พี่ๆในห้องนี้บูชาวัตถุมงคลอะไรติดตัวกันบ้างครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย เด็กปลายแถว, 11 พฤษภาคม 2009.

  1. jacky65

    jacky65 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,149
    ค่าพลัง:
    +2,516

    หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา กับวัดใหม่หนองพะอง รูปเดียวกันไหมครับ ผมมีพิมพ์แบบนี้แต่เป็นวัดใหม่หนองพะอง หลวงพ่อทองอยู่ เก็บเอาไว้ นานมากแล้ว
     
  2. yuthapol

    yuthapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +430
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง

    หลวงพ่อทองอยู่ หรือ พระครูสุตาธิการี อดีตเจ้าอาวาส วัดใหม่หนองพระอง จ.สมุทรสาคร ท่านเป็นพระเถระ พระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ที่แก่กล้าด้วยอาคม ท่านเกิดในตระกูล “สิงหเสนี” ซึ่งเป็นตระกูลทหารชาตินักรบ อุปสมบทเมื่ออายุประมาณ ๓๐ ปี ที่วัดใหม่หนองพะอง ครั้นพอพรรษาแรก จิตใจรู้สึกสงบ และทราบซึ้งในรสพระธรรม จึงได้อุปสมบทตลอดเรื่อยมา

    ในสมัยที่ท่านยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ท่านได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรกว่า ๓๐ ปี ไปในที่ทุรกันดารต่าง ๆ ที่ใดที่มีพระอาจารย์เก่งกล้าทางคาถาอาคม หรือ เก่งทางด้านปฏิบัติธรรม ก็จะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ โดยหลวงพ่อทองอยู่นี้ ในสมัยที่ท่านยังหนุ่มอยู่ ท่านจะเดินธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมที่ภาคเหนือเป็นประจำทุกปี ซึ่งหลวงพ่อท่านก็มีโอกาสได้กราบนมัสการท่าน พระครูบาเจ้าศรีวิชัย ยอดนักบุญแห่งล้านนาไทยอย่างใกล้ชิดด้วย อีกทั้งยังเป็นศิษย์ในกรรมฐานของครูบาศรีวิชัย ซึ่งท่านครูบาศรีวิชัย ได้เคยชักชวน หลวงพ่อทองอยู่ ให้อยู่กับท่านด้วยกัน แต่หลวงพ่อทองอยู่ยังติดภาระที่ต้องดูแลทางวัดอยู่ จึงเดินทางกลับมา ซึ่งครูบาศรีวิชัย ท่านจะถวายปัจจัยสำหรับค่าเดินทางกลับให้อยู่เสมอมิได้ขาด

    มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงพ่อทองอยู่ ได้กราบเรียนถามพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ว่า ปฏิบัติอย่างไรจึงมีเมตตามีบารมี และมีคนนับถือมากมายขนาดนี้ ซึ่งพระครูบาเจ้าศรีวิไชยก็ได้ตอบแก่หลวงพ่อทองอยู่อย่างเมตตา

    "พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้แหละ ที่เฮาภาวนาเสมอ มิได้ขาด” และ หลวงพ่อทองอยู่ ได้เคยกล่าวถึงท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า

    “ครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้ ท่านมีญาณสูงมาก ด้วยเหตุนี้แหละ จึงมีผู้ตั้งอธิกรณ์ ฟ้องท่านว่าเป็นผีบุญ เพราะไปไหน ก็มีคนติดตามไปเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็เดินไปเหนือยอดหญ้า ฝนตกจีวรก็ไม่เปียก ทั้ง ๆ ที่เดินฝ่าฝนไป แต่ สุดท้าย ผู้ที่กล่าวหาท่าน ก็ถูกบาปกรรมตามสนองอย่างน่าสยดสยองที่สุด”

    หลวงพ่อทองอยู่ ท่านได้ขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมาก ๆ ในสมัยก่อน หลวงปู่ทอง วัดราชโยธานี้ ท่านเป็นศิษย์รุ่นน้องของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน คือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์) ซึ่งในสมัยนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่าน ที่มาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทอง เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช, หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ชลบุรี และ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ

    จะ เห็นว่า ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ที่เอ่ยนามมานี้ ล้วนเก่งกล้าวิทยาคม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมของสะสมพระเครื่องทั้งหลาย ดังนั้น หลวงพ่อทองอยู่ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้อง หรือ รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา จึงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

    จะยกตัวอย่างพลังจิตของหลวงพ่อทองอยู่เรื่องหนึ่ง ในมูลเหตุที่ท่านได้รับฉายาจากศิษยานุศิษย์ทั้งหลายว่า หลวงพ่อทองอยู่ ดับดาวเดือน เพราะท่านเคยแสดงให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดดู โดยถามว่า เธอต้องการให้ดับดาวดวงไหน ให้ลองชี้มาแล้ว ท่านจะดับให้ดู ครั้นพอลูกศิษย์บอกว่าต้องการดูดวงไหนดับแล้ว ท่านจะบริกรรมคาถาสักครู่ แล้วชี้ไปที่ดาวดวงนั้น ซึ่งแสงดาวก็จะหายวับดับไปในทันที ราวกับปาฏิหารย์ แสดงว่า พลังจิตของท่านสูงส่งมากทีเดียว สามารถเพ่งกระแสจิต แล้วชี้ไปที่ดวงดาว จนแสงดาวที่กระพริบอยู่นั้น ดับวูบลงไปทันที

    ท่านเป็นสหธรรมิก กับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ โดยเรียนวิชายันต์ตรีนิสิงเห มาจาก หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร มาด้วยกัน งานไหนมีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง หรือ วัตถุมงคล ที่นั่นจะมี หลวงปู่โต๊ะกับ หลวงพ่อทองอยู่ ด้วยเสมอ

    วิชาที่สุดยอดของท่านอีกอย่างคือ ลงกระหม่อมด้วยน้ำมันจันทร์หอม ใครได้ลงครบสามครั้ง รับรองได้ว่า ไม่มีตายโหง และไม่อดไม่อยาก เป็นที่รักใคร่ของคนโดยทั่วไป ท่าน เจริญเมตตา จนมีฝูงปลาสวายมาอยู่หน้าวัดเต็มไปหมดเลย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ๑ ใน ๔ องค์ ที่หลวงปู่โต๊ะนิมนต์มาในงานครบรอบวันเกิดของท่านทุกปี อีกสามองค์ที่เหลือ องค์แรก คือ หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงทพฯ องค์ที่สอง หลวงพ่อฮะ วัดดอนไก่ดี สุพรรณบุรี องค์ที่สามเป็น พระจีน (ไม่ทราบชื่อ) สำหรับงานวันเกิดหลวงปู่โต๊ะนั้น จะนิมนต์หลวงปู่หลวงพ่อทั้ง ๔ องค์นี้เป็นประจำ มานั่งสี่มุม ส่วนหลวงปู่โต๊ะท่านจะนั่งที่หน้าพระประธานเป็นองค์ที่ห้า

    คำสั่งเสียของหลวงปู่โต๊ะ ก่อนมรณภาพ

    ในการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ ของวัดประดู่ฉิมพลี ในขณะที่หลวงปู่โต๊ะชราภาพมากแล้ว ท่านปรารภกับลูกศิษย์ว่า "หากหมดบุญฉันแล้วให้ไปหาหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ ท่านแทนฉันได้" และท่านยังสั่งลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า หากท่านอยู่ปลุกเสกรุ่นนี้ไม่ทัน ให้นำไปให้หลวงพ่อทองอยู่ปลุกเสกแทน พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ รุ่นนี้ จึงเป็นสุดท้ายของหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งทางวัดประดู่ฉิมพลี ได้ประกอบพิธีเททองหล่อภายในวัด เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๒๔ โดยหลวงปู่เป็นประธานในพิธี และมีเกจิอาจารย์อีก ๙ ท่าน ร่วมนั่งปรกในขณะเททอง

    ในขณะที่พระกริ่งพระชัยวัฒน์ พุทโธ กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง หลวงปู่โต๊ะก็ได้มรณภาพเสียก่อน ในวันที่ ๕ มี.ค ๒๕๒๔ (แสดงให้เห็นถึงอนาคตังสญาณของหลวงปู่โต๊ะ ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะมรณภาพในปีนั้น) เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อทองอยู่ ได้ปลุกเสกเดี่ยวให้ก่อน ๑ ครั้ง และ ต่อมา เมื่อทางวัดได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ พร้อมกับ รูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงหลวงปู่โต๊ะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเททองหล่อขึ้น ทางวัดได้นำ พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ "พุทโธ" เข้า ร่วมในพิธี โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน และ หลวงพ่อทองอยู่นั่งปรกปลุกเสกด้วย จำนวนสร้างพระกริ่ง ๑,๕๐๐ องค์ พระชัยวัฒน์ ๓,๐๐๐ องค์ ทั้ง ๒ พิมพ์ ตอกโค้ด "ต" สำหรับพระชัยวัฒน์นั้นใต้ฐานอุดด้วยเทียนชัย และเส้นเกศาของหลวงปู่โต๊ะไว้ด้วย

    สองเกจิร่วมสมัย ร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๕๐๐ กว่า ๆ เป็นเหตุการณ์ที่พระอริยะเจ้าสองรูป ได้โปรดวิญญาณ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน อยู่ในคลองภาษีเจริญ บริเวณประตูน้ำหน้าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระอริยะเจ้าสองรูปนั้น องค์แรกท่าน คือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี องค์ที่สอง คือ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก บริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลาย ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยมี หลวงพ่อทองอยู่ เดินโปรยข้าวตรอกดอกไม้ และ หลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุในขณะนี้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต่างทราบเหตุการณ์นี้ดี

    วัตถุ มงคลที่สร้างในสมัยที่หลวงพ่อทองอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์อื่น ๆ ที่ร่วมสมัยเดียวกัน อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงปู่สุด วัดกาหลง, หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ฯลฯ แล้ว ถือว่า น้อยมาก และมีเพียงไม่กี่แบบ เท่าที่ทราบมี เหรียญรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. ๒๕๐๙ จากนั้นก็มีเหรียญรุ่นต่าง ๆ อีกเพียงไม่กี่รุ่น, พระกริ่งสุตาธิการี, พระกริ่งตั๊กแตน ฯลฯ เนื่องจากท่านเป็นศิษย์สายวัดสุทัศน์ เคยอยู่วัดสุทัศน์มาก่อน พระกริ่งของท่านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ได้เลย นอกนั้นก็เป็นพวก พระปิดตา, ล็อกเก็ต, ภาพถ่าย, ท้าวเวสสุวัณ (ขนาดบูชา) ฯลฯ เป็นต้น

    พระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด ท่านสร้างมาก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ คือ พระสมเด็จ มีพระสมเด็จเนื้อผงขาว และ พระสมเด็จเนื้อผงใบลาน (สีดำ) มีหลายพิมพ์ แต่ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านก็เห็นจะเป็น “สมเด็จหลังเสือเผ่น” ซึ่งสร้างมา ๒ – ๓ รุ่น หลายรูปแบบ (เสือเล็ก – เสือใหญ่) หลายพิมพ์ ปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องอย่างกว้างขวาง

    พระ สมเด็จเนื้อผงของท่าน ท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บสะสมไว้ และทำไว้ด้วยตัวของท่านเอง ท่านมีความสามารถลบผงวิเศษทั้ง ๕ ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ตามตำรับเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้อย่างเข้มขลัง โดยผสมน้ำมันจันทร์หอม ลงไปในเนื้อพระดังกล่าวด้วย ทำให้พระสมเด็จของท่านนั้น มีพุทธคุณโดดเด่นไปด้วยเมตตามหานิยม อุดมลาภผล แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี

    เรียก ว่าสมเด็จทุกรุ่นของท่านนั้น มีมวลสารสุดยอดจริง ๆ มีทั้งผงสมเด็จเก่า ๆ ที่หลวงพ่อได้รวบรวมไว้ เช่น ผงแตกหักของพระวัดระฆัง, ผงแตกหักของพระกรุวัดบางขุนพรหม ซึ่งแต่ก่อนนั้นหาได้ไม่ยากนัก และที่สำคัญ คือ ผงของวัดพระยาบึงสุเรนทร์ (หลวงปู่ทองเป็นประธานการปลุกเสก) ซึ่งได้มาจากตระกูลของท่าน ดังนั้น ในแต่ละรุ่นจึงสร้างได้น้อย และมีไม่มากนัก เพราะท่านพิถีพิถันในการสร้างพระสมเด็จเป็นอย่างมาก ไม่ให้เสียชื่อสำนัก และครูบาอาจารย์ก็ว่าได้


    หลวงปู่ทองอยู่วัดท่าเสา

    [​IMG] ประวัติวัดท่าเสา [​IMG]
    <table width="69%" border="2" height="429"><tbody><tr> <td width="21%" height="150">[​IMG]</td> <td width="79%" height="150"> วัดท่าเสา
    วัดท่าเสา สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2399 เดิมเคยเป็นวัดร้างเก่าแก่มาก่อนได้ถูกทอดทิ้งมานานมาก จนพระอุโบสถหลังเก่าพุพังหมด ต่อมา พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าเสา ได้มาบูรณะซ่อมแซมใหม่แรกเริ่มมีเพียงกุฏิมุงจากหลังเล็กๆ มีลิงอาศัยบริเวณวัดตลอดระยะเวลา พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าเสา อยู่ได้สร้างวัดวาอารามให้เจริญรุ่งเรืองมีโรงเรียนสอนหนังสือภายในวัดด้วย
    ที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ที่มา : www.samutsakhonculture.com
    กลับสู่หน้าหลัก
    </td> </tr> <tr> <td width="21%" height="289">[​IMG]</td> <td width="79%" height="289">
    รอบันทึกข้อมูล





    </td> </tr> <tr> <td width="21%" height="262">[​IMG]</td> <td width="79%" height="262">
    พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป)
    อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าเสา เจ้าคณะตำบลท่าเสา
    1.ชาติภูมิ

    • พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป) นามเดิม ทองอยู่ นามสกุล โชตะมังสะ นามฉายา อตฺตทีโป นามโยมบิดา ขุนศรีบรรณสาร (ทูป โชตะมังสะ)
      นามโยมมารดา นางเพิ่ม โชตะมังสะ
    • ชาติกาล วันอาทิตย์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 ปีวอก ตรงกับวันที่ 17 มกราคม พุทธศักราช 2439 ณ บ้านหมู่ 2 ตำบลท่าไม้ ำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
    2.สถานะเดิม

    • นายทองอยู่ โชตะมังสะ ต่อมาได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น ศรีบรรณสาร การศึกษาจบมัธยมชั้นปีที่ 3 จากโรงเรียนบุญรังสฤษดิ์ วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พ.ศ.2453 การทำงานได้รับราชการเป็นสมุห์บัญชี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายทองอยู่ ศรีบรณสาร ได้สมรสกับ นางอาบ ศรีสุพรรณ มีบุตร 3 คน คือ 1. นายสมพงษ์ ศรีบรรณสาร ถึงแก่กรรม
      2. นาวาเอก สมพันธ์ ศรีบรรณสาร รน. ถึงแก่กรรม
      3. นายสมเผ่า ศรีบรรณสาร รับราชการตำแหน่งผู้ช่วยกรมป่าไม้ จังหวัดนครสวรรค์ ถึงแก่กรรม
    3.บรรชาอุปสมบท

    • พระทองอยู่ ฉายา อตฺตทีโป บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พุทธศักราช 2476 ณ วัดนางสาว อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี 1.พระครูถาวรสมณศักดิ์ (หลวงพ่อคง) วัดหงอนไก่ เป็นพระอุปัชฌาย์
      2.พระเพี้ยน จนฺทสโร วัดนางสาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์
      3.พระสุนทร คุณชารี วัดนางสาว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    4.การศึกษาธรรม

    • พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป) ศึกษาจนสอบได้นักธรรมตรี โท และเอก มีความสามารถพิเศษทางพิมพ์ดีด
    • พ.ศ.2479 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักวัดสุวรรณาราม ตำบลศาลายา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
    • พ.ศ.2480 พระครูสมณศักดิ์ เจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน ทำหนังสือรายงาน เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร จัดส่งพระทองอยู่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าเสา พระทองอยู่ได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณะวัดท่าเสา ซึ่งแต่เดิมเป็นวัดร้างต่อมาได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมาเพื่อสร้างอุโบสถ
    • พ.ศ.2482 ได้งบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน หลังคามุงสังกะสีแต่หาผู้ที่จะมาเป้นครูสอนยาก พระทองอยู่ต้องทำหน้าที่สอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 - 4
    • พ.ศ.2485 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ครูใหญ่โรงเรียนวัดท่าเสา
    5.งานด้านการปกครอง

    • พ.ศ.2480 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าเสา ตำบลท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
    • พ.ศ.2492 ได้รับโปรดเกล้าให้เจ้าอธิการทองอยู่ วัดท่าเสา จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพระครูอาทรธรรมนิเทสก์
    • พ.ศ.2494 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
    • พ.ศ.2496 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
    • พ.ศ.2521 มหาเถรสมาคม มีมติให้เลื่อนพระครูอาทรธรรมนิเทสก์ (ทองอยู่) วัดท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ตำแหน่งพระครูเจ้าอาวาส วัดราษฎ์ชั้นโท เป็นชั้นเอก
    </td></tr></tbody></table>
    คนละองค์กันนะครับ
     
  3. sitcy

    sitcy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +151
    ใช้สององค์ครับท่าน"ตุ๊กตาทอง"ห้อยคอตลอดไปใหนไปกัน"บางขุนพรหมอกครุฑเศียรบาตร"ได้ใช้กับโปรเจคใหญ่ๆเรื่อยโดยมีตุ๊กตาทองเป็นกำลังสนับสนุนครับท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2011
  4. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,800

    ขอโทษนะครับ เสือเดือนเพ็ญนี่ออกปีไหนครับ ผมไปดูๆ แล้วเสือเดือนเพ็ญออกหลายรุ่นอ่ะครับ ปีที่แล้วก็ออก เสือเดือนเพ็ญ ๙ ตะวัน ๑ จันทรา..ของผมบูชามาประมาณปี ๕๒ ลองเทียบๆดูคล้ายๆ เสือเนื้อชินตะกั่ว รุ่น ๓ ครับ แต่ไม่มั่นใจเหมือนกัน....
     
  5. JoeGeo

    JoeGeo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +13


    เสือเืดือนเพ็ญออกพิธีอาบน้ำเพ็ญที่วัดตะเคียน มีตะกรุดเดือนเพ็ญด้วยนะ ถ้าเจ้าของเช่ามาพร้อมกับตะกรุดเดือนเพ็ญน่าจะเป็นพิธีนี้ ตอนนั้นหลวงปู่แย้ม ยังเป็นเจ้าพิธี ท่านยังไหวอยู่ครับ ส่วนเสือรุ่น 3 ออกพร้อมตะกรุดหล่อโบราณ ผิดพลาดขออภัยด้วยครับ
    :cool:
     
  6. JLB

    JLB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,180
    ค่าพลัง:
    +8,079
    ขออนุญาติร่วมตอบกระทู้ครับ
    ตอนนี้ที่บูชา อยู่ทุกวัน
    1 สมเด็จเกษไชโย
    2 เสมาแปดรอบ ลป.ทิม
    3 ลป.ทวด เตารีด
    4 สมเด็จรุ่นแรก ลพ.ทรง วัดศาลาดิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,800

    ถ้าอย่างนั้นน่าจะใช่เสือเดือนเพ็ญล่ะครับ พอจะทราบจำนวนสร้างมั้ยครับ พิธีอาบน้ำเพ็ญนี่คือ พิธีที่จัดขึ้นที่วัดในวันลอยกระทงทุกปีรึเปล่าครับ ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเป็นพิธีอาบน้ำเพ็ญปี 51 รึเปล่า....
     
  8. JoeGeo

    JoeGeo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +13
    ไม่ทราบจำนวนเลยครับ อาบน้ำเพ็ญปี 51 น่าจะเป็นปีแรกครับ
    เป็นพิธีที่จัดขึ้นในวันลอยกระทงครับ ช่วงปี52-53 หลวงปู่แย้ม
    ท่านไม่ไ้ด้เป็นเจ้าพิธีแล้วครับ สังขารท่านไม่ไหวครับ
    :cool:
     
  9. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,800

    ผมไปงานพิธีอาบน้ำเพ็ญเมื่อตอนปี 52 หลวงปู๋เก๋ทำพิธี ผมไปแย่งธงชัยที่อยู่ในซุ้มพิธี ได้ 1 ยอด ครับ กล้าจะได้ แย่งกันน่าดู...
     
  10. Apollo14

    Apollo14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +199
    ขออนุญาตครับ
    รูปลายเซ็น พระพรหม ของ อาจารย์ไหนครับ
    ขอบคุณครับ
     
  11. omega111

    omega111 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +9
    1 รูปหล่อพิเศษหลวงปู่ดู่
    2 เหรียญปฎิบัติธรรมปี24 หลวงปู่ดู่
    3 พระคำข้าว
    4 พระหางหมาก
    5 เหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น
     
  12. JLB

    JLB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,180
    ค่าพลัง:
    +8,079
    เหรียญพระพรหม รุ่นสิริสมบัติ จัดสร้างโดย โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ครับ
    เหรียญพระพรหม รุ่นสิริสมบัติ จัดสร้างโดย โรงเรียนวัดบวรนิเวศ
     
  13. JLB

    JLB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,180
    ค่าพลัง:
    +8,079
    เหรียญพระพรหม รุ่นสิริสมบัติ จัดสร้างโดย โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ครับ
    เหรียญพระพรหม รุ่นสิริสมบัติ จัดสร้างโดย โรงเรียนวัดบวรนิเวศ
     
  14. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,090
    เสือปืนแตกรุ่น๓ เนื้อตะกั่วครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. jaruwat007

    jaruwat007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +362
    มีเยอะอิจฉาคับ555ล้อเล่นนะคับ
     
  16. jaruwat007

    jaruwat007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +362
    ของผมไม่มีใส่ประจำอ่ะคับ จะสลับๆกันไปวันไหนอยากใส่องค์ไหนก้อเอามาใส่
    แต่ที่ชอบส่วนมากจะเปนเครื่องราง ที่ใช้ๆอยู่ก้อมี
    ที่คอ
    เหรียญพระพุทธนิมิตรหลวงปู่ตี๋วัดหลวงราชาวาส-สมเด็จปรกโพธิ์หลวงพ่อแพ14-เหรียญอาจารย์ชุมรุ่นแรก2517-เหรียญหลวงพ่อแต่งวัดนันทารามรุ่นแรก2505-พระพรหมแสตมป์สยบราหูหลวงพ่อชำนาญ
    ที่เอว
    หวายคาดเอวหลวงพ่อลำเจียก-เชือกคาดเอวหลวงปู่หลิว-ตะกรุดคู่ชีวิตรุ่นแรกหลวงปู่ขุ้ย-เบี้ยแก้อาจารย์เจือ-ปลัดขิกหลวงพ่อไทวัดไทรย้อย
    ที่ไม่ค่อยมีโอกาสใช้ก้อมี
    ผ้ายันต์พระสีสะแรงแงง-พระสีสะแรงแงงหลวงปู่แย้มรุ่นแรก-นางพิมไม่รู้รุ่นคับ-ลุกอมหลวงปู่ตี๋วัดเขาเขียว-หลวงอมพระอธิการใจวัดพระยาญาติ-ดวงใจเศรษฐีหลวงพ่อทองดำ-ตะกรุดเสือแม่ลูกอ่อนหลวงพ่อชำนาญ-ตะกรุดหนังเสือหลวงพ่อเพี้ยนวัดตุ๊กตา-ปลัดขิกศรนารายณ์-พระขุนแผนหลวงปู่แย้มวัดสามง่ามทำจากดินกุมารทอง-ตะกรุดลุกอมโลกธาตุ
    ตอนนี้กำลังจะเอาเหรียญหลวงปู่สิมมหาลา๓ปี17ไปเลี่ยมมาใช้อยู่คับ
    ตอนนอนก้อตะกรุดหลวงพ่อนกวัดเขาบังเหย
    ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ได้ใช้พร้อมกันนะคับ ผมใช้ครั้งล่ะชิ้นสองชิ้นเองคับ
    อยากให้มาแชร์กันเยอะๆอีกครับหนุกดี
     
  17. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ผมชอบปลัด พ่อไท วัดไทรย้อยครับ เมตตา ค้าขาย สุดยอด ประสพการณ์ แถว วัดท่านและ แถวๆชะอำ ครับ ใช้แทน ลพ.อี๋ ได้เลยครับ(พ่อไท เป็นลูกศิษย์ลพ.อี๋ ครับ) ปัจจุบันหาไม่มีเลยครับ คนพื้นที่หวงมาก และไม่ยอมให้ดูอีกต่างหาก ยินดีด้วยครับ คุณBASSY KANT คุณแน่มากขอบอก อิอิ
     
  18. jacky65

    jacky65 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,149
    ค่าพลัง:
    +2,516

    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล แต่แปลกใจมากครับท่านทำพิมพ์เดียวกันเลย ว่างๆจะถ่ายรูปให้ชมครับ
     
  19. jaruwat007

    jaruwat007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +362
    ทั้งหมดที่มีนี้ลุงผมให้มาครับ ลุงผมสะสมแล้วก้อปล่อยบ้างแต่ที่ดีดีก้อจะให้ผมมาใช้คับ ปลัดพ่อไทประสบการณ์เยอะมากคับ ตอนแรกผมหากระทู้ไม่เจอไม่ทราบว่าจะหายังงัยคับขอบคุณมากคับ แบบว่าที่log in เข้าระบบแล้วหากระทู้ได้เรยอ่ะคับ แล้วของคุณพกรัยมั่งคับ แชร์กันหน่อยคับ ฮิฮิ
     
  20. หมื่นทัพ

    หมื่นทัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    2,854
    ค่าพลัง:
    +506
    แต่ละท่านมีของเด็ดๆทั้งนั้น น่าชื่นชม
     

แชร์หน้านี้

Loading...