เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ยุคผม เกรงว่าเวลาต่างกันมากกับยุคของคุณ ของผมยุคก่อน ๑๔ ตุลา...แหะๆ ยุคนั้นตัวเลือกมีไม่เยอะ จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร หลุดจากนี้ก็ เชียงใหม่ หรือ ขอนแก่น หลุดหมดก็ราม...แหะๆ ส่วน มหาลัยเอกชนตอนนั้น ไม่ค่อยนิยมกัน เพราะค่านิยม เมื่อเรียนมาแล้วหางานยาก

การตัดสินใจ จะเล่าไปออกอากาศ เขาจะว่าคุยโม้ แต่ผมเลือกเอาจุฬาอย่างเดียว ตอนนั้นเขาให้เลือกได้ ๖ คณะ และสอบรวม สองหมื่นกว่าคน ยากแบบโคตรๆ ผมเลือกจุฬาหมด ๕ คณะ เป็นสายวิทยาหมด ตามบรรพบุรุษ ปิดท้ายด้วยเกษตรกันหลุดไป ตามคำแนะนำของเพื่อนๆ และรู้ตัวว่าไม่ใช่คนเก่ง แต่อาศัยขยันเท่านั้น

แต่สมัยนี้ตัวเลือกมีเยอะ มหาลัยต่างจังหวัดดีๆมีเยอะ น่าไปอยู่ซ่ะด้วย มหาลัยเปิดดีๆก็มี มหาลัยเอกชนดีๆก็มี อย่าไปคิดมาก จบแล้วต่อโทก็ได้ ค่อยไปลุ้น จุฬา ธรรมศาสตร์ ใหม่ตอนเรียนโท เข้าไม่ยากเหมือนตอนเรียนตรี ต้องจบโทอย่างน้อย แล้วค่อยมาว่ากัน

การตัดสินใจ ผมเกรงว่าคุณยังเด็กอยู่ คุณยังไม่รู้จักตัวเอง มากพอ หรือ ดีพอนัก ว่าชอบอะไรในตอนนี้ ในส่วนลึก คนปกติ เป็นแบบนี้น่ะครับ อย่าไปตกใจ ผมมารู้ว่าผมชอบอะไรน่ะ ทำงานไปร่วมสิบกว่าปีแล้ว ค่อยมารู้ว่าที่ทำงานนะผมทำตามหน้าที่ ได้เงินมายังชีพ แต่ที่ชอบนะอีกแบบ

คุณเลือกเรียนวิทย์ แต่พอจบมาทำงาน อ่านจะชอบค้าขายก็ได้น่ะครับ ที่เรียนมาเลยแค่เอาปริญญาไปแขวนข้างฝา

ผมเคยรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง เป็นประธานชมรมยูโด จุฬาฯ คุณแม่ท่านขาย ไก่ย่าง ส้มตำ ร้านดังเลยล่ะ แถวๆ ถนนสุโขทัย แท็กซี่ และรถเก๋งจอดกินเพียบ คนๆนี้พอจบก็ช่วยคุณแม่ ตำส้มตำขายครับ ( ตอนเรียนก็ทำอยู่แล้ว ) มาถึงพ.ศ.นี้ น่าจะรวยแบบหลายสิบล้าน ( อันนี้ประเมิน อย่างต่ำ ดีไม่ดี ไปลงทุนอย่างอื่นเพิ่ม อาจจะหลายร้อยล้าน ) ส่วนปริญญาเอาไว้โชว์ในร้านครับ...แหะๆ

เป็นอย่างที่คุณชอบน่ะครับ ผมสังหรณ์ว่า จบตรีแล้ว คุณอาจจะไปเรียนต่อ แล้วทำงานเมืองนอกก็ได้ครับ

 

แหะๆ...กราบขอประทานโทษน่ะครับ

อ่านแล้วอย่าว่าผม เจือก เลย แต่เรื่องส่วนตัวกรุณา PM ไปคุยหรือ โทรไปคุยกันดีไหมครับ ชาวบ้านคนอื่นเขาไม่รู้เรื่องด้วยนะครับ

อยากจะกราบขอสงวนกระทู้นี้เอาไว้คุยเรื่อง พระเดชพระคุณหลวงพ่อทรงเป็นหลัก และ คุยเรื่องกลางๆแบบพี่ๆน้องๆ ช่วยเหลือกันนะครับ

กราบขอความกรุณานะครับ

 

ขอบคุณพี่พี ที่แนะแนวและเล่าประสบการณ์ให้น้องครับ สาธุ

 

กราบหลวงพ่อทรงครับผม สำหรับสัปดาห์อันหนักหน่วง

เออนะ นี่ผมก็มีงานทำเยอะ และทำได้เยอะเหมือนกัน และผ่านมาได้โดยยังมีรอยยิ้มอยู่

กราบหลวงพ่อทรงครับผม สาธุ สาธุ สาธุ <label for="rb_iconid_10"></label><label for="rb_iconid_10"></label><label for="rb_iconid_10"></label>

 

พระพุทธรูปปางนาคปรก
พระพุทธรูปปางนาคปรก มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปนั่งสมาธิเช่นเดียวกับ ปางสมาธิ บนขนดของพญานาค เบื้องหลังมีพญานาค 7 เศียร แผ่พังพานอยู่เหนือพระเศียรพระพุทธรูปปางนี้

จากเหตุการณ์ที่พุทธองค์ทรงบรรลุถึงธรรมอันประเสริฐนี้ มีตำนานเล่าขานถึง เรื่องราวอย่างหนึ่งอันเป็น ต้นเหตุให้เกิด พระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้น จน เป็นที่นับถือสืบทอดกันมาตลอดช่วงเวลากว่า สองพันห้าร้อยปี

พระพุทธรูปปางนาคปรก หรือ พระมงคลมุจลินท์ มีตำนานเล่าขานกัน ว่า

หลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พระอนุตตรสัมมาโพธิญาณที่วงไม้มหาโพธิ์ ณ โพธิมงคลสถาน หรือมหาโพธิบัลลังก์แล้ว ในสัปดาห์ที่ 6 ได้เสด็จไปประทับเสวย วิมุตติสุขอยู่ภายใต้ต้นมุจลินท์ หรือต้นจิก ริมสระน้ำใหญ่ ณ ที่นั้น ได้เกิดมหาเมฆตั้งเค้าขึ้นทำให้ฝนตกโดยมิใช่ฤดูกาล และตกติดต่อกันตลอด 7 วัน ซึ่งเป็นฝนพรำเจือด้วยลมหนาว
ครานั้น พญามุจลินท์นาคราช ได้ออกจากที่อยู่ของตน ได้เห็น ปรากฎการณ์ดังกล่าว จึงได้ แผ่วงขดรอบพระวรกายพระผู้มีพระภาคเจ้าไว้ถึง 7 รอบ แล้ว แผ่พังพานใหญ่เหนือพระเศียร สถิตอยู่อย่างนั้นตลอด 7 วัน ด้วยคิดว่า ความหนาวหรือละอองฝน จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่พระองค์ นอกจากนั้น ยังคิดว่า สัตว์ประเภท เหลือบ ยุง ลิ้น และสัตว์อื่น ๆ อาจมาเบียดเบียนพระผู้มีพระภาค และเพื่อให้พระพุทธองค์ได้เสวยวิมุตติสุข อย่างสมบูรณ์ประหนึ่งว่าทรงประทับอยู่ภายในพระคันธกุฏิ

ครั้นเวลาผ่านไป 7 วัน ฝนหยุดตก อากาศปลอดโปร่ง ท้องฟ้าแจ่มใส พญามุจลินท์นาคราช จึงคลายขดออกจากพระวรกายของพระผู้มีพระภาคเจ้า จำแลงเพศเป็นมาณพหนุ่ม ยืนประคองอัญชลี ถวายนมัสการเฉพาะเบื้องพระพักตร์

พระพุทธองค์ เมื่อทรงทราบ และ เห็นความศรัทธาที่ มาณพหนุ่มมีต่อพระองค์ จึงทรงเปล่งพระอุทานขึ้นในเวลานั้นว่า
ความสงัด (วิเวก) เป็นสุขของบุคคล ผู้สันโดษ ผู้มีธรรมปรากฎแล้ว

ความไม่เบียดเบียน คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก

ความปราศจากราคะ คือ ความล่วงกามทั้งหลายได้ เป็นสุขในโลก

ความจำกัดอัสมิมานะ (ความถือตัว) เสียได้ เป็นสุขอย่างยิ่ง

เมื่อพระพุทธองค์ได้เปล่งพุทธอุทานหัวข้อธรรมทั้ง 4 ประการจบแล้ว พญานาคมุจลินท์มีจิตศรัทธายิ่งในสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงตั้งนโมปณิธานความปรารถนาต่อหน้าพระพุทธเจ้าว่า ด้วยเดชะผลบุญญาบารมีที่ข้าพเจ้าได้แผ่พังพานปกป้องพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ให้ ฝน แดด ลม ถูกต้องพระวรกาย ด้วยประการต่าง ๆ มีความอบอุ่นตลอด 7 วัน 7 คืน ด้วยเดชะผลบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคตกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรมอย่างไร ขอให้ข้าพเจ้ารู้แจ้งตามธรรมอย่างนั้นด้วยเทอญฯ

เพราะเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวมานี้เองนักปราชญ์ชาวพุทธในยุคต่อมา จึงคิดค้นสร้างพระพุทธรูปขึ้นปางหนึ่งเรียกว่า พระพุทธรูปปางนาคปรก โดยทำเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งอยู่บนขนดพญานาคซึ่งแผ่พังพานอยู่บนพระเศียร และเชื่อถือว่า เป็นพระพุทธรูปบูชาประจำวันเกิด ของคนที่เกิดวันเสาร์ วันพฤหัสบดี หรือเกิดปีมะโรง มะเส็ง หรือวันเดือนปีใดก็ได้ ซึ่งผู้ใดสักการบูชาจะมีโชคลาภ อุดมด้วยทรัพย์สมบัติทั้งปวง รวยตลอดชีวิต คำว่า ไม่มี อย่าได้ยิน (ศีลนำโภคทรัพย์มาให้ตลอดชีวิต)

พระพุทธรูปปางนาคปรก จึงเป็นพระพุทธรูปที่แสดงถึงความเคารพรัก เลื่อมใสศรัทธาต่อองค์สมเด็จพระศาสดา ของพญานาค อันเปรียบเสมือนการปกป้องคุ้มครอง และรักษาพระพุทธศาสนาให้ชาวพุทธอยู่เย็นเป็นสุข ภายใต้การอารักขาของพญานาคผู้ทรงไว้ซึ่งอิทธิฤทธิ์ ดังที่พญานาคได้แผ่พังพานป้องกันลมและฝนให้กับพระพุทธองค์ ฉะนั้น
ดังนั้น จึงเกิดมีพระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้น ด้วยประการฉะนี้


ผมเกิดวันเสาร์ครับ........
ก็เลยเอาประวัติพระประจำวันเสาร์มาให้อ่านเป็นความรู้กันเล่นๆ

คาถาบูชาพระประจำวันเสาร์(ปางนาคปรก)

โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
๑๐ จบ

.................

 

ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ ... สาวน้อยตัวใหญ่คนนี้ก็คนวันเสาร์เหมือนกันจ้า...ต้องอธิษฐานกับหลวงพ่อ ขอพระนาคปรกซักองค์มาขึ้นคอ;20

 

ชมรมคนวันเสาร์ดีไหมครับ ผมน่ะเสาร์เหมือนกัน คนเกิดวันเสาร์นะหัวแข็ง และชอบศาสตร์ลึกลับ...แหะๆ

 

ผมก็คนเกือบเกิดวันเสาร์ครับ แต่พอดีแม่อั้นไว้ไม่อยู่เลยออกมาวันศุกร์กลางคืนก่อน

 

ผมก็เกิดวันเสาร์ครับ เลยใช้ภาพแทนตัวคือพระเสาร์เทวดาประจำวันเกิด

และหากย้อนกลับไปเรียนได้อยากเรียน คณะโบราณคดี เป็นคณะในฝันแต่น่าเสียดายที่เมื่อก่อนสอบเอ็นทรานไม่ติด

 

แล้ววันจันทร์ล่ะครับพี่พี เป็นคนหล่อใช่ไหมครับ คิกๆ

 

วันศุกร์นะ

ได้ไหมครับ...

 

แค่คุยกันเล่นๆน่ะครับ

เกิดวันอะไรแค่ ตามตำราพราห์มนะครับ วันโน้นวันนี้ ก็ทำนายกันไปช่วยในการตัดสินใจได้ระดับหนึ่ง แต่จริงๆน่ะ ธรรมมะตามกฎแห่งกรรมครับ ...ชัดเจนสุดขีด

พระพุทธรูปปางต่างๆก็ตามคติที่มาเกิดทีหลัง ตามรูปแบบเทพเจ้า พอพวกกรีกแผ่อิทธิพลเข้ามายึดครองอินเดียทางตอนเหนือ อันนี้หลังจากพุทธกาลหลายร้อยปีแล้ว พอหันมานับถือศาสนาพุทธเข้า ตามคติเดิมคือการสร้างรูปบูชา ก็เลยสร้างพระพุทธรูปครับ จะเห็นว่า หน้าตา ฝรั่งๆซ่ะอีก

ที่เก่าจริงๆ หลังพุทธกาลไม่นานแบบจ่อกันมา ก็รูปวงล้อธรรมจักรครับ และมีรูปกวาง สมัยนั้นยังไม่นิยม และไม่มีใครกล้าสร้างรูปพระพุทธเจ้าน่ะครับ แค่สร้างรูปที่เกี่ยวกับธรรมของพระพุทธองค์ ถ้ามีรูปคนก็จะเป็นเทพเจ้าในศาสนาอื่นๆครับ

สมัย พ.ศ. ๒๕๕๒ นี่สร้างกันเกร่อ มีวางขายแบบกะดิน ข้างริมฟุตบาตซ่ะด้วย

 

เสาร์ด้วยเหมือนกันค่ะ ขอเข้าชมรมด้วยคนน๊า...

 

ผมเกิดวันอังคาร ยังตามหาพระนอนอยู่เลยครับ

 

ผมวันศุกร์หัวไม่แข็งแต่หัวดื้อครับ แต่ก็ชอบศาสตร์ลึกลับเหมือนกัน แล้วตอนนี้ก็ชอบของฟรีด้วย เอิ้กๆ ยอดนิยม

 

เกิดวันเสาร์เช่นกันค่ะ
ต้องอธิษฐานขอพระนาคปรกกับหลวงพ่อซักองค์ละ...

 

มีแต่คนอยากเกิดวันเสาร์......คิคิ
แต่เกิดวันอะไรก็เป็นคนดีได้เหมือนกัน
เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกันทุกคน
หลวงพ่อท่านไม่เลือกอยู่แล้ว ท่านใจดี.......

 

วันอังคารเหมือนกันครับ

 

วันนี้เมื่อช่วงเย็นๆฝันแปลกๆครับ

ฝันว่ามีเหรียญเสมาหลวงพ่อแล้วอีกด้านเป็นหลวงพ่อโสธร

งงจริงๆ

 

พี่พีครับ เสือหลวงพ่อทรงท่านได้เเบบมาจากไหนหรอครับ ที่เป้นเสือยืนเก็กมองฟ้า หางพาดหลัง เพราะดูๆเเล้วเหมือนกับเสือหลวงปู่ยิ้มมากเลยน่ะครับ