**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11071

    รูปถ่ายครูบาชัยวงค์ ครึ่งองค์หน้าหนุ่ม เลี่ยมกรอบอลูมิเนียม
    ยุคต้น
    ตัวจริงเสียงจริงสวย สมบูรณ์ ไม่ผ่านการใช้ หายาก อีก 1 ในตำนานครับ


    ราคา 3999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    fdgg.jpg tyr.jpg xcrt.jpg fdy.jpg dfsfs.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11072

    เหรียญรุ่นแรกครูบาขาวปี ปี 2495

    เนื้อตะกั่ว ผิวปรอทเดิม ๆ เลี่่ยมเงินชุบทอง

    เหรียญครูบาขาวปีเป็นเหรียญที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากเหรียญเกจิอื่นๆเนื่องจากการแกะบล็อกเป็นรูปครูบานั่งทำสมาธิในมือถือลูกประคำอยู่ใต้ต้นสะหรี (ต้นโพธิ์)มี 5 กิ่ง นักสะสมนิยมเรียกกันติดปากว่า #เหรียญสลีห้ากิ่ง
    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ในการใช้บูชาของจริงที่มีสูงมากๆดีในเรื่องเมตตา มหานิยมและในด้าน คุ้มกันภยันตรายต่างๆได้ดี ครูบาขาวปี ท่านเป็นศิษย์สายตรงของครูบาเจ้าศรีวิชัยฯ ครูบาเจ้าฯท่านบวชให้ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยได้รับฉายาว่า พระอภิชัย แต่ถูกกลั่นแกล้งคล้ายครูบาเจ้าฯ ถูกทางเจ้าคณะพระครูจับสึกถึง 2 ครั้ง ครูบาขาวปีท่าน เป็นกำลังสำคัญในการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยนำชาวกะเหรี่ยงและ ชาวเขา เผ่าต่างๆ หลายพันคนมาช่วยสร้างทางจนเสร็จสำเร็จ หลังจากการสร้างทางเสร็จ ครูบาเจ้าฯได้ทำพิธีอุปสมบท ให้อีกครั้งเป็นพระภิกษุอภิชัย ณ วัดศรีโสดา อ.เมือง จ.เชียงใหม่

    #ถือเป็นเหรียญยุคเก่าก่อนปี2500ที่ประสบการณ์สูงมากเหรียญยอดนิยมของคนล้านนา

    ราคา 9999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    wd.jpg gyt.jpg y6t67.jpg fgdgd.jpg cxtretete.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11073

    พระบูชาครูบาผาผ่า วักกิตติวงค์ ปี 2520 เนื้อทองเหลืองรมดำ ขนาด 5 นิ้ว


    พิธีเหรียญรุ่น 2 ครูบาผาผ่า วัดกิตติวงศ์ ปี 2520 จัดสร้างน้อยหายากมากครับ


    ราคา 12500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    199E230A-251D-4525-8B8C-40AB0BBA3AA3.jpeg 1CD479F3-C076-4E39-9877-3BC68D8DB80B.jpeg A06AB6BE-7C3D-4551-8B42-1BD62E890E5E.jpeg 8AA03F52-3E53-4217-BBF6-7CF51B1537C8.jpeg 69B63305-55DF-463C-BE7B-DA9D35199EC1.jpeg 97C3E039-6990-4FFB-9A21-1A9D5BD537C2.jpeg 0726B122-AA1A-4B38-96C5-B318BCDEDB8E.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11074

    ตะกรุดไม้ไผ่แดง( พระมหาเมธังกร )วัดน้ำคือ จ.แพร่

    ตะกรุดไม้ไผ่แดงแทงจอมปลวก พระมหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่ ท่านเป็นพระเกจิที่ชาวแพร่และคนล้านนาให้ความนับถือท่านมาก ท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาชุ่มไปเรียนวิชากับท่านนานถึง 2พรรษา รวมถึงตระกรุดหนังควายตายกลม ท่านก็เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้ครูบาชุ่ม และ ท่านยังโด่งดังในเรื่องการสร้างกะลาและ"ตะกรุดไผ่แดงแทงจอมปลวก" ท่านจะเลือกเอาไม้ไผ่แดงที่ขึ้นกลางจอมปลวกมาสร้างเท่านั้นครับ
    เป็นตะกรุดแดนล้านนาที่หาชมยากครับกับตำราการสร้างหนึ่งเดียว เป็นไม้ไผ่แดงลงอักระยันต์บนกระดาษสาและพอกด้วยครั่งลงรักคลาสสิกเก่ามากๆครับตะกรุดไม้ไผ่แดงแทงจอมปลวก
    การสร้างตะกรุดของท่านจะสร้างตะกรุดโดยใช้ไม้ไผ่มาทำโดยท่านจะเลือกเอาไม้ไผ่ หรือ ไผ่แดง ที่ขึ้นกลางจอมปลวกมาทำเป็นเคล็ดวิชาของการสร้างตะกรุดชนิดนี้หายากมากครับ ตะกรุดไม้ไผ่ นี้ดีทางมหาอุดและแคล้วคลาดเป็นเลิศ และยังเป็นเมตตามหานิยม
    การันตรีด้วยความเข้มขัง สุดยอด ปรมาจารย์ มหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่ ท่านคือสุดยอด พระอาจารย์ ครูบาอาจารย์สมัยนั้น จึงเน้นสร้างเครื่องรางของขลัง ที่เกี่ยวกับ มหาอุด คงกระพัน โดยตะกรุดหนังฯ เป็นตะกรุดที่นิยมสร้างกันมากในเขต แพร่ น่าน โดยในยุคนั้น ผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดถือว่าเป็นดั่งปรมาจารย์ทางวิปัสสนา และพระเวทย์(เปรียบเสมือน อ. ทองเฒ่า แห่งสำนักเขาอ้อ) อยู่ทาง จ.แพร่ เป็นสหธรรมิก ของครูบาเจ้าศรีวิชัยและวิชาที่โดดเด่น คือการทำตะกรุดหนังลูกควายตายพราย คือ พระมหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่ ครูบาชุ่มท่านได้ทราบชื่อเสียงของ พระมหาเมธังกร(หลวงปู่หมา)ในคราวที่ตามครูบาเจ้าศรีวิชัย มาบูรณะวัดพระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดครูบาเจ้า ศรีวิชัย จนเมื่อปลงพระศพสรีระครูบาเจ้าศรีวิชัยแล้ว ครูบาชุ่มท่านเดินทางมาศึกษาวิชากับหลวงปู่พระมหาเมธังกรเป็นเวลา 2ปีอีกด้วยกัน

    จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานแห่งการสร้างตะกรุดของทางล้านนาที่หายากครับ


    ราคา 4550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    337266889_999038721083113_784812347976857009_n.jpg 337291030_747223916914538_7757475383358106731_n.jpg 337257612_1870548823327935_7275606687943532182_n.jpg 337263995_253560717175375_5511868330120526638_n.jpg 337427992_234340058976264_6472919703106923663_n.jpg 337536087_164733843115641_4502221239602927383_n.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11075

    วัวธนู อาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ วัดป่าสัก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ปี 2519 ปิวสวยรุ้ง พร้อมรอยจาร เดิม ๆ

    ตำนานวัวธนูวิ่งชนในบาตร ขนาดพิธีปลุกเสกกลางป่าช้า วัวธนูอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ สร้างเมื่่อปี พ.ศ.2519 วัตถุมงคลที่ว่านี้ไม่เป็นสองรองใครโดยประวัติการเล่าต่อๆกันมาว่าจนถึงปัจจุบัน ท่านอาจารย์เณรได้ปลุกเสกวัวธนูนี้ในป่าช้าบ้านป่าสัก2วาระ ปลุกเสกวัดร้างบนเขา เขตจอมทอง1วาระ เมื่อขณะที่ท่านกำลังปลุกเสกวาระที่กลางป่าช้าชาวบ้านต่างได้มีเสียงวัววิ่งรอบป่าช้า #โอมปลุก โอมปลุก กูจักปลุกวัวธนูกูหื้อมีกำลังเหมือนดังช้างสาร ป่าใหญ่ หื้อมีเตชะ อำนาจใหญ่เหมือนดัง ราชสีห์ล่าเนื้อ กูจักไจ้หื้อจนก่จน กูจักไจ้หื้อแตงก่แตง แม้นว่ากำแปง ปันแสนก่ปอพังทะลายได้ โอมสวาหะเท็ก
    สวยผิวรุ้งรอยจารเดิมๆ ท่านที่ชอบเก็บของสวยไม่ควรพลาดครับ


    ราคา 11550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    337276399_1215337696016463_4682758862239168356_n.jpg 337553731_174262675417452_6029146194263464176_n.jpg 337411357_121092734240811_5597180147238038351_n.jpg 337258777_129177883446082_5449833006504921496_n.jpg 337255070_1381734585956912_3760184329977114400_n.jpg 337155175_171174232435913_7258100965861444275_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11075

    พระกริ่งพุทธบุพพาภิมงคล ภปร. ปี2519 เนื้อเงิน ในหลวง ร 9 เสด็จเททอง สวย มาพร้อมกล่องเดิม

    จัดสร้างโดยพระครูมงคลศีลวงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น ปัจจุบันท่านคือ เจ้าอาวาส วัดบุพพาราม จ.เชียงใหม่ และ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่) ในปี 2519 ทางวัดมีความต้องการจัดหาทุนในการจัดสร้างหอมณเฑียรธรรม ของวัดบุพพารามโดยในวันทำพิธีมหาพุทธาภิเศก ทางวัดได้กราบบังคมทูลเชิญองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินเททองหล่อ พระประธานประจำหอมณเฑียรธรรม วัดบุพพาราม โดยได้รับการประทานชื่อพระพุทธบุพพาภิมงคล โดย พระองค์ท่านได้พระราชทานพระนามของพระพุทธรูปว่า " พระพุทธบุพพาภิมงคล
    รายชื่อพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ๔๙ องค์
    .
    ๑ . ) สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธฯ(สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18)
    ๒ . ) สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ (สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19)
    ๓ . ) สมเด็จพระธีรญาณ วัดจักรวรรดิ์ฯ
    ๔ . ) พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดสุทัศน์ฯ
    ๕ . ) พระวิสุทธาธิบดี วัดไตรมิตร
    ๖ . ) พระธรรมวโรดม วัดประทุมคงคา
    ๗ . ) พระพุทธวงศ์มุนี วัดเบญจมบพิตร
    ๘ . ) พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
    ๙ . ) พระเทพวิสุทธิโสภณ วัดเชียงราย
    ๑๐. ) พระเทพวิสุทธิ์ วัดเจดีหลวง
    ๑๒. )*ครูบาคำแสน อินฺทจกฺโก* วัดสวนดอก(บุปผาราม)
    ๑๓. )*ครูบาคำแสนเล็ก คุณาลงฺกาโล* วัดบ๊าดอนมูล
    ๑๓. ) ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
    ๑๔. ) ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ๑๕. ) หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาบ่อง
    ๑๖. ) พรอาจารย์หนู วัดแม่ปั่ง
    ๑๗. ) ครูบาอินถา วัดเชียงมั่น
    ๑๘. ) ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง
    ๑๙. ) พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม
    ๒๐. ) ครูบาบุญมี(พระครูธรรมธร) วัดท่าส๋อย
    ๒๑. ) ครูบาคำบัน(พระครูมงคลคุณาทร) วัดหม้อคำดวง
    ๒๒. ) ครูบาปั๋น วัดกู่คำ
    ๒๓. ) ครูบาแก้ว วัดวิเวกวนาราม
    ๒๔. ) ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    ๒๕. ) ครูบาจินา วัดท่าข้าม
    ๒๖. ) ครูบาคำตันดินจืน วัดดอนจืน
    ๒๗. ) พระอาจารย์ทองบัว วัดโรงธรรม
    ๒๘. ) ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดทุ่งจำปี
    ๒๙. ) พระประสาท สุตาคม วัดจามเทวี
    ๓๐. ) พระราชสุมนต์มุนี วัดราชบพิธ
    ๓๑. ) ครูบาจุ่ม โพธิโต วัดวังมุย
    ๓๒. ) พระญาณวีราคม วัดดอนเจดีย์
    ๓๓. ) ครูบาเมือง วัดท่าแหน
    ๓๔. ) ครูบาคำแสน วัดท่าแหน
    ๓๕. ) พระอินทวิชยาจารย์ วัดคะตึก
    ๓๖. ) ครูบาอินโต วัดบุญยืน
    ๓๗. )*หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี*
    ๓๘ . ) ครูบาหล้า วัดดอยคู่ค้าง
    ๓๙. ) พระราชรัตนมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง
    ๔๐. ) พระชยานันทมุนี วัดพญาภู
    ๔๑. ) พระญาณมงคล วัดมหาวัน
    ๔๒. ) หลวงพ่อแพ วัดพิกุทอง
    ๔๓. ) หลวงพ่อนอ วัดกลาง
    ๔๔. ) หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
    ๔๕. ) หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    ๔๖. ) หลวงพ่อถีร วัดป่าเรไลย์
    ๔๗. )*พระอาจารย์ มหาวีระ *(หลวงพ่อฤษีลิงดำ) วัดท่าซุง
    ๔๘. )*พระอาจารย์ผั้นอาจาโร* วัดป่าอุดมพร
    ๔๙. ) พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา
    องค์นี้เนื้อเงินสวยกล่องเดิมสร้างน้อยมาก ครับ


    ราคา 12550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    337376783_1258056585130900_2438554843597064196_n.jpg 337147809_2379411048885209_4489619557948132129_n.jpg 337048532_645779547309746_1907108359770658854_n.jpg 337165220_606465440989974_1171793155189440705_n.jpg 337045325_170627589131812_1722709294064809480_n.jpg U13305236380475320714278081.jpg U13305236380475320715838082.jpg U13305236380475319453795871.jpg 337236371_1290818081648241_4229899530369586390_n.jpg U13305236381002633020153962.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11076

    ตะกรุดปรอท ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย เชือกเหลือง
    แจกศิษย์ท่าซุง นิยม


    เป็นวัตถุมงคลที่หลวงปู่ชุ่มนำออกมาแจกญาติโยมซึ่งแวะเวียนไปกราบนมัสการท่านเสมอๆ ท่านทำตะกรุดไว้หลายรุ่น หลายขนาด ทั้งแบบเป็นตะกั่ว ลงอักขระ ม้วนเป็นตะกรุดแล้วร้อยด้วยเชือก ทั้งแบบมีหนังความหุ้มตะกรุดอีกที และแบบปรอทมีรูตรงกลาง ใช้รัดท่อนแขน ห้อยคอ และคาดเอวปรอท

    เป็นยันต์ที่สร้างขึ้นจากการหุงแร่ปรอทและโลหะธาตุต่างๆเป็นโลหะที่พิเศษพิสดาร เป็นของเหลวไหลไปมาไม่อยู่นิ่ง พระที่ท่านซัดปรอทให้แข็งตัวได้ อาศัยกำลังจิตที่แกร่งกล้านักด้วยพลังแห่งฌานสมาบัติที่แก่กล้า และพลังแห่งเมตตาจิต รวมทั้งสรรพวิชาที่ท่านได้เพียรศึกษาและสั่งสมมาตามคติครูบาอาจารย์ ทำให้กิตติศัพท์ความเก่งกล้าทางด้านวิชาพุทธาคมของหลวงปู่ชุ่ม เป็นที่เชื่อมั่นในหมู่ประชาชนยิ่งนัก โดยเฉพาะด้านคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด หลวงปู่ชุ่มท่านเป็นพระภิกษุที่มีความชำนาญด้านการผูกอักขระเลขยันต์ต่างๆ รวมทั้งมีอำนาจฌาณสมบัติที่แกกล้าและขลังมาก หลวงปู่ชุ่มได้รับนิมนต์ให้ไปเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกหลายงาน ลูกสะกดปรอท ที่ท่านครูบาชุ่มเสกให้นั้นกันภัยได้ทั้งปวง

    ตะกรุดนี้เลื่องลือที่สุดในการขจัดปัดเป่าวิญญาญร้ายและทางปัดแก้โรคคภัยและสิ่งชั่วร้ายต่างๆทั้งเรื่องข่ามคง อยู่ยง คงกระพัน กันพิษจากสัตว์ได้

    1. กันผีป่า ผีดง ผีกะสือ ผีต่างๆ ใช้ได้อย่ากังวลเรื่องผี เข้าป่าเข้าดงจะนอนไหนก็ได้

    2. ถ้าบุตรหลาน เหลนของท่าน นอนสะดุ้งตกใจร้องให้ ให้เอายันต์ปรอทเช็ดแหกไปตามตัว แล้วเอาผูกคอไว้ ก็จะไม่ร้องให้

    3. หากท่านทำงานหนัก เจ็บเอว ให้เอาปรอทผูกเอวไว้ ๒-๓ ก็จะหาย

    4. หากผู้ใดถูกอาวุธ ของมีคม เลือดออกไม่หยุด เอาปรอทปิดปากแผล เลือดจะหยุดทันที

    5. หากถูกตะเข็บ ตะขาบ ขบต่อย เอาปรอทปิดแผล ๕ นาทีก็หาย

    6. หญิงมีครรภ์จะคลอดลูก ให้เอาปรอทดมกลืนกินน้ำลาย ก็จะคลอดลูกง่าย

    7. ถ้าบุตรหลานของท่าน มีปรอทผูกคอไว้ประจำ จะไม่มีอันตรายเกิดขึ้นกับเด็ก มีแต่ความสบายดี

    8.หากเจ็บป่วยไม่รู้สาเหตุ โดนตู้ลองขอร้าย(คุณไสย)ให้เอาปรอทลงแช่น้ำแล้วกินอาบจะถอนสิ้นแล

    (เว้นไว้กับทองอย่าผูกติดกันจะเสียทองคำของท่าน)ยันต์ปรอทยังสามารถกันสาตราอาวุธปืนผาหน้าไม้และคุณไสยทุกชนิดได้ดียิ่งนักแล-ครูบาคำปันมีชื่อเสียงด้านทำยันต์ปรอทและยันต์กาสะท้อน

    "ยันต์ปรอทช่วยด้านถูกสัตว์มีพิษเช่นแมงป่องต่อย ใช้ยันต์ปรอททาที่แผล ว่ากันว่าสามารถดูพิษได้ รวมทั้งหากเด็กอ่อนร้องไห้เวลากลางคืนซึ่งอาจถูกรบกวนจากสิ่งอัปมงคลเมื่อนำยันต์ปรอทมาห้อยคอเด็ก เด็กก็จะหายเป็นปกติไม่ร้องไห้ นอกจากนี้ยังใช้กันภูตผีได้อีกด้วย คนนับถือกันมาก ส่วนยันต์กาสะท้อนใช้ เด่นทางหนังเหนียวยิงไม่เข้า ลักษณะเป็นการเขียนยันต์ในแผ่นทองแดงแล้วนำมาม้วนใช้เชือกสีแดงร้อย ผู้ที่ได้รับมาใช้ผูกติดตัวไปครับ

    ตัวตริงหายากมากครับ


    ราคา 11500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    BDAFCD7C-00E6-46BF-AB67-7760FD586BF4.jpeg 01A0DD08-3763-42D7-8AEF-D93E14D96A25.jpeg 7453A956-41E1-4453-9601-6F73F3F3EB9B.jpeg 1FD86FF7-1FEF-4A8C-AC3B-4A9E3C8EC7A0.jpeg 2B9C2D52-151D-4D6C-B33C-5B65FBCBF87A.jpeg 08D1B521-3B3C-4B5C-BE3C-EF09268CB4B0.jpeg DE54C976-9959-4EB8-8A76-277C688BCF8B.jpeg 3E376DB4-4E0F-4A77-A490-52F36A9A2E1E.jpeg FC54164C-C33E-4535-BE08-8FF31CF53237.jpeg B46EB5B2-B7E6-4722-8721-905080C8C059.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11077

    เหรียญรุ่นแรกครูบาขันแก้ว เนื้อทองแดง ปี 2520ตอกโค๊ต คมชัดลึก

    คณะศิษย์รัศมีพรหม (ศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์) นำโดย คุณหมอสมสุข คงอุไร จัดสร้างถวาย พ.ศ.2520 ผสมเนื้อทองระฆังหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ตะกรุดสหรีกัญชัย
    ตอกโค๊ต คมชัดลึก สวยเดิมครับ


    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_12.jpg Clip_13.jpg Clip_14.jpg

    ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ถือเป็นพระเกจิล้านนาอีกท่านหนึ่งที่เป็นทั้งนักพัฒนา นักเทศน์ และยังมีฝีมือทางด้านศิลปะ ขณะครูบาขันแก้ว พรรษาที่ ๘ อายุ ๓๐ ปีตรงกับพ.ศ. ๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาจาริกธุดงค์มาบูรณะพระเจดีย์ และพระวิหารที่ “ดอยห้างบาตร” ครูบาศรีวิชัยได้เห็นฝีมือความสามารถทางช่างและอินทรีย์ที่ผ่องใสจากการปฏิบัติธรรม จึงได้มอบหมายให้ดูแลการบูรณะพระเจดีย์และพระวิหารแทน ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะได้จาริกธุดงค์ต่อไป ได้ให้พรครูบาขันแก้ว อุตตโม ว่า
    “ให้ตุ๊น้องจงปฏิบัติธรรมจนไม่หวั่น ไหวในโลกธรรม ๘”
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้วอุตตโม) อดีตเจ้าอาวาส วัดสันป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) เกิดเมื่อวันอังคาร ที่ ๑๔ พ.ย.๒๔๔๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๑๒ (เดือนยี่เหนือ) ปีกุนที่ ต.ห้วยยาบ อ.เมือง จ.ลำพูน มีนามเดิมว่า ขันแก้ว นามสกุล อิกำเหนิด บิดาชื่อ นายอินตา อิกำเหนิด มารดาชื่อ นางสม อิกำเหนิด ท่านครูบามีพี่น้องเกิดท้องเดียวกัน ๕ คน เป็นน้องหญิง ๓ คน น้องชาย ๑ คน คือ
    ๑. พระครูอุดมขันติธรรม(ครูบาขันแก้ว อุตตโม)
    ๒. ด.ญ.อุ่น อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเยาว์)
    ๓. นางบัวเขียว อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    ๔. นายก๋อง อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมแต่มีบุตรหลานสืบสกุลอยู่ในปัจจุบันนี้)
    ๕. นางทา อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    โยมปู่ครูบาขันแก้ว ได้อพยพครอบครัวมาจาก ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูนมาอยู่ ต.ห้วยไซก่อน แล้วจึงได้อพยพย้ายครอบครัวลงมาอยู่ที่ ต.ห้วยยาบ ตั้งรกรากใกล้กับวัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) ซึ่งเป็นวัดร้าง และได้เป็นหัวหน้าบูรณะ ซ่อมแซมก่อสร้างจนเป็นวัดขึ้นมาตราบจนทุกวันนี้
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว อุตตโม) ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี ณ วัดป่ายาง อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดต้นปิน ต.บ้านธิ อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระอธิการแก้ว (ครูบาอินทจักโก) วัดป่าลานเป็นพระอุปัชณาย์ ได้ฉายาว่า “อุตตโม” พรรษาที่ ๔ อายุได้ ๒๕ ปี ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ จ.ลำพูนให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่ายาง เมื่อพ.ศ.๒๔๖๘
    พรรษาที่ ๖ อายุได้ ๒๗ ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยยาบและเป็นผู้รักษาการเจ้าคณะตำบลบ้านธิอีกตำแหน่ง ปกครองดูแลวัดทั้ง ๒ ตำบลถึง ๖๘ วัด พรรษาที่ ๓๒ อายุได้ ๕๓ ปี ได้รับสมณศักดิ์พระครูชั้นประทวนและในพรรษานี้ได้ไปบำเพ็ญมหากุศล มหาวิบากญาณรัมปยุต ๑๓ และมหากิริยาจิตเข้า “อภิสัญญาณโรธ”กับครูบาชุ่มโพธิโก ณ “ดอยห้างบาตร” เมื่อบำเพ็ญทุกข์กิริยาเพื่อให้เกิด “วิปัสสนาญาณ” ได้ “ธรรมจักษุ” (ดวงตาเห็นธรรม) ๗ วัน ๗ คืน ใน ๔ อิริยาบถ พรรษาที่ ๔๙ อายุได้ ๗๐ ปี ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอุดมขันติธรรม”
    ในปีพ.ศ.๒๕๒๑ และปีพ.ศ.๒๕๒๓ ครูบาขันแก้วได้เมตตาต่อคณะศิษย์วัดมีพรหมโพธิโก แสดงมหากิริยาจิต กำหนด “สุขวิปัสสก” ด้วยโสมนัสสหคตังญาณ สมปยุตตัง อสังขาริกัง ให้เกิด ”ปัญญาวิมุตติ” ได้”ธรรมจักษ์” ประหารกิเลสด้วย “สมุทจเฉทประหาร” และกำหนดมหากิริยาจิตแสดง “นิพพานัสส รจังฉิกิริยา” (การทำให้แจ้งในพระนิพพาน) ด้วยอารมณ์การได้ “มงกฎพระเจ้า” ดวงตาของครูบาขันแก้ว อุตตโม ได้เปลี่ยนสีจากสีเนื้อลูกลำไย เป็น “สีฟ้าเข้มทั้งดวงตา” แสดงถึงกิริยาของผู้หมดกิเลสเป็นการเปิดภูมิปัญญาในโลกุตรภูมิ เบื้องต้นและโลกุตระภูมิสูงสุด พระเมตตาคุณที่ได้แสดงมหากิริยาจิตในการโปรดสัตว์ทั้งสองครั้งนี้ ยากที่จะลืมเลือนได้
    หลวงปู่ขันแก้ว เป็นเพื่อนรักของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลช่วยงานศพอยู่ทุกคืนน่าจะนิมนต์มาท่านมาร่วมด้วย จะเคยปลุกเสกหรือไม่เคยปลุกเสกไม่สำคัญ คณะกรรมการวัดก็เลยนิมนต์ หลวงปู่ครูบาขันแก้ว มาร่วมพิธีด้วยแสดงความมหัศจรรย์นั่งเคี้ยวเมี่ยงในงานพุทธาภิเษก
    พิธีปลุกเสกได้เริ่มในตอนกลางคืนวันที่ 18 ก.พ. 2520 เวลา19.50น หลวงปู่ขันแก้ว ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาพระประธาน หลวงปู่อีก3 องค์คือ หลวงปู่อินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ท่านเจ้าคุณญาณ วัดมหาวัน หลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย นั่งหลับตาแผ่อำนาจจิตปลุกเสก แต่หลวงปู่ขันแก้วกับนั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงอยู่เบิกตากว้างมองดูเฉยๆๆ ชาวบ้านวัดวังมุ่ยเริ่มมีปฎิกริยาพึมพำพูดกันว่าใครหนอนิมนต์ตุ๊เจ้าที่ปลุกเสกไม่เป็นมาร่วมพีธี ทำเอาเจ้าคณะตำบลประตูป่าเข้ามาพูดกับคุณพ่อสมสุขว่า โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา พวกที่ชมและชาวบ้านในพีธีบ่นว่าไปเอาพระที่ไหนมา ดูซินั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย คุณพ่อบอกว่าผมนิมนต์มาเองขอให้รอดูประเดี๋ยว
    คุณพ่อยังนึกอยู่ว่านั่งเบิกตาอย่างนี้เคยเห็นที่ไหน หลวงปู่ขันแก้วนั่งลืมตาอยู่เกือบ15 นาที่ ประกายตากร้าวแข็ง ส่วนองค์อื่นท่านนั่งหลับตาตามความถนัดของท่าน ส่งกระแสจิตออกมาปลุกเสก หลวงปู่ขันแก้ว ปลุกเสกด้วย เมตตาเจโตวิมุติ หลวงปู่เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยนั่งห้อยเท้า ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้า ขณะนั้นช่างภาพก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น ทันที่ที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้านัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กระพริบ ช่างภาพอีกหลายคนก็เข้าไปถ่ายแสงไฟสว่างจ้าแต่นัยต์ตาของหลวงปู่ก็อยู่อย่างปกติคือลืมตาอย่างนั้นไม่กระพริบเลย หลังจากนั้นช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็เข้าไปถ่ายซึ่งไฟแฟล็ชแรงกว่ามากก็เข้าไปถ่ายผลปรากฎ ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบเป็นเวลานาน คนธรรมดาไม่สามารถทำได้อย่างแน่ เปิดภูมิปัญญาโลกุตระด้วยมหากริยาจิต
    คุณพ่อเข้าใจทันที ที่นึกว่าเคยเห็นที่ไหนก็นึกออกว่าเคยเห็น หลวงปู่พรหม ถาวโร แห่งวัดช่องแค ท่านปลุกเสก พระแสงแฟล็ช ถ่ายรูปไม่ทำให้ นัยน์ตา ท่านกระพริบและท่านก็นั่งลืมตาปลุกเสกความจริงแล้วหลวงปู่ขันแก้วไม่ได้มีเจตนาจะแสดงอภินิหารหรืออวดเป็นเพียงการนั่งปลุกเสกของผู้สำเร็จอานาปานสติกรรมฐาน คือสมาธิแบบลืมตาและนั่งหายใจออก หายใจเข้าจนได้ดวงตาเห็นธรรมและใจหมดอาสวะกิเลสเป็นแบบสมาธิที่ถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานแสดงในอานาปาสติสูตรจากหนังสืองานพระศพของหลวงปู่ขันแก้วที่คุณพ่อสมสุข
    พระอริยะสงฆ์ผู้ที่จารึกว่า พระผู้อุดมด้วยวิชชา และวิมุตฺติ มีไว้บูชาติดตัว ติดบ้านร่มเย็นเป็นสุข กันภัยที่จะเกิดขึ้นทั้งปวงครับ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11078

    เหรียญรุ่นแรกครูบาขันแก้ว เนื้อทองแดง ปี 2520ตอกโค๊ต คมชัดลึก/2

    คณะศิษย์รัศมีพรหม (ศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์) นำโดย คุณหมอสมสุข คงอุไร จัดสร้างถวาย พ.ศ.2520 ผสมเนื้อทองระฆังหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ตะกรุดสหรีกัญชัย
    ตอกโค๊ต คมชัดลึก สวยเดิมครับ


    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_5.jpg Clip_6.jpg Clip_14.jpg

    ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ถือเป็นพระเกจิล้านนาอีกท่านหนึ่งที่เป็นทั้งนักพัฒนา นักเทศน์ และยังมีฝีมือทางด้านศิลปะ ขณะครูบาขันแก้ว พรรษาที่ ๘ อายุ ๓๐ ปีตรงกับพ.ศ. ๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาจาริกธุดงค์มาบูรณะพระเจดีย์ และพระวิหารที่ “ดอยห้างบาตร” ครูบาศรีวิชัยได้เห็นฝีมือความสามารถทางช่างและอินทรีย์ที่ผ่องใสจากการปฏิบัติธรรม จึงได้มอบหมายให้ดูแลการบูรณะพระเจดีย์และพระวิหารแทน ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะได้จาริกธุดงค์ต่อไป ได้ให้พรครูบาขันแก้ว อุตตโม ว่า
    “ให้ตุ๊น้องจงปฏิบัติธรรมจนไม่หวั่น ไหวในโลกธรรม ๘”
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้วอุตตโม) อดีตเจ้าอาวาส วัดสันป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) เกิดเมื่อวันอังคาร ที่ ๑๔ พ.ย.๒๔๔๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๑๒ (เดือนยี่เหนือ) ปีกุนที่ ต.ห้วยยาบ อ.เมือง จ.ลำพูน มีนามเดิมว่า ขันแก้ว นามสกุล อิกำเหนิด บิดาชื่อ นายอินตา อิกำเหนิด มารดาชื่อ นางสม อิกำเหนิด ท่านครูบามีพี่น้องเกิดท้องเดียวกัน ๕ คน เป็นน้องหญิง ๓ คน น้องชาย ๑ คน คือ
    ๑. พระครูอุดมขันติธรรม(ครูบาขันแก้ว อุตตโม)
    ๒. ด.ญ.อุ่น อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเยาว์)
    ๓. นางบัวเขียว อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    ๔. นายก๋อง อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมแต่มีบุตรหลานสืบสกุลอยู่ในปัจจุบันนี้)
    ๕. นางทา อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    โยมปู่ครูบาขันแก้ว ได้อพยพครอบครัวมาจาก ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูนมาอยู่ ต.ห้วยไซก่อน แล้วจึงได้อพยพย้ายครอบครัวลงมาอยู่ที่ ต.ห้วยยาบ ตั้งรกรากใกล้กับวัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) ซึ่งเป็นวัดร้าง และได้เป็นหัวหน้าบูรณะ ซ่อมแซมก่อสร้างจนเป็นวัดขึ้นมาตราบจนทุกวันนี้
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว อุตตโม) ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี ณ วัดป่ายาง อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดต้นปิน ต.บ้านธิ อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระอธิการแก้ว (ครูบาอินทจักโก) วัดป่าลานเป็นพระอุปัชณาย์ ได้ฉายาว่า “อุตตโม” พรรษาที่ ๔ อายุได้ ๒๕ ปี ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ จ.ลำพูนให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่ายาง เมื่อพ.ศ.๒๔๖๘
    พรรษาที่ ๖ อายุได้ ๒๗ ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยยาบและเป็นผู้รักษาการเจ้าคณะตำบลบ้านธิอีกตำแหน่ง ปกครองดูแลวัดทั้ง ๒ ตำบลถึง ๖๘ วัด พรรษาที่ ๓๒ อายุได้ ๕๓ ปี ได้รับสมณศักดิ์พระครูชั้นประทวนและในพรรษานี้ได้ไปบำเพ็ญมหากุศล มหาวิบากญาณรัมปยุต ๑๓ และมหากิริยาจิตเข้า “อภิสัญญาณโรธ”กับครูบาชุ่มโพธิโก ณ “ดอยห้างบาตร” เมื่อบำเพ็ญทุกข์กิริยาเพื่อให้เกิด “วิปัสสนาญาณ” ได้ “ธรรมจักษุ” (ดวงตาเห็นธรรม) ๗ วัน ๗ คืน ใน ๔ อิริยาบถ พรรษาที่ ๔๙ อายุได้ ๗๐ ปี ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอุดมขันติธรรม”
    ในปีพ.ศ.๒๕๒๑ และปีพ.ศ.๒๕๒๓ ครูบาขันแก้วได้เมตตาต่อคณะศิษย์วัดมีพรหมโพธิโก แสดงมหากิริยาจิต กำหนด “สุขวิปัสสก” ด้วยโสมนัสสหคตังญาณ สมปยุตตัง อสังขาริกัง ให้เกิด ”ปัญญาวิมุตติ” ได้”ธรรมจักษ์” ประหารกิเลสด้วย “สมุทจเฉทประหาร” และกำหนดมหากิริยาจิตแสดง “นิพพานัสส รจังฉิกิริยา” (การทำให้แจ้งในพระนิพพาน) ด้วยอารมณ์การได้ “มงกฎพระเจ้า” ดวงตาของครูบาขันแก้ว อุตตโม ได้เปลี่ยนสีจากสีเนื้อลูกลำไย เป็น “สีฟ้าเข้มทั้งดวงตา” แสดงถึงกิริยาของผู้หมดกิเลสเป็นการเปิดภูมิปัญญาในโลกุตรภูมิ เบื้องต้นและโลกุตระภูมิสูงสุด พระเมตตาคุณที่ได้แสดงมหากิริยาจิตในการโปรดสัตว์ทั้งสองครั้งนี้ ยากที่จะลืมเลือนได้
    หลวงปู่ขันแก้ว เป็นเพื่อนรักของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลช่วยงานศพอยู่ทุกคืนน่าจะนิมนต์มาท่านมาร่วมด้วย จะเคยปลุกเสกหรือไม่เคยปลุกเสกไม่สำคัญ คณะกรรมการวัดก็เลยนิมนต์ หลวงปู่ครูบาขันแก้ว มาร่วมพิธีด้วยแสดงความมหัศจรรย์นั่งเคี้ยวเมี่ยงในงานพุทธาภิเษก
    พิธีปลุกเสกได้เริ่มในตอนกลางคืนวันที่ 18 ก.พ. 2520 เวลา19.50น หลวงปู่ขันแก้ว ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาพระประธาน หลวงปู่อีก3 องค์คือ หลวงปู่อินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ท่านเจ้าคุณญาณ วัดมหาวัน หลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย นั่งหลับตาแผ่อำนาจจิตปลุกเสก แต่หลวงปู่ขันแก้วกับนั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงอยู่เบิกตากว้างมองดูเฉยๆๆ ชาวบ้านวัดวังมุ่ยเริ่มมีปฎิกริยาพึมพำพูดกันว่าใครหนอนิมนต์ตุ๊เจ้าที่ปลุกเสกไม่เป็นมาร่วมพีธี ทำเอาเจ้าคณะตำบลประตูป่าเข้ามาพูดกับคุณพ่อสมสุขว่า โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา พวกที่ชมและชาวบ้านในพีธีบ่นว่าไปเอาพระที่ไหนมา ดูซินั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย คุณพ่อบอกว่าผมนิมนต์มาเองขอให้รอดูประเดี๋ยว
    คุณพ่อยังนึกอยู่ว่านั่งเบิกตาอย่างนี้เคยเห็นที่ไหน หลวงปู่ขันแก้วนั่งลืมตาอยู่เกือบ15 นาที่ ประกายตากร้าวแข็ง ส่วนองค์อื่นท่านนั่งหลับตาตามความถนัดของท่าน ส่งกระแสจิตออกมาปลุกเสก หลวงปู่ขันแก้ว ปลุกเสกด้วย เมตตาเจโตวิมุติ หลวงปู่เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยนั่งห้อยเท้า ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้า ขณะนั้นช่างภาพก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น ทันที่ที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้านัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กระพริบ ช่างภาพอีกหลายคนก็เข้าไปถ่ายแสงไฟสว่างจ้าแต่นัยต์ตาของหลวงปู่ก็อยู่อย่างปกติคือลืมตาอย่างนั้นไม่กระพริบเลย หลังจากนั้นช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็เข้าไปถ่ายซึ่งไฟแฟล็ชแรงกว่ามากก็เข้าไปถ่ายผลปรากฎ ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบเป็นเวลานาน คนธรรมดาไม่สามารถทำได้อย่างแน่ เปิดภูมิปัญญาโลกุตระด้วยมหากริยาจิต​
    คุณพ่อเข้าใจทันที ที่นึกว่าเคยเห็นที่ไหนก็นึกออกว่าเคยเห็น หลวงปู่พรหม ถาวโร แห่งวัดช่องแค ท่านปลุกเสก พระแสงแฟล็ช ถ่ายรูปไม่ทำให้ นัยน์ตา ท่านกระพริบและท่านก็นั่งลืมตาปลุกเสกความจริงแล้วหลวงปู่ขันแก้วไม่ได้มีเจตนาจะแสดงอภินิหารหรืออวดเป็นเพียงการนั่งปลุกเสกของผู้สำเร็จอานาปานสติกรรมฐาน คือสมาธิแบบลืมตาและนั่งหายใจออก หายใจเข้าจนได้ดวงตาเห็นธรรมและใจหมดอาสวะกิเลสเป็นแบบสมาธิที่ถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานแสดงในอานาปาสติสูตรจากหนังสืองานพระศพของหลวงปู่ขันแก้วที่คุณพ่อสมสุข
    พระอริยะสงฆ์ผู้ที่จารึกว่า พระผู้อุดมด้วยวิชชา และวิมุตฺติ มีไว้บูชาติดตัว ติดบ้านร่มเย็นเป็นสุข กันภัยที่จะเกิดขึ้นทั้งปวงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11079

    เหรียญรุ่นแรกครูบาขาวปี ปี 2495 เนื้อทองแดง ผิวหิ้งเดิมๆ

    เหรียญครูบาขาวปีเป็นเหรียญที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากเหรียญเกจิอื่นๆเนื่องจากการแกะบล็อกเป็นรูปครูบานั่งทำสมาธิในมือถือลูกประคำอยู่ใต้ต้นสะหรี (ต้นโพธิ์)มี 5 กิ่ง นักสะสมนิยมเรียกกันติดปากว่า #เหรียญสลีห้ากิ่ง
    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ในการใช้บูชาของจริงที่มีสูงมากๆดีในเรื่องเมตตา มหานิยมและในด้าน คุ้มกันภยันตรายต่างๆได้ดี ครูบาขาวปี ท่านเป็นศิษย์สายตรงของครูบาเจ้าศรีวิชัยฯ #ถือเป็นเหรียญยุคเก่าก่อนปี2500ที่ประสบการณ์สูงมากเหรียญยอดนิยมของคนล้านนา


    ราคา 7999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_16.jpg Clip_17.jpg Clip_18.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11080

    พระกริ่งไจยะเบงชรพญาวันครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง จ. เชียงใหม่
    เนื้อทองจังโก๋ #ก้นอุดผงตะกรุดเกศา #1ใน300องค์


    พระกริ่งไจยะเบงชร(เนื้อทองจังโก๋พญาวันปฐมชินบัญชรล้านนา ที่ระลึกเจริญอายุครบ 100 ปี พ.ศ. 2545 พระครูวรวุฒิคุณ (อิน อินโท) วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) จ. เชียงใหม่...
    มวลสารสำคัญ-
    ...ด้วยเดชะบุญญาบารมีแห่งพระพุทธปริตรคาถา “ไจยะเบงชร” (ชินบัญชรล้านนา) ต้นตำหรับแรกสุดแห่งสยามประเทศ ซึ่งทรงกฤษฎาภินิหารอย่างยิ่งยวดและทรงคุณค่าอย่างพิเศษสุด ในอันที่จะได้สำเร็จเป็นพุทธานุสารณียวัตถุ ที่พึ่งพากราบไหว้สาสักการะแห่งมวลหมู่พุทธศาสนิกชนทั่วทั้งแผ่นดินไปสืบ ชั่วกัลปาวสาน นอกจากนี้ยังมีการจารอักขระมหายันต์ “ไจยะเบงชร” ทั้งแบบย่อและแบบพิสดาร..
    -พิธีพุทธาภิเศก-
    วัตถุมงคลรุ่นไจยะเบงชร ผ่านการปลุกเสก ๕ ครั้ง ดังต่อไปนี้
    ครั้งที่ ๑: วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ เวลา ๙:๓๙ น. - ในพิธีอธิษฐานจิตเทชนวนพระกริ่ง
    ครั้งที่ ๒: วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ - ในวันประกอบพิธีเททองหล่อพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ (ในงานวันนี้มีการแจกพระสมเด็จไจยะเบงชร)
    ครั้งที่ ๓: วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ - หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโทอธิษฐานจิตเดี่ยว เป็นวันเสาร์ ๕ ใหญ่ เป็นเวลา ๑ ชั่วโมงเต็ม
    ครั้งที่ ๔: วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ - อธิษฐานจิตในพิธีสืบชะตาหลวงมหามงคล ฉลองยุตม์หนึ่งศตวรรษ (ในงานวันนี้มีการแจกพระปิดตา และ พระหลวงพ่อเงินเนื้อไม้พยุง และ พระผงฤาษีวาสุเทพ))
    ครั้งที่ ๕: วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ - อธิษฐานจิตเดี่ยวครั้งสุดท้าย วันมาฆปุณณมีบูชา

    ก้นอุดผงเกศาตะกรุดสร้างเพียง300องค์เท่านั้น สวยเดิมๆน่าบูชามากครับ


    ราคา 7999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_21.jpg Clip_22.jpg Clip_23.jpg Clip_25.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11081

    รูปหล่อโบราณ รุ่นแรกครูบาอิน อินโท เนื้อทองผสม ก้นตัน

    “พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า
    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี
    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ
    รูปหล่อโบราณรุ่นแรกครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง เนื้อทองผสม ก้นอุดกริ่ง จัดสร้างในปี ๒๕๓๓ หลวงปู่ครูบาอิน เจริญอายุ ได้ ๘๘ ปี ได้มีการจัดสร้างรูปหล่อขนาดบูชา หน้าตัก ๕ นิ้ว ขึ้นเป็นครั้งแรก จำนวนร้อยกว่าองค์ และรูปหล่อโบราณขนาดเล็ก โดยหลวงปู่ครูบาอินอธิษฐานจิตเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๓
    จำนวน 1000 องค์
    เนื้อหาเข้มขลัง ราคาเบาๆน่าบูชามากครับ


    ราคา 2550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    Clip_34.jpg Clip_35.jpg Clip_36.jpg Clip_37.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11082


    ผ้ายันต์หลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม

    ปั๊มยันต์ใบโพธิ์


    สร้างจากผ้าจีวรของหลวงปู่ ปั๊มตรายันต์ใบโพธิ์
    พระคาถาในยันต์ตราปั๊มใบโพธิ์ ลายลิขิตหลวงปู่ครูบาชัยวงค์
    นะโมพุทธายะ
    นะมะพะธะ
    กะจะภะสะ
    จะภะมะหัง
    อุหังโสนะกุตังเม
    วิวังกังหะ
    พระชัยยะวงศาภิกขุ
    จิตตังเม
    อิสวาสุ
    ปาอะกามุสุ
    จิเจรุนิ
    สะหะวะสะตะสะนะ
    ทาเนสิปะวิขาสะอะมะอุ
    ทาเนสิปะวิขาสะอะเมอุ
    สุดยอดเมตตามหานิยมแคล้วคลาดพกพาติดตัวขึ้นเหนือลงใต้ได้อย่างอุ่นใจครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_3.jpg Clip_38.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11083

    เหรียญพระบาทกบครูบาชัยวงค์ ปี2521
    เหรียญยุคต้นอีกรุ่นของท่านครูบาน่าบูชามากๆ


    ตำนานพระบาทกบ
    พระบาทกบ
    ครั้นก่อนพุทธกาลอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนจะไม่นิยมสร้างเทวรูป หรือรูปปั้นคนไว้กราบไหว้บูชา ดังนั้นต่างพากันหันมาสร้างพระเจดีย์หรือรอยพระพุทธบาทขึ้น เพื่อบูชาแทนองค์พระพุทธเจ้า ส่วนรอยพระพุทธบาทอาจทำเฉพาะข้างขวาหรือทั้งสองข้างก็ได้
    ในคติธรรมของศาสนพราหมณ์นั้น มักกล่าวอ้างถึงพระผู้เป็นเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทำสิ่งต่างๆในธรรมชาติให้เกิดขึ้น เช่น ภูเขาที่มีรูปร่างประหลาดจะอ้างว่าเป็นการบันดาลของพระผู้เป็นเจ้า ดังเช่นที่เมืองคะยา(ตั้งอยู่ห่างจากพุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าราว ๑๑ กิโลเมตร ณ ตำบลคะยาศิระมีเนินเขาแห่งหนึ่งมีศิลาลักษณะคล้ายคนนอนหงายและมีรอยเท้าประทับอยู่ข้างหนึ่ง โดยในมีตำนานกล่าวถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
    รอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่หลายแห่ง เพื่อเป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชน แต่ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีพระบาทแปลกอยู่รอยหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกกันว่า
    พระบาทกบ โดยมีความเป็นมาปรากฏอยู่ในหนังสือธรรมปกิณกะว่า
    ในสมัย“พระพุทธตันหังกะระ”ตรัสรู้เป็นพระสัมมาโพธิญาณ(ก่อนพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ๒๘ พระองค์)มีครอบครัวยากจนตระกูลหนึ่ง ผู้บังเกิดเกล้าต่างเสียชีวิตไปแล้ว คงเหลือบุตรชาย ๔ คนผจญชะตากรรมตามลำพัง ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการไปรับจ้างเลี้ยงควายให้กับผู้ใหญ่บ้าน สามารถประทับความอยู่รอดไปวันต่อวันเท่านั้น
    วันหนึ่งในขณะที่นำควายไปเล็มหญ้าอยู่ที่กลางทุ่ง พี่น้องทั้งสี่คนได้นั่งพักอยู่ใต้ต้นทองกวาว คุยกันตามความคิดเพ้อฝัน โดยถามไถ่ซึ่งกันและกันว่า ใครอยากเป็นอะไรและอยากไปเกิดเป็นอะไร
    น้องคนสุดท้องนั่งนิ่งนึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกับพวกพี่ๆไปว่า“หากได้ไปเกิดเป็นเจ้าเมืองก็ทุกข์ เป็นเศรษฐีมั่งมีก็ทุกข์ เป็นเมียก็ทุกข์ เป็นลูกก็ทุกข์ ทุกข์หมดทุกสิ่งทุกอย่าง สู้ขอเกิดเป็นพระพุทธเจ้าดีกว่าจะได้พ้นทุกข์ ถ้าเป็นจริงได้ข้าปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น”
    ส่วนน้องคนที่สามได้ตอบเป็นเชิงขบขันว่า“ถ้าน้องเล็กได้เป็นพระพุทธเจ้า พี่ยอมเอาขี้ไปถวายบูชา”
    น้องสุดท้องก็ว่า“ดีแล้ว เมื่อพี่ปรารถนาอย่างนั้น”
    แล้วหันไปถามพี่ชายคนรองว่า“แล้วพี่รองละ อยากเป็นอะไรบอกมาเถิด”
    พี่รองได้ตอบว่า“ถ้าน้องเล็กได้เป็นพระพุทธเจ้า พี่รองจะถอนขนที่ก้นไปถวายบูชา”
    ฝ่ายพี่ชายคนโตนั่งฟังอยู่ จึงได้ดุว่าน้องทั้งสองของตนว่า“พวกเจ้าช่างโง่เขลาเบาปัญญา ในเมื่อน้องเล็กได้เป็นพระพุทธเจ้า น้องทั้งสองกลับเอาสิ่งไม่ดีไปบูชา มันจะถูกหรือ?”
    หลังจากสิ้นสุดการสนทนาทุกคนไม่ได้ใส่ใจ จนกระทั่งถึงตอนเย็นต่างพากันช่วยต้อนควายกลับคอก แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้น ได้ส่งผลให้กลายเป็นจริงขึ้นในเวลาต่อมา
    พี่ชายคนโตพอตายไป ก็เกิดเป็นพญากบเฝ้ากอบัวอยู่
    พี่ชายคนรองพอตายแล้ว ได้ไปเกิดเป็นพญานกยูง
    พี่ชายคนที่สามพอตายลง จึงไปเกิดเป็นพญาผึ้ง
    สำหรับน้องคนสุดท้องผู้มีใจบุญสุนทาน มั่นปฏิบัติธรรมมาตลอดชีวิต จึงได้เกิดเป็นหน่อพุทธางกูร เพื่อจะสร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้าในชาติปัจจุบัน
    ส่วนพี่ๆทั้งสามถึงจะเกิดสัตว์ก็ได้บำเพ็ญบารมี เพื่อที่จะเป็นพระพุทธเจ้าไปในอนาคตกาล แต่ทว่าสัจจะที่ลั่นออกจากปากในอดีต ได้ส่งผลในชาติต่อๆมา คือ
    พี่คนที่ ๓ ปรารถนาเอาขี้ไปบูชาพระพุทธเจ้า จึงได้ไปเกิดเป็นพญาผึ้งให้ผู้คนก็ได้เอาขี้ผึ้งมาทำเป็นเทียน จุดถวายบูชาพระพุทธรูปหรือพระมหาธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นปูชนียสถานแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พี่คนที่ ๒ ปรารถนาจะถอนขนที่ก้นไปบูชาพระพุทธเจ้า จึงได้ไปเกิดเป็นพญานกยูง ที่บรรดาพุทธศาสนิกชนก็ได้นำเอาขนหางอันสวยงาม มาทำเป็นพัดใช้ในศาสนพิธี เช่น เมื่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ ก็ต้องทำพิธีพุทธาภิเษกและเบิกพระเนตร โดยเอาหางนกยูงมาพัดวี และเอาเทียนขี้ผึ้งมาจุดบูชาพระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า
    ส่วนผลกรรมของพี่คนโตที่ไปว่าน้องทั้งสองว่า โง่เขลาเบาปัญญานั้น ทำให้ไปเกิดเป็นพญากบเฝ้ากอบัวอยู่ แต่ไม่รู้คุณค่าของดอกบัว และผลกรรมนั้นยังได้ติดตามมาชาติต่อๆมา แม้จะมาเกิดเป็นกษัตริย์ บริวารของท่านก็ใช้คำพูดไม่ดีอยู่เสมอ คือ ชอบว่าผู้อื่นโง่เง่าเต่าตุนเป็นประจำ บริวารของท่านไม่ใช่อื่นไกลเป็นคนไทยในเวลานี้
    ฝ่ายพญานกยูง ซึ่งเป็นพี่คนรอง เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ บริวารของท่าน คือพม่าและไทยใหญ่ ซึ่งมีนิสัยชอบใช้โสร่งที่ปกปิดก้นเอามาเช็ดหน้า เอามาหนุนนอน เช่นเดียวกับนกยูงที่ถือหางเป็นสำคัญ
    ส่วนพญาผึ้ง ซึ่งเป็นน้องรองสุดท้อง เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว บริวารของท่าน คือ พวกกะเหรี่ยง พวกละว้า พวกชาวเขาเผ่าต่างๆ พวกนี้มีนิสัยนุ่งผ้าแล้วไม่ยอมซัก นุ่งจนผุจนขาด ถ้วยไหตะไลชามของใช้ก็ไม่ยอมล้าง อีกทั้งไม่นิยมอาบน้ำ ขี้ไคลพอกหนาเตอะ แทบจะเอามาปั้นเป็นก้อนเหมือนขี้ผึ้งได้ คล้ายกับผึ้งที่สะสมขี้เอาไว้
    อาจจะกล่าวได้ว่า อุปนิสัยของแต่ละบุคคล แต่ละเชื้อชาติย่อมสืบทอดสะสมกันมาเป็นอเนกชาติ ยากที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ในชาติปัจจุบัน แม้แต่พระอัครสาวกก็ยังไม่เว้น จะมียกเว้นก็แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
    ฝ่ายพี่ชายคนโตที่ไปเกิดเป็นพญากบ ในยุคพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ คือ พระกัสสปะ(ก่อนพระโคตมะหรือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ได้มีพระมหาเถระรูปหนึ่งธุดงค์มาที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มมาหยุดพักอยู่ที่ตั้งพระบาทกบในเวลานี้ และได้สวดมนต์ภาวนา ณ ที่นั้น
    ขณะเดียวกันที่พญากบได้ขึ้นจากฝั่งน้ำแม่ระกระโดดเข้ามาใกล้พระมหาเถระ พอได้ยินเสียงพระมหาเถระสวดมนต์ก็มานั่งฟัง ด้วยเข้าใจว่าเสียงนี้เป็นเสียงของพระพุทธเจ้า มันก็ตั้งสตินั่งฟังอยู่ด้วยอาการสงบนิ่ง
    ในขณะที่พระกำลังสวดอยู่ เผอิญมีคนจับปลาเดินมา ในมือถือเหล็กแหลมใช้แทงสัตว์น้ำมาด้วย เมื่อเดินมาพบพระมหาเถระกำลังสวดมนต์อยู่ แต่ไม่เห็นกบที่กำลังฟังธรรมอยู่ในที่นั้น คนหาปลาก็เอาเหล็กแหลมที่ถือมาปักตั้งไว้บนพื้นดิน แล้วเดินเข้าไปกราบนมัสการพระเถระรูปนั้นและนั่งฟังเทศน์อยู่จนจบ
    แต่ทว่าเหล็กแหลมที่คนหาปลาปักลงดิน บังเอิญไปถูกพญากบอย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งพญากบก็ยังไม่รู้สึกตัว เพราะกำลังฟังพระสวดเพลินอยู่ จนกระทั่งคนหาปลากราบลาพระมหาเถระ แล้วลุกขึ้นหันหลังกลับมาถอนเหล็กแหลมที่ปักอยู่ จึงได้เห็นและร้องอุทานว่า
    “โอ้หนอ เหล็กของเราแทงถูกกบตายเสียแล้ว”
    ฝ่ายพระมหาเถระได้ยินเสียงคนหาปลารำพัน เลยได้เดินเข้าไปพิจารณาใกล้ๆ จึงทราบอย่างกระจ่างแจ้ง พร้อมบอกกับคนหาปลาว่า“อ้าว ท่านนายพรานปลาแทงกบตายเสียแล้ว นี่ไม่ใช่กบธรรมดาเสียด้วย แต่เป็นพญากบที่มานั่งฟังธรรม”
    คนหาปลาก็บอกกับพระมหาเถระว่า“เป็นเพราะข้าพเจ้าอยากฟังธรรมที่ท่านเทศน์ แต่การเหล็กแหลมติดตัวเข้าไปด้วยเป็นการไม่สมควร จึงได้ปักดินตั้งไว้ โดยไม่รู้ว่าแทงถูกพญากบตายอย่างไม่ตั้งใจ”
    พระมหาเถระรูปนั้นมีความสงสารพญากบ จึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน แล้วเอาเท้าเหยียบลงที่หลังกบไว้เป็นรอยพระบาท เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ต่อไปภายหน้า
    ส่วนพญากบที่ตายอย่างไม่รู้ตัว เพราะกำลังนั่งฟังธรรมเพลินอยู่ จึงได้ไปจุติเป็นเทพบุตรอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีปราสาทสูง ๑๒ โยชน์ กว้าง ๑๒ โยชน์ มีเทพยดาทั้งหลายเป็นบริวารอยู่มากมายหลายโกฏิ เนื่องจากผลบุญกุศลที่ได้ตั้งใจสดับฟังเทศน์ ส่งผลให้พญากบได้ไปจุติเป็นเทพอยู่ ๗ ชาติ เมื่อสิ้นบุญก็ลงมาเกิดเป็นมหาเศรษฐีอยู่ในโลกมนุษย์ ได้เป็นใหญ่กว่าเศรษฐีทั่วไป มีนามว่า“เมนดะกะมหาเศรษฐี”
    หลังจากนั้น ยังได้มาเกิดเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์อีกหลายชาติ รวมทั้งยังจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในภายหน้า
    ทางวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จึงได้สร้างพระบาทกบไว้เป็นอนุสรณ์ เพื่อผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาจะได้เข้าไปกราบไหว้บูชา นับว่าเป็นความมหัศจรรย์เรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้น


    ราคา 950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_39.jpg Clip_40.jpg Clip_41.jpg Clip_42.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11084

    เหรียญหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธห้วยต้ม กลมหลังธรรมจักร (ลงยา แดง)

    ราคา 950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_43.jpg Clip_44.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11085

    พระผงเหลี่ยมเล็กนแรก ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธห้วยต้ม

    หลังครูบาเจ้าศรีวิชัย สวยคมชัด

    หลวงปู่ท่านตั้งใจทำผงลงอักขระยันต์ลงในเเม่พิมพ์ปลุกเสกให้เป็นอย่างดี คราบน้ำมนต์ เดิม ๆ

    น่าบูชามากครับ


    ราคา 999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_45.jpg Clip_46.jpg Clip_49.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11086

    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่
    ลงยากรรมการ ตอกโค๊ต

    พระอาจารย์ประสิทธิ์ บุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ท่านเป็นลูกศิษย์สายกรรมฐานท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดยเป็นลูกศิษย์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม ที่ไปปฏิบัติศาสนกิจบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในภาคเหนือ ท่านเป็นพระเถระผู้มีปกติกล่าววาจาน้อย มุ่งเน้นการปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นแบบอย่างแก่พุทธศาสนิกชนผู้สนใจธรรมปฏิบัติ ด้วยปฏิปทาอันงดงามของท่าน และจิตใจอันเปี่ยมไปด้วยพรหมวิหารธรรม เคยได้ยินว่าท่านประสบอุบัติเหตุกระดูกแขนหักแล้วไปทำการเอ็กซ์เรย์ปรากฎว่ามองไม่เห็นรอยหักเพราะบริเวณนั้นมีความโปร่งแสง บางคนก็เลยลือว่า "กระดูกท่านใสเป็นแก้ว" ท่านได้รับการยกย่องจากหลวงตามหาบัวฯ ด้วย
    สภาพสวยเดิมๆน่าบูชามากครับ


    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    Clip_30.jpg Clip_31.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11087

    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่
    เนื้อฝาบาตร ตอกโค๊ต

    พระอาจารย์ประสิทธิ์ บุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ท่านเป็นลูกศิษย์สายกรรมฐานท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดยเป็นลูกศิษย์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม ที่ไปปฏิบัติศาสนกิจบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในภาคเหนือ ท่านเป็นพระเถระผู้มีปกติกล่าววาจาน้อย มุ่งเน้นการปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นแบบอย่างแก่พุทธศาสนิกชนผู้สนใจธรรมปฏิบัติ ด้วยปฏิปทาอันงดงามของท่าน และจิตใจอันเปี่ยมไปด้วยพรหมวิหารธรรม เคยได้ยินว่าท่านประสบอุบัติเหตุกระดูกแขนหักแล้วไปทำการเอ็กซ์เรย์ปรากฎว่ามองไม่เห็นรอยหักเพราะบริเวณนั้นมีความโปร่งแสง บางคนก็เลยลือว่า "กระดูกท่านใสเป็นแก้ว" ท่านได้รับการยกย่องจากหลวงตามหาบัวฯ ด้วย
    สภาพสวยเดิมๆน่าบูชามากครับ


    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_32.jpg Clip_33.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11088

    เหรียญท้าวเวสสุวรรณรุ่นแรก หลวงปู่ครูบาจ้นทร์ โชติโก วัดน้ำแป้ง จ.พะเยา เนื้อทองแดงในเลี่ยมพร้อมใช้สวยสุดคลาสสิค เหรียญนี้ เลข "762 สวยกล่องเดิม

    ราคา 4999 บาท สนใจสอบถามไเ้ครับ 0861936900

    Clip_26.jpg Clip_27.jpg Clip_28.jpg Clip_29.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,128
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 11089

    พระปิดตารุ่นแรกหลวงปู่ครูบาธรรมชัย พิมพ์ใหญ่จัมโบ้ทาทองฝังเม็ดกริ่ง หายากมาก

    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ธมมชยโย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่ พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่กราบไหว้ของชาวเหนือ ท่านเป็นศิษย์ท่านหนึ่งของครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก ,หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล , หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก , หลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง ,ครูบาชัยวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม ,และ หลวงพ่อท่านมหาวีระ ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ,และท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลายอีกมากรูปทั่วล้านนา
    ครูบาท่านนั้นสำเร็จวิชาชั้นสูง สำเร็จฌาณสมาบัติชั้นสูง มีสมาธิจิตแรงกล้า ขนาดท่านมหาวีระ วัดท่าซุงนั้นกล่าวยกย่อง วัตถุมงคลของท่านนั้นดีเด่นสารพัด
    #สรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย พระดีน่าใช้
    1 ในอริยสงฆ์ของเมืองเหนือศิษย์สายครูบาเจ้าศรีวิชัย เหรียญรุ่นแรกของท่านมีประสบการณ์เป็นที่นิยมมากครับ


    คุณ pkchalerm บูชาแล้วครับ

    Clip_50.jpg Clip_51.jpg Clip_52.jpg Clip_53.jpg Clip_54.jpg Clip_55.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023

แชร์หน้านี้

Loading...