ถามเรื่องพญานาคค่ะใครรู้ช่วยตอบทีค่ะ

----

ต้องเข้าใจว่า ทำกสิณเพื่ออะไร เพื่อจิตมีสมาธิ แต่เรื่องฤทธิ์นั้นเป็นอานิสงล์ที่เกิดจากการทำกสิณ จริงๆกสิณแสงสว่างดูดวงจันทร์ก็ได้นะ แสงสว่างของดวงจันทร์ หรือแสงพระอาทิตย์ยามใกล้จะตกดินที่ออกสีส้มๆก็ได้

 

ขอบคุณครับพี่ครู

หนุ่มไปฝึกหวังให้จิตมีสมาธิเหมือนเช่นที่พี่ครูบอกแต่ยังทำได้ไม่ค่อยดี อายจัง ส่วนเรื่องฤทธิ์หนุ่มขอบอกตรงๆเลยว่าไม่หวังครับคิดว่าชาตินี้คงไม่มีหวังเพราะรู้ตัวว่าในปัจจุบันนี้สมาธิยังทรงไม่ค่อยดีอยู่เลย

 

ขอบพระคุณค่ะ พี่สาว

จริงๆไม่อยากบอกเลยว่า ตอนนี้กำลังเจอบททดสอบอย่างหนัก
เเละสงสัยอยู่เเทบจะตลอดเวลา ว่าทำไมเราต้องเจออะไรเเบบนี้
ทั้งที่เราพยายามสร้างเเต่กรรมดี เจ็บปวด ทุกข์ ทรมาณ ไม่เข้าใจ ท้อเเท้
คิดอยู่ว่ากำลังโดนเอาคืนหรือเปล่า เจ้ากรรมนายเวรคงมากมาย
ถึงได้ตามมาทวงกันไม่จบสิ้น

ตอนนี้ก็ได้เข้าใจเเล้ว ว่าใครกันเเน่ที่ตามเราอยู่ ที่เเท้เป็นเช่นนี้เอง

เมื่อราวเดือนหนึ่งที่ผ่านมา มีเหตุให้ต้องอธิษฐานจิตฝากดวงไว้กับหลวงปู่ดู่
ตั้งเเต่นั้นมาจึงต้องเริ่มสวดบทจักรพรรดิ์ ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำมาก่อนเลยค่ะ
เเต่ก็ยังไม่เคยอธิษฐานจิตขอบารมีท่านครอบตัว ไว้จะลองทำดูค่ะ

สำหรับหลวงปู่ทวดนั้น เป็นพระอริยะที่นับถือมาตั้งเเต่ยังวัยรุ่น
(ตอนนี้รุ่นไหนเเล้วก็ไม่รู้ หุหุหุ) เเต่ไม่เคยรู้ว่าท่านสงเคราะห์ดูเเล
รู้สึกเเค่ว่า เป็นพระอริยะเจ้าหนึ่งเดียวในใจ ไม่ใช่ไม่นับถือพระอริยะองค์อื่นๆ
เเต่เฉพาะหลวงปู่ทวดนี้ นับเป็นที่สุดในใจจริงๆค่ะ มาได้รู้ว่าทำไม
ก็เมื่อ พี่ครู เฉลยคำตอบไป เมื่อไม่นานมานี้เอง
ขอบพระคุณ พี่ครู อีกครั้งด้วยนะคะ

ว่าเเต่อย่างน้อยน้องจะได้เกิดอีกชาตินี่ หมายความว่าอย่างไรคะ พี่สาว
คงไม่ใช่ชาติเดียวบรรลุนะ น้องละกลัว กิเลสยังมากมายอยู่เลย เหะๆ

ขอบพระคุณ พี่สาว ที่ส่งจิตมาช่วยน้องในคืนนั้นค่ะ อนุโมทนาสาธุในกุศลผลบุญที่พี่สาวได้กระทำ
ทั้งในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ เเละที่จะได้กระทำต่อไปในภายภาคหน้าเช่นกันค่ะ

 

ยุคนี้ เขาเรียกว่ายุคของบุญฤทธิ์ ชื่อก็บอกว่าทำบุญแล้วเกิดฤทธิ์ ก็คือ เราต้องทำบุญ อธิษฐาน การทำบุญนี่ไม่จำเป็นต้องบริจาคเงินอย่างเดียว แต่การสวดมนต์แล้วสัพเพ ตามแนวทางของหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่นั้น เป็นการช่วยเหลือวิญญาณ จึงได้อานิสงล์มาก ถือเป็นการทำบุญใหญ่ บุญใหญ่ ก็จะได้ผลพลอยได้เรื่องฤทธิ์ ตามมา

 

หลายวันมาแล้ว ที่มีเรื่องความไม่เข้าใจกันกับคนรัก รุนแรงถึงขั้นที่เขาขอเอ่ยปากเลิกลา
เหตุเพราะเราเองที่ ขี้น้อยใจโดยไร้สาเหตุ งอนโดยที่เขาไม่รุ้ว่าเขาทำอะไรผิด นานเข้าเขาเลยทนไม่ไหว คงจะเก็บมานาน เขาเลย ระบายมันออกมา

ตอนแรกก็ตกใจไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดสะท้อนนิสัยแย่ๆของเราจากปากเขา เสียใจ แต่ เรายอมรับได้ในเหตุผลของเขา

ในครั้งแรก ตกลงใจว่าจะเลิกกัน แต่ก่อนที่จะผ่านวันนั้นไป เราก็คิดและทบทวน ถ้าเป็นเพราะเรา เราทำไมไม่ขอโอกาสแก้ไข หากเราทำไม่ได้และเกิดปัญหาอีก เราจะยินดี โดยไม่ยื้อ คิดได้ดังนี้ ก็ลองขอโอกาสเขาอีกครั้ง เขาก็ ตกลง และพูดว่า จะเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ และจะรับได้เหรอทำแบบนี้ เขาจะเหลิงนะ .. เรารับปากได้ว่า "ไม่เป็นไร"

เรื่องราวผ่านมา 5 วัน ทุกวันนี้ ยังคงไม่แน่ใจว่า เราตัดสินใจถูกแล้วหรือที่ขอโอกาส
เราสองคน อยู่ด้วยกัน แต่ ไม่หมือนเดิม กรือว่า เราต้องให้โอกาสตัวเราเอง และให้โอกาสเขาเพื่อปรับใจและใช้เวลาเป็นตัวช่วย....
ในใจร้อนรุ่ม .. ไม่สงบ บางทีก็อยากร้องไห้ แต่พยายามบอกตัวเองว่า มันเป็นแค่ อารมณ์อารมณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น อย่าไหวตามอารมณ์ คิดแบบนี้ก็ทำให้ นิ่งได้บ้าง แต่ก็กลับมาคิดอีก ต้องข่มใจแบบนี้อยู่ตลอด
.......................
บางทีก็คิดขอบคุณอะไรสักอย่างที่ช่วยให้เราคิดทวบทวนและกล้าเปิดใจยอมรับข้อเสียของตนเอง ถ้าเป็นที่ผ่านมาคงหาเหตุผลมารองรับนิสัยอ่อนไหวไร้สาระแบบผู้หญิงๆที่ไม่มีเหตุผลนี้ให้ดูดีและไม่ผิด
........................
ก่อนหน้านั้นที่เราฝันเรื่องเกี่ยวกับพญานาค แล้วในนิมิตบอกว่าจะมีโชค พอเกิดเรื่องขึ้น เราก็พาลตัดพ้อว่า นี่หรือคือโชคที่หนูจะได้รับ พอคิดได้ ก็ต้องกราบขออขมาท่าน เรื่องทั้งหมด มันเป็นเรื่องของหนูแต่เพียงคนเดียว หากว่า พ่อ กับแม่ หรือผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้หนูคิดได้ หนูต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

ทำไมต้องให้รู้สึกว่าทุกข์ ใจจึงอยู่นิ่งได้ พอเวลาปกติมีสุข กลับไม่เคยหยุดคิดมีแต่วิ่งร่าเริงยินดี

 

สู้ๆนะจ๊ะ อนุโมทนาด้วยจ้ะ คุณเพชร

บังเอิญว่ามุกสวดบทจักรพรรดิ์มาได้สักพักเเล้ว จึงพอจำได้น่ะจ้ะ
ส่วนเรื่องเจ๋งอะไรนั่น หากไม่โมโห ก็คงไม่สัพเพ
โทสะนี่สมเป็นลูกหลานท่าน เง้อ ๆ ...ต้องปรับปรุงอีกมากเลยมุกอะ

 

ขอบใจน้องชายที่น่ารัก ที่เป็นธุระปะปังเเละคอยเป็นห่วงเป็นใยพี่นะจ๊ะ

รอโอกาสเเซวกลับมานานเเล้วใช่ไหม เหอ ๆ ๆ

หากตะเองทรงสมาธิยังไม่ค่อยดี พี่นี่จบข่าวเลย
นี่ก็รอน้องบรรลุอยู่น้า ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมเลยล่ะ หุ ๆ ๆ

 

การหาว น้ำตาไหล คือการเข้าถึงพระรัตนตรัยหรือคะนี่..
เง้ย.. ที่ผ่านมานึกว่าง่วงเเท้ๆ ปกติเวลาสวดมนต์จะไม่ค่อยง่วง
มีบางครั้งเท่านั้นที่หาว ก็นึกว่าตัวเองอยู่ว่าหาวทำไมนี่ ไม่สำรวมเลย
กลายเป็นการเข้าถึงพระไปเสียได้ เหะๆ ^^'

มุกชอบมองดวงจันทร์ โดยเฉพาะในคืนเพ็ญ เเสงมันสวยนวลตา
ดูเเล้วเพลิน ใจก็สบาย โล่ง โปร่ง สามารถนั่งดูได้เป็นชั่วโมงเหมือนเป็นโรคจิต
ก็เเปลกดีค่ะ พึ่งทราบว่าเป็นวิธีการฝึกกสิณเเสงสว่าง
เเต่ยังไม่มีฤทธิ์อะไรกับเขาหรอก หุหุหุ อย่าเห็นอะไรเลยดีกว่า เเบบว่ากลัวค่ะ

อนุโมทนาสำหรับความรู้ค่ะ พี่ครู
จริงๆที่ได้มาสวดบทจักรพรรดิ์นี่ก็มีเหตุ หากไม่มีเหตุ ก็คงไม่ได้ทำ ^^'
ส่วนอานิสงค์ที่ได้ อืม... เหมือนว่าควรต้องดีใจนะนี่ ได้กุศลมากมายขนาดนั้น
เเต่ฤทธิ์ที่จะได้ตามมาี่ด้วยนี่สิ มีด้วยหรือนี่ ไม่เห็นมีใครเคยบอกน้องเลย ฮือๆ

 

ขอขอบคุณ คุณน้ำใสเป็นอย่างมากคับ

 

ความจริงฝึกกสินแสงสว่าง ไม่มีอะไรมากค่ะ เริ่มจากนึกถึงลูกแก้วใส ๆ หรืออาจจะนึกถึงแสงสว่างที่ลอดช่องหน้าต่างมา (การนึกภาพกสิน หากนึกให้อยู่ตรงหน้า มักจะปวดหัว แต่ถ้าเคลื่อนมาไว้กลางกายจะดีกว่าค่ะ การเห็นจะตรงตามความจริงด้วยค่ะ)


การทรงกสิน คือ นึกให้เห็นภาพนั้นตลอดเวลา โดยไม่เพ่งนะคะ เพ่งแล้วจะปวดหัว เราดูภาพกสินพอให้จำได้ในใจ จากนั้นยืน เดิน นั่ง นอนให้ภาพนั้นติดตาเราตลอดเวลา

หากยังจำไม่ได้ เนื่องจากอาจจะมีเรื่องอื่นมาแทรก ก็ปล่อยไป อย่าบังคับใจนะคะ เพราะจะฝึกไม่สำเร็จ ปล่อยมันไป

พอมีอารมณ์นึกถึงเมื่อไร ค่อย ๆ ฝึกใหม่ ทำไปเรื่อย ๆ สุดท้าย ภาพกสินนั้นจะติดตาเราเองค่ะ

ไม่ว่าเราจะฝึกกสินกองไหน กรรมฐานควบคู่ที่ขาดไม่ได้คือ อานาปานสติ คือ การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เพื่อผ่อนคลายจิตค่ะ หากเราฝึกอานาปานสติคล่องจนได้ฌาณแล้ว ไม่ว่า เราจะเล่นกสินกองไหน ก็ง่ายไปหมดค่ะ

สำหรับน้องหนุ่มนั้น กสินกองแรก น่าจะเป็นกสินน้ำนะคะ ลองฝึกกสินน้ำให้คล่องก่อน ค่อยกลับไปฝึกกสินแสงสว่างค่ะ (พี่เองก็เริ่มจากกสินน้ำค่ะ)

ขออนุโมทนาบุญนะคะ

Numsai

 

เช้าวันนี้เอง..ฝันไปว่านั่งเรือไปกับพี่ที่ทำงานพร้อม เด็กนักเรียน 2 คน (ไม่รู้จัก)
เ็ป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คน เพื่อจะไปเอาของสำคัญบางอย่างในน้ำ ในฝันมันคือของนี้สำคัญมาก...แต่เราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร..พอมาถึงที่ปรากฏว่า ของนั้นหายไป...ยังไม่ทันได้หา..ก็ต้องตกใจ..เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองหายไป จากเรือ...เรามองไปในน้ำเห็นแต่เสื้อผ้าลอยอยู่...ก็ให้เรือขับไปดูปรากฏว่า ช่วยอุ้มเด็กนักเรียนหญิงขึ้นมาจากน้ำไว้ได้..ส่วนเด็กผู้ชายหาไม่เจอ....ใน ฝันเราก็อุ้มเขาไว้แน่น..+ความกลัวสัตว์ร้ายที่อยู่ในน้ำ...เขาตามติดท้าย เรือเรา...เป็นเงาดำใหญ่มาก..ในฝันคิดว่าเป็นจระเข้ตัวใหญ่..คือถ้าโดดขึ้น มาคงฆ่าพวกเราในเรือได้ทั้งหมดพร้อมกัน....แต่เราก็ไม่ได้เห็นตัว...เราหนี ด้วยความกลัวเราเลยสะดุ้งตื่น..สัตว์นั้นต้องการทำร้ายเราจริงหรือเปล่า...

ในฝันแอบคิดไม่ดี..หรือเราจะทิ้งเด็กเพื่อหนีเอา ตัวรอด...แต่ก็ไม่ทิ้ง..คิดว่าถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน..มันมีความหมาย อะไรหรือเปล่าค่ะ

ตอนนี้กำลังท้องอยู่ค่ะ

 

คุณน้ำใสเจ้าขา ถึงวาระยังเอ่ย อยากรู้อดีตมั่งอะ ถ้ายังไม่ถึงก็ขอถามใหม่นะคะ ว่าจะปฎิบัติสายไหนดีถึงจะก้าวหน้า แล้วครูบาอาจารย์คือใคร แล้วเคยมีของเก่ามั่งไหม ถ้ามีปฎิบัติได้สูงสุดถึงขั้นไหนคะ ตอนนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลย น้ำก็ใกล้จะมาแล้ว จะทำไงดี ขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยค่ะ

 

สวัสดีค่ะทุกคน และพี่น้ำใส ^__^

เดี๋ยวแวบไปแวบมา ไม่ค่อยได้เข้ามาพูดคุยบ่อยสักเท่าไร แต่ก้จะพยายามเข้ามาพูดคุยบ้างบ่อยๆนะค๊ะ


*ได้แอบเวบไปอ่านที่พี่พระยาเดโชชัยพูดถึงเรื่องน้ำจะท่วม กลัวค่ะ TT___TT

มันจะท่วมจริงๆรึปล่าวเนี่ย TT____TT ไม่อยากจมน้ำตายค่ะ TT____TT

 

ขออภัยที่เพิ่งตอบนะคะ

เคยเกิดทั้งในสมัยพระเจ้าตากสิน สมัยนั้น เกิดเป็นชายชาติทหาร ร่วมรบกับท่านหลายครั้ง และไปตายที่เมืองแกลงค่ะ ส่วนสมัยพระนเรศวรนั้น ไม่ทราบค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ JINKLE


ขออนุญาตกล่าวเรื่องกรรมฐานที่เหมาะกับจริต คือ อานาปานสติค่ะ ลองไปปฏิบัติกับพระอาจารย์ทางสายพระป่านะคะ ส่วนชื่อครูบาอาจารย์นั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะมีหลายองค์ ขึ้นอยู่กับวาระที่จะพบท่านค่ะ

ช่วงนี้หากไม่ได้ไปฝึกที่ไหน ก็ลองกำหนดหายใจเข้า "พุท" หายใจออก "โธ" ไปก่อนนะคะ ดูลมหายใจไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะทรงฌาณได้ อย่าส่งจิตออกนอกกาย หรือดูกายในกาย เรียกว่า "กายานุสติกรรมฐาน" - พิจารณาร่างกาย ขน ผม เล็บ ฟัน หนังไปเรื่อย ๆ

วันหนึ่งจะพบครูอาจารย์ที่ต่อวิชาให้เองค่ะ ของเก่ามีพอสมควร หากหวังพระนิพพานชาตินี้ ยังพอได้นะคะ ขึ้นอยู่กับความเพียรในชาติปัจจุบันเป็นหลักค่ะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

Numsai

 

สวัสดีค่ะ น้องปุยฝ้าย

คิดถึงนะคะ รู้สึกว่า พี่ยังค้างคำตอบของน้องอยู่นะคะ ยังไม่ถึงวาระนะคะ เมื่อถึงเมื่อไรจะตอบให้นะคะ

ตอนนี้หมั่นทำทาน รักษาศีลให้บริสุทธิ์ เรื่องน้ำไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ หากเรายึดมั่นในความดี และมั่นคงในพระรัตนตรัยแล้ว ภัยทั้งหลายไม่อาจจะทำอันตรายแก่เราได้ค่ะ ขอให้เชื่อมั่นในพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพนะคะ

บุญรักษาน้องปุยฝ้าย และทุก ๆ ท่านค่ะ

P'Numsai

ปล. พี่เคยผ่านสงครามในกัมพูชา มา ๒ ครั้งก็รอดมาได้ โดยไม่มีอันตรายใด ๆ ทั้งที่ไม่มีพระเครื่องใด ๆ ห้อยคอเลย รอดมาด้วยการให้ทาน การรักษาศีล และการเจริญภาวนาอย่างสม่ำเสมอจริง ๆค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สิ่งที่รู้บางครั้งก็จริง บางอย่างก็ไม่จริง หยุดแสวงหาแล้ว ดูใจตัวเองจะได้ของจริงค่ะ ดูไปเรื่อย ๆ อย่าให้หลุด

มีครูดีอยู่แล้ว อย่าไปเที่ยวแสวงหา สิ่งภายนอกเลยนะคะ หยุดใจเมื่อไร ได้ของจริงเมื่อนั้นค่ะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญค่ะ หากผู้ใดคิดว่า ตนเองเคยปรารถนานางแก้วมา ลองฝึกอย่างนี้ดูนะคะ

-สวดชยมงคลคาถา เพียงห้องแรก -พาหุงสหัสสะ .... ฯลฯ.. สวดในสมาธิ ๑๐๘ จบ จะทราบความเป็นมาของตนเอง

บางท่านจะได้พบกับพระชายาพระโพธิสัตว์พระองค์ก่อน ๆ ค่ะ ท่านจะมาสอนเรื่องการบำเพ็ญบารมี การวางกำลังใจของนางแก้วให้สำเร็จตามความปรารถนาค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับผู้ปรารถนานางแก้วทุก ๆ ท่าน และขอให้สำเร็จตามความปรารถนาทุกประการค่ะ

Numsai

 

คุณน้ำใสคะ เพชรเองกลัวน้ำมากๆ ถึงกับว่ายน้ำไม่เป็นเอาซะเลย และได้ยินว่าอีกหลายคนก็เป็นเหมือนกัน พอจะทราบไหมคะว่าเกิดจากอะไร

 

ขอบคุณคุณน้ำใสมากนะคะ ที่ช่วยชี้แนะ
เรื่องการฝึกของตัวเอง ยังไปได้ไม่ไกลเลยค่ะ
คำตอบของคุณน้ำใส เป็นแนวทางเดียวกับที่หลวงพี่ พระพี่ชาย สอนมาเลยค่ะ
ขออนุญาต นำคำสอนของท่าน มาเผยแพร่เผื่อทุกๆ ท่านด้วยนะคะ
ว่าด้วยเรื่องการนั่งสมาธิวิปัสสนาค่ะ

"เรื่องสมาธิ อย่าไปใส่ใจกับนิมิต ถ้ามีนิมิตเกิดแสดงว่าสติยังอ่อน
พยายามฝึกสติในชีวิตประจำวันให้มาก นิมิตทั้งหลายเกิดจากความฟุ้งซ่านของจิต
มีทั้งจริงทั้งหลอก ให้มีสติรู้ไปเฉย ๆ มันจะหายไปเอง
สำคัญที่สติ ถ้าขาดสติมันจะกลายเป็นมิจฉาสมาธิ ทำให้ไม่เห็นความจริง
ปัญญาจะไม่เกิด ให้มีจิตตั้งมั่นรู้ไปตามที่มันเป็น อย่าบีบอย่ากด
อย่าบังคับอย่าตั้งใจ ทำเล่น ๆ ไป"

แนวทางที่ท่านสอน ให้หมั่นดูจิตไปเรื่อยๆ ค่ะ
ตามรู้ให้ได้ว่าในชีวิตประจำวัน จิตเรามีอะไรมากระทบบ้าง
ตามแนวทางที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ท่านสอน

งั้นรบกวนถามคุณน้ำใสเพิ่มอีกนิดนะคะ
ว่าเรามีพระ หรือครูบาอาจารย์ท่านไหนมั้ยคะ
ใช่หลวงปู่มั่นมั้ยคะ
จะได้มุ่งปฏิบัติตามแนวทางของพระอาจารย์โดยไ่ม่ไขว้เขว

แล้วอย่างคนที่ไม่มีทางจะรู้ได้ หรือไม่มีใครชี้แนะ
เค้าจะมีวาระที่จะรู้มั้ยคะ ว่าใครคือครูบาอาจารย์ของเค้า?

ขอบคุณค่ะ

<input id="gwProxy" type="hidden"><!--Session data--><input onclick="jsCall();" id="jsProxy" type="hidden"><input id="gwProxy" type="hidden"><!--Session data--><input onclick="jsCall();" id="jsProxy" type="hidden"><input id="gwProxy" type="hidden"><!--Session data--><input onclick="jsCall();" id="jsProxy" type="hidden">

 

วิบากกรรมเก่าค่ะ ชาติหนึ่งเคยเกิดเป็นมนุษย์ เคยล้อเพื่อนที่ว่ายน้ำไม่เป็น และแกล้งเพื่อนคนนั้นให้ตกน้ำ เพื่อนว่ายน้ำไม่เป็น รู้สึกกลัวน้ำมาก ๆ แต่ภายหลังไปช่วยเพื่อนไม่ให้จมน้ำตาย

เศษกรรมนี้ตามมาส่งผลให้กลัวน้ำมาก และว่ายน้ำไม่เป็น หมั่นอุทิศบุญแก่เจ้ากรรมนายเวรคนนั้นบ่อย ๆ และอธิษฐานให้เลิกกลัวน้ำนะคะ

บุญรักษาค่ะ

P'Numsai