การสอนดูจิตที่เข้าใจผิดไปจากความเป็นจริงว่าจิตเกิดดับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 5 มิถุนายน 2010.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    อย่าว่าผมสอนเลยนะครับ ลูกผู้ชายนั้น กล้าทำต้องกล้ารับในสิ่งที่เกิดขึ้นนะครับ

    ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด แต่ต่างกันตรงที่ว่า ผิดแล้วกล้ารับ กับผิดแล้วโยนความผิดไปให้สิ่งอื่น

    ที่ผมต้องเตือนไปบ้าง เพราะว่าผมเห็นคุณโยนความผิดไปให้กับ "มันน่าจะ" หรือ "ผมพิมพ์คำว่า นามธรรมผิด"

    ผิดคือผิด ถูกคือถูก ให้อภัยกันได้อยู่แล้ว แต่ถ้ากลัวที่จะผิด ชีวิตนี้ไม่ต้องหาความถูกต้องที่แท้จริงแล้วครับ

    อย่าลืมนะครับว่า ผมสนใจศึกษาพุทธศาสนามานาน เริ่มที่จริงๆจังๆ ก็กว่า๒๐ปี คิดว่าผมลองผิดถูกไปมากน้อยขนาดไหนล่ะครับ???

    เรื่องพระนิพพานคุณเป็นคนเริ่มเอง และจบมันเอง ผมไม่เคยนำมาเป็นประเด็นถกกับคุณในกระทู้นี้เลยนะครับ

    ผมถกเพื่อหาความจริง แต่คุณเถียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น คุณจินตนาการเอง แล้วจะไปโทษใครอีกหละครับ???

    คุณถามว่า "เที่ยง" กับคำว่า "ไม่มีอยู่" คุณเอาอะไรมาถามครับ มันก็บอกในตัวมันเองอยู่แล้วว่าคนละเรื่อง อย่าจินตนาการเองสิครับ

    ผมผิดหวังมากนะครับ ที่คาดหวังในตัวคุณสูงเกินจริงไปหน่อยครับ

    ;aa24
     
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ผมเห็นอะไรที่ซ้ำซ้อนมาก็เยอะนะครับ แต่ไม่เคยเห็นใครมั่วได้ซ้ำซ้อนอย่างคุณเลย

    ขึ้นต้นก็มั่วแล้ว ยังพยายามมั่วให้ผ่านไปให้ได้อีก ผมก็บอกเตือนแล้วว่า

    อย่าพยายามอธิบายเลย ยิ่งพยายามอธิบายก็ยิ่งออกทะเลไปไกลครับ

    ถ้าคุณอธิบายแล้วมีเหตุผล ใครบ้างจะต้องให้อธิบายซ้ำซากละ

    แสดงว่ามั่วน่ะสิ จึงต้องอธิบายซ้ำซากใช่มั้ย??? เฮ้อ!!!

    ;aa24
     
  3. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    <TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="โพส 3510168" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>zeedhama</TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ธรรมภูต [​IMG]
    ถ้าผู้ศึกษาได้ลงมือปฏิบัติสัมมาสมาธิในหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ มาแล้วอย่างจริงจัง ตามรอยพระบาทของพระบรมครูแล้ว จะไม่สงสัยในอาการของจิต(จิตสังขาร)ที่เกิดดับไปตามอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ เหล่านั้น ย่อมจะรู้เห็นความเป็นจริงได้ไม่ยากว่า ตัวจิตซึ่งเป็นธาตุรู้ไม่เคยเกิดดับหรือดับตายหายสูญไปไหนเลย จิตรู้อยู่ตลอดเวลาในขณะปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา “พุทโธ” ซึ่งมีบ้างที่จิตเผลอสติไปในบางครั้ง

    จิตของผู้ปฏิบัติอยู่นั้น รู้เห็นว่าที่เกิดดับ หรือ ดับตามหายสูญไปนั้น ล้วนเป็นจิตสังขารคืออาการของจิตที่เกิดขึ้นและแสดงปฏิกิริยาตอบต่ออารมณ์ความนึกคิดทั้งหลายเหล่านั้น ในขณะที่เผลอสติไป และเกิดดับหรือดับตายหายสูญไปกับอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดเหล่านั้น ที่เวียนตายเวียนเกิดเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่จิตเผลอสติอยู่นั่นเอง


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อนุโมทนาค่ะ

    จิตไม่เกิดดับ ที่เกิดดับคืออาการของจิต



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อนุโมทนา ลืมตาดูไหมนี่ คุณ zeedhama
    เพลานี้ คุณธรรมภูติ เขาให้ที่เกิดดับเป็นจิตสังขารแล้วนะ
    คุณเป็นปางหนึ่งของธรรมะสวนังหรือ?


    เห็นมาบ่อย เฉพาะแค่ตรงนี้ ตอบบ้างก็ได้นะ
    จิตไม่เกิดดับ เพราะอะไร
    ที่เกิดดับคืออาการของจิต คืออะไร

    ก็ไม่มีใครว่ามีจิตหลายดวงนี่
    แล้วอารมณ์ที่พ่อฤาษีกล่าวคืออะไร

    คุณเอาคำสอนหลวงพ่อไปเผยแพร่ได้ตามเจตนาท่านก็เป็นผลดี
    ถ้าไม่ได้ตามเจตนาในการพูดในเวลานั้น ก็ไม่รู้นะผลจะเป็นอย่างไร

    :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2010
  4. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณจะมั่วไปถึงไหนครับ ผมถามหลายรอบแล้วนะครับ ถามจนเอือมระอา

    ตกลงคุณให้จิตเป็นอะไรกันแน่ครับ??? คุณเองพูดมาอย่างน้อยก็สองสามอย่างแล้วนะครับ

    แล้วแต่ละอย่างก็คนละเรื่องเลย จิตเป็นผู้รู้ จิตเป็นอารมณ์ จิตเป็นสภาวะ คนอ่านจะหัวเราะเอาได้นะครับ

    โลภ โกรธ หลงก็เป็นอารมณ์ของจิต แล้วจิตที่ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง มีมั้ยครับ???

    ผมถามนะครับว่า อะไรที่เป็นอย่างหนึ่งเกิดขึ้น อะไรครับที่เป็นอย่างหนึ่งดับไปหรือครับ???

    อย่าบอกนะครับว่าจิตเป็นอย่างๆอีก ชี้ชัดสิครับว่า จิตเป็นอะไรกันแน่ครับ นี่ล่ะครับ"มั่วซ้ำซ้อน"

    ;aa24
     
  5. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณเองก็ชอบยัดเยียดเหมือนกันนะครับ ผมไม่แฟร์ตรงไหนครับ???

    คุณพูดเองแท้ๆว่า "เมื่อเกิดสภาวะอารมณ์ เกิดจิตตัวรู้หลังจากสภาวะ
    จิตที่เป็นอารมณ์ดับไปแล้ว"


    คุณพูดว่า "เกิดจิตรู้ทีหลัง" แล้วจิตผู้ไม่รู้ความจริงอยู่ไหนหละ???

    คุณก็ตอบเองเบ็ดเสร็จว่า "จิตที่เป็นอารมณ์"

    ไม่ใช่นะครับตอนนั้นจิตไปรู้อยู่ที่อารมณ์ ต้องพูดว่า "จิตหลงไปรู้อยู่ที่อารมณ์"

    เพราะคิดว่าอารมณ์เป็นตน(จิต)ใช่มั้ยครับ???

    ;aa24
     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    อ้าวไหงคุณเป็นคนอย่างนี้ไปได้เร็วขนาดนี้ครับ

    คุณเถียงผมคอเป็นเอ็นอยู่หยกๆว่า จิตไม่ใช่ธาตุรู้ ไม่ทรงไว้ซึ่งความรู้

    ก็ในเมื่อจิตคุณเกิดดับ ก็ต้องรู้บ้างไม่รู้บ้างใช่มั้ยครับ???

    คุณพูดเองว่า "การที่ยังไม่รู้คือการที่จิต แสดงสภาวะอื่นอยู่ สภาวะรู้ยังไม่เกิดครับ"

    คุณนี่ช่างจินตนาการและจินตนาการซ้ำซ้อนจริงๆเลยนะครับ

    ถ้าไม่รู้จริงๆ แล้วบอกได้ยังไงหละครับว่า "การที่ยังไม่รู้คือการที่จิต แสดงสภาวะอื่นอยู่"

    ที่คุณพูดมา คุณรู้นี่ว่า "จิตอยู่ในสภาวะอื่นอยู่ใช่มั้ยครับ???" อย่าบอกนะว่าไม่รู้หรอก เดาๆเอาเองเท่านั้น

    ;aa24
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ใครกันแน่ครับที่ไม่อยู่บนหลักเหตุผล และไม่ยอมจบง่ายๆ

    ผมเป็นคนที่ ใครมีเหตุผลดีกว่า ผมยอมให้เสมอครับ ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ

    แต่ถ้าขาดเหตุผลแล้ว ลงให้ง่ายๆความถูกต้องก็หายไปหมดสิครับ

    อย่าไปห่วงคนอ่านเลยครับ เค้าใช้วิจารณญาณของเค้าเองได้ครับ

    คนเสียสติ คุยไม่รู้เรื่องหรอก ถ้ายังคุยรู้เรื่องก็แสดงว่ายังพอมีสติอยู่ครับ

    ถึงจะถามหรือถามแบบบอกเล่า ก็ตอบๆเถอะครับ จะได้รู้ว่า คุณคิดอะไรอยู่ครับ???

    ;aa24
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ผมได้ถามไปแล้วครับในคคห.ข้างบน

    แต่ถามเพิ่มนะครับ จิตแปรเปลี่ยนไปตามสภาวะ หรือ สภาวะเปลี่ยนแปรไปตามจริง

    คุณตอบแบบหนักแน่นว่า "จิตเป็นสภาวะ"

    แล้วสภาวะโลกร้อน สภาวะเยือกแข็ง ก็เป็นจิตด้วยหรือ???

    คุณต้องศึกษา คำว่าสภาวะเพิ่มเติมซะแล้วครับ

    ;aa24
     
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณกำลังสับสนเองอยู่นะครับ

    คุณเพิ่งตอบผมมาหยกๆว่า "อารมณ์เป็นสิ่งที่ถูกจิตรู้"

    เมื่อคุณคิดเองเออเองให้จิตเป็นทั้งอารมณ์ เป็นทั้งสภาวะ เป็นทั้งผู้รู้

    ทุกอย่างเป็นตัวจิตหมด จิตก็ไมjต้องรู้อะไรก็ได้นิครับ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ตัวมันเองแล้ว

    พูดแบบนี้หรือครับ ที่เรียกว่ามีเหตุผล

    คุณได้เคยยินคำว่ารูปารมณ์ สัททารมณ์ คันทารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ ธัมมารมณ์ มั้ยครับ???

    รูป เสียง กลิ่น รส กายสัมผัส ธัมมารมณ์เป็นอารมณ์

    แต่คุณพูดว่าจิตก็เป็นอารมณ์ ตกลงอะไรกันแน่ครับที่เป็นอารมณ์???

    ;aa24
     
  10. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าถาม จะประชดไปเพื่ออะไรกันครับ

    โดยความเป็นจริงแล้ว จิตคือผู้รู้ อารมณ์คือสิ่งที่ถูกจิตรู้นะครับ

    คุณก็ยอมรับด้วยตัวเองนะครับว่าใช่

    เมื่อมีผู้รู้ แต่ไม่มีอารมณ์เป็นสิ่งที่ให้จิตรู้ จะเกิดสภาวะขึ้นมาได้มั้ยครับ???

    อะไรที่เป็นทั้งสองอย่างได้ ต้องเกิดพร้อมกันได้ใช่มั้ยครับ???

    ที่เกิดขึ้นทีละอย่างนั้น ก็เพราะเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นในแต่ละครั้งครับ ไม่ใช่เป็นทั้งสองอย่างครับ

    ;aa24
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ว่าจะไม่พูดถึงพระนิพพานแล้วเชียว

    คุณพูดว่า"เที่ยงตรงต่อนิพพาน"นี้มันไม่ใช่จุดมุ่งหมาย

    แล้วอะไรละครับ ที่เป็นจุดมุ่งหมายของพวกเราชาวพุทธ???

    เมื่อคุณระลึกรู้แล้ว คุณยังต้องจำอีกหรือครับ???

    ใช่ครับ มันเที่ยง เพราะมันรู้อยู่เสมอไม่มีลืมเลือน จำได้แล้วกลายเป็นความรู้

    หมายความว่า รู้วิธีปล่อยวางอารมณ์ได้แล้ว ไม่ใช่จำอารมณ์ได้นะครับ

    คุณกล้ายืนยันมั้ยว่า ความรู้ที่จำไว้สมัยเตรียมตัวสอบ คุณจำมันได้หมดไม่รู้ลืม???

    แต่ถ้ายังต้องจำ(สัญญา)อยู่ แสดงว่ามันยังไม่รู้ เมื่อเป็นความรู้แล้วก็ไม่ต้องจำอีกแล้วใช่มั้ยครับ???

    คุณพูดได้ยังไงว่า"จิตไม่เที่ยง" ถ้าจิตไม่เที่ยงก็ต้องรู้บ้างไม่รู้บ้างแปรปรวนไปใช่มั้ยครับ

    แต่ถ้าไม่รู้ลืม(ไม่ต้องจำ) มันก็เที่ยงชัดๆ ยังกล้าพูดเต็มปากว่า"จิตไม่เที่ยง"อีก
    (นี่ประเด็นใหม่ ที่เกิดขึ้นมา จะเล่นต่อก็เชิญนะครับ)

    ;aa24
     
  13. วจีทุจริต

    วจีทุจริต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +263
    ร้อยสันพันหม่นไหม้ .......เป็นเพียง อาการ
    รวมร่วมปลงลงเคียง .......หนึ่งนี้ ไม่เที่ยง
    รู้ย้อนย่นสู่เพียง ..............สังขาร อนิจจัง
    เข้าใจ่สิ่งเดี่ยวนี้ ..............เห็นโง่ เห็นเงา

    อารมณ์หนึ่งสิบร้อย ........เกิดดับ ให้หลง
    อาการไว้ให้จับ .............ยึดถือ
    เงาแลทอดยาวลับ ..........หลงแท้ ไม่รู้
    แสงธรรมส่งพ้นมือ .........ตัวโง่ เท่าทัน
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เง้อ.. อุส่าตอบแบบอ้างอิง แต่หายไปไหนหว่า งงเต๊ก

    พิมข้อความที่หายมาตรงนี้ละกัน

    ขอบคุณครับ น้าเต้าเจี้ยว ที่นำมาให้ทัศนาธรรมของหลวงปู่หล้า

    ผมมี คำอรรถกถาธิบาย จากพระพุทธโกศาจารย์ จากพระสุตตันตปิฎก หมวดพระธรรมบท ไม่ใช่อภิธรรมมัคถะสังคหะ มาให้เพื่อนๆ ได้ทัศนา

    ทูรงฺคมํ เอกจรํ มีคำแปลว่า บุคคลเหล่าใด จักระวังจิตซึ่งไปไกล เที่ยวไปผู้เดียว ไม่มีร่างกาย อาศัยอยุ่ในถ้ำ บุคคลเหล่านั้นย่อมพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร ดังนี้


    ในคำเหล่านั้น คำว่า ไปไกล คือ อันการไปและการมาทางทิศตะวันออกเป็นต้น แม้เพียงชั่วใยแมลงมุมแห่งจิตย่อมไม่มี จิตย่อมรับอารมณ์แม้ มีอยู่ในที่ไกล เพราะฉนั้น จึงชื่อว่าไปไกล ฯ

    ก็จิต ๗ ดวง ๘ ดวง ซึ่งเนื่อง เป็น อัน เดียว กัน
    ชื่อว่าสามารถเกิดในขณะเดียวกันย่อมไม่มี

    ในเวลาเกิดก็เกิดทีละดวง เมื่อดับแล้วก็เกิดอีกทีละดวง เพราะฉะนั้น

    จึงชื่อว่า เที่ยวไปผู้เดียว ฯ


    ย.เพิ่มเติมว่า ...คัดมาจาก พระสุตตันตปิฎก

    ขุ. ธรรมบท เล่ม ๒
    ว่าด้วยเรื่อง พระสังฆรักขิต หน้า ๓๕ บรรทัดที่ ๘<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ใครสับสนกันแน่ครับ คุณเองต่างหากที่สับสนนะครับ

    เอาจิตผู้รู้ มาเป็นทั้งอารมณ์ เป็นทั้งสภาวะ ปนเปกันหมดครับ

    อารมณ์คือเครื่องปรุงแต่งจิตหรือเรียกว่าเจตสิกใช่มั้ยครับ??? เมื่อเป็นเจตสิกก็ไม่ใช่จิตใช่มั้ยครับ???

    สภาวะ คือเหตุปัจจัยทำให้เกิดขึ้นใช่มั้ยครับ??? เมื่อไม่มีเหตุปัจจัยให้เกิดขึ้น ก็ไม่มีสภาวะใช่มั้ยครับ???

    มันคนละเรื่องเดียวกันชัดๆ ยังจะปนเปกันให้มั่วไปหมด

    อย่ารีบสรุปเองเออเองสิครับ ถ้าจิต อารมณ์และสภาวะเป็นตัวเดียวกันจริง

    วิธีหลุดพ้นง่ายนิดเดียว ไปฆ่าตัวตายซะ ทุกอย่างจบ หมดเรื่องเลย ไม่ต้องไปเกิดอีก

    เป็นไปได้มั้ยครับ???

    ;aa24
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณนี่คงสับสนน่าดูเลยนะครับ คุณไปเอาความรู้พวกนี้มาจากไหนครับ

    สภาวะที่จะเกิดอารมณ์ได้นั้น ต้องประกอบด้วย มีผู้รู้๑ มีสิ่งที่ถูกรู้๑ มีผัสสะ๑ ใช่มั้ยครับ

    มันเป็นเหตุปัจจัยคนละตัว คนละส่วนกันเลยใช่มั้ยครับ???

    ถ้าขาดเหตุปัจจัยอย่างใดปัจจัยอย่างหนึ่งไป ก็เกิดสภาวะขึ้นมาไม่ได้ใช่มั้ยครับ???

    คุณจะเอาอารมณ์ที่ไหนมาเป็นผู้รู้ครับ ถ้ายังมีอารมณ์อยู่แสดงว่ายังไม่ระลึกรู้ใช่มั้ยครับ

    อย่าเอาสติที่เป็นตัวระลึกรู้มาปนเปกับอารมณ์สิครับ อารมณ์ส่วนอารมณ์ สติส่วนสติครับ

    ถ้าระลึกรู้เกิดขึ้น อารมณ์ก็ดับไปใช่มั้ยครับ??? อารมณ์ทำให้ขาดสติใช่มั้ยครับ???

    ;aa24
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณก็ตอบเองแล้วนะครับว่า "ที่ว่าไม่รู้ของท่านนะ มันเป็นช่วงเวลาที่เกิดอารมณ์ต่างๆ"

    จิตมันไปรู้อยู่ที่อารมณ์หรือที่เกิดอารมณ์ขึ้นที่จิตใช่มั้ยครับ???

    อารมณ์ผู้รู้ไม่มีหรอกครับ ถ้ามีอารมณ์ก็เพราะขาดสติ เมื่อระลึกรู้(สติ) อารมณ์ก็ดับ ไม่ใช่จิตดับ

    การระลึกต้องระลึกกันที่จิต ไม่ใช่ระลึกที่อารมณ์ มีอารมณ์ระลึกรู้ไม่ได้ ระลึกได้ต้องไม่มีอารมณ์ใช่มั้ยครับ???

    การบ้านจิตตัวไม่รู้ของท่านเป็นอย่างไรกันครับ???

    ผมตอบไปแล้วที่คคหข้างบน คือจิตที่ไม่รู้ตามความเป็นจริง ไปยึดอารมณ์มาเป็นตนคือจิตครับ

    ;aa24
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    เป็นความเห็นส่วนตัว อรรถกถาจารย์มาจากคำว่า อรรถ+กถา+อาจารย์

    เมื่อแปลตามที่มาน่าจะแปลว่าอาจารย์ผู้สาธยายหัวข้อธรรมให้กว้างขว้างออกไปครับ

    อรรถกถาจารย์ก็คืออาจารย์ผู้ที่นำเอาหัวข้อธรรมของพระพุทธเจ้ามาขยายความตามความเห็นของตนเองอีกทีครับ

    ;aa24
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณหลงเข้ามาครับ

    ตอนคุณเข้ามาคุณก็หลงเข้ามา ตอนคุณออกไปจะหายหลงหรือเปล่าครับ???

    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมไม่เคยยืนยันที่ไหนเลยว่า พระนิพพานคืออัตตา

    มีแต่มีพวกผู้หวังดีทั้งหลายชอบยัดเยียดให้ โดยไม่มีหลักฐานให้อ้างอิงเลยครับ

    ที่ผมพูดเสมอๆก็คือ พระนิพพานเป็นที่พึ่ง ที่อาศัยอันสูงสุด

    เมื่อเป็นที่พึ่งที่อาศัยได้ ย่อมไม่ใช่อนัตตา อันนี้ผมยืนยันแน่นอนครับ

    อะไรที่ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตน(อนัตตา) ย่อมเป็นที่พึ่งที่อาศัยไม่ได้ใช่มั้ยครับ???

    ส่วนใครจะจิ้มก้องใครหรืออะไร??? ไม่ใช่ผมแน่นอนครับ ธรรมภูตก็คือธรรมภูต

    ผมกล้าทำกล้ารับครับ ผิดคือผิด ถูกคือถูก ไม่รู้จะรักษาหน้าไปทำไม และไม่ชอบแอบเนียนด้วยครับ

    แค่บอกให้รู้เฉยๆ หุหุ

    ;aa24
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณapichai35ครับ

    คุณไม่ต้องแอบเนียน ตีสำบัดสำนวนหรอกครับ

    ผมเห็นก็รู้แล้วว่า คุณประเภทเด็กไม่รู้จักโต ที่ชอบพูดเอาแต่ได้นะครับ

    คุณรู้ได้ยังไงครับที่มีแต่คนไม่เห็นด้วย แล้วที่ผมได้รับคำอนุโมทนามาจากไหนครับ

    ผมคงกดให้ตนเองไม่ได้แน่นอนใช่มั้ยครับ???

    คุณจะต้องกลัวคำสอนผมไปเพื่ออะไรครับ??? ผมเคยบังคับให้ใครต้องเขื่อหรือครับ

    ผมคิดว่าคนอ่านเค้าไม่โง่อย่างที่คุณคิดนะครับ เค้ารู้จักใช้วิจารณญาณที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ

    คุณเองก็ไม่ต้องร้อนร้นหรือเดือดร้อนไปก็ได้ครับ

    ถ้ากลัวนักกลัวหนาจริงๆ ก็ตอบคำถามที่ผมเคยถามไปก็ได้ครับ แล้วเอาธรรมมายันกันสิครับ

    คุณก็ได้แต่ปากคอเราะร้าย ก็เท่านั้น ไม่มีภูมิอะไรเลยใช่มั้ยครับ จึงทำได้เท่านี้

    คนที่พูดไม่รู้เรื่องแบบคุณ จะรู้เรื่องอะไรกับธรรมะที่เป็นของละเอียดอ่อนลึกซึ้ง

    อย่าดีแต่อ่านแล้วจำเอามาพูดอย่างเดียวสิครับ ผมถามไปคุณก็ไม่เคยคิดจะตอบเลย

    นี่หรือคนที่รู้ธรรม เหมือนคุยกับเด็กที่พูดไม่รู้เรื่อง ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

    ไม่ต้องฝืนเข้ามาก็ได้ครับ หัดรู้จักเป็นห่วงตัวเองจะดีกว่านะครับ ที่ยังหลงงมงายอยู่

    ธรรมต้องรู้จากการลงมือปฏิบัติจริงเท่านั้น จึงจะรู้จริง ไม่ใช่ความรู้จากความคิดที่ตกผลึกเอาเท่านั้น

    ที่พูดแบบนี้เค้าไม่เรียกว่าติติงหรอกครับ เค้าเรียกว่าหลอกด่าแดกดันครับ

    ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณพูดไม่รู้เรื่องเหมือนเด็ก เพราะบอกไปหลายหนแล้วว่า

    ถ้าจะติติงจริงๆ ก็ชี้หัวข้อธรรมลงมาให้ชัดเจน ไม่ใช่พูดลอยๆแล้วก็เดินหนีแบบเด็กๆครับ

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...