหนึ่ง ที่ เป็นหลักในการ ขจร แผ่ไพศาล พุทธานุภาพ
ให้ ชาวโลก ได้รับรู้​

พระพุทธศาสนา จะเด่น เป็น "เอก" ในโลกสืบไป
ตราบเท่า 5,000 วสา​

องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ ในทำนองว่า...​

"นับแต่นี้ไป พระพุทธศานา จะเจริญขึ้นฝ่ายเดียว..
จะไปเริ่มโทรมลง ก็ พ.ศ. 4,500 โน่น" ​

.........................................................................................................................................................​

พวกเรา ในขณะนี้
มีโอกาสเลือก คัดสรร พระคำข้าวองค์สวย ๆ
เพราะธรรมดาของเราที่มี ราคะจริต รักสวย รักงาม เป็นเรื่องปกติ​

แต่ก็อย่าลืมคิดถึง "พุทธานุภาพ"
ที่องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ ว่า "หนักหน่อย" กันไว้บ้าง นะครับ​

.........................................................................................................................................................​

 

บุคคล ที่รู้ ที่เจตนา ในมิจฉา ก็ตาม
บุคคล ที่ไม่ได้ตั้งใจ ในมิจฉา ก็ตาม
บุคคล ที่ไม่รู้ แต่เขาบอกต่อ ๆ กันมา และก็เชื่อในมิจฉา แล้วบอกต่อ ก็ตาม

หาก มิจฉา ที่เนื่องด้วย พระธรรม พระวินัย
ตายแล้ว จะไปไหน.. ก็คงเดาได้

หาก มิจฉา เนื่องด้วยพระบารมี เนื่องด้วยบารมี พระวิสุทธิคุณ
หนทาง ของบุคคลนั้น ๆ หลังกาละ (ตาย) ก็เฉกเช่นเดียวกัน

การที่พวกเรา เหล่าลูกหลาน ขององค์หลวงพ่อฯ ก็ดี
บุคคลผู้ไม่มีความเลื่อมใส ไม่เคารพ ต่อองค์หลวงพ่อ ก็ตาม

ได้กระทำการ ฉ้อฉล วางกลอุบาย ก็ตาม.. ไม่รู้ ก็ตาม..
ทำการให้เช่าบูชา สมบัติพ่อให้ฯ ให้แก่เพื่อนพ้องน้องพี่
แม้แต่ ไม่รู้จักกัน ก็ตามที

พูดถึง วิธีการทำพิธีพุทธาภิเษก ขององค์หลวงพ่อฯ
องค์หลวงพ่อฯ บอกว่า ท่านไม่ได้ทำ.. ท่านนั่งเฉย ๆ
พุทธาภิเษก เป็นเรื่องของพระฯ (พระพุทธเจ้า) ท่านมีมหาเมตตา ทำไว้เอง

ดังนั้น เอง....
ที่ให้เช่าบูชา โดยตั้งใจ ก็ตาม.. รู้ ก็ตาม.. ไม่เจตนา ก็ตาม
จำหน่าย ให้เช่าบูชา ขาย สิ่งอันเป็นมหามงคล สมบัติพ่อให้
ที่พระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อฯ ท่านทำพิธีพุทธาภิเษก ไว้

จึงไม่ใช่จะเป็นเพียง ปรามาส ต่อ องค์หลวงพ่อฯ เท่านั้น
แต่เป็นการ ปรามาส เป็นการ ตีเสมอ โดยตรงต่อ องค์สมเด็จพระจอมไตร

โทษ ภัย จะมีมากเพียงใด.. ก็คงจะมองเห็นกันได้ ใช่ไหมครับ

แต่ทว่า ท่านผู้มีเงินตราเต็มเปี่ยมในดวงตา ในความคิด
ย่อมที่จะมองไม่เห็นโทษภัย.. เห็นแต่รายได้ ที่จะเข้ามา

อันนี้ ก็น่าสงสาร..

จะช่วยได้อย่างไรกัน..
ติดจะช่วย ก็ช่วยได้เพียง เพียรพยายาม เปรียบเปรยให้ได้ฟังบ่อย ๆ
ได้เพียงนั้นเอง

หากยังไม่เชื่อถือ.. ยังไม่เห็นว่า จะมีโทษอย่างไร..
คิดได้แต่เพียง ว่า.. อย่าเอา นรก มาขู่กันเสียให้ยาก..

อันนี้ ก็ต้องทำอารมณ์ให้เข้าถึง มุทิตา อุเบกขา
ก็เป็นเพียง ผลกรรมชั่ว ที่ต้องได้รับในอนาคต..

แล้ว ผลกรรม ในปัจจุบัน มีไหม....
ก็ขอบอกว่า.. ย่อมต้องมีแน่ ๆ

มีผล อย่างไร ล่ะ
เช่น หากเราให้ คนอื่น เขาเช่าบูชา สมบัติพ่อให้ ในราคา 25,000 บาท
เป็นของเลียนแบบ ผู้ให้เช่าบูชา จะรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ตาม
(ผู้เช่าบูชา ย่อมไม่รู้แน่ เพราะ ถ้ารู้ ก็คงจะไม่เช่าบูชาไว้)

ต่อมาสัก ปี สองปี ข้างหน้านี้ (ก็ยังไม่ทันที่จะตายจากกัน)
บังเอิญ ราคา สมบัติพ่อให้ องค์ที่พูด ที่กล่าวถึง ว่าเลียนแบบ
แต่ทว่า ของจริงเขาไปราคาหลักแสน หลักหลายล้านบาท

ผู้ที่เคยเช่าบูชา มา.. อยากมีกะตังค์ กะเขาบ้าง
ขอออกตัวกะเขาบ้าง.. แล้วมีรู้ว่า เป็นของเทียม เขาก็ไม่รับเช่าบูชา
แล้วจะทำอย่างไรกัน

หากยังไม่ตาย จากกันไป นี่....

ผู้ให้เช่าบูชา จะรับประกัน ราคาไหน
ราคาที่เคยให้เช่าบูชา.. (25,000 บาท)
หรือ ราคาปัจจุบัน (ในอนาคต ที่ราคา อาจจะเป็นล้าน)

ก็คงจะเถียงกันอีกนาน
ดีไม่ดี ก็พาลโกรธกัน อาฆาตกัน ทำร้ายกัน
หากมีคู่กรณี 1ถึง 2 ราย ก็อาจจะยังพอคุยกันได้ง่าย

หากเป็น 100 ราย หลายร้อยรายล่ะ จะทำอย่างไรกันดี

นี่แหละ ทันชาติปัจจุบัน เลยเชียว

ต่อไป หลังจาก ตายไปแล้ว.. ก็เป็น นรก รออยู่อีก ใช่ไหม

......................................................................................................................................................

สำหรับท่านผู้ที่ "โดน" ของเทียม เลียนแบบ
หวากว่า มีความศรัทธาแท้ เข้าถึงธรรม ที่ว่า..
เพราะว่า ถ้าเราไม่มีกรรมเลวมาก่อน เราก็คงไม่โดนโกงอย่างนี้
วางอารมณ์ ยอมรับเสียได้ว่า "ช่างมัน" ก็จะเกิดเป็น บูญ แก่ตัวเอง

สำหรับท่านที่ ยอมรับไม่ได้ สาป แช่ง ผูกเวร จองกรรม....
เกิด ตาย อีกนาน.... กว่าที่จะเห็นธรรม ยอมรับกฏแห่งกรรม
ก็ว่ากันไป.. ใช่ไหมครับ

.......................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

การอธิบายมานี้ เพียงเพื่อ หวังว่า จะเป็น "สติ" ให้พวกเราได้คำนึงถึงกันไว้

เพื่อให้เกิดเป็นประโยชน์ โดย สาธารณะ เท่านั้น​

......................................................................................................................................................

 

​

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ narmja
เงินเยอะเลยครับ ตาลุก อิอิ สวัสดีครับพี่


</TD></TR></TBODY></TABLE>
.......................................................................................................................................................

ความรู้สึก..
หากว่า เงินกองนี้ เป็นของเรา เราจะรู้สึกอย่างไร.. ย่อมดีใจมากกกก

แต่ทว่า มันก็เป็นแค่ภาพ.. ไม่ใช่ของเราจริง ๆ มันไม่ใช่ของเรา
ความรู้สึก มันก็เป็น ธรรมดา ๆ ไม่ได้ใยดี ไม่ได้ดีใจ ใช่ไหมครับ

เพราะว่า มันไม่ใช่ของเรา นั่นเอง

......................................................................................................................................................

สมัยก่อนที่โทรมาคม ก็ดี โทรศัพท์ ก็ตาม ยังไม่เจริญ
ชายผู้หนึง มีความสุขในครอบครัว พร้อมเมียแก้ว และลูกขวัญ อันเป็นที่รักยิ่ง

ต่อมมา ชายผู้นี้ ต้องไปทำงานต่างจังหวัด 2-3 เดือน ในถิ่นทุรกันดาร
ไม่ได้ติดต่อกับทางบ้านเลย เพราะการสื่อสารไม่ดี

พอครบ 3 เดือน เขาก็เดินทางกลับบ้าน
เมื่อลงรถ ต้องเดินเท้าเขาซอยทางเข้าบ้าน ต้องผ่านวัดฯ

เมื่อเดินผ่านวัดฯ เขามีงานที่วัดพอดี.. มองก็รู้ว่า เป็น "งานศพ"
เขาก็คิดในใจ ว่า งานศพใครหนอ.. ธรรมดาชีวิตคนเรา ก็มีเพียงแค่นี้เอง
เกิด แล้ว ก็ต้องตาย.. เขาปลงสังเวชในใจ ในขณะที่เดินผ่านวัดฯ ไป

เมื่อเขาไปถึงบ้าน บ้านถูกใส่กุญแจ ไม่มีใครอยู่บ้าน
เพื่อนบ้าน เห็นเขามา จึงได้ บอกเขาไปว่า....

เมียเขา ไม่อยู่.. อยู่ที่วัดฯ (ที่เขาเดินผ่านมา) โน่น
อยู่ในงานศพ "ลูกของเขา" รถชน ตายไป เมื่อ 2 วัน นี่เอง

ทันใดนั้น เขาก็ ร้องไห้ ฟูมฟาย วิ่งกลับไปที่วัดฯ อย่างรวดเร็ว
ด้วยความเสียใจ อย่างที่สุด.

......................................................................................................................................................

ความรู้ ที่ได้จากเรื่องนี้..

อารมณ์ ของชายผู้นี้ เมื่อเดินผ่านวัดฯ เข้ามา
เขาก็เห็น "งานศพ" แต่ก็ไม่เกี่ยวกับเขา เขาก็ไม่มีความเสียใจ

อารมณ์ของชายผู้นี้ เมื่อทราบว่า "งานศพ" นั้น เป็น ศพลูกของเรา
เขาก็ร้องไห้ ฟูมฟาย เสียใจ วิ่งกลับไปที่วัดฯ โดยเร็ว

มันก็เป็น "งานศพ" งานเดียวกัน

แต่มันต่างกันที่ "มันไม่ใช่ของเรา" กับ "มันเป็นของเรา" เท่านั้นเอง
ใช่ไหมครับ

......................................................................................................................................................

มั่นใจได้ไหมว่า.. เมื่อมีเงินมากมาย แล้วจะ ไม่หลง ไม่ทุกข์ ไม่แก่ ไม่ตาย

ใด ๆ ในโลก ไม่ว่าเงิน ทอง ทรัพย์สิน ญาติ พี่น้อง
ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราได้เลย.. ทุกสิ่งต้องเสื่อมไป ทั้งหมด ทั้งสิ้น

มีแต่ "จิต" (อทิสมานกาย) ของเรา เท่านั้นเอง.. ที่เป็นของเรา
เราจะพาดวงจิต ไปที่ไหน....

นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ นางฟ้า เทวดา พรหม
หรือ พระนิพพาน

ก็ตัวของเราเท่านั้นเอง
ใครจะมาช่วยดึงเรา ขึ้น หรือลง ไปที่ไหน ไม่ได้เลย

แม้แต่ องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว สัมมาสัมพุทธองค์ พระอง์ท่าน ก็ตรัสว่า
ตถาคต เป็นเพียง ผู้บอกเท่านั้น

พระพุทธองค์ ทรงตรัสแสดง สอนสั่ง ชี้ทิศทางให้ เท่านั้นเอง

พวกเราจะไปบน ไปล่าง ไปอยู่ที่สูงสุด ไม่เคลื่อน ไม่เกิด อีกต่อไป
ก็อยู่ที่ ทาน ศีล ภาวนาเพื่อให้เกิด ปัญญา ของตัว(จิต) ของเราเท่านั้นเอง

ใช่ไหมครับ

.......................................................................................................................................................

หากอารมณ์ รับรู้ ยอมรับได้ด้วย ปัญญาญาณ ว่า....

ใด ๆ ในโลก ไม่ว่าเงิน ทอง ทรัพย์สิน ญาติ พี่น้อง
ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราได้เลย.. ทุกสิ่งต้องเสื่อมไป ทั้งหมด ทั้งสิ้น

อย่างนี้.. ก็ใกล้ พระนิพพาน ที่สุดแล้ว

ขอน้อมโมทนา

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

......................................................................................................................................................
<!-- google_ad_section_end -->

 

อยากให้ หลัง เดือน กรกฎาคน 2554 เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เสียที เพราะประเทศ ของเรา ยังจมอยู่กับความขัดแย้ง แบ่งสี จน ประชาชน จะใส่เสื้อ สีอะไรดี ถึงจะถูกใจทุกฝ่าย

ประเทศเกาหลีไต้ เขาไปแล้ว ประเทศสิงคโปรเขาไปแล้ว ประเทศมาเลย์เซียเขาไปแล้ว ประเทศเวียตนามกำลังจะไปแล้ว

มาดูประเทศไทยเรา บ้าง ยังวนเวียนอยู่กับ ประเทศลาว และ ประเทศพม่า ยังไม่ไปไหนเลย

หลวงพ่อเล่าว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช(ร.๑)ท่านผูกดวงเมือง ไว้กับทหาร ให้ทหาร รักษาประเทศ ไม่ใช่มาคอยปฏิวัติ รัฐประหาร อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙ ในหลวงองค์ปัจจุบันท่านมีพระปรีชาสามารถมาก "ท่านใช้คำสาป" ท่านปรารสต่อหน้าท่านมหาเสนาบดี ที่มาอวยพร ในวันเฉลิมฯ 5 ธันวาฯ มหาราช ว่า..

ใครที่คิดไม่ดีต่อบ้านนี้เมืองนี้ ขอ ให้มีอันเป็นไป..นี้เป็นคำสาปขององค์พระบรมโพธิสัตว์..คือในหลวงองค์ปัจจุบัน

ดังนั้นผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือควรตระหนัก ไว้ว่าถ้าท่านคิดไม่ดีต่อบ้านเมืองนี้ จะต้องเป็นไปตามที่ ท่านสาปเอาไว้ 100% ท่านไม่มีทางสมหวังแน่นอน

 

ด้วยความเคารพจากน้องใหม่

ชอบมากๆๆในการที่พี่ให้ข้อคิดทางธรรมอ่านแล้วชอบมากๆๆขอบคุณมากๆๆ SUNKU

 

พระมหาบรมโพธิสัตว์ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว องค์ปัจจุบัน

ท่านสอน ต่อหน้า มหาเสนาบดี ที่มาอวยพรในวันเฉลิมฯ 5 ธันวาคม มหาราช

ท่านสอนคำที่ง่ายๆๆๆ มากๆ..ซึ่งเราคิดไม่ถึงว่าท่านจะสอน แบบง่ายมากๆๆ..แบบนี้...มาก่อนเลย


พระราชดำรัสของท่าน..มีแค่ 5 คำ เท่านั้นเอง แต่ความหมาย

ลึกซึ้งมาก หลายร้อยเท่าตัว

ถ้าทุกคนปฏิบัติ ได้ รับรองได้ว่า ประเทศไทยจะมีแต่ความเจริญ และเป็น หนึ่ง ในเอเซีย ชนิดว่า ..ปลอกกล้วย..เข้าปากยังยากกว่า..


คำที่ท่านสอน..ระดับมหาเสนาบดี..ที่มาอวยพร..ในวันเฉลิมฯ 5 ธันวาทมหาราช ว่า..

คิด แต่ สิ่ง ที่ ดี...ทำ แต่ สิ่ง ที่ ดี

แค่นี้เอง ประเทศไทยเราก็จะมีแต่ความสงบ..ตลอดไป..นี่คือคำสอน ของ พระมหาบรมโพธิสัตว์(ร.๙)..ง่ายมากๆ

 

องค์นี้สวยมาก..ท่านมหาหิน..ปลุกเสกพร้อมสมเด็จองค์ปฐม เนื้อโลหะรุ่นแรก(16 พ.ค.35)

 

ขออนุญาติ ท่านมหาหิน Show กลีบบัวครับ


พระกลีบบัว ฝังพระบรมสารีริกธาตุ

องค์นี้ขอ Show






<!-- google_ad_section_end -->

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

 

พระเครื่องของหลวงพ่อ เจอ ชาวญี่ปุ่น ประเทศเดียวก็ไม่พอแล้ว


ใครมีกำลังทรัพย์ รีบเก็บกักตุน เอาไว้ได้เลย

อย่าได้ชักช้า ชาวญี่ปุ่นตอนนี้อยู่


กันอย่างไม่มีความสุข เพราะกลัว เรื่องรังสีมาก

 

ผู้ที่มี วัตถุมงคลของหลวงพ่อ ควรเก็บรักษาไว้ให้ดี ไม่ควรนำมาจำหน่าย เหมือนสินค้า

no name แบบไม่มีราคาอะไรเลย ถ้ามันเกิดเรื่องขึ้นมา พวกท่านไม่มีโอกาส

ได้บูชากลับเข้ามาอีก

 

เมื่อสักครู่ โทร.ไปหาย่าอี๊ดฯ
ที่สำนักปฏิบัติธรรม ท่านแม่ชีปทุม โชติอนันต์
หนองสาหร่าย ปากช่อง นครราชสีมา

ทราบว่า วันที่ 30 มิถุนายน 2554 (ประมาณ 12.00 น.)

จะมีการปล่อยปลา อย่างน้อย 3 ตัน (3,000 กิโลกรัม)
ณ อุทยานแม่วง เขื่อนแม่วง อำเภอลาดยาว นครสวรรค์

องค์หลวงพ่อฯ เคยกล่าวถึงอานิสงส์การปล่อยปลา ในทำนองว่า
"..ปล่อยปลา เป็นอภัยทาน เป็นบุญใหญ่
ปล่อยปลา 1 ตัว ต่ออายุจากเหตุอุปฆาตกรรมได้ 1 ปี
คนที่ปลายปลา เป็นปกติ จะสามารถอยู่ถึงสิ้นอายุขัยของตัวเอง"

อุปฆาตกรรม คือ กรรมปาณาติบาต ที่เราเคยทำไว้ในอดีตชาติ
มาริดรอน ให้เราต้องตาย ก่อนที่จะสิ้นอายุขัย เป็น สัมภเวสี
ต้องทนทุกข์ ระกำ ลำบาก ผลบุญ ยังรับไม่ได้.. ผลกรรม ยังรับไม่ได้..
ต้องอดยาก ทุกข์ก็ต้องทน.. รอจนกว่าจะถึงเกณฑ์ อายุขัยของตัวเอง
จึงจะมีสิทธิ์ รับการไต่สวน จาก พระยายมราช

การปล่อยปลา 3 ตัน (3,000 กิโลกรัม) ในครั้งนี้
จึงจัดว่าเป็นอานิสงส์ใหญ่อย่างยิ่ง

ในชีวิตของเรา จะมีโอกาสเช่นนี้ไหม
เราเข้าร่วมบุญ 10 บาท, 20 บาท, 50 บาท, 100 บาท
ลงในกองทุนรวม ก็ได้ชื่อว่า เป็นเจ้าภาพปล่อยปลาทั้งหมด ทุกตัว

จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้แจ้งข่าวงานบุญ นี้

ด้วยปีติ อย่างยอดยิ่ง

ร่วมบุญได้ที่..

ธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่อง
คุณประภาศรี นิยมแก้ว
ออมทรัพย์ 3030 170 608

รายละเอียดเพิ่มเติม..
ย่าอี๊ดฯ (ประภาศรี นิยมแก้ว)
โทร.081-9069140

โปรดช่วยกันบอกต่องานบุญในครั้งนี้
เนื่องจากเหลือเวลาเพียง 2 วัน

เรา บอกบุญต่อ อานิสงส์ ก็ย่อมยิ่งเกิดอานิสงส์แก่เรา

ขอน้อมโมทนายิ่ง

สาธุ..
สาธุ..
สาธุ....

..........................................................................................................................................................

 

งานนี้ต้องไม่พลาดแน่ท่านมหาหิน พรุ่งนี้ต้อง โอนเงิน ขอเป็นเจ้าภาพด้วย ครับ

 

ผมโอนเงินร่วมปล่อยปลาสามตันกับย่าอี๊ดแล้วครับพี่

โมทนาบุญด้วยกันครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

โมทนา สาธุ สาธุ กับทุกๆ ท่านด้วยครับ เดี๋ยวผมจะไปโอนเงินเหมือนกัน

 

โมทนาบุญกับทุกๆๆๆท่านครับ

ขอโมทนาบุญกับทุกๆๆๆท่านที่ร่วมทำบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ
ร่วมทำบุญกับแม่ชีแล้วครับ