พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เมื่อวานใช้ฤกษ์กองทัพเดินด้วยท้อง วันทหารผ่านศึก และเป็นเดือนที่ต้องทำด้วยความรัก ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ ..

 

เอ้....เหมือนพี่เพชร จาโดนรุมนาคร๊าบ หุ หุ

 

หน้าตาของแคปซูลสมุนไพรลดน้ำหนักชุดแรกที่ทำเสร็จแจกจ่ายให้น้องที่เรียนหนังสือด้วยกัน น้องสาว และคุณแม่ผม รวม 540 แคปซูล ผลเป็นที่น่าพอใจมาก...แต่ละครั้งผมน่าจะทำได้เพียง 540 แคปซูลเท่านั้น ขนาดที่ใช้หม้อต้มยาเบอร์ใหม่แล้วสำหรับใช้ในครัวเรือน นี่น้องสาวเขาเห็นผล เกิดติดใจขึ้นมาแล้ว เร่งให้ผมผลิตไวๆ แต่ยังไม่มีเวลาผลิตเลย..

ขนานนี้มีสมุนไพรไทย และจีนอีกในราว 10 กว่าชนิด ก็จะรวมเอาสรรพคุณที่ช่วยเรื่องผู้ที่ทานเนื้อสัตว์แล้ว ระบบการย่อยทำงานได้ไม่ดีเหมือนเมื่อตอนหนุ่มๆสาวๆ อีกทั้งยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์(ไขมันที่ไม่ดีจำนวน LDL) ด้วยคุณสมบัติที่ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ก็จะช่วยลดระดับความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ไปในตัว ก็เรียกว่า มัน 3 in 1 หรือ 4 in 1 เพียงแต่ไม่สามารถพูดให้มัน over ไปกว่านี้ได้ครับ ก็ทำไปถ่ายภาพไป เอาไว้รอขึ้นทะเบียนยาเมื่อสอบได้ใบอนุญาตก่อนครับ ปีนี้ก่อนที่สอบใบอนุญาตในปีหน้า ผมคิดว่าจะลองทำยาแต่ละสูตร อย่างน้อย 2 เดือนต้องได้ 1 ตัว เตรียมรอเอาไว้ขึ้นทะเบียนยาก่อน

 

เอ..ผมว่า ผมไปขอยืมมาจากตาลุงข้างบ้านคุณน้องหนูมาเมื่อวานซืนนี้เองนา ไม่น่าจะ..นะ..

 

หุหุ มุขไม้แขวนเสื้อนี่ชวนหัวจริงๆ ...นี่พอดีมื้อเย็นผมเลยครับ น่าหม่ำจริงๆ

 

ดูดีๆนะครับ ว่าไม่ใช่"กลักไม้ขีด" 555

 

หายไวๆทั้งคุณพ่อ คุณลูกนะครับ ผมยังค้างคุณแด๋นเรื่องตัวยาสมุนไพรรักษาไตอยู่เรื่องหนึ่ง กำลังจะเร่งปลูกให้เอาไว้นำไปปลูกที่บ้านเอง ช่วงนี้หน้าร้อน ไม่ค่อยได้รดน้ำต้นไม้เลยเฉาตายไป แต่ยังพอมีเชื้ออยู่ หากมีน้ำ ไม่ต้องห่วงมันขึ้นดีมาก คนไข้ที่ไปหาคุณน้าผมที่ร้านหมอเขาเป็นโรคไต ต้องไปฟอกไตเดือนละ 2 ครั้ง ก็ไม่ต้องไป อันนี้ทางหมอแผนปัจจุบันเขาจะว่ายังไงผมไม่ทราบด้วยครับ เขาจะเชื่อ หรือไม่เชื่อก็ช่าง หลักการของผมคือหากยังต้องใช้เลือดชาวบ้านอยู่ จะเรียกว่ามีชีวิตอยู่คงไม่ได้ ก็ไม่ต่างไปจากตายแล้ว เพราะเลือดในกายนั่นไม่ใช่ของเรา ที่ถูกจึงควรให้ร่างกายสร้างเลือดของมันเองต่างหาก ในวงการสมุนไพรไทยต่างยอมรับแผนจีนในเรื่องของยารักษาไต เพราะไตคือฐานพลังชีวิต

จุยเต็กเช่า หรือหญ้าไผ่น้ำ คือชื่อของตัวยาสมุนไพรนี้ ตลาดเก่าเยาวราชเขาขายกันเป็นถุง ๆละ 1 ก.ก. ก็ประมาณ 100-120 บาท ซึ่งแพงมาก พืชชนิดนี้ขึ้นง่ายมากครับ ชอบความชุ่มชื้น ด้วยลักษณะของเค้าเป็นรากฝอยมาก ผมเข้าใจว่าแร่ธาตุในดินน่าจะสามารถดูดซึมผ่านรากฝอยจำนวนมากเหล่านี้ แต่ควรล้างน้ำให้สะอาด ไม่มีดินติด เพราะในดินอาจจะมีจุลินทรีย์ เชื้อรา ทานติดเข้าไปกลับกลายเป็นเชื้อราในสมองขึ้นมาก็เป็นเรื่องได้ เวลาต้มออกมาก็ใช้เพียงกำมือเดียว ต้มได้ 2 ครั้ง ต้มน้ำ 3 เหลือน้ำยา 1 ส่วน (ต้ม 3 เอา 1) น้ำสมุนไพจุยเต็กเช่านี้ออกสีม่วงสวยงามมาก ไม่ต้องไปเติมน้ำตาล หรือสารอื่นใด ทานสดๆแบบนี้ดีที่สุด ผู้ที่ไม่เป็นโรคไตก็ทานได้ เพียงแต่ว่า อย่าไปทานประจำ เพราะจากไม่เป็นจะกลายเป็นเป็น และต้องใช้จำนวนยามากกว่าเดิม เพราะเกิดการดื้อยาขึ้นมา ปกติผมก็ดื่ม 2-3 เดือนครั้ง เป็นการขับปัสสาวะไปในตัว...

เอาไว้ปลูกขึ้นมาได้จำนวนหนึ่ง จะโทรฯบอกคุณแด๋นให้มารับนะครับ แล้วนำไปปลูกขยายพันธุ์ที่บ้านอีกทาง..

ข้อมูลของหญ้าไผ่น้ำ ลองอ่านและพิจารณากันเอาเองครับ..

"หญ้าไผ่น้ำ" รักษาโรคไตได้
<!--Main-->[SIZE=-1]จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เห็นว่าน่าสนใจ ขอถ่ายทอดต่อ



ชาวจีน เชื่อถือในสรรพคุณของ “หญ้าไผ่นํ้า” กันมาก โดยมีผู้เป็นโรคไตขนาดต้องฟอกไตเป็นประจำ เมื่อนำเอา “หญ้าไผ่นํ้า” ไป ต้มนํ้าดื่มวันละแก้วใหญ่ๆ กินติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน อาการของโรคไตที่เป็นอยู่ หายได้โดยไม่ต้องฟอกไตอีก ซึ่งอัตราส่วนในการต้มดื่ม เอาต้น “หญ้าไผ่นํ้า” แบบสด 250 กรัม นํ้าเยอะหน่อย ต้มจนเดือดเคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง เทดื่มขณะอุ่นวันละแก้ว ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เวลาไหนก็ได้ ต้มดื่มต่อเนื่อง 3 เดือนแรกอาการจะดีขึ้น 3 เดือนหลัง หรือ 6 เดือน อาการจะหายขาด ปัจจุบันมีผู้นำเอา “หญ้าไผ่นํ้า” มาวางขาย จึงรีบแนะนำให้ผู้อ่านไทยรัฐได้รู้จักอีกตามระเบียบ

หญ้าไผ่นํ้า เป็นไม้ล้มลุกจำพวกกึ่งเลื้อย ลำต้นกลม เป็นข้อปล้อง อวบนํ้า สีเขียวปนนํ้าตาล ต้นสูงไม่เกิน 1 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับตามข้อ เป็นรูปรี ปลายแหลม โคนใบเป็นกาบหุ้มลำต้นบริเวณข้อ สีเขียวสด ใบเมื่อขยี้จะมีนํ้าลื่นคล้ายเมือก ดอก เป็นสีม่วง หรือ สีนํ้าเงิน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำต้น พบขึ้นทั่วไปตามที่ชื้นแฉะ ริมลำธาร หรือตามคันนา มีชื่อเรียกอีกคือ จุยเตกเฉ้า และ ฮวยเฮียะตะเจี่ยเฉ้า

ปัจจุบัน “หญ้าไผ่นํ้า” มีขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” ราคาสอบถามกันเอง ควรซื้อเฉพาะแผงที่แนะนำ ทั้งนี้เพื่อป้องกันถูกหลอก ได้ของไม่แท้ ไปแล้วรับประทานเป็นอันตราย สรรพคุณ อย่างอื่น ทั้ง ต้นตากแห้งต้มเป็นยาเย็นขับพิษร้อนใน บรรเทาอาการบวม รักษาต่อมนํ้าเหลืองลำคออักเสบ ท้องเดิน ภายนอกตำละเอียด พอกถอนพิษแมลงกัดต่อย พอกฝีดีมาก



มหัศจรรย์ ** หญ้าไผ่น้ำ **

( บทความ โดย คุณสมคิด หวังอารยธรรม )

คุณสมคิด หวังอารยธรรม กรรมการผู้จัดการ บจก. ที แอนด์ ที เท็กซ์ไทล์ เป็นสมาชิก สมาคมพ่อค้าผ้าไทย อีกท่านหนึ่ง ที่มีความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพรจีนค่อนข้างมาก และให้ความช่วยเหลืองานด้านสังคมมาโดยตลอด ปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่ง เหรัญญิก กองทุนบรรเทาสาธารณภัยชุมชนสำเพ็ง และเป็น เลขานุการของ นายกสมาคมสหมิตรสำเพ็ง ท่านประสงค์จะเผยแพร่สรรพคุณ *หญ้าไผ่น้ำ* ให้เพื่อน ๆ สมาชิกทราบ เพื่อเป็นวิทยาทาน เท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
แหล่งกำเนิด

หญ้าไผ่น้ำ (จุ้ยเต็กเฉ้า) มีถิ่นกำเนิดที่มณฑลกวงสี มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน มีผู้นำไปปลูกที่สิงคโปร์ เพื่อเป็นยาทานแก้พิษร้อนใน ต่อมา พบว่าเป็นยาสมุนไพร ที่สามารถขับพิษที่ตกค้างในไต ออกทางปัสสาวะ ทำให้ไตคืนสภาพเป็นปกติ

หญ้าไผ่น้ำ มีลักษณะเป็นใบเรียวกลม ด้านบนของใบมีสีเขียว ด้านหลังของใบเป็นสีบานเย็น มีก้านเป็นข้อ ๆ เลื้อยไปตามพื้นดิน ก้านจะมีขนอ่อนนิด ๆ ควรปลูกในกระถางปากกว้าง ดินลึกประมาณ 5 นิ้ว ชอบความชุ่มชื้น แดดอ่อน แต่น้ำไม่ขัง หน้าฝนเจริญเติบโตเร็ว ขยายพันธุ์โดยตัดก้านให้มีความยาว 3 - 4 นิ้ว ปักชำลงในดิน ประมาณ 2 อาทิตย์ จะมีรากงอกออกมาที่ก้านตามข้อ ดังนั้น การขยายพันธุ์จึงทำได้ง่าย

สรรพคุณหญ้าไผ่น้ำ
นอกจากกินแก้ร้อนใน ยังสามารถลดการอับเสบของทางเดินปัสสาวะ แก้พิษงูกัด บำบัดอาการต่อมลูกหมากโต ผู้ที่เริ่มมีอาการของโรคไต โดยค่าของ BUN ในเลือดสูงเกินปกติ หรือ CREATININE สูงเกินค่าที่กำหนด เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า จะต้องงดทานเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ถั่วที่มีโปรตีนสูง ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่มียารักษาเพียงรอให้อาการของผู้ป่วย ถึงขั้นอาเจียน ขาบวม ท้องอืด เบื่ออาหาร ท้ายสุดก็ต้องไปฟอกไต ถ้าคนไข้เริ่มมีอาการใหม่ ๆ ให้ทานน้ำต้มหญ้าไผ่น้ำ จะช่วยบรรเทาอาการของโรคไตได้ดี ดังเช่น บุคคลหลาย ๆ ท่าน ที่ทานยานี้แล้ว อาการของไตเสื่อมจะไม่ปรากฎ ที่บริษัทของข้าพเจ้า แม่ของพนักงานส่งของ มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง ต้องพาส่งโรงพยาบาล และทำการฟอกไตมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อข้าพเจ้าให้หญ้าไผ่น้ำ ไปต้มกับน้ำ ทานวันละ 2-3 แก้ว ปรากฎว่า หลังจากนั้นมีชีวิตอยู่เป็นปกติ ไม่ต้องเสียเงินเพื่อฟอกไตอีก ปัจจุบันก็ทานต่อเนื่อง คนทั่วไปที่ไม่มีโรคภัย ก็สามารถรับประทานสมุนไพรนี้ได้
วิธีต้มหญ้าไผ่น้ำ

ตัดหญ้าไผ่น้ำประมาณ 100-150 กรัม ล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อต้ม (ควรเป็นหม้อเคลือบ) เติมน้ำสะอาด 2 ลิตร ต้มให้เดือดแล้วหรี่ไฟอ่อน ต้มอีกประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วตักเอาหญ้าไผ่น้ำออก จะเห็นน้ำใส ๆ เป็นสีบานเย็นอ่อน ไม่ควรใส่น้ำตาลหรืออย่างอื่น วางทิ้งไว้ให้เย็น แล้วบรรจุขวดเข้าตู้เย็นทานได้ทุกเวลา วันละ 3-4 แก้ว หลังจากทานหญ้าไผ่น้ำแล้ว ประมาณ 3 เดือน ควรไปเจาะเลือดตรวจค่า ของ * BUN * และ * CREATNINE * ด้วย
ท่านใดสนใจจะนำหญ้าไผ่น้ำไปปลูก ติดต่อได้ที่ คุณสมคิด โทร. 02-222-7769 ,
มือถือ 081-629-9213

[/SIZE]<!--End Main-->

<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">[SIZE=-1]Create Date : 20 มิถุนายน 2552[/SIZE]</TD></TR><TR><TD width="50%">[SIZE=-1]Last Update : 22 มิถุนายน 2552 18:47:34 น. [/SIZE]</TD><TD></TD><TD align=right>[SIZE=-1]10 comments

Add to [/SIZE] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=-1]Counter :<SCRIPT src="http://fastwebcounter.com/secure.php?s= bloggang1851126 "></SCRIPT> 2452 Pageviews[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=southernmost&month=06-2009&date=20&group=3&gblog=1

 

คุณหนุ่มพอจะมีแม่พิมพ์สมเด็จจิ๋ว ของวังหน้าหรือไม่ครับ ผมอยากได้มากดพิมพ์เป็นเม็ดยาแทนที่จะบรรจุแคปซูล หากหาได้ทันวันพุทธาภิเษก ๒๐ มีนาคม นี้จะดีมากเลยครับ....

 

ค่ำนี้ผมกำลังทำบะหมี่อบกุนเชียง กุนเชียงที่อร่อยที่สุดในโลกคือของนายอิ้ว แซ่ตั้ง จ.สิงห์บุรี และเป็นกุนเชียงที่ราคาสูงที่สุดในโลก ราคาก.ก.ละ 250 บาท และไม่ง้อทั้งคนซื้อ หรือคนที่จะรับไปขายต่อด้วย...

เรื่องราวของกุนเชียงเจ้านี้ มีหลายเรื่อง เช่นมีท่านผู้หนึ่งนำกุนเชียงไปให้อาจารย์ที่มเกษตรศาสตร์ตรวจสอบดู ก็พบว่า กุนเชียงของเขามีคุณภาพมากที่สุด ปริมาณเนื้อหมูมากที่สุด และมีส่วนผสมที่ไม่มีพิษมีภัย แต่มีข้อเสนอแนะจากอาจารย์มหาวิทยาลัยว่า กุนเชียงของเขาไม่มีสี หรือสีซีดๆนั่นเอง ไม่สวยเหมือนชาวบ้านเขา ให้มาซื้อสีผสมอาหารตกแต่งสีสันให้น่าทานมากกว่านี้..แกส่ายหัว ว่า ขนาดนี้อั๊วก็ขายดีจนไม่มีเวลาเลี้ยว....

เรื่องที่ 2 คนขายที่รับไปขายก่อนหน้าจะรับจากนายอิ้วได้ทดสอบให้คนในครอบครัวหลายสิบคนชิมกุนเชียงจากหลายๆเจ้าที่นำมาเป็นตัวอย่างทดลอง โดยไม่บอกว่ากุนเชียงจานไหนเป็นของเจ้ามีชื่อเจ้าไหนบ้าง ผลออกมาตรงกันต่างชี้ไปที่จานกุนเชียงของนายอิ้ว แซ่ตั้ง....

ผมเองไม่มี% ไม่ได้รับค่าcom. จากนายอิ้วแต่อย่างใด แต่ของดีมีคุณภาพต้องแนะนำกัน ไม่ลองไม่มีทางรู้ว่า กุนเชียงที่อร่อยที่สุดในโลกคือเจ้านี้ ปลอดสารพิษ แม้ราคาจะสูงไปหน่อย ผมเองก็เกรงว่าว่าจะมีผู้ไปซื้อกันมาก จนผมหาซื้อไม่ได้ ดังนั้นผมไม่บอกว่าซื้อได้ที่ไหนดีกว่า..ว่าแต่..มันอร่อยจริงๆนะ..หุ..หุ...

"ลูกสาวนายอิ้ว"ก็ยังสู้กุนเชียงของผู้เป็นพ่อไม่ได้ พี่ชายนายอิ้ว(นายฮ..)ก็ยังสู้ของผู้เป็นน้องชายไม่ได้ สาเหตุเพราะนายอิ้วตั้งใจผลิตกุนเชียงที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก ไม่ได้ผลิตกุนเชียงจากหมูที่เหลือในแต่ละวัน...ดังนั้นปรัชญาการผลิตกุนเชียงจึงต่างกันมากครับ..

อยากใช้คำว่า หลังจากคุณได้ทานกุนเชียงของนายอิ้วแล้ว คุณจะไม่อยากไปทานกุนเชียงของยี่ห้อไหนๆอีกเลย เพียงเพราะคำว่า "เสียดายความหิว.." นั่นเอง...

 

ไม่มีครับ

มีแต่พิมพ์ใหญ่ครับ

.

 

ปั้นมือจามีขี้มือผสมด้วยครับ ผลของยาจาแรงเป็น2เท่านาคร๊าบ หุ หุ

 

ช่วงนี้ท่านพี่คงจะเจริญอาหารน่าดูเลยนะ แต่ผมคิดว่าไม่นะ เพราะว่ากินหมูกรอบสะเด็ดน้ำมันแล้วตามด้วยสมุนไพรลดน้ำหนัก(อยากได้บั้งจึงขอแซว) ว่าแต่ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนต่อเลยม่ะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=540 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=540 align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#000000> </TD><TD align=middle bgColor=#000000 colSpan=7>New York Spot Price
</TD><TD></TD><TD align=right bgColor=#000000></TD></TR><TR bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000> </TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=7>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]MARKET IS OPEN
(Will close in 7 hrs. 52 mins.)[/FONT]</TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=2> </TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000> </TD><TD bgColor=#cccc99>Metals
</TD><TD bgColor=#cccc99>Date
</TD><TD bgColor=#cccc99>Time
(EST)
</TD><TD bgColor=#cccc99>Bid
</TD><TD bgColor=#cccc99>Ask
</TD><TD bgColor=#cccc99 colSpan=2>Change
</TD><TD bgColor=#cccc99>Low
</TD><TD bgColor=#cccc99>High
</TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD noWrap bgColor=#000000></TD><TD align=left> GOLD
</TD><TD>02/04/2010
</TD><TD>09:23
</TD><TD>1087.20
</TD><TD>1088.20
</TD><TD>-22.10
</TD><TD>-1.99%
</TD><TD>1086.20
</TD><TD>1106.10
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

มันมาแล้วครับท่านนิว คราวนี้คงไม่รอดแน่ครับ หุ หุ

 

หุ..หุ..ยาพิมพ์ใหญ่นี่สงสัยจะเอาไว้กลืนไม่ได้ ต้องเอาไปเลี่ยมขึ้นคอ คับขันค่อยแกะออกมาบดเป็นผงละลายน้ำครับ...

 

ก๊ากกกกก...ไม่ใช่แบบนั้นครับคุณน้องนู๋ เค้ามี"รางกลิ้งยา" เครื่องมือคนสมัยโบราณคิดเก่งจริงๆ คล้ายรางโบว์ลิ่ง นำยาที่เค้าผสมจนหนืดแล้ว มาปั้นเป็นแท่งยาวๆ วางขวางบนรางกลิ้งยา ไม้ที่กดทับด้านบนจะกดทับให้แท่งยาตัดขาดลงไปในร่องแต่ละร่อง แล้วก็กลิ้งไปมา มันกลมจริงครับ ได้ครั้งละ 10-20 เม็ดเลยทีเดียว แบบปั้นมือเป็นลูกกรอน นี่ต้องมีตัวประสานยึดเกาะ เกรงว่าผสมแป้งพวกนี้ไปทำให้ ประสิทธิภาพจะลดลง โดยอาจจะต้องทำเม็ดที่โตขึ้น เวลากลืนอาจลำบาก การเคลือบยาเป็นยาเม็ดแบบแผนปัจจุบันก็ทำได้ แต่ต้นทุนจะสูงเกินไป และบางท่านไม่ชอบกลิ่นของยา

 

555555 เหนื่อยขอพักก่องนะอา chan...

 

แบบนี้ก็ล้าสมัยเกิน ....หุ..หุ...

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=540 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=540 align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#000000> </TD><TD align=middle bgColor=#000000 colSpan=7>New York Spot Price
</TD><TD></TD><TD align=right bgColor=#000000></TD></TR><TR bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000> </TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=7>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]MARKET IS OPEN
(Will close in 6 hrs. 58 mins.)[/FONT]</TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=2> </TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000> </TD><TD bgColor=#cccc99>Metals
</TD><TD bgColor=#cccc99>Date
</TD><TD bgColor=#cccc99>Time
(EST)
</TD><TD bgColor=#cccc99>Bid
</TD><TD bgColor=#cccc99>Ask
</TD><TD bgColor=#cccc99 colSpan=2>Change
</TD><TD bgColor=#cccc99>Low
</TD><TD bgColor=#cccc99>High
</TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD noWrap bgColor=#000000></TD><TD align=left> GOLD
</TD><TD>02/04/2010
</TD><TD>10:18
</TD><TD>1069.20
</TD><TD>1070.20
</TD><TD>-40.10
</TD><TD>-3.61%
</TD><TD>1064.10
</TD><TD>1106.10
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
-40เหรียญ มันบ้าไปแล้วครับท่านนิว หุ หุ

 

เมื่อวันก่อน ผมไปตั้งกระทู้ที่หมวด ท่องเที่ยว - อาหารการกิน ชื่อกระทู้ ตะวันทองที่หนองหาน ซึ่งตั้งกระทู้เมื่อวันที่ 3-2-2553 เวลา 6.22 pm



แต่มีผู้ที่ตั้งกระทู้ซึ่งเนื้อหาเดียวกัน ชื่อเดียวกัน
ตะวันทองที่หนองหาน





แต่ได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ
<!-- end thumb //-->
ตะวันทองที่หนองหาน




ที่นำมาบอกกันก็คือ ปัจจุบันก็เลยมีความคิดว่า คงจะไม่ร่วมในการบริจาคให้เว็บพลังจิตอีก

นำมาบอกเล่าให้ฟังเท่านั้น

.

 

ลูกบ้าน ต้องเคารพการตัดสินใจของเจ้าบ้าน หุหุหุ


.