มาดูสมเด็จกัน

ขอบคุณมากๆครับคุณแหน่ง...ที่ยังคงนึกถึงกัน.....
ขอบุญกุศลที่คุณแหน่งมั่นทำ...ส่งให้คุณแหน่งสุขกายสบายใจ ร่ำรวยๆครับ...ฮ่าๆๆๆๆ

 

องค์นี้ครับ ที่ว่าเหมือน

ช่วยพิจารณาด้วยครับ เก็บไว้หลายปีแล้วครับ

 

ขอบคุณมากครับ ผมไม่ยื่นฎีกาแล้วครับ

 

ส่วนองค์พระนางพญา




ตำหนิพิมพ์ดีหลายจุด และบางจุดก็แปลกตา ผมว่าลองตรวจจากผู้ชำนาญอีกครั้ง เพราะผมไม่สามารถดูได้โดยตรง องค์นี้ลึกๆยังชอบครับ[/QUOTE]

บางจุดก็แปลกตา ผมเดาใจคุณ wasabi san คงหมายถึงพระกรรณหรือเปล่าครับ อิอิอิ

 

องค์นี้ ธุดงค์มาจากทางสุราษฎร์ครับผม ฝากพิจารณาด้วยครับ

 

รบกวนอีกองค์และตามมาอีกเรื่อยๆครับ

ปรกโพธิ์ ตีเข้าวัดระฆังได้ไหมครับ ผมว่าเนื้อแบบนี้น่าจะดูง่ายครับ
ขอความชี้แนะด้วยนะครับ สวดกันเต็มที่เลยครับ

 

ขอบคุณมากคับ พี่wasabi ที่ให้ความเห็นคับองค์นี้เป็นของลุงผมคับตอนได้มาอยู่ในขวดมีน้ำมันจันท์อยุ่เต็มเลย ตอนแรกที่เอาออกมาผิวมันมาก
แล้วเส้นที่เป้นสันที่พี่ว่าอยู่ตรงไหนเหรอคับ ชี้ให้ดูได้ไหมคับ แบบว่าผมพึ่งจะเข้ามาศึกษาพระนะคับเลยไม่รู้ ขอบคุณล่วงหน้าคับ

ปล.ได้ความเห้นจากพี่wasabiแล้วขอฟังความเห็นจากพี่ xlmen บ้างคับว่าเป็นยังงัยบ้าง

 

ช่วยทีครับพี่ เสร็จ หรือ เด็จ

พิมพ์อะไร วัดไหน ดีไหมครับ

 

กรุณาด้วยครับผม

ฝากรบกวนอาจารย์วาซาบิและพี่ๆทุกท่านด้วยครับ 2 องค์ครับ

 

พระของคุณ Kepper สององค์นี้ผมเห็นทีแรกก็แปลกใจมากๆ ครับว่า...
เหตุใดผิวเนื้อและสีสรรถึงได้เหมือนกันมากขนาดนี้...ราวกับว่าสร้างขึ้นวาระเดียวกันเลยครับ...

ปกติการที่เราจะพบพระสมเด็จแท้ๆ ที่กดพิมพ์เนื้อเดียวกันแต่ต่างพิมพ์มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่จะเจอ....
เท่าที่ผมเห็นก็คือทั้งสององค์มีสิ่งที่ละม้ายคล้ายกันมากเช่น มีการนำปูนเปลือกหอยมาใช้เหมือนกัน มีการใส่มวลสารเหมือนกันมาก และมีการนำพระไปตากแดดเพื่อให้ผิวเนื้อเกิดการแตกลายงาให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด...ผลของการตากแดดกับการอบในเตาจะได้ผิวแตกลายงาที่ต่างกันครับ

มีการใช้น้ำมันตั่งอิ๋วผสมในเนื้อพระแล้วล้างออกเรียกว่าล้างได้เนียนมากครับ....
แต่สุดท้ายก็ต้องตกม้าตายเพราะหลงเหลือคราบน้ำมันตั่งอิ๋วที่ด้านหลังพระในซอกหลีบในเนื้อพระที่ไม่สามารถล้างออกได้...ลักษณะน้ำมันตั่งอิ๋วใหม่จะเงาๆ วาวๆ ลองพิจารณาดูได้ครับ...

ส่วนองค์ขวาเจตนาทำเป็นพิมพ์เส้นด้ายฐานกระดาน....ปกติถ้าเป็นพิมพ์เส้นด้ายวัดระฆังนั้นตัวประสานเนื้อจะเป็นน้ำอ้อยเคี่ยวนะครับ....
และถึงจะเป็นวัดระฆังยุคปลายสุดๆ ยังงัยซะก็ต้องเห็นขอบบังคับแม่พิมพ์บ้าง...

ส่วนองค์ซ้ายนั้นผิวเนื้อยังไม่หนึกนุ่มใสพอครับ....
เป็นการใสแบบแช่น้ำมันยังไม่ใช่หนึกใสเพราะอายุเนื้อที่เก่าจริงครับ....

ถ้าบังเอิญว่าผมเห็นเฉพาะองค์พิมพ์เส้นด้ายฐานกระดานเพียงองค์เดียว...
โดยที่ไมเห็นองค์ซ้ายผมก็อาจจะชอบองค์ขวาก็ได้ครับ...เพราะผิวเนื้อทำได้ใกล้เคียงจริงๆ ขาดอย่างเดียวเท่านั้นคือความเก่าที่ยังไม่เก่าจริงครับ...ผิวเนื้อสะอาดสะอ้านเกินไป การยุบตัวน้อยเกินไป ส่วนผงพุทธคุณในเนื้อพระทำได้ดีครับ

สรุป พระทั้งสององค์โดยส่วนตัวผมยังไม่ชอบนะครับ...คิดว่าน่าจะเป็นพระฝีมือครับ

 

ผิวเนื้อแช่น้ำมันมาแล้วทำให้กลายเป็นเนื้อผงน้ำมันฉิบ....คิดว่าคงไม่ต้องดูต่อก็ได้นะครับ หุหุ

เนื่องจากเนื้อพระเสียสภาพเดิมไปหมดแล้วครับ.....

วินิจฉัยยากเต็มที...ถ้าให้กรรมการรับตรวจพระเขาตรวจก็คงจะถูกตีว่าเป็นพระเกจิสร้างยุคหลังแน่ครับ...

 

สวัสดีครับ ท่านวาซาบิ และท่าน Xlmen
วันนี้..ยังไม่ขอรบกวนท่านอาจารย์ทั้ง 2 ครับ แต่ว่าภาพ สมเด็จองค์จริงๆ
ซึ่งอาจจะมีสมาชิกท่านอื่นๆไม่เคยเห็น จึงเห็นสมควรลงภาพ ณ ที่แห่งนี้ครับ

 

ไม่เป็นไรคับ ขอเป็นของแท้ก็พอแล้ว จะเก็บไว้เป็นวิทยาทานคับ
แล้วเป็นของมรดกตกทอดด้วย

ขอบคุณพี่xlmenมากคับที่ให้ความคิดเห็นคับ

 

ขอแลกเปรียบความรู้สักเล็กน้อย โดยการมองต่างมุม

พระสมเด็จ2องค์นี้ ผมมองว่าเป็นพระยุคหลัง สร้างจากแม่พิมพ์จริง ในวาระปี 2483 โดยพระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ ท่านใช้ผงเก่าจากวัดระฆังบด จึงมีเนื้อของวัดระฆังสูงมาก ท่านแจกตอนสงครามโลกเกาหลีปี 2493

ลองเทียบเนื้อกับพระเก่าแห้งเป็นอย่างไร

 

ทำคราบกรุขึ้นครับ คราบอย่างนี้ไม่ดีครับ

 

รบกวนพี่wasabi อีกรอบคับกับหลวงพ่อปานขี่นกว่าแท้รึว่าเก๊คับ

ขอบคูณล่วงหน้าคับ

 

องค์นี้น่าสนใจครับ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่อกตัววี การแกะพิมพ์โดยรวมดี มีที่พระพักตร์ และฐานหมอนที่ผิดรูป แต่มวลสารไม่ผิด พิมพ์นี้อาจจะเป็นพิมพ์ชาวบ้านนะครับ

 

ผมว่าพระฝีมือครับองค์นี้

 

พระชุดนี้ผิดพิมพ์ ผิดเนื้อครับ