เรื่องเด่น ศาลตัดสินประหารชีวิต ทีมสังหาร “พระหมอ”

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 5 สิงหาคม 2021.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +70,509
    2fV-voR5Tp-6_2hnUyIiCIXUfJmWa-woQdgaePiTA8Qi&_nc_ohc=YZZ4Opg75gQAX-QMEwB&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg




    ศาลตัดสินประหารชีวิต ทีมสังหาร “พระหมอ”


    หลังจากยืดเยื้อมานานถึง 6 ปี คดีสะเทือนขวัญจ้างวานฆ่า พระอาจารย์บัณฑิต หรือ“พระหมอ” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธานี ล่าสุดศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งประหารชีวิต จำเลยที่ 3 ผู้จ้างวาน ส่วนมือปืนและผู้จัดหามือปืน ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่จำเลยที่ 4 คนดูต้นทาง ศาลยกฟ้อง

    ศาลจังหวัดอุดรธานี อ่านคำพิพากษาในคดีฆ่า พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือ “พระหมอ” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธานี เมื่อปี 2558 ซึ่งมี นายปัญจ๋า มือปืน เป็นจำเลยที่ 1 ด.ต.ชาญชัย ผู้จัดหามือปืน เป็นจำเลยที่ 2นายบรรเจิด ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จ.อุดรธานี ผู้จ้างวาน เป็นจำเลยที่ 3 และนายบุญนาค คนดูต้นทาง เป็นจำเลยที่4

    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีการทำความผิดจริง จึงพิพากษาประหารชีวิต นายปัญจ๋า ด.ต.ชาญชัย นายบรรเจิด และมีคำสั่งยกฟ้อง นายบุญนาค แต่ นายปัญจ๋า และ ด.ต.ชาญชัย ให้การรับสารภาพ จึงเห็นควรลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายบรรเจิด ให้การปฏิเสธมาตลอด จึงไม่มีเหตุให้ลดโทษ คงโทษประหารชีวิต
    สำหรับพระอาจารย์บัณฑิต จบแพทยศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มรับราชการที่โรงพยาบาล ในอุดรธานี จากนั้นได้ลาออกมาอุปสมบท และมีโอกาส เข้าศึกษาธรรมกับหลวงปู่บุญ จันทร์ กมโล, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต , หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, หลวงปู่ลี กุสลธโร , และพระอาจารย์อินทร์ถวาย เป็นต้น
    ซึ่งพระอาจารย์บัณฑิตถูกฆาตกรรมขณะบิณฑบาตตอนเช้า วันที่ 1 มีนาคม 2558 สร้างความสะเทือนใจให้กับลูกศิษย์ เนื่องจากเป็นพระที่ได้รับการนับถือจากคนในพื้นที่

    #พระหมอ #คดีฆ่าพระหมอ #ประหารชีวิต #ฆาตกรรม #MONO29NEW #MONO29 #ข่าวโมโน29
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +70,509
    อัฐิส่วนฟันของพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธานี ซึ่งถูกโจรใจบาป ลอบยิงมรณภาพ ในขณะกำลังออกบิณฑบาต ได้แปรเป็นพระธาตุ

    ขอน้อมกราบพระอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า สาธุ

    ☆☆เพิ่มเติมประวัติของท่าน☆☆

    ประวัติพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต ท่านเป็นผู้ที่ใฝ่ใจในการศึกษาเล่าเรียนมาแต่เล็ก การเล่าเรียนทางโลกท่านเข้าเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนสวนกุหลาบ และมัธยมปลายที่เตรียมอุดม จากนั้นท่านสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ จากนั้นท่านได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลของอ.ไชยวาน จ.อุดรธานี

    ชีวิตในวัยเยาว์ของท่านเนื่องจากบิดาของท่านมีศรัทธาในองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จึงทำให้ท่านมีโอกาสใกล้ชิดกับหลวงตาท่านมาแต่เด็ก ต่อมาวันหนึ่งบิดาของท่านตั้งใจจะให้ลูกได้บวชเณรอยู่กับองค์พระหลวงตามหาบัว
    แต่ปรากฏว่าองค์หลวงตาไม่รับพร้อมทั้งบอกว่าโน้นให้ไปโน้น ไปหาหลวงปู่เกล้า วัดถ้ำเกีย จ.อุดร เมื่อพ่อของท่านพาท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่เกล้า หลวงปู่เกล้าก็ทักท่านว่า อดีตชาติเป็นหลานของหลวงปู่มาก่อน ส่วนแม่ของท่านเคยเป็นลูกสาวขององค์หลวงปู่และพ่อของท่านก็เคยเป็นลูกเขยมาแต่อดีตชาติ

    ในตอนที่ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่อ.ไชยวาน มีโอกาสเข้ากราบหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล แห่งวัดป่าสันติกาวาส จ.อุดรธานี คราวนั้นหลวงปู่บุญจันทร์กล่าวกับท่านว่า "ดูซิพ่อแม่ครูอาจารย์มีแต่ละสังขารลงไปทุกวัน น้อยลงไปทุกที ทางโลกสร้างเท่าไหร่ไม่จบ ให้มาสร้างทางธรรม ตบท้ายที่ว่าให้อาจารย์หมอมาออกบวชมาสร้างทางธรรมซะ"

    ประโยคนี้ทำให้ท่านอาจารย์หมอบัณฑิตในขณะนั้นรู้สึกตื้นตันในหัวอกแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจที่จะออกบวช ท่านเล่าให้ผมฟังว่าจิตใจมันเหมือนมีหอกมาปักคาอกไว้ วันที่คิดปลงได้ว่า "เราจะบวช" เหมือนกับว่าหอกเล่มนั้นหลุดจากอก

    พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต ได้บวชกับองค์หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี หลังจากที่บวชแล้วมีโอกาสเข้าศึกษาธรรมกับหลวงปู่บุญ จันทร์ กมโล, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต , หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ, หลวงปู่ลี กุสลธโร ,พระอาจารย์อินทร์ถวาย เป็นต้น

    ในพรรษาที่สามหลังจากที่ท่านได้ปฏิบัติภาวนามาอย่างยิ่งแล้ว ในเช้าวันหนึ่งท่านได้เทศนาธรรมให้โยมมารดาของท่านฟัง โยมมารดาของท่านนึกว่าท่านธรรมแตก ถึงกับร้องห่มร้องไห้รีบโทรแจ้งพระอาจารย์อินทร์ถวาย เช้าวันนั้นพระอาจารย์อินทร์ถวายรีบมาโดยยังไม่ได้ฉันเช้าเพราะเป้นห่วงพระอาจารย์บัณฑิตเข้าไปสอบอารมณ์อยู่นาน พอพระอาจารย์อินทร์ถวายสอบอารมณืเสร็จก็บอกกับโยมแม่ของพระอาจารย์ว่า ลูกโยมนะผ่านแล้วมีแต่โยมแหละที่ยังบ้าอยู่ !

    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระอาจารย์บัณฑิต มีโอกาสปรนนิบัติรับใช้องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนอย่างใกล้ชิดรวมทั้งองค์หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป ท่านเป็นผู้ดูแลการสร้างพระธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ และยังเป็นผู้ดูแลโครงการหอผู้ป่วยวิกฤติ ของโรงพยาบาลอุดรธานีอีกด้วย

    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาท่านได้ประพฤติพรหมจรรย์ได้อย่างเยี่ยมยอดเป็นครูบาอาจารย์ที่ดี เป็นผู้ที่มีเมตตาและให้คติเตือนใจแก่ทุกคนเสมอ

    ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามีนายทุนที่พยายามมากว้านซื้อรอบบริเวณวัดท่านเพื่อไปทำประโยชน์ แต่ชาวบ้านไม่ขายและขอให้พระอาจารย์ท่านเป็นเสาหลักที่ไม่ให้นายทุนมารุกรานผืนที่ทำมาหากิน จนนายทุนถึงกับพยายามไม่ให้คนเข้าวัดเริ่มด้วยการโรยตะปูเรือใบทำให้รถที่จะเข้าวัดยางแตกมาแล้ว



    099_n.jpg?_nc_cat=109&ccb=1-3&_nc_sid=110474&_nc_ohc=nspdT_5kdtQAX8v8qrQ&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    428_n.jpg?_nc_cat=100&ccb=1-3&_nc_sid=110474&_nc_ohc=DrhWhyhEFM0AX9RsuZW&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    407_o.jpg?_nc_cat=109&ccb=1-3&_nc_sid=110474&_nc_ohc=osJ3nLjOiiIAX8Ssmpw&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg




    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,216
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,810
    อัฐิส่วนฟันของพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธานี ซึ่งถูกโจรใจบาป ลอบยิงมรณภาพ ในขณะกำลังออกบิณฑบาต เมื่อวันที่ ๑ มีนาคมที่ผ่านมา ได้แปรเป็นพระธาตุ

    … ไม่อยากจะคิดถึงบาปกรรมที่โจรใจบาป ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และ ผู้บงการจะได้รับจากการทำ อนันตริยกรรม ในครั้งนี้เลยครับ ด้วยกรรมแห่งอนันตริยกรรมนี้จัดเป็นกรรมหนักหรือครุกรรม ผู้ใดทำกรรมอนันตริยกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้นั้นจะได้รับโทษทั้งทางโลกและทางธรรม ผู้ทำ อนันตริยกรรม จะไม่สามารถบวชเข้ามาเป็นภิกษุได้เลยเพราะถือว่าเป็นผู้ต้องปาราชิกสำหรับฆราวาสแล้วและจะไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานใดๆเลยตลอดชีวิตในชาติที่ยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วจะต้องตกนรกเพียงสถานเดียว ไม่สามารถขึ้นสวรรค์ได้ ต่อให้ทำกรรมดีมากมายเพียงใดก็ไม่อาจหนีพ้นจากนรกไปได้


    ผู้ทำอนันตริยกรรมจะต้องตกนรกลงไปยังขุมนรกที่ลึกที่สุดคือ อเวจีมหานรก ซึ่งอยู่ชั้นที่ 8 เป็นขุมนรกขุมใหญ่ที่มีการลงโทษหนักโดยไม่มีการผ่อนผันหรือหยุดพักแต่ใดๆเลยแม้แต่วินาทีเดียว สัตว์นรกที่ตกขุมนรกนี้จะได้รับความทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสและเป็นเวลายาวนานที่ไม่อาจจะนับได้เลยหรือที่เรียกว่า กัลป์


    สัตว์นรกในนรกขุมนี้จะถูกลงโทษด้วยการเข้าไปเผาในห้องเหล็กร้อนที่มีเหล็กแหลมพุ่งมาจากกำแพงหกด้านให้เหมือนตายทั้งเป็น แต่จะทุรนทุรายไม่ตาย คนที่ทำ อนันตริยกรรม จะมาตกในนรกขุมนี้หนึ่งกัลป์


    พระพุทธเจ้าได้เปรียบเทียบระยะเวลา 1 กัลป์ เอาไว้ว่า หากมีภูเขาทึบไม่มีช่องว่างลูกหนึ่ง กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ (1 โยชน์ประมาณ 16 กิโลเมตร) ในทุกๆระยะเวลา 100 ปี เราเอาผ้าแพรผืนบางๆเนื้อละเอียดอย่างดีมาลูบภูเขาทึบลูกนั้นเพียงครั้งหนึ่ง จนกว่าภูเขาหินลูกนั้นจะสึกกร่อนแบนราบ เวลาที่ใช้ในการทำแบบนี้ จนกระทั่งภูเขาลูกนี้แบนราบ ก็ยังยาวนานไม่เท่ากับ 1 กัลป์ สรุปว่าไม่ต้องคิดว่าเป็นตัวเลขเท่าไร แต่ให้รู้และเข้าใจว่ามันยาวนานมากๆครับ


    B.PNG

    (ปัพพตสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ข้อ ๔๒๙ และ ๔๓๐)

    [๔๒๙] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งได้เข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ฯลฯ เมื่อภิกษุรูปนั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กัปหนึ่ง นานเพียงไรหนอแล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ กัปหนึ่งนานแล มิใช่ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่าเท่านี้ปี เท่านี้ ๑๐๐ ปี เท่านี้ ๑,๐๐๐ ปี หรือว่าเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ ปีฯ

    ภิ. ก็พระองค์อาจจะอุปมาได้ไหม พระเจ้าข้าฯ

    [๔๓๐] พ. อาจอุปมาได้ ภิกษุ แล้วจึงตรัสต่อไปว่า ดูกรภิกษุ เหมือนอย่างว่า ภูเขาหินลูกใหญ่ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง สูงโยชน์หนึ่ง ไม่มีช่อง ไม่มีโพรง เป็นแท่งทึบ บุรุษพึงเอาผ้าแคว้นกาสีมาแล้วปัดภูเขานั้น ๑๐๐ ปีต่อครั้ง ภูเขาหินลูกใหญ่นั้น พึงถึงการหมดไป สิ้นไป เพราะความพยายามนี้ ยังเร็วกว่าแล ส่วนกัปหนึ่งยังไม่ถึงการหมดไป สิ้นไป กัปนานอย่างนี้แล บรรดากัปที่นานอย่างนี้ พวกเธอท่องเที่ยวไปแล้ว มิใช่หนึ่งกัป มิใช่ร้อยกัป มิใช่พันกัป มิใช่แสนกัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่าย ในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2021

แชร์หน้านี้

Loading...