ดูดวง ตรวจกรรม ศาสตร์ลายเส้นจิตผัส ไพ่พุทธญาณพยากรณ์...

ในห้อง 'บริการรับดูดวง' ตั้งกระทู้โดย คนสามตา, 22 มิถุนายน 2008.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311

    ตอบ....;aa38

    เข้ามาบ่อยจ้า...แต่ใช้นามอื่นเข้ามาตอบ...กระทู้อื่นๆ
    เป็นการปรับนิสัย ปรับจิตตนเองเพื่อให้รู้ว่าจริงๆเราติดใจสิ่งใดหรือไม่...

    ที่ไม่ตอบตรงนี้เพราะ ทางเมล์มาก ทางบอร์ดมาก
    ตอบไม่ไหว ทำไม่ทัน ตอบไม่หมด เลือกเฉพาะบางคน
    จึงต้องวางเฉยหลายๆคนที่ไม่ได้ตอบ ให้คนอื่นเขาทำหน้าที่แทน
    ตนเองก็ต้องมั่นปรับปรุงจิตใจ เพื่อเข้าหาธรรมยิ่งๆขึ้นไป...


    ลุงสามตา...:z8
     
  2. palmche

    palmche สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +17
    เพศหญิง เกิดวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2533
    เวลา 21.21

    ขอให้ดูเรื่องการเรียนแล้วก็วิบากกรรมค่ะ

    หนูจะรอนะค่ะ

    ^_^
     
  3. สามเณรสุธสีลภโร

    สามเณรสุธสีลภโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +102
    ยังรออยู่เช่นกันครับ ตอนแรกผมลงมารอบสองแล้วแต่สงสัยจะถูกลบ ถึงยังไงผมก็รอเสมอนะครับ

    ขออนุโมทนาในบุญกุศลของคุณโยมด้วย
     
  4. chargath

    chargath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +158
    เกิดวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2522
    เวลาประมาณ 14.30 น (ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7)
    เกิดที่ จ สุราษฎร์ธานีค่ะ
    ถามเรื่อง
    1. การงาน
    2. ครอบครัว
    3. วิบากกรรมค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2009
  5. Lek435

    Lek435 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +110
    เกิด 10 ก.พ. 2508 เวลา 04.20 น.ค่ะ คืนวันอ้งคารค่ะ
     
  6. yawamon

    yawamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +219
    ได้อ่านสิ่งที่คุณลุงสามตา สอนเพื่อน ๆ อ่านแล้วซึ้งมากเลยค่ะ แม้ปัญญาอันโง่เขลายังไม่อาจขัดเกลาให้เกิดได้ แต่ก็รู้สึกดีค่ะ อยากให้คุณลุงสอนพวกเราอีกค่ะ เพราะโลกปัจจุบันมันยากที่จะทนทานจริง ๆ ค่ะ ต้องใช้กำลังใจอย่างมากทั้ง ๆ ที่เรื่องที่เกิดนั้นไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมายแต่หนูก็อ่อนแอเหลือเกินค่ะ มันช่างสับสนวุ่นวายจริงหนอชีวิต...
     
  7. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    ตอบ...
    ๑.มีพรหมวิหารสี่เป็นอารมณ์
    ๒.ระลึกถึงมรณะสติทุกลมหายใจ
    ๓.น้อมความว่างเป็นสติ
    ๔.มีพระนิพพานเป็นที่หมาย...

    ลุงฝึกอย่างนี้ทุกๆวัน จะทุกข้อ หรือบางข้อก็ได้
    ลองเลือกปฏิบัติดูเผื่อถูกกับจริตคุณ
    แล้วความมีอัตตา ตัวตน ดิ้นรน มันจะไม่มากระทบ
    ถึงมากระทบก็ไม่ทุกเวทนา มันมีสติรู้ทุกอารมณ์
    ตายยิ้ม ทุกข์ยิ้ม สุขยิ้ม...

    ลุงสามตา
     
  8. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    ตอบ...

    ๑.วิญญาณนำเกิด ฝ่ายอกุศลกรรม
    มีเวทนาเป็นตัวปรุงแต่งจิตวิญญาณจากอดีตภูมิ
    ทุกข์ร้อน เดือดร้อน ในการหาลาภผล ความสำเร็จในทรัพย์ สมบัติ
    กว่าจะได้สิ่งใดต้องดิ้นรน ทุกขเวทนาในสิ่งที่ได้มาหามาเสมอ
    หรือเมื่อมีแล้วก็ต้องดิ้นรนที่จะรักษาไว้ ซึ่งทรัพย์นั้น
    มีความผูกพันธ์ยึดมั่นหมายในสิ่งนั้นๆ อย่างติดอารมณ์
    กรรมชั่วจะมาตัดกำลังในสิ่งที่ควรจะได้มาโดยง่าย...

    ๒.มีรูปกายนำเกิด ฝ่ายกุศลกรรม
    มีอารมณ์จริตบริบูรณ์ในกาย มีรูปสวย รูปงาม ดูดีมีราศ๊
    ลักษณะต้องตาผู้พบเห็น มีเครื่องเอื้ออำนวยทางกาย
    ทำให้สมารถมีทรัพย์สินได้เพราะ กายนำเกิดเต็ม
    จึงหาทรัพย์นั้นๆได้โดยง่าย
    แต่ก่อนได้มาวนกลับไปข้อหนึ่ง...
    เมื่อได้มาวนกลับมาข้อสอง...แล้วก็วนกลับไปหนึ่งอยู่เช่นนี้

    ๓.กาลนำเกิด ฝ่ายกุศล
    จะมาอยู่ในหมู่สังคม มีเพื่อนพ้องมากหน้า
    มีมารดา มีคู่ครอง มีเพื่อน มีบริวาร แต่เขาเหล่านี้
    ย่อมอยู่กับตนไม่นาน หรือตนจะมีเขาเหล่านี้ สนิทสนม สุขได้
    ไม่นานก็ต้องจากไกล แยกกันไป ไม่มั่นคง ไม่นิ่งสงบ
    อย่างที่ปราถนา...
    จะมาเกิดในยุคกลาง...คนดี กับคนไม่ดีครึ่งๆ
    ถ้าพัฒนาจิตตนเองไปทางธรรม จะสำเร็จมรรคผล
    ถ้าพัฒนาจิตไปทางโลก จะสำเร็จในโลกหน้า...

    ๔.มานะนำเกิด ฝ่ายกุศล
    จะมีกำลังของอกุศลโลกีย์กิเลส เข้ามาตัดรอนไม่ให้ได้ดีในภูมินี้
    จะเป็นคนที่ตั้งใจทำสิ่งใดแล้ว จะติดสบายๆ รักสวยๆงามๆ
    กลัวความลำบาก จึงไม่ค่อยสนใจในการปฏิบัติพัฒนาจิตอย่างจริงจัง
    มักจะติดใจไหลหลงในทางโลก ทางสบาย ทางเกิดใหม่เป็นมนุษย์ในภพหน้า
    หรือไปนำเกิดใน กามาวจรภูมิในภูมิต่อๆไป...


    ๕.จิตปัจจุบัน ฝ่ายกุศล
    ตั้งมั่น สร้างศรัทธาได้ไม่ยากนัก มักได้นำพบ
    กับพระ บุคคลที่น่าศรัทธาเสมอๆ แต่จะเป็นคนที่มี
    ปัญญาจริต คือ เชื่อสิ่งใดยาก ชอบที่จะพิสูจน์
    หรือ ให้เห็นชัดๆแล้วจึงเชื่อ
    จะหาครูอาจารย์ ที่ตรงกับจิต จริตตนเองยาก
    แต่เมื่อพบเมื่อได้ธรรม จะเป็นผู้ที่เข้าใจแจ้ง แทงตลอด
    ในธรรมต่างๆนั้น อย่างผู้เปิดโลก...
    นี้คือจิตใหม่ที่กำลังสร้าง ถ้ารักษา เข้าหาปฏิบัติดีๆ มีโอกาสสูง
    ที่จะได้เป็นโสดาบัณบุคคล หรือสูงกว่านั้นตามกำลังจิตตนเอง

    ถ้าไม่ไปทางนี้ก็มีโลกีย์สุข โลกีย์ทุกข์ ในโลกหน้า
    ทุกข์แบบทุกข์ สุขแบบทุกข์อยู่อีกในโลกหน้า


    "ขอให้พบธรรม แสงสว่างแห่งปลายทางอุโมงค์เถิด"


    ลุงสามตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2009
  9. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    ตอบ...ตามรู้

    ๑.จิตวิญญาณนำเกิด ฝ่ายกุศล
    ศรัทธาจิต ปัญญาจิต มีความผูกพันธ์ทางจิตวิญญาณ
    ในหมู่ญาติพี่น้อง มารดา ส่วนบิดา แยกกันอยู่ หรือเสียชีวิตก่อนมารดา
    หรือไม่ได้อยู่ร่วมกันบิดามารดา...
    จะมีทุนเก่าในการปฏิบัติธรรม กิจทางจิตได้เร็ว
    สัญญาเดิมเคยได้มา เคยมีอยู่
    จะบริบูรณ์ ศรัทธาตั้งมั่นได้โดยไว โดยง่าย
    มีอกุศลมาตัดรอนบ้าง แต่เล็กน้อย คือความลำบากเหนื่อยยาก
    ในการเข้าหาสิ่งที่ตนเองศรัทธา หรือการรักษาศรัทธา ถูกทดสอบ
    แต่ถือว่ากำลังนั้นมีไม่มาก เกินความตั้งใจของตน...

    ๒.รูปกายนำเกิด ฝ่ายกุศล
    จะมีรูปกายบริบูรณ์ รูปงาม สมส่วน ลักษณะดี อ่อนโยน สุภาพ
    ใจบุญ ใจเป็นกุศล ตั้งอยู่ในความดี ความถูกต้องมากกว่าชั่ว
    แต่ที่เสียหายก็จะเสียเพราะคนรอบข้าง เพื่อน
    บุคคลเหล่านี้จะชักนำไปในทางที่เสียหาย ...

    มีสถานที่กายอาศัยดี มีผู้ให้ความอุปถัม์ช่วยเหลือ ไม่ลำบาก
    และตนเป็นผู้เข้าหา เป็นผู้เชื่อง่าย ในผู้ใหญ่ ถือว่าดีแล้ว...

    ๓.กาลนำเกิด ฝ่ายอกุศล กระทบเร้าร้อนกระตุ้น
    จะมาเกิดในหมู่สังคม ฐานะทางเศรฐกิจ
    มาเกิดในยุค ที่มีความเร้าร้อน กระทบกระทั้งกัน
    มีการแบ่งดี แบ่งชั่ว ขัดขวาง ทำร้าย ทำลายกัน

    ที่มีแต่ความเร้าร้อน เดือดร้อน ถูกทดสอบด้วยกำลังฝ่ายอกุศล
    มีมิตรไม่จริงใจ ทรัพย์สินไม่มั่นคง ต้องกระทบเดือดร้อนในกาลที่นำเกิด
    ผู้ใหญ่เพศชายเป็นศัตรูผู้ขวางทาง ให้เกิดทุกขเวทนา
    ถึงจะผ่านไปได้ ก็วนกลับมาให้อยู่ในเวลา แห่งความกดดันจิตตน

    ๔.มานะนำเกิด ฝ่ายกุศล สัมผัสรับรู้ทางอายตนะทั้ง๕บริบูรณ์
    จะสามารถตั้งมั่น มีความเพียร ในการทำความดี
    มีผู้อุปการะคุณคอยเกื้อหนุ่น ฝ่ายมารดา หรือเพศหญิง
    เป็นผู้มีสถานในการกระทำความเพียร หน้าที่การงาน
    ที่ดีสูงสุดในหน้าที่ ในการกระทำ ไม่ว่าทางการงาน
    หรือทางธรรม ถือว่าดีมากตรงนี้...

    ๕.จิตปัจจุบัน กับจิตนำเกิดในอดีตภูมิ เป็นฝ่ายกุศล
    สามารถเชื่อมโยง ต่อยอดได้โดยไว กำไรเรืองธรรม
    จะได้ผู้มีธรรม มีความรู้ ที่ตรงกับจริตตน ได้ดยง่ายๆ
    เป็นพุทธจิต ปัญญาจิต ทานจิตฯ(หรือเรียกว่า พุทธจริต พุทธนุสตินั้นเอง)

    จริงแท้ ถ้าถือทางบรรพชิต จะดีที่สุด
    เพราะการมีคู่ การมีรัก จะไม่สำเร็จนัก
    คนรักมักอยู่ไม่ทน อยู่ทนไม่นาน ไม่จากเป็นก็จากตาย
    เป็นวิบากกรรม คู่
    หรือเป็นดวงพรหมจรรย์
    ผู้ถือศีล ผู้ทรงศีล

    ถ้าไปทางนี้ได้ โมทนาสาธุบุญกุศลกับ ท่านด้วย...

    "ทางของท่าน รู้อยู่ในจิต ทางที่ผิด โลกีย์ มีแต่ทุกข์"
    "เมื่อเข้าแล้ว ตัดได้ ยิ่งกว่าสุข"
    "ที่ทุกข์ๆ ในทางโลก ถือเป็นยาทดสอบกำลังจิต"
    "เมื่อไม่ติด ท่านเป็นแจ้ง แทงสัญญาเดิม"
    "เมื่อมาเพิ่ม กับปัจจุบัน ท่านจะแจ้ง แห่งผู้รู้"
    "เมื่อเวลานั้น ให้น้อมนำศรัทธาครู ที่คงอยู่มิรู้หาย"
    "คือ พระพุทธะ ธรรมแห่งองค์ สงฆ์แห่งธรรม"
    "ตราบชั่วพระนิพพาน ท่านจะแจ้ง ธาตุแห่งธรรม"


    นอบน้อม โมทนาสาธุคุณ ในกุศลแห่งท่าน...

    สวัสดี


    ลุงสามตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2009
  10. janey2009

    janey2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +141
    หญิง 21 กรกฎาคม 2521 เวลา 01.31 น.
    วิบากกรรมเกี่ยวกับความรักและคู่ครอง (อุปสรรคและความไม่สมหวัง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2009
  11. dunyawut

    dunyawut สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +14
    รบกวน ลุงสามตาด้วยครับ ผมยังรอด้วยความเมตตาจากลุงสามตาครับ คิวเดิม 215 ครับ
    เกิด 30 กย. 2518 เวลา 14.29 น. กทม. ครับ
    1.คู่ครอง
    2.การงาน
    3.วิบากกรรม
    ขอขอบพระคุณมากครับ
     
  12. popeyees

    popeyees สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +18
    สวัสดีครับ
    ผมเกิดวันที่ 9 ตุลาคม 2534 เวลา 17:45 ปีมะแมครับ
    ผมขอรบกวนสอบถามเรื่องการเรียนนะครับว่าผมจะสอบเข้ามหาวิยาลัยที่หวังไว้ได้ไหมครับ
    ขอขอบคุณมากๆครับ
     
  13. chayawin

    chayawin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +38
    ลาไปบวชครับ ขอบคุณลุงสามตาเสมอจากใจจริง
     
  14. nattc

    nattc สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +0
    #1337
    หญิง ศุกร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2528 ปีฉลู เวลา 19.30 น.
    ยืนยันดูดวงค่ะ
    ผลการสมัครเรียนทั้งสองที่ออกมาแล้ว ไม่ได้สักที่เลยค่ะ ไม่ไหวแล้ว หมดกำลังใจ ทำยังไงดีคะ
     
  15. สามเณรสุธสีลภโร

    สามเณรสุธสีลภโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +102





    ต้องขอขอบคุณคุณโยมมาก ที่ได้ช่วยกรุณาสละเวลามาตรวจดวงชะตาให้กับเณร เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เณรก็จะขอถาม-ตอบกับคุณโยมอีกครั้ง

    วิธีการตรวจดวงชะตา พยากรณ์ของคุณโยม เณรยอมรับว่ามีมูล เชื่อถือได้แน่นอน และลักษณะการตอบของโยม คุณโยมใช้คำว่า ตอบ...ตามรู้ แสดงว่าคุณโยมรู้จริง เพราะตามทฤษฎีการดูดวงให้กับพระหรือเณรมักจะได้ความแน่อนไม่ครบ 100% เพราะบุคคลประเภทนี้จะได้รับการคุ้มครองจากผู้ที่รองพระบาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ทางในถูกปิดกั้นไปบางส่วนซึ่งก็ไม่ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดแต่ประการใด

    คำทำนายของคุณโยมนี้ได้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่เณรได้รับจากการปฏิบัติกรรมฐานพอดี........

    (จากข้อความข้างล่างนี้เป็นต้นไป....ขอท่านผู้ชมทั้งหลายโปรดใช้วิจรณญาณในการอ่าน...)


    สถานภาพของเณรไม่ถูกกับเพศเดียวกันจริง ๆ ครับ เพราะก่อนที่เณรจะบวชเณรทำบาปไว้กับโยมพ่อและภรรยาใหม่ของโยมพ่อไว้ ด้วยอำนาจแห่งความแค้นและอาฆาต ที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง และแก้แค้นในสิ่งที่โยมพ่อได้ทำกับโยมแม่และน้อง ๆ ไว้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงทำให้เณรมักจะประสบปัญหากับเพศชายอยู่บ่อย ๆ


    สถานภาพของเณรถูกกับเพศแม่จริง ๆ เพราะเกิดจากอำนาจกุศลที่เณรพยายามทำบุญแผ่ส่วนกุศลให โยมแม่ โยมยาย อยู่เป็นประจำ จึงทำให้เณรมีผู้อุปถัมภ์เป้นเพศหญิงเสมอ


    ที่เรรได้รับวิบากกรรมทำให้พลัดพรากจากบิดามารดาและพี่น้อง ก็มีเหตุผลเช่นกัน.....

    จากที่เณรได้เคยปฏิบัติกรรมฐาน ทำให้เณรทราบว่า ตลอดเวลาที่ตัวเณรเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนั้น ไม่เคยมีสักชาติเลยที่จะได้เกิดเป็นบุรุษเพศ... แต่ด้วยความที่เณรมีความเพียรน้อย จึงทำให้เณรระลึกได้เพียง ๓ อัตภาพเท่านั้น...

    อัตภาพแรกเรรเป็นผู้หญิงเกิดในเมืองลับแล เป็นที่ ๆ มีแต่ผู้หญิงอาศัยอยู่ มีน้องสาว ๑ คน ในระหว่างที่กำลังเดินทางไปทำธุระอะไรบางอย่างซึ่งเณรก็ไม่ทราบเช่นเดียวกัน ก็ได้พบกับหญิงแก่ เธอมาตามเอาของอะไรบางอย่างจากเณรก็ไม่ทราบ แต่ที่รู้ ๆ เณรในตอนนั้นกลัวมาก ๆ และวิ่งหนีไป โดยที่ลืมคิดถึงน้องสาวที่ตามมาด้วย ปล่อยให้เธอเผชิญหน้ากับหญิงแก่เพียงลำพัง.....
    ฝ่ายเณรก็วิ่งหนีมาจนกระทั่งถึงท่าน้ำ พอดีเจอกับผู้ชายคนหนึ่งเข้า ด้วยความกลัวบวกกับที่ไม่เคยเจอกับเพศตรงข้ามมาก่อนจึงกระโดดลงน้ำหนี แจ่ก็จมน้ำเสียก่อนเพราะว่ายน้ำไม่เป็น.... คงเป้นเพราะวิบากกรรมนี้จึงทำให้เณรไม่ถูกกับน้องเลย พลัดพรากจากกันมาตลอดเราพทิ้งน้องสาวไว้

    อัตภาพต่อมาเกิดเป็นหญิงชาวประมง อยู่กินกับสามีมีลูกด้วยกัน ๑ คน วันหนึ่งก็ออกไปหาปลากับสามีโดยพาลูกที่ยังแบเบาะลงเรือไปด้วย และด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบสามีก็เกิดทะเลาะกับเราบนเรือ จนกระทั่งทำร้ายจนตกไปในน้ำ ในภาพที่เห็นนั้นผู้หยิงคนนั้นกำลังจมลงไปใต้น้ำ แต่เธอก้ไม่ได้ห่วงชีวิตตังเองเลย พยายามควานหาลูกที่จมลงไปในน้ำแต่ก็หมดหวัง ก่อนที่เธอจะตายเธอได้ผูกอาฆาตไว้กับสามีอย่างแรงกล้า ว่าขอให้เขาพลัดพรากจากสิ่งอันเป้นที่รักเหมือนที่เธอพลัดพรากจากลูกของเธอ.... คำสาปแช่งก็กลายมาเข้าตัวเองคือทำให้ในอัตภาพนี้พลัดพรากจากครอบครัวตั้งแต่เด็ก ๆ

    อัตภาพสุดท้ายจะว่าเป้นชาติที่มีความสุขที่สุดก้ว่าได้ แต่ก็แลกมาด้วยความตายของพี่ชายทั้ง ๒ คน ที่ถูกคนรับใช้ในบ้านฆ่าเพราะหวังสมบัติที่ในตระกูลมีอยู่ เพราะเวลานั้นในตระกูลเป็นตระกูลของขุนนางใหญ่ของรัชกาลที่ ๔
    แต่ด้วยบนกุสลบางอย่างจึงทำให้น้องสาวคนเล็กซึ่งน่าจะตายเพราะถูกวางเพลิงขังไว้ในห้อง ก็มีผู้ชายที่เป็นคนรู้จักพาหนีออกมาได้ และก็ได้อยู่กินกับเขาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต.... กรรมอันเป็นกุสลที่คอยอุปถัมภ์วัดจึงทำให้เณรไปที่ไหนก็ไม่ตกอับเวลามีภัยก็มีคนคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ....

    ที่เณรได้บวชคงจะเป็นเพราะแรงอธิษฐานที่เคยปรารถนาจะบวชในพระพุทธศาสนาในอัตภาพที่เป็นหญิงนั่นเอง...


    สิ่งที่เณรเล่ามา เรรจะไม่ขอให้ผู้อ่านทั้งหลายเชื่อว่าเรรระลึกได้ แต่อยากให้เชื่อในกฎแห่งกรรมมากกว่าว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กฏแห่งกรรมมีจริง
    หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ละเว้นความชั่ว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องชดใช้ในชาตินี้หรือชาติหน้า ไม่ต้องน้อยใจว่าเราทำชั่ว ทำไม่ดี เพราะเราไม่ใช่พระอริยบุคคล จึงมีส่วนที่ดีบ้างเสียบ้างเป็นของธรรมดา ตัวเณรเองก็เช่นเดียวกัน ขอแค่เรามีดีมากกว่าชั่วแค่เพียงเล็กน้อยก็ยังดี... อย่างนี้ก็ชื่อว่าเป็นคนดีแล้ว ไม่ต้องให้ใครมาเห็น แต่เรารับรู้ได้ก็เพียงพอแล้ว....

    เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุณโยมอุตส่าห์สละเวลามาดูให้ เก็บไว้เป็นกรณีศึกษานะ

    ขออนุโมทนา....
     
  16. mooo

    mooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +365
    อนุโมทนาสาธุ กับสามเณรสุขจิตภโรด้วยครับ

    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กฎแห่งกรรมมีจริงๆ
     
  17. พาฝัน

    พาฝัน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    เกิดวันเสาร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2522 ปีมะแม เวลาหลังบ่าย 2 โมงไปแล้วค่ะ
    เพศหญิงค่ะ
    อยากถามเรื่องดังต่อไปนี้ค่ะ
    1. การงาน การเงิน และความรัก อยากถามเรื่องความรักมากๆค่ะ จะเจอเนื้อคู่เมื่อไร
    มาจากทิศไหน เมื่อไรจะได้สมหวังค่ะ
    ขอบคุณมากมายค่ะ ขอให้พบแต่ความสุขสมหวัง มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองนะคะ
     
  18. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    ตอบ...กรรมที่หนัก มากกว่าที่ถาม
    วิญญาณนำเกิด...เป็นอกุศล "อุปธิวิบัติ"
    กายนำเกิด...เป็นอกุศล

    ๑.สถานที่อยู่แห่งจิตวิญญาณความ รู้สึก อารมณ์
    ๒.สถานที่ตั้งแห่งกาย ที่อยู่อาศัย บ้าน ที่ทำงาน

    จะมาอยู่ท่ามกลางความกดดัน กระทบกระทั้ง
    เร่งเร้า เร่งรีบ ชิงดี ชักนำไปในทางที่ไม่สงบสุข
    จะมีการสัญจรเดินทาง อยู่ไม่เป็นที่
    อยู่ที่ใดได้ไม่นาน...

    มีกาลวิบัติเข้ามาแทรกอีก..."อาศัยกาลวิบัติ"
    จึงยิ่งทำให้เป็นผู้ที่มีทรัพย์ก็เหมือนไม่มี
    การหามาซึ่งทรัพย์สิน ความสุขที่ควรได้โดยง่ายๆ
    ก็แสนยากเข้าไปอีก จึงเป็นผู้ที่สุขไม่นาน
    จะมีเหตุการณ์บีบบังคับให้ต้องรับรู้ เร้าร้อน วิตกได้เสมอๆ

    กรรมนี้มาจากไหน...?
    กรรมนี้เป็นผลมาจาก...ภพที่สองที่ผ่านมาแล้ว
    กรรมนี้เป็นผลมาจาก...การกระทำที่เคยชิน ทำเป็นประจำที่ตนยินดีนั้นเอง
    กรรมนี้จะให้ผลในภพที่สองสามสี่ต่อไป
    กรรมนี้จะมีผล ส่งผลบีบค้นดวงจิตวิญญาณแห่งตน แห่งกายตนที่อยู่ต่อไป
    กรรมนี้มีผลจากในขณะจวนเจียนตาย ใกล้ตาย ได้ระลึกถึงกรรมอันหนักไว้

    ขยายความเพื่อเข้าใจเล็กน้อย...?
    เช่น ในครั้งหนึ่งเกิดเป็นมนุษย์ มีหน้าที่ต้องบุกเบิก แนวหน้า
    ทำร้าย ทำลายทรัพย์สิน สิงของ ชีวิตผู้อื่น
    อยู่ในสถานะภาวะที่บีบคั้น หรือถูงสนับสนุนสงเสริม
    จากผู้อื่น เพื่อให้กระทำกรรม ปานาฯ อาทินนาฯ
    ตนนั้นยินดีและตอบสนองทำตามที่ได้รับมอบหมายนั้น
    จึงเป็นการสมยอมกรรม เพราะรู้ว่าผิดยังทำ เพราะพอใจทำ ยินดีทำตาม

    ในยุคนั้นเป็นยุคแห่งการกระทบกระทั้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
    แย่งชิงอำนาจกัน "เปรียบดังตนเอง คือ ทหารผู้รับใช้ปฏิบัติตาม"

    ผลกรรมตกที่ใครบ้าง...?
    ผลของการบีบคั้น กดดัน เดือดร้อน ทุกขเวทนา ตกที่

    ทรัพย์ รายได้ ผลแห่งความโชคดีลดทอนมักไม่ได้รับอย่างสะดวก
    ถูกขัดลาภ ได้มาก็หมดเร็ว ได้เร็วก็หมดง่าย สุขเสวยได้ไม่ทันนาน
    มารดา ลูกหลาน บีบคั้น กดดัน รับรู้ได้ถึงการกระทบเร้าร้อนรุ่มร้อนจิตต่อเขา

    แต่ส่วนดียังเหลือ...จึงมารองรับอยู่บ้าง
    คือ ยอมรับ ยินดี ทำใจ ส่วนนี้เป็นกุศล
    ถือว่าเป็นการใช้คืน คือ เหนื่อยหนัก ทุกข์
    แต่หนีไม่ได้ ต้องยอมรับ ทำ อดทน รับรู้ เครียดต้องรับ...

    ๓.เวลา ความพอเหมาะ โอกาส ที่กาย วิญญาณมีตั้งอยู่...เป็นกาลวิบัติ
    เช่น...ในภพหนึ่ง...เกิดผู้มีความเชี่ยวชาญ รู้การงานข้อมูล
    ความลับ ชักนำ รวมตัวผู้อื่นได้ หรือเป็นผู้นำเขาได้
    แต่จวนตัวถูกฆ่าตาย เพราะทรัพย์ เพราะเงินนั้นแหละ
    ก็มันโกง มันผิดกับเขาไว้ ของก็ไม่ถูกต้อง
    เพียงแต่ใช้ความฉลาด รู้มากกว่าเขา ง่ายๆ คือ โกงเขานั้นเอง
    คราวนี้ละมันไม่ได้ลบกับยางลบน่ะกรรม
    ทำเขามีหรือ เขายิ้มแล้วยินดีให้ทำกับเขาได้น่ะ คนก็ย่อมผูกเวร
    ตนก็ย่อมรู้เหตุที่กระทำ นี้ กรรมอยู่ที่ไหนละ อยู่ในจิตนั้นแหละ

    พอถูกจับได้ถูกบีบคั้นเข้า ถูกชักจูงเอาไปในทางอบาย
    มันก็เรียบร้อย ภพนั้นเลยหลงผิดทำผิดพลาด เพราะทรัพย์
    ถูกฆ่าตายก็เพราะทรัพย์ที่มันผิดทางผิดธรรมนั้นแหละ

    กับคู่ครองก็ตามกันมา เพราะมันทำผิดที่รู้ๆกันนั้นไง
    รักกันแบบไม่จริงใจ แบบหลอกๆใช้ หลอกเอา
    ก็ในเมื่อภพชาติก่อนๆ มันไม่ได้มีความจงรักภักดิ์ดีกัน
    มันอยู่กันแบบหวังผลน่ะ มาชาตินี้ได้พบก็จะดีนานๆไม่ได้หรอก

    หรือ คู่ที่อยู่กันจริงในภพนี้...มันต้องอยู่แล้วแยก
    อยู่แล้วต้องมีอันเป็นหนี้ มีทรัพย์สิน ก็ต้องสลายไป
    หมดไป ไม่ช่วยกันประคองไว้ ไม่รักษาทรัพย์นั้นเอง

    จะได้รับแรงหนุนจากบุคคลอื่นก็ตาม จะทำตัวอย่างไร
    ก็ตาม มันก็เหมือนมีโจรไว้ในบ้าน พร้อมที่จะเสียหายในทรัพย์

    แต่อย่าโทษใคร ต้องโทษกรรมตนเอง...
    ที่เคยทำร้าย ทำลายภรรยาไว้ในอดีตภูมิ

    กรรมนี้เป็นกรรมที่ทำมานาน ทำมาบ่อย ทำจนเคยชิน
    จะลบง่ายๆไม่ได้ ของเก่ายังมีกำลัง ของใหม่สร้างยิ่งเพิ่ม
    มันผูกไปภพหน้าด้วย ถ้ายังไม่รู้ตัว ตั้งสติไม่ได้
    แล้วเวลาใหล้ตายมันจะนึกได้ดังที่ผ่านมาภพก่อนๆ
    มันก็มาส่งผลนำเกิดภพต่อๆไปมันจะสุขไหมหนอ...

    จะมาอยู่ในภาวะที่กำลังขากศรัทธา ไม่ตั้งมั่น ถูกชักนำ
    ถูกดึงรั้งให้ผิดทาง ผิดที่ ผิดธรรม ผิดงาน ผิดเงิน
    จะอยู่ในช่วงที่ต้องพยุง รวมตัว ดึงรั้ง ประคองกันอย่างเหนื่อยยาก
    เพราะโอกาส เวลานั้นเป็นวิบัติเสียแล้ว ก็ยากที่จะตั้งตัวได้โดยง่าย
    จะทำให้การหาเงิน รายได้ต่างๆนั้น เติมไม่เต็ม หาไม่ทัน มีไม่พอ

    นี้เรียกว่า...ยุคที่มาเกิด สถานที่มาเกิด โลกที่มาเกิด ครอบครัวที่มาเกิด
    นั้นเสีย มันเป็นวิบัติเสียแล้ว นี้ก็ผลจากกรรมในอดีต...

    เพราะกำลังกรรมวิบัตินั้น คือ ลาภวิบัติ เงินวิบัติ ธรรมวิบัติ
    ศรัทธาวิบัติ จงต้องเร่งสร้างศรัทธาให้ดีๆอย่าปล่อยเวลาผ่านเลย...

    แต่ใช้ว่าจะมีแต่เสีย ส่วนดีที่เป็นกุศลสร้างไว้มีอยู่
    แต่ตามไม่ทันในภพนี้ หรือมีผลมาเสริมอยู่บ้าง
    แต่ไม่เต็มกำลัง ถ้าเร่งสร้างทานศรัทธา บูชาทานบุญดีๆ
    มีโอกาสเสริมให้กรรมใหม่เป็นกุศลนำส่งได้
    อกุศลไม่ทัน ก็จะทำให้มีความเติมเต็มในทรัพย์ได้

    ๔.ความเพียร พยายาม ความอดทน ความตั้งมั่น ความตั้งใจ...
    เป็นปโยคะสมบัติ หมายความว่า ความอดทน ตั้งมั่น ความเพียร
    นั้นมีอยู่เป็นกุศล แต่กุศลในทางกิเลสน่ะ เป็นบุญเจือด้วยกิเลสไง
    เช่น ทำบุญปรารถนาในทรัพย์อย่างนี้ ทำบุญให้มีเมียสวยอย่างนี้
    คือ ทำไปในทางที่เจอกิเลสนั้นเอง อย่างนี้ถ้าสุขมันก็สุขแบบกิเลส
    มันจะไปทางธรรมก็ต้องอาศัยบุญอย่างอื่นด้วย
    ถ้าบุญนี้อย่างเดียวมันก็เสียวๆ (ลงนรก) ได้เสมอๆ อย่าไปผิดลูกเมียใครเขาละ

    ผลของบุญนี้ก็มากน่ะ หลังจากผิดพลาดผิดหวัง หมดตัวแล้ว
    หรือหลังจากล้ม ก็จะตั้งตัวได้ด้วยผลบุญตรงนี้
    จะทำให้มีบ้านที่อยู่อาศัย ได้จากไหนละ ในเมื่อตัวเคยกระทำเสียมาแล้ว

    จำได้ไหมเป็นทหาร รับคำสั่งถึงผิด แต่ตนเป็นผู้มีความศรัทธาเคารพบุคคล
    เจ้านาย หัวหน้า ราชาอย่างนี้เป็นต้น...

    ก็จะได้รับอานิสงค์ จากบิดา เจ้านาย ผู้ใหญ่ สถานที่ทำงานกิจการบริษัท
    ง่ายๆ คือ ได้ที่ทำงานดี ผู้ใหญ่เจ้านายเมตตา ให้ได้รับทรัพย์สิน
    หรือมีทรัพย์สินได้จากเขาเหล่านี้ แต่ถ้าอาศัยลำพังบุญตนเอง
    เพื่อได้ทรัพย์ ได้เงินง่ายๆโดยไม่อาศัยผู้ใหญ่เป็นใบบุญนำไปละก็
    รับรองแทบตายทีเดียว เพราะของตนเองเพียวๆมันทำไว้เป็นอกุศลไง

    ๕.รวมกับจิต ปัจจุบันเป็นกิเลสกุศลต้องบอกอย่างนี้นะ
    เดี๋ยวงงอีก คือจิตมันดี แต่รักสบาย ติดจะเพลิดเพลินง่ายๆ
    หลงไหลยินดีในเรื่องสะดวกสบายสวยๆงามๆ กามๆใคร่ๆอย่างนี้


    กรรมนั้นมีมากมายเหลือ...
    อยู่ที่ตนเองเป็นผู้กระทำ สร้างไว้
    สามารถที่จะเร่งสร้างใหม่ได้ อย่ารีรอ
    เพื่อรับอานิสงค์ที่ดีกว่าถ้าอยู่ภูมิทุกข์
    เห็นไหมกรรมดีมีอยู่ ถ้ามีแต่อกุศล
    ก็ไม่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว

    สวัสดี

    ลุงสามตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2009
  19. nattc

    nattc สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +0
    พอลองอ่านลุงสามตามาสักพัก ก็เริ่มกระจ่างค่ะ
    ที่จริงที่คุณลุงพูดมาทั้งหมดนั้น เหมือนกับที่หนูไปเรียนสมาธิกับอาจารย์ท่านหนึ่ง
    อาจารย์ท่านก็ให้ตั้งสติ รับรู้กับปัจจุบันให้ต่อเนื่อง จนจิตนิ่ง สงบ
    จากการที่จิตรวมกันเข้ามานี่เอง จิตจึงมีพลังมาก สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีพลัง ต่างจากจิตที่ฟุ้งซ่าน แตกกระจายไปกับสิ่งต่างๆที่ไม่เป็นปัจจุบัน

    ท่านผู้รู้ท่านจึงได้กล่าวไว้ว่า การเจริญสติ ถ้าสามารถทำได้ต่อเนื่องไม่ขาดสาย ก็จะนำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์และการเกิดแก่เจ็บตายได้้ ฉันใดก็ฉันนั้น ดังนั้น การที่จิตมีสมาธิ ก็จะมีพลัง ทำให้รู้แจ้ง รู้เท่าทันสิ่งต่างๆ จนสิ่งที่เรียกว่า ความสว่าง หรือ ปัญญา ตามมาด้วย การหลุดพ้น ตรัสรู้ หรือ บรรลุอรหันต์ ฯลฯ เพราะรู้อยู่กับปัจจุบันเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เกิดขึ้นและจบไปทุกขณะจิต

    แต่ว่าการฝึกจิตก็ต้องมีอาจารย์คอยชี้นำ ไม่ใช่ว่าใครอยากทดลองทำอะไรก็ทำได้ เหมือนเราอยู่ดีๆก็จะไปจับลึงมาใส่กรง ใส่ห่่วงคอ ลิงมันก็จะแว้งกัดให้เราได้เลือด หรือวิ่งหนี ให้เราไล่ตามจนเหนื่อย ถ้าเรารู้วิธีล่อมัน ก็ไม่ต้องเปลืองแรง หรือเจ็บตัว มีคนเขาลองมาตั้งแต่พุทธกาลแล้วค่ะ

    ท่านผู้รู้ท่านว่าก็เหมือนการฝึกจิต เพียงแต่เราวางตนเป็นผู้ดู ไม่ยินดียินร้าย กับลิงตัวนั้น ลิงนั้นก็จะหมดความสำคัญ ไม่ต้องไปวิ่งไล่ตามต่อไป

    ลิงก็เหมือนจิต ที่ปราศจากการฝึกฝน เต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา ความทะยานอยาก เมื่อลิงหายไป เมื่อนั้นก็จะปรากฏจิตเดิมแท้ คือ
    จิตของผู้บรรลุธรรม ซึ่งเรามีกันอยู่ทุกคน คัมภีร์ไม่ว่าฝ่ายเถรวาทหรือมหายานก็กล่าวไว้ตรงกันว่า...

    ทุกคนเมื่อฝึกจิตมาดีแล้วก็มีโอกาสบรรลุธรรมได้ ไม่เห็นผลในวันนี้ก็วันข้างหน้า และ จำนวนของพระพุทธมีมากมายเท่ากับเมล็ดกรวดทรายในแม่น้ำ ฯลฯ เพราะว่้าทุกคนนั้นมีจิตของพุทธะอยุ่แล้ว เพียงแต่ว่าถูกกิเลสทางโลกปิดบังไว้ เหมือนจอกแหนที่เมื่อเขามือแหวกก็เห็นน้ำใสอยู่ข้างล่าง

    ก็เปรียบได้กับจิต ที่อาศัยอำนาจ ศีล สมาธิ แหวกออกมาจนเห็นน้ำ แต่ก็เป็นไปได้ชั่วคราว ไม่ต่อเนื่อง เพราะกิเลสมีมากและมักไหลลงต่ำ จึงต้องอาศัยการฝึกฝนให้ต่อเนื่อง จนจิตนั้นสว่างขึ้นมาเป็นลำดับ ธรรมชาติจิตของทุกคน มีกิเลสหรือที่ขอเรียกว่า ความเคยชิน ต่างกัน วิบากกรรมก็ต่างกันออกไปด้วย ดังนั้น การบรรลุธรรมจึงไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว การฝึกจิตจึงต้องมีครูอาจารย์มาคอยชักจูงสั่งสอน

    อย่างเช่นที่ลุงสามตาทำอยู่ในขณะนี้ ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการดูดวงแบบในนิยามที่เขาเชื่อกันในขณะนี้ได้ แต่เป็นการแนะแนวทาง โดยให้หลักโหราศาสตร์และอำนาจสมาธิ เพื่อแนะแนว แก่ลูกศิษย์ นักเรียน และท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่าน ได้ทราบและตั้งขอสังเกตถึงธรรมชาติจิตของแต่ละคน เพื่อที่จะระวัง ไม่เผลอไผลให้ตกไปในบ่วงกรรม คือ ความเคยชินของจิต ที่มาขวางการหลุดพ้น เป็นวิบากกรรมที่ยาวนาน เพื่อมาปฏิบัติธรรมตัดบ่วงเหล่านั้นไป ด้วยการปฏิบัติของตัวเอง...เพื่อตัวของตัวเอง

    เพราะสมาธิ กับการปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องของปัจเจก คุณลุงแนะนำได้ แต่คนที่ปฏิบัติ คือ ท่านผู้อ่านทั้งหลายเอง

    สิ่งที่หนูเขียนในวันนี้ ก็เหมือนเป็นการสอบทาน สิ่งที่ลุงสามตาพยายามอธิบายมาทั้งหมด ว่าหนูเข้าใจถูกต้องหรือไม่ รบกวนขอคำชี้แนะด้วยนะคะ
    ทราบว่าคุณลุงไม่ค่อยว่างเพราะมีหัวข้อมากเหลือเกิน ก็แล้วแต่คุณลุงจะเมตตาค่ะ

    ความยากลำบากตอนนี้ก็มีเหมือนเดิม แต่เหมือนกับว่า ไม่เอาใจไปทุกข์กับมัน แล้วยอมรับสภาพได้มากขึ้นค่ะ เพราะร้างลา ไม่ได้ฝึกจิตมานานแล้ว มัวแต่วุ่นวายกับการเอาชีวิตรอดต่างเมืองและหาทางเรียนต่อ และอีกหลายเรื่องมากๆค่ะ

    พรุ่งนี้หนูก็จะนำใบอนุโมทนาบัตรจากการนำพระพุทธรูปไทย ที่ถูกวางไว้ริมทางเดินไว้ในวัดเกาหลีแถวนี้ หนูไปติดต่อเดินเรื่องอัญเชิญมาไว้วัดไทยและทางวัดเกาหลีขอใบอนุโมทนาบัตรมาเป็นหลักฐานค่ะ หลังจากเลื่อนมาสามเดือนเพราะเจ้าอาวาสท่านกลับเมืองไทย

    จึงเอาบุญนี้มาฝาก และขอให้ลุงสามตาและท่านผู้อ่านทุกท่าน มีแต่ความสุขความเจริญ ทั้งเจริญทางโลกและเจริิญทางธรรมค่ะ

    สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2009
  20. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    ตอบ...ตามเห็น เพื่อเป็นกำลังใจ

    "ขออนุโมทนาสาธุในบุญกุศลที่ปรารถนาสร้างนั้นดีแล้ว"

    จริงแล้ว การดูดวงของลุงนั้น ใจจริงไม่ยึดติดตำรา
    ไม่หมายมั่นว่าจะเป็นการดูดวงอย่างเดียว
    ดูแล้วได้อะไร รู้แล้วทำอย่างไร ดูเพื่ออะไรฯ
    จึงรู้สึกว่าการดูดวงนี้ ถ้าผู้ดู ดูแค่อยากรู้เท่านั้น
    ก็คงไม่มีประโยชน์นัก แต่ถ้าบางคนดูเพื่อรู้เหตุ
    รู้เพื่อปฏิบัติให้พ้นทางกรรม นี้น่ายินดีช่วยเหลือ

    แต่อย่างไรเสีย ผู้ท่อยากรู้ก็ย่อมมากยิ่ง
    ลุงจึงวางดวงสำรวจดู บางคนรอได้
    บางคนลองภูมิ บางคนเรื่องเล็กๆน้อยๆ
    บางคนเรื่องไม่เป็นเรื่อง บางคนเรื่องที่ต้องรออีกนาน
    บางคนเรื่องที่จะต้องรับไปหนีไม่ได้
    บางคนมาช้าไปช่วยเหลือไม่ฯ
    เหล่านี้ก็เป็นเหตุทั้งนั้น กรรมจัดสรรญไว้ให้เหมาะสมพอดีแล้ว

    ลุงจึงทำได้แค่ทำ บอกได้แค่บอก
    รู้ทันจิต คิดตามรู้ ดูอารมณ์ บ่มปัญญา
    เข้าหาธรรม ชำระจิต ติดพระนิพพานเข้าไว้ กลัวพลาด...

    ตอบดวง...ของท่าน...จะให้รู้กำลังสำคัญแห่ง...กรรมของตน...

    กรุ๊ปเลือด ควรอยู่ในกลุ่มดีตรงกับธาตุภูมิกาย B
    กรุ๊ปเลือด ถ้าเป็นกรุ๊ป O กำลังเปลี่ยนธาตุภูมิ
    จะกำลังแห่งธาตุภูมิฝ่ายกุศลแฝงมากขึ้น

    ๑.จิตวิญญาณนำเกิด ที่ตั้งแห่งจิต ที่อยู่แห่งวิญญาณ สัมพันธ์ทางนาม

    "เป็นราคะวิบัติ"

    จะนำดวงจิตวิญญาณตนไปสู้ ไปตั้ง อยู่ในสภาวะ ที่ถูกตัดรอน
    บันทอน ขวางกั้น ติดขัด บกพร่อง กระจาย อยู่คงที่

    ขยายความ : กว่าจะประสบความสำเร็จสิ่งใดๆนั้น
    มิได้มาโดยง่าย มักจะต้องพบกับความติดขัด
    ความผิดปกติ ควาบกพร่อง ความล่าช้า
    ตัดรอนให้รู้สึกท้อแท้หมดหวัง สิ้นหวัง
    เหนื่อยล้าในการที่จะดิ้นรนต่อสู่ในทางอารมณ์

    อาศัยกำลังสมบัติ : มาช่วยพยุงไว้ จึงพอมีหวัง
    แต่ได้มาด้วยความยากลำบาก
    จึงต้องดิ้นรนอดทน ต่อสู้ ฝ่าฟัน ต่อปัญหาต่างๆ
    กว่าจะผ่านไปได้นั้นแสนลำบาก ลำเค็ญเหนื่อยกาย

    ๒.กายนำเกิด ที่ตั้งแห่งกาย ที่อยู่อาศัย สัมพันธ์ทางรูป

    "เป็นสมบัติ"

    แต่สมบัติแบบร้อนๆ อยู่ไม่เป็นที่ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ่อยๆ
    ชีวิตนี้ที่อยู่นั้นมักจะต้องเดินทางไปในที่ต่างๆอยู่เสมอ
    จะไปแห่งไหนเร็วๆ คิดไม่นาน ตัดสินใจไว ไม่ติดที่อยู่
    ถึงติดก็ต้องพรากไปอยู่ได้ไม่นาน มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
    ในสถานที่ตั้งทางกาย สถานที่อยู่ร่วมกับบุคคลอื่น
    ถือว่าดี มีการสงเสริม กระตุ้น เร้งเร้า ให้ทำ ให้อยู่ ให้เด่นในที่นั้นๆ

    ๓.ยุคสมัย ความพอเหมาะ กาลเวลา
    ที่ตั้งแห่งกายจิต เป็นวิบัติ แต่อาศัยสมบัติมาช่วยไว้

    จะอยู่ในยุค ในกาลเวลา สถานที่ บีบคั้นอารมณ์
    ความรู้สึกนึกคิด จิตใจต่องสิ่งที่พบเห็น
    เช่น มีบิดา มักไม่ได้เลี้ยง จากกันไกล
    แต่มีความดีอยู่ มีเงิน มีทรัพย์ แต่มักจะไม่ได้เก็บเอง
    อยู่ที่คนอื่น หรือมีให้คนอื่นรักษาไว้

    แต่เป็นไปทางกุศล คือ ปลง ปล่อยวาง
    สัจจะธรรม สิ่งศรัทธา เพื่อให้วางออกจากวัตถุ

    เป็นบุคคลที่โชคดีในธรรม
    ถ้าปฏิบัติดีๆ สามารถจะสัมผัส รับรู้ ได้ต่อจากของเดิม
    ที่เคยได้สัมผัสมาแล้ว มีบุญมีหนี้คุณ ในญาติ ในบิดา ในทรัพย์กันไว้

    ๔.ความเพียร พยายาม อดทน มานะ "เป็นสมบัติ"
    จะได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนในเรื่องหน้าที่การงาน
    ที่อยู่อาศัย พี่น้อง ทรัพย์สิน ....

    แต่การได้มารักษา มีไว้ หน้าที่การงานต่างๆนั้น
    ต้องมีความเพียร อดทน พยายามเป็นตัวนำ
    ตัวทดสอบ มิอาจจะปล่อยว่างไปได้ง่ายๆ

    ตัวกรรมที่เข้ามาสนับสนุน ตัดรอนกำลังนั้น เป็นฝ่ายอกุศล
    แต่ได้รับทุกข์บ้างไม่มาก คือ ทุกข์ทางกาย การกระทำ
    การรักษาหน้าที่ ตำแหน่ง สถานะของตนเพื่อดำรงค์ไว้

    ................................................................

    สำหรับสิ่งที่มุ่งหมายหวัง : ถ้าต้องการสอบให้ได้
    ดีเด่นในการหาความรู้ ต้องเดือน พ.ค. ๕๓ ไปแล้ว
    หรืออย่างเร็วเดือน ธ.ค. ๕๓ นั้นแหละเป็นระยะเวลาที่ส่งให้ตนเป็นกำลัง
    จากผู้ใหญ่ก็ดี จากการเดินทางก็ได้ การเงินถึงจะกู้ยืมติดบ้าง
    แต่เป็นกำลังดีมากกว่าเสีย ในการไปต่างถิ่นต่างแดน

    ................................................................

    สร้างบุญให้ถูกทาง : เสียมาก คือ ความเพียร พยายามอดทน
    กรรมนี้เป็นกรรมที่ให้ผลตอบไม่เต็มกำลัง เวลาตนเองหวังผล
    ในทางที่ต้องการให้สมปราถนา เพราะเป็นอกุศล ที่คอยมาตัดรอน

    เคยกระทำกรรมอกุศลไว้ เช่น ขวางทางความสำเร็จผู้อื่น
    โดยไม่เจตนา แต่รู้ด้วยจิตว่าเขาทุกขเวทนา เหตุเพราะตน

    ไม่สงเสริมให้ผู้อื่นได้ตามที่เขาปรารถนา เพราะแค่ว่า
    ความคิดเห็นไม่ตรงกัน เลยห้าม ไม่สนับสนุน
    มีอำนาจกว่าเขาเพราะตนเป็นผู้ปกครองเขา ไม่เจตนาขวาง
    แต่รู้ด้วยจิตว่า เขาเวทนาผิดหวัง ไม่ได้รับตามที่เขาสมควรได้
    เพราะตนเป็นเหตุแห่งการขวางทางเขา ไม่ให้บรรลุผล

    เมื่อเป็นกรรมอย่างนี้ สามารถที่อโหสิกรรมได้
    ถ้ากระทำกุศลได้เร็ว ส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
    ให้ตน จิตตนรับรู้ระลึกได้ในกรรม รับรู้อโหสิกรรมได้ในความไม่รู้
    จะมีโอกาสส่งให้ดวงจิตตนนั้นไปสู่จุดหมายได้โดยง่าย

    ..............................................................
    ทำบุญ :
    สงเสริมให้ผู้อื่นทำความดี
    สงเสริมให้ผู้อื่นได้รับโอกาส
    ตั้งมั่นในศรัทธาไม่เสื่อมคลาย

    มีความขันติ อดทน ยับยั้งในการผิดทางศีล
    เฉพาะกาเมฯ จะร่วมไปถึงความรักที่ทุกขเวทนา
    แต่ไม่ขอกล่าวถึง...

    ให้ยึดมั่นในความดี ที่ตนเองสร้างสม
    มั่นคงในพุทธะ ธรรมะ สังฆะ

    ที่กล่าวมาพอเป็นแนวบ้าง แต่ของจริงอยู่ที่ท่าน
    เป็นผู้ดำเนินไป จะหยุด จะวาง จะห่าง จะพ้น
    ขึ้นอยู่กับตน จิตตนทั้งนั้น มิใช่ใครอื่น...จงจำไว้

    โชคดี

    ลุงสามตา
    ..........................................................
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...