เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

สวีดัดวันดีๆน้องปราย ขอให้โชคดีเสมอ

 

น้องอาถรรพ์ตอบละเอียด ถือว่าพระชุดนี้เข้ากับหลักการปัจจุบัน ค้าขายคล่อง เมตตามหาเสน่ห์ ดีกว่าหนังเหนียวอยู่ยงคงกะพัน เพราะต้องทำมาหากินนำหน้ามากกว่า ทำมาหาเรื่อง

 

โพสท์มากแต่เก็บกลางคืนเหลือช่วงเช้าเล็กน้อย ได้เวลาตื่นตอนเช้าพร้อมกับในเนื้อหาตามท้องพระโรง...เอ้ย ท้องเรื่องพอดี ตามเข้าป่าไปดูการราวีกับเจ้าถ้ำต่อ

รอจิ้มตามธรรมเนียมปฏิบัติชั่วครู่ครับ

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า"เจ้าถ้ำ"!!!
====================
ความเดิม...เงาดำมหึมาครอบร่างเราสอง ลอยละลิ่วคืนสู่ร่างที่แน่นิ่งในโถงถ้ำ พร้อมความฝันพิศดารติดตรึงในห้วงทรงจำ ประหนึ่งลืมตาตื่น...!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

(24).."ตี 4 เศษ ๆ ผมสะดุ้งเหงื่อโซมหน้า

เสียงอึกอักขลุกขลักดังมาจากฟากที่คุณชาตินอนกับคู่หมั้น

"คุณนง คุณนง เป็นอะไร?"

หนุ่มกรุงเขย่าตัวคู่หมั้นที่ดิ้นตูมตาม มือไม้เธอยกขึ้นฟาดอากาศ ผมใจหายรีบถลันลุกจากที่นอนปรี่เข้าหา พอดีกับสาวสวยลืมตาหยุดดิ้น คุณชาติเอามือโอบกอดไว้หลวม ๆ อย่างห่วงใย หันมองผมแล้วสั่นหน้าทำนอง ไม่เป็นไรแล้ว

"ฝันร้ายค่ะ สู้กับผีหรือเจ้าถ้ำ ตัวโตม้ากกก"...คุณนงครางเน้นที่คำว่าโตมาก ส่วนมือก็กุมที่คอแน่น ตรงนั้นองค์เทพราหูห้อยติด

ผมผละออกไม่อยากมองภาพชิดใกล้ของคู่หมั้น...ระหว่างผมกับสาวงามตกในสภาพใกล้แค่ปลายนิ้ว แต่ไกลเกินปลายฟ้าในวันแห่งความจริง

เหลือเพียงคืนวันในฝัน อัศจรรย์แห่งวิญญาณที่ได้ชิดใกล้!!!

ผมตรงไปหาดวงดาวที่นอนคู่กับมอญหนุ่ม ทั้งคู่ลุกตื่นเรียบร้อย แบมือไปตรงหน้า อดีตเณรน้อยรู้สัญญาณ ควานมือใต้กองผ้าที่ทำเป็นหมอน ส่งองค์ปู่คืนให้อย่างเงียบ ๆ

ทุกชีวิตในถ้ำตื่นตาตื่นตัว ด้านนอกความมืดยังห่มคลุมดำสนิท อากาศเย็นยะเยือกค่อนไปทางหนาว เสียงน้ำค้างกระทบเปาะแปะกลบทุกสำเนียง ต้นไม้ใบหญ้าเปียกชุ่มโชก น้ำค้างแรง ลมแรง แต่ผมไม่สนใจ เดินห่อไหล่ออกมาสูบบุหรี่ด้านนอก ลุงพรานกับบักสมตามมาเป็นเพื่อน คอนอาวุธคู่ชีพอย่างไม่พลั้งเผลอ

"ไปหลังถ้ำ นายทหาร"...ลุงพรานชวน เราใช้ไฟฉาย 3 ท่อนส่องทาง อาวุธครบมือ ฝ่าความมืดดุ่มสู่ความวังเวง ไปใช้บริการน้ำมวกธรรมชาติ ใช้เวลากับธุระส่วนตัวรวดเร็ว ว่องไวประสาคนป่าดงดอย ไม่อ้อยอิ่งในที่อันตราย ถึงจะคุ้นชิน แต่คำ คืบก็ป่า ศอกก็ป่า ต้องแนบชิดติดสติเสมอ

ลมภูเขากรูเกรียวใส่ร่างสั่นสะท้านเที่ยวเดินย้อนกลับ ฟ้าเบื้องบนดาวล้านดวงเหลือเพียงประกายแสงหิ่งห้อยริบหรี่ไม่มากดวง เสียงไก่ป่า ไก่ดง เริ่มขับขานมาจากดงไหนสักแห่ง ป่าตื่นอย่างช้า ๆ ไม่เร่งร้อน ผมมองไปด้านบูรพาทิศ ก่อนเลี้ยวลับหลังเขา สุดฟ้าไกลตามีแสงราง ๆ แตะขอบฟ้า กว่าราชรถเดินทางถึงแถบนี้ใช้เวลาอีกครู่ใหญ่

เดินฝ่าลมหนาวด้วยอาการหนาวนอกอุ่นใน บักสมสะกิดถามชวนคุย...

"เหล็กวี่เศษ คืนไปยังพี่ ?"

นั่นนะสิ..คำถามที่ผมก็อยากรู้พอกัน ต้องไปหาคำตอบให้แจ้งชัดกับสายตาพร้อมทุกคน เมื่อเข้าไปอิงความอบอุ่นจากกองไฟในถ้ำ ทุกคนที่ล้อมวงต่างบุ้ยใบ้ไปเหนือช่องที่ผมนอน...

"ดูที...อยู่หรือไปแล้วน้องพราน"?!

คุณเทพจิบกาแฟร้อนหอมกรุ่นที่หนุ่มมอญชงให้ล้างขี้ฟันแทนแปลงฟันใกล้สาง...ผมยืดตัวหยิบพานผ้ายันต์ห่อเหล็กธาตุกายสิทธิ์ลงมาเปิดต่อหน้าทุกสายตา...

สีปีกแมลงทับส่องประกายแว่บ ก่อนสงบนอนนิ่งไม่รู้ไม่ชี้ที่เดิม เหมือนก้อนวัตถุธาตุธรรมดา ปราศวิญญาณอมตะสิงสถิต!!!

-------------------------

*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณีมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ***

 

กราบสวัสดีคุณน้า Wanwi และสวัสดีเพื่อนๆ ทุกๆท่าน ครับ
ศึกสองนาง ผ่านไปแต่ยังมีต่ออีก(ยังไม่จบแน่ๆ)
เข้าสู่ชีวิตจริง บรรยากาศยามเช้า กลางไพรลึก

แว่วเสียงไก่ป่ากลางเถื่อนระงมไพร หรีดหริ่งเรไรเริ่มจางพร้อมแสงทองส่องฟ้ามาทิศบูรพา
กลิ่นกาแฟหอมสัมผัสโสตนาสิก

เป็นอะไรที่ใฝ่ฝันเหลือเกินครับ แต่สงสารคุณตา X นิดหนึ่งครับ

ขอบคุณครับคุณ Pirates Of Arabia หากมีโอกาศผ่านไปจะไม่ลืมแวะครับ ชอบจริงๆ นึกถึงคนสร้างเลย

ท้ายนี้ขอขอบคุณคุณน้าอีก 1 ตอนยามสายๆ ไว้อ่านช่วงพักกลางวันครับ

 

พระในตำนานอีกหนึ่งองค์ บางขุนพรหม กรุเจดีย์เล็ก พิมพ์จันทร์ลอย แบบเดียวกับกรุใหญ่ องค์เล็กขนาดเหรียญบาทยุคใหม่

ชมผิวพรรณด้านหลังให้เต็มตา แห้งแต่งามซึ้ง ไม่รู้จะเหลือของแท้สักกี่สิบองค์ในปัจจุบัน ชมกันพอเพลินตาแล้วกัน เผื่อไปฟลุ๊คเจอะหนึ่งในร้อย ...เอ้ย ล้าน
​

 

สอบถามเป็นความรู้คับ คุนอา บางขุนพรม เจดีย์เล็ก กรุจันลอย ขนาดเท่าเหรีญบาท อยากทราบถึงการสร้างถึงรุ่นนี้ออกมาคับ เพราะเพิ่งเคยเห็น
มองผ่านนี้ไม่รู่เลยคับ บางขุนพรม

 

ขอบคุณมากๆครับคุณอา
หนึ่งท่อน
ปัจจุบันพัลวัลพัลเก
อดีตก็ยุ่งเหยิง
ใหม่เก่า มาปะกั๋น
ม่วนแต้ พรานเอ๊กซ์

 

เปลี่ยนวิวชมบางขุนพรหม รุ่นที่คนทั่วไปจับต้องได้...รุ่น๑๐๑ ปีพ.ศ.2517 แบ่งเป็นพิมใหญ่ จุดเดียว สามจุด และห้าจุด รุ่นนี้ หลวงปู่โต๊ะ เป็นประธานปลุกเสกพิธียิ่งใหญ่


*******************
พิมพ์ใหญ่จุดเดียวด้านหน้า



ด้านหลังเรียบ ซึ่งมักมี2 แบบคือหลังลายผ้ากับหลังเรียบ ตราวัดสีน้ำเงินหลุดเลือนลบไปแล้ว



*************
พิมพ์ใหญ่ 3 จุด องค์แชมเปี้ยน ประกวดติดรางวัลหลายครั้ง



หลังลายผ้าประทับตราเจดีย์



***********
พิมพ์ใหญ่ 5จุด เป็นพิมพ์ราคาแพงกว่าทุกพิมพ์ จุดด้านล่างใต้ฐานซ้ายมืเรา กับในซอกแขนองค์พระชัดเจน



หลังลายผ้ากับตราเจดีย์คมชัดที่สุด รอยกระเทาะเพียงเล็กน้อยมุมล่างขวาทำให้เสียตำแหน่งแชมป์ไป ​

 

พิมพ์ตกคำว่า "เคาะไว" หรือเปล่าครับ 555
พิธีนี้เป็นพิธีที่นำกริ่งศิริราช 84 ปี เข้าเสกด้วยใช่ไหมครับ?

 

ขอขอบคุณการเอื้อเฟื้อจากคุณน้า Wanwi อีก 1 ชุดใหญ่ที่ เห็นแล้วเกิดกิเลสน่าดูครับ กับชุดพระบางขุนพรหม ปี 17 พิมพ์ใหญ่ ราคาเริ่มตั้งตัวแล้วครับ และพระในตำนานพระบางขุนพรหมกรุเจดีย์เล็กพิมพ์จันทร์ลอย ที่ต่างก็เถียงกันว่าใช่ใหม(ทันหรือไม่) มานาน แต่เซียนเห็นคว้าไว้หลักร้อย ตามไปถามกลายไปเป็นหลักหมื่นต้นซะงั้น พระในกรุเจดีย์เล็ก มีการเล่นแง่กันมานาน จนในที่สุดก็ต้องยอมรับ เพราะความจริงคือความจริง (สิ่งที่เห็นคือก้อนแป้ง แต่สิ่งที่บ่งบอกคือเนื้อกับตังอิ้วที่ผ่านกาลเวลา)

ขอบคุณคุณ totto กับภาพงามๆ ครับ

 

อ่านเจอว่ากริ่งศิริราช 84 ปี ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ อีกครั้งที่ วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม ในวาระเดียวกันที่สร้าง “พระสมเด็จ ปี ๒๕๑๗ “ ครับ

 

พักรบโลกวิญญาณเข้าโหมดชีวิตมนุษย์เดินดินกลิ่นไอพงไพรพอให้ไม่ลืมว่าอยู่ที่ตรงไหนกัน เรื่องศึกหัวใจก็ว่ากันไปตามจริง สงครามชีวิตก็เป็นดั่งนี้ บางครั้งเราก็ชนะ บางคราวเราก็แพ้ แต่อย่าให้โลกทำเราเป็นผู้แพ้พ่าย

 

เป็นกรุกลางเมืองหลวงที่ถกเถียงกันนานในหมู่นักสะสมนิยมชมชอบสมเด็จว่า ใครเป็นผู้สร้าง? เพราะพระแตกกรุในปี 2508 จากการบูรณะเจดีย์เล็กในวัดใหม่บางขุนพรหม

(ส่วนที่บรรจุกรุพระบางขุนพรหมเสมียนตราด้วงอันลือลั่นนั้น เป็นพระเจดีย์ใหญ่)

การแตกกรุหนแรกนั้นพระถูกคนงานกับชาวบ้านเก็บไปหมดเกลี้ยง มีเหลือในคราวหลังเมื่อค่อยๆทลายเจดีย์เล็กซึ่งมีถึง8เจดีย์ที่ทรุดโทรม

การสันนิษฐานก็ว่าไปตามหลักฐานที่มี ยุคแรกที่พระสมเด็จพอมีให้เล่นหาไม่ทารุณหัวใจกับราคา พระกรุเจดีย์เล็กถูกหมางเมินจากประดาเซียนใหญ่ เซียนกลาง เซียนน้อย ต่อเมื่อสมเด็จหลักหายากเข้า ประกอบกับวิถีพุทธพาณิชย์รุนแรงเกินห้ามใจ

พระกรุเจดีย์เล็กที่ถูกเมินไม่แล ก็ค่อยๆเดินเผยโฉมบนแคทวอร์ค กลายเป็นดาวดวงใหม่ที่เรืองแสงในตัวเอง ปัจจุบันก็อย่างที่รู้กันราคาใช่ว่าจะจับต้องง่าย และหาพระแท้ก็ไม่ง่ายเช่นกัน

พระกรุนี้มี 7พิมพ์คือ จันทร์ลอย...สมเด็จฐานคู่...สามเหลี่ยมหน้าหมอน...ไสยาสน์...ยืนประทานพร...พิมพ์พระเจดีย์ และพิมพ์ฐานหมอน

 

ตอบน้องยันต์ฯค่อนข้างละเอียดแล้วตรงภาพด้านบน

 

น่านแหละ อาถรรพ์เหล็กไหลฯ น้องบานชื่น นำเอาชะตาชีวิตของคนที่ผูกพันกันยาวนานข้ามภพข้ามชาติมาเจอะเจอกันทั้งทางโลกทางวิญญาณ คิดหรือคำว่า"อาถรรพ์เหล็กไหล"จะหมายถึงเฉพาะเจ้าตัวเหล็กอัศจรรย์ในเรื่อง

สังเกตบางอย่างไหม...ทุกข้อปริศนาที่ทิ้งไว้แต่ละช่วงตอน จะเฉลยตัวเองทีละเปลาะเมื่อถึงเหตุการณ์ที่ต้องเปิดเผย ไม่มีทิ้งค้างไว้แล้วสูญหายไปโดยไม่ได้เฉลยเป็นอันขาด ลองทบทวนความจำก็ได้ ว่าทิ้งแก็ก-หักมุมไว้กี่ช่วง ถ้าเป็นนักอ่านความจำดี

 

ในเมื่อว่ากันเรื่อง"บางขุนพรหม"ทั้งภาพกับเรื่องเป็นฉากๆมาเรื่อยรุ่ม ก็สมทบกับยุคใหม่ที่กำลังไต่เพดานยอดนิยมเข้าไปด้วยเลย โดยข้ามรุ่นปี09ไปซะ มาว่ากันปี 17 ที่สูสีความดังในหมู่คนรุ่นใหม่ ไม่แพ้"100ปี-วัดระฆัง"บางคนว่า ดังกว่า ดีกว่า ด้วยซ้ำ เพราะจำนวนการสร้างเพียง 40,000องค์กับเศษอีกเล็กน้อยในทุกพิมพ์มาตรฐาน

ดังนั้นเมื่อจำแนกออกเป็นพิมพ์ใหญ่ และแยกย่อยเป็นพิมพ์1...3...5 จุดกับใหญ่ธรรมดา จำนวนพระก็จะยิ่งน้อยลงไปอีกแต่ก็ไม่น้อยเกินการแสวงหาสะสมเรียกว่ากำลังพอดีเหมาะสำหรับ ไว้ใช้บูชาพึ่งพุทธคุณจากการปลุกเสกโดย หลวงปู่โต๊ะกับปวงคณาจารย์สุดยอดของยุคนั้น หรือเก็งกำไรก็ไม่ผิดกติกา เป็นพระที่ยิ่งมา ยิ่งแพงทุกปี

ต้องขอบคุณน้องต้อดกับการจัดภาพได้น่าชม ทั้งที่ภาพถ่ายด้วยมือถือ ให้กระทู้เปี่ยมเสน่ห์ด้วยเรื่องเล่า เคล้าเรื่องบุญ และเรื่องน่าลุ้นน่ารู้กับพระแท้ยอดนิยม ไม่มีนิทานนิยายรกรุงรัง อ่านหน้าไหนก็ได้อรรถรส สดทุกเมื่อ

 

ควรตกคำว่า"ประมูลมีราคากลาง"เมื่อถึงเวลาก็คงจัดให้ทำบุญกัน...พระชุดนี้ผมสะสมตั้งแต่ปี 20 ปล่อยผ่านมือ แลกเปลี่ยนไปหลายสิบองค์ เก็บเพราะทุกปีของบางขุนพรหม-วัดระฆัง ยุคหลัง มีหลวงปู่โต๊ะอธิษฐานจิตชนิดขาดหลวงปู่ไม่ได้แม้งานเดียว

---สำหรับกริ่งศิริราช84เป็นหนึ่งในสุดยอดพระกริ่งของแผ่นดินยุคหลัง2500 ผ่านพิธียิ่งใหญ่หลายหน อาทิ
---ปี16 ปลุกเสกวัดบวรฯมีหลวงปู่โต๊ะ
---ปี17 ปลุกเสกวัดใหม่บางขุนพรหมร่วมกับชุดนี้ ก็หลวงปู่โต๊ะนำทัพ เท่ากับหลวงปู่อธิษฐานจิตให้ใน2พิธีหลวง-พิธีใหญ่
---ไม่นับนำไปให้ หลวงพ่อเกษม ปลุกเสกที่ลำปาง คร่าวๆแค่นี้ก็พอน้องณัฐ มีก็เก็บไว้ สร้างไม่มาก หายาก มีแต่แพงและแพง

 

ตามที่น้องสุทินสาธยายทุกประการครับ ทั้งจันทร์ลอยเจดีย์เล็ก กับปี17 ที่าไต่ไปอยู่จุดมาตรฐานพระหลักบางขุนพรหม

 

ถูกต้องครับน้องเด็กบ่อฯ ปีนั้นพิธีใหญ่มากของวัด