ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

"เมืองสาวัตถี" คือเมืองหงสาวดีในปัจจุบันนี้ !!!​

​

พงศาวดารเหนือ

หนังสือที่รวมเรียกว่าพงศาวดารเหนือนี้ เป็นหนังสือหลายเรื่องที่มาแต่ครั้งกรุงเก่า เอามารวบรวมแต่งหัวต่อเชื่อมให้เป็นเรื่องเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ มีรับสั่งให้พิมพ์เป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๒

เรื่องพระมาลีเจดีย์

พระยาเชียงทอง เข้าเฝ้า สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ว่ายังมีพระอาจารย์องค์หนึ่งมาถวายพระพรว่า พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระอานนท์ว่า สืบไปเมื่อหน้าเมืองสาวัตถี จะกลายเป็นเมืองหงสาวดี จะมีกษัตริย์องค์หนึ่งพระนามว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช จะสร้างพระมาลีเจดีย์องค์หนึ่งในกลางพระนคร ทุกวันนี้ยังปรากฏมีอยู่ พระมาลีเจดีย์นั้นอยู่ทิศอุดร พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา แจ้งพฤติเหตุแล้วก็มีพระทัยยินดีนัก ในปี จ.ศ.๔๑๓ จึงตรัสสั่งให้ขุนการเวก และพระยาศรีธรรมราชา ภูดาษราชวัตรมเมืองอินทร์ ภูดาษกินเมืองพรหม ยกกระบัตรนายเพลิงกำจาย นายทำนององค์รักษ์ นายหาญใจเพชร นายเด็จสงครามข้าหลวงแปดนาย กับไพร่ห้าร้อยคุมเครื่องบูชาขึ้นไปถวายพระมาลีเจดีย์ คณะดังกล่าวเดินทางไป สุพรรณบุรีถึงบ้านชบา เมืองพระยาเจ็ดตน บ้านรังงาม ด่านทราง เจ้าปู่หิน ถึงแม่น้ำชุมเกลียว ณ ที่นั้นมีพระพุทธไสยาสน์องค์หนึ่งเป็นทองสัมฤทธิ์ ยาวห้าเส้น คณะทั้งหมดเข้าไปนมัสการ แล้วเดินทางต่อถึงเขาฝรั่งยางหิน ถึงตำบลเขาหลวง พอสิ้นแดนกรุงศรีอยุธยา ไปถึง ด่านทุ่งเขาหลวง สิ้นเขตแดนนับได้ ๓๘ วัน จากนั้นขาดระยะบ้านไม่มีผู้คนเดินเลย บ่ายหน้าไปทิศอุดร เป็นป่าใหญ่ เดินไปไม่ต้องแดด เป็นทุ่งอยู่กลางเป็นป่าละเมาะ คนทั้งปวงสิ้นอาหารกินแต่ผลไม้ สิ้นหนทาง ๓๐ วัน จึงเข้า เมืองหงสาวดี มีด่านบ้านพราหมณ์รายไปบ้าง สิ้นหนทางนั้น ๓๐ วัน จึงถึงเมืองหงสาวดี สิ้นทาง ๒ เดือน กับ ๒๑ วัน ทั้งหมดพากันไปพระอาราม เข้าไปนมัสการพระสังฆราชา

วันรุ่งขึ้น พระสังฆราชาให้ปะขาวนำข้าหลวงทั้งปวงเข้าไปในพระอาราม ทำประทักษิณพระระเบียงรอบหนึ่ง พระระเบียงเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสยาวยี่สิบเส้น ขื่อพระระเบียงยาวสองเส้นสิบวา มีพระพุทธรูปรายรอบ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น เป็นพระพุทธรูปสูงสิบวา เสาพระระเบียงแปดเหลี่ยม แต่ละเหลี่ยมวัดได้เก้าศอก สูงถึงท้องขื่อวัดได้ยี่สิบวา ก่ออิฐกระชับรักแล้วถือปูน หุ้มด้วยทองแดงหนาสามนิ้ว แปกลอนระแนงระเบียง ทำด้วยไม้แก่น พื้นพระระเบียงดาษด้วยดีบุกหนาสิบสองนิ้ว

วันรุ่งขึ้นปะขาวนำไปนมัสการพระมาลีเจดีย์ คือองค์พระมาลีเจดีย์ธาตุ เมื่อไปถึงตีนบันไดใต้พระมหาธาตุ วัดฐานได้สามสิบห้าเส้น ห้าวา ทั้งสี่ด้านยาว ร้อยสี่สิบเอ็ดเส้น บันไดขึ้นพระมาลีเจดีย์ทด้วยทองแดงตั้งลงกับอิฐ แม่บันไดใหญ่รอบสามกำ ประตูพระมหาธาตุกว้างสองเส้น สูงห้าเส้น มีหงส์ทองสี่ตัว ประชุมกันเป็นแท่นรอง พระพุทธรูปบนหลังหงส์สองร้อยองค์ แต่ล้วนทองคำทั้งแท่ง สูงสองศอก ข้อเท้าสงส์รอบสิบเอ็ดกำ ตัวหงส์สูง สิบหกศอก ทำด้วยทองคำทั้งแท่ง องค์พระมหาธาตุแผ่ทองคำเป็นแผ่นอิฐ หนาสามนิ้ว กว้างสามศอก ยาวห้าศอก ทองคำหุ้มองค์พระมหาธาตุขึ้นไปจนถึงยอด แล้วเอาลวดทองแดงร้อยหูกันเข้าเอาสายโซ่คล้องเข้าเป็นตาข่าย หุ้มรัดข้างหน่วงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง ยอดพระมหาเจดีย์มีลูกแก้วใหญ่ได้ห้าอ้อมมัชฌิมบุรุษ ข้าหลวงทั้งปวงขึ้นแต่เชิงบันไดตั้งแต่เช้า ถึงประตูพระมหาเจดีย์ได้เวลาเที่ยงนมัสการแล้วกลับลงมาถึงเชิงบันไดก็พอค่ำ พื้นพระมาลีเจดีย์ซึ่งรองหงส์เหยียบอยู่นั้น ดาษด้วยแผ่นเงินหนาสามนิ้ว กว้างสามศอกเป็นสี่เหลี่ยม เหล็กกระดูกพระมาลีเจดีย์ที่ร้อยลูกแก้วใหญ่รอบสิบเอ็ดกำ พระมาลีเจดีย์สร้างเมื่อ ปี พ.ศ.๒๑๑ พระเจ้าศรีธรรมาโสกราชเป็นผู้สร้างขึ้นไว้แต่เดิมก่อด้วยอิฐ แผ่นอิฐหน้าสี่ศอกหกนิ้ว กว้างห้าศอก ยาวห้าวาสองศอก

วันรุ่งขึ้น ปะขาวนำไปนมัสการพระเชตุพนมหาวิหาร บันไดก่อด้วยอิฐกว้างได้สิบเจ็ดเส้นกับสิบวา แต่เชิงบันไดขึ้นไปบนถนนสิบห้าเส้น ถนนยาวได้สิบเจ็ดเส้นกับสิบวา ในพระเชตุพนชั้นในกว้างสามสิบเส้นกับสิบวา เสาก่อด้วยอิฐเป็นแปดเหลี่ยม แต่เหลี่ยมหนึ่งได้เจ็ดวา แต่ประตูพระเชตุพนเข้าไปจนถึงพระอาสนบัลลังก์ ที่ตรัสพระธรรมเทศนา วัดไว้ สิบเจ็ดเส้นกับสิบวา ด้านแปพระเชตุพนยาวได้ เจ็ดสิบห้าเส้น เสาสูงถึงท้องขื่อวัดได้ หนึ่งเส้นสิบวา พระรัตนบัลลังก์อยู่หว่างกลางห้อง พื้นบนดาษด้วยทองคำหนาสามนิ้ว มีพื้นลดลงมาอีกห้อง ดาษด้วยนากหนาสามนิ้ว พื้นลดลงมาอีกชั้นหนึ่งดาษด้วยเงินหนาสามนิ้ว รอบรัตนบัลลังก์ทั้งสี่ด้าน ที่อาสนสงฆ์กว้างสามเส้น พื้นดาษด้วยเงินหนาสามนิ้ว พื้นที่บริษัทนั่งดาษด้วยดีบุกหนาห้านิ้ว นับเสาพระเชตุพนได้ สามพันเสา มีกำแพงรอบพระเชตุพนสูงสิบวา จากพระเชตุพนมาถึงพระมาลีเจดีย์เป็นทางยี่สิบห้าเส้น

พระสังฆราชาให้ปะขาวนำไปดูระฆังทองหล่อหนาสามสิบเอ็ดนิ้ว ปากกว้างห้าวาสองศอก สูงสิบเอ็ดวา ไม้ตีระฆังรอบสามกำ ยาวสามวา โรงระฆังสูงสิบห้าวา เสาไม้แก่น พระสงฆ์มีแต่อารามเดียวเท่านี้ มีบัญชีพระวรรณษาเป็นพระสงฆ์สองหมื่นกับสามองค์ พระสังฆราชาถามว่าพระสงฆ์ในกรุงศรีอยุธยามีผ้าอันใด เป็นผ้าพระสมณสำรวม ขุนการเวกทูลว่าฝ่ายคันถธุระทรงผ้ารัตตกัมพลแดง ฝ่ายวิปัสนาทรงเหลือง พระสังฆราชาว่าในเมืองหงสาวดีนั้นทรงผ้าแดงทั้งสิ้น

ขุนการเวกกับข้าหลวงอยู่ได้ประมาณยี่สิบห้าวันก็กลับคืนมายังกรุงศรีอยุธยา แล้วไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแจ้งพฤติเหตุ ทรงพระราชทานรางวัล แล้วบรรดาผู้ที่มาด้วยกันทั้งสิ้นก็กราบถวายบังคมลาบวช

ที่มา อยากรู้ว่า ถ้าศาสนาพุทธเกิดขึ้นที่อินเดียแล้วใครเอาวัดพระเชตวัน มาสร้างไว้ที่พม่า

หมายเหตุ

เมืองสาวัตถีในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองที่ใหญ่พอกับเมืองราชคฤห์และพาราณสี เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายในสมัยพุทธกาล โดยในสมัยนั้นเมืองสาวัตถีมีพระเจ้าปเสนทิโกศลปกครองร่วมสมัยกับพระเจ้าพิมพิสาร นอกจากนี้เมืองสาวัตถีนับว่าเป็นเมืองสำคัญในการเป็นฐานในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ที่สำคัญเพราะเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา โดย 19 พรรษาที่วัดเชตวันมหาวิหาร (ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี) และอีก 6 พรรษาที่วัดบุพพารามมหาวิหาร (ของนางวิสาขา)

ที่มา http://www.oceansmile.com/India/Sawatthi.htm

 

=====================================


23 ม.ค. 54



11 ม.ค. 53 พญาแร้งบินเหนือราชประสงค์

หลังจากภาพ SuperMan ได้ผ่านไป วันถัดมาก็จะเป็นภาพของสถาบันการ
ศึกษาแห่งหนึ่ง เหล่านักเรียนนักศึกษาต่างก็รวมตัวขับไล่ผู้บริหารของสถาบัน
แห่งนั้น

ภาพจะสื่อถึงการรวมตัวของกลุ่มต่างๆที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือขับไล่ผู้
บริหาร...

จึงขอเตือนมาอย่าเข้าไปเกียวข้องเพราะพญาแร้งบินอยู่เหนือราชประสงค์
ปล่อยให้เวรกรรมจัดการกันเอง




องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

*** ไข้กรรม ****

ถ้า...ไก่ ที่บ้านท่าน เป็นไข้หวัดนก ท่านจะทำอย่างไร ?
ถ้า....คน ที่บ้านท่าน เป็นไข้หวัดนก ท่านจะทำอย่างไร ?

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คุณหนุมาร...ถ้าไก่เป็นไข้หวัดนก...ไม่รู้จะทำอย่างไร
แต่ถ้าคนเป็น.......ก็พาไปหาหมออย่างเดียว

 

สิ้นปีนี้อาจมี ซูปเปอร์โนวา ส่งผลให้แสงสว่างในเวลากลางคืนนานนับสัปดาห์
23 ม.ค. รายงานข่าวจากต่างประเทศแจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. มีนักวิทยาศาสตร์ออกมาอ้างว่า ช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังผ่านปีนี้ ดาวดวงหนึ่งที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้ายามค่ำคืนจะระเบิดจนชาวโลกเห็นว่ามีดวงอาทิตย์สองดวง
ทั้งนี้ ดาวบีเทจุส เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวนายพรานอยู่ห่างจากโลก 640 ปีแสง และ จากการที่ดาวดวงนี้เป็น “ดาวยักษ์ใหญ่แดง” ชี้ให้เห็นว่ามันใกล้ที่จะหมดอายุขัยและใกล้จะเกิดการระเบิดแล้วนั้นเอง ซึ่งการเกิด”ซูปเปอร์โนวา”ครั้งนี้จะให้แสงสว่างที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่โลกเกิดขึ้นมา ส่งผลให้ช่วงเวลากลางคืนของโลกมีแสงสว่างอยู่นานถึงหนึ่งหรือสองสัปดาห์
สำหรับการระเบิดครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อโลก แต่การเผาไหม้จะทำให้เกิดแสงสว่างจนเหมือนมีดวงอาทิตย์ดวงที่สองบนท้องฟ้า และ เมื่อเกิดการระเบิดจะต้องมีอะไรบางอย่างลดลงไปแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แบรด คาร์เตอร์ อาจารย์อาวุโสด้านฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยทางตอนใต้ของรัฐควีนแลนด์ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า การระเบิดของดาวบีเทจุสจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีหรือไม่ ก็ต้องเกิดในวันใดวันหนึ่งในอีกล้านปีแน่นอน
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

ภาพทัพเรือเกาหลีใต้บุก เรือซัมโฮ จิเวลรี ช่วยลูกเรือได้ทั้งหมด พร้อมสังหารโจรสลัดโซมาเลีย 8 คน

โบซาสโซ 23 ม.ค.- โจรสลัดโซมาเลียขู่จะสังหารลูกเรือชาวเกาหลีใต้หากจับเป็นตัวประกันได้อีกอนาคต เพื่อแก้แค้นที่กองทัพเรือเกาหลีใต้สังหารโจรสลัด 8 คนในปฏิบัติการช่วยเรือเกาหลีใต้ที่ถูกปล้น
โจรสลัด 2 กลุ่มซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่บนชายฝั่งโซมาเลียเผยว่า กำลังนำลูกเรือในความควบคุมขึ้นฝั่งเพื่อป้องกันไม่ให้กองเรือรบต่างชาติที่ ลาดตระเวนนอกชายฝั่งเข้าช่วยเหลือ โจรสลัดคนหนึ่งเผยว่า ปกติจะไม่ฆ่าตัวประกันเพราะต้องการเงินค่าไถ่ แต่หากในอนาคตปล้นเรือเกาหลีใต้ได้อีกจะไม่เรียกค่าไถ่อีกแล้ว แต่จะแก้แค้นด้วยการเผาเรือและฆ่าลูกเรือ พวกเขาจะพยายามให้มากขึ้นเพื่อปล้นเรือเกาหลีใต้ให้ได้

ด้านเจ้าหน้าที่โครงการช่วยเหลือนักเดินเรือในแอฟริกาตะวันออกซึ่งตั้งอยู่ ในเคนยากล่าวว่า โจรสลัดมักย้ายตัวประกันไปซ่อนเมื่อตกอยู่ในภาวะแตกตื่น แต่ไม่แน่ใจเรื่องคำขู่ฆ่าลูกเรือชาวเกาหลีใต้เพราะเป้าหมายหลักของโจรสลัด คือเงินค่าไถ่ บริษัทซัมโฮชิปปิงเจ้าของเรือซัมโฮจิวเวลรีที่ได้รับการช่วยเหลือเมื่อวัน ศุกร์เคยถูกโจรสลัดโซมาเลียยึดเรือซัมโฮดรีม ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันนานถึง 7 เดือนก่อนได้เรือคืนในเดือนพฤศจิกายน กลุ่มโจรเผยว่า ได้เงินค่าไถ่เรือ 9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 285 ล้านบาท)
รายงานเมื่อต้นเดือนนี้ชี้ว่า การปล้นเรือสร้างความเสียหายทั่วโลกปีละ 7,000-12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 210,000-360,000 ล้านบาท) และเหตุปล้นเรือนอกชายฝั่งจงอยแห่งแอฟริกาที่เกิดขึ้นบ่อยทำให้ต้นทุนการ เดินเรือในมหาสมุทรอินเดียสูงขึ้น.
<LI class=news_src_item>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>น้ำในแม่น้ำโขงแห้งกระทบเรือเดินสินค้า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>แม่น้ำโขง จ.เชียงราย แห้ง เห็นเนินทรายกลางแม่น้ำชัดเจน ระดับน้ำลดลงวันละ 9 เซนติเมตร ส่งผลกระทบเรือเดินสินค้าแล้ว

น้ำในแม่น้ำโขง ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง

และขณะนี้ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ยาวจนถึงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ได้มองเห็นหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำโขงอย่างชัดเจน และบางจุดก็มองเห็นเนินทรายกลางแม่น้ำโขง ซึ่งบางจุดในแม่น้ำโขงส่งผลกระทบต่อการเดินเรือแล้ว โดยเฉพาะเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่ออกมาจากท่าเรือก่วนเหล่ย มณฑลยูนนาน ชายแดนจีนตอนใต้ เพื่อมาเทียบท่าเรือเชียงแสน เนื่องจากเรือสินค้าต้องใช้ระดับที่ลึกกว่า 2 เมตร ในการเดินเรือ

ด้าน สถานีอุทกวิทยา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ระบุว่า

ระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้ลดลงทุกวัน โดยมีการตรวจวัดที่ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ลดลงวันละ 9 เซนติเมตร โดยวันที่ 22 มกราคม ระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ 2.39 เมตร วันที่ 23 มกราคม ระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ 2.30 เมตร และวันนี้ 24 มกราคม ระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ 2.21 เมตร​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โครงการอลังการเกาะ"เดอะ เวิล์ด"ของดูไบ ทรุดตัวจมทะเล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>เกาะ เดอะเวิลด์</TD></TR></TBODY></TABLE>โครงการอลังการเกาะ"เดอะ เวิล์ด"ของดูไบ ทรุดตัวจมทะเล สื่ออึ้งวิจารณ์เป็นสัญญาณหายนะโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวัน ที่ 24 ม.ค.ว่า โครงการพัฒนาสร้างเกาะ"เดอะ เวิล์ด"ซึ่งเป็นแหล่งลงทุนพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ของเมืองดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำลังเผชิญภาวะสถานการณ์จมลงสู่ทะเล นอกเหนือจากการเผชิญภาวะวิกฤตด้านการเงินหลังจากนักลงทุนแห่ถอนการลงทุนเพราะพิษวิกฤตเศรษฐกิจโลก

รายงานระบุว่าโครงการดังกล่าวซึ่งเป็นการสร้างเกาะขึ้นมาบนทะเล และเนรมิตให้เป็นภาพคล้ายแผนที่โลก กำลังทรุดตัวลงทะเลแล้ว

โดยล่าสุด บริษัทดำเนินกิจกรรมเรือข้ามฟากไปยังเกาะอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ ได้ถอนสัญญาลงทุนจากบริษัท"นัคฮีล"ซึ่งเป็นเจ้าของโปรเจ็คส์"เดอะ เวิล์ด"แล้ว เนื่องจากขาดลูกค้า และเกาะมีอาการทรุดตัวจมลงตัว และทนายความของบริษัทดังกล่าว หรือ"เพนกวิน มาร์รีน"ให้การต่อศาลพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดูไบว่า มีหลักฐานว่าเกาะ"เดอะ เวิล์ด"กำลังจมลงสู่ทะเล ขณะที่"นัคฮีค"ยอมรับว่า โครงการพัฒนาเกาะเดอะเวิล์ดขณะนี้อยู่ในภาวะขั้นโคม่าย่ำแย่

ทั้งนี้ การอ้างเปิดเผยถึงภาวะเกาะทรุดตัวจมทะเลของโครงการ"เดอะ เวิล์ด"มีขึ้นหลังจากรอยเตอร์ ได้จัดทำโพลที่ระบุว่า ราคาของอสังหาริมทรัพย์บนเกาะ"เดอะ เวิล์ด"จะตกลงอีก 10 % ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยก่อนหน้านี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ได้ตกลง 58 % จากช่วงราคาแพงสูงสุดช่วงไตรมาสสี่ของปี 2008

อนึ่งเหตุการณ์นี้ยังทำให้สื่อมวลชนบางสำนักที่รายงานข่าวโครงการเกาะเดอะเวิล์ดจมทะเลตีข่าวว่า เป็นเหมือนสัญญาณวันสิ้นโลกด้วย

<!--อ่านล่าสุด คน--><TABLE style="MARGIN-TOP: 20px; MARGIN-BOTTOM: 10px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left>
<!----></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หน่วย"กิโลกรัม"อาจไม่เหมือนเดิม หลังนักวิทยาศาสตร์พบ"ต้นแบบ"นน.หายไป 50 ไมโครกรัม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
หน่วย"กิโลกรัม"อาจไม่เหมือนเดิม หลังนักวิทยาศาสตร์พบ"ต้นแบบ"นน.หายไป 50 ไมโครกรัม



นักวิทยาศาสตร์กล่าวในวันนี้(24 มค.)ว่า เตรียมการที่จะพิจารณาการกำหนดขอบเขตนามธรมของ"กิโล"เสียใหม่ หลังพบว่า"สิ่งประดิษฐ์" ที่ทำจากแท่งโลหะ ซึ่งใช้เป็นมาตรฐานชั่งตวงดังกล่าวอาจมีความคลาดเคลื่อนในด้านน้ำหนักอยู่เล็กน้อย

ปัจจุบัน น้ำหนักมาตรฐานของหน่วยกิโล อยู่ที่ประมาณ 2.2046 ปอนด์ ซึ่งใช้แท่งเหล็กซึ่งเรียกว่า "ต้นแบบกิโลกรัมสากล"(International Prototype Kilogram) หรือ ไอพีเค ซึ่งทำจากแพลตินัมและอิริเดียม เป็นตัววัด และถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีที่ประเทศฝรั่งเศส

แต่นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากแสดงความเป็นห่วงต่อแท่งโลหะดังกล่าว ซึ่งถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีที่สำนักงานชั่งและวัดนานาชาติ (International Bureau of Weights and Measures) หรือ บีไอพีเอ็ม ที่เมือง Sèvres ประเทศฝรั่งเศส หลังจากที่พบว่ามัน"สูญเสียน้ำหนัก"จำนวนเล็กน้อยอย่างลึกลับ

ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันดังกล่าว เปิดเผยเมื่อปี 2007 ว่าแท่งโลหะดังกล่าว มีน้ำหนักเบาลง 50 ไมโครกรัม หรือ 0.0000017 ออนซ์ จากมาตรฐานที่ควรจะเป็น ดังนั้นพวกเขาจึงหาวิธีการที่จะกำหนดขอบเขตทางนามธรมของหน่วย"กิโล"เสียใหม่ ร่วมกับหน่วยชั่งตวงวัดมาตรฐานสากลอื่นๆอีก 6 ประเภท อันได้แก่ เมตร, วินาที, แอมแปร์, เคลวิน, กรัมโมเลกุล และแคนเดล่า (หน่วยความเข้มของความสว่าง)

การทดลองจะมุ่งเน้นในด้านการหาจุดเชื่อมโยงระหว่างจุดคงตัวของ"มวล"และ"พลังค์" ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของการวัดของหน่วยของพลังงานทางฟิสิกส์ เพื่อหาคำจำกัดความใหม่ของกิโล

นายไมเคิล สต็อค นักวิทยาศาสตร์จากบีไอพีเอ็ม ซึ่งจะเข้าร่วมการประชุมในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่กรุงลอนดอน กล่าวว่า แท่งโลหะดังกล่าว หรือที่เรียกว่า "ต้นแบบสากล" อาจจำเป็นต้องสิ้นสุดการใช้งานเสียที

"การวัดเริ่มมีความเที่ยงตรงขึ้นเรื่อยๆ และความแม่นยำในการวัด จำเป็นต้องใช้เครื่องมือการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อแสดงผลของมัน" เขากล่าว

และกล่าวเสริมว่า "ผลการทดลองของคืบหน้าไปมาก อย่างไรก็ดี มันเร็วไปที่จะทำให้ผลการกำหนดขอบเขตน้ำหนักของกิโลกรัมบรรลุผล"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

มณฑลชานตงเผชิญความแห้งแล้งรุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

ปักกิ่ง 24 ม.ค.- หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีระบุวันนี้ว่า มณฑลซานตง ทางภาคตะวันออกของจีน กำลังเผชิญกับภาวะแห้งแล้งรุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ โดยประชาชนเกือบ 250,000 คน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่ม

หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีรายงานว่า เมืองหลินอี้ รื่อเจ้า และเว่ยฟาง ของมณฑลซานตง ต้องประสบภาวะแห้งแล้งที่ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงอย่างมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถดับเพลิงบรรทุกน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชน ด้านศูนย์บรรเทาภัยแล้งและควบคุมน้ำท่วมประจำมณฑลซานตงได้เตือนว่า หากยังไม่มีฝนตกลงมาในเร็วๆ นี้ จำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบอาจพุ่งสูงเป็น 300,000 คน จากในปัจจุบันที่มีจำนวนมากกว่า 240,000 คน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ได้เดินทางเยือนมณฑลเหอหนาน ในภาคกลาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มเพื่อเก็บสำรองน้ำในปีนี้. -สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 24 ม.ค. 2554

น้ำท่วมที่แอฟริกาใต้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

โจฮันเนสเบิร์ก 24 ม.ค.- อุทกภัยในประเทศแอฟริกาใต้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 100 คน และไร่นาอีกเป็นจำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้รัฐบาลต้องประกาศให้เทศบาล 33 แห่งเป็นเขตภัยพิบัติ

รัฐบาลแอฟริกาใต้กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่ามี 41 คน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดควาซูลู-นาทาล

บ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในพื้นที่นครโจฮันเนสเบิร์ก รวมไปถึงในจังหวัดทางภาคเหนือและตะวันออก ส่วนที่ประเทศโมซัมบิกถูกน้ำท่วมหนักเช่นกัน ประชาชนกว่า 13,000 คนสูญเสียบ้านเรือนหรือได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมสูง

ทรานสเนท กลุ่มศึกษาด้านการขนส่งลำเลียงของแอฟริกาใต้กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักในเดือนนี้กระทบต่อการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ส่งผลต่อการส่งออกถ่านหินและข้าวโพด.-สำนักข่าวไทย​

วันจันทร์ ที่ 24 ม.ค. 2554

น้ำท่วมทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียอาจยืดเยื้ออีกสัปดาห์​

​

เมลเบิร์น 25 ม.ค. – วิกฤติน้ำท่วมในออสเตรเลียทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในวันนี้ ขณะที่พื้นที่น้ำท่วมเริ่มขยายบริเวณกว้างทั่วทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ต้องจมอยู่ใต้น้ำและคร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 30 คน รวมทั้งทำลายหรือสร้างความเสียหายแก่บ้านและธุรกิจ 30,000 แห่ง อีกทั้งส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรและการส่งออกถ่านหินคิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 3,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 90,000 ล้านบาท)

ขณะที่พื้นที่น้ำท่วมกำลังขยายบริเวณกว้างในรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่ง หน่วยบริการสถานการณ์ฉุกเฉินเตือนว่า พื้นที่น้ำท่วมเป็นะระยะทางถึง 90 กม.ในเมืองเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย จะขยายบริเวณกว้างไปเรื่อย ๆ ในสัปดาห์หน้า จนกว่าน้ำจะเริ่มระบายลงสู่แม่น้ำเมอร์เรย์

นอกจากนี้ หน่วยบริการสถานการณ์ฉุกเฉินได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในเมืองสวอนฮิล ซึ่งเป็นบริเวณที่แม่น้ำเมอร์เรย์และแม่น้ำลอดเดนไหลมาบรรจบกัน โดยต้องอพยพประชาชนหลายร้อยคนออกจากบ้านเรือนเมื่อวานนี้ ขณะที่ในวันนี้ ประชาชนจำนวนหนึ่งในชุมชนเมอร์ราบิทเวสต์ ห่างจากเมืองสวอนฮิลไปทางตะวันออกราว 50 กม. ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน เพราะน้ำในแม่น้ำเมอร์เรย์เริ่มเอ่อล้นเขื่อนกั้นน้ำเข้าท่วมเมืองแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียจะประกาศการประเมินความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติดังกล่าวครั้งแรกในวันศุกร์นี้ -สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 24 ม.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>

คลิประทึก!'คลื่นมหึมา'ซัดถล่มขณะแข่งโต้คลื่น กวาดผู้ชมบาดเจ็บนับสิบ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 align=center><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์​

</TD><TD class=date vAlign=center align=left>

25 มกราคม 2554 04:45 น.​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<CENTER><OBJECT id=ep classid=clsid27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 width=416 height=374>
























</p>&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp

<embed src="http://i.cdn.turner.com/cnn/.element/apps/cvp/3.0/swf/cnn_416x234_embed.swf?context=embed&videoId=us/2011/01/24/nr.seg.mavericks.high.surf.cnn" type="application/x-shockwave-flash" bgcolor="#000000" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="416" wmode="transparent" height="374"></embed></OBJECT></CENTER>

ซีเอ็นเอ็น/ฟ็อกซ์นิวส์ - สำนักต่างประเทศเผยแพร่คลิปวิดีโอระทึก
นาทีที่คลื่นทะเลขนาดยักษ์ถาโถมเข้าซัดประชาชนที่มาร่วมชมการแข่ง
ขันกระดานโต้คลื่นทางเหนือของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้า
วันเสาร์(22) เล่นงานผู้ชมที่อยู่บนกำแพงริมหาดกั้นคลื่นบาดเจ็บ
ระนาว ในจำนวนนั้นถึงขึ้นกระดูกหักเลยก็มี

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 15 ราย
โดยในนั้นมีอย่างน้อย 3 รายที่อาการหนักถึงขั้นขาและแขนหักจนต้องถูกนำส่ง
โรงพยาบาล ส่วนคนอื่นๆได้รับการรักษาแผลถลอกเล็กๆน้อยๆบริเวณชายหาด

สกอตต์ จาลเบิร์ต หัวหน้าศูนย์ป่าไม้และป้องกันไฟแคลิฟอร์เนีย คาดหมายว่า
ประชาชนราว 200 คนที่ยืนอยู่บนกำแพงกั้นคลื่น ณ แหลมหาดแมเวอริคส์
เฝ้าชมการแข่งขันกระดานโต้คลื่นที่มีนักโต้คลื่นระดับโลกเข้าร่วมชิงชัย
หลายคน ในช่วงที่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าใส่ ขณะที่ผู้เข้าแข่งขันก็เอาตัวรอด
ได้อย่างทุลักทุเล

"ไม่มีใครถูกซัดตกลงไปในทะเล มันกวาดพวกเขาปลิวขึ้นไปบนชายหาด
ซึ่งเป็นพื้นที่แข็ง" จาลเบิร์ด กล่าว "ตรงนั้นมีแต่หิน เราจึงจัดการเคลียร์
ชายหาดเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง"

ปาเมลา แมสเซตเต ผู้ได้รับบาดเจ็บแผลถลอกและมีเลือดไหล รวมทั้ง
เนื้อตัวเปียกปอนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า
"มันมาจากไหนก็ไม่รู้และพัดเราลอยไปคนละทิศละทาง"




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

​

​

รวบ 5 การ์ด นปช.เตรียมป่วนบึ้ม พธม. ตะลึงพบระเบิด-อาร์พีจี-เอ็ม79 เพียบ!​

​

รวบ จยย.รับจ้างเสื้อแดง หิ้วทีเอ็นทีจ้องบึ้มป่วนเมือง ใกล้เวทีพันธมิตรชุมนุม เค้นสอบสารภาพรับจ้างมาป่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯวันพรุ่งนี้ ตร.ขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 4 คาบ้านเช่าย่านบางมด พบเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี - เอ็ม 79 และกระสุนอีกจำนวนมาก ขณะที่"อัศวิน"ระบุจรวดอาร์พีจีชนิดเดียวกับที่ยิง ก.กลาโหม ด้าน ผบช.น.ยัน เป้าหมายหวังบึ้มพันธมิตร แถมพบวงจรระเบิดเชื่อมโยงเหตุระเบิดที่บิ๊กซีราชดำริ-สน.ลุมพินี-มหาชัย

วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 เปิดเผยว่า การ์ดกลุ่มพันธมิตรฯได้จับกุมชายต้องสงสัย 1 คน ได้บริเวณสะพานมัฆวานฯ ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.นางเลิ้ง พร้อมกับตรวจค้นภายในร่างกาย พบระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูก ชนิดตั้งเวลา

เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับการสารภาพว่าได้รับว่าจ้างมาให้ป่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในวันพรุ่งนี้

จากนั้นพล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ได้จัดการให้ฝ่ายสอบสวนของ บก.น.6 สอบขยายผลเข้าไปจนสามารถจับกุมชาย 4 คน ภายในบ้านเช่าหลังหนึ่งย่านบางมด ตรวจค้นพบอาวุธที่ใช้เตรียมก่อเหตุเป็นเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี พร้อมกระสุนจำนวนมาก และปืนเอ็ม 79 พร้อมกระสุนจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าในวันพรุ่งนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. จะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง

มีรายงานแจ้งว่า กลุ่มชายต้องสงสัยทั้ง 5 คน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวได้นั้น เป็นการ์ดของกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

ต่อมาเวลา 20.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาที่จับตัวได้ด้วยตนเองที่ บก.น.6

เวลา 22.00 น.ภายหลัง พล.ต.อ.อัศวิน ที่เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.20 น.ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จับกุมนายธวัชชัย เอี่ยมนาค อายุ 37 ปี อาชีพขับ จยย.รับจ้าง วินเจริญนคร 28 ได้ขณะที่ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า นูโว หมายเลขทะเบียน สยบ676 กทม. ตรวจค้นภายในตัวพบระเบิดแสวงเครื่อง เป็นระเบิดทีเอ็นทีน้ำหนัก 1 ปอนด์ จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาประกอบเรียบร้อยพร้อมวางก่อเหตุ ขณะที่อีก1 ลูกเป็นระเบิดแสวงเครื่องยังไม่ได้ประกอบ มีพลุส่องสว่าง ประกอบเชื้อปะทุไฟฟ้า จุดชนวนด้วยโทรศัพท์โนเกีย 3310 โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณแยกสวนมิกสวัน จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่กลางซอยพระราม 2 ซอย 28 ในบ้านพักพบเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 1 กระบอก ลูกยิงอาร์พีจี 3 ลูก ลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 34 ลูก เครื่องกระสุนอีกหลายรายการ ก่อนนำผู้ต้องหามาสอบปากคำ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า จะนำระเบิดไปวางที่บริเวณด้านหลังทำเนียบรัฐบาล บริเวณน้ำพุ ริมคลองผดุงกรุงเกษม แต่เนื่องจากมีการวางแผงเหล็กและรั้วลวดหนามกั้น คนร้ายจึงเปลี่ยนใจไปวางอีกจุดหนึ่ง ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัว

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่ออีกว่า กรณีที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระสยามเทวาธิราชมีจริง ที่ยังปกปักรักษาคุ้มครองคนไทยให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ร้ายแรง อย่างไรก็ตามระเบิดอาร์พีจีที่ยึดได้เป็นชนิดเดียวกับที่ยิง ก.กลาโหม ก่อนหน้านี้อีกด้วย

ด้านพล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันของกองบัญชาการตำรวจนครบาล -บก.น.6 ร่วมกับชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.อัศวิน สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เตรียมก่อเหตุบริเวณใกล้กับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ซึ่งจากการตรวจสอบวงจรระเบิดจากผู้เชี่ยวชาญพบว่า มีความเชื่อมโยงกับระเบิดป่วนกรุงหลายจุดใน กทม. ที่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ ระเบิดที่ สน.ลุมพินี และระเบิดที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนต่อไป

พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า ปกติลักษณะการก่อเหตุของคนร้าย เชื้อปะทุไฟฟ้าและโทรศัพท์จะไม่อยู่รวมกัน แต่กรณีนี้อยู่รวมกันเพราะว่าเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งหลังจากนี้ได้สั่งการให้บก.น.1-9 ตั้งด่านตรวจเข้ม เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีมาสร้างสถานการณ์

พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า กลุ่มของผู้ต้องหาครั้งนี้เป็นลักษณะของเซคันด์บอมบ์ ก็คือมีการนำระเบิดลูกแรกไปวางก่อนเพื่อให้ ตร.ไปตรวจสอบ จากนั้น 30 นาทีก็จะมีการจุดชนวนระเบิดลูกที่ 2 ซึ่งก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ชุดสืบสวนได้มีการแกะรอยมานาน และทราบว่าผู้ต้องหาจะมาก่อเหตุบริเวณใกล้ทำเนียบรัฐบาล โดยสามารถจับกุมได้ขณะผู้ต้องหาเตรียมก่อเหตุ สอบสวนผู้ต้องหายอมรับตั้งใจมาก่อเหตุบริเวณหลังทำเนียบฯ แล้วเปลี่ยนใจย้ายจุดมาวางที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ก่อนจะถูกจับกุม ทั้งนี้ผู้ต้องหารับไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และตั้งใจสร้างสถานการณ์ แต่จะหวังผลอะไรให้สอบถามผู้ต้องหาเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าคนร้ายประสงค์ต่อชีวิตหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า หากพิจารณาพฤติการณ์ของคนร้าย คือลูกแรกมีการวางระเบิดตั้งเวลา 30 นาที ซึ่งหากเกิดระเบิดขึ้นจะมีรัศมีทำลายล้าง 10 เมตร หากมีประชาชนอยู่ใกล้อาจทำให้เกิดการสูญเสีย ส่วนลูกที่ 2 จะมีการวางใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ เพื่อให้เกิดระเบิดซ้ำ หากอยู่ใกล้ก็จะได้รับอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้า พฐ.เข้าตรวจสอบวัตถุระเบิดดังกล่าวอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอาวุธที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการจับกุมได้นั้น ประกอบด้วย ลูกยิงอาร์พีจี จำนวน 3 นัด , เครื่องยิงอาร์พีจี 1 กระบอก , ดินขับ 3 ชุด ,ตัวชนวน 4 อัน , กระสุนซ้อมยิงใช้กับปืนขนาด 20 มม. จำนวน 2 นัด , ลูกระเบิดขนาด 40 มม. เป็นแบบลูกปราย 3 นัด แบบเจาะเกราะ 4 นัด แบบสังหาร 27 นัด ซึ่งใช้กับ เอ็ม 79 , กระสุนขนาด 7.62 ใช้กับปืนอาก้า 23 นัด ,กระสุนขนาด 5.56 ใช้กับ เอ็ม16 จำนวน 115 นัด , กระสุนแบบเอ็ม 60 ขนาด 7.62 จำนวน 35 นัด ,กระสุนปืนคาร์บิ้น 117 นัด และรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บท-4330 ลำปาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้ต้องหา ทั้ง 5 คนประกอบด้วย
1.นายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาค อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 784 ถ.เจริญนคร แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กทม.
2.นายดร มาตา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.3 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
3.นายนพคุณ ศรีวงศ์มงคล อายุ 60 ปี อยู่บ้านลขที่ 37 ซ.พระราม 2ซอย 69 แยก 2-8 แขวงสแมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
4.นายวิวัฒน์ หรือ เซี๊ยะ วัฒนสกุลยิ้ม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/125 ซ.ศิลปเดช ถ.จอมทอง แขวงบางค้อ เขตบางขุนเทียน กทม.
5.นายมานัส รันรัตน์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/2 ต.ท่าช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดแถลงผลการจับกุมอีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

ที่มา http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000010211

 

=====================================


25 ม.ค. 54


ขุนคลัง

ภาพวันนี้ ตัวเองกลับมาเป็นนักเรียนชั้นประถมเจ็ด ครูประจำชั้นได้ให้นักเรียน
จับคู่กันเป็นคู่ๆ เพื่อช่วยตอบปัญหาเกี่ยวกับ เงินคงคลัง สมมุติว่าถ้านักเรียนได้
เป็นขุนคลัง นักเรียนจะมีวิธีการบริหารการเงินอย่างไร? เมื่อมาถึงคู่ผม ผมก็
ตอบแบบเรียบง่าย ว่าไม่ต้องทำอะไรมาก ถ้าเงินคงคลังมีอยู่พอเพียง ขอให้
ยืดหยุ่นการบริหารเงินเล็กน้อยไม่ต้องตกใจกับค่าเงินของประเทศอื่นที่มีปัญหา
เพราะไม่เก็บเงินคงคลังไว้เลย

ภาพนี้จะสื่อถึงการเงินการคลังของประเทศ ต่อไปคงมีปัญหาตามมา



ตกรถไฟ

ภาพถัดมาจากภาพ ขุนคลัง ผมและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันหอบหิ้วเครื่องมือเพื่อที่
จะขึ้นรถไปสาย กรุงเทพฯ ตะพานหิน ผมมองดูนาฬิกาเหลือเวลาอีก 3นาที
ขบวนรถก็จะออกจากสถานีหัวลำโพง ผมจึงเร่งเพื่อนที่มาด้วยให้รีบเพราะขบวน
รถเริ่มเคลื่อนตัว ผมวิ่งตามรถไปแต่ไม่ทันเสียแล้ว

ภาพนี้จะสื่อถึง การเดินทางของผมช่วงหลังตรุษจีนไปแล้ว ผมตั้งใจว่าจะทำ
การขนย้ายบ้านน็อคดาว์นขึ้นไปฐานผาแบ่นแต่คงมีการเลื่อน ยังไม่ทราบว่า
เลื่อนเพราะสาเหตุอะไร?

พญาแร้งที่ราชประสงค์ ชอบเกาะอยู่ตามตึกสูง มีสายตาอันเฉียบคมมองไปที่
เหยื่อรายใดเหยื่อรายนั้นก็จะล้มลงโดยที่พญาแร้งไม่ต้องบินเข้าใกล้ตัวเหยื่อเลย





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

เอฟเอโอเตือนโลกอาจเผชิญวิกฤติอาหารอีกครั้ง​

​

เอฟเอโอ 25 ม.ค. - องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เตือนโลกอาจเผชิญกับวิกฤติอาหารอีกครั้ง

รายงานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เตือนโลกใกล้จะเผชิญกับวิกฤติอาหารอีกครั้ง หลังจากที่ดัชนีราคาอาหารทั่วโลกทำสถิติปรับตัวพุ่งขึ้นเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว สร้างความหวั่นเกรงว่า โลกอาจเผชิญกับวิกฤติอาหารแพงเหมือนเมื่อปี 2551 ซึ่งส่งผลให้เกิดจลาจลในหลายประเทศ ทั้งยังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ไปจนถึงการขาดดุลการค้า

นายฌากส์ ดิอุฟ ผู้อำนวยการเอฟเอโอ เตือนว่า ปัญหาราคาอาหารทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปี ตราบใดที่นานาชาติยังไม่สามารถแก้ปัญหาระบบการเกษตรที่ไม่สมดุล รวมทั้งปัญหาการกีดกันทางการค้า. - สำนักข่าวไทย

วันอังคาร ที่ 25 ม.ค. 2554

การว่างงานทั่วโลกทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์​

​

เจนีวา 25 ม.ค. - องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เตือนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกไม่ได้ทำให้เกิดการจ้างงาน และอัตราการว่างงานในโลกยังคงมีถึง 205 ล้านคน ในปีที่แล้วซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์

ไอแอลโอชี้ว่า แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นอย่างมากในหลายประเทศ แต่อัตราการว่างงานในโลกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปี 2552 มิหนำซ้ำยังมากกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2550 ถึง 27.6 ล้านคน

ไอแอลโอคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานของประชากรโลกในปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 6.1 หรือมีจำนวน 203.3 ล้านคน โดยกว่าครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาเกิดขึ้นในประเทศอุตสาหกรรมและสหภาพยุโรปซึ่งคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่เข้าสู่วัยทำงานไม่สามารถหางานทำได้ ส่วนในประเทศกำลังพัฒนา เช่น บราซิล คาซัคสถาน และไทย พบว่าการว่างงานอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ

ไอแอลโอระบุด้วยว่า นอกจากการว่างงานแล้วยังมีประชากรโลกประมาณ 1,530 ล้านคน มีงานทำไม่ถาวร สถานการณ์นี้แทบไม่เปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงจากช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจซึ่งสภาวะเช่นนี้ลดลงอย่างมากและต่อเนื่อง

สำหรับตัวเลขของคนหนุ่มสาวที่ว่างงานในปีที่แล้ว พบว่ามีถึง 78 ล้านคนทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2550 ที่มีเพียง 73.5 ล้านคน.- สำนักข่าวไทย

วันอังคาร ที่ 25 ม.ค. 2554

น้ำท่วมแอฟริกาใต้ตายแล้ว 123 ราย​

​

แอฟริกาใต้ 25 ม.ค. - อุทกภัยในประเทศแอฟริกาใต้ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 123 คน รัฐบาลต้องประกาศให้เทศบาล 33 แห่งเป็นเขตภัยพิบัติ

รัฐบาลแอฟริกาใต้กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 123 คน ส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดควาซูลู-นาทาล บ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในพื้นที่นครโจฮันเนสเบิร์ก รวมไปถึงในจังหวัดทางภาคเหนือและตะวันออก ชาวบ้านกว่า 20,000 คน ได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลต้องประกาศให้เทศบาล 33 แห่งจาก 8 ใน 9 จังหวัดเป็นเขตภัยพิบัติ ส่วนที่ประเทศโมซัมบิกถูกน้ำท่วมหนักเช่นกัน ประชาชนกว่า 13,000 คน สูญเสียบ้านเรือนหรือได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมสูง

ทรานสเนท กลุ่มศึกษาด้านการขนส่งลำเลียงของแอฟริกาใต้ กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักในเดือนนี้กระทบต่อการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ส่งผลต่อการส่งออกถ่านหินและข้าวโพด. - สำนักข่าวไทย

วันอังคาร ที่ 25 ม.ค. 2554

เหยื่อระเบิดสนามบินกรุงมอสโก ตายเพิ่มเป็น 35 ราย​

​

มอสโก 25 ม.ค. - มีความคืบหน้าเหตุระเบิดรุนแรงภายในท่าอากาศยานเดโมเดโดโว ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 35 คน และบาดเจ็บ 145 คน

ภาพที่ผู้โดยสารภายในสนามบินเดโมเดโดโวสามารถบันทึกได้ และนำไปโพสต์ลงเว็บไซต์ยูทูบ เผยให้เห็นกลุ่มควันจำนวนมากภายในอาคารผู้โดยสาร มีร่างผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายอยู่บนพื้นอาคาร ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย รายงานว่า ระเบิดเกิดขึ้นบริเวณจุดรับกระเป๋าเดินทางภายในอาคารสนามบินเดโมเดโดโว ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 40 กิโลเมตร และน่าจะเป็นการก่อเหตุของมือระเบิดฆ่าตัวตาย โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่อยู่ภายในสนามบินจำนวนมาก มีรายงานผู้เสียชีวิตล่าสุด 35 คน บาดเจ็บมากกว่า 145 คน

ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมประณามว่าเป็นการก่อการร้ายและจะต้องถูกติดตามตัวมาดำเนินคดี ผู้นำรัสเซียยังได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสนามบินและสถานที่สำคัญทั่วกรุงมอสโก ขณะที่มีรายงานว่า ประธานาธิบดีเมดเวเดฟได้เลื่อนการเดินทางไปร่วมประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองตากอากาศดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ตามกำหนดในวันนี้ เพื่อเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคง. - สำนักข่าวไทย

วันอังคาร ที่ 25 ม.ค. 2554

ระเบิดรถยนต์ในอิรัก 2 ระลอก เสียชีวิต 25 ราย​

​

อิรัก 25 ม.ค. - เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ 2 ระลอก พุ่งเป้าโจมตีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมชีอะห์ในเมืองคาร์บาลา อิรัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 25 คน และบาดเจ็บมากกว่า 70 คน

โดยระเบิดรถยนต์ครั้งแรกเกิดขึ้นบริเวณท่าจอดรถโดยสารซึ่งมีผู้แสวงบุญชาวชีอะห์จำนวนมากรอขึ้นรถเพื่อเดินทางไปร่วมประกอบพิธีทางศาสนาในเมืองคาร์บาลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 18 คน อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เกิดระเบิดรถยนต์ระลอกที่ 2 ทางทิศใต้ของเมืองคาร์บาลา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 18 คน และบาดเจ็บมากกว่า 50 คน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งเกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดรถยนต์และระเบิดฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง ในเมืองต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่พุ่งเป้าโจมตีผู้แสวงบุญชาวชีอะห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 56 คน และบาดเจ็บมากกว่า 180 คน. - สำนักข่าวไทย

วันอังคาร ที่ 25 ม.ค. 2554

มีผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ฟิลิปปินส์​

​

มะนิลา 25 มค. - ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลฟิลิปปินส์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และบาดเจ็บอีก 15 คน

ตำรวจคาดว่าระเบิดซุกซ่อนอยู่ในรถโดยสารที่กรุงมะนิลา วันนี้ ล่าสุดโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีแถลงยืนยันว่า เป็นการติดอุปกรณ์ระเบิดไว้บริเวณส่วนกลางของรถโดยสาร แต่ยังไม่ได้ระบุชนิดของระเบิดที่แน่ชัด

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงมะนิลากล่าวต่อสถานีโทรทัศน์เอเอ็นซีคาดว่า ระเบิดถูกซ่อนไว้ใต้เบาะโดยสาร โดยเบื้องต้นมีรายงานยืนยันผู้เสียชีวิต 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บ 15 คนอยู่ที่โรงพยาบาล รถโดยสารคันดังกล่าววิ่งอยู่ในย่านธุรกิจมากาติระหว่างที่เกิดระเบิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 13.00 น.ในไทย ก่อนหน้านี้โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี กล่าวว่า เหตุรถบัสระเบิดไม่ได้มีสาเหตุมาจากการวางระเบิด แต่อาจเป็นเพราะเครื่องยนต์หรือระบบไฟฟ้าขัดข้อง แต่ล่าสุดยืนยันแล้วว่าเป็นการวางระเบิดและกำลังดำเนินการสอบสวน .-สำนักข่าวไทย

วันอังคาร ที่ 25 ม.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ความกดอากาศสูงจากจีนปกคลุมภาคอีสานส่งผลตอนบนอากาศหนาวเย็นต่อ กทม.เย็นสุด22องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาษประจำวันที่ 25 มกราคม 2554

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็น

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างทะเลจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25-28 ม.ค.นี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า
ตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ส่วนตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ส่วนตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) บริเวณจังหวัดชุมพรขึ้นมา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ชาวลับแลตื่นน้ำทิพย์วิเศษทาแล้วหายอัมพาต </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ชาวเมืองลับแลแห่ตื่นน้ำทิพย์วิเศษ หยดจากชายคามณฑปเก็บอัฐฐิอดีตเจ้าอาวาสวัดดอยมูล เชื่อทาแล้วหายอัมพาต ตาฝาง

วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนพากันแห่ที่วัดดอยมูล หมู่ 2 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เพื่อพิสูจน์ปรากฎการณ์น้ำหยดลงมาจากชายคามณฑปเก็บอัฐฐิของพระครูสุนทรธรรมลิขิต อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งมรณภาพไปตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค.2527 โดยชาวบ้านที่เดินทางมา ต่างนำน้ำดังกล่าวมาทาตามบริเวณที่ปวดเมื่อย หรือบางรายที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ญาติ ๆ ต่างพากันรองน้ำที่หยดมาลูบทาตามส่วนที่ไม่สามารถขยับได้ เช่นเดียวกับผู้สูงอายุบางคนที่นำน้ำมาหยอดตาที่ฝ้าฝาง ตามความเชื่อว่าจะทำให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น

โดย นายวันชัย โทสก อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า

ป่วยเป็นอัมพฤกษ์มา 2 ปี 4 เดือน แขนขาไม่มีแรง จึงได้ให้ญาติพามาตามคำเล่าลือ และปรากฎว่าหลังทาได้ไม่นานก็รู้สึกมีแรง สามารถขยับแข้งขาได้ดั่งปาฏิหาริย์

อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านบางรายที่ยังเคลือบแคลงสงสัย จึงอยากให้ผู้รู้เข้าตรวจสอบ เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายได้ต่อไป.





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮือฮา จีนจะสร้าง"นครหลวง"ใหญ่สุดของโลก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ฮือฮา จีนจะสร้าง"นครหลวง"ใหญ่สุดของโลก รองรับประชากร 42 ล้านคน


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ว่า จีนได้วางแผนจะสร้างนครหลวงใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อรองรับประชากรจำนวน 42 ล้านคน โครงการดังกล่าวซึ่งใช้ชื่อว่า"เปลี่ยนลุ่มแม่น้ำเพิร์ลให้เป็นหนึ่ง"จะครอบคลุมพื้นที่ 16,000 ตร.ไมล์ ใหญ่กว่าราชอาณาจักรเวลส์ 2 เท่า โดยนครหลวงแห่งนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว้างของใจกลางกลางเขตแหล่งผลิตสินค้าของประเทศ ประกอบด้วยเมือง 9 เมือง ได้แก่ โฟซา,ดองกวน,ซูไฮ่,เจียงหมิน,ฮุ่ยโจว และจ้าวจิ้ง และเทียบเท่ากับเศรษฐกิจจีนเป็นจำนวน 1 ใน 10

นอกจากนี้ โปรเจ๊คส์นี้ยังวางแผนจะแล้วเสร็จภายใน 6 ปี โดยมีการสร้างระบบสาธารณูปโภคระดับใหญ่โต 150 แห่ง ตั้งแต่ด้านการขนส่ง พลังงาน,น้ำประปา เครือข่ายโทรคมนาคม ของทั้ง 9 เมืองรวมด้วยกัน ด้วยงบประมาณใช้ 190,000 ล้านปอนด์ และมีการสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างนครหลวงแห่งนี้กับฮ่องกงด้วย

โครงการนี้ยังจะสร้างทางรถไฟเดินทางภายใน 29 เส้น มีความยาว 3,100 ไมล์ ใช้ระยะเวลาราว 1 ชม.เดินทางระหว่างศูนย์เมืองต่าง ๆ และคาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านรายจ่ายค่าโทรศัพท์ของประชาชนลง 85 %

นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงและพัฒนาโรงพยาบาลและโรงเรียนหลาย ๆ แห่งด้วย ขณะที่ประชาชนในเขตนครหลวงนี้ ยังจะสามารถเลือกใช้บริการของพวกเขากับเมืองใดได้ รวมทั้งสามารถใช้อินเตอร์เนทค้นหาโรงพยาบาล หรือสถานที่อื่น ๆ ที่เหมาะสมแก่พวกเขาด้วย

สำหรับปัญหาเรื่องมลพิษ ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักของลุ่มแม่น้ำเพิร์ลเพราะเนื่องจากเป็นเขตอุตสาหกรรม ก็จะมีการแก้ไขภายใต้นโยบายหนึ่งเดียว และคาดว่าราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า สามารถรวมกันเป็นหน่วยเดียวได้

ทั้งนี้ ก่อนช่วงสิ้นศตวรรษนี้ จีนได้วางแผนจะย้ายประชากรที่แออัดไปยังเมืองต่างๆ และกำลังสร้าง"เขตเมือง"ที่สามารถรองรับประชาชนได้ราว 50 ล้าน ถึง 100 ล้านคน และสร้าง"เขตกลุ่มเมือง"ที่รองรับประชาชนจำนวน 10-25 ล้านคน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

Mthainews : ภาพต้นแบบจรวดหลายลำกล้องชนิด DTI-1 ที่พัฒนาโดยสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศผลิตเพื่อนำไปสู่การพัฒนาป้องกันประเทศ และแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยก็สามารถผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วยตัวเองได้

โดย Mthai News
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทัพบกรับมอบเครื่องยิงจรวด ทำลายล้างไกลถึง 180 กิโลเมตร
<SMALL></SMALL>มีพล.อ.ประยุทธ จันโอชา ผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานรับมอบ

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1



ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1


ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1

ต้นแบบจรวดหลายลำกล้องแบบ DTI-1





<LI class=news_src_item>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.ยันไม่พบผู้ป่วยหวัดนก เตือนอย่ากินสัตว์ปีกป่วยตาย</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 มกราคม 2554 13:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE>​

“จุรินทร์” ยันไทยไม่พบผู้ป่วยหวัดนกตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบัน เตือนประชาชนอย่าสัมผัส หรือนำสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติมารับประทานเด็ดขาด

จากกรณีที่ประชาชนไทยมีความวิตกกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย หลังจากที่มีรายงานพบสัตว์ปีกที่ประเทศญี่ปุ่นติดเชื้อ วันนี้ (25 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไข้หวัดนกเริ่มเข้ามาระบาดในประเทศไทยเมื่อปี 2546 โดยมีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 25 ราย และเสียชีวิตอีก 17 ราย และตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ไทยไม่มีผู้ป่วยจากไข้หวัดนก โดยปี 2553 ได้มีการตรวจผู้ป่วยที่สงสัยอาจเป็นไข้หวัดนก จำนวน 359 ราย ผลปรากฏว่าไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดนกแต่อย่างใด

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ล่าสุด มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในข่ายสงสัยไข้หวัดนก 4 ราย โดยรายที่ 1 เป็นหญิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู ตรวจสอบเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา รายที่ 2 เป็นหญิงอายุ 16 ปี ที่ จ.นนทบุรี ตรวจสอบเมื่อ 3-6 มกราคม 2554 มีไก่ตายในพื้นที่ รายที่ 3 ที่ จ.นราธิวาส เป็นชาย อายุ 36 ปี อยู่ อ.ศรีสาคร มีอาการปอดบวมและมีไก่ตายใกล้บ้าน ตรวจสอบเมื่อวันที่ 12-18 มกราคม 2554 และรายที่ 4 ที่ จ.นราธิวาสเช่นกัน เป็นหญิงอายุ 59 ปี มีอาการปอดบวม ตรวจสอบเมื่อวันที่ 12-18 มกราคม 2554 ผลการตรวจสอบปรากฏว่าทั้ง 4 รายไม่ได้เป็นไข้หวัดนก แต่ผู้ป่วยที่ จ.นราธิวาส ทั้ง 2 ราย เป็นไข้หวัดใหญ่ 2009

ทั้งนี้ สรุปภาพรวมตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ยังไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดนก จึงขอให้ประชาชนคลายความกังวลได้ แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนระมัดระวังและดูแลตัวเอง เพราะว่าไข้หวัดนกเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าเชื้อเอช 5 เอ็น 1 (H5N1) สามารถติดต่อมาสู่คนได้ทางการสัมผัสและทางเดินหายใจ หากพบสัตว์ปีกตายเป็นกลุ่มผิดปกติ จะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือห้ามนำมารับประทานโดยเด็ดขาด และให้ทำลายตามคำแนะนำของปศุสัตว์

ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000010494

 

บึ้ม!! ถนนอ.ยะหา ชาวบ้านตาย9เจ็บ2 คาด ฝีมือกลุ่ม RKK
วานนี้(25ม.ค.) เวลา17.25 น. เกิดเหตุ คนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของชาวบ้าน ขณะกลับจากหาของป่า มาตามถนนสาย 4070 (กาตอง – ยะหา) บริเวณถนนสายกาตอง – ยะหา บ้านปะแดรู ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา โดยคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 15 – 20 กิโลกรัม และใช้การจุดชนวนด้วยการลากสายไฟ ยาว 100 เมตร และใช้แบตเตอรี่ในการจุดชนวน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นฝีมือของ นายฮูใบดีละ รอมือดี และ นายมาหะมะ มะรอ แกนนำอาร์เคเค ซึ่งรับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ ต.ปะแต ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา นอกจากนี้ ทั้ง 2 คนยังร่วมก่อเหตุลอบโจมตีฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 ฉก.38 นราธิวาส (ค่ายพระองค์ดำ) อีกด้วย
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตประกอบไปด้วย
นายบุญ ศิริตัน
นายคะนึง ชนะบัญญัติ
นายเสนอ ยอสมเฟ็ช
นายเขียว ศรีทะวีป
นายดำรง แซ่ลิ่ม
นายคล่อง ปานลุง
นายจิน บัวกอเพรชร
นายสมศักดิ์ บัวสิน
นายน้อย เทเพชรรัตน์

ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ
นาย อรุณ หนูนิ่ม
และนาย ศักดิ์ชัย ศิริพันธ์
โดยทั้งหมดเป็นชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
<LI class=news_src_item>

พม่า งดแจก รางวัลดารานำหญิง เหตุจัดวิวาห์ เกินหน้าลูกสาวตานฉ่วย
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดประกาศผลรางวัลบันเทิงพม่าประจำ 2552 ที่กรุงเนปีดอว์ ดารานักแสดงหญิงพม่าหลายคนอดรับรางวัลนี้ โดยเว็บไซต์นิตยสาร “สาละวิน โพสต์”รายงานว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
แต่ชาวพม่าหลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า น่าจะมาจากสาเหตุที่ อินดรา จ่อ ซิน จัดงานแต่งงานใหญ่โตเกินหน้าเกินตาลูกสาวของนายพลอาวุโสตานฉ่วยเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่องเมียนมาร์ทีวี และมีนายพลชั้นผู้ใหญ่หลายคนเข้าร่วมงาน อาจเป็นเหตุทำให้ครอบครัวของผู้นำไม่พอใจ จึงทำให้เธอชวดรางวัลในครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า อินดรา จ่อ ซิน นักแสดงหญิงชื่อดังของพม่า น่าจะคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประจำปี 2552 ไปครอง เนื่องจากได้รับความนิยมมาก

เพีย ตี้ อู และ อินดรา จ่อ ซิน ที่เพิ่งเข้าวิวาห์เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา
ส่วนรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมประจำปี 2552 ได้แก่ เนโท ดาราดาวรุ่งพม่า และรางวัลนักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยมได้แก่ โซปี๊ ตาสิ่น
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
ภาพ : สาละวินโพสท์

ทันดาร์ ฉ่วย บุตรสาวของพลเอกตาน ฉ่วย ผู้นำพม่า
<LI class=news_src_item>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯชี้เหนือ-อีสานหนาวเย็น ใต้ตอนล่างฝนตก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศ ชี้ไทยหนาวเย็นโดยทั่วไป ใต้ตอนล่างฝนตก คลื่นลมแรง


วันนี้ 26 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 น. ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย และทะเลจีนใต้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 26-31 ม.ค.นี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 15 องศา ส่วนตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฝูงนกเป็ดนับหมื่น-หนีหนาวลงกลางทุ่งทะเลแก้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 54 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลกแจ้งว่า

ขณะนี้มีนกเป็ดน้ำหลายหมื่นตัว บินลงมาหากินและปักหลักอาศัยอยู่ในบึงใหญ่กลางมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงครามโดย ใกล้บริเวณประตู 3 ด้านหลังมหาวิทยาลัย ในอดีตบริเวณดังกล่าวเรียกว่าทุ่งทะเลแก้ว นกเป็ดน้ำบินลัดฟ้ามาจากถิ่นอื่น โดยเฉพาะบินมาจากไซบีเรีย และไม่มีผู้ใดไปขับไล่หรือทำร้าย เป็นที่ชื่นชอบของนักศึกษาและอาจารย์ ที่มีโอกาสได้พบเห็นนกเป็ดน้ำจำนวนมากอย่างใกล้ชิด

นอกจากนั้นนกเป็ดน้ำได้บินกระจายลงตามแหล่งน้ำธรรมชาติในเขตเมืองพิษณุโลกหลายแห่ง อาทิ สวนสาธารณะบึงราชนก อ.วังทอง และอ่างเก็บน้ำภายในหมาวิทยาลัยนเรศวรต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จับหนุ่มขโมยหมุดรางรถไฟก่อนขบวนรถผ่าน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>รวบทันควันหนุ่มลักหมุดรองรางรถไฟ ก่อนขบวนรถเร็วผ่าน ตร.ระบุหากจับไม่ทันอาจเกิดโศกนาฏกรรม


เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 25 ม.ค. พ.ต.ต.ถิรวัฒน์ แก้วตา สวส.รฟ.ศิลาอาสน์ กก.2 บก.รฟ. ส.ต.อ.วรพันธ์ วิริยะพันธ์ ผบ.หมู่.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ นายเกรียงไกร ศิวิลัยพ์ นายตรวจทางฝ่ายการช่างโยธา สถานีรถไฟเชียงใหม่ นำกำลังจับกุมตัว นายสุวัช อุดมวัฒนอุทัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ 5 ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน อาชีพขับรถรับจ้างทั่วไป พร้อมของกลางเป็นจานรองรางรถไฟ จำนวน 3 ตัว ตะปูยึดรางรถไฟจำนวน 15 ตัว หมุดล๊อครางรถไฟจำนวน 27 ตัว ไฟฉาย 1 กระบอก เหล็กสกัดจำนวน 1 ตัว และรถปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีเขียว ทะเบียน บฉ 8826 พะเยา ใบเสร็จขายสินค้าร้านรับซื้อของเก่า ลงวันที่ 26 พ.ย.53 ระบุขายเหล็กจำนวน 45 กิโลกรัม ลงวันที่ 29 พ.ย.53 ขายเหล็ก 51 กิโลกรัม และวันที่ 24 ม.ค.54 ขายเหล็ก 176.3 กิโลกรัม ในข้อลักทรัพย์ในยามวิกาล

เหตุเกิดบนรางรถไฟสายเชียงใหม่ - กรุงเทพ สทล 747/14 ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ห่างจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ออกนอกเมืองประมาณ 1.5 กิโลเมตร การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้คนร้ายโจรกรรมเหล็กยึดรางรถไฟอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟเชียงใหม่จึงได้จับตาดูในเขตรับผิดชอบ จนทราบว่ามีคนร้ายกำลังทำการถอดหมุดและเหล็กยึดรางรถไฟอยู่จึงได้เข้าตรวจสอบ และจับกุม พบนายสุวัช กำลังถอดเหล็กยึดรางของกลางอยู่ สอบสวนให้การรับสารภาพว่าดำเนินการขโมยเป็นครั้งแรก เพราะต้องการหาเงินไปเลี้ยงลูกที่เพิ่งเกิดออกมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อจึงนำตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป


พ.ต.ต.ถิรวัฒน์ เปิดเผยว่า นับเป็นเรื่องที่โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาก่อน

เพราะในเวลา 21.00 น.วันเดียวกันนี้จะมีรถไฟด่วนสปินเตอร์ ขบวนที่ 10 ที่จะเดินทางออกจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้รางดังกล่าว หากไม่สามารถจับกุมได้ อาจทำให้รถไฟตกรางและอาจเกิดโศกนาถกรรมครั้งใหญ่ได้เลย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อิเหนาตื่นยูเอฟโอทิ้งวงปริศนากลางนาข้าวในย็อกยาการ์ตา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top> คมชัดลึก :จาการ์ตา-ชาวอินโดนีเซียแห่ดูวงปริศนาบนนาข้าวที่ย็อกยาการ์ตา ผู้เชี่ยวชาญเชื่อฝีมือมนุษย์มากกว่ามนุษย์ต่างดาว



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอังคาร (25 ม.ค.) ว่าชาวอินโดนีเซียหลายพันคนหลั่งไหลไปชมวงกลมปริศนาหรือ "ครอป เซอร์เคิล"

บนนาข้าวที่หมู่บ้านกราซคาน เขตสเลมาน จ.ย็อกยาการ์ตา ด้วยความสนใจ หลังจากข่าวสะพัดออกไปว่าอาจเป็นร่องรอยที่มนุษย์ต่างดาวทิ้งไว้ จนตำรวจต้องนำเทปสีเหลืองมาปิดกั้นรอบบริเวณ เพื่อป้องกันประชาชนเข้าไปเหยียบย่ำนาข้าวเสียหาย ขณะที่ชาวบ้านได้เริ่มเก็บค่าเข้าดูแล้ว



ชาวนาคนหนึ่งในพื้นที่เล่าว่า มีชาวบ้านบางคนเห็นพายุหมุนลูกหนึ่งเมื่อเย็นวันเสาร์

ก่อนเกิดร่องรอยประหลาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 70 เมตรเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ คล้ายรูปดอกไม้ภายในประกอบด้วยทรงเรขาคณิตสามเหลี่ยมและวงกลม ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ไม่พบการเกิดพายุหมุนในย็อกยาการ์ตาและพื้นที่โดยรอบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ แต่ถ้าหากมีพายุหมุนเกิดขึ้น ก็น่าจะทิ้งร่องรอยเป็นทางยาว ไม่ใช่เป็นรูปวงกลม

แม้ว่านักดาราศาสตร์ชื่อดังและเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายในประเทศต่างเห็นพ้องกันว่า ไม่ใช่ร่องรอยที่มนุษย์ต่างดาวทิ้งเอาไว้

และน่าจะเป็นผลงานของคนที่นึกสนุกทำอะไรแปลกๆ มากกว่า กระนั้นวงกลมปริศนาที่เกิดขึ้นในสเลมานคล้ายกับปรากฏการณ์ที่พบเห็นในหลายพื้นที่ของโลกมานานหลายทศวรรษ โดยที่บางแห่งไม่สามารถหาข้อสรุปในทางวิทยาศาสตร์ได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เตือนภัยพญาแร้งที่ราชประสงค์​

​

​

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฮ่องกงผวา! หวัด 2009 ต้อนรับตรุษจีน พบตายแล้ว 1 ศพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>27 มกราคม 2554 03:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

สตรีชาวฮ่องกงสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เมื่อครั้งที่มันระบาดในปี 2009

เอเอฟพี - สตรีวัย 27 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตในฮ่องกงหลังติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเปิดเผยเมื่อวันพุธ (26) หนึ่งปีครึ่งหลังจากเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 แพร่ระบาดในเขตบริการพิเศษแห่งนี้และคร่าชีวิตพลเรือนไปกว่า 80 ราย

องค์กรสาธารณสุขแห่งฮ่องกงระบุในถ้อยแถลงว่า คนไข้รายนี้เข้ารักษาป่วยในวันอังคาร (25) และตรวจพบเชื้อไว้รัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 แต่เธอเสียชีวิตในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินในวันต่อมา

“เธอมีอาการภาวะหายใจล้มเหลวและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการของเธอทรุดลงเรื่อยๆ และคนไข้เสียชีวิตในวันเดียวกันนั้น” ถ้อยแถลงระบุ พร้อมเปิดเผยต่อว่ายังมีเด็กชายวัย 16 ปีอีกคนที่ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน หลังตรวจพบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (21) โฆษกของโรงพยาบาลควีน เอลิซาเบธ บอกกับเอเอฟพีว่ามีผู้ป่วย 2 คน เป็นสตรีอายุ 21 ปี และเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในอาการขั้นวิกฤตหลังติดเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 เช่นกัน

แม้ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของพวกเธอ แต่ทางองค์กรสาธารณสุขเปิดเผยว่าจนถึงเวลานี้มีผู้ป่วยไข้หวัดอยู่ในห้องฉุกเฉินตามโรงพยาบาลต่างๆ ของฮ่องกงทั้งหมด 15 ราย อย่างไรก็ตาม ทางองค์กรสาธารณสุขไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าพวกเขาเหล่านั้นติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใด

ฮ่องกงตกอยู่ในห้วงแห่งความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ หลังจากเมื่อปี 2003 ได้เกิดการระบาดของโรคซาร์ส ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนในดินแดนแห่งนี้กว่า 300 คนเลยทีเดียว ขณะที่ทางกระทรรวงสาธารณสุขฮ่องกง บอกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สังหารชีวิตผู้คนไปแล้ว 83 ศพ นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา

มีความกังวลว่าไวรัสเอช 1 เอ็น 1 อาจแพร่ระบาดรุนแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งประชาชนเชื้อสายจีนหลายล้านคนที่เดินทางมาที่ฮ่องกงเพื่อร่วมฉลองกับญาติๆ

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000011476

บัลแกเรีย..หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาด​

​

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบัลแกเรีย ประเทศในยุโรปตะวันออก บนคาบสมุทรบอลข่าน ริมทะเลดำ ประกาศว่า 7 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนในส่วนต่างๆของประเทศ ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และโรงเรียนเกือบ 500 โรงเรียน ถูกปิดเพื่อพยายามสกัดกั้นการระบาดของโรคไข้หวัดนก​

กระทรวงสาธารณสุขบัลแกเรีย ประกาศการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ใน 12 เขตของประเทศ ซึ่งก็รวมถึงเมืองที่ใหญ่ที่สุดส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในอัตรา 700 รายต่อประชาชน 1 หมื่นคน และสั่งให้โรงเรียนทั่วเขตเหล่านั้นปิดจนถึงปลายสัปดาห์นี้​

โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเวลลิงกราด ทางภาคใต้ รายงาการเสียชีวิตของชาวบัลแกเรียรายแรกจากการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อวานนี้ เป็นชายวัย 62 ปี​

แพทย์หญิงอันโตนีน่า คอร์เชวา หัวหน้านักระบาดวิทยา ที่โรงพยาบาลโซเฟีย ในกรุงโซเฟีย นครหลวงของบัลแกเรีย กล่าวว่า สายพันธุ์หลักในตอนนี้ คือ H1N1 ซึ่งถูกตรวจพบใน 30 เปอร์เซ็นต์ของการทดสอบและแนวโน้มกำลังเพิ่มขึ้น ​

ไวรัส H1N1 ซึ่งปกติจะหมายถึงโรคไข้หวัดนก รับผิดชอบการระบาดครั้งใหญ๋ในปี 2552-เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยุโรป เตือนเมื่อต้นเดือนนี้ว่า การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในอังกฤษ อาจแพร่กระจายไปยังส่วนที่เหลือของยุโรป​

ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กว่า 5 ล้านคน และโรคนี้คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 5 แสนคนในแต่ละปี​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com/ข่าว/32854/บัลแกเรีย--หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาด.html

การระบาดของไข้หวัดใหญ่ พ.ศ.2461-2552​

การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ในสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ​

ทั่วโลกมีการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หลายครั้ง ได้แก่

. การระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สเปน เป็นไวรัสชนิด H1N1 ที่เคยมีการระบาดหนักในปี พ.ศ.2461โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ซึ่งต่างจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั่วไปที่ผู้ป่วยและผู้ที่เสียชีวิตเป็นเด็ก หรือผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อน การระบาดครั้งนั้นได้คร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนถึง 20-40 ล้านคน ซึ่งนับว่ามากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2

. ต่อมาปี พ.ศ.2500 ได้เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกของไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ขึ้นอีกครั้ง เรียกกันโดยทั่วไปว่าไข้หวัดใหญ่เอเชีย (Asian flu) เป็นไวรัสชนิด H2N2 ซึ่งไวรัสที่ก่อให้เกิดการระบาดครั้งนี้ คาดว่าเป็นไวรัสที่เกิดการกลายพันธุ์ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก

. ช่วงปี พ.ศ.2511 ได้เกิดการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่เรียกว่าไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง (Hong Kong flu) เป็นชนิด H3N2

. การกลับมาระบาดใหญ่อีกครั้งของไวรัส H1N1 ในปี พ.ศ.2520 เรียกว่าไข้หวัดใหญ่รัสเซีย (Russian flu)

. การระบาดของไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 เมื่อปี พ.ศ.2547 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาคเกษตรกรรมการส่งออกสัตว์ปีก และไข่ไก่ นับเป็นมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่เกิดการระบาดครั้งที่ผ่านมา ไม่มีรายงานว่ามีการติดต่อของเชื้อไวรัสจากคนสู่คน

. ประมาณเดือนมีนาคม พ.ศ.2552 ที่ผ่านนี้ ได้เกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่ประเทศเม็กซิโก ทวีปอเมริกาเหนือ สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประชากร และเศรษฐกิจโลกอย่างนับมูลค่ามิได้

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กับการระบาดใหญ่

หลายคนคงเคยได้ยินการปรับระดับการระบาดขององค์การอนามัยโลก ว่ามีระดับการระบาดและการเตือนภัยทั้งสิ้น 6 ระดับ เพื่อวางมาตรการในการเฝ้าระวังดูแลและป้องกัน โดยแบ่งเป็น

ระดับที่ 1 พบเชื้อโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้น เช่น การพบในสัตว์
ระดับที่ 2 เชื้อดังกล่าวมีโอกาสเข้ามาติดสู่มนุษย์แล้ว
ระดับที่ 3 เชื้อดังกล่าวได้เข้ามาก่อโรคในมนุษย์แล้ว แต่ยังไม่สามารถกระจายข้ามจากคนสู่คน
ระดับที่ 4 เชื้อดังกล่าวได้มีการกระจายติดต่อระหว่างคนสู่คน แต่การระบาดยังอยู่ในวงจำกัด เช่น เป็นประเทศเดียวหรือหย่อมเดียว
ระดับที่ 5 การระบาดได้กระจายมากกว่า ๑ หย่อมหรือข้ามประเทศ
ระดับที่ 6 การระบาดได้กระจายไปทั่วโลกหรือข้ามทวีปแล้ว (pandemic)

เมื่อครบ 6 ระดับแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงหลังการระบาดใหญ่ โรคก็จะค่อยๆ ลดความรุนแรงลง เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรักษาหายหรือบางรายเสียชีวิต ผู้ป่วยที่รักษาหายก็จะคงอยู่แบบมีภูมิต้านทาน และโรคนี้ก็จะมีวิวัฒนาการให้คงอยู่โดยที่จะปรับตัวให้เข้ากับ host เช่น โรคประจำฤดูกาล (ไข้หวัดใหญ่ H1N1 H3N2 ตามฤดูกาล)

การป้องกันส่วนบุคคลและป้องกันการระบาดของโรค

ในความเป็นจริงแล้ว หนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยทั่วไปคือการฉีดวัคซีนป้องกันเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ เช่น เด็ก ผู้ที่ทำงานในโรงพยาบาลหรือสถานที่ที่มีผู้เสี่ยงติดเชื้ออยู่ อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการป้องกันตัวเองและป้องกันสังคมไม่ให้เกิดการระบาดของโรค แนวทางการปฏิบัติมีดังนี้

. ดูแลอนามัยส่วนบุคคล ปฏิบัติตนให้สุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสม่ำเสมอ

. หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะหลังการไอ และจาม ถ้าไม่มีน้ำสามารถใช้แอลกอฮอล์แทนได้

. เวลาไอหรือจาม ควรใช้ผ้าเช็ดหน้า ทิชชู ปิดปากและจมูก เพราะการไอหรือจามจะเป็นการแพร่กระจายไปไกลถึง 5 เมตร ในกรณีการจาม ถ้าไม่มีผ้าเช็ดหน้า อาจจามใส่แขนเสื้อบังไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายออกไปสู่สังคม

. หลีกเลี่ยงการสัมผัส ตา จมูก ปาก หลังจากสัมผัสกับผู้ต้องสงสัยว่าป่วย

. กรณีป่วยหรือไม่สบาย ควรพักอยู่ที่บ้าน ไม่ควรออกไปพบกับผู้คนจำนวนมาก เช่น ที่ทำงาน แหล่งชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล

. ถ้ามีอาการมากจะต้องรีบไปพบแพทย์และให้ข้อมูลกับแพทย์โดยละเอียด โดยเฉพาะการสัมผัสกับผู้ต้องสงสัยว่าป่วย

. การใช้หน้ากากอนามัย ถือเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติโดยเฉพาะเมื่อป่วยหรือช่วงที่มีการระบาดของโรค

ที่มา http://www.doctor.or.th/node/6656