พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

รับทราบการจอง ขอบคุณครับผม

 

ปิดแล้วครับ



พระปิดตาเหล็กไหลเพลิงผสมเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ขอมพันปี หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน เสกน้ำมนต์จนเดือด ปี 2530

หลวงปู่สรวงท่านพูดเป็นภาษาเขมรว่า เหล็กไหลเพลิง ครอบคลุมทุกอย่าง แรง!
หลวงพ่อสร้อยท่านแปลเป็นภาษาไทยให้ศิษย์ฟังในที่นั้น หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษกที่ปู่สรวงท่านเสกจนน้ำมนต์เดือดพล่านนานเป็นชั่วโมง!หลวงพ่อสร้อยท่านเป็นพระอภิญญา ท่านได้เหล็กไหลเพลิงมาส่วนหนึ่งซึ่ง พวกบังบดนำมาถวายที่ป่าเขมร (เขากุเลน),ท่านเทหล่อเองในวัดเลียบ โดยมีหลวงปู่สรวงผู้เป็นอาจารย์ของท่านนั่งห่มจีวรเรียบร้อยมีผ้าคาดรัดอก ปู่สรวงท่านห่มเองไม่ให้ใครมาช่วยห่ม นั่งจับสายสิญจน์คุมตลอดพิธีการสร้างในวัดเลียบและตลอดพิธีพุทธาภิเษก
จากนั้นท่านนำพระปิดตาเหล็กไหลเพลิงผสมเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ขอมพันปีซึ่งแช่ในน้ำมนต์ ในบาตร 9 ใบ พร้อมพระกริ่งห้อยคอและพระกริ่งบูชา หลวงปู่สรวงเสกจนน้ำมนต์เดือดพล่าน! นานเป็นชั่วโมง!!! เดือดเหมือนกันหมดทั้งบาตร 9 ใบ และโอ่งน้ำมนต์ 4 ใบ ที่ตั้งอยู่ตามทิศทั้ง 4=12 ใบ ทั้งหมด จึงแล้วเสร็จ หลังจากเสร็จพิธีการสร้างเเละพุทธาภิเษก หลวงปู่สรวงท่านพูดเป็นภาษาเขมรว่า เหล็กไหลเพลิง ครอบคลุมทุกอย่าง แรง! เร็ว หลวงพ่อสร้อยท่านแปลเป็นภาษาไทยให้ศิษย์ฟังในที่นั้น และที่สำคัญหลวงปู่สรวงท่านยังเมตตาจารหมึกหน้าหลังองค์พระ ซึ่งหายากยิ่งนักที่หลวงปู่สรวงท่านจะจารวัตถุมงคลให้กับใครง่ายๆ หาก บูชาให้ดีเจริญก้าวหน้าตามคำประกาศิตของท่าน บรรดาพระคุณเจ้าท่านรู้ดีจึงเก็บไว้ 20 กว่าปีเลยทีเดียว พระปิดตารุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ใดมีไว้บูชาจักไม่มีคำว่าตกต่ำ ดวงตก ทำมาค้าไม่ขึ้น ให้รีบหามาใช้ นี่เป็นคำพูดยืนยันของ หลวงปู่สรวงและหลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฏร์บำรุง

ในปีนั้นหลวงพ่อสร้อยท่านก็ได้นิมนต์ พระเกจิชื่อดังในบ้านเรามาร่วมพุทธาภิเษกในปี 2530 นั้นด้วย มีดังนี้
1. หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
2. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
3. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
4. หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
5. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกการาม
6. หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
7. หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด(เก่งเหล็กไหล)
8. หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน (สมัยนั้นคนมักเรียกกันว่าท่านพระอาจารย์เพี้ยนตอนนั้นท่านดังตะกรุดโทนและผ้ายันต์แดง)
9. หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
10. หลวงปู่ธรรมรังสี
11. หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทาน
12. หลวงพ่อชื่น วัดตาอี(บุรีรัมย์)
13. หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด
14. หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน(สุรินทร์)
15. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก(ประจวบ)

เด่นทางความเจริญก้าวหน้า…ทางการงาน โชคลาภค้าขายสูง!!!ป้องกันอาถรรพณ์ คุ้มครองผู้บูชา คงกระพันมหาอุดดีเลิศ มหาอำนาจ และมีคุณอีกนานับประการ เช่น ชัยชนะ (พลังรุนแรง!เข้มข้น!) อารธนาพกพาเดินทางไปไหนมาไหนได้อุ่นใจมาก ขนาดองค์พระเล็ก ป้องกันตัวและโชคลาภสูง

หลวงปู่ซวง หรือหลวงปู่สรวง มหามุนีเทพดาบส เทพเนรมิต พิชิตความจน ข้าวน้ำดี มั่งมีเงินทอง “เทวดาเล่นดิน” ถ้าเอ๋ยถึงหลวงปู่สรวงคงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก หลวงปู่เป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไหร่ ไม่มีใครทราบ รู้แต่ว่า อริยะสงฆ์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา ๕๐๐ พรรษา จำวัดทั่วจักรวาล นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป วัตถุมงคลของหลวงปู่มีลูกศิษย์ลูกหานำไปบูชาเกิดประสบการณ์มามากมาย พุทธคุณ ทั้งด้านโชคลาภ หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง การทำมาค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย ที่โดดเด่น และเป็น
ที่นิยมทั้งในด้านประสบการณ์และปาฏิหารย์ต่างๆ ในด้านโชคลาภ เมตตา มหาเสน่ห์และขอพรต่างๆ
((ความเป็นอยู่แม้จะธรรมดาแต่กลับมากด้วยปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งหลวงปู่ละสังขารเข้าสู่นิพพานไปแล้ว แต่ปาฏิหาริย์แห่งท่านก็ยังเล่าขานและปรากฏการเป็นอัศจรรย์อย่างเรื่อยมา))

ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่า หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพักท่านก็หายไป หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ 82 แล้ว แต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น

คาถา บูชาหลวงปู่สรวงนะโม 3 จบก่อนแล้วว่าตามนี้
นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา

ท่อง 9 ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวใน สิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่

จะค่อยๆหายไปในที่สุด นำขัน 5 ขัน 8 ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิ
(บูชาแล้ว รวย รวย รวย รวย รวย เห็นมาแล้วกับตา )


ได้มาจากพี่ชายแท้ๆผมเอง ที่บวชที่โคราช 2 องค์ แกได้มาจากหลวงพ่อคูณกับมือ แบ่งให้บูชา 1 องค์ครับ พระรุ่นนี้เช่าหากันค่อนข้างแพง บางเวบ3-4,000ขึ้นไป

บูชา 2,000 บาท

 

ปิดครับ

เหรียญภปร.เสาร์ห้า หลวงพ่อเกษม ปี2523

พิมพ์ใหญ่ ตอกโค๊ต รับประกันแท้

บูชา 850 บาท

 

จองค่ะ

 

รับทราบการจองครับผม

 

ปิดครับ



เหรียญพระมหาชนกพิมพ์ใหญ่ เนื้อเงินแท้

เหรียญรุ่นนี้ได้ผ่านพิธีชัยมังคลาภิเษกที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานนั่งปรก พร้อมด้วยพระคณาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงตามหาบัว ญาณสังปันโน, หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ หลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระ, หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน
ในพิธีดังกล่าว สมเด็จพระสังฆราชตรัสว่า "ไทยเราในขณะนี้แม้เปรียบกับพระมหาชนก ย่อมมีอันตรายเบากว่ามากมายนัก วิกฤตก็แตกต่างกัน แต่สามารถบำเพ็ญวิริยบารมีให้เกิดผลสำเร็จอย่างวิเศษยิ่งได้เช่นเดียวกัน ขอให้ตั้งใจแผ่ความปรารถนาดีไปให้ทั่วถึงเพื่อนร่วมทุกข์ทั่วหน้าให้สามารถคิดถึงอนุภาพความเพียร คือวิริยบารมี แล้วทุ่มกำลังกายกำลังใจ ให้สามารถประคับประคองประเทศชาติให้พ้นวิกฤตการณ์ขณะนี้ให้ได้และโดยเร็ววิริยบารมีสำคัญ และพลังจิตสำคัญและสำคัญสำหรับนำมา ประคองวิริยบารมีให้เกิดผลเต็มที่ด้วย นั่นคือให้มีกำลังใจเข้มแข็งเต็มที่ ที่จะพยายามทำแต่ความดี วิริยะในการทำดีเท่านั้นที่จะถูกที่จะให้ พ้นทุกข์ทั้งหลายได้ สมเด็จพระบรมศาสดาทรงกล่าวไว้ว่า โลกถูกจิตนำไป ถูกจิตชักไป สัตว์ทั้งปวงไปสู่อำนาจแห่งจิตอย่างเดียว เพราะฉะนั้นพึงตั้งเพียรทำใจให้ดี ให้มั่นคงในการดีทั้งปวง ให้พ้นการไม่ดีทั้งปวงงานมงคลนี้จะสำเร็จด้วยดี เกิดคุณประโยชน์แก่ ผู้คนที่กำลังทุกข์ร้อนทั้งปวง" ก่อนที่จะอ่านเนื้อหาในพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" มีพระราชปรารภให้เห็นถึงที่มาว่า "เมื่อ พ.ศ. 2520 พระองศ์ทรงสดับพระธรรมเทศนาของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธัมมสาโร มหาเถร) วัดราชผาติการาม เรื่องพระมหาชนก เสด็จทอดพระเนตรพระราชอุทยาน ในกรุงมิถิลา เรื่องมีใจความว่า ที่ทางเข้าสวนหลวงมีต้นมะม่วงสองต้น ต้นหนึ่งมีผล อีกต้นหนึ่ง ไม่มีผล ทรงลิ้มรสมะม่วงอันโอชาแล้วเสด็จเยี่ยมอุทยาน เมื่อเสด็จกลับออกจากสวนหลวง ทอดพระเนตรเห็นมะม่วงที่มีผลรสดี ถูกข้าราชบริพารดึงทึ้งจนโค่นลง ส่วนต้นที่ไม่มีลูกก็ยังคงตั้ง อยู่ตระหง่าน แสดงว่าสิ่งใดดี มีคุณภาพ จะเป็นเป้าหมายของการยื้อแย่งและจะเป็นอันตรายใน ท่ามกลางผู้ที่ขาดปัญญา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัย จึงทรงค้นเรื่องพระมหาชนกในพระไตรปิฎก (พระสุตตันตปิฏกขุททกนิกาย ชาดก เล่มที่ 4 ภาคที่ 2) และทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษตรงจากมหาชนก ชาดก ตั้งแต่ต้นเรื่องโดยทรงดัดแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น พระมหาชนกบำเพ็ญวิริยะบารมีไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ จนกระทั่งได้ทรงครองราชสมบัติ และนำความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงมิถิลาด้วยพระปรีชาสามารถ

พร้อมเลี่ยมพลาสติก มีกล่องมาเดิมๆ รับประกันแท้

บูชา 11,000 บาท

 

ปิดครับ



เหรียญหลวงพ่อปี๋ วัดด่านลานหอย รุ่นแรกปี2502

หายากมากๆครับ รับประกันแท้

บูชา 7,500 บาท

 

ปิดครับ

ตะกรุดมหากาฬย์ สองกษัตริย์หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม

มาแบบเดิมๆทั้งเพชรพญาธร ลูกสะกด และเชือกเก่าๆ ผุบ้างแล้ว

ตะกรุดดอกนี้เจ้าของเดิมคือ พี่ตำรวจอยู่สน.บางขุนเทียน(ปัจจุบันก็ยังรับราชการอยู่)แกคนเดิมบางมีเหรียญหลวงพ่อกวยเดิมบางหลายเหรียญและหลังหนุมานปี21 แต่ไม่ได้ให้บูชาครับ ดอกนี้ เคยออกบัตรสมาคมผ่านเมื่อสองปีก่อน แต่บัตรหายครับ รับประกันแท้สากล สนใจบูชาจริงๆขอเบอร์โทรคุยสอบถามแกได้ครับ จะได้เชื่อว่าผมรับข้อมูลมาจริงๆ

 

ปิดครับ

รูปถ่ายหลวงปู่ฝั้น อาจาโร

เป็นรูปที่ทันท่านปลุกเสก โรงแรมอิมพีเรียล สกลนครสร้าง เลี่ยมพร้อมแขวนบูชา

บูชา 500 บาท

 

จองแล้วครับ

พระผงหลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อผง
ปิดทองเก่า แกะจากเลี่ยมกรอบพลาสติกออกมาครับ

บูชา 600 บาท

 

วัตถุมงคล ‘ฉลอง 100 ปีวัดราชบพิธฯ’ อีกหนึ่ง ‘ของดี’ ที่ถูกซ่อนเร้น ซึ่งท่านเจ้าประคุณ “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์” (วาสนมหาเถระ) ทรงเป็นประธานกรรมการดำเนินงานจัดทำของที่ระลึก โดยได้ปรึกษาหารือกับกรรมการท่านอื่น ๆ หลายครั้งเพื่อให้ปูชนียวัตถุที่สร้างในวาระอัน เป็นพิเศษครั้งนี้ “อุดมไปด้วย สิริมงคล” จึงได้จัดหาแผ่นทองถวาย “พระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ” ทั่วพระราชอาณาจักรลง “อักขระเลขยันต์” พร้อมปลุกเสกตามถนัดของแต่ละท่าน เพื่อนำมาหลอมหล่อเจือปนในปูชนียวัตถุที่จะสร้างขึ้น

โดยมีรายนาม “พระอาจารย์” รูปสำคัญ ๆ ดังนี้ “หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่เทียม วัดกษัตรา, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา, หลวงพ่อเกษมเขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, พระอาจารย์นำแก้วจันทร์ วัดดอนศาลา, หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว, หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี, พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, หลวงพ่อนอง วัดทรายขาว, หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม, หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ บำรุง ฯลฯ” และคณาจารย์รูปอื่นๆ จำนวน 108 รูป ซึ่งพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วพระราชอาณาจักรตามรายนามข้างต้นก็ได้ “มรณภาพ” ไปแล้วได้ทำการลงอักขระในแผ่นยันต์ “108 แผ่น” เพื่อให้เป็นชนวนมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ผสมผสานในวัตถุมงคลชุดนี้โดยแต่ละ ท่านได้ “ตั้งใจ” ทำกันอย่างเต็มที่เพราะถือเป็น “งานใหญ่” ที่นานๆ จะมีขึ้นสักครั้งในยุคนั้นโดย “วัตถุมงคล” ทั้งหมด อันได้แก่ “พระพุทธอังดีรสจำลอง, พระพุทธ รูปบูชาศิลปะไทยประยุกต์แบบคุปตะ, พระกริ่งจุฬาลงกรณ์-พระชัยวัฒน์จุฬาลงกรณ์, พระหูยานจุฬาลงกรณ์ (จ.ป.ร.) พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ครึ่งพระองค์, เหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ 5”

และ “แหวนมงคล 9” ที่สร้างขึ้นในวาระ “อันเป็นพิเศษ” เดียวกันนี้ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททองเป็น “ปฐมฤกษ์” ในวันที่ 9 มีนาคม พุทธศักราช 2513 โดยทรงประกอบพิธีเททองหล่อ “พระกริ่งจุฬาลงกรณ์เนื้อทองคำ” เป็นปฐมฤกษ์และ “ทองชนวน” ที่เหลือนั้นช่างได้นำไปผสมผสานกับเนื้อโลหะที่สร้าง “วัตถุมงคล” ทุกชนิดจนครบตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้วตกแต่งให้สวยงาม โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ “9 เดือน” จึงแล้วเสร็จจากนั้นทางวัดจึงกำหนดประกอบพิธี “มหาพุทธาภิเษก” เป็นเวลา “3 วัน 3 คืน” คือ ระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี “จุดเทียนชัย” ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 อันเป็นวันครบรอบวันสถาปนา “วัดราชบพิธฯ” ครบ “101 ปี” กับ 2 วัน อนึ่งนับเป็นวาระ “อันพิเศษยิ่ง” ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ แก่ “วัดราชบพิธฯ” ยิ่งนักเพราะตามบันทึกของวัดนั้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้เสด็จพระราชดำเนินมายัง “พิธีพุทธาภิเษก” วัตถุมงคลฉลอง “100 ปี” ที่วัดราชบพิธฯ ถึง “2 วัน” ด้วยกันคือ “วันที่ 29 มกราคม 2514” อันเป็นวันเริ่มพิธี “มหาพุทธาภิเษก” ได้เสด็จฯ ทรงจุด “เทียนชัยพุทธาภิเษก, เทียนมหามงคล” และ “เทียนนวหรคุณ” ในเวลา 16.05 น. และในวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2514 เวลา 24.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จฯ ในพิธีมหาพุทธาภิเษกและทรง “พระสุหร่าย, ทรงเจิมปูชนียวัตถุ, ทรงโปรยข้าวตอกดอกไม้” จึงนับเป็น “กรณีพิเศษยิ่ง” ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกเป็นเวลาถึง “2 วัน” นอกเหนือจากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ในพิธี “เททอง” เป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2513

พิธีครบรอบ ๑๐๐ ปี วัดราชบพิธนี้ จัดนับว่าเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกที่บริบูรณ์ ครบถ้วนกระบวนความเลยทีเดียว ทางด้านรายนามของพระคณาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วราชอาณาจักร ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธาคมในยุคนั้นทั้งสิ้นมานั่งปรกบริกรรมเจริญภาวนาเป็นจำนวนมากถึง ๑๐๘ รูป โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมานั่งปรกบริกรรมคาถา เจริญภาวนา ตามที่ตนเองถนัด เป็นเวลาตลอด ๓ วัน คือ วันที่ ๒๙ – ๓๐ – ๓๑ มกราคม ๒๕๑๔ โดยแบ่งออกเป็นชุด ๆ ละ ๑๒ รูป ปลุกเสกกันวันละ ๓ ชุด คือ ชุดที่ ๑ ปลุกเสกเวลา ๑๖.๓๐ น. – ๒๐.๐๐ น. ชุดที่ ๒ ปลุกเสกเวลา ๒๐.๐๐ น. – ๒๒.๐๐ น. และชุดที่ ๓ ปลุกเสกเวลา ๒๒.๐๐ น. – ๒๔.๐๐ น. ทำอย่างนี้ตลอด ๓ วัน พระอาจารย์ที่มานั่งปรกและบริกรรมปลุกเสก ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธในคราวนี้ เช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม , หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา, พระครูกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร, หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย, หลวงพ่อเงิน วัดอินทรวิหาร กรุงเทพ, พระอาจารย์เฮง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ, พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ อุดรธานี, หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน อุดรธานี, พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ, หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ, พระอาจารย์แต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี, หลวงปู่เย่อ วัดอาษาสงคราม สมุทรปราการ, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ, พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี, หลวงพ่ออยู่ วัดเกยไชยเหนือ นครสวรรค์, หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จันทบุรี, พระอาจารย์สา วัดราชนัดดาราม กรุงเทพฯ,........แหวนมงคลเก้า สุดยอดแหวนพระพุทธที่ได้รับความนิยมสูงสุดประกอบด้วยยันต์ 9 ตัว คือ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ พะ

บูชา 2,600 บาท

 

ปิดครับ



เนื้อตะกั่ว สร้าง 999 องค์ ปี2563

หมายเลข 584.

ยักษ์บ้านแค ไม่แพ้ วัดใด

บูชา 500 บาท

 

ปิดแล้วครับ



เหรียญหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ออกวัดเดิมบาง ปี 2515 สุพรรณ บล็อคตาลึก กะไหล่นาค หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตราราม ร่วมเสก พิธีใหญ่ สวยเดิมๆครับ

บูชา 1,800 บาท

เหรียญเดิมบาง หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ออกวัดเดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อทองแดงกะไหล่นาค บล็อกตาลึก จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2513-2515 เนื่องในที่ระลึกยกช่อฟ้าวัดเดิมบาง จัดสร้างโดย พระอาจารย์ถนอมเจ้าอาวาส วัดเดิมบาง ซึ่งเป็นลูกศิษย์อีกองค์หนึ่งของหลวงพ่อกวย

เหรียญรุ่นนี้ 1 ชุด มีอยู่ 4 เหรียญ คือ
1.เหรียญหลวงพ่อแจ่ม วัดเดิมบาง พระเกจิ สมัยรัชกาลที่ 5 วัดเดิมบาง
2.เหรียญหลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง พระอาจารย์ ของหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม และหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
3.เหรียญหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.ถนอมให้หลวงพ่อกวย ไปปลุกเสกนาน ถึง2 ปี
4.เหรียญหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม มี2บล็อค คือ
- บล็อคตาคมมีทั้งแตกและไม่แตก
- บล็อคตาลึก (มีความคมชัดน้อย ซึ่งเกิดจากการซ่อม บล็อคตาคม)

 

ปิดครับ

เหรียญหลวงปู่ดุลย์ รุ่นกายทิพย์ เนื้อทองแดง ปี 2521 วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของนักสะสมทางสายอีสาน เป็นเหรียญที่ออกแบบได้สวยงาม ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ดุลย์ครึ่งองค์ โดยมีรูปใบหน้าท่านซ้อนอยู่กลางหน้าอก และมีโค๊ตนะ ที่บริเวณสังฆาฎิ ซึ่งเป็นโค๊ตในพิมพ์ ไม่ได้นำมาตอกทีหลัง อีกด้านหนึ่งของเหรียญ จะทำเป็นรูป "หลวงพ่อพระชีว์" วัดบูรพาราม อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยามาแต่โบราณกาล จัดเป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากที่สุดรุ่นหนึ่ง และชื่อรุ่นกายทิพย์นี้ก็มีที่มาที่ไป จัดสร้างโดยวัดบูรพาราม สุรินทร์ ในสมัยที่หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ท่านทรงสมณศักดิ์ที่ ”พระรัตนากรวิสุทธิ์” เมื่อปี พ.ศ. 2521 จัดสร้างโดยเนื้อโลหะชนิดเดียว นั่นก็คือเนื้อทองแดง แต่มีแยกบางส่วนไปรมน้ำตาล และนำไปกะไหล่ทองลงยา โดยมีจำนวนดังนี้
1.เนื้อทองแดงกะไหล่ทองลงยา 5 สี จำนวน 2,000 เหรียญ แบ่งเป็นเหรียญกนกจม 200 เหรียญ และกนกลอย 1,800 เหรียญ
2.เนื้อทองแดงรมน้ำตาลและผิวไฟคละกันไป จำนวน 10,000 เหรียญ

เหรียญนี้สภาพยังสวย รับประกันความแท้ด้วยขอบตัดชัด้จน เก๊เยอะมากๆครับ

บูชา 4,500 บาท