โทสะครั้งนี้จะดับลงได้อย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย churdpong, 3 เมษายน 2010.

  1. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    นี่ไงตัวโทสะครับ..คือ ตัวตนของคุณเองยังไงครับ..ให้พิจราณาว่าพวกเขาไม่รู้ เพราะความไม่รู้เขาจึงทำให้เราเกิดโทสะ..
    แล้วก็ไล่เหตุผลให้จิตใจคุณอ่อนโยนลงเมตตาทุกครั้ง หากคุณคิดว่าคุณถูก(มาขอโทษเขาทีหลังก็ได้หากรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ผิด) แก้แบบดับเพลิงเลยนะนี่ครับ
     
  2. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    รู้ว่าไม่ดีก็วางสิครับ แต่ถ้ายังคิดว่ามันดีอยู่ จะไปวางมันลงได้ยังไงครับ และไอ้การที่มีโทสะแล้วไปสาปแช่งคนอื่นเขสามันดีไหมละ ถ้าเขาทำเราบ้างเราจะรู้สึกอย่างไร คงไม่ต่างกันใช่ไหมครับ ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามันไม่ดีแน่ๆแบบนี้ก็วาง ไม่เพิ่มมันด้วยความปรุงแต่งอื่นๆ ของแบบนี้คนอื่นเขาทำได้เพียงบอกไปผ่านๆเท่านั้น เพราะเขาไม่ได้มีโทสะด้วย เขาก็บอกตามประสาเขา เราก็เช่นกัน ถ้าหาคุณและโทษของมันได้อย่างแท้จริงแล้ว ก็เลือกเอาว่าจะเพิ่มเข้าไปในจิตในใจหรือจะลดลงและเอาออกไปจากจิตจากใจครับ
     
  3. mozard002

    mozard002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +433
    เมตตาครับ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็อุเบกขาไปครับ ไม่เกลียดแต่ก็ไม่ได้ชอบพอ ประมาณว่าทางใครทางมัน ช่วยได้เท่าที่ความรู้จะอำนวยครับ ไม่อยากเห็นใครเป็นทาสของโทสะแม้แต่ตัวเอง ยิ่งฝึกทางจิตด้วยแล้วก็ควรระวังมโนกรรมให้มากครับ ใจเป็นประธานใจเป็นใหญ่ ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ

    อนิจัง ทุกขัง อนัตตา กายไม่ใช่ของเรา ใจก็ไม่ใช่ของเรา ถ้าดูไปเรื่อยๆแล้วโทสะก็จะดับลงในที่สุดนะครับ
     
  4. churdpong

    churdpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +384
    พูดง่ายแต่ทำยากทั้งนั้น
    เวลาโทสะบังเกิดขึ้น มักไม่สนใจในศิลธรรมอันใด บางทีมันเป็นไปตามอัตโนมัติ ตามสัญชาตญาณ อยู่ที่ว่าเรื่องที่ได้รับมันรุนแรงสักแค่ไหน
    ข้าพเจ้าเคยบรรดาลโทสะที่สุดอยู่ครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นเหมือนท้องฟ้าจะแปรปรวน ฟ้าผ่าลงมาเปรี้ยงปร้าง จนหม้อไฟฟ้าระเบิด (ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ) ฟ้าคำรณดังมากอย่างที่ข้าพเจ้าเองก็ไม่เคยพบเจอ พอได้สติทุกสิ่งทุกอย่างก็ค่อยเบาบางลง บรรยากาศกลับมาเหมือนเดิม เหลือแต่ร่องรอยไหม้ ตามพื้นหญ้า ต้นไม้ที่หักระเนระนาศเพราะฟ้าผ่าลงมา หม้อแปลงไฟที่ต้องใช้เวลาเปลี่ยนหลายชั่วโมง และนั่นก็อาจจะสรุปว่าเป็นเพราะโทสะของข้าพเจ้าไม่ได้ มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ
     
  5. churdpong

    churdpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +384
    แต่ก็ใช่ว่าจะสาปแช่งอย่างเดียว พอมีอารมณ์ปลืมปิติกับสิ่งใดก็ตาม สิ่งนั้นจะเจริญขึ้นอย่างเช่น ชอบดื่มน้ำชนิดหนึ่งซึ่งแต่ก่อนน้ำชนิดนี้ไม่ค่อยเป็นที่สนใจ และน้ำชนิดนั้นก็กายเป็นสินค้าที่ขายดี เป็นปลื้มกับความมานะ ของร้านขายขนมชนิดหนึ่ง ดูท่าหล่อนขายไม่ค่อยดี ขายไม่ค่อยได้เลย ข้าพเจ้าลองเอ่ยวาจาให้เขาขายดี และวันต่อมา ก็ขายดีจริง ๆ คนไม่รู้มาจากไหนมาซื้อกันให้ครึ้ม

    จากร้านที่เงียบเหงากลับกายเป็นร้านที่มีผู้คนพลุกพล่าน
    จากร้านที่ทำให้ไม่พอใจ แม้ว่าจะเป็นร้านใหญ่โต ลูกค้ามีมากล้น กลับต้องมีอันต้องปิดตัวลงไป ตามสาเหตุต่าง ๆ นา ๆ บ้างไปรับกิจการใหม่ บ้างอยากกลับบ้านเกิด (ชะงั้น) บ้างคิดหันไปทำธุระกิจอื่น ๆ
    ทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องบังเอิญ....
    และก็มีอีกหลายเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้นทุกครั้งในยามที่โทสะ และความปลื้มปิติบังเกิดขึ้น...
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อ๋อ ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องแก้

    ขอให้คุณ ทำโทษะให้มันเจริญ น้อมเมื่อไหร่เจริญเมื่อนั้น น้อมเมื่อไหร่ก็หน้าตา
    ปูดโปน แก้วตาถลน เลือดฝอยแตกกระจาย เพื่อให้โทษะมันเที่ยง น้อมเมื่อไหร่ก็
    มา นึกเมื่อไหร่ก็ขึ้น มดมันตดก็ขึ้น

    เมื่อโทษะขึ้นแล้ว จะได้มีอะไรวิเศษๆ เกิดขึ้น เพื่อให้ดูดี สวยงาม น่ารักน่าใคร่
    น่าเข้าใกล้ น่ากราบไหว้เป็นที่พึ่งยามทุกข์ร้อน

    ลองคิดดูนะ
     
  7. churdpong

    churdpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +384
    ไม่ดีหรอก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม
    ถ้าเห็นดีด้วย คงไม่คิดหาวิธีดับโทสะหรอกครับ
     
  8. churdpong

    churdpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +384
    ทุกครั้งที่โทสะคลาย ความสำนึกเสียใจในสิ่งที่ทำมันเกิดขึ้น

    การปฏิบัติภาวนากรรมฐานในขั้นต่อไปก็ผ่านไม่ได้ เมื่อโทสะไม่หยุดนิ่ง

    พระอาจารย์ก็ยังเคยกล่าวไว้ว่า "ให้ค่อยเป็นค่อยไป อย่าบุ่มบ่าม เมื่อถึงที่สุดก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ"
     
  9. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    เล่าปัง คุณก็ไปทำเขาสับสนตัวเอง
    ถ้าเขามีปิติ ร้านเจริญ
    ถ้าเขามีโทสะ ไม่พอใจ ร้านเจ๊ง

    คือมีพลังจิตแก่กล้า สุ๊ด ๆๆๆ

    **
     
  10. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    นี้คงหมายความว่า ให้ดูมันไปจนเห็นโทษของโทษะบ่อยๆ จนจิตอิ่มคือเข็ดกับโทษของโทษะก็วางโทษะได้เอง (ถ้าไม่เจ๊งเพราะโทษะซะก่อนนะ)
     
  11. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    เวลาคุณโกรธมันไม่ใช่ตัวคุณเองเป็นแต่เป็นมารเข้าแทรก
    แล้วตัวคุณเองก็ไม่สามารควบคุมมันได้ ถ้าเป็นตัวคุณเอง
    ไม่ต้องรอให้โกรธหรอกคุณสามารถทำอย่างที่คุณว่านั้นได้ตลอด
    เวลา ไม่เชื่อลองดู
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    แหะ แหะ ก็น่าจะแบบนั้นแหละครับ ใครจะไปอยากมีโทษะจริงไหม

    แต่มันเหมือนจะผูกติดกับอะไรบางอย่างนี่สิ จำได้ว่าต้นกระทู้คุณ
    บอกว่า โลภ นี้ดูได้ง่าย หลง ก็ดูได้ง่าย เอาหละซี มาถึงตรงเรื่อง
    การผูกติดอยู่นี่มันอะไร

    1.หลงว่าคุณวิเศษนั้นควรจะมีที่ตน ตนน่าจะครองอำนาจวิเศษนั้นได้

    หรือ

    2.อยากได้คุณวิเศษนั้นเป็นของตน

    ข้อหนึ่งนั้น ปฏิเสธง่ายด้วยปาก แต่ใจนั้นมันปฏิเสธด้วยหรือเปล่า ผม
    ว่ามันก็ดูยากเหมือนกันนะ

    ข้อสองนั้น ปฏิเสธง่ายด้วยปาก แม้ใจจะไม่ตรง แต่ก็ใช่ว่าจะกระทำ
    อาการระงับอยากไม่ได้ เพราะโลภนี้คุณว่าของคุณว่าดูง่าย

    ดังนั้น ตัดโลภ ก่อนเลย ไม่ต้องไปอยากได้คุณวิเศษใดๆอันเกิด
    ขึ้นเนื่องจากธาตุโทษะซึ่งเปรียบดั่งไฟ....ตัดโลภลงก่อนได้ไหม

    ถ้าตัดได้ ผมว่า คุณก็คงตัดโทษะ ได้ง่ายขึ้นดั่งที่ขอสัจจหาวิธีทำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2010
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าติดใจคุณวิเศษของโทสะ จะละโทสะยาก
    เคยได้ยินมาบางคนอาศัยเพลิงโทสะ เป็นพลังจิต ถ้าโกรธขึ้นมาก็รวมใช้ได้ดังใจ
    แต่มีผลเสียติดปลายนวม คือเพลิงโทสะมันเผาตัวเองด้วย สุดท้ายก็ต้องตัดใจทิ้ง
    หันไปเจริญเมตตาแทน คุณเชิดพงษ์ คล้ายๆแบบนี้ไหม
     
  14. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    คนมีฤทธิ์ก็งี้แหละ (เอาแบบมีจริงนะ) คิดว่าตัวเจ๋งไง เลยโกรธง่าย
    เหมือนคนรวย มันจี๊ดง่าย รวยนี่นา
    เลยไม่ค่อย ถ่อมเนื้อถ่อมตัว

    บางคนโกรธยาก แต่ถ้าโกรธขึ้นมา น่ากลัวมากก็มี คือมันอั้นมานาน

    เราว่า ต้องฝึกเมตตามากๆ คนมีเมตตานำ มีสัมมาทิฏฐินำ
    เวลาโกรธ มันเอาอยู่

    แต่บางคนนี่ใช้ความโกรธเป็นบาทของสมาธิ มันก็ได้
    เป็นมิจฉาสมาธิไป เพ่งมันจนเป็นอารมณ์เดียว

    ฟ้าหัวเราะเยาะเย้ยๆ เหวยๆ ฟ้า
    โกรธฟ้า ฟ้าผ่าได้ ระวังดำ

    *
     
  15. churdpong

    churdpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +384
    บอกแล้วว่ามันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ.....บอกให้ผมฝึกเมตตา ผมว่าคุณฝึกเองดีกว่า เพราะขนาดการตอบยังไม่มีสิงนี้เลย
     
  16. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    เราคุยกับ สหายเก่า 2 ท่านข้างบนน่ะ
    และการพูดของเรา จะระวัง และครอบคลุมให้เป็นกลางที่สุด
    เพราะคนอ่านบนบอร์ด มีหลายสถานะ


    ขออภัยนะ ถ้าจะทำให้เข้าใจอะไรไปถึงไหน (ไม่ได้หมายถึงคุณ)
    คุณลองไล่ การพูดคุยดูซิ หรือดูการอนุโมทนาดู
    บางครั้งมันก็หมายถึงจะเจรจาด้วย แต่ไม่เสมอไปหรอก ..
    เขาเรียกภาษาบอร์ด หรือภาษากระทู้ :boo:

    แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ
    ที่คนอ่านบางคน จะคิดว่า เขาพูดถึงตัวเอง แม้นในข้อความที่ไม่ได้กล่าวถึง..

    *
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2010
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ้า!! คุณเต๊าเจี้ยวเพื่อนที่เคารพ เละซะและ

    ถ้าคุณเต้าเจี๊ยวเละ ผมเละด้วยดีกว่า

    เพื่อนกัน ไม่ทิ้งกันเนาะ

    ขออภัยท่าน จขกท ด้วยคนครับ
     
  18. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697

    เละแล้วเหรอ
    เร็วจัง

    *
     
  19. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    เห็นด้วยนะ กับการคิด ที่แก้ปัญหา เป็นเรื่องดี ถ้าคุณเป็นนักปฏิบัติ ลองดูกรรมฐาน ๔๐ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ ท่านตรัสไว้นะ สำหรับคนมีอารมณ์มักโกรธ กสินนี่เป็นสมถะ ส่วนพรหมวิหาร ๔ ใช้เป็นวิปัสนา นะ ถนัดกองใหนเลือกทำดู นะ
    โทสะจริต<O:p

    มีอารมณ์มักโกรธ มักเป็นคนขี้โมโหโทโส จะเป็นคนที่แก่เร็ว พูดเสียงดัง เดินแรง ทำงานหยาบ แต่งตัวไม่พิถีพิถัน เป็นคนใจเร็ว <O:pกรรมฐานที่เหมาะกับจริตนี้คือ
    วรรณณะกสิน ๔
    นีลกสิน เพ่งสีเขียว
    ปีตกสิน เพ่งสีเหลือง
    โลหิตกสิณ เพ่งสีแดง
    โอฑาตกสิณ เพ่งสีขาว
    และพรหมวิหาร ๔
    เมตตา คุมอารมณ์ไว้ตลอดวัน ให้มีความรัก อันเนื่องด้วยความปรารถนาดี ไม่มีอารมณ์เนื่องด้วยกามารมณ์ เมตตาสงเคราะห์ผู้อื่นให้พ้นทุกข์
    กรุณา ความสงสารปรานี มีประสงค์จะสงเคราะห์แก่ทั้งคนและสัตว์
    มุทิตา มีจิตชื่นบาน พลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ไม่มีจิตริษยาเจือปน
    อุเบกขา มีอารมณ์เป็นกลางวางเฉย

    คำสอนขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเราไม่น้อมนำ มาประพฤปฏิบัติ สักแต่ว่าฟัง สักแต่ว่าพูด ผลก็ไม่เกิด คำสอนทั้งหลาย ก็จะหาคุณมิได้เลย
    ถ้าไม่เข้าใจ ในแนวทางปฏิบัติ ก็บอก นะ
    <O:p
     
  20. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    โทสะ ให้ใช้เมตตาแก้ครับ

    ฤาษีในสมัยโบราณเพราะมีกำลังฌาณสูง แต่ยังไม่ใช่พระอริยเจ้า

    พอเผลอโกรธ บางครั้งท่านก็จะสาปผู้ที่ทำให้โกรธ จนเกิดภัยต่างๆนาๆ

    ทั้งนี้ก็เพราะตัวฌาณ ตัวสมาธิเฉยๆ มีอารมณ์ที่นิ่ง หยุด รวมตัว มีตบะ มีเดชก็จริง

    แต่ยังขาดอารมณ์ความเย็น ความชุ่มฉ่ำแห่งเมตตา อารมณ์ใจที่เบิกบาน ปรารถนาดีต่อผู้อื่น

    ดังนั้นให้เราหันมาฝึกมาเจริญ ในอารมณ์เมตตา

    จนกว่าจิตใจจะเย็น จะชุ่มฉ่ำ จะเอิบอิ่มด้วยความสุขใจแห่งเมตตา

    เมื่อจิตแผ่เมตตา แผ่อารมณ์ที่เย็น สว่าง เอิบอิ่ม ไปยังผู้อื่นแล้ว

    ก็จึงค่อยตั้งจิตอธิษฐาน
    ให้อภัย อโหสิกรรมให้กับเขา

    เมื่ออธิษฐาน สาป ในฌาณ
    ก็ต้องถอนด้วยกำลังของเมตตา ซึ่งตั้งมั่น เป็นฌาณ เป็นสมาธิ ในระดับที่เสมอกัน
    จึงจะถอนออกได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...