พระเครื่องและประวัติโดยสังเขปของ หลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จ.อ่างทอง

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ แล้วมีกติกาอย่างไรบ้างครับ

 

PM ที่อยู่มาถ้าไม่ไกลมากจนเกินไป จะส่งให้ฟรีครับ แต่ถ้าไกลมากๆ คือเกินกรุงเทพและปริมณฑล ก็กรุณาส่ง ซองเปล่า + สแตมป์มา ด้วยครับ

**กรุณาส่ง นายปติธาน รอดกำเนิด
46/1 ม.1 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง 14150 **

ผมอาจจะส่งให้ท่านช้า นิดหน่อยเพราะผมกลับบ้านเดือนละ 1-2 ครั้งครับ

 

แก้ไข ขนาดรูป
สมเด็จรุ่น ร ใหญ่ หลวงพ่อบัว วัดแสวงหาเป็นพระพิมพ์สมเด็จโดยมีการจัดมร้างพร้อมกับเหรียญรูปไข่รุ่นแรก
ของท่านโดยด้านหลัง จะมีตัวอักขระขอม ตัว อัง ใหญ่อยู่

 

แก้ไข ขนาดรูป

เข็มกลัดหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา
จัดสร้างเพื่อ ฉลองอายุครบ 6 รอบ หรือ 72 ปี นั้นเอง
ในปี พ.ศ. 2524 เพื่อแจกชาวบ้านและศิษย์ของท่าน

โดยมี 2 สีคือ

1.สีน้ำเงิน กะไหล่ทอง
2.สีแดง กะไหล่เงิน

 

แก้ไข ขนาดรูป

เหรียญรูปไข่รุ่นสุดท้าย ก่อนที่หลวงพ่อท่านจะ มรณะภาพ

เป็นเหรียญรุปไข่หันข้าง โดยมี 3 เนื้อคือ

1.เหรียญรูปไข่หันข้าง กะไหล่ทอง
2.เหรียญรูปไข่หันข้าง กะไหล่เงิน
3.เหรียญรูปไข่หันข้าง เนื้อทองแดง

เป็นรุ่นเสาร์ 5 ซึ่งหลายๆ คณาจารย์ก็ได้จัดสร้างวุตถุมงคลในปี นี้คือ 2536
ซึ่งถือว่าวันเสาร์ 5 นั้นมีความแข็งปลุกเสกวัตถุมงคล จะมีความเข้มขลัง
และเมื่อบวกกับพลังของผู้ปลุกเสกแล้วก็จะทำให้มี พลังมากขึ้น ทวีคูณ ด้วย

 

แก้ไข ขนาดรูป

เหรียญหลวงพ่อศรี หลังหลวงพ่อบัว

ไม่ทราบปีที่สร้างแน่ชัด แต่ท่านได้ อัญเชิญด้วยวิญญาณคณาจารย์ของท่านมาร่วมปลุกเสกด้วย

นับเป็นเหรียญประสบการณ์อีกรุ่นนึงของท่านเลยทีเดียว

 

เงินก้นถุง แบงค์ หลวงพ่อบัว วัแสวงหา

 

ล๊อคเก็ตหลวงพ่อบัว ไม่ทราบ ปีที่สร้างแน่ชัด
แต่ทันหลวงพ่อแน่นอนครับ

 

เหรียญฉลอง อายุ 80 ปี หลวงพ่อบัว
สร้างขึ้นเมื่อปี 2534 เพื่อฉลองหลวงพ่ออายุครบ 80 ปี

 

อันนี้เป็นเหรียญ ปี 2534 และ 2536 สวยๆ

ที่หลวงตาที่สนิทกันท่านเมตตาให้ถ่ายรูปมา ใ้ห้ชม

เป็น กะไหล่ทอง กะไหล่เงิน และเหรียญ รมดำ ครับ

 

ประวัติหลวงพ่อต่อ

กิจวัตรของหลวงพ่อพระครูปัญญาสารคณี (หลวงพ่อบัว)

ในนามของลูกศิษย์ท่านคนนึง แม้ผมเองจะไม่ได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับท่านช่วงเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ แต่จากการได้ฟังและอ่านบทความต่างๆ บวกกับประสบการณ์ที่ได้รับจาก วัตถุมงคลของท่าน พอจะอธิบายคราวว่าผมมีความเลื่อมใสท่านมากองค์นึงเลยทีเดียว

เมื่อหลวงพ่อท่านบวช ท่านได้ปฏิบัติกิจของสงห์อันพึงกระทำอย่างเคร่งครัด เป็นประจำเสมอต้นเสมอปลาย คือตื่นราวๆ ตี ๐๔.๐๐ น. จัดการธุระส่วนตัวและสรงน้ำครองผ้าไตรเข้าสู่ที่สวดมนต์ เสร็จแล้วจะอ่านตำรับตำราต่างๆของท่านที่ได้ศึกษามาจากเกจิอาจารย์ต่างๆ จนสว่างทางก็จะ ออกบิณฑบาตรเพื่อโปรดเหล่าชาวบ้านและ ญาติโยมในชุมชนแสวงหา ซึ่งถือเป็นกิจของสงฆ์อันพึงกระทำและปฏิบัติตามพุทธบัญญัติ เว้นแต่จะมีภาระกิจ เช่น ต้องไปกิจนิมนต์ หรือ เจ็บป่วย
หลังจากบิณฑบาตรกลับมาท่านก็จะ รวม ฉันอาหารกับพระลูกวัดอย่าง มิได้แบ่งแยก ให้ความเมตตากับพระลูกวัดเสมอ หลวงพ่อท่านเป็นคนเรียบร้อย มีระเบียบวินัย ทุกอย่างที่ทำต้องมีระเบียบเรียบร้อยเสมอ

การสวดมนต์ทำวัตร หลวงพ่อท่านจะสวดมนต์ทุกวัน ก่อนสวดมนต์จะแสดงอาบัติก่อน เพื่อความบริสุทธิ์แห่งพรหมจรรย์กับพระลูกวัดเสมอ แล้วจึงจะเริ่มสวดมนต์

เมื่อถึงวันสันสวณะกลางเดือนหรือสิ้นเดือน หลวงพ่อท่านจะลงอุโบสถเป็นประจำและจะสวดพระปาฏิโมกข์ด้วยตัวท่านเอง ซึ่งเป็นปณิธาน ประการที่ ๒ ของท่าน

เสร็จภาระกิจตอนค่ำ ก่อนจะจำวัดจะสวดมนต์ในห้องพระส่วนตัวของท่านนั่งวิปัสนาและปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆของท่าน แผ่เมตตาถึง บิดา-มารดา ครู อาจารย์ ต่างๆที่ ประสิทธิประสาทวิชา การต่างๆให้

 

ขอสังเกตุ พระเครื่องหลวงพ่อบัว

รูปหล่อ รุ่น กินเลี้ยง

รูปหล่อหลวงพ่อบัวรุ่นกินเลี้ยงนั้น ในชุดแรกได้มีการจัดสร้างมา ประมาณ 2000 องค์ ซึ่งไม่พอกับ จำนวนญาติโยมที่ศัทธาในตัวท่าน จึงได้ทำการสร้าง เสริมขึ้นมา อีก 1 รุ่น อีก ประมาณ 1000 องค์ โดยในครั้งนี้ได้มีการจัดสร้างรูปหล่อพิเศษอีก 100 องค์

โดยการสังเกตุรูปหล่อหลวงพ่อนั้น สังเกตุจากก้นพระ ถ้าเป็นพระชุดแรก จะ มีก้นใหญ่ กริ่งที่ อุดมีการตอก อักษรขอม มะ อุ อิ พระเลี่ยมเดิมจะเป็นการเลี่ยมพลาสติกลายธงชาติ

ส่วนรุ่นที่สร้างเสริมขึ้นมานั้น ก้นพระจะเล็กกว่ารุ่นแรกที่สร้าง กริ่งที่อุดมีการตอกอักษรขอม อุ เพียงตัวเดียวเท่านั้น เลี่ยมพลาสติกลายเดียวกัน

ส่วนรูปหล่อที่สร้าง 100 องค์นั้นท่านมิได้แจกที่กินเลี้ยงแต่ท่าน แจกบรรดาศิษย์คนสนิทและกรรมการเท่านั้น โดยพระที่สร้าง 100 องค์นี้จะไม่ได้เลี่ยมพลาสติกแต่อย่างใดและไม่เป็น กะไหล่ทอง เพียงแต่ใส่กล่องเอาไว้

 

ตอนนี้หลวงพ่อท่านได้ มรณะภาพไปแล้วเป็นระยะเวลา 15 ปี แต่สภาพวัดที่ท่านได้ทำนุบำรุง มายังคงเป็นอนุสรณ์ รำลึกถึงท่าน เสมอมา ครับ

หลวงพ่อท่าน เป็นทั้งพระเกจิและพระนักพัฒนา สมัยที่ท่านอยู่นั้น ท่านได้ สร้างถาวรวัตถุไว้มากมาย อาทิ เช่น ศาลาวัด พระอุโบสถ เมรุ ตึกสงฆ์อาภาธ กำแพงและซุ้มประตูวัด และ ตลาดสดแสวงหา เป็นต้น

**เมรุ วัดแสวงหา ถอดแบบมาจาก วัดหลวงในกรุงเทพฯ ผมกล้าการันตีเลยว่า เป็น เมรุที่ใหญ่และสวยที่สุดในจังหวัดอ่างทอง**

 

จากประวัติของท่านจะเห็นได้ว่าท่านได้ครองเพศของสมณะ และพรหมจรรย์ มาตลอดระยะเวลาของท่านจน สิ้นอายุไข น้อยคนนักที่จะทำได้ถ้ามิได้ตั้งใจจริง

**หลวงตาที่สนิทกันบอกว่า หลวงพ่อทรงวัดศาลาดิน และ หลวงพ่อเกรียงวัดวังน้ำเย็น นั้น เคยมาเรียนวิชากับหลวงพ่อบัวด้วย อันนี้จริงเท็จประการใด ต้องถามพี่ P อีกทีครับ**

 

เข้ามาชมและศึกษา ครับผม
ขออนุโมทนา ครับผม
เอ.. ยังไม่มีเหรียญอัลปาก้าปี 28 ในกระทู้เลยครับ มีประวัติการสร้างบ้างหรือป่าวครับรุ่นนี้
ผมบังเอิญได้บูชามาน่ะครับ จากในท้องตลาดพระ ครับ ด้วยความเคารพครับ ขอบคุณครับ

 

เข้ามาชมครับ เยี่ยมมากครับศิษย์หลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์ ศิษย์ท่านสุดยอดทุกรูปครับ

 

คือเมื่อวานตอนถ่ายรูปแบตเตอร์รี่ผมหมดก่อนที่จะได้ถ่าย น่ะครับ เป็นเหรียญกลมๆเล็กๆใช่หรือเปล่าครับ เมื่อวานนี้หลวงตาท่านเมตตาพาขึ้นไปถ่ายรูปพระหลวงพ่อบัวที่ท่านเก็บเอาไว้ทั้งหมดให้ชม ผมเห็นแล้วยังตกใจ ท่านมีทุกรุ่นจริงๆ และที่สำคัญท่านเลี่ยมทองเหรียญสวยๆ เอาไว้ทุกรุ่น ผมอยากถ่ายรูปมาให้ชมจริงๆ

เพราะสวยมากและเยอะมากๆ

 

ครับผม ท่าน sirmai

 

อันนี้เป็นรายนามของ ศิษย์สายหลวงพ่อพระครูศรีวิริยะโสภิต วัดพระปรางค์ ทั้ง 9 รูป

๑. หลวงพ่อฟุ้ง วัดสะเดา
๒. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
๓. หลวงพ่อเจ้ย วัดห้วยเจริญสุข
๔. หลวงพ่อเย็น วัดกลางชูศรีเจริญสุข
๕. หลวงพ่อบัว วัดแสวงหา (พระครูปัญญาสารคณี)
๖. หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค (วัดโฆษิตาราม)
๗. หลวงพ่อพิมพ์ วัดวิหารทอง
๘. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง (พระเทพสิงหบุราจารย์)
๙. หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์ (เจ้าอาวาสรูปต่อมาจากหลวงพ่อศรี)


แต่โดยส่วนตัวทำไมไม่หลวงพ่อ หล่ำ วัดวังจิก

 

สุดยอดเลยครับ