ใครที่เคยเจริญกรรมฐานที่ ฝึกจิตในจิต ขอความเห็นด้วยครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย พฤติจิต, 19 ธันวาคม 2004.

  1. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    ตัวกระผมเองนั้นยังรู้น้อยนักเหมือนบัวใต้น้ำแถมมีหินทับอีกอ่านมาก็เยอะแต่กิเลสไม่เบาบางพอทำได้ซักพักก็ไม่ไหว ทราบว่าน่าจะมาจากข้อสำคัญคือ ศีลไม่บริสุทธิ์นั่นเองครับ
    ใครมีประสบการณ์ดีๆแลกเปลี่ยนกันนะครับขอบพระคุณมากครับ
     
  2. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    888
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ไม่รักษาศีล ก็สามารถมีสมาธิ และ ฝึกสมาธิได้ครับ (ดีกวาไม่ทำสมาธิ)

    แต่ สมาธิ ทีได้ มันเหมือนสมาธิของเด็กเล่นน่ะครับ

    ไม่ใช่สมาธิของผู้ใหญ่น่ะ

    มันจะไม่ทรงตัว และมันจะ มีขึ้นมีลง คล้ายๆกับพายเรือวนอยู่ในอ่างน้ำ

    คือมันจะ ตันๆ อยุ่แค่นั้นน่ะครับ

    เพราะเรายังไม่ตีกรอบการใช้กิเลส (ถือศีล) ของเราให้กับตัวเองครับ
     
  3. คนเก่า.

    คนเก่า. บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ศีล 8 ซิครับ จากประสบการณ์ขณะรักษาศีล 8 แม้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง จิตจะละเอียดกว่ามาก จะช่วยการปฏิบัติให้ก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด

    รักษาด้วยใจนะครับ ให้ศีลบริสุทธิ์จริงๆ รักษาทั้งตามตัวหนังสือและเจตนารมย์ของศีล พิจารณาทบทวนความหมายและเหตุผลของศีลแต่ละข้อไปด้วย อย่างศีลข้อสาม อพรหมจริยา... เว้นจากการเสพกาม ก็พิจารณาโทษของกามราคะไปด้วย หรือกรรมฐานกองอื่นๆที่ใช้สู้กับกามราคะ ทั้งเว้นการคิดคำนึงด้านกามราคะไปด้วย จึงจะไห้ผลด้านการปฏิบัติ

    หากรักษาศีล 8 เพียงพื่อมุ่งหวังแต่กุศลบารมี เว้นเพียงกาย ไม่ได้เว้นที่ใจไปพร้อมกัน ก็จะไม่อาจสัมผัสถึงอานิสงส์ที่ใหญ่กว่าดังกล่าวข้างต้น

    จะเดินตามทางที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ ต้องเดินตามมรรค ซึ่งมีองค์แปด อันสรุปย่อลงเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา ฉะนั้นหากละเว้นศีล ก็ไม่ใช่มรรคแน่ๆครับ อย่าเดินทางนั้นเลย พระพุทธองค์ไม่ได้สอน จะพาไปไหนก็ไม่รู้
     
  4. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    กราบขอบพระคุณมากครับ

    ขอบพระคุณผู้รู้ครับ ...ชี้แนะแนวทางที่ดีมากๆครับโดยเฉพาะ ศีลแม้ชั่วขณะจิต
    มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งมีคุณตาแก่อายุประมาณ 70 กว่าปี ไม่เคยเลยที่จะรักษาศีลให้ครบ แต่อยู่มาวันหนึ่งได้มาทำบุญที่วัดและพระท่านก็ให้สมาทานศีล 8ซึ่งก็ไม่เคยทำมาก่อนเหมือนกัน ลูกๆหลานๆแกก็เข้าวัดอยู่เป็นนิจ แต่แกก็ปกิเสธอยู่ร่ำไป ที่จะเข้าวัดปฏิบัติธรรม แต่วันนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่รู้แกดันเกิดกุศลจิตดลใจให้สมาทานศีล 8 ตามคนอื่นๆและก็มานั่งปฏิบัติธรรมกับเค้ากัน พอดีเดินออกนอกวัด ไปได้ไม่กี่ก้าวถูกรถชน เสียชีวิตเค้าว่ากันว่าแกได้ไปเกิดเป็นเทวดาจากอนิสงค์ของศีลเพียงชั่วขณะ...อ้อแต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะเป็นอย่างนี้เสมอไปนะครับ เพราะว่านี่แสดงถึงบุญเก่าของแกที่ทำมาจึงได้มีโอกาสดีๆเช่น นี้ผมคิดว่าถ้าเรามีโอกาสดีเมื่อไรตอนไหนก็ได้ ทุกขณะลมหายใจ ให้มีศีลานุสติตลอดเวลาครับ
    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมครับ สาธุ สาธุ(deejai)
     
  5. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +716
    ลองดู

    ใครที่เคยเจริญกรรมฐานที่ ฝึกจิตในจิต ขอความเห็นด้วยครับ

    เข้าใจว่าท่านผู้ถามเน้น " ฝึกจิตในจิต "

    ผมไม่เคยฝึกแต่เคยได้ยินพระอาจารย์ผู้มีความฉลาดในการสอนแนะนำไว้ครับ

    ส่วนหนึ่งของการฝึกเท่าที่ผมเข้าใจตาม

    โดยตั้งดวงจิตของกายตั้งแต่มนุษย์หยาบเป็นกสิณใช้ตาของกายที่ละเอียดขึ้นไปอีกชั้นทำกสิณเป็นฌาน แล้วเดินสมาบัติในกสิณนั้นขึ้นไปกายที่ละเอียดกว่า แล้วตั้งดวงจิตของกายนั้นเป็นกสิณทำจนถึงกายธรรม น่าจะเรียกว่าฝึกส่วนสมถะ

    ตั้งดวงจิตของกายมนุษย์หยาบของตัวเอง ใช้ตาของธรรมกายพิจารณาดวงจิตกายมนุษย์หยาบให้เห็นกระแส, ลักษณะ, สี, และเหตุที่ทำให้เป็น ของจิตทั้งฝ่ายดี ฝ่ายชั่ว ฝ่ายไม่ดีไม่ชั่ว แล้วตั้งดวงจิตของกายที่ละเอียดขึ้นไปพิจารณา ทำตามนั้นจนถึงดวงจิตของธรรมกาย น่าจะเรียกว่าฝึกส่วนวิปัสนา

    หากเข้าใจไม่ถูกก็ต้องขออภัยอย่างสูงครับ
     
  6. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    กราบขอบพระคุณ คุณพี่ปุถุชนอย่างยิ่งครับ สาธุ สาธุ
    ผู้รู้อรรถ.......ไม่รู้จักปฏิบัติ....ไม่รู้จักธรรม
    ผู้ไม่รู้อรรถ.....เพียรจักปฏิบัติ......ย่อมรู้จักธรรม
    ผู้รู้อรรถ........เพียรจักปฏิบัติ......ย่อมรู้จักและเจริญในธรรม

    ผู้รู้น้อยครับ(พฤติจิต)
     
  7. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    888
    ค่าพลัง:
    +1,937
    คำว่า

    กายในกาย
    เวทนาในเวทนา
    จิตในจิต
    ธรรมในธรรม


    แท้จริงแล้ว เป็นการฝึกแนวมหาสติปัฏฐานสี่น่ะครับ
    เพราะมี 4 ฐาน คือ "กาย เวทนา จิต ธรรม"

    จิตในจิต เป็นการตามรุ้สิ่งที่เกิดขึ้นในจิตตัวเอง ที่เรียกว่า จิตสังขาร
    ดูอยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปปรุงแต่ง หรือทำอะไรมากกว่านั้น
    ดูว่ามันเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป ดูมัน เกิด-ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ
    ตามแต่กำลังสมาธิของเราจะรุ้ได้ ทุกขณะจิตเลยยิ่งดี

    ตรงกับคำครุบาอาจารย์ท่านว่า

    "ทุกข์ให้รู้ สมุทัยให้ละ"

    ถ้าทำตรงนี้ได้เมื่อไร มันจะรู้แจ้งในข้อความดังกล่าว หมดความสงสัย ไม่ต้องไปถามใครอีกแล้ว
     
  8. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    ของจิตทั้งฝ่ายดี ฝ่ายชั่ว ฝ่ายไม่ดีไม่ชั่ว แล้วตั้งดวงจิตของกายที่ละเอียดขึ้นไปพิจารณา ทำตามนั้นจนถึงดวงจิตของธรรมกาย น่าจะเรียกว่าฝึกส่วนวิปัสนา
    อันนี้คือตรงสุดๆขอบพระคุณมากครับ
    อยากเรียนให้ผู้ที่ฝึกวิชาธรรมกายและผู้ที่รู้จักวิชชานี้แต่ผิวเผิน......อ่านและพิจารณานะครับว่าวิชชาอันประเสริฐนี้เป็นทั้งสมถะและวิปัสสนา และเป็นวิชชาที่อยู่บนมหาสติปฐานสูตรโดยแท้
    มิใช่ว่าจะเป็นเพียง สมถะถ่ายเดียวอย่างที่ผู้ที่เฝ้าแต่เรียน ไม่รุ้จักปฏิบัติ หรือ "พ่อค้าคำพูด" ทั้งหลายแหล่มักนำมาวิจารณ์กันต่างๆนานาในเชิงปรัชญา..........ทุกสิ่งในภพ สาม ล้วนเป็น สิ่งสมมติ ลองมองกันให้เห็นฝึกกันให้เห็นตามสภาวะอันเป็นจริง ถึง จิต เจตสิก รูป ปรมัตถ์ แล้วก็จะรู้ว่า ปรมัตถธรรมทั้ง3 อย่างล้วน มี ไตรลักษณะเป็นธรรมชาติคือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน
     
  9. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +716
    ลองตอบเพิ่มเติมครับ

    ตามที่ผมเข้าใจส่วนนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยในการฝึก...ลองฟังดูนะครับ

    " ตั้งดวงจิตของกายมนุษย์หยาบของตัวเอง ใช้ตาของธรรมกาย
    (ที่บรรลุจากการทำส่วนสมถะแล้ว) พิจารณาดวงจิตกายมนุษย์หยาบให้เห็นกระแส, ลักษณะ, สี, และเหตุที่ทำให้เป็น ของจิตทั้งฝ่ายดี ฝ่ายชั่ว ฝ่ายไม่ดีไม่ชั่ว "

    ในขณะนั้นเป็นการพิจารณาในระดับจิตของฌานสี่เพราะธรรมกายของตัวเข้าอยู่ในฌานสี่ การพิจารณาจะสมบูรณ์ด้วยความรู้พร้อมทั้งความเห็นและพบว่าอะไรเป็นเหตุที่ทำให้จิตกายมนุษย์หยาบของตัวมีกระแส, ลักษณะ, สี ต่างๆกันออกไป เมื่อรู้และเห็นแล้วก็ทราบว่าควรเจริญเฉพาะเหตุที่ยังจิตของกายมนุษย์หยาบให้อยู่ในฝ่ายดีเท่านั้น เหตุอื่นๆจึงละเสียได้ ที่ละได้ก็เพราะรู้และเห็นแน่แก่ใจเสียแล้ว
    จากนั้นก็ตั้งดวงจิตของกายที่ละเอียดขึ้นไป พิจารณาทุกกาย
    ที่พิจารณาทุกกายเพราะ เหตุที่ทำให้เป็น ซึ่งนำพาจิตไปในฝ่ายต่างๆ มีความละเอียดลึกซึ้งไม่เท่ากัน เช่น เหตุที่ทำให้เป็น ซึ่งนำพาจิตของกายพรหมไปในฝ่ายใดๆ จะละเอียดกว่า เหตุที่ทำให้เป็น ของกายมนุษย์ เป็นต้น

    เมื่อทำจนครบจะรู้และเห็นโทษของ เหตุที่ทำให้เป็น ของฝ่ายที่ควรละ และคุณของฝ่ายที่ควรเจริญ ทั้งหยาบจนถึงละเอียดมีผลให้จิตมีความว่องไวในการรู้จักและจัดการกิเลสทั้งหยาบ ทั้งละเอียด ที่มาข้องแวะกับจิตของตัว

    การพิจารณาแบบนี้เป็นการพิจารณาวิปัสนาในฌานสี่ซึ่งคงเหมาะแก่ผู้ที่มีอัฌชาสัยเจโตวิมุติ

    สำหรับการฝึก จิตในจิตแบบอื่นๆก็มีถมไป แบบมาตรฐานมาตั้งแต่โบราณก็ตามวิธีในคัมภีร์วิสุทธิมรรคซึ่งรจนาโดยพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาน ใช้สอนกันมาบรรลุมรรคผลมามากต่อมาก

    ผมขอตอบเพิ่มเท่านี้ก่อนครับ
     
  10. บูริณ

    บูริณ บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ช่วยตอบผมด้วยนะครับ

    ผมอยากเริ่มฝึกสมาธิแบบง่ายๆเริ่มต้นครับ แต่ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง ต้องทำบุญก่อนทำสมาธิหรือเปล่า หรือจะต้องทำทานหรือรักษาศีลให้ครบอย่างน้อย5ข้อก่อนหรือเปล่า ผมว่าคำถามนี้คงมีคนที่คิดจะเริ่มทำสมาธิหลายคนที่อยากทำแต่ไม่รู้จะต้องเริ่มต้น หรือทำยังไงบ้างสนใจนะครับ
    ช่วยตอบด้วยนะครับ
     
  11. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    888
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ผมว่าฝึกแบบง่ายจริงๆ

    ก็รักษาศีลน่ะ มันดีกว่ไม่รักษาอยู่แล้ว

    เพราะถ้าเรารักษาศีล
    ศีลก็รักษาเรา

    ส่วนเรื่องสมาธิ ก็ทำใจสบายๆครับ
    มองให้เห็นเป็นเหมือนงานอดิเรกชิ้นโปรด
    ที่เราทำเล่นๆ แต่ทำทุกๆวัน
    ทำเพื่อให้สุขภาพใจ สุขภาพกาย
    ความคิด ความอ่านดีขึ้น

    แค่นี้ก็เป็นเบื้องต้นที่หรูแล้วครับ
     
  12. มโนนาฎ

    มโนนาฎ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +86
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บูริณ
    ช่วยตอบผมด้วยนะครับ
    ผมอยากเริ่มฝึกสมาธิแบบง่ายๆเริ่มต้นครับ แต่ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง ต้องทำบุญก่อนทำสมาธิหรือเปล่า หรือจะต้องทำทานหรือรักษาศีลให้ครบอย่างน้อย5ข้อก่อนหรือเปล่า ผมว่าคำถามนี้คงมีคนที่คิดจะเริ่มทำสมาธิหลายคนที่อยากทำแต่ไม่รู้จะต้องเริ่มต้น หรือทำยังไงบ้างสนใจนะครับ
    ช่วยตอบด้วยนะครับ
    ตอบ ทาน ศีล ภาวนาค่ะ ต้องลองทำดูนะคะดีมากเพราะเคยทำแล้วทั้ง3อย่างจะส่งผลซึ่งกันและกัน ทำให้คุณเป็นนักปฎิบัติที่ดีค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. พธบ

    พธบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +2,348
    ง่ายนิดเดียว

    เพราะ คุณ ไม่ลงมือทำ ทำอย่างไรถึงจะเรียกว่า ลงมือทำ

    ทำตามหลัก อิทธิบาท 4 (อ่านมาเยอะคงไม่ต้องอธิบายนะครับว่า มันมีอะไรบ้าง)

    ศีล แปลว่า อะไร ศีล แปลว่า ปกติ ปกติ อย่างไร ปกติของศีล คือ ปกตตามแบบอย่างของธรรมชาติ

    ธรรมชาติ แบบไหน ก็เราคือ มนุษย์ ไม่ใช่ คน เพราะฉะนั้น มนุษย์ เขาเป็น ยังไง


    มนุษย์ หรือ สัตว์ประเสริฐ มันต่างกันอย่างไร กับ คน

    คือ มนุษย์ ในยุคแรกๆ ไม่มีกิเลส ไม่มีการแย่งชิง ไม่มีการโกรธ โลภ พยาบาท อาฆาต จองเวร เป็นต้น ฯลฯ

    นั่นคือ ปกติอย่างธรรมชาติ ของมนุษย์ เพราะฉะนั้น หากคุณทำได้อย่างเฉกเช่น มนุษย์

    คุณ ก็ไม่จำเป็น ต้องรักษา ศีล เพราะ คุณไม่ได้เบียนเบียดใคร ไม่ได้เบียนเบียดตนเองและผู้อื่น

    มันก็คือ ปกติตามธรรมชาติ ซึ่งก็คือ ศีล นั่นเอง.....

    การอธิษฐาน อ้วนวอน ไม่มีทางสำเร็จ หากไม่ลงมือทำ

    ยิ่งมีข้ออ้างมากเท่าไหร่ ยิ่งล้มเหลว มาขึ้นเท่านั้น

    ศีลเป็น บาทฐาน สมาธิ เป็น เป็นที่ตั้ง ปัญญา จะได้มาเอง แต่ไม่ใช่ปัญญา ธรรมดา แต่เป็น ปัญญาญาณ

    เมื่อมีศีล (ปกติตามแบบะรรมชาติ) จิตก็ ย่อมสงบ เมื่อสงบ จิต ก็ไม่กวัดแกว่งได้ง่าย ก็จะอยู่กับงานที่ทำ นั่นก็คือ สมาธิ

    เมื่อมี สมาธิ คือ มีความสงบ จิตตั้งมั่น ไม่ส่งออก ย่อมมีเวลาในการคิดพิจารณา ปัญญา ย่อมเกิด เด้อครับ

    สาธุ........เอวัง โหตุ




     

แชร์หน้านี้

Loading...