การสอนดูจิตที่เข้าใจผิดไปจากความเป็นจริงว่าจิตเกิดดับ

คุณบุญฯครับ

คุณชอบกล่าวหาว่าผมไม่แฟร์ ที่คุณทำอยู่นี้แฟร์หรือเปล่าครับ

คุณสรุปความเห็นผมเป็นประจำ โดยคิดเองเออเอง

ผมพูดแน่นอนว่า จิตเป็นธาตุรู้ มีหน้าที่รู้อย่างเดียว

แต่สิ่งที่ถูกรู้นั้น มีหลายอย่างครับ ไม่ใช่แค่สองอย่างครับ รู้ถูก รู้ผิด รู้ดี รู้ชั่วฯลฯ

คุณใช้ภาษาไทยเป็นมั้ยครับ??? คุณพูดว่า "เกิดสองอย่างได้ แต่ทีละขณะ"

คุณเอาอะไรมาพูดครับ เกิดทีละขณะ ก็แสดงว่าที่เกิด เกิดทีละอย่างครับ

ขณะที่จิตเกิดอารมณ์โกรธ จิตก็ไม่มีอารมณ์อื่นเกิดขึ้นในขณะนั้นใช่มั้ยครับ???

คุณพูดว่า "จิต อารมณ์และสภาวะเป็นตัวเดียวกัน"

แล้วสภาวะโลกร้อน สภาวะเยือกแข็ง สภาวะน้ำท่วมฯลฯ เกี่ยวอะไรกับจิตด้วยละ???

แล้วรูป เสียง กลิ่น รส กายสัมผัส ธัมมารมณ์ ที่เป็นตัวก่อให้เกิดอารมณ์ขึ้นที่จิต เป็นจิตด้วยเหรอ???

ฉะนั้น จิตไม่ใช่อารมณ์ แต่อารมณ์ที่เนื่องกับจิต ทำให้จิตเกิดอาการของจิตขึ้นครับ

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

ใครครับที่แกล้งทำเป็นเนียนใสซื่ออย่างนี้สิครับ แบบนี้ผมก็เหนื่อยแย่ครับ

คุณเปรียบเทียบเรื่องงู คุณไม่รู้ตัวอีกหรือคุณกำลังสับสนอยู่กับคำว่าผัสสะ

ผัสสะคือการสัมผัส ผัสสะก็คือผัสสะเหมือนกันหมด

อย่าคิดเองเออเองสิครับ คุณพูดว่า "สองคนนี้มีอารมณ์รักกับกลัวเหมือนกัน"

ใช้ภาษาไม่ถูกต้องนะครับ สองคนนี้มีอารมณ์เกิดขึ้นเหมือนกัน แต่คนหนึ่งรัก คนหนึ่งกลัวครับ

มีอารมณ์เหมือนกัน แต่ความรู้สึกนึกคิดต่างกันใช่มั้ยครับ??? เพราะจิตใจแตกต่างกันครับ???

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

สภาวะอะไรก็ตามต้องเกิดจากการยอมรับของจิตครับ จึงจะเกิดได้

ต่อให้อายตนะภายในไปกระทบอายตนะภายนอกที่เป็นกุศลอีกกี่ร้อยครั้งก็ตาม

ถ้าจิตใจไม่ยอมรับสิ่งนั้นเข้ามา จะเกิดสภาวะกุศลขึ้นมาได้หรือครับ??? ไม่มีทางเป็นไปได้

แบบนี้คนในคุกทั้งหลาย ก็เป็นคนดีไปหมดแล้วสิครับ

เพราะฟังพระสงฆ์ทุกอาทิตย์ ทำไมไม่เกิดสภาวะกุศลหละ???

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

อธิบายอยู่ตรงไหนครับ ยกมาให้ดูด้วย

คุณพูดว่า"ถ้าเรายังยึดติดว่ากายใจเป็นของตน" เราในที่นี้คือใครกันครับ???

อันนี้คุณตอบ ยกประเด็นขึ้นมาเองว่า
"ส่วนที่บอกว่าเราไปยึดจิตเป็นของเรา เราในที่นี้คือจิต ที่เกิดมาแทนจิตเก่าที่
ดับไป แล้วหลงไปว่า ยังเป็นจิตเดิมไม่เกิดดับ
แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่เราแล้ว เพราะมันแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ"

ผมจึงมีคำถามที่ถามไป อยู่ข้างบน เนื่องจากอธิบายแบบรู้เองคนเดียวครับ

ถ้าคิดว่าตอบไม่ได้ ก็ไม่ต้องตอบก็ได้ แต่อย่าเนียนว่าอธิบายแล้ว

นั่นมันเป็นการแก้ตัวชัดๆครับ

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

คุณเล่นตอบเพื่อจะให้จบๆเท่านั้น

สิ่งที่จิตเข้าไปยึดและจดจำไว้คือสัญญาครับ ไม่ใช่สังขาร

คุณพูดเป็นหนังการ์ตูนไปนะครับ คุณก็บอกเองว่าจิตเกิดดับ

ในเมื่อจิตมันเกิดดับ ผมจึงถามว่าถ่ายทอดกันตอนไหน???

คุณไพล่ตอบว่าถ่ายทอดเรื่อยๆ มันเป็นไปได้มั้ย???

เมื่อดวงหนึ่งดับไป อีกดวงค่อยเกิด เกิดทีละขณะ จะเกิดพร้อมกันไม่ได้ใช่มั้ยครับ???

ยังอยู่ในประเด็นครับ ยังไม่จบ

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

คุณเอาอะไรมาพูดครับ "ไอ้ประเภทลงมือจนสำเร็จแล้ว พึ่งมารู้มันเยอะแยะไปครับ"

ตอนเค้าลงมือทำเค้ารู้มั้ยครับ??? ส่วนความสำเร็จหรือล้มเหลวอันนั้นเป็นผลใช่มั้ยครับ???

อย่าเอามาปนกันให้มั่วไปหมดสิครับ

สติเกิดขึ้นที่ไหนครับ??? จึงทำให้จิตมีคุณภาพ

แล้วคุณจะให้หมอผ่ากระโหลกแล้วพบอะไรหรือครับ ที่ไม่ใช่สมอง???

ถ้าใจเป็นสมองอย่างที่คุณพูด เปิดกระโหลกก็ต้องพบใจด้วยใช่มั้ยครับ???

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

ใครกันแน่ครับที่มั่ว แบบเนียน การกระทำไม่ว่ากี่ครั้งก็คืออาการทั้งสิ้นครับ

คุณอ่านไม่เข้าใจเอง ก็พยายามอ่านสักหลายครั้งก็ได้ครับ อย่ามั่ว

จิตแสดงกิริยาอาการเสวย(รับประทาน)สุข(เหตุ) จิตจึงแสดงอาการความสุข(ผล)ออกมา

อาการอันแรกคือเหตุ อาการที่เกิดมาตามหลังคือผล เลิกมั่วได้แล้วนะครับ

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

คุณคิดจะมั่วอะไร ก็ควรศึกษาให้ดีก่อนนะครับ

มั่วได้ใจจริงๆ คุณเล่นดำน้ำเฉยเลย

ถ้าปวดท้องไม่ใช่อาการแล้ว ปวดท้องคืออะไรครับ

คุณไปถามพวกหมอๆทั้งหลายดูสิว่า "การปวดท้องใช่อาการมั้ย???

ประโยคที่คุณยกมาก็มั่วสุดบรรยายครับ

อันที่จริงมันต้องเป็นแบบนี้ครับ

ไม่ว่าอาการปวดท้อง อาการเดินไปห้องน้ำ ล้วนเป็นอาการที่เป็นเหตุและผลในตัวมันเองทั้งนั้นครับ

ส่วนอาการปวดท้องที่หายไปแล้วจากการได้ถ่าย จึงจะเป็นผล จากเหตุเดินไปห้องน้ำ เลิกมั่วได้แล้วครับ

คำว่ากิริยา กับอาการต่างกันตรงไหนครับ???

;aa24

 

คุณบุญฯครับ

เลิกคิดเองเออเอง แล้วยอมรับความจริงดีกว่าครับ

คำว่าจิตใจ มักใช้ร่วมกันหรือมีใช้แทนกันในที่ต่างๆมากมายใช่มั้ยครับ???

ฉะนั้นคำว่าจิตใจก็คือนามธรรม ถูกต้องแล้วครับ

ผมถามนะครับว่า ทำไมคนมีมีปัญหาสมองพิการ ยังนึกคิดจินตนาการได้อยู่ครับ

ตกลงใครครับ ที่เพ้อเจ้อจะให้ใจเป็นสมองให้ได้ครับ

ถ้าใจมันเป็นรูปอย่างที่คุณพูด คุณเอาความรู้สึกนึกคิดมาให้ดูหน่อยสิครับ

;aa24

 

คุณเต้าเจียวครับ

ไม่บอกไม่รู้นะครับว่า วันนี้อารมณ์ดี เห็นระรานคนอื่นอยู่ เลยให้สงสัยครับ

คุณก็เลิกคิดเองเออเองได้แล้วนะครับ คำว่ารูปที่เป็นอารมณ์ของจิตคือรูปารมณ์ครับ

วันหลังคุณอยากรู้ว่าเป็นนัยยะอะไร ลึกขนาดไหนแล้วล่ะก้อ ถามตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมครับ

;aa24

 

คุณเต้าเจี้ยวครับ

ถ้าคุณคิดจะมารวนเท่านั้น ไปสงบสติอารมณ์บ้างก็ดีนะครับ

ที่บอกว่าเนียน มันอันเดิมที่ไหนกันครับ คุณปรุงมันขึ้นมาเอง ใหม่ทั้งนั้นครับ

เมื่อจะให้ยกพระพุทธพจน์ จัดให้ครับ

"จิตของเราสิ้นการปรุงแต่ง บรรลุพระนิพพานเพราะสิ้นตัณหาแล้ว"

สะใจหรือยังครับ คงทำให้สงบสติอารมณ์ได้บ้างนะครับ

;aa24

 

ถึงพระเจ้าก็ไม่อาจช่วยได้ เพราะมีจิตหลายดวงเกินไป ไม่รู้จะช่วยดวงไหนก่อนครับ

;aa24
...........

 

คุณเล่าปังครับ

จะสรุปอะไรขอหลักฐานครับว่า พระนิพพานรู้ตัวมันเองได้อย่างไรครับ

พระนิพพานเป็นคุณลักษณะที่ปรากฏขึ้นมาครับ ไม่ใช่รู้ตัวมันเอง

ต้องมีการบรรลุหรือเข้าถึงจึงรู้ครับ อย่าพยายามกบฏจนพระพุทธพจน์เสียหายสิครับ

;aa24

 

​

คุณหลงเข้ามาครับ

ในเมื่อคุณเป็นผู้ยกมา ผมสงสัยแล้วไม่ถามคุณก็ไม่รู้จะถามใครดีครับ

โลกคือหมู่สัตว์ที่จิตติดข้องในอารมณ์ใช่มั้ยครับ??? หรือเรียกว่าโลกียจิต

ส่วนโลกุตตรจิต คือจิตที่พ้นโลก เหนือโลกแล้วใช่มั้ยครับ???

แล้วโลกุตตรจิตชั้นพระอรหันต์ จะเรียกว่าจิตมีอารมณ์เหนือโลกหรือครับ???

เมื่อจิตพ้นโลก เหนือโลก จิตต้องพ้นจากอารมณ์ หรือ อยู่เหนืออารมณ์ใช่มั้ยครับ???

เมื่อโลกกุตตรจิตเป็นจิตที่พ้นจากการเกิดดับตามอารมณ์ได้แล้ว ยังจะให้กลับไปเกิดดับอีกหรือครับ???

อารมณ์นั้นคือพระนิพพานมีที่ไหนครับ??? อนารมรณํ ปราศจากอารมณ์คือพระนิพพานใช่มั้ยครับ???

;aa24

 

คุณหลงเข้ามาครับ

แล้วคุณลักษณะของพระไตรลักษณ์คืออะไรครับ???

อะไรที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ล้วนเป็นอนัตตาใช่มั้ยครับ???

อนัตตลักษณะ คือ ลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตน ขอย้ำว่าไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ไม่มีตัวตนนะครับ???

ไม่ใช่กับไม่มี คนละเรื่องกันเลยนะครับ ไม่ใช่ที่ใช่ต้องมี ไม่มีไม่ต้องพูดถึงก็เพราะมันไม่มีครับ

คำว่าปราศจากตัวตนหมายความว่า ไม่มีตัวตนใช่มั้ยครับ???

เมื่อไม่มีตัวตน ก็แสดงว่าสิ่งที่ว่านั้นไม่มีอยู่จริงใช่มั้ยครับ???

การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เราบังคับบัญชาให้เป็นไปดั่งใจหวังไม่ได้ใช่มั้ยครัย???

แล้วการไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายก็บังคับบัญชาไม่ได้เช่นกันหรือครับ???

;aa24

 

คุณapichai53ครับ

ของแบบนี้ไม่ต้องคิดครับ แม้แต่เด็กมันยังรู้เลย ๗ดวง๘ดวงรวมอยู่เป็นอันเดียวกัน

ไม่ว่าชาวบ้านหรือคนที่มีการศึกษาที่ไหน เค้าก็เรียกเป็นพวงทั้งนั้นแหละครับ หรือคุณเรียกว่าอย่างอื่นครับ

คุณไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ หว่งตนเองดีกว่าครับ ที่ยังหลับหูหลับเชื่อตามๆกันมาเท่านั้น(ผิดหลักกา]มสูตร)

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุและผล ฉะนั้นจะเชื่ออะไรต้องลงมือพิสูจน์ครับ

คุณก็เป็นแค่พวกหางเครื่องเท่านั้น ที่คอยออกมาเต้นเชียร์อยู่ข้างเวทีเท่านั้น

อย่าเอาแต่พล่ามเป็นเด็กๆอยู่เลยครับ

;aa24

 

คุณโปครับ

ถ้าคุณเข้ามาเพียงเพื่อกระแนะกระแหนแล้วล่ะก้อ ไปสงบสติอารมณ์ดีกว่าครับ

คุณอย่ามาพล่ามแบบคิดเองเออเองดีกว่าครับ ใครทัดทานใครกันแน่ครับ

ผมเห็นคุณแอบอ้างว่าเป็นลูกศิษย์สายท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่น

แต่ยังกล้าพูดว่าจิตเกิดดับ ทำให้ท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่นเสียหายไปด้วยใช่มั้ยครับ???

สายท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่นไม่มีองค์ไหนที่สอนว่าจิตเกิดดับหรอกครับ

ใครกันแน่ครับที่ผิดเพี้ยนอยู่ทุกวันนี้แบบหลับหูหลับตา อย่าหลงตัวเองอยู่เลยครับ

คุณควรพิจารณาตัวเองบ้างนะครับว่า อย่าทำความเสียหายให้แก่วงการศาสนาต่อไปอีกเลยครับ

คุณก็เป็นแค่พวกหางเครื่องเท่านั้น ที่คอยออกมาเต้นเชียร์อยู่ข้างเวทีเท่านั้น

ไม่เชื่อไปถามคุณเซนดูก็ได้ครับ

;aa24

 

หากินแค่นี้เอง
แล้วตรงไหนบอกว่า นิพพานเป็นอย่างไรล่ะ
กรุณาอย่าหนีดีกว่า
เหอๆๆๆ

 

อ้างอิง:ปราบเทวดา
ก็จิต ๗ ดวง ๘ ดวง ซึ่งเนื่อง เป็น อัน เดียว กัน
ชื่อว่าสามารถเกิดในขณะเดียวกันย่อมไม่มี

ตอบได้ปัญญาอ่อนดี จิตหลายดวงเกิดเป็นพวงไม่รู้จะช่วยอันไหนก่อน
คุณอ่านหนังสือแตกไหมล่ะ
ก็จิต ๗ ดวง ๘ ดวง ซึ่งเนื่อง เป็น อัน เดียว กัน
ชื่อว่าสามารถเกิดในขณะเดียวกันย่อมไม่มี

*

 

อยากรู้รายละเอียด รูปารมณ์ของคุณหน่อย
เหอๆๆ