ปิดรับบริจาค รวมบันทึกการเดินทางตามรอยพระอาจารย์ ณ บึงลับแล ๒๕๕๒/ร่วมบุญใหญ่หน้า ๑๐๘

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย ญ.ผู้หญิง, 18 ธันวาคม 2008.

  1. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๕) ตอน วัดเขาถ้ำบุนนาค

    [​IMG]
    หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุนนาค

    ออกจากวัดช่องพรหม ชาวคณะเดินทางกันต่อเพื่อจะไปยังวัดเขาถ้ำบุนนาค ระหว่างทางฝนเริ่มตกโปรยปรายให้เห็น แต่ไม่เป็นไรใจสู้กันเสียอย่าง อะไรจะเกิดก็ให้เกิดกันไปเถิด เกิดเสียให้พอ

    เดินทางถึงวัดเขาถ้ำบุนนาค ฝนไม่มีสักหยด พื้นแห้งสนิท ใครจะสังเกตุเห็นหรือเปล่าหญิงไม่รู้ แต่หญิงมองเห็นเต็ม ๆ นึกในใจหลวงปู่ท่านเมตตาชาวคณะดีแท้ เพราะถ้าฝนตกชาวคณะจะลงจากรถไปกราบท่านได้อย่างไรโดยที่ตัวจะไม่เปียก ว่าแล้วก็เช่นเคยรีบประกาศให้ทุกคนขึ้นไปกราบสรีระท่าน ระหว่างที่ทยอยเอาเงินหยอดตู้ต่าง ๆ พร้อมกับจุดธูปไหว้ หญิงเล็งไว้แล้วว่า ยังไงก็ต้องขอเก็บก้านธูปกลับไปสักก้านล่ะ เพราะตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนมา

    กราบสรีระเสร็จ ร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เดินลงมาด้านล่างหน้ากระถางธูป ๆ ของตัวเองไหม้เกือบหมดเหลืออยู่ก้านหนึ่งชี้โด่เด่อยู่ รีบกราบขอบพระคุณในความเมตตาแล้วนำก้านธูปถือกลับมาขึ้นรถ ออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของวันนี้ คือ อุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทองทันที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  2. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๕) ตอน อุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทอง (เขาชอนเดื่อ)

    [​IMG]
    ศาลหลวงพ่อรุ่ง

    ล้อหมุนเอามาถึงอุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทองเอาเวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. สภาพของพื้นดินที่ผ่านสภาพฝนตกหนักปรากฎอยู่ที่หน้าสายตา ยังมีละอองฝนโปรยปรายเบา ๆ แต่ไม่หนักเหมือนที่เพื่อนอ้วนแจ้งให้ทราบ หญิงแจ้งให้ทุกคนทราบก่อนลงจากรถว่า เมื่อชาวคณะเริ่มเดินเข้าป่า ขอให้ทุกคนระวังเรื่องคำพูดคำจาด้วย และก่อนเข้าถ้ำทุกถ้ำก็เช่นเดียวกัน

    รถจอดสนิทหน้าที่ทำการอุทยาน ชาวคณะทยอยลงจากรถ เพื่อนอ้วนและพี่น้อย (เจ้าหน้าที่อุทยาน) มาคอยให้การต้อนรับ เพื่อนอ้วนแจ้งให้ทราบเรืองบ้านพักและสอบถามชาวคณะว่าจะเข้าบ้านพักกันก่อนหรือไม่ หญิงแจ้งว่ายัง พวกเราจะขอไปเดินถ้ำกันก่อน หญิงบอกให้ทุกคนทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้บนรถ ให้นำแต่น้ำดื่มและไฟฉายติดตัวไป พี่น้อยรีบพาพวกเราไปที่ศาลาที่ตั้งเด่นเป็นสง่าหน้าทางเข้าอุทยาน ชาวคณะร่วมกันกราบรูปเหมือนหลวงพ่อรุ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวอุทยาน เอาล่ะ ตาในของแต่ละคนเริ่มทำงานกันแล้ว

    หลังกราบท่านเสร็จ เพื่อนอ้วนถามว่าหญิงจะไหว้เจ้าที่เจ้าทางหรือไม่ หญิงบอกว่าไหว้ค่ะ เพราะปกติคณะหญิงไปไหน โดยเฉพาะการเดินป่า หรือมุดถ้ำ พวกเราต้องไหว้ขอกันเป็นประจำอยู่แล้วไม่เคยขาด พี่น้อยแจ้งว่า งั้นเดี๋ยวเราจะไปไหว้กันตรงหน้าถ้ำเลย

    ได้เวลาพวกเราเริ่มเดินเท้าไปตามเส้นทางไปถ้ำ หญิงดูเวลานาฬิกาตรงข้อมือ เวลา ๑๖.๐๐ น. เอาล่ะได้เวลากันเสียที ถ้ำแรกที่ชาวคณะไปถึงคือถ้ำประดับเพชร หน้าปากถ้ำ หญิงให้น้องกอล์ฟเป็นผู้นำในการไหว้ขอผ่านทาง หลังจากนั้นทุกคนเริ่มทยอยเดินลงไปในถ้ำ ภายในถ้ำมืดมาก เพื่อนอ้วนกระซิบบอกหญิงว่า ให้หาหินรูปเจ้าแม่กวนอิมเอาเองนะ เพราะเธอจะไม่บอก ได้เลย..... แค่เดินพ้นโค้งแรกในความมืดของถ้ำ หญิงก็มองไปเห็นหินงอกรูปเจ้าแม่กวนอิมอยู่ทางด้านล่างฝั่งซ้ายมือเสียแล้ว เพียงแต่เรายังเดินไปไม่ถึงเพราะเส้นทางในถ้ำนอกจากจะมืด แถมยังต้องปืนป่ายมุดคดเคี้ยวไปมา

    ภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ สวยงามสมตามชื่อของห้องแต่ละห้องในถ้ำ ถ้ำนี้มีผู้นำและผู้ดูแลชาวคณะด้วยล่ะ ท่านคอยดูแลอยู่ตลอด แต่ใครจะเห็นบ้างหรือเปล่าหญิงไม่ทราบ แต่ตัวเองนี่กราบขอบพระคุณในความเมตตาอยู่เต็ม ๆ

    [​IMG]
    บันไดทางลงถ้ำประกายเพชร

    ออกจากถ้ำประดับเพชร ชาวคณะเดินทางต่อไปยังถ้ำประกายเพชร หญิงดูนาฬิกาตรงข้อมือ ชาวคณะใช้เวลาอยู่ในถ้ำประดับเพชร ๑ ชม.พอดี เส้นทางที่จะลงยังถ้ำประกายเพชร เป็นบันไดไม้ค่อนข้างเก่า ทอดยาวลงไปด้านล่างลึกลงไปประมาณเกือบ ๕๐ เมตร ชาวคณะทุกคนทยอยลงไปทีละคน สลับหว่างระหว่างคนน้ำหนักตัวมากกับคนน้ำหนักตัวน้อย น้องธีร์ขอไม่ลง พี่พรหมเลยอาสาอยู่เป็นเพื่อน สภาพถ้ำเมื่อลงไปถึงด้านล่าง พบกับโถงใหญ่ และทางเดินที่เต็มไปด้วยโพรงเล็กโพรงน้อยที่มีทั้งหินงอกและหินย้อย ทั้งเดิน ทั้งคลานเพียงเท่านี้หญิงก็ทราบถึงเหตุผลที่น้องธีร์ลงมาไม่ได้แล้ว เพราะขันธ์ ๕ ของเธอเป็นอุปสรรคต่อการเดินในสภาพถ้ำนี้นั่นเอง แต่ไม่ห่วงหรอก ตาในเธอดีกว่าหญิงมาก แค่อยู่นอกถ้ำเดี๋ยวเธอก็เห็นอะไรดี ๆ และหญิงก็รู้ด้วยว่าต้องดีกว่าคนตาดีที่เดินลงถ้ำหลาย ๆ คน เมื่อเริ่มต้นมุด เสียงคนข้างหน้าร้องตะโกนบอกคนข้างหลังว่าให้คอยระวังหัว ชาวคณะคืบคลานเข้าไปสู่ห้องต่าง ๆ ชมความงดงามไปเรือย ๆ จนไปถึงหินงอกรูปศิวลึงค์ เม้งพูดออกมาว่า ศาลถ่ายรูปหน่อย แต่ดูยังไม่ค่อยเหมือนเท่าไร และพูดอะไรทำนองสนุก ๆ ออกมาอีกหลายคำ พอตอนกลับเธอเลยเจอเอาการเตือนจากเจ้าของถ้ำเสียโป๊กใหญ่ เล่นเอาหัวระบม แถมเพื่อนอ้วนยังมีหน้ามาบอกหญิงว่า แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันว่าตอนก่อนที่จะเดินมาถ้ำ ทำไมถึงอยากจะเอายาหม่องติดมาด้วย ทั้ง ๆ ที่ปกติเป็นคนไม่ชอบพก ๕๕๕

    ชาวคณะยังเดินต่อไปจนไปสิ้นสุดที่รากไทรใหญ่ที่ห้อยมาจากบนยอดเขา ความแข็งแรงของรากไทร พี่น้อยเล่าให้ฟังว่า เธอได้อาศัยรากไทรนี้ในการปีนสำรวจถ้ำมาแล้ว ความยาวของรากไทรตั้งแต่ยอดเขาลงมาจนถึงพื้นถ้ำ่เกือบหนึ่งร้อยเมตร แต่ปีนไม่เหนื่อยหรอก เพราะปืนไปก็นั่งพักตามแง่หินงอกต่าง ๆ ไป หญิงลองทดสอบความแข็งแรง แค่ปืนได้ไม่กี่คืบ ก็ไม่ไหวแฮะ กางเกงยืนส์มันเป็นอุปสรรค คนที่จะปืนได้นอกจากกำลังแขนต้องแข็งแรงกับการเหนี่ยวตัวเองขึ้น เสื้อผ้าต้องสามารถยืดหยุ่นตามได้ด้วย โอ้! แม่เจ้า

    [​IMG]
    รากไทรใหญ่จากยอดเขาสู่พื้นถ้ำ

    ตอนเดินกลับหญิงมาสะดุดกับหินงอกหินย้อยหมู่หนึ่ง มองไปทราบแล้วว่าเป็นอีกมิติหนึ่งที่ซ้อนกันอยู่ เป็นมิติของเมืองลับแล เสียงพี่น้อยพูดขึ้นมาว่า ตรงนี้ใครเห็นอะไรบ้าง หญิงเงียบยังไม่พูดอะไรออกมา แต่ทราบว่าหลังหมู่เสาหินงอกตรงนั้น นั่นคือประตูเมือง พวกเราทุกคนขอไปถ่ายรูปตรงนี้ กุ้งทำท่าแบกเมืองน้อย ๆ เมืองนั้น แต่หญิงรู้ว่า ไม่ใช่หรอก เบื้องหลังนั้นเมืองนี้ใหญ่โตมโหฬารเอาการ ชาวเมืองหน้าตาสดใสงดงาม ยิ้มแย้มแจ่มใส ถ่ายรูปเสร็จหญิงขอบคุณในความเมตตาของพวกเขา บอกในใจว่า คืนนี้มารับบุญด้วยกันนะ

    ปืนออกมาจากถ้ำ มองดูนาฬิกา ๑๘.๐๐ น.พอดี อะไรจะขนาดนั้น นี่พวกเราใช้เวลาอยู่ถ้ำละ ๑ ชม.เลยหรือ เดินกลับถึงบ้านพัก หญิงบอกให้ทุกคนอาบน้ำให้สดชื่น ก่อนที่จะไปทานอาหารเย็น แล้วเมื่อกลับมาถึงจะไปร่วมสวดทำวัตรเย็นร่วมกัน ทุกคนแยกย้ายกันไปตามหน้าที่

    ได้เวลาชาวคณะไปร่วมทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังของตาตลี ดังในที่นี้คือ ดังในเรื่องของรสชาติของอาหาร ไปถึงแม่ครัวบอกว่า วันนี้เหลือของไม่กี่อย่างเพราะร้านปิดมาหลายวัน อ้าว! อีกแล้วหรือนี่ แต่ไม่เป็นไร เพื่อนอ้วนบอกว่ามีอะไรก็ทำมา แล้วเพื่อนก็ไปสั่งรายการอาหารในฐานะเจ้าถิ่น คณะเราแบ่งแยกการนั่งออกเป็น ๓ โต๊ะ พลางร่วมทานกันอย่างอเร็ดอร่อย จะไม่ให้อร่อยได้อย่างไร ก็ในเมื่อมื้อนี้เป็นมื้อที่สองของพวกเราในวันนี้ ฮิ ฮิ ฮิ

    ทานกันเสร็จเอาเมื่อเวลาเกือบ ๒๐.๐๐ น. ได้เวลาเคลื่อนพลกลับอุทยานกันเสียที ทุกคนขมีขมันกับการที่จะได้ไปร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็นกัน

    ถึงบ้านพัก พี่น้อยมานำทางทุกคนไปเช่นเดิม พวกเราเดินขึ้นเขากันท่ามกลางความเงียบและความมืด บรรยากาศอึมครึมบอกไม่ถูก หญิงเองรู้อยู่เต็ม ๆ ว่ามาแล้ว มารอกันมากเหลือเกิน พวกเราเดินผ่านถ้ำวังไข่มุก เลยไปจนถึงถ้ำพระ สถานที่ในถ้ำในสายตาหญิงที่เห็นจากแสงไฟฉายและแสงตะเกียง คือโพรงถ้ำตื้น ๆ มีพระพุทธรูปประดิษฐานภายในถ้ำ และมีแท่งปูนที่หล่อเทยาวไว้ สำหรับให้นั่งปฎิบัติธรรม ชาวคณะจุดเทียนแท่งใหญ่ไว้หน้าปากถ้ำ แท่งละมุม และไว้ในภ้ำอีกหนึ่งแท่ง

    น้องกอล์ฟแจกบทสวดมนต์ทำวัตรเย็นให้กับทุกคน ๆ ละ ๑ เล่ม หญิงบอกให้น้องเริ่มทำพิธีได้ น้องเปิดไฟล์เสียงของหลวงพ่อฤาษีเป็นเสียงนำ ทุกคนฟังและเริ่มสวดตาม ทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบ

    ช่วงที่เริ่มสวด หญิงเห็นแสงสว่างเจิดจ้าหลังองค์พระ ได้ยินเสียงเหมือนผนังถ้ำเลื่อนอยู่บนหัวด้านหลัง นอกถ้ำเห็นหัวคนตะคุ่มเต็มไปหมด แต่งกายด้วยเสื้อผ้ามอซอ ขมุกขะมอม ทุกคนพากันนั่งนิ่งสงบ หญิงตั้งจิตสวดไปเรื่อย ๆ จนพวกเราสวดทำวัตรเย็นเสร็จ หญิงให้น้องกอล์ฟนำทุกคนสมาทานพระกรรมฐานต่อ เพียงแค่เริ่มสวดวาระก็เข้ามาที่หญิงทันที

    ในสภาพที่ยังอยู่ในสมาธิ หญิงมองเห็นสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี และครูบาอาจารย์หลายท่านที่เมตตามาคอยดูแลคุ้มครองชาวคณะ แม้แต่ท่านเทพทุกชั้นที่ดูแลอยู่ในบริเวณเขานั้นก็มากันทั้งหมด ทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญกับชาวคณะทุกประการ ด้านนอกถ้ำเหล่าดวงจิตมากมายมหาศาลยังอยู่ในอาการสงบ แต่หญิงรับรู้ในใจว่า พวกเขาขอให้พวกเราช่วยแผ่เมตตาอุทิศให้พวกเขาอีก พวกเขายังไม่พอ วาระหลังจากนั้น หญิงรู้ตัวเองทุกอย่างแต่ฝืนไม่ได้เลย หญิงเดินขึ้นบันไดไปด้านบนไปกราบองค์พระทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่ในสมาธิ เบื้องหลังของหญิงที่ทุกคนนั่งอยู่ ไม่ใช่ร่างของพวกเราทุกคน แต่เป็นเหมือนอุโบสถหลังน้อย ๆ หนึ่งหลัง หญิงเดินลงจากบันไดมาเดินเวียนรอบกลุ่มเดินทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา ไม่ได้กลัวตกขอบแท่งปูนหรืออะไรเลย จนครบ ๓ รอบหญิงเดินขึ้นบันไดไปนั่งอยู่ต่อหน้าองค์พระ ในใจกำหนดจิตแผ่เมตตาจนจบหนึ่งครั้ง เหมือนกับการฉายหนังให้ดู กลุ่มคนด้านนอกค่อย ๆ ทยอยหายไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งทีหญิงแผ่เมตตาเสร็จ หลายครั้งพอดูจนในที่สุดไม่เหลือใครอีกเลย หญิงรับรู้เข้ามาในใจทันทีว่า หมดแล้ว พวกเขาไปกันหมดแล้ว กราบฟุบต่อหน้าพระ แล้วค่อย ๆ ถอนสมาธิออก มองลงมายังด้านล่างเห็นทุกคนยังนั่งกันนิ่ง ก็เลยบอกให้ทุกคนค่อย ๆ ถอนสมาธิกันออกมา

    บรรยากาศที่ดูอึมครึมก่อนชาวคณะสวดทำวัตรเย็น ดูโปร่ง ลมพัดมาเบา ๆ เย็นสบาย หญิงบอกทุกคนว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ใครจะนอนพักค้างคืนที่ถ้ำหรือจะกลับไปนอนที่บ้านพักก็ได้ ทุกอย่างในค่ำคืนนี้ปลอดภัยทั้งหมด หญิงเองนั้นรู้เลยว่า ตอนนี้ต่อให้หญิงต้องเดินกลับไปนอนที่บ้านพักคนเดียว หญิงก็กล้าเดินอย่างสบายใจ

    กลุ่มสาว ๆ ขอกลับไปนอนที่บ้านพัก เหลือหนึ่งกับน้องข้าวฟ่างเจ้าตัวน้อยที่สุดของชาวคณะ ขอนอนที่ถ้ำกับกลุ่มหนุ่ม ๆ อีกหลายคน บรรดาหนุ่มที่นอนในถ้ำมี พี่พรหม กฤศ ศาล กอล์ฟ น้องจิม น้องเอ น้องนนท์ ที่เหลือแยกย้ายกันกลับมาที่บ้านพัก ก่อนกลับพวกเรานัดกับคนที่นอนถ้ำว่า ตีห้าพวกเราจะมาร่วมสวดทำวัตรเช้าร่วมกัน กลุ่มที่กลับมาถึงบ้านพัก ยังมารวมกลุ่มสนทนาธรรมกันต่ออย่างสนุกสนาน จนสุดท้ายต่างคนต่างหลับไปโดยไม่รู้ตัว


    ภาพประกอบ
    ลำดับที่ ๑ ศาลหลวงพ่อรุ่ง อุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทอง
    ลำดับที่ ๒ - ๑๓ ถ้ำประดับเพชร
    ลำดับที่ ๑๔ - ๒๙ ถ้ำประกายเพชร
    ลำดับที่ ๓๐ -๓๔ ถ้ำพระ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  3. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๕) ตอน อุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทอง (ต่อ)

    [​IMG]
    อุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทอง

    วันรุ่งขึ้น เสียงนาฬิกาปลุกของแต่ละคนทยอยปลุกมาทีละเครื่อง ของกุ้งซึ่งนอนอยู่ข้าง ๆ หญิงดังขึ้นมาก่อน หญิงรีบบอกว่า พึ่งตีสี่เอง นอนต่อเถอะ ว่าแล้วหญิงก็หลับต่อ ที่นี่จะของใครทยอยปลุกอีกอย่างไร ไม่สน หญิงขอนอนเก็บแรงลูกเดียว ๕๕๕

    จนเกือบตีห้า น้องเอย่องกลับมาจากถ้ำเมื่อไรไม่ทราบ มาล้างหน้าแปรงฟันเป็นรายแรก ที่นี้ก็เกิดรายการรีบลุกเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันกันในบัดดล

    ใกล้ได้เวลาตีห้าพอดี เสียงศาลโทรมาตาม พี่หญิงครับตื่นกันหรือยัง ทางถ้ำรออยู่แล้วครับ เลยรีบตอบไปว่า เสร็จแล้วกำลังจะเดินทางกันไป

    ทุกคนรีบทยอยออกเดินขึ้นเขาเพื่อไปยังถ้ำที่เราจากมากันเมื่อคืน เดินไปจนถึงถ้ำ พวกเรารีบถามว่าคนทางถ้ำนั่งสมาธิกันทั้งคืนไหม หรือว่านอนหลับสบายกัน เสียงกฤศตอบมาว่า นอนไม่หลับเพราะมีเสียงเสือลงมากวน ๒ ตัว พวกเราฮากันลั่น เพราะทราบดีว่านั้นคือเสียงกรนของหนุ่ม ๆ นั่นเอง

    ได้เวลาพวกเราเริ่มต้นสวดมนต์ทำวัตรเช้า จิตใจแต่ละคนสดชื่นแจ่มใส เสียงสวดที่ร่วมเปล่งออกมาเป็นพลังอย่างประหลาด เต็มไปด้วยพลังอันบริสุทธิ์จากความตั้งใจจริงของทุกคน

    เสร็จจากทำวัตรเช้า ได้เวลาฟ้าสางพอดี หญิงมองไปทางด้านหลังองค์พระ ใจรับได้ว่ามีข่องทางเข้าไปทางด้านหลังได้ พอมองสภาพถ้ำเต็ม ๆ ตาเห็นเป็นโพรงถ้ำอยู่ทางซ้ายมือ เลยถามเพื่อนอ้วนว่า โพรงนี้สามารถเดินไปทะลุออกหลังองค์พระได้มั๊ย เพื่อนอ้วนบอกว่าได้ จบข่าว คิดในใจไว้ว่า ถ้ามีเวลาไปอีกเมื่อไรจะต้องมาขอมุดโพรง เพราะตอนนั้น ใจคิดแล้วว่า ไม่ใช่แต่โผล่ออกมาหลังองค์พระแต่ต้องมีทางไปทางอื่นอีกแน่ เพียงแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นช่องทางที่ไปโผล่ออกทางไหน

    ชาวคณะร่วมกันเก็บเศษเทียน ทำความสะอาดถ้ำจนเรียบร้อยและทยอยเดินลงกลับมาที่บ้านพัก ถึงตอนนี้ เราแยกออกเป็น ๑ กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มใหญ่ขอไปเดินชมต้นไม้พ่นควันและหมู่ถ้ำที่เหลือต่อ ส่วนอีกกลุ่ม คือ น้องธีร์ พี่กร เม้ง กฤศ ขอไปถ้ำวังไข่มุกเพื่อไปเอาน้ำมนต์ที่อยู่ภายในถ้ำ

    เหลือหนึ่งกับน้องข้าวฟ่างขอเฝ้าบ้านพัก เพราะน้องเด็กเกินไปที่จะพาไปร่วมเดินด้วย ชาวคณะกลุ่มหนึ่งเดินทางถึงหน้าที่ทำการอุทยาน หญิงนับจำนวนคนในคณะเพราะทราบดีว่า วันนี้พวกเราแตกกลุ่มกัน คณะเราเดินทางไปจากกรุงเทพฯ ๑๘ คน รวมเพื่อนอ้วนด้วยก็เป็น ๑๙ คน แยกออกไปถ้ำวังไข่มุกเสีย ๔ คน อยู่บ้านพักเสีย ๒ คน ก็ต้องมาเหลือเดินถ้ำทางนี้อีก ๑๓ คน แต่ทำไมหญิงนับได้แค่ ๑๒ รีบบอกน้อง ๆ แต่ละคนว่า หายไป ๑ คนแต่หญิงก็นึกไม่ออกว่าใครหาย น้องกอล์ฟรีบช่วยนับแล้วก็บอกว่าครบครับไม่มีใครหาย แต่ละคนก็ช่วยกันนับแล้วก็บอกว่าไม่หาย แต่หญิงก็ยืนยันว่าหาย จนศาลแกล้งแหย่ว่า พี่หญิงต้องเปลี่ยนนามสกุลใหม่แล้วครับ เป็นชราไวไปนิด ๕๕๕ แหม ! เจ้าน้องพวกนี้ช่างแกล้งเสียจริง ๆ แต่เพียงแค่เดินเข้าเขตราวป่าเส้นทางเดินไปถ้ำ หญิงก็ร้องขึ้นมาว่า พี่พรหมหาย ใครเห็นพี่พรหมบ้าง เพียงเท่านั้นล่ะ ทุกคนมองหน้ากันเลย หญิงรีบโทรหาพี่พรหมแต่สัญญานโทรที่นั้นไม่มี เอาล่ะที่นี้ ไม่เป็นไรทุกคนเดินหน้าต่อ คิดว่าพี่คงแยกตัวไปทางไหนเสียแล้วกระมัง

    ระหว่างเส้นทางเดิน เส้นนี้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชาวคณะได้รับความรู้จากพี่น้อยมากมาย ได้รับรู้ว่าหมู่เขาในเขตอุทยานแห่งนี้เคยเป็นดินแดนที่อยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน เนื่องจากมีซากฟอสซิลของเปลือกหอยมากมายในเนื้อหิน รวมถึงได้ดูวิธีการหลอกต้นไม้ให้พ่นควันของพี่น้อย ดูเอาเถิด ดูความเจ้าเล่ห์ ความเก่งของมนุษย์เรา แม้กระทั่งต้นไม้ ก็ยังสามารถหลอกให้พ่นควันได้เลย ฮิ ฮิ ฮิ

    [​IMG]
    ต้นไม้พ่นควัน

    เดินทางต่อมาจนลุล่วงเข้าเขตถ้ำเพชรคิงคอง สถานที่นี้เป็นถ้ำโบราณที่พบเครื่องใช้ไม้สอยและโครงกระดูกมนุษย์ เพียงแต่เห็นสภาพของปากทางเข้าถ้ำ หญิงก็รู้ถึงสาเหตุที่น้องธีร์ไม่มาอีกแล้ว จะมาได้อย่างไรล่ะ ก็ในเมื่อช่องทางเข้าถ้ำนี้มันต้องคลานมุดเข้าไป ทางเข้าใหญ่กว่าตัวคนไม่มาก ถูกต้องแล้วที่ ๔ หนุ่มไม่ขอมา เพราะถ้ามาก็ยังไม่ทราบเลยว่า เวลามุดเข้าจะติดห่วงยางรอบเอวของบรรดาคุณเธอกันบ้างหรือเปล่า แต่ยกเว้นเม้งให้หนึ่งคน เพราะรูปร่างเล็กเพรียวมุดได้ทุกสถานที่

    หญิงตั้งจิตขออนุญาตก่อนเข้าถ้ำเหมือนเช่นเคย พอลืมตาขึ้นก็รู้แล้วว่า ทางนี้ไม่ใช่ทางเข้าเดิมของถ้ำ บอกพี่น้อยว่า พี่น้อยเดิมทางเข้าอยู่ทางด้านโน้นนะคะ พี่น้อยบอกว่าใช่ แต่มันถล่มลงมากลายเป็นหน้าผาไปแล้ว เลยต้องเข้าทางนี้แทน ไม่เป็นไร มุดก็มุด สภาพเส้นทางในถ้ำที่มุดเข้าไปในช่วงแรกลื่นมาก ทั้งลื่นและชันเรียกว่าถ้าพลาดก็ร่วงได้ง่าย ๆ จากสภาพสายตาเนื้อที่มองเห็น รู้ว่าถ้ำนี้ผ่านการถล่มมานับครั้งไม่ถ้วน พอเดินเข้าไปจนถึงโถงถ้ำเดิม ความเย็นเข้ามากระทบหญิงวูบใหญ่ เป็นความเย็นแบบสงบ สันติ สบายใจอย่างบอกไม่ถูก รีบบอกพี่น้อยว่า พี่น้อยนี่คือเขตแดนของถ้ำเขาจริง ๆ นะ ทางเข้าเมื่อสักครู่ไม่ใช่เลย และเขตนี้คือเขตกึ่งกลางของเขาชอนเดื่อ เป็นแดนสันติจริง ๆ มองไปทางขวามือ เอาแล้ว มิติซ้อนอีกมิติแล้ว มองเห็นเป็นเหมือนกลุ่มบังบดจำพวกหนึ่งกึ่ง ๆ ยักษ์แต่ไม่ดุร้าย มองไปทางอีกฝั่งเห็นกลุ่มคนโบราณกำลังใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำ เอาล่ะเหวย หญิงคิดในใจ อะไรอีกล่ะนี่ จะให้เห็นอะไรก็ให้เห็นมา คนอื่นจะว่าบ้าก็ขอบ้าว่ะ เพราะไม่ขอเล่าให้ใครฟังหรอก ขอรับรู้คนเดียวก็พอ นั่นคือความคิดตอนนั้น ตอนวันกลับนั่งมาในรถใคร ๆ ให้เล่าก็ไม่เล่าหรอก นั่งเงียบ แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไมช่างพิมพ์ได้ไหลลื่นดีเหลือเกิน ฮิ ฮิ ฮิ

    ปืนป่ายกันไปจนถึงหน้าหินงอกรูปคิงคอง หญิงบอกกับพี่น้อยว่า พี่น้อยถ้ำนี้สงบมากเย็นมาก ทั้ง ๆ ที่ดูสภาพถ้ำแล้วพังยับเยิน ที่หญิงใช้คำว่าพังยับเยินเพราะสภาพก้อนหินแต่ละก้อนที่มันถล่มทับซ้อนกันไปมา แล้วก็บอกว่าตรงนี้เป็นอีกมิตินะพี่ พี่น้อยเลยบอกว่า มิน่าผมเห็น ธ.กรุงศรีเขาชอบมาขอถ่ายตรงมุมนี้เอาไปทำปฎิทิน พี่น้อยบอกผมเองก็รู้สึกแปลกใจ เพราะเวลาที่ผมไม่สบายใจ หงุดหงิดใจ กลุ้มใจ เพียงแต่ผมเข้ามาในถ้ำนี้ ผมก็จะรู้สึกสบายใจอย่างประหลาด ผมไม่เห็นอะไรหรอกแต่เหมือนรับได้ หญิงก็ได้แต่ยิ้ม เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า ตัวเองรับอะไรได้มากกว่านั้น แต่พูดไม่ได้ พูดไม่ได้ เดี๋ยวจะรีบโดนพาส่งศรีธัญญาครับ

    [​IMG]
    สภาพหินงอกหินย้อยในถ้ำวิมานลอย

    มุดออกมาจากถ้ำเพชรคิงคอง ชาวคณะเดินทางต่อไปยังถ้ำวิมานลอย หญิงดูนาฬิกาข้อมือ ยังไม่ ๘.๐๐ น. เอาอยู่เพราะนัดกับอีกกลุ่มที่ไปถ้ำวังไข่มุกว่า พวกเราจะตามไปสมทบกันที่นั้น ถึงหน้าถ้ำวิมานลอย หญิงปะทะเข้ากับพลังบางอย่าง รีบบอกพี่น้อยเลยว่าพี่น้อยตอนลงถ้ำวิมานลอยให้ระวังนะ หญิงรู้สึกไม่ค่อยดี พี่น้อยมองหน้าแบบรู้กัน เพื่อนอ้วนก็มาบอกหญิงทีหลังว่า ไม่อยากลงเหมือนกันเพราะอยู่ ๆ ก็รู้สึกแน่นหน้าอก ปวดหัว ตอนแรกว่าจะรอทุกคนที่หน้าปากถ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมถึงปืนตามลงไป พี่น้อยไหว้ขออนุญาต หญิงก็เช่นเคยไหว้ขอเหมือนก่อนจะเข้าถ้ำทุกถ้ำ ในใจเห็นแล้วคนรอแกล้งยืนยิ้มเผล่อยู่ในโถง ใจก็เรียนท่านไปว่า คณะหญิงมาดีขออนุญาตชมถ้ำท่านหน่อยเจ้าค่ะ ไม่ตอบแฮะแต่ก็ใจชื้นขึ้นว่า แหม! จะมารอแกล้งนี่เอง พอลงไปก็เจอแล้วว่าจุดแกล้งอยู่ตรงไหน ก็บอกพี่น้อยว่าพี่น้อยไม่ต้องเข้าไปนะ พี่น้อยก็รู้ไม่เข้านั่งรออยู่หน้าโถง ห้องนั้นคือห้องศิวลึงค์ หินงอกที่งอกออกมาจากถ้ำประกอบด้วยรูปร่างหน้าตาที่เหมือนของจริงใกล้เคียงที่สุด เจ้าตัวยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ กุ้งเดินไปรอบๆ แถมจะมุดเข้าไปต่อ หญิงเลยรีบห้ามบอกว่าไม่ต้องเข้าไป ดูด้านนอกพอ กุ้งเลยเอามือไปแตะหินงอกนั้น ได้เรื่อง โปกเสียงหัวโขกกับหินงอกเบา ๆ พอให้รู้สึกตัว แหม! แกล้งได้ดีจริงๆ เสร็จแล้วชาวคณะก็ปืนป่ายไปยังโถงอื่น ๆ ต่อ หญิงรีบบอกพี่น้อยว่า ถ้าพี่มาทางถ้ำนี้อีก พี่เอาน้ำดื่มมาไว้ที่โถงนี้สักขวดนะคะ ท่านขอมา

    [​IMG]
    หินงอกรูปศิวลึงค์

    ห้องต่อไปที่พวกเราไปชมก็คือห้องคนแคระ และห้องม่าน หินงอกหินย้อยสวยงามมาก เวลาที่กระทบแสงไฟดูงดงามเป็นที่สุด ภายในมุมหนึ่งของถ้ำ ที่เป็นโถงขึ้นไปด้านบน เอาอีกแล้ว เห็นอะไรอีกแล้ว จุดนี้เป็นจุดที่หญิงได้ปืนขึ้นไปขออนุญาตนั่งถ่ายรูปตรงประตูปากทางเข้าเมือง แต่ไม่ขอพูดเล่าแล้วกันเพราะที่นี้เกี่ยวพันกับตัวเองเต็ม ๆ เพราะแค่เห็นรูปสีหน้าแววตาของตัวเองที่ถ่ายออกมาก็สะดุ้งแปดตลบว่า โห้! ตัวเรานี่ก็ดุไม่เบาเลย

    ออกจากถ้ำวิมานลอย เดิมที่พวกเราตั้งใจจะไปต่อกันที่ถ้ำมรกต น้องเอรีบเดินลิ่ว ๆ นำพวกเราหญิงทราบแล้วว่าน้องเขาโดนนำไป แต่วาระทางถ้ำวังไข่มุกมากกว่า น้องเอเดินนำพวกเราเสร็จก็มานั่งรอตรงม้านั่ง พอพวกเราเดินตามมาทัน ก็มีเสียงถามว่าถ้ำมรกตอยู่ไหน พี่น้อยก็ชี้ไปด้านหลัง ซึ่งปากทางเข้าถ้ำอยู่ไม่ไกลจากที่น้องนั่งอยู่เลย แต่น้องบอกว่า เมื่อสักครู่ไม่เห็น ก็จะเห็นได้อย่างไรละคะน้อง ทางวังไข่มุกเขาเรียกให้ไปอยู่ ก็ต้องไปก่อนนะซิ

    ชาวคณะเดินทางไปถึงหน้าถ้ำวังไข่มุก อ้าว ๔ หนุ่มหายไปไหนนี่ รีบโทรถามว่าอยู่ไหน ได้คำตอบว่าอาบน้ำรออยู่ที่บ้านพักแล้ว เอาล่ะ ดูนาฬิกาข้อมือ ๙.๐๐ น.แล้ว หญิงเลยบอกทุกคนว่า ให้เวลาไม่นานสำหรับถ้ำนี้ บันไดทางลงชันเหมือนเช่นเดิ่ม แต่เดินลงได้อย่างสบาย ลงไปจุดแรกถ้าเดินตรงไปก็คืออ่างน้ำมนต์ ด้านซ้ายของบันไดคือทางลงถ้ำวังบาดาล ด้านหลังของบันไดคือทางไปห้องเหล็กไหล หญิงโดนดึงไปทางปากถ้ำวังบาดาลทันที รีบตั้งจิตกราบว่า ขออนุญาตไม่ลงไป คราวหน้าจะมาให้ได้ แม้จะมาไม่กี่คนก็จะมา พวกเราหลายคนทำท่าจะลง หญิงรีบห้ามทั้งหมดบอกว่า ให้ไปที่อ่างน้ำมนต์ โป๊ก เสียงหัวหญิงกระแทกกับหินงอกเบา ๆ น้องกอล์ฟหัวเราะบอกพี่หญิงอยากห้ามพวกเราดีนัก เลยโดนเสียเลย ๕๕๕ ไม่เป็นไร เขกเบาจนเกือบไม่รู้สึก รับได้ รับได้

    [​IMG]
    บันไดทางลงถ้ำวังไข่มุก

    เดินมาจนถึงบริเวณอ่างน้ำมนต์ พวกเรารีบเอาน้ำมนต์พรมหัวเพื่อความเป็นสิริมงคล และเดินต่อไปด้านในในส่วนของสวรรค์ ๗ ชั้น แต่เวลามีไม่เพียงพอ เลยรีบเดินกลับมาทางห้องเหล็กไหล หญิงเดินตามพี่น้อยไปติด ๆ แต่พอเข้าเขตโถงเหล็กไหล รับได้ถึงพลังที่อัดแน่นลงมาทั้งตัว รีบถอยออกมานั่งรอหน้าโถง ปล่อยให้ทุกคนตามพี่น้อยเข้าไป พี่น้อยเล่าให้ฟังถึงสมัยหลายสิบปีก่อนที่มีคนนิมนต์พระมาทำพิธีตัดเหล็กไหล แต่ไม่สำเร็จ ช่วงที่พี่น้อยกำลังเล่า เพื่อนอ้วนเดินออกมานั่งด้วย บอกไม่ไหวปวดหัวเหลือเกินหญิง หญิงก็ได้แต่หัวเราะว่าโดนเหมือนกันหรือเพื่อน

    พอพี่น้อยบรรยายเสร็จ หญิงก็บอกให้ทุกคนแยกย้ายกันเดินกลับบ้านพักและให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะไปทานข้าวและเดินทางต่อ กลุ่มสาว ๆ กับน้องจิม น้องเอปีนขึ้นบันไดออกไป หญิงปิดท้าย ส่วนด้านหลังหญิงเหลือพีน้อย ศาล และเพื่อนอ้วนหน้าห้องเหล็กไหลที่กำลังเก็บภาพ ช่วงวินาทีนั้นเหลือหญิงเพียงคนเดียวที่หน้าบันไดทางขึ้น แต่เท้ากลับพาหญิงเดินหันหลังไปทางลงถ้ำวังบาดาลอย่างไม่รู้ตัว พอจะก้าวขาลงบันได ใจก็บอกว่า ยังไปไม่ได้เดี๋ยวทุกคนจะรอไว้หญิงจะมาใหม่ ตั้งจิตกราบทุกท่านที่อยู่ด้านใน รู้ได้ตอนนี้เลยว่า ถ้าลงไปหญิงลงไปคนเดียวได้แน่ ไม่กลัวด้วยและจะต้องไปโผล่ออกทางด้านหลังพระพุทธรูปในถ้ำที่สวดมนต์กันแต่ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๒ ชม. ทุกคนที่รออยู่จะเป็นห่วง เพราะหนึ่ง กลุ่มสาวๆ ขึ้นไปหมดแล้ว เหลืออีก ๓ หนุ่มที่อยู่ทางโถงเหล็กไหล และมีหญิงอยู่ตรงนี้คนเดียว ถ้าหญิงลงไปไม่มีใครเห็นเลย ทุกคนจะกังวลแต่หญิงทราบว่า ถ้าหญิงหายไปน้องธีร์จะรู้ว่าหญิงอยู่ที่ไหน

    เสียงหนุ่ม ๆ จากโถงเหล็กไหลเดินมา หญิงเลยผละจากทางลงถ้ำวังบาดาลมาเตรียมปืนบันไดขึ้นสู่หน้าปากถ้ำวังไข่มุก ขึ้นมาด้านบนหญิงถามพี่น้อยว่า ทางลงวังบาดาลมีทางออกทางอื่นอีกมั๊ยคะ พี่น้อยบอกว่ามีแต่ต้องปืนขึ้นนิดหน่อยแล้วจะมาโผล่ออกทางถ้ำพระพุทธรูป จบข่าว

    ออกมาถึงบ้านพัก หญิงรีบไปอาบน้ำและให้ทุกคนนำกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถ ลาพี่น้อยตรงนี้ก่อนที่จะออกไปทานอาหารและเตรียมเดินทางต่อไปวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ต่อไป


    ภาพประกอบ
    ลำดับที่ ๑ - ๑๑ ถ้ำเพชรคิงคอง
    ลำดับที่ ๑๒ - ๑๓ เส้นทางเดินป่าระหว่างถ้ำ
    ลำดับที่ ๑๔ - ๒๙ ถ้ำวิมานลอย
    ลำดับที่ ๓๐ - ๓๘ ถ้ำวังไข่มุก
    ลำดับที่ ๓๙ - ๔๗ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  4. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๕) ตอน วาระเปิดที่วัดหนองโพ

    [​IMG]
    หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    ออกจากอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทองเอาเวลาเกือบ ๑๐.๓๐ น. ชาวคณะตั้งจิตกราบลาหลวงพ่อรุ่งกันในรถ ก่อนที่จะตรงไปทานอาหารมื้อกลางวันกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าค่ายทหาร

    ทานเสร็จพวกเราตั้งต้นไปวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์กัน แต่เส้นทางที่ไปต้องผ่านวัดหนองโพของหลวงพ่อเดิม เสียงเพื่อนอ้วนถามว่าหญิงจะแวะกราบท่านไหม แวะค่ะ เสียงหญิงตอบทันควัน

    ชาวคณะกลับรถเลี้ยวมาเข้าแยกทางเข้าวัดหนองโพ ระยะทางที่ระบุไว้คือ ๗ กิโลเมตรจากทางเข้า ไม่เป็นไร หญิงแจ้งทุกคนตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่า ทริปนี้ขอให้ปล่อยให้เป็นไปตามวาระ พวกเราจะไม่เร่ง ไม่สนใจว่าจะไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะทราบกันดีตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่า เราจะต้องเจออะไรกันมาบ้าง เพราะฉะนั้นไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น แต่ขอให้่ีพวกเรามีความสุข มีความอิ่มเอมในใจในทุกสถานที่ ๆ พวกเราได้ไปร่วมทำบุญก็เป็นพอ

    ถึงหน้าวัด ทุกคนรู้หน้าที่ ต่างลงไปร่วมกราบรูปหล่อของหลวงพ่อเดิม ก่อนที่จะมาถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก และขึ้นรถเตรียมเดินทางกันต่อ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  5. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๕) วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์

    [​IMG]
    วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์

    ออกเดินทางกันมาทาง อ.ท่าตะโก หญิงให้น้องเหน่งขับทำเวลาให้ ใจไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว เพราะรับยันต์เกราะเพชรกันมาเกือบทั้งคัน หลายรอบด้วย เชื่อในคำพระอาจารย์ว่า คนที่รับยันต์เกราะเพชร ต่อให้เกิดอุบัติเหตุก็เย็บไม่เกิน ๕ เข็ม ฮิ ฮิ ฮิ แต่สำหรับหญิงจะกี่เข็มหญิงก็ไม่ขอรับเลยค่ะ

    เดินทางถึงวัดท่าตะโกเอาเวลา ๑๔.๐๐ น. หญิงให้เวลาทุกคนครึ่งชั่วโมง บอกทุกคนว่า ให้ขึ้นไปเจดีย์พุทธคยาก่อนแล้วค่อยเดินไล่ลงมาด้านล่าง ทุกคนรับคำ เกาะกลุ่มกันเดินขึ้นไป ถ่ายรูปร่วมกัน บางคนก็หามุมถ่ายส่วนตัว เพราะภาพด้านบนเขาเมื่อมองลงมาข้างล่างช่างสวยงามเหลือเกิน

    คณะเราใช้เวลาอยู่ที่นั้นตามกำหนด ๑๕.๐๐ น.ได้เวลาล้อหมุนกันต่อ จริง ๆ สถานที่ต่อไปของหญิงคือไปกราบหลวงปู่เปลื้อง แต่ทราบว่าท่านยังนอนอาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลลาดยาว ส่วนสถานที่ใน อ.เมืองอีก ๕ สถานที่หญิงทราบตั้งแต่ก่อนไปแล้วว่าถ้าโดนดึงที่เขาชอนเดื่อมาก วาระของวัดทาง อ.เมืองจะโดนปิดทันที และได้เตรียมการโดยได้ทำเครื่องหมายดอกจั่นแจ้งให้ทุกคนทราบไว้เนิ่น ๆ ตั้งแต่ก่อนวันเดินทางแล้ว ๆ ในที่สุดก็เป็นไปอย่างที่คิดจริง ๆ

    รีบถามทุกคนในรถทันทีว่า ตอนนี้หลวงปู่ท่านอาพาธอยู่เราจะไปกราบท่านดีหรือไม่ หรือว่าจะวิ่งไปวัดหนองทาระภู ไปกราบหลวงปู่ฤาษีตาไฟกันเลย หลายเสียงตอบมาว่า อย่าไปรบกวนหลวงปู่เลยอยากให้ท่านได้พักผ่อนมาก ๆ ค่อยไปกันวันหน้า วันนี้ไปกราบหลวงปู่ฤาษีตาไฟแทนแล้วกัน

    เมื่อได้คำตอบเป็นเอกฉันท์ หญิงให้น้องเหน่งบ่ายหน้าเข้าสู่เส้นทาง จ.ชัยนาททันที ระหว่างทาง หญิง น้องธีร์ เพื่อนอ้วน คุยกันมาตลอด เราทราบดีว่าหลวงปู่จะทำวัตรเย็นตอน ๑๗.๐๐ น. คณะเราจะต้องไปถึงวัดให้ทันก่อนเวลาทำวัตรเย็น แต่จะไปโดยเส้นทางลัดเส้นใดล่ะ และจะไปทันหรือไม่....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  6. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๕) วัดหนองทาระภู

    ล้อหมุนมาถึงวัดเอาเวลา ๑๗.๑๐ น.
     
  7. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๕) ความไม่เที่ยง ปิดท้ายก่อนถึงกรุงเทพฯ

    ไว้ค่อยมาพิมพ์เล่านะ พร้อมกับวัดหนองทาระภูนั่นล่ะ
     
  8. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    นิทานถ้ำเพชรถ้ำทอง ตอนที่ ๒

    ตอนค่ำ คณะได้ร่วมใจขึ้นไปยังถ้ำพระ เพื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็น
    ทางคุณกอล์ฟได้เปิดไฟล์เสียงบทสวดชุมนุมเทวดา ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ทันใดนั้น ก็ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ ท่านก็มาทั้งหมด พร้อมท่านพี่บริวารทั้งหลาย ท่านปู่ท่านย่าก็เมตตามาโปรด ต่อมาท่านท้าวสหัมบดีพรหม และบริวารท่านก็ต่อมา และทันใดนั้น พระท่านก็มามากมาย พระท่านมาพร้อมกัน สว่างจ้าไปหมด ผมปิติมาก ที่พระใหญ่ท่านเมตตามาเป็นประธานในครั้งนี้ รวมถึงครูบาอาจารย์องค์สำคัญท่านเมตตาคณะเรา มาร่วมเป็นประธานในครั้งนี้

    ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ต่างมาร่วมสวดมนต์ในครั้งนี้ มาอนุโมทนาบุญร่วมกัน

    เมื่อทางคณะได้ร่วมกันแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล ให้กับทุกดวงจิต ณ สถานที่แห่งนี้ และทั่วสากลอนันตจักรวาล ด้วยบารมีของพระทุกพระองค์ ทำให้ผลบุญถึงดวงจิตทุกดวงจิต อนุโมทนาผลบุญ เสวยผลบุญได้ตามประสงค์


    หมายเหตุ : ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง เป็นแค่นิทานที่ได้ยินมา แล้วมาเล่าให้ฟังครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  9. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    นิทานถ้ำเพชรถ้ำทอง ตอนที่ ๓

    ตอนเช้าในวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๒

    ทางคณะใหญ่ได้ไปเดินถ้ำตามปกติ เหลือ ผม คุณกร คุณเม้ง คุณกฤศ ๔ คน

    ตั้งใจไปอ่างน้ำมนต์ ที่หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค ที่ท่านได้พุทธาภิเษกไว้

    เพื่อขอพรมน้ำมนต์เป็นศิริมงคลแห่งชีวิต

    ทันใด หลวงพ่อรุ่ง สหายมิกธรรรม หลวงพ่อเดิม ท่านมา ท่านเมตตามาโปรด อยู่กับพวกผมในการเดินลงถ้ำเพื่อไปยังจุดอ่างน้ำมนต์

    เมื่อพวกเราเดินถึงอ่างน้ำมนต์ พระหลายท่านมาโปรดเมตตา หลวงปู่สี หลวงพ่อรุ่ง หลวงพ่ออ่ำ และพระอีก 2 ท่าน มาโปรด ขณะพวกเราอธิฐานจิต ขออนุญาตขอน้ำมนต์เพื่อเจิมศรีษะเพื่อเป็นมงคลแห่งชีวิต


    หมายเหตุ : ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง เป็นแค่นิทานที่ได้ยินมา แล้วมาเล่าให้ฟังครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  10. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    พี่อ้วนครับ
    ทาง วนอุทยานถ้ำเพชรถ้ำทอง อนุญาต ให้ทำความสะอาดองค์พระพุทธรูป พระประธาน ในถ้ำพระ หรือเปล่าครับ

    พี่หญิง พี่อ้วน
    เราร่วมบุญซื้ออ่างน้ำมนต์ หลวงปู่สี (ของเดิมแตกชำรุด) เปลี่ยนกันใหม่ ดีหรือเปล่าครับ
    และทาง วนอุทยาน อนุญาต ให้เราเปลี่ยนหรือเปล่าครับ พี่อ้วน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. cabin

    cabin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +828
    พอดีได้คุยกันเรียบร้อยแล้วกับพี่หญิงครับ ตั้งใจว่าไปคราวนี้จะซื้อสีทองไปบูรณะองค์พระใหม่ แล้วก็จะซื้อเครื่องบูชาไปเปลี่ยนด้วยเนื่องจากของเดิมชำรุดเก่ามากแล้ว เป็นอันว่าเห็นตรงกัน ผมว่าถ้าเราเปลี่ยนของชำรุดให้ดีขึ้นกว่าเดิม เทพพรหมเทวดาฟ้าดินย่อมโมทนา ทางอุทยานเองคงจะไม่มีข้อขัดข้องใด ๆ หรอกครับน่าจะดีใจด้วยซ้ำเพราะเขาเองคงจะไม่มีงบประมาณหรือเวลาไปทำความสะอาด ไปคราวนี้ก็ไปช่วยกันเนรมิตองค์พระให้เป็นทองอร่ามเลยนะครับนะครับ ผมก็ตั้งใจว่าจะซื้อผ้าทิพย์ไปห่มถวายองค์พระพุทธรูปเช่นกัน สงสัยท่านจะดลใจหลาย ๆ คนให้คิดตรงกัน โมทนาบุญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  12. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932


    โมทนากับน้องทั้งสองคนค่ะ

    เรื่องสียังมีสีทองคงเหลือจากทริปธรรมทัศนาจร (๓) ที่ไปทาองค์พระที่รอยพระพุทธบาทบางทรายส่วนหนึ่ง พี่คิดว่าซื้อเพิ่มเติมเป็นกระป๋องเล็กอีกสักหนึ่งกระป๋องก็น่าจะเพียงพอค่ะ เพราะองค์พระในถ้ำพระที่อุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง เล็กกว่าองค์พระที่รอยพระพุทธบาทบางทรายมาก ส่วนอุปกรณ์ทาสีตรงนี้ต้องซื้อใหม่ทั้งชุด

    สำหรับเครื่องบูชาต่าง ๆ อาิทิ ผ้าทิพย์ กระถางธูป แจกัน ดอกไม้ ธูปเทียน อ่างน้ำมนต์ ฯลฯ เห็นด้วยทุกประการค่ะ ขอเวลาพี่สักวันสองวันแล้วพี่จะตั้งกระทู้ประมาณการค่าใช้จ่ายในทริปธรรมทัศนาจร (๖) พร้อมทั้งทริปเล็กกับบุญใหญ่ (๓) งานออกนิโรธครูบาวิฑูรย์ วัดไชยมงคล (วังมุย) มาให้ทราบไปในคราวเดียวกัน เพราะในเดือนหน้า (กันยายน) ชาวคณะมีทริปรออยู่ ๒ ทริปนี้ค่ะ
     
  13. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    ท่อง คาถาเงินล้าน เต็มกำลัง กันนะครับ

    คาถาศักดิ์สิทธิ ที่ พระพุทธเจ้า ทรงเมตตาอนุญาต ให้ ลูกหลานของพ่อใช้ได้

    ผลแห่งคาถาเงินล้านต้องเป็นจริงในชีวิตของเราทุกคนนะครับ

    เพราะสิ่งที่พวกเราทำ เป็นสิ่งที่ดียิ่ง ก็คือ การทำนุบำรุงให้พระพุทธศาสนา ให้อยู่ครบ ๕,๐๐๐ ปี

    งานนี้คงต้องเหนื่อยกันหน่อยนะ แต่ด้วยอานุภาพคาถาเงินล้าน จะทำให้พวกเราคล่องตัวกันได้อย่างแน่นอน



    ในวันงานบุญวันแม่ ณ เกาะพระฤาษี

    พระเดชพระคุณหลวงปู่สิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ท่านได้เมตตา เล่าให้ผมฟังว่า...

    หลวงพ่อเล็ก ท่านท่องคาถาเงินล้านวันละ ๓๐๐ จบ ท่านสร้างวัดสร้างโบสถ์ได้

    เห็นที กลับไปคราวนี้ ต้องทำอย่างหลวงพ่อเล็ก ท่านบางแล้ว

    สิ่งที่หลวงปู่สิงห์ ท่านเล่าให้ฟัง ก็เหมือน ท่านสอนผมเช่นกัน

    เราเองในฐานะลูกหลานของหลวงพ่อ เราก็ควรเดินตามรอยท่านเช่นกัน



    ดังจะเห็นว่า ใน ทริปกราบรอยพระพุทธบาทลำนารายณ์ วันที่ ๑๐ - ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ ที่จะถึงนี้

    พระเดชพระคุณครูบาวิฑูรย์ ท่านเมตตาคณะพวกเรามาก ร่วมเดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาทลำนารายณ์ ในครั้งนี้กับพวกเราด้วย ซึ่งเป็นสิริมงคลกับพวกเราทุกคนอย่างยิ่ง

    อีกทั้ง ในความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเล็ก ที่ท่านจะเมตตาอนุญาต และอุปถัมภ์ดูแลคุ้มครอง การเดินทางของคณะพวกเราอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งต่อชาวคณะ ที่ได้รับความกรุณาจากท่าน


    ส่วนตัวผมนั้น ปิติมากครับ ทุกทริปการเดินทางของพวกเรา อยู่ภายในสายตา ของพระอริยเจ้า ท่านเสมอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  14. คนบรรพต

    คนบรรพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +4,456

    ได้สอบถามทางอุทยาน ฯ แล้วครับท่านอนุญาตให้ทำความสะอาดพระพุทธรูปพระประธานได้ครับผม รวมทั้งอ่างน้ำมนต์ด้วยครับ ท่านยังได้อนุโมทนาด้วยกับสิ่งที่คณะพวกเราทำครับ พี่น้อยได้ฝากขอบพระคุณแทนหัวหน้าอุทธยานและพี่น้องชาวตาคลีด้วยครับ ที่คณะพวกเราได้นำสิ่งดี ๆ มามอบให้ครับ
     
  15. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    บันทึกการเดินทางกับภาพหายาก ทริปเล็กกับบุญใหญ่ (๒) งานวันแม่เกาะพระฤาษี

    [​IMG]
    พระอาจารย์ ณ งานวันแม่เกาะพระฤาษี ๑๒ ส.ค.๕๒


    ขออนุญาตเล่าบันทึกการเดินทางของชาวคณะฯ ประจำเดือนสิงหาคมให้เสร็จสิ้นนะคะ ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้ากันต่อกับทริปธรรมทัศนาจร (๖) ในเดือนกันยายนที่วาระเปิดรออยู่

    ชาวคณะพึ่งเสร็จสิ้นกับการเดินทางไปทริปธรรมทัศนาจร (๕) ย้อนรอยปากน้ำโพมาถึงกรุงเทพฯ เอากลางดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ ๙ ส.ค. มีเวลาทำงานกับพักกันได้ ๒ วัน ก็ถึงงานบุญใหญ่ที่เกาะพระฤาษี ซึ่งงานนี้อย่างที่ทุกท่านทราบแล้วว่าเป็นงานที่รวมพระสุปฎิปัณโณที่มากที่สุดงานหนึ่ง

    ล้อหมุนกันเวลา ๐๕.๐๐ น. ไปแวะรับหนึ่งกับน้องข้าวฟ่างที่ป้ายโดยสารรถประจำทางหน้าวัดเสมียนนารี ก่อนที่จะวิ่งออกกันไปทางบางเลน ไม่ย้อนกลับมาทางเส้นปิ่นเกล้า - นครชัยศรี คำนวณเวลาว่าจะต้องไปถึงวัดเกาะพระฤาษีเอาเวลาไม่เกิน ๙.๐๐ น. ก็ตรงตามที่ประมาณการไว้ทุกอย่าง

    ทริปนี้มีกัลยาณมิตรสายธรรมมาใหม่อีกหลายท่าน ก็เลยต้องมีการรับน้อง เอ้ย แนะนำตัวกันตามธรรมเนียม ชุดแรกคือ แก๊งค์สามสาวจอมอึด คือ น้องดาว น้องทิพย์ น้องอ้อย ที่หญิงต้องให้ฉายาพวกเธอว่าจอมอึด เพราะเธอพึ่งเดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ แล้วต้องนั่งรถต่อมา จ.กาญจนบุรี คิดดูซิว่า พลังบุญและความตั้งใจของพวกเธออึดแค่ไหน ชุดที่สองตามมาติด ๆ คือพี่หน่องกับพี่นก ๒ คนนี่สุดยอดในด้านมโนยิทธิ เพราะได้เห็นอะไรดีๆ จากตัวเธอก็ตอนแวะบ้านพี่เอื้อมนี่ล่ะ ชุดที่สาม ชุดนี้คนกันเอง คือชุดของน้องเตียงและน้องโยพร้อมพี่เกียงชุดนี้เคยร่วมบุญกันมาหลายครั้งก็เลยสบาย ๆ ชุดที่สี่คือน้องแบงค์และพี่เกี๊ยบ วาดภาพน้องแบงค์ผิดไปนิด คิดว่ายังใส่กางเกงขาสั้นที่ไหนได้เป็นหนุ่มน้อยรูปงานมาเลยเชียว และชุดสุดท้ายคือน้องเล็ก ที่ตอนนี้กำลังหนักหน่วงหัวใจกับขันธ์ ๒๐ ที่เพิ่มเข้ามา ๕๕๕

    ๐๙.๐๐ น.ไม่ขาดไม่เกิน ชาวคณะก็เดินทางถึงเกาะพระฤาษีตามที่ตั้งใจไว้ ลงจากรถได้ก็ไปกราบพระอาจารย์ ถวายปัจจัยที่คงเหลือจากทริปธรรมฯ (๕) รวมกับที่กัลยาณมิตรหลายท่านโอนบริจาคร่วมบุญผ่านทางหน้ากระทู้กับรวบรวมหน้างาน ยอดไม่มากไม่มายแต่เลขสวยดีจริง ๆ คือ ๖,๐๐๐ บาท จริง ๆ คือได้ ๕,๙๑๐ บาทแล้วหญิงปิดยอดอีก ๙๐ บาท เลยกลายเป็น ๖,๐๐๐ บาท (แหะ แหะ ดูตัวเลขดี ๆ นะคะ เพราะเลข ๖ กับเลข ๙ นี่ชาวคณะได้พูดกันมาตั้งแต่วันเดินทางกลับมาจากทริปธรรม (๕) เพราะได้เลขกันมาทุกคนก็บอกว่าจะซื้อแต่พอวันประกาศผล ไม่มีใครถูกสักราย เพราะไม่ได้ซื้อ ฮิ ฮิ ฮิ

    ช่วงระหว่างงานก็อย่างที่ทราบ แต่ละคนตักตวงบุญกันเต็มที วิ่งกราบครูบาอาจารย์แต่ละท่านไม่ได้หยุด จนได้เวลาสวดพระพุทธมนต์จึงได้สงบนิ่งกันสักพักจนเสร็จสิ้นพิธีการ ก่อนที่จะแตกฮือกระจายกันร่วมทำบุญเหมือนผึ้งแตกรังกันต่อ<table class="cf hr" align="center" cellpadding="0"><tbody><tr></tr><tr><td class="hw">
    </td></tr></tbody></table>เสร็จจากพิธีการทางสงฆ์ ชาวคณะก็ไปร่วมส่งกำลังใจถวายภัตตาหารเพล ก่อนที่จะร่วมกันทานอาหารกลางวันอันแสนอร่อย (ตรงนี้ต้องขอบคุณคณะของน้องซันที่ช่างจัดสรรอาหารมาได้เหมาะสมกับบรรยากาศดีแท้) หลังทานกันเสร็จพวกเราก็ไปร่วมกราบและร่วมชมของใช้ของหลวงพ่อฤาษีที่จัดตั้งอยู่ในเรือนไทยทรงกลม ก่อนที่จะไปกราบหลวงพี่สมปองที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของลูกศิษย์ลูกหาอยู่ใต้เรือนไทยหลังใกล้ ๆ กัน ระหว่างทางเดินก็ได้พบเห็นกับความเมตตาอย่างสูงของหลวงพ่อคำสิงห์ที่มีต่อพี่ ๆ ก่อนที่จะไปกราบลาพระอาจารย์และออกเดินทางต่อไปยังบ้านพี่เอื้อม

    เดินทางถึงบ้านพี่เอื้อมเอาเวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. ลงจากรถได้พี่เอื้อมรีบบอกว่า ทนดมกลิ่นขึ้หมูหน่อยนะ เพราะตอนนี้เธอกำลังเลี้ยงหมูแต่ไม่มีค่าอาหาร ชาวคณะเลยได้ช่วยกันรวบรวมเงินเป็นค่าอาหารหมูในบัดดล สถานที่ของบ้านพี่เอื้อมกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างกระท่อมสมุนไพร และเธอได้บอกกล่าวกับชาวคณะว่า หลังออกพรรษาเธอจะจัดพิธีครอบครู ใครสนใจขอให้คอยติดตามข่าวเพราะรับจำนวนจำกัด ได้เวลา ๑๓.๓๐ น. รีบลาจากเธอมาเพราะทราบดีว่าทางกรุงเทพฯ ได้จัดงานวันแม่แห่งชาติที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงและลานพระบรมรูปทรงม้ามีการปิดถนนหลายเส้นทาง หญิงให้เลี่ยงเส้นทางเข้ากรุงเทพฯ โดยกลับมาทางบางเลนเช่นเดิม เลี้ยวเข้าถนนกาญจนาภิเษก (ตะวันตก) ได้ก็ติดเป็นระยะ ๆ ก่อนที่จะแวะส่งน้องอ้ำเป็นรายแรกหน้าห้างมอลล์งามวงศ์วาน ส่งเตียง โยเป็นชุดที่สอง ก่อนที่จะส่งแก๊งค์สามสาวและอีกหลาย ๆ คนตามเส้นทาง ปิดท้ายมาลงที่จุดคืนรถเหลือ พี่กร น้องกอล์ฟ น้องเล็ก ศาล กฤศ หญิง ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เคลียร์เรื่องน้ำมันเสร็จก็พร้อมใจกันหน้าเดินไปร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนั่งทานกันอย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ทริปนี้ก็เป็นอันจบสิ้นทั้งอิ่มบุญ อิ่มท้อง และอิ่มใจเหมือนเช่นเคยค่ะ


    เกร็ดเล็ก ๆ จากพระอาจารย์กับพระสุปฎิปัณโณ

    [​IMG]
    ๑. พระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่

    พี่สิงห์เป็นพระที่เย็นมาก ในบรรดาพระพี่พระน้องด้วยกัน ท่านเป็นพระที่อาตมาให้ความเคารพนับถือและเกรงใจมากที่สุด


    [​IMG]
    ๒. พระครูไพโรจน์ภัทรคุณ วัดสระพัง



    [​IMG]
    ๓. พระครูวิธานธรรมนาถ วัดทุ่งกระพังโหม

    รายนี้ท่านจะมีเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติมาสอบถามอยู่ เสมอ ๆ โดยเฉพาะในส่วนของทิพจักขุญาณ ตลอดจนเรื่องการรู้เห็นต่าง ๆ เพราะเวลาท่านเห็น ท่านแยกไม่ออกว่า มันเป็นทิพจักขุญาณหรือว่าเป็นนิมิต เพราะฉะนั้นเท่ากับว่าท่านเองมาเปิดเผยความลับของตัวเองให้ฟัง อาตมาก็เลยนิมนต์ท่านมาด้วยกัน

    [​IMG]
    [​IMG]
    . พระปลัดวิรัช โอภาโส สำนักสงฆ์ธรรมยาน

    หลวงพ่อวิรัชอยู่กับหลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง หลังจากที่หลวงพ่อพระมหาสิงห์ออกไปแล้ว ๒ ปี พี่วิรัชบวชปี ๒๕๒๔ แต่เดิมทำงานอยู่อเมริกา ได้ American citizen

    บวชเข้ามาเป็นพระที่น้อง ๆ อิจฉามาก ทุกเดือนถึงเวลาก็ขออนุญาตลาหลวงพ่อ ไปรับเงินจากสถานทูตอเมริกา ๕๐๐ เหรียญ เพราะเขาถือว่าการบวชเป็นการตกงาน เป็นการช่วยเหลือของทางรัฐบาลเขา ๕๐๐ เหรียญ แลกเป็นเงินไทยแล้วมันได้เยอะ พี่ท่านก็เลยอู้ฟู่อยู่คนเดียว

    พี่วิรัชเป็นพระที่น่ารักมาก ไม่เคยมีความดีของตัวเองเล่าให้ใครฟังเลย เล่าแต่เรื่องเฉิ่ม ๆ ของตัวเองให้ฟัง พี่ ๆ น้อง ๆ นั่งหัวเราะท้องคัดท้องแข็งทุกครั้ง และเป็นพระรูปเดียวที่อ้อนหลวงพ่อวัดท่าซุงได้ ถ้าคนอื่นอ้อน....ไม่ใช่ไม้เท้าหรืออะไรใกล้ ๆ ก็จะโดนผางเข้าให้ มีพี่วิรัชคนเดียวจริง ๆ ที่ได้รับสิทธิพิเศษตรงนี้ แต่พี่ท่านไม่ได้อ้อนสารพัดเรื่องหรอก บางเรื่องที่เราไม่แน่ใจในชะตากรรมของตัวเองจะให้พี่วิรัชออกหน้าเสมอ เหมือนกับพี่เขาได้ประทานพรพิเศษมาอย่างนั้น เพราะว่าท่านจะสามารถเข้าไปค่อย ๆ ชี้แจงได้ สำหรับพวกเราถ้าเข้าไปพูดยาวแล้วจะโดน เพราะฉะนั้นความดีของพี่วิรัชที่เราเห็นก็คือ ท่านไม่มีความดีเลย เพราะท่านไม่เคยเล่าความดีให้ใครฟัง พี่วิรัชเล่าแต่เรื่องเฉิ่ม ๆ ของตัวเองให้ฟังตลอด

    เรื่องตลกบางเรื่องเราก็นึกไม่ถึง ท่านเคยโดนพวกนิโกรจี้ เมื่อตอนอยู่นิวยอร์ก รู้อยู่ว่ามันดงคนดำ พวกนิโกรก็มาจี้เอาเงินหมดตัว พี่เขาก็โกรธ ก็เลยไปสมัครเข้าคอร์สเรียนยูโด จะไปเล่นงานมัน พอเรียนจบก็ปรากฏว่าได้เรื่อง ไปให้นิโกรมันจี้อีกรอบหนึ่ง เวลาสู้หลวงพี่วิรัชก็ปัดมือตามหลักวิชาการ หมุนตัวเข้าวงใน กระชากแขนมาแล้วทุ่มด้วยไหล่ พอกระชากพรวด....เฉย พรวดที่สอง....เฉย หันไปดูอีกทีปรากฏว่ามันสูงกว่าพี่เขาประมาณศอกครึ่ง พี่เขาก็เลยปล่อยแขนวิ่งหนีดีกว่า ตัวมันใหญ่เกิน ดึงไม่ไหว นี่คือเรื่องที่พี่เขาเล่าให้ฟัง เล่าทีไร พระน้อง ๆ หัวเราะกันดิ้นอยู่ตรงนั้น

    [​IMG]
    [​IMG]
    . พระอธิการปิยพงศ์ กิตฺติญาโณ วัดเขาตะเภาทอง

    ท่านเป็นพระที่หลวงพ่อไพโรจน์ วัดสระพัง ให้ความเคารพเป็นอย่างมาก มีงานอะไรก็จะไปปรึกษาหารือด้วยเสมอ เพราะว่าท่านฝึกมโนมยิทธิมาจากวัดท่าซุง แล้วสามารถใช้ได้อย่างคล่องตัวมาก ๆ ญาติโยมทั้งหลายที่มาถามเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วกลัวอาตมาจะด่า ให้ไปถามหลวงพ่อปิยะพงศ์ได้


    [​IMG]
    [​IMG]
    . พระครูวิริยกาญจนาภรณ์ วัดลำทหาร (หลวงพ่อชาลี)


    [​IMG]
    ๗. พระครูบวรกาญจนธรรม วัดตะเคียนงาม (หลวงพ่อสมคิด)


    [​IMG] [​IMG]
    . พระสมุห์ปรินทร์ ธมฺมสรโณ วัดเขาแร่ (หลวงพี่เอก)

    รายนี้บวชปุ๊บไม่ต้องเล่นหนังก็เป็นพระเอกได้ จริง ๆ แล้วหลวงพี่เอกท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน จังหวัดอยุธยา แต่ว่าพระปฏิบัติพอทำไปถึงระดับหนึ่ง จะรู้ว่าใครมีความดีหรือไม่ดีอย่างไร หลวงพี่เอกก็เลยให้ความเคารพหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นสรณะอีกอย่างหนึ่ง

    ท่านเป็นพระที่พูดตรง ทำอะไรจริงจังมาก เพราะฉะนั้นใครคิดว่าตัวเองทนคำด่าได้ ควรจะแวะไปกราบหลวงพี่เอกท่านบ้าง เผื่อจะได้อะไรขึ้นมาแล้วหูตาสว่างขึ้น


    [​IMG]
    ๙. พระครูประทีปกาญจนธรรม วัดพุน้ำร้อน (หลวงพ่อเต้)

    [​IMG]
    [​IMG]
    ๐. พระใบฎีกาสายชล จิตฺตกาโร วัดไร่แตงทอง

    ท่านนี้ลูกศิษย์หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่หลิว รายนี้ปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่งแล้ว เกิดญาณ คือ เครื่องรู้ขึ้นมาว่า ถ้าตัดตรงนี้ก็ไปเลย น่าสนใจนะ แต่แล้วก็มีญาณบอกว่า งานเดิมของท่านยังมีอยู่นะ แหม มันน่านัก รายงานเรื่องเดียวไม่ได้ ดันรายงานสองเรื่อง ท้ายสุดท่านก็เลยดูว่างานของท่านคืออะไร ปรากฏว่าจะต้องไปเกิดอีกเพื่อนำพาบริวารของตนเอง ก็เลยตัดสินใจว่าอยู่ต่อดีกว่า เป็นที่น่าเสียดายสำหรับอาตมา แต่ขณะเดียวกันก็เป็นที่น่าดีใจของญาติโยม

    วันนี้เราจะเห็นหน้าพระโพธิสัตว์ใหญ่ หลวงพ่อสายชลสร้างหลวงปู่หลิวขี่เต่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้คนเดินลอดท้องอยู่ทุกวัน ท่านบอกสร้างหลวงปู่หลิวไม่เท่าไหร่หรอก อาคาร ๒๐ กว่าล้านจนป่านนี้ยังไม่เสร็จ


    [​IMG]
    [​IMG]
    ๑. พระอธิการวันชาติ วํสธมฺโม วัดป่าพระพุทธบาทเขาน้อย

    อาจารย์ชาติ วัดพระพุทธบาทเขาน้อย พี่ชายของท่านก็คือ หลวงพ่อประยุทธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขาน้อย สมัยก่อนไปวัดท่าซุงเป็นประจำ รู้จักมักคุ้นตั้งแต่อาตมายังไม่ได้บวชพระ ท่านเป็นรุ่นพี่ที่อาวุโสกว่ามาก คือ ๑๐ พรรษา แต่ว่าน่าเสียดาย ท่านหมดภารกิจ มรณภาพไปแล้ว

    พระน้องชายก็คือ พระอาจารย์วันชาติ ซึ่งเป็นครู ลาออกจากโรงเรียนมาบวชพระเพื่อสืบทอดปฏิปทาของพี่ชาย และเป็นลูกศิษย์ที่หลวงพ่อปิยพงศ์ วัดเขาตะเภาทอง ให้ความเชื่อถือมาก

    [​IMG]
    [​IMG]
    ๒. ครูบาเหนือชัย โฆสิโต สำนักสงฆ์วัดถ้ำป่าอาชาทอง

    ถ้าบอกชื่อครูบาเหนือชัย บางท่านก็ไม่ค่อยทราบ ต้องบอกว่าพระขี่ม้า ท่านเป็นรุ่นน้องหลายพรรษาแต่ว่าทำงานเยอะกว่าอาตมามาก ต้องรับผิดชอบภารกิจตามแนวชายแดนไปตลอด เพราะว่าศาสนาอื่นบางศาสนาเผยแผ่ศาสนาด้วยการเบียดเบียนศาสนาพุทธ

    ครูบาเหนือชัยเมื่อบวชก็ไปทุ่มเทให้กับการช่วยเหลือคน ตลอดจนกระทั่งการคณะสงฆ์ในเขตชายแดน สมเด็จย่าจึงได้ฝากภาระพุทธศาสนาให้ไว้กับครูบาเหนือชัยท่าน อันนี้ก็มาสายพระโพธิสัตว์เหมือนกัน

    [​IMG]
    [​IMG]
    ๓. พระอธิการอุดม ปทุโม วัดป่าผาตาดธารสวรรค์ (หลวงพ่ออุดม)

    ถ้าหากโยมเดินทะลุเกาะพระฤๅษีตรงนี้ไป จะไปที่วัดของท่านเลย อย่าหลงทางเสียก่อนนะ แต่วันนี้ท่านจะมารถ ไม่ยอมเดินป่าทะลุมา กลัวพวกเราจะตกใจ

    หลวงพ่ออุดมเป็นพระปฏิบัติสายหลวงพ่อสนอง รู้จักกันมาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่เห็นมาก็คือ ความสม่ำเสมอ ความรักในศีล สมาธิ ปัญญา ท่านจึงเป็นพระที่อาตมาให้ความเคารพมาก วันนี้ท่านบอกว่าท่านจะพาเพื่อนมาด้วยรูปหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นเสือซุ่มมาหรือเปล่า เดี๋ยวเราต้องมาดูกัน


    [​IMG]
    ๑๔. พระอาจารย์สมปอง สุธมฺมสนฺตจิตฺโต อาศรมบ้านสบายใจ

    รายสุดท้ายเรียกล่วงหน้าไว้ก่อน คือ ท่านพระครูปลัดสมปอง สุธมฺมสนฺตจิตฺโต อาศรมบ้านสบายใจ แปะอยู่ข้างวัดท่าซุง ท่านเป็นมหาเศรษฐีอยู่เห็น ๆ แต่ตัดใจไม่เอา ไปบวชเสียก่อน คำว่าเป็นมหาเศรษฐีอยู่เห็น ๆ ก็คือ ท่านไปพบถ้ำที่มีมรกตเยอะจนนับไม่ถูก อุตส่าห์นำออกมาเพื่อเป็นหลักฐานก้อนหนึ่ง น้ำหนักก็ไม่มากประมาณ ๒,๐๐๐ กะรัต ไปถามราคาเขาให้กะรัตละ ๘๐,๐๐๐ ก็เลยหมดอารมณ์ ท่านก็เลยถวายไปในการร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมในปี ๒๕๓๒ อาตมาเองตามไปที่ถ้ำนั้น อยากได้ก้อนที่อยู่กลางถ้ำ มันสูงเลยหัวอาตมาไปเกือบเท่าตัว ที่อยากได้ไม่ใช่อะไรหรอก อยากเอามาแกะพระ แต่ขออภัยแบกไม่ไหว ก็เลยต้องปล่อยอยู่ที่เดิม

    ท่านอาจารย์สมปองของเรานี่อยู่ในกลุ่ม ๕ เกลอหัวแข็งของวัดท่าซุง ที่สมัยก่อนเขาขึ้นบัญชีไว้ เพราะสร้างความลำบากให้แก่พี่น้องมาก ตัวเองทำตามระเบียบ คนอื่นไม่ทำก็ไม่ได้ ก็เลยต้องเหนื่อยตามเรา ถึงเวลาก็บ้าพอกัน

    [​IMG]
    [​IMG]
    ๕. ครูบาสง่า สนฺตจิตฺโต วัดพระธาตุดอยกวางคำ

    น้องชายอาตมาเอง ท่านเป็นลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ส่งให้ไปดูแลวัดพระธาตุดอยกวางคำอยู่ ต้องบอกว่าถ้าเป็นขุนพลเข้มแข็งก็ไม่มีทหารอ่อนแอ ดังนั้นครูบาสง่าท่านไปอยู่ ก็ได้ทำการพัฒนาวัดพระธาตุดอยกวางคำ จนกระทั่งเจริญรุ่งเรือง มีถาวรวัตถุขึ้นมาสมหน้าสมตา สมกับเป็นลูกศิษย์ของครูบาไชยวงศ์ท่าน


    [​IMG]
    ๑๖. ครูบาวิฑูรย์ ชินวโร วัดไชยมงคล(วังมุย)

    ลูกศิษย์หลวงพ่อเก่า ๆ จะรู้ดีว่าวัดวังมุยเป็นอย่างไร เพราะสมัยนั้นมีหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก ซึ่งเป็นผู้เดียวที่หลวงพ่อวัดท่าซุงให้การยอมรับว่ามีความคล่องตัวในนิโรธ สมาบัติ อย่างไม่เคยได้ยินว่ามีใครทำได้มาก่อน เพราะว่าหลวงปู่ชุ่ม เข้านิโรธสมาบัติได้ทั้ง ๔ อิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอนได้หมด ปกตินิโรธสมาบัติเข้ากันเต็มที่ก็ ๒ อิริยาบถ คือ นั่งกับนอน ที่เข้าอิริยาบถยืนก็มีน้อย เนื่องจากนิโรธสมาบัตินั้น ดับสัญญาและเวทนาทั้งปวง แต่หลวงปู่ชุ่มท่านสามารถบังคับให้เดินได้ เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากสำหรับอาตมา

    ครูบาวิฑูรย์แม้ว่าจะไม่ทันหลวงปู่ชุ่ม แต่ท่านมีวิสัยของนักปฏิบัติตั้งแต่เล็ก ๆ เลย ขณะที่เพื่อน ๆ วิ่งเล่นกัน ครูบาท่านนั่งสมาธิอย่างเดียว เรียกง่าย ๆ ว่าของเก่าตามมา ท้ายสุดก็บวชเณรแล้วก็เป็นพระ ตั้งแต่บวชพระมาท่านจะเข้านิโรธกรรมตามความนิยมของพระทางภาคเหนือ คือถ้ามีกำลังเพียงพอ ก็จะเข้าตามสายของหลวงปู่ครูบาศรีวิชัยเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมครั้งละ ๗ วัน งวดนี้ท่านจะออกนิโรธกรรมวันที่ ๒๖ กันยายน อาตมาจะเป็นผู้ที่ไปนำท่านออกจากที่ปฏิบัติ





     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2009
  16. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๖) กราบพระอริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำโพ (๒) วันที่ ๕-๖ ก.ย ๕๒

    [​IMG]
    หลวงปู่เปลื้อง อายุ ๑๐๗ ปี วัดลาดยาว


    [​IMG] ทริปธรรมทัศนาจร (๖) ย้อนรอยปากน้ำโพกราบพระอริยสงฆ์-สรีระพระอริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำโพ ,หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) , ร่วมปฎิบัติธรรม-ทาสีองค์พระ ณ ถ้ำพระเขาชอนเดื่อ (อุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทอง) จ.สระบุรี , จ.นครสวรรค์ี วันที่ ๕-๖ ก.ย.๕๒ (รวม ๒ วัน ๑ คืน)



    กำหนดการเดินทาง โดยรถตู้ปรับอากาศ TOYOTA COMMUTER จำนวน ๑ คัน (๑๕ ที่นั่ง)

    วันเสาร์์ ที่ ๕ ก.ย. ๕๒ (วัดเขาวง ,อุทยานแห่งชาติถ้ำเพชร-ถ้ำทอง จ.สระบุรี ,จ.นครสวรรค์)
    ๐๕.๑๕ น. จุดนัดพบปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า

    ๐๕.๓๐ น. ล้อหมุน บริการอาหารว่าง (๑) บนรถ

    ๐๗.๓๐ น. เดินทางถึงวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)
    - ร่วมกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมความงดงามของถ้ำเขาวง ก่อนเข้ารับฟังธรรมจากหลวงตา

    ๑๐.๐๐ น. ออกเดินทางต่อไปยังอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง (เขาชอนเดื่อ)
    - บริการอาหารกลางวัน (๒)
    - ร่วมทาสีองค์พระ และทำความสะอาดถ้ำพระเขาชอนเดื่อ
    - ชมความงดงามของหมู่ถ้ำในบริเวณอุทยาน (๑)

    ๑๘.๐๐ น. บริการอาหารเย็น (๓)
    - ร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็น ก่อนพักผ่อนตามอัธยาศัยภายในถ้ำพระ



    วันอาทิตย์ี่ ที่ ๖ ก.ย.๕๒ (กราบพระอริยสงฆ์ ,สรีระพระอริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำโพ จ.นครสวรรค์ )
    ๐๔.๓๐ น. ตื่นทำธุระส่วนตัว

    ๐๕.๐๐ น. ร่วมสวดมนต์ทำวัตรเช้า
    - บริการอาหารเช้า (๔)
    - ร่วมชมความงดงามของหมู่ถ้ำในบริเวณอุทยาน (๒)

    ๐๙.๓๐ น. ออกเดินทางเข้าสู่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์
    - ร่วมกราบสรีระหลวงพ่อทอง วัดวรนาถบรรพต (เขากบ)
    - หลวงพ่อทองดี วัดไทรเหนือ
    - หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร
    - หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ
    - พระจุฬามณีเจดีย์ ณ เขาดาวดึงส์ วัดคีรีวงศ์
    - บริการอาหารกลางวัน (๕)
    - ร่วมกราบหลวงปู่เปลื้อง

    ๑๗.๐๐ น. บริการอาหารเย็น (๖) ที่ จ.อยุธยาี

    ๑๙.๐๐ น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ



    ประมาณการค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ ๑,๓๐๐ บาท
    (ไม่พอเก็บเพิ่ม เงินเหลือทำบุญ) โดยมีรายละเอียดของค่าใช้จ่าย ดังนี้
    - ค่าใช้จ่ายหลัก ได้แก่ ค่าเช่ารถ ,ค่าน้ำมัน ,ค่าทางด่วน ,ค่าอาหารและน้ำดื่มของชาวคณะ ,ค่าบำรุงอุทยาน ,ค่าประกันอุบัติเหตุหมู่

    - ค่าใช้จ่ายงานบุญ ได้แก่ ค่าสังฆทานวัดเขาวง ,ปัจจัยถวายหลวงตาวัชรชัย ,หลวงปู่เปลื้อง ,ทำบุญตามวัดต่าง ๆ ,ค่าสีทาองค์พระและเครื่องบูชา อาทิ แจกัน ,กระถางธูป ,ผ้าทิพย์ ,ดอกไม้พุ่มเงิน-ทอง , ดอกบัว ,อ่างน้ำมนต์ ฯลฯ


    ท่าน ที่ประสงค์จะร่วมเดินทางกรุณาโอนเงินค่าพาหนะเดินทางตามจำนวนที่กำหนด ข้างต้นเข้าบัญชีตามข้างล่างนี้ และมาโพสต์แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้และจำนวนเงินที่โอนให้ทราบด้วยค่ะ

    ชื่อบัญชี ณญาดา ศราภัยวานิช
    ธนาคาร
    กรุงไทย ประเภทออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี
    ๑๒๑-๐-๑๐๕๔๕-๔โทรศัพท์ ๐๘๑-๗๓๕-๙๒๖๑



    ทริปธรรมทัศนาจร (๖) ปิดรับจองที่นั่งรถและโอนเงินในวันจันทร์ที่ ๓๑ ส.ค. ๕๒ เวลา ๑๘.๐๐ น. หรือจนกว่าที่นั่งจะเต็ม

    ท่านที่โอนเงินแล้วต่อมาประสงค์จะยกเลิกการเดินทาง ขอให้แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย ๕ วัน ก่อนวันที่เดินทาง หากไม่แจ้งภายในกำหนดดังกล่าว ผู้จัดขอสงวนสิทธิที่จะไม่คืนเงินค่าเดินทางให้ หากปรากฏว่าการยกเลิกล่าช้าของท่านทำให้ตัดสิทธิของบุคคลอื่นและก่อให้เกิด ความเสียหายต่อผู้จัด

    ในการโอนเงินคืนจะมีค่าธรรมเนียมการโอน ๒๕ บาท ซึ่งจะหักจากยอดเงินค่าเดินทางของท่าน หากมีเงินเหลือหลังจากชำระค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ผู้จัดขออนุญาตนำเงินที่เหลือทั้งหมดเข้าร่วมบุญต่าง ๆ ของชาวคณะบึงลับแลต่อไป

    สำหรับสมาชิกที่โอนชำระเงินแล้วทุกท่าน กรุณาแจ้งชื่อ-สกุล พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ไปที่ี่ PM หญิงภายในวันที่ ๑ ก.ย. เพื่อที่จะได้รวบรวมรายชื่อสำหรับการทำประกันอุบัติเหตุ ยกเว้น สมาชิกเก่า



    หมายเหตุ
    - ทริปนี้การเดินทางของชาวคณะ นอกจากไปร่วมกราบพระอริยสงฆ์ ในวันแรกยังมีการร่วมกันบูรณะทาสีองค์พระภายในถ้ำพระเขาชอนเดื่อก่อนที่จะไป ร่วมเดินชมความงดงามของหินงอกหินย้อยของหมู่ถ้ำภายในอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง เพราะฉะนั้นชุดและรองเท้าที่สวมใส่ต้องคล่องตัวทั้งการทำงานและการเดินถ้ำ

    - อุปกรณ์ที่ต้องนำติดตัวไปคือ ไฟฉายพร้อมแบตเตอรี่สำรอง ๒-๓ ชุด ลูกอม หมากฝรั่ง ยาดม ผ้าเช็ดหน้า


    he llo _car รายชื่อกัลยาณมิตรที่แจ้งความประสงค์ร่วมเดินทาง
    ๑. คุณ ญ.ผู้หญิง จ่ายแล้ว ลว. ๒๔/๐๘/๕๒
    ๒. คุณคนบรรพต
    จ่ายแล้ว ลว. ๒๔/๐๘/๕๒*
    ๓. คุณ Teetab
    ๔. คุณ cabin
    ๕. คุณ ug_buddha
    จ่ายแล้ว ลว. ๒๔/๐๘/๕๒
    ๖. คุณกาลกตา
    ๗. คุณลักษณาวลัย
    ๘. คุณไอช์
    ๙. คุณพรหมประกาศิต
    ๑๐. คุณ mang12
    ๑๑. คุณจิม
    ๑๒. คุณเอ
    ๑๓. คุณบุตรสา
    ขอถอนตัว ลว.๒๔/๐๘/๕๒ เนื่องจากงานเข้า
    ๑๔. คุณนู๋เจี๊ยบ

    ๑๕.



    รายชื่อกัลยาณมิตรที่บริจาคเงินร่วมทำบุญในทริปธรรม (๖)
    ๑. คุณสาทิตา จำนวน ๑๐๐ บาท

    รวมยอดเงินบริจาคร่วมทำบุญ ณ วันที่ ๒๔ ส.ค. รวม ๑๐๐ บาท



    ภาพประกอบ

    [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG][​IMG]

    <!-- google_ad_section_end -->

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2009
  17. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปเล็กกับบุญใหญ่ (๓) งานออกนิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์ วัดไชยมงคล (วังมุย) วันที่ ๒๖ ก.ย.๕๒

    [​IMG]
    ครูบาวิฑูรย์ ชินวโร วัดไชยมงคล (วังมุย)

    [​IMG]ทริปเล็กกับบุญใหญ่ (๓) งานออกนิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์ วัดไชยมงคล (วังมุย) อ.เมือง จ.ลำพูน วันที่่ ๒๕-๒๗ ก.ย.๕๒ (รวม ๓ วัน ๒ คืน)



    การเดินทาง โดยรถตู้ปรับอากาศ TOYOTA COMMUTER VIP ๑๐ ที่นั่ง

    วันศุกร์ ที่ ๒๕ ก.ย. ๕๒
    ๑๘.๕๐ น. จุดนัดพบปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า

    ๑๙.๐๐ น. ล้อหมุน บริการเครื่องดื่ม-อาหารว่าง (๑) บนรถ



    วันเสาร์ ที่ ๒๖ ก.ย. ๕๒

    ๐๕.๐๐ น. เดินทางถึงวัดไชยมงคล (วังมุย) ทำธุระส่วนตัว

    ๐๗.๐๐ น. ครูบาวิฑูรย์อธิษฐานจิตออกนิโรธกรรมจากสถานปฎิบัติธรรม ไปวัดไชยมงคล (วังมุย)

    ๐๙.๐๐ น. ถวายพานพุ่มสักการะครูบาเจ้าศรีวิชัย และครูบาชุ่ม โพธิโก ต่อจากนั้น ครูบาวิฑูรย์ให้ศีลให้พรแก่ศรัทธาญาติโยมที่มาร่วมทำบุญตักบาตร

    ๑๐.๐๐ น. พระเถรานุเถระที่ได้รับนิมนต์ โปรดเมตตาเจริญพุทธมนต์สืบชะตาหลวงแบบล้านนาและรับเครื่องไทยทาน

    ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณร

    ๑๒.๐๐ น. เชิญศรัทธาญาติโยมร่วมรับประทานอาหารเจ โดยพร้อมเพรียงกัน
    เป็นอันเสร็จพิธีทางด้านพระพุทธศาสนาและประเพณีล้านนา

    ๑๓. ๐๐ น. ร่วมกราบลาครูบาวิฑูรย์ ออกเดินทางต่อไปวัดเขาแร่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ระหว่างเดินทางแวะกราบพระอริยสงฆ์และกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ ต่าง ๆ อาทิ
    - วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
    - วัดจามเทวี
    - วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    - วัดพระธาตุ ๕ ดวง ฯลฯ
    - ทานอาหารเย็น (ตามอัธยาศัย)

    ๑๙.๐๐ น. เดินทางถึงวัดเขาแร่ กราบหลวงพี่เอก ก่อนเข้าที่พัก



    วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ก.ย. ๕๒
    ๐๕.๐๐ น. ตื่นร่วมสวดมนต์ทำวัตรเช้า

    ๐๗.๐๐ น. กราบลาหลวงพี่เอก แวะกราบพระอริยสงฆ์และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามเส้นทาง

    ๑๓.๓๐ น. เดินทางถึงวัดท่าซุง ร่วมพิธีสวดมาติกาถวายกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ

    ๒๐.๐๐ น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ



    ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่านละ ๑,๕๐๐ บาท

    ท่าน ที่ประสงค์จะร่วมเดินทางกรุณาโอนเงินค่าพาหนะเดินทางตามจำนวนที่กำหนด ข้างต้นเข้าบัญชีตามข้างล่างนี้ และมาโพสต์แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้และจำนวนเงินที่โอนให้ทราบด้วยค่ะ

    ชื่อบัญชี ณญาดา ศราภัยวานิช
    ธนาคาร
    กรุงไทย ประเภทออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี
    ๑๒๑-๐-๑๐๕๔๕-๔โทรศัพท์ ๐๘๑-๗๓๕-๙๒๖๑



    ทริปเล็กกับบุญใหญ่ (๓) ปิดรับจองที่นั่งรถและโอนเงินในวันจันทร์ที่ ๒๐ ก.ย. ๕๒ เวลา ๑๘.๐๐ น. หรือ จนกว่าที่นั่งจะเต็ม เนื่องจากจัดเป็นรถตู้ เมื่อมีผู้ลงชื่อและชำระเงินครบ ๑๐ คน/คัน ก็จะปิดรับจอง แต่หากมีผู้ลงชื่อจองเพิ่มจะรอให้ครบ ๑๐ คน ก่อนจึงจะจัดรถคันใหม่ให้

    ท่านที่โอนเงินแล้วต่อมาประสงค์จะยกเลิกการเดินทาง ขอให้แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย ๕ วัน ก่อนวันที่เดินทาง หากไม่แจ้งภายในกำหนดดังกล่าว ผู้จัดขอสงวนสิทธิที่จะไม่คืนเงินค่าเดินทางให้ หากปรากฏว่าการยกเลิกล่าช้าของท่านทำให้ตัดสิทธิของบุคคลอื่นและก่อให้เกิด ความเสียหายต่อผู้จัด

    ในการโอนเงินคืนจะมีค่าธรรมเนียมการโอน ๒๕ บาท ซึ่งจะหักจากยอดเงินค่าเดินทางของท่าน หากมีเงินเหลือหลังจากชำระค่าบริการเช่ารถแล้ว ผู้จัดขออนุญาตนำเงินที่เหลือทั้งหมดเข้าร่วมบุญต่าง ๆ ของชาวคณะบึงลับแลต่อไป


    he llo _car รายชื่อกัลยาณมิตรที่แจ้งความประสงค์ร่วมเดินทาง
    ๑. คุณ ญ.ผู้หญิง
    ๒. คุณ Teetab
    ๓. คุณ LittleNon
    ๔. คุณ i-Anne
    ๕. คุณกาลกตา
    ๖. คุณ cabin
    ๗. คุณฺ boby
    ๘. คุณวรุณบุตร
    ๙. คุณยุทธพงษ์
    ๑๐. คุณยุทธพงษ์
    ๑๑. คุณคนบรรพต



    ประมวลภาพงานเข้า-ออกนิโรธปีต่าง ๆ ที่ผ่านมา

    [​IMG] [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2009
  18. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    แจ้งให้ชาวคณะทราบนะครับ
    วันก่อนได้คุยกับศาลไว้ว่าผมอาจจะไปร่วมงานบวงสรวงในวันอาทิตย์นี้อะครับ(จริง ๆ วันเสาร์ไม่มีพิธีบวงสรวงแต่ท่านพระครูยุคลธรก็อยู่ที่บ้าตลิ่งชันด้วยนะครับเพื่อรับญาติโยมที่มาทำบุญ) ถ้าท่านใดสนใจไปเจอกันที่บ้านตลิ่งชันได้เลยนะครับ เนื่องจากผมไปเป็นผู้นำบุญชวนคนที่บ้านทำบุญสร้างองค์พระสมเด็จองค์ปฐมทองคำได้จำนวนหนึ่ง จึงคิดว่าจะรีบไปทำก่อนที่จะปิดกองบุญนี้ครับ ส่วนองค์พระสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่รุ่นสิ้นภพสิ้นชาติ ตั้งใจว่าจะทำกองบุญนี้เหมือนกันแต่รู้อีกครั้งหล่อเสร็จแล้วน่าเสียดายเหมือนกันครับ วันที่พุทธาภิเษกหล่อองค์พระสมเด็จองค์ปฐมวันที่ 7 พ.ย. 52 ถ้าไม่ติดทางโลกหรือติดงานใด ๆ ผมอาจจะไปร่วมพิธีด้วยอะครับโมทนาบุญกันทุกท่านครับ :)
     
  19. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    เอ...พี่หญิงครับแล้วหลวงปู่ฤาษีตาไฟ ไม่ได้ไปกราบท่านหรือขอครับ
     
  20. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    มีเร็ว ๆ นี้ค่ะ แต่ไม่ใช่วาระในทริปนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...