เบื้องหลังภัยพิบัติของโลก ก็คือพวกเรา (หรือพวกมีพลังจิตแรงๆ) ที่ตอกย้ำภาพน่ากลัวให้กลายเป็นจริงหรือเปล่า ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Gow27, 28 พฤษภาคม 2009.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
     
  2. Palungjid

    Palungjid Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +43
    หลังจากที่อ่านมานาน ไม่เคยตอบกระทู้แบบนี้สักที มาคราวนี้ขอตอบบ้างดีกว่า

    โดยส่วนตัวผมไม่เชื่ออะว่ามันจะเกิดขึ้นจริง อะไรจะเกิดก็เกิดไป ผมไม่สนใจ วันนี้พรุ่งนี้ จะอยู่หรือตายยังไม่รู้เลย ผมว่าจะหยุดอ่านเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติแล้วเอาเวลาไปทำเรื่องดีมีสาระดีกว่า

    1. มา อนุสสเวนะ อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
    2. มา ปรัมปายะ อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
    3. มา อิติกิรายะ อย่าได้เชื่อถือ โดยตื่นข่าวว่าได้ยินอย่างนี้
    4. มา ปิฏกสัมปทาเนนะ อย่าได้เชื่อถือ โดยอ้างตำรา
    5. มา ตักกเหตุ อย่าได้เชื่อถือ โดยเดาเอาเอง
    6. มา นยเหตุ อย่าได้เชื่อถือ โดยคาดคะเน
    7. มา อาการปริวิตักเกนะ อย่าได้เชื่อถือ โดยความตรึกตามอาการ
    8. มา ทิฏฐินิชฌานักขันติยา อย่าได้เชื่อถือ โดยชอบใจว่าต้องกับทิฐิของตัว
    9. มา ภุพพรูปตายะ อย่าได้เชื่อถือ โดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
    10. มา สมโณ โน ครูติ อย่าได้เชื่อถือว่าสมณะนี้คือครูของเรา
     
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    การทำนาย คือ การคาดคะเนในสิ่งที่กำลังจะเกิดในอนาคต โดยยึดพื้นฐานจากอดีต

    เเต่สิ่งที่สำคัญ คือ ปัจจุบัน กำหนด อนาคต

    ถ้าเราทำดี ณ ปัจจุบัน อนาคตย่อมได้ดีนะคะ ^0^

    ส่วนคนที่กินบุญเก่าโดยประมาท โดยไม่คิดจะสร้างบุญใหม่

    เมื่อถึงเวลาเจ้ากรรมนายเวรเขาเห็น เขาก็เอาคืนเท่านั้นเองคะ

    อนาคตเปลี่ยนเเปลงได้เสมอ ความเเน่นอน คือ ความไม่เเน่นอนคะ

    จะ คอนเฟิร์ม ฟันธง ก็ไม่ได้กิน คนที่ ปฏิบัติธรรม เเละ อยู่ในศีลธรรม จะมีเเต่ความเจริญรุ่งเรือง

    ถ้าวันนี้ ชีวิตของคุณอยู่ดีมีสุขก็อย่าประมาทนะคะ

    เพราะ ถ้าบุญคุณหมดดวงตก เมื่อไร ให้ครูบาอาจารย์เก่งเเค่ไหนก็ ยื้อชีวิตคุณไม่ได้หรอกคะ

    อย่าประมาทกับชีวิต ณ ปัจจุบัน คือ ทางรอดทางเดียว ที่ดีที่สุดคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2009
  4. montri_p

    montri_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +467
    ความคิดของมนุษย์ ก็คือความแตกต่าง บัวมีหลายเหล่าจริงๆ ครับ
    รู้เพื่อเตือนตนให้ปฏิบัติดีให้ถึงพร้อม เมื่ออะไรมันจะเกิดหรือไม่เกิดก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ "ตามธรรมชาติ" ครับ อยากให้ทุกคนคิดดีทำดีให้ถึงพร้อมครับ
    คิดให้ดีๆ ครับ แล้วจะเข้าใจมากกว่านี้ เพราะคนหรือมนุษย์นี่แหละครับที่ไม่สามารถเป็นคนดีกันได้ทุกคน มันจึงเป็นเหตุ ผลก็มาจากเหตุและครับ
    อนุโมทนาครับ
     
  5. twentynine

    twentynine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +992
    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าศาสนาพุทธจะมีอายุ5,000ปี นี้ก็กึ่งนึงแล้ว ถ้าเกิดภัยพิบัติจริงก็คงไม่ถึงขั้นล้างโลกจนไม่เหลือมนุษย์อย่างที่โพสกันไว้ ถ้าไม่มีมนุษย์จะมีศาสนาได้ไง ถ้าล้างคนชั่วให้หมดไปจากโลกก็น่าจะดีเหมือนกัน สำคัญที่ว่าคุณมั่นใจหรือเปล่าว่าเป็นคนดีจริง
     
  6. ปารามิตราราชาวดี

    ปารามิตราราชาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +404
    เอ๊ะ...ถ้าคิดแต่เรื่องความตายทุกๆวันเนี่ย...มันจะมีพลังดึงดูดให้เราตายเร็วๆมั้ยหนอ?
     
  7. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870

    จริงๆ จิตเกิดดับอยู่เเล้วคะ ตลอดเวลา หายใจเข้าก็เกิด หายใจออกก็ตาย

    ที่คิดว่า ตัวเราไม่ตาย เพราะ เรายังคิดว่า จิตเป็นเราคะ

    เเยกจิตออกจากกายเมื่อไรจะรู้ว่า จิตไม่ใช่เราคะ

    เมื่อไรที่เราไม่ระวัง ปล่อยให้ เกิดความวิตก โทสะ โมะ โลภะ ก่อนตายจะทำให้เรา ตกไปสุ่อบายภูมิคะ

    คิดว่าตายบ่อยๆดีเเล้วคะ เวลาตายจริงๆ จะได้ ชำนาญในการตายเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ทันที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2009
  8. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เมื่อก่อนสันโดษ คิดอยากตายอยู่บ่อยๆ เพราะคิดว่า ตัวเองดีมากและเบื่อกับความทุกข์ทางโลกที่เกิดกับตนเอง

    จึงมุ่งเข้าหาทางธรรมเวลาอธิษฐาน ชอบอธิษฐานขอนิพพานชาตินี้กับพระพุทธองค์

    ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ จะเสียใจที่ไม่ได้ตาย คิดว่า ทำไมถึงไม่ตาย

    เราทำอะไรผิดตรงไหน? ทำไมเราถึงต้องใช้กรรม เมื่อไรเราจะได้ ตาย จะได้นิพพาน

    พ้นทุกข์ หมดโศกจากโลกเสียที สันโดษเคยโดนรถชนก็ไม่ตาย

    เเต่บาดเจ็บทรมานมากจริงๆ คิดว่าจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ

    สันโดษเคยเกือบตายเพราะอาการป่วยรักษาไม่หาย

    ตอนที่คิดว่าตายเเน่ๆ ก็ท่องพุทโธ นึกถึงพระพุทธองค์ขอให้ลูกเข้านิพพานด้วยเทอญ..

    ก็ไม่ตายอีกเเล้ว

    สันโดษเคยบาดเจ็บโดนรถมอเตอร์ไซด์ชนจักรยานระหว่างข้ามถนน

    รถพุ่งไปที่รถหกล้อเเต่โชคดีรถเบรกทันเลยกลิ้งอยู่ข้างรถเเทนก็บาดเจ็บนิดเดียว


    ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ใกล้ตาย ก็รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคะ

    เเต่สิ่งนึงที่รู้ คือว่า ความเจ็บปวดความทรมาณของอุบัติเหตุ

    เเละโรคที่เราทรมาณมันทรมาณมากกว่าการตายเเน่นอน

    หากตายไปเลยคงสบายมากกว่านี้คะ

    ดังนั้น ไม่มีใครหนีกรรมได้ เเต่บุญที่เราทำ ณ ปัจจุบันช่วยเราได้นั้นเรื่องจริงคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2009
  9. Gow27

    Gow27 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอบคุณทุกท่านที่มาตอบกระทู้อย่างสร้างสรรค์ครับ ว่าแต่ใครมา post เพลง (หรือบทสวด) เนี่ย ? เคยได้ยินที่สัดยานาวาเปิดมั้ง กำลังคิดว่าเพราะดี อยากฟังพอดีเลย สงสัยกุศลกรรมส่ง อิอิ ^^

    อยากมาตอบเพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ เห็นท่านหนึ่งพูดถึงว่ามีผู้มีอภิญญากำลังช่วยกันอธิษฐานให้ภัยพิบัติเลื่อนออกไปก่อน ดังนั้นก็คงเป็นสัจธรรมล่ะครับว่าทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงได้ สิ่งที่คิดว่าชัวร์มันก็อาจจะไม่ชัวร์ หรือสิ่งที่คิดว่าจะเกิดก็อาจจะไม่เกิด ขึ้นอยู่กับลักษณะการรับรู้และปฏิบัติต่อมัน ถ้าแก้ปัญหาถูกจุด... แก้ตรงเหตุปัจจัย ก็เชื่อว่าทุกอย่างล้วนแก้ไขได้

    แต่คนส่วนใหญ่นั้นไม่รู้ ไม่เข้าใจ เมื่อได้ฟังข้อมูลมาอย่างหนึ่งก็ปักใจเชื่อทันทีโดยไม่พิจารณาถึง กฎไตรลักษณ์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ชัดเจนแล้ว

    ผู้ทรงอภิญญาก็มนุษย์ครับ ยิ่งเป็นโลกียะอภิญญายิ่งแล้วใหญ่ และต่อให้เป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา ดังเช่นท่านที่เห็นด้วยญาณว่า สามเณรน้อยจะถึงฆาตภายใน 7 วันก็ยังผิดพลาดได้ เพราะท่านเห็นเพียงอนาคตรูปแบบเดียว ว่าเณรน้อยจะต้องตาย... แต่เมื่อเณรได้สร้างกรรมใหม่ขึ้นระหว่างนั้น อนาคตดังกล่าวก็เป็นโมฆะไปอย่างสิ้นเชิง (ตามหลักอนัตตา และทฤษฎีโลกคู่ขนานของควอนตัมฟิสิกส์ ซึ่งอนาคตของสัตว์บุคคลต่างๆ มีหลายหนทาง ขึ้นอยู่กับกรรม ณ ขณะปัจจุบัน) ... ซึ่งต่างจากพระสัพพัญุตญาณของพระพุทธเจ้าซึ่งเห็นแจ้งแทงตลอดอนาคตทุกรูปแบบที่มีโอกาสเกิดขึ้นอันเป็นผลของอดีตกรรมด้วยอนาคตตังสญาณและอตีตังสญาณ จากนั้นก็เทียบกับลักษณะนิสัยหรือปัญญาของสัตว์นั้นๆ ในปัจจุบันเพื่อประเมินการตัดสินใจเมื่อมีทางเลือก (จากกรรมเก่า) เกิดขึ้น (ด้วยเจโตปริยญาณ) ควบคู่ไปกับกรรมเล็กกรรมน้อยทุกชนิดที่เป็นปัจจัยแทรกแซงให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ตามความเป็นจริงอีกนับไม่ถ้วน แล้วจึงสรุปออกมาเป็นผลลัพธ์สุทธิ (ด้วยยถากัมมุตาญาณ) ว่า สุดท้ายแล้ว สามเณรจะเป็นอย่างไร? ที่ไหน? และกาลใด? โดยแม่นยำ ไม่มีโอกาสผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนแบบพระสาวกหรืออริยสงฆ์รูปอื่นๆ เลย

    ก็จบไปสำหรับเรื่องอภิญญาญาณ

    ส่วนเรื่อง ความกังวลทางความคิดแล้วทำให้สิ่งที่กังวลเกิดขึ้นจริงๆ ได้ไหมนั้น ขอตอบว่า เกิดได้แน่นอนครับ ...
    คุณเคยเห็นคนที่สะกดจิตตัวเองว่าเป็นคนขี้แพ้ไหมครับ? เมื่อคนพวกนี้ตอกย้ำกับตัวเองบ่อยๆ จนไร้ความมั่นใจได้เมือ่ไหร่ บัดนั้นเขาจะไม่มีวันทำอะไรสำเร็จจริงๆ ตามที่ตอกย้ำกับตัวเอง
    หรือคนที่วันๆ เอาแต่คิดเรื่องร้ายๆ หาเรื่องจับผิดคนอื่น หรือหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ วันๆ ชีวิตของเขาก็จะถูกดึงไปให้พบแต่สิ่งที่ขัดหูขัดตาไปหมด (ซึ่งถ้าไม่มีกุศลวิบากก้อนใหญ่ที่ทรงพลังพอจะดึงเขากลับไปสู่ความคิดอีกขั้วหนึ่งได้ ความรับรู้เหล่านี้ก็จะกำหนดกรอบชีวิตของเขาให้จมปลักอยู่กับสิ่งเดิมๆ ที่ยัดเยียดให้ตัวเองร่ำไป)
    หรือ พ่อแม่ที่ชอบด่าลูกว่าเป็นโสเภณี โตขึ้นก็มักฝังใจให้เด็กอยากประชด ทำตัวสำส่อนขึ้นจริงๆ แทบทุกราย

    หรือจะเอาตัวอย่างคนใกล้ตัวผมคนหนึ่งครับ คนๆ นี้ชอบนั่งสมาธิมาก แต่ไม่มีความเข้าใจเรื่องธรรมะลึกซึ้ง และชีวิตก็ค่อนข้างลำบากเพราะตัวเธอเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย แต่พลังจิตของเธอสูงมาก... (เคยมีหลายคนทัก) เธอนั่งสมาธิได้เป็นชั่วโมงๆ บางครั้งก็เห็นแสงสว่าง และเท่าที่สอบถามดูก็น่าจะสงบระดับหนึ่ง แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อเธอไม่สามารถหักห้ามทัศนคติแง่ลบของตัวเอง เวลาจะทำกิจธุระใดๆ ก็มักกังวลอยู่ตลอดว่าจะต้องมีอุปสรรคแบบนู้นแบบนี้เข้า หรือมองหาแต่เรื่องยุ่งยาก... แล้วก็เป็นดังคาด เมื่อเธอกลัดกลุ้มจนสร้างภาพเป็นฉากๆ ทีไร สิ่งนั้นจะต้องเกิดขึ้นราวปาฏิหาริย์จนซวยไปตามๆ กันแทบทุกครั้ง
    ... ที่เห็นชัด ก็คือ เธอเคยมาทักผมเกี่ยวกับงานหนึ่งว่าจะต้องมีปัญหาแน่ๆ พอเริ่มทำนายแบบจริงจังเท่านั้นแหละ งานที่ไม่ควรจะราบรื่นก็มีปัญหาขึ้นมาจริงๆ แล้วเธอก็ยังไม่รู้สึกตัว เที่ยวคาดการณ์อย่างเป็นจริงเป็นจังลามไปเรื่องอื่นๆ (ซึ่งมีแต่เรื่องร้ายๆ) จนกระทั่งเกิดเรื่องแย่ๆ หลายอย่าง ทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องเสียทรัพย์ เรื่องจุกจิกอื่นๆ แถมไปวิเคราะห์ให้ใครชีวิตเขาก็วายป่วงไปหมด ... ซึ่งปรากฏว่าเมื่อไม่มีเธอเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการ ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นขึ้น

    นี่ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นได้ชัดนะครับว่า ถ้าคนมีพลังจิตสูงแล้วไม่รู้จักพัฒนาสติสัมปชัญญะ และความเข้าใจธรรมชาติของสิ่งเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย อาจสร้างปัญหายุ่งยากตามมาได้แค่ไหน ... ไสยศาสตร์ก็หลักการคล้ายๆ กันนี่แหละครับ คือรวบรวมกำลังจิตแล้วเพ่งไปยังคนที่เขาจะสาปแช่ง แล้วผลร้ายๆ ก็เกิดผลขึ้นตามนั้น

    พลังที่ยิ่งใหญ่ ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่... แต่สำหรับพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เรื่องเกี่ยวกับจิต ต้องมาพร้อมสัมมาทิฎฐิ และโยนิโสมนสิการครับ ไม่ใช่มาด้วยอวิชชาหรือความไม่รู้
    ... เพราะคนที่ไม่รู้จริงหรือยังประกอบด้วยกิเลสอยู่ มักใส่ 'เจตนา' บางอย่างด้วยตัณหา (อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์) ลงไปด้วยเสมอ กับความรับรู้นั้น แล้วก็สร้างความเดือดร้อนได้อย่างคาดไม่ถึง

    ____________

    เพิ่งเห็น คห.29 ของคุณ สันโดษ
    แล้วปัจจุบันเลิกคิดอยากตายโดยสิ้นเชิงแล้วใช่ไหมครับ ? :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2009
  10. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870

    ตอนนี้อยู่กับปัจจุบันคะ เเละระลึกถึงความตายอยู่สม่ำเสมอ

    เพราะ มั่นใจว่า ถ้าถึงเวลาตายจริงๆ จะได้ไปในที่ดีเเน่นอนคะ

    เอาเป็นว่า ไม่กลัวตายดีกว่าคะเเละพร้อมถ้าต้องออกเดินทาง ซ้อมตายบ่อยเเล้วคะ
     
  11. เสฏฐวุฒิ

    เสฏฐวุฒิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +173
    ข้อความโดยคุณ GOW 27
    ถ้าเรานึกถึงความตายทุกลมหายใจ จะทำให้เราตายเร็วขึ้นมั๊ยเนื่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2009
  12. เสฏฐวุฒิ

    เสฏฐวุฒิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +173
    ถ้าเรานึกถึงความตายทุกลมหายใจ จะทำให้เราตายไวมั๊ยเนี่ย
     
  13. diors

    diors เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +126
    ชั่งมัน ผมไม่ได้สนใจ ภัยพิบัตต่างๆ ถ้าตายก็ถือว่าเป็นกรรม ไม่ตายก็ถือว่ายังไม่ถึงคาด
    อาจะมีความลำบากเกิดขึ้น แต่ว่ามันก็แค่นั้น ทุกวันนี้ก็ทุกข์กันอยู่แล้ว
    ถ้าตายก็ไม่ขอเกิดอีกแล้ว

    สาธุ
     
  14. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    มาอย่างไม่มีอะไร พยายามจากไปให้หมดอาลัย
     
  15. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    25
    ค่าพลัง:
    +29,754
    [MUSIC][/MUSIC]ความศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่จิตผ่องใส...


    ...อย่าลืมปัจจุบันธรรมครับ... ทำดีที่สุดแล้วปล่อยวาง
    กลุ่มคนที่ปรารถนาช่วยก็ทำเต็มที่แล้วปล่อยวาง ..แต่ละคนก็ทำดีแล้วปล่อยวาง... สิ่งทั้งหลายในโลก ไม่แตกสลาย ถูกทำลายไม่วันนี้ก็วันหน้า ตามธรรมดา ตามธรรมชาติ ตามกฏไตรลักษณ์ อยู่แล้ว ... ไม่ว่าใครจะทำนายไว้หรือไม่ก็ตาม

    ..เราน่าจะกลัวการเกิด มากกว่าการตาย
    หรือ กลัวการตายอย่างขาดสติจนต้องไปทุคติ มากกว่า การวิตกกังวลจนทุกข์เกินเหตุ...



    พระพุทธองค์ ทรงเตือนพระอานนท์ เรื่อง การเจริญมรณานุสสติที่ถูกต้องคือ
    เห็น ภัยความตาย ซึ่งอาจมีได้ทุกลมหายใจ

    ......ไม่กังวลกับอนาคต ไม่อาลัยอาวรณ์กับอดีต ตั้งมั่นในปัจจุบัน ใช่ไหมครับ


    http://palungjit.org/threads/ooสิงศักดิ์สิทธิ์-อยู่ที่จิตผ่องใสoo.187074/


    [MUSIC]http://www.dhammakaya.org/wma/wlps51122004.wma[/MUSIC]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2009
  16. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    25
    ค่าพลัง:
    +29,754
    ภัทเทกรัตนคาถา



    ภัทเทกรัตตสูตร


    สมัยสมเด็จพระผู้มีภาคเจ้าเสด็จประทับที่พระเชตวนาราม กรุงสาวัตถี ได้ตรัสภัทเทกรัตตนสูตรแก่ภิกษุทั้งหลายว่า


    ผู้มีปัญญา ไม่ควรให้สิ่งล่วงไปแล้วมาตามไม่ควรหวังสิ่งซึ่งยังมาไม่ถึง เพราะว่าสิ่งใดล่วงพ้นไปแล้วสิ่งนั้นอันเราละเสียแล้ว อนึ่งสิ่งใดซึ่งไม่มาถึงเล่า สิ่งนั้นก็ยังไม่มาถึง เพราะฉะนั้นผู้มีปัญญาจึงไม่ควรให้สิ่งซึ่งล่วงไปแล้วมาตาม ไม่ควรหวังสิ่งซึ่งไม่มาถึง ก็ผู้มีปัญญาได้มาเห็นธรรม ซึ่งเป็นปัจจุบันเกิดขึ้นจำเพาะหน้าแจ้งชัดอยู่ในที่นั้นๆ ความเห็นแจ้งธรรม ซึ่งเป็นปัจจุบันของท่านนั้นไม่ง่อนแง่น ไม่กำเริบด้วยดี ผู้มีปัญญาอันมาได้ความเห็นแจ้วในธรรมซึ่งปัจจุบันอันไม่ง่อนแง่นและไม่กำเริบด้วยดีแล้ว ควรเจริญความเห็นนั้นไว้เนืองๆ


    ความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อนอันผู้มีปัญญาควรรีบทำเสียในวันนี้ทีเดียว ใครจะพึงรู้ว่าความตายจะมีในวันพรุ่งนี้


    เพราะว่าสู้ความหน่วงเหนี่ยว ความผูกพันธ์กับด้วยมฤตยูความตายซึ่งมีเสมาใหญ่นั้นไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน อันผู้มีปัญญาควรทำเสียในวันนี้ทีเดียว นักปราชญ์ผู้สงบระงับ ย่อมกล่าวสรรเสริญผู้มีปัญญาซึ่งมีธรรมเป็นเครื่องอยู่ มีความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน ไม่เกียจคร้านขยันหมั่นเพียรทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างนี้ ผู้นั้นแลว่าผู้มีราตรีเดียวเจริญดังนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2009
  17. สายน้ำผึ้ง

    สายน้ำผึ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +379
    สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ตามวาระ ที่คุณเข้าใจว่าเมื่อคิดถึงภัยพิบัติมากๆนั้นจะทำให้เกิดขึ้นได้จริงๆ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าความคิดการกระทำนั้นเป็นสัมมาหรือมิจฉา ถ้าหากคิดถึงแต่ความสะใจ อยากให้เกิดไวๆ กระตุ้นทำให้คนอื่นเกิดความหวาดกลัว นั่นก็เท่ากับดึงพลังงานด้านลบหรือพวกมารเข้ามาควบคุมชีวิตของคุณแน่นอน มารที่เข้าควบคุมความคิดย่อมนำทางให้เกิดวิบากกรรมมากมาย ไม่ว่าจะตัวเองหรือส่วนรวมเมื่อคนที่มีจิตเป็นมารมากๆก็ย่อมเกิดภาวะหรือแรงขับเคลื่อนในด้านพลังงานความคิด ดูตัวอย่างที่ๆเกิดโศกนาฏกรรมที่มีคนตายเยอะๆ ก็ล้วนมีแต่คนบาปที่มารวมตัวกันมากๆ ก็จะทำให้เกิดภัยที่คาดไม่ถึง
     
  18. KimGuidDi

    KimGuidDi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +267
    อนุโมทนาทุกความเห็นครับ
    สำหรับผมขออยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด
    อดีตคือเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้
    อนาคตคือเรื่องที่ยังมาไม่ถึง
    การเตือนภัยเรื่องภัยพิบัติ หากมีจุดประสงค์เพื่อการกระตุ้นให้คนหันมากระทำความดีกันมากขึ้น เลิกเบียดเบียนธรรมชาตินับว่าเป็นเรื่องที่ดี
    การไม่หลงงมงายจนเกินไป รับสารอย่างมีวิจารณญาณ ไม่ตื่นตระหนก ก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ
    การทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ย่อมส่งผลถึงอนาคตให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
    ดังพุทธศาสนสุภาษิต สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    รู้เรื่องภัยพิบัติเพื่อความไม่ประมาท เพื่อการเตรียมพร้อม แต่ไม่หลงงมงาย
    นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้วครับ
     
  19. runandyaow

    runandyaow Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +65
    ผมเป็นคนหนึ่งที่ศึกษา กฏของแรงดึงดูด ผมรู้ว่าคุณคิดอย่างไร แต่ผมจะบอกว่าแนวคิดที่
    คุณคิดกับพวกเรามันผิด เราไม่ได้กลัวภัยพิบัติ เหมือนที่คุณกลัว และที่คุณบอกให้พวกเราในเว็บคิดแง่บวกมังล่ะ เป็นฆาตกรตัวจริงมั่งล่ะ ดูสิ่งที่พวกเราทำสิ วางลูกแก้ว วางพระในน้ำ สอนคนทำสมาธิ และเมตตาอัปมาณฌาน
    มันไม่บวกตรงใหน และที่คุณบอกว่าปล่อยข่าวให้คนคิดแง่ลบทางเดียวกัน กฏของแรงดึงดูดก็บอกไว้ว่าพลังงานใดที่เราส่งให้จักรวาล จักรวาลจะสนองตอบพลังงานนั้นมามากกว่า ผมเติมให้ใช้กฏนี้ใหม
    แล้วจะทำให้มันเกิดขึ้น ถามคุณหน่อยว่า พวกเรามีเท่าไร แล้วคนในโลกมีเท่าไร พวกเราคิดถึงมันว่าจะเกิด แล้วคนในโลกที่ไม่คิดถึงมัน ใช่ชีวิตอย่างเบียดเบียนโลก
    คุณอย่าบอกว่าคุณไม่เบียดเบียน ข้าวหนึ่งจานที่เรากินคุณว่ากว่าจะมาเป็นข้าวให้เรากิน
    เราเบียดเบียนโลกเท่าไร แล้วคุณกินข้าวแล้วไปเรียน หรือทำงานทั้งวัน บอกผมมาสักข้อสิ
    ว่ามีอะไรที่เราที่เราคืนให้โลกมั้ง ถ้าคิดว่ามีก็บอกมา
    ถึงมีแล้วมันเทียบได้ใหมกับสิ่งที่เราทำกับโลก เราทำดีกับโลกกี่ส่วน ส่วนตัวผม
    นั้น แค่ 1 ส่วน 1000 มั้งที่ผมทำดีกับโลก คุณมองภัยพิบัติแบบคุณกลัวตาย ไม่อยากให้เกิดขึ้น มองแบบมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง ไม่อยากตาย อยากอยู่นานๆ
    มันต่างจากพวกเรา ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่คิดว่าตัวเองจะรอด แต่ถ้ารอดก็แล้วไป แต่ผมสนใจแค่ว่าเราตายไปใหน เราทำอะไรก่อนเราจะตาย ผมว่าคนที่ตายก่อนอาจเป็น
    พวกเราก็ได้ เพราะเราทุกคนตั้งใจแล้วว่าถ้าเกิดภัยขึ้นมาจริงๆ เมื่อถึงวันนั้นจริงเราจะออกไปช่วยผู้คน ลองศึกษาดูนะครับว่าที่ผมพูดจริงไม่จริง ดูที่เราทำ ว่ามีอันใหนมั่งที่ไม่เป็นประโยชน์
    ไม่ใช่ดูที่เปลือก แล้วสรุปเอง ผมว่ามีคนรู้ว่าจะเกิดเยอะิดีนะ จะได้ทำแต่ความดี คิดดี ฝึกสมาธิกันมากๆ หรืออีกอย่างดีกว่าน่าให้คนไม่ต้องรู้ไม่ต้องคิดว่าอะไรจะเกิด แล้วทำตัวเหมือนเดิม อันใหนดีกว่าให้คุณคิดเอา (โทสะขึ้นนิดๆ 55555555)
     
  20. 111dew

    111dew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +145
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

    ครูอาจารย์ท่าน หลายๆองค์ก็รู้มาเป็นสิบยี่สิบแล้วแต่ไม่มีใครออกมาพูดเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องบอก เพื่อความสงบและเป็นปกติของทุกคนน่ะครับ แต่อะไรล่ะครับที่จะพ้น หรือฝืนกฎแห่งกรรม ก็คือธรรมชาตินั่นเอง กรรม แปลว่า การกระทำ แม้พุทธะองค์ ยังต้องย้อมรับกฎแห่งกรรม ทุกอย่างมีเหตุและปัจจัย ทำดี ย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ถ้ามั่นใจในความดีก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร เพราะชีวิตเกิดขึ้นมาตั้งอยู่แล้วดับไป เป็นธรรมดา ไม่แน่ชีวิตเราอาจอยู่ไม่ถึงวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้ เพราะเราอยู่กับความตายทุกลมหายใจเข้าออกอยู่แล้วเพื่อนเอ๋ย สักวันเราต้องตายแน่ๆ ทุกๆนาทีเราก็เดินเข้าไปหาความตายอยู่แล้วมุ่งหน้าทำความดี เปิดดวงตา เพื่อเข้าใจใน อริยะสัจ จะได้เกิดปัญญา เห็นว่า ทุกๆสิ่งบนโลกนี้ ไม่เที่ยง เป็นทุก ทนอยู่ไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ เห็นทุก เพื่อ ไม่ทุก เมื่อเห็นทุก ก็เห็นธรรม เมื่อรู้ธรรมอย่างแจ่มแจ้มก็พ้นทุก
     

แชร์หน้านี้

Loading...