อีกหนึ่งวิธีในการเรียกเวทมนตร์, อาคม ให้เกิดขึ้นในตัวเอง

อันนี้เอามาจากการฝึกปฏิบัติของตัวเองนะครับ มันดูเป็นวิธีที่ธรรมดาไม่เหนือชั้นอะไรแต่แฝงไปด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่แต่ฟังแล้วอาจดูธรรมดามาก แต่ก็จะลองเอามาเล่าให้คนอื่นฟังดูเผื่อจะมีคนสนใจ เพราะเชื่อว่าจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง
อีกวิธีนึงที่ทำให้จิตมีอิทธิฤทธิ์คือการอบรมจิตใจให้ตัวเองมีความสุขเสมอๆ มีความสุขให้ได้ในทุกๆขณะของชีวิตและคิดว่าตัวเองไม่ต้องการสิ่งใดๆอีกแล้ว ถ้าคุณทำเช่นนี้ได้ความมหัศจรรย์ก็จะบังเกิด ถ้าฝึกเช่นนี้ไปเรื่อยๆคุณจะรู้สึกเหมือนสมองส่วนลึกถูกกระตุ้นและสารความสุขจากในสมองจะเอ่อขึ้นมาข้างบนสมองส่วนบน และจะมีความสุขอย่างเอ่อลึกล้นและรู้สึกดีอย่างล้ำลึก และเมื่อถึงจุดนั้นการจะใช้คาถาอะไร หรืออธิษฐานให้เกิดอิทธิฤทธิ์อะไรก็จะสมปรารถนาได้ง่าย

 

สาธุ ถูกต้องครับ
เจริญเมตตาภาวนาก็เป็นตัวหนุนครับ
ลองไปอ่านเมตตานิสังสะสุตตะปาโฐสิครับ
สาธยายเรื่องอานิสงส์แห่งการเจริญเมตตาอยู่

และอีกอย่างคือมีสติรู้กับปัจจุบัน
ดูการเปลี่ยนแปลงของจิต ควบคุมให้ไม่ปรุงต่อได้
รู้ในทุกๆอารมณ์ ปล่อยได้ วางได้
ก็จะมีกำลังจิตอย่างแน่นอน

 

ธรรมชาติของจิตมนุษย์ย่อมวิ่งเข้าหาความสุขอยู่แล้ว

การที่คุณใช้คาถาเวทมนต์ ก็เพื่อสนองความต้องการ

ของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองมีความสุข ทั้งนั้นแหละ

อยากรวย อยากมีเสน่ห์ ก็เพื่อ ความสุข นั่นแหละ

ถ้าคุณสุข อยู่แล้ว คุณไม่พึ่งพวกนี้หรอก

 

พูดถูกครับ คาถาใช้สนองความต้องการ แต่จะหยาบหรือละเอียดนั้นต่างกัน
แต่บางคนใช้เพื่อช่วยคนอื่นนะครับ
เพราะเจริญเมตตาเป็นปุเรจาริก มีจิตตั้งมั่นคงในพรหมวิหาร
แต่ก็ความอยากหละ แต่เป็นอยากที่อยู่ในฝ่ายขาว
คืออยากสงเคราะห์ผู้อื่น หรือไม่ก็คุ้มครองตนเองไว้เพื่อบำเพ็ญประโยชน์
อย่างเช่นที่สวดโมระปริตรทุกเช้า-เย็นนั่นแหละครับ

० ब ध न म ब ०
म - - - - - - ध<o></o>
न - - - - - - न<o></o>
धा - - य - - मो<o></o>
न - - - - - - ब<o></o>
म - - - - - - ध<o></o>
० न ध बुद म न ०
<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CPeaceful%20Spirit%5CLocal%20Settings%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:SimSun; panose-1:2 1 6 0 3 1 1 1 1 1; mso-font-alt:宋体; mso-font-charset:134; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:3 135135232 16 0 262145 0;} @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Mangal; panose-1:0 0 4 0 0 0 0 0 0 0; mso-font-charset:1; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:32768 0 0 0 0 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@SimSun"; panose-1:2 1 6 0 3 1 1 1 1 1; mso-font-charset:134; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:3 135135232 16 0 262145 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:SimSun; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CPeaceful%20Spirit%5CLocal%20Settings%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:SimSun; panose-1:2 1 6 0 3 1 1 1 1 1; mso-font-alt:宋体; mso-font-charset:134; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:3 135135232 16 0 262145 0;} @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Mangal; panose-1:0 0 4 0 0 0 0 0 0 0; mso-font-charset:1; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:32768 0 0 0 0 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@SimSun"; panose-1:2 1 6 0 3 1 1 1 1 1; mso-font-charset:134; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:3 135135232 16 0 262145 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:SimSun; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->

 

แผนผังการหมุนของธาตุ4 (มหาภูตจักระ)

卐> ไฟ> ลม> น้ำ> ดิน> ไฟ> 卐
^.....................................v
ดิน...................................ลม
^.....................................v
น้ำ....................................น้ำ
^.....................................v
ลม.............อากาศ.............ดิน
^.....................................v
ไฟ...................................ไฟ
^.....................................v
ดิน...................................ลม
^.....................................v
卐 <น้ำ <ลม <ไฟ <ดิน <น้ำ < 卐

ตั้ง เดิน เสริม หนุน ถูกวิธี ตั้งจิตไว้ดี
ก็ใช้ได้แล้วครับ ^^

 

จริงครับ ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมวิ่งหาความสุข
ความสุขมีสองอย่าง อย่างหนึ่งคือการได้มีประสบการณ์ที่ตัวเองอยากได้ อีกอย่างนึงคือความสุขทางใจ
แต่จริงๆแล้วคนเราย่อมมีทั้งสุขและทุกข์ ไม่มีใครหรอกที่จะทุกข์ตลอดหรือสุขตลอด เพียงแต่ว่าเราต้องรู้เท่าทันความคิดของตัวเองและหาความคิดให้เรามีความสุขเสมอๆ และเมื่อเราดูจิตตัวเองตลอดเวลายกเว้นยามหลับแล้ว เราก็จะเข้าใจว่าวิธีคิดของเรานั้นจะทำให้มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน ยามเมื่อพวกคุณทุกข์พวกคุณก็พยายามตามรู้ด้วยสติจะเสียใจหรือจะเครียดก็เชิญ แต่พยายามปรับความคิด หาความคิดใดๆที่ทำให้ตัวเองมีความสุข และความทุกข์นั้นก็จะหาย และต่อให้คุณมัวทุกข์ยังไงและหาวิธีทำให้หายทุกข์ไม่ได้ยังไงซะ คุณก็จะมีช่วงเวลาที่หยุดทุกข์และกลับมามีความสุขอยู่ดี อารมณ์ของคนเรามันมีขึ้นมีลง อารมณ์ทุกข์และสุขมันไม่คงที่ แต่ความสุขสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้เสมอ
และเมื่อถึงช่วงที่คุณมีความสุขแล้วนี่ คุณต้องหาความคิดที่ทำให้มีความสุขอย่างมากๆและมีความสุขอย่างลึกซึ้งและพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขอย่างมากที่สุด นั่นคือการหาความคิดที่ทำให้มีความสุขทางใจครับ และเมื่อถึงจุดหนึ่งสารเคมีในสมองจะถูกกระตุ้นและหัวเราจะรู้สึกโล่งๆโปร่งสบาย และก็จะบังเกิดความสุขอันล้ำลึกมากๆ(อันนี้นี่แหละที่เค้าเรียกว่าความสุขอยู่ที่ใจ) และเมื่อถึงจุดนั้นจะอธิษฐานให้เกิดอะไรขึ้นหรือจะใช้คาถาอะไรก้จะสำเร็จได้ง่ายดาย
และเมื่อคุณทุกข์คุณก็หาความคิดที่ทำให้คุณมีความสุขใหม่และทำให้ตัวมีความสุขอย่างสุดยอด ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

ถ้ามีอะไรจะชี้แจงผมก็ได้นะท่าน อันไหนตอบได้ก็จะตอบ อันตอบไม่ได้ก็จะบอกว่าไม่รู้ เพราะผมก็ยังรู้ไม่หมด เพียงแต่อยากเอาวิธีฝึกของตัวเองที่ทำได้ผลมาเล่าให้คนอื่นฟังแค่นั้นเอง

 

ขอบคุณนะครับ อ่านแล้วก็ได้กำลังใจ เพราะผมฝึกคนเดียวและหาวิธีทดสอบมันด้วยตัวเอง วิธีฝึกจึงไม่ค่อยเหมือนใครเท่าไหร่ เลยคิดว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจหรือไม่ค่อยยอมรับวิธีฝึกของผม เลยไม่แน่ใจว่าจะโพสดีรึเปล่า แต่ถ้ามีคนให้กำลังใจผมก็จะเข้ามาโพสกระทู้วิธีที่ตัวเองฝึกแล้วได้ผลบ่อยๆครับ แต่ผมเองก็ยังไม่เก่งเท่าไหร่ คุณจะแนะนำอะไรผมบ้างก็ได้นะครับ เพราะผมก็ยังต้องฟังคำแนะนำของทุกๆคนอยู่

 

วิธีของคุณหลักคือจับสุข ถ้าชอบแบบนี้ จะแนะให้อีกนิด
ให้ทำความเข้าใจ ความว่างเปล่า(ให้คิดเสมอไว) ไรซึ่งสรรพสิ่ง
ไม่โกรธ โลภ หลง ไรซึ่งตัวตน

ให้ทำเช่นนี้ทุกช่วงเวลาแม้แต่นั่งเดิน ปล่อยใจใฝ่คิดถึงความว่างเปล่าไรตัวตน
เพ่งใจกลางจิดทีคิดว่างเปล่าเพิ่งจิดจมลงไปๆเรื่อย นั่นแหละ ยิ่งทำยิ่งสุขลึก
ข้อควรระวังให้ระวังสติให้ดี สติจะขาดได้ คือ ขาดจากการรับรู้ภายนอกไปตลอดกาล

 

ถ้าคุณคิดว่าหลัก สุข แล้วจะสามารถ ใช้คาถาได้ดีก็ควรรองวิธีนี้ซึ่งจะทำให้
คุณสุขลึกเป็นทวีคูณ
ข้อสำคัญคือ เพ่งใจกลางความว่างเปล่า ลึกขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยิ่งลึกมาก็สุขมาก สติในการดึงกลับก็จะยิ่งขาดหาย เเต่เมื่อคุณคิดว่าลึกพอสุขพอแล้วจึงรองใช้คาถาดูแล้วเทียบกัน

แต่ขอบอกว่าพลังเราสะสมแค่ไหนเราก็ได้แค่นั้นถึงจิตจะสุดยอดแค่ไหนก็ตามพลังไม่มีให้ดึง ก็ คือไม่มี แต่ถ้าหวังพลังเทพภายนอกหรือพลังครู ก็หมดหวังไปได้เลย

 

แจ่มครับๆ
กลางในกลางในกลางในกลาง
เพ่งไปในอากาศธาตุลงไปเรื่อยๆ
สุดยอดครับ ลงไปถึงวิญญาณธาตุ
ละเอียดและละเอียดขึ้นเรื่อยๆ
ละเอียดจนมันเหมือนว่างเปล่า ละเอียดจนยิ่งกว่าว่างเปล่า
มันคือสุขแบบดิ่งลึก ลึกเรื่อยๆ ลึกสุด
เป็นสุดยอดเคล็ดลับเลยครับ

สาธุจริงๆ

 

ขอบคุณ
กับ
บทความดี ๆ ครับ

ขอ อนุญาต นำไปสอนต่อนะ ครับ

 

ตามสบายครับ -*-

 

ขอคำแนะนำให้ละเอียดสักหน่อยครับ ผมเองก็ยึดเอาอารมณ์แห่งความสุขเป็นฐานในการทำสมาธิ ก็จะสัมผัสแต่สุขไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยได้พบกับความว่าง หากจะกำหนดความว่างทำอย่างไร ต้องทิ้งสุขไปหรือไม่ ขอคำอธิบายละเอียดสุดๆหน่อยครับ....สาธุอนุโมทนามิ

 

ขอคำแนะนำให้ละเอียดสักหน่อยครับ ผมเองก็ยึดเอาอารมณ์แห่งความสุขเป็นฐานในการทำสมาธิ ก็จะสัมผัสแต่สุขไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยได้พบกับความว่าง หากจะกำหนดความว่างทำอย่างไร ต้องทิ้งสุขไปหรือไม่ ขอคำอธิบายละเอียดสุดๆหน่อยครับ....สาธุอนุโมทนามิ

สงสัย...ข้อควรระวังให้ระวังสติให้ดี สติจะขาดได้ คือ ขาดจากการรับรู้ภายนอกไปตลอดกาล[/QUOTE]
ตรงจุดนี้ถ้าสติขาดตลอดกาล เป็นอย่างไร จะเป็นคนเสียสติ(บ้า)หรือไม่ครับ

 

เอ่อ
แต่ความสุขที่ทำให้ติดความสงบ กับความสุขที่ผมพูดถึงนั้นมันคนละแบบกันนะครับ
ดูกันให้ดีๆนะครับ แล้วก็แตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

 

เฮ้อ..เจอทางตันอีกแระ ขอบคุณครับที่แนะนำ

 

ไม่เป็นไรครับ มันเป็นความผิดของผมเหมือนกัน ไม่รู้จะสรรหาคำมาอธิบายให้เข้าใจยังไงดี

 

พยายามอธิบายอีกหน่อยละกัน
คือคุณจะมีปัญหาบางอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าและหาความสุขไม่เจอซะที แล้วจะไม่สำเร็จในสิ่งที่ต้องการไปซะทุกๆอย่างด้วย จนกว่าคุณจะเรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดกับทุกๆสิ่ง ลองถามใจตัวเองดูว่าคุณจะสามารถมีความสุขสูงสุดโดยไม่เครียดกับสิ่งใดๆเเละพร้อมจะปล่อยวางกับทุกๆอย่างได้อย่างเต็มใจที่สุดได้อย่างไร
และเมื่อคุณปล่อยวางและมีความสุขและไม่เครียดกับสิ่งใดๆแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้หรือไม่สำเร็จในสิ่งที่คุณต้องการเลย แต่ทว่าพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มันเกิดจากเรื่องตรงนั้นแหละ
และโดยส่วนตัวความสุขที่ว่านี่ที่ผมโพสมาผมก็เข้าถึงมันได้แค่ไม่กี่ครั้งเอง แต่ทว่าแต่ละครั้งที่เข้าถึงได้นี่ก็เจอแต่เรื่องดีๆในช่วงนั้นทั้งนั้นเลย และการอธิฐานในสิ่งที่อยากได้ก็ประสบผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี
และขอย้ำอีกอย่างนะ มันไม่ใช่ความสุขที่เกิดจากการติดความสงบ คนละอย่างกันเลย

 

ใช่เลย คิดเหมือนกันเลย แต่ยังทำไม่ได้
อนุโมทนา ครับ

 

ก็ยากเหมือนกันอ่ะครับวิธีนี้ ผมยังทำได้ไม่กี่ครั้งเอง ส่วนใครที่ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะว่ายังมีหลายวิธีที่จะทำให้คาถาสัมฤทธิ์ผล ซึ่งผมจะแนะนำในโอกาสต่อๆไปครับ และคุณก็ลองมองหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองน่ะครับ เชื่อว่ามันต้องมีวิธีที่เหมาะกับคุณแล้วคุณทำได้ไม่ยากแน่ๆ ถ้าคิดดีพูดดีทำดีครับ