ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ขออนุโมทนากับคุณMe, myself และคุณอ้อยด้วยครับ
    ที่ได้เล่าประสบการณ์ให้พวกเราฟัง
    เป็นตัวอย่างและข้อเตือนใจที่ดีมาก ๆ
    ผมเคยอ่านเรื่องแบบนี้จากคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง
    ก็จำมาปฏิบัติตลอดตั้งแต่นั้น
    ยิ่งมาได้อ่านประสบการณ์ทั้งจากคุณMe, myself และคุณอ้อย
    ซึ่งตรงกับคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีทุกอย่าง
     
  2. assume

    assume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,931
    เอาบุญมาฝากครับวันนี้ได้โอนเงินร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรม และสร้างสมเด็จองค์ปฐมครับ

    ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านครับ
     
  3. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    ขอฉายซ้ำอีกที พอดีเข้ากับสถานการณ์

    ถาม : คำว่า นิพพาน นึกถึงพระพุทธเจ้า

    ตอบ: เอาแค่นั้นล่ะจ้ะ ตั้งใจว่านั่นคือพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่อยู่ที่ไหน นอกจากบนพระนิพพาน เราเห็นท่านคืออยู่กับท่าน เราอยู่กับท่านคือเราอยู่บนนิพพาน เอาแค่นั้นพอ คิดว่าเราตาย เราก็ขอไปอยู่กับท่านตรงนั้น ถึงไม่เห็นเลยก็ไม่เป็นไร ให้มั่นใจว่านิพพานอยู่ที่ไหน เราจะไปที่นั่นก็ใช้ได้เหมือนกัน

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)

    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    หลวงพ่อฯสอนว่าให้นึกถึงความตายไว้ตลอดเวลา ตายแล้วจิตออกจากร่างไปนิพพานทันที
    ให้นึกแบบนี้ไว้เช้า สาย บ่าย เย็น หรือตอนไหนนึกได้ก็ว่าเลยครับ เป็นมรณานุสสติ
    นึกถึงพระพุทธเจ้า ก็เป็นพุทธนุสติ ได้สองอย่างพร้อมกันเลย ไม่จำเป็นต้องเห็นจริงหรอกนะครับ นึกเอาก็ใช้ได้ ผมเองก็ไม่ได้ฝึกมโนฯก็นึกเอา
     
  4. para007

    para007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +317
    ขอขอบคุณอาจารย์ทั้งสองที่นำเรื่องที่ดีๆมาฝาก ผมเองก็เคยเสียพี่ชายไปแบบน่าสงสารมากคือแกเสียคนเดียวไนห้อว i c u หมอไม่ไห้เฝ้ากลางคืนแกก็เลยเสียโดยไม่มีไครนำทางไห้แก ก็ได้แต่หวังว่าแกคงได้ไปที่สูงๆนะครับ อย่างที่อาจารย์ว่านะครับต้องพื่งตนเองดีที่สุดครัย ตอนนี้ผมรู้สึกว่าก้าวหน้าไปได้นิดหนึ่งเริ่มเห็นแสงแล้ว เมิ่อก่อนดำมิดเลย
     
  5. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงกับคุณ Me, myself ที่นำประสบการณ์
    ที่เป็นประโยชน์มาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องจริงที่หาโอกาสรับรู้รับทราบได้ยาก
    เพราะคนที่รู้แบบนี้คงมีไม่น้อยแต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะมาเล่าให้ฟังกัน
    รื่องนี้มีจุดสำคัญประการหนึ่งคืออารมณ์จิตก่อนตาย
    เมื่อคนตายคิดถึงอะไรจิตวิญญาณก็จะไปตามที่เขานึกถึง

    ถ้านึกถึงบุญทีทำไว้ก็จะไปสวรรค์ ถ้านึกถึงบาปก็ไปอบายภูมิ
    คุณแม่ท่านโชคดีที่นึกถึงคุณ Me, myself ซึ่งสามารรถสัมผัสรับรู้และ
    มีโอกาสได้ช่วยเหลือ ถ้าไปนึกถึงบาปหรือคนอื่น เมื่อไปหาเขาแล้ว
    เขาไม่สามารถรับรู้รับทราบได้ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรก็ต้องโดน
    สอบสวนที่สำนักพระยายม ที่ยกเรื่องนี้มากล่าวเสริมเพื่อให้ทุกท่าน
    เห็นความสำคัญของอารมณ์จิตก่อนตาย ไม่ว่าคุณจะทำบุญมามาก
    เพียงใด ถ้าก่อนตายไม่ได้นึกถึง บุญก็ช่วยท่านไม่ได้ ดังนั้นการทำบุญ
    อย่างเดียวยังไม่พอ ต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์ และทำจิตให้ผ่องใส
    ด้วยการเจริญสมาธิภาวนา จะช่วยท่านได้เป็นอย่างมากในเวลาก่อนตาย
    แต่ให้ดีที่สุดก็คือปฏิบัติธรรมจนได้บรรลุเป็นพระอริยะเจ้าตั้งแต่พระโสดาบัน
    ขึ้นไป เป็นการปิดอบายภูมิแน่นอน และเกิดอีกไม่เกิน ๗ ชาติ ก็บรรลุ
    พระอรหันต์เข้าสู่แดนพระนิพพานไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2009
  6. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    สาธุ
    เห็นด้วยกับคุณพี่ชนะทุกประการครับ
     
  7. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีค่ะ ท่านกัลยาณมิตร วันนี้มีเรื่องมาบอกกล่าวสักหน่อย จริงๆก็เคยพูดอยู่บ่อยๆนะคะ แต่มีบางท่านก็ยังไม่เข้าใจอยู่อีกงั้นจะขอมาบอกอีกสักครั้ง คิดว่าคงจะเป็นการบอกอธิบายเป็นครั้งสุดท้ายเพราะถ้ามีปัญหาแบบนี้อีก จะไม่พูดแล้วนะคะ

    เนื่องจากมีหลายท่านส่ง PM มาถึงดิฉัน น้องอ้อย แล้วก็น้องฝนอยู่เนืองๆมาถามเกี่ยวกับเรื่องว่า ตนเองมาสายไหน มีของเก่ามาบ้างไหม เมื่อไหร่ถึงจะฝึกได้ทำยังไงถึงจะเห็น ฯ
    <O:p</O:p

    ดิฉันก็เคยพูดบอกหลายครั้งแล้วว่า หลวงพ่อฤาษีท่านเคยบอกไว้ว่าหากใครสนใจมาทางนี้ก็แสดงว่าในอดีตชาติเคยได้บำเพ็ญเพียรมาทางด้านนี้แล้วแต่จะน้อยหรือมากนั่นอีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ไม่ต้องมาถามแล้วค่ะให้ปฏิบัติในสิ่งที่ตัวเองชอบไปเลย ถ้าไม่ทำก็ไม่มีทางรู้หรอกค่ะของอย่างนี้ต้องทำเอง เป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน
    <O:p</O:p

    ส่วนเรื่องที่ฝึกแล้วจะได้เร็วได้ช้านั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าของเก่าทำมาเยอะหรือน้อยถ้าทำมาน้อยจะให้ได้ภายในวันสองวัน มันก็คงเป็นไปไม่ได้ถ้าของเก่าทำมาดีก็คงได้เร็วทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าชาตินี้คุณขยันหมั่นเพียรแค่ไหนด้วย อีกทั้งรวมถึงส่วนประกอบด้านอื่นๆด้วย เช่น ศีลห้า การที่จะฝึกมโนฯได้นั้น ศีลห้าคุณต้องบริสุทธิ์พอ อย่าคิดว่าแค่มาถือศีลเอาตอนที่จะฝึก แต่เวลาที่เหลือศีลคุณขาดเป็นปกติ ดิฉันขอบอกจากประสบการณ์เลยว่า ถ้าเป็นแบบนี้การฝึกจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จหรอกค่ะ ดังนั้นคุณจึงควรตรวจสอบตัวเองก่อน เพราะคนที่รู้ตัวเองดีก็คือตัวคุณนั่นแหละค่ะ


    แล้วตอนฝึกก็อย่าไปอยากรู้อยากเห็น เพราะไอ้ความอยากมันเป็นกิเลส ทำให้ไปขวางกั้นการเห็น ยิ่งอยากยิ่งไม่ได้ ถ้าอารมณ์มันเฉยๆไม่ยินดียินร้าย เห็นก็ช่าง ไม่เห็นก็ช่างนั่นต่างหากถึงจะได้รู้ได้เห็น ส่วนการตั้งอารมณ์ การตั้งพานครู การฝึก ก็เคยเอาข้อมูลมาลงให้ดูกันแล้ว ไม่ขอพูดอีกให้ไปอ่านเอาจากหน้าก่อนๆค่ะ

    แล้วพอฝึกไปแล้วติดขัดยังไง ก็มาถามไถ่กันในกระทู้ เผื่อจะได้ช่วยกันหาทางทำให้มันผ่านได้หรือดีขึ้น แต่ไม่ใช่ว่ามาว่าเสียดสี ประชดประชัน ลองของ หรือ แม้แต่พาลไปว่าเอาเบื้องบนเลยก็มี เท่ากับคุณปรามาสพระรัตนตรัยแบบไม่รู้ตัวเลยนะคะ แบบนี้ต้องไปขอขมาพระรัตนตรัย เพราะไม่อย่างนั้นการฝึกของคุณก็มีปัญหาแน่ๆ


    แล้วก็อยากจะบอกว่าพวกเรา (ดิฉัน น้องอ้อย น้องฝน) สามารถรับกระแสจิตของพวกท่านๆกันได้ด้วยนะคะ จากข้อความที่พิมพ์นั่นแหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เคารพ ศรัทธา ชื่นชมยินดี หรือ โกรธ เกลียด มันออกมาหมดเลยค่ะ โดยเฉพาะกระแสแห่งการโกรธ เกลียด อิจฉา สิ่งที่ไม่ดีนี่ รับได้ชัดมากเลยค่ะ เพราะมันแรงมาก พวกเราก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ อุเบกขา แต่ห่วงพวกท่านมากกว่า ถ้าไม่รู้จักปล่อยวาง จิตจะเศร้าหมองเอานะคะ การฝึกก็ไปไม่ถึงไหนด้วย ก็ให้รักษาอารมณ์กันไว้ ให้จิตผ่องใสนะคะทุกท่าน



    ช่วงนี้ดิฉันคงไม่ค่อยได้มีประสบการณ์มาเขียน เพราะพระศาสดาท่านเน้นให้ปฏิบัติให้มาก เรื่องธรรมะที่เคยเขียนมาก็ให้ท่านกัลยาณมิตรจำไปทำนะคะ เพราะหลักๆก็มีที่เขียนมานั่นแหละ คือ
    1. ศีลห้า
    2. พรหมวิหาร 4
    3. กรรมบท 10
    4. การละสักกายทิฏฐิ
    5. นึกถึงนิพพานตลอดเวลา
    6. เคารพนับถือพระรัตนตรัย
    7. สังโยชน์ 10
    8. บารมี 10
    9. อริยสัจ 4
    ก็ทำเท่าที่จะทำได้นะคะ อย่างน้อยก็ให้ถือศีลห้าให้ได้ควบกับการทรงพรหมวิหาร 4 จะทำให้ชีวิตมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมนะคะ ส่วนคนที่มาอ่านเอาสนุกเป็นนิยายอันนี้ก็แล้วแต่ค่ะ ดิฉันมิได้บังคับใคร เพราะของอย่างนี้ใครทำใครได้ค่ะ เป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตนจริงๆ

    ขอบุญกุศลที่ดิฉันทำมาทั้งหมดตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอให้ท่านกัลยาณมิตรทุกท่านที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ถึงซึ่งนิพพานในชาตินี้ด้วยเทอญ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กรกฎาคม 2009
  8. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอกราบอนุโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2009
  9. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    โจทย์ข้อแรกยังทำไม่ถูกเลยครับ สำหรับผม แต่เมื่อผิดบางครั้งก็จะตบหน้าตัวเองบ้างจะได้จำครับ

    ตอนนี้ก็มีมารชื่อ ขี้เกียจตื่นนอนตอนเช้า เข้ามาครับ จะพยามฆ่ามันครับ
     
  10. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    ตู้มมมมมมมมมมส์ส์ส์ส์ส์!!!!!

    เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ คนเราผิดพลาดกันได้ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา

    ผิดแล้วก็อย่าผิดอีกแล้วกัน

    อย่าเสียกำลังใจในการปฏิบัติ ของดีถ้าได้กันมาง่ายๆก็ไปนิพพานกันหมดแล้ว พี่น้องเอ้ย
     
  11. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
  12. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    สวัสดีครับ ผม ชื่อนัทครับ พอดีเห็นชื่อแต่อ่านไม่ถูกครับเลยขอรบกวนถามหน่อยครับ "laecheln"

    ยินดีรู้จักนะครับ
    ยินดีรู้จักเช่นกันค่ะ คุณนัท เป็นภาษาเยอรมันค่ะ อ่านว่า
    เลเชล่น เวลาอ่าน ให้อ่านติดกันนะคะ อย่าแยกกัน เล - เชล่น ห้ามอ่าน เล-เช-ล่น แปลว่า ยิ้ม

    ขออนุญาติมาโพสต์แล้วนะครับ
     
  13. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    เรื่องเกี่ยวกับ หลวงปู่แหวนครับ

    ร่วมเล่าประสบการณ์ส่วนตัว เกี่ยวกับ หลวงปู่แหวน


    พอดีตอนเด็กๆ ผมเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อรวย กลยาโณ ครับ อดีตท่านเป็นนักบินทหารอากาศ ที่บินไปเจอหลวงปู่แหวนอยู่บนท้องฟ้านะครับ เห็นท่านแม่ผมบอกมาครับ

    อันนี้วัดที่หลวงปู่รวย ท่านอยู่ครับตอนนี้ท่านมรณภาพไปแล้ว คิดถึงท่านมากครับเมื่อคืน ยังนึกอยู่เลยว่าท่านช่วยให้พ่อผมรอดพ้นอันตรายหรือปล่าว

    http://www.tws.ac.th/poxy/files/manu_06_03.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2009
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พอดีมีน้องเขาสงสัยคำว่า "อจินไตย" ว่ามันคืออะไร ไหนๆก็ไหนๆ เอามาลงให้ทราบในกระทู้ก็แล้วกันนะคะ

    -------------------------------------------------------------------------------

    อจินไตย แปลว่า ไม่มีประโยชน์ คือรู้ไปก้อไม่มีประโยชน์ รู้ไปก้อเท่านั้น เสียสมองเปล่า ๆ ใช้อะไรไม่ได้
    <O:p</O:p
    ...ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยถูกคนอื่นถามด้วยเรื่องอจิณไตย เช่น....
    <O:p</O:p
    ...จักรวาลกว้างเท่าไร? มีขอบเขตแค่ไหน?....<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ...นรก สวรรค์มีจริงหรือไม่? ถ้ามีตั้งอยู่ที่ไหน?...<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ...ถ้าสำเร็จพระอรหันต์แล้วจะอยู่ยังไงหลังความตาย?....<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ...คนเราตายแล้วจะไปไหน?....<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ...พระพุทธองค์ทรงตอบได้ทุกเรื่อง และทรงเมตตาสั่งสอนต่อไปว่า....<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ..."ตถาคตทราบดีทุกเรื่องที่ท่านถาม รู้ลึกซึ้งกว่าที่ท่านอยากจะรู้"....<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ..."แต่ว่าท่านอยากจะรู้ไปทำไม ในเมื่อท่านรู้แล้วก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์มรรคผลใด ๆ"...<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ..."เพราะมันมิใช่วิถีทางแห่งการดับอาสวะกิเลส เพื่อทำให้สิ้นทุกข์"...<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ..."ทุกเรื่องล้วนเป็นอจินไตย คือท่านรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์"...<O:p</O:p
    **********************************************************
    อจินไตย แปลว่า สิ่งที่ไม่พึงคิด คือไม่อาจรู้ได้ด้วยการคิด แลถ้าขืนคิดให้รู้ให้ได้ก็จะกลายเป็นผู้มีส่วนแห่งความเครียดเป็นบ้าเสียสติไป
    อจินไตยมี 4 อย่าง ได้แก่

    1. พุทธวิสัย คือความรู้ความสามารถของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะหยั่งถึง เข้าใจได้ว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงทรงรู้ ทรงเห็น ทรงมีความสามารถมากมายก่ายกอง ผิดจากมนุษย์คนธรรมดาสามัญ

    2. ฌานวิสัย คือเรื่องของฌานสมาบัติ เช่นทำไมคนเราบางคนถึงเข้าฌานนั่งอยู่เฉยๆ ได้เป็นวันๆ โดยที่ไม่ต้องกินข้าวไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน สิ่งนี้เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติเท่านั้นจะรู้ จะเข้าใจได้ ถ้าคนที่ไม่เคยประพฤติปฏิบัติมานั่งคิด นอนคิดยังไงก็ไม่สามารถเข้าใจได้ อย่างพวกเรานี้ เพียงแต่นั่งเฉยๆ แค่ 15นาที หรือครึ่งชั่วโมงก็จะนั่งกันไม่ได้อยู่แล้ว แล้วทำไมคนบางคนจึงนั่งหลับตานิ่งเฉยอยู่เป็นวันๆได้ นี้คือการเข้าฌานสมาบัติ ซึ่งไม่ใช่เป็นสิ่งที่ปุถุชนคนธรรมดาสามัญจะเข้าใจได้

    3. กรรมวิสัยเรื่องของกรรมนี้เป็นเรื่องที่เหนือวิสัยของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาจะเข้าใจได้ว่า เมื่อทำกรรมอันหนึ่งอันใดไว้แล้ว ผลที่จะตามมานั้นจะเป็นอย่างไร หรือการที่มนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลายที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์หรือเป็นสัตว์ในโลกนี้นั้น
    ได้กระทำอะไรมาในอดีต เรื่องนี้เราไม่สามารถที่จะรู้เห็นได้ เพราะเป็นเรื่องข้ามภพข้ามชาติ พวกเราเห็นได้แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในชาตินี้เท่านั้นเอง แต่เราไม่รู้ว่าชาติก่อนมีจริงหรือเปล่า ชาติหน้ามีจริงหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถจะรู้ได้จากความนึกคิดของเราเอง แต่เป็นสิ่งที่จะรู้ได้จากการประพฤติปฏิบัติธรรมเท่านั้น คือต้องนั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนาเท่านั้น จึงจะเข้าสู่ความจริงอันนี้ได้

    4. โลกวิสัย คือเรื่องของความเป็นมาของโลกนี้ ว่าโลกนี้เป็นมาอย่างไร เกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีใครเป็นคนสร้างมาหรือเปล่า หรือไม่มีคนสร้าง เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่เหนือวิสัยของมนุษย์ที่จะสามารถรู้เห็นได้ เลยกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันไปต่างๆนานา บางคนก็ว่ามีพระเจ้าสร้างโลกขึ้นมา บางคนก็บอกว่าไม่มีพระเจ้า ไม่มีใครสร้างโลก เป็นเรื่องของเหตุ เป็นเรื่องของปัจจัย เป็นเรื่องของธาตุทั้ง 6 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุ เมื่อเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาก็ทำให้เกิดเป็นโลก เป็นดาว เป็นเดือน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล อย่างนี้เป็นต้น เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมา

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เอ๊า..ใครที่สงสัยอยากรู้ก็มาอ่านซะนะจ้ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กรกฎาคม 2009
  15. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อนุโมทนา สาธุ ทราบซึ้ง มากๆๆๆๆๆค่ะ อยากจะให้ทุกตัวอักษร ซึมซับไว้ในความทรงจำตลอดไป (กดปุ่มโมทนาแล้ว ไม่เห็นค่ะ)
     
  16. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    อนุโมทนากับคุณMe, myself ด้วยครับ
    ที่ให้ความกระจ่างและนำคำสั่งสอนของพระศาสดามาตักเตือน
     
  17. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386

    สาธุ น้อมจิตไหว้สากับธรรมทานจากพี่me,myselfค่ะ
    เมื่อคืนจู่ๆคำว่า อจินไตย ก็แวปเข้ามาในหัว แต่มิรู้ความหมาย
    เสียดายเน็ตหลุดไปซะก่อน เช้านี้มาอ่าน นั่งยิ้มเลยค่ะ
    คราวนี้แจ่มแจ้งดีแล้วค่ะ สาธุ
    บางเรื่องอยากรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์กับตัวเราเอง
    ขอบฟ้าเวิ้งว้างไม่รู้สิ้นสุดตรงไหน หากจะตามหาเส้นขอบฟ้าก็มิรู้จะตามหาเจอมั๊ย เสียเวลาเปล่าๆ
    สู้เอาเวลามาปฏิบัติธรรมเพื่อให้เกิดสติปัญญาดีกว่า ได้วันละนิดวันละหน่อยค่อยๆซึมไป สิ่งนี้ตะหากที่มีคุณค่าต้องหมั่นศึกษาด้วยตัวเราเองเพราะเป็นธรรมอันประเสริฐจากพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ได้เมตตาประทานมาให้เรา
    ขอบพระคุณพี่me,myselfที่ช่วยเคาะความโง่ให้อ้อยนะคะ กราบงามๆค่ะ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2009
  18. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนากับคุณ Me, myself เป็นอย่างสูง
    เพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตามพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา
    รวมทั้งคำแนะนำต่างๆ ที่มีประโยชน์มาก
    ผมขอนำจุดสำคัญมาสรุป เพื่อให้ทุกท่านได้นำไปพิจารณา
    ด้วยในช่วงนี้ทั้งคุณ Me, myself, คุณอ้อย, คุณฝน และคุณตู่
    กำลังเร่งปฏิบัติเพื่อความสำเร็จทางด้านอภิญญา ตามพุทธบัญชา
    เพื่อที่จะนำมาช่วยสงเคราะห์เมื่อเกิดภัยพิบัติ
    ๑. กรุณาอย่า pm ไปรบกวน
    ๒. เมื่อท่านปฏิบัติแล้วสงสัยเรื่องการปฏิบัติกรุณานำปัญหามาสอบถามในกระทู้
    ๓. คำแนะนำในการปฏิบัติ ๙ ข้อ ที่คุณ Me, myself บอกไว้นั้น
    ถือว่าครอบคลุมการปฏิบัติเพื่อมรรคผลตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงพระอรหันต์

    จะขออนุญาตยกบางจุดที่มีความสำคัญและปฏิบัติได้ไม่ยากถ้าท่านมีศรัทธา
    และมุ่งมั่นด้วยความจริงใจ มาขยายความเสริมต่อเพื่อท่านที่ศรัทธาและสนใจ
    นำไปปฏิบัติ คือเรื่องอารมณ์ของพระโสดาบัน ซึ่งเรื่องนี้ศิษยานุศิษย์ของ
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะรู้กันดีอยู่แล้ว ที่นำมาขยายความเพื่อท่านที่
    ยังไม่ทราบ จะได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
    เพราะกระทู้นี้มีคนเข้ามาอ่านมาก ณ ตอนนี้ก็เกือน ๔ หมื่นคน

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
    ท่านกล่าวไว้ว่า การเป็นพระโสดาบันนั้นไม่ยาก ละสังโยชน์แค่ ๓ ข้อคือ

    ๑. สักกายะทิฏฐิ ท่านกล่าวว่าสักกายะทิฏฐิถ้าละได้จริงๆ ก็เป็นอรหันต์
    แต่สักกายะทิฏฐิของพระโสดาบัน คือ ให้นึกถึงความตายอยู่เสมอ คิดว่า
    วันนี้ หรือเดี๋ยวนี้เราอาจจะตายเมื่อไรก็ได้ คนที่นึกถึงความตายอยู่เสมอ
    เขาจะไม่ประมาทในชีวตและรีบเร่งทำความดี

    ๒. วิจิกิจฉา ไม่ลังเลสงสัยในพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา
    สัมมาสัมพุทธเจ้า เคารพพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ด้วยความจริงใจ

    ๓. สีลัพพตปรามาส ไม่ลูบคลำศีล คือมีศีลบริสุทธิ์ ตามกำลังใจของแต่ละ
    บุคคล บางท่านรักษาศีล ๕ ก็ต้องรักษาให้บริสุทธิ์ บางท่านกำลังใจสูงก็
    รักษากรรมบท ๑๐ จิตก็จะละเอียดยิ่งขึ้น
    และเพิ่มพิเศษอีก ๑ ข้อ คือมีจิตรักพระนิพพานเป็นอารมณ์

    หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจตามสมควร
     
  19. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ขออนุโมทนาในธรรมทานของคุณพี่ชนะครับ
    และขอน้อมรับคำสั่งสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีที่เคารพไปปฏิบัติ
     
  20. Ga_t

    Ga_t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +867
    เมื่อวานนี้ผมได้ไปงานร่วมหล่อสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๑๐ วา และแสดงความกตัญญูตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ ที่กาญ และได้ถวายเพล ถวายปัจจัยร่วมด้วย และยังได้ร่วมถวายปัจจัยให้กับพระองค์หนึ่งท่านพึ่งหายจากการอาพาธ(เส้นเลือดในสมองแตก) งานนี้มีครูบาอาจารย์มากันเยอะครับ
    และยังได้ไปกราบพระที่ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ใหญ่หรือหลวงปู่โลกเทพอุดรอีกหลายท่าน

    ขอกุศลผลบุญนี้จงถึงแก่กัลยาณมิตรทั้งหลายทุกๆท่านและขอให้ทุกๆท่านได้มีส่วนร่วมในบุญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ทุกประการเทอญ

    และขอให้ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปโดยฉับพลันทันใดด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...