สมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน และครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัตดีปฏิบัติชอบ

สมเด็จพุทธชัยสีมา วัดใหม่บ้านดอน ปี2511 และได้ทำการปลุกเสกมาเรื่อยๆ และนำเข้าในพิธีปลุกเสกกับนางพญางิ้วดำแทบทุกรุ่น

 

ของแบบนี้ได้แล้วก็ต้องให้ และต้องทำบุญถวายท่านด้วย

 

พอจะเล่าได้ไหมครับว่า ว่าเพราะมีสาเหตุใดครับ น่าสนใจมากครับ
ตัวจริงเสียงจริงครับ ....ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

 

นึกขึ้นมาได้อีกแล้ว เรื่องราวของสมเด็จนางพญางิ้วดำ /เจ้าแม่นางพญางิ้วดำ ที่วัดใหม่บ้านดอน นครราชสีมา

ถ้าผมจำไม่ผิดเป็นพระที่วัดใหม่บ้านดอนเล่าให้ผมฟังว่า เคยมีคนเห็นผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวเดินอยู่แถวมณฑปตำหนักสมเด็จนางพญางิ้วดำ ตอนเวลาดึกๆ

 

เรื่องเล่าสู่กันฟังครับ

ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมานี้ ผมได้ตั้งสัจจะ เจริญพุทธมนต์ตามแนวทางของหลวงพ่อจรัญ จ.สิงห์บุรี และตามด้วยบทบูชาสมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน พยายามจะทำให้ได้ทุกวันโดยไม่ให้ขาด (เพื่ออธิษฐานขออะไรบางอย่างครับ)

และเมื่อคืนผมก็มีความตั้งใจเป็นพิเศษที่จะบูชาสมเด็จนางพญางิ้วดำ คือผมซื้อดอกกุหลาบสีแดงเข้ม 5 ดอกใส่แจกันถวายพระพุทธมงคลชัยสีมา (วัดใหม่บ้านดอน)โดยเฉพาะนอกเหนือไปจากที่ได้ถวายพวงมาลัยที่โต๊ะหมู่บูชาพระ

แต่ใจก็ยังห่วงดูฟุตบอลอยู่ (ของมันชอบ) แต่ก่อนผมจะดูฟุตบอลบอล ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ผมก็ตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าจบครึ่งแรกเมื่อไหร่ก็จะเข้าห้องพระสวดมนต์เลย (เมื่อคืนก่อนหน้าก็นั่งดูคู่ลิเวอร์พูลกับโรม่าพอจบครึ่งแรกก็เข้าห้องพระเลย ) เริ่มสวดมนต์ก็เกือบจะตีสามแล้ว และกว่าจะสวดครบทุกบทที่ตั้งใจไว้ ก็เสร็จประมาณ 4.15 น.

ตอนที่สวดมนต์ พอสวดมาถึงบทบูชาสมเด็จนางพญางิ้วดำ ใจผมมันก็นึกถึงเรื่องที่เคยลงไว้ในกระทู้ ที่ผมเคยเล่าไว้ว่า สมเด็จนางพญางิ้วดำท่านเคยบอกผมไว้ว่า ถ้าตอนที่ผมสวดมนต์แล้วเกิดมีเสียงอะไรดังขึ้นมาไม่ต้องตกใจ ท่านบอกว่าท่านต้องการแสดงให้รู้ว่าท่านมาร่วมสวดมนต์ด้วย

เท่าที่ผมสังเกตุมา วันที่ได้เริ่มสวมมนต์มาตั้งแต่ 15 เมษายน ยังไม่เคยมีเสียงดังอะไรเกิดขึ้นมาเลย จนมาเมื่อคืนพอสวดใกล้จะจบ มันมีเสียงดังชัดเจนอยู่ภายในห้องเป็นเสียงที่เหมือนมีอะไรมากระทบกัน ผมก็มีสะดุ้งนิดนึงแต่ก็จำได้ว่า ท่านบอกไม่ให้ตกใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่รู้จะมีความเกี่ยวข้องกับความตั้งใจของผมที่ต้องการถวายดอกกุหลาบท่านโดยเฉพาะหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ผมก็บูชาพวงมาลัยแบบรวมที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาอย่างเดียว

 

เรื่องเส้นเกศารวม

ผมไลน์สอบถามเรื่องเส้นเกศารวมกับพระอาจารย์รูปนึงท่านบวชมาได้ ประมาณ 30 พรรษา

ท่านตอนมาแบบนี้นะครับ : เส้นเกศารวมเป็นทรงกลมได้ก็เพราะเป็นพลังสมาธิคือจิตรวมเป็นหนึ่ง ของฆราวาส ญาติโยมก็เป็นกันเยอะ ของฤาษีในอินเดียก็มีมากมาย

คำตอบนี้จะเป็นข้อเท็จจริงอย่างไรนั้นผมก็ไม่อาจทราบได้ครับ คงแค่ขอฟังเอาไว้เป็นข้อมูลก่อน

 

คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

หนังสือสวดมนต์คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เล่มนี้ผมเพิ่งขอเขามาเมื่อวันพุธที่ 25 เมษายนที่ผ่านมานี้ครับครับ

ผมนำมาตั้งบูชาไว้ที่โต๊ะหมู่บูชาพระที่บ้าน

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เพราะตอนที่ได้จับหนังสือเล่มแล้วผมก็นั่งสมาธิไปด้วย ตอนเริ่มนั่งสมาธิเกิดผรณาปิติอย่างรุนแรงมาก ชนิดที่ว่าท่วมหัวอยู่นานเป็นหลายวินาที

 

เมื่อคืนเรียบร้อยไปแล้ว เปลี่ยนที่นอนคือไม่ได้นอนที่บ้าน เลยโดนความไม่ตั้งมั่นยึดครอง เดี๋ยวจะเริ่มตั้งสัจจะใหม่คืนนี้ครับ คราวนี้จะต้องทำให้ได้มากกว่า 11 วัน

 

คัดลอกมาจาก โพสของ คุณSiTa ครับ

“…ศิษย์มือใหม่อยากสงเคราะห์คนโดนของ…”

เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสวนทางกับโลกยุคใหม่ ที่พบว่าในขณะที่โลกกำลังเจริญทางวัตถุ แต่ไสยศาสตร์ก็ยังคงดำเนินไป มิได้สาบสูญไปไหน เพราะเหตุคือมิจฉาอาชีวะที่หาทรัพย์ได้โดยง่าย แม้จะเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นก็ตาม

ศิษย์มือใหม่ของหลวงปู่หลายคนที่บังเอิญอยู่ในเหตุการณ์และสันนิษฐานว่าอาจมีสาเหตุมาจากคุณไสย เช่น อาการเจ็บป่วยที่หมอตรวจไม่พบ ครั้นลองอธิษฐาน ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ (ที่ตากแห้งไว้) ให้คนป่วยกิน ก็เกิดอาการอาเจียนทันที หลังจากนั้นไม่นานก็หาย กรณีนี้ก็จบลงด้วยดี

โดยปกติเรื่องคุณไสยหรือการทำของก็มักมีเรื่องของผีมาผสมโรงด้วยเสมอ ซึ่งครั้งหนึ่ง ผีได้ปรากฏร่างให้เด็กน้อยเห็นเป็นคนร่างใหญ่มีขนเต็มตัว ตาแดงกล่ำ ยืนอยู่ในบ้าน คุณแม่เด็กซึ่งไม่รู้จะไปพึ่งใคร ก็ติดต่อมาทางลูกศิษย์หลวงปู่คนหนึ่ง ลูกศิษย์คนนั้นก็ตอบว่าเขาไม่มีความรู้อะไรทางนี้เลย แต่ก็ได้นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ติดไปฝากไว้ให้ พร้อมกับยืนอธิษฐานแผ่เมตตาตรงตำแหน่งที่เด็กน้อยเห็นผี

ในตอนขากลับ เหตุการณ์ไม่คาดคิดได้เกิดกับลูกศิษย์หลวงปู่คนนั้น กล่าวคือในขณะขับรถกลับ อยู่ ๆ เบรคก็ไม่ทำงาน จนเกือบไปชนเอารถคันหน้า ต้องประคับประคองรถด้วยเบรคมือเป็นระยะ ๆ กระทั่งมาถึงบ้านด้วยความปลอดภัย

แต่ที่น่าอัศจรรย์ในบารมี รวมทั้งความเมตตา และญาณหยั่งรู้ของหลวงปู่ก็คือ หลังจากนั้นเพียงวันสองวัน หลวงปู่ได้บอกผ่านลูกศิษย์คนหนึ่งให้โทรมาเตือนลูกศิษย์คนนั้นว่า

“การจะไปสงเคราะห์ใครนั้น ให้ดูกำลังตัวเองเสียก่อน”

นี่ที่เขารอดตายมาได้ก็เพราะหลวงปู่ตามคุ้มครอง ไม่อย่างนั้นก็อาจได้รับอันตราย เพราะเที่ยวไปช่วยใคร ๆ โดยไม่ประมาณกำลังตนเอง และทำให้ลูกศิษย์คนนั้นต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่า กำลังตัวเองไม่สำคัญ ขอเพียงเป็นสื่อขอบารมีหลวงปู่ก็พอแล้ว เพราะแท้จริงแล้วกำลังตัวเองนั้นแหละสำคัญไม่น้อย เปรียบเหมือนคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคแล้วไปยุ่งเกี่ยวกับเชื้อโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อที่แรง ๆ ก็ย่อมเป็นเหตุให้ติดเชื้อโรคนั้นกลับมาได้

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

 

ชานหมากหลวงพ่อองค์สูง

ผมขออนุญาตเจ้าของรูป (ไม่ทราบชื่อ) มา ณ.โอกาสนี้ด้วยนะครับ



ย้อนกลับไปเมื่อปี 2553 ตอนที่ผมได้เข้าไปช่วยงานคุณแม่สมใจ สำนักปฏิบัติเทพมงคลสุขใจ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ผมนั่งรับประทานอาหารกลางวันหลังถวายเพลพระเสร็จ โต๊ะที่นั่งเป็นโต๊ะกลมนั่งร่วมกับคนอื่นๆที่มาร่วมงานกันแบบหลวมๆประมาณไม่เกิน 10 คน

และมีผู้ชายอยู่คนนึงเขาก็ชวนผมคุยเรื่องพระเครื่อง เรื่องครูบาอาจารย์ ผมเลยรู้ว่าพี่ผู้ชายคนนี้เขาขับรถพาหลวงพ่อรูปนึงมาร่วมงานบุญเททองหล่อพระ 5 พระองค์ เขาก็เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ผมฟัง ผมก็ฟังเขาเสียเพลิน คือกินข้าวกันไปก็ฟังเรื่องราวดีๆไปด้วย พอคุยไปคุยมา พี่เขาก็ถามผมว่า รู้จักหลวงพ่อตัวสูงๆ ที่เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อจรัญหรือเปล่า

ผมก็ตอบไปว่า ผมเคยเห็นแต่ในรูปที่มีคนนำมาลงไว้ ตัวท่านจะสูงมากๆ เขานำมาลงกันว่าเป็นหลวงพ่อที่สอนวิชาให้กับหลวงพ่อจรัญ และเล่าว่าเป็นหลวงปู่เทพโลกอุดร ผมก็รู้เท่าที่เขานำมาลงไว้

พี่เขาก็บอกผมว่า พี่เขาเป็นคนขับรถให้หลวงพ่อองค์สูงๆนี้ เขาก็บอกชื่อของท่าน แต่ผมไม่ได้จำไว้ แต่เท่าที่จำได้พี่เขาบอกว่า ท่านไม่ใช่หลวงปู่เทพโลกอุดรอย่างที่เขาลงไว้หรอก แล้วเขาก็ถามผมว่า อยากได้ชานหมากหลวงพ่อองค์สูงนี้ไหม เขาจะแบ่งให้ผม ผมก็ตอบไปว่า อยากได้ครับ พอกินข้าวเสร็จพี่เขาก็ไปหยิบมาจากที่รถเอามาให้ผม เดี๋ยวผมค่อยถ่ายรูปเอามาลงอีกทีครับ

 

วัตถุมงคลยุคแรก กับการรวบรวมมวลสารอันสุดยอด ของวัดใหม่บ้านดอน รวมถึงพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีปลุกเสก
สมเด็จพุทธชัยสีมา ปี2511 (หูบายศรี)

 

วันนีมีเรื่องเกี่ยวกับหลวงปู่โตครับ

...เผอิญนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องราวปาฏิหาริย์ของสมเด็จโต...เมื่อประมาณปี 2538 มีรุ่นพี่ให้ผมไปช่วยออกแบบโครงสร้างบ้านให้กับเพื่อนของรุ่นพี่คนนึง
ผมก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่า เจ้าของบ้านเป็นนักบินการบินไทย ตอนที่ไปที่บ้านของเขาแถวหมู่บ้านสัมมากร

ตอนที่ขึ้นไปคุยกันในห้องพระของนักบินการบินไทยคนนี้ ผมเห็นรูปปั้นของสมเด็จโตวางอยู่เยอะมากเป็นหลักสิบยี่สิบองค์ ผมก็นั่งฟังเขาคุยกัน ถึงสาเหตุว่า ทำไมนักบินคนนี้จึงนับถือสมเด็จโตมากถึงมากที่สุด นักบินเขาเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งเครื่องบินบินอยู่ในระดับสูง เกิดมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องบินสูญเสียการทรงตัว คือเหมือนทำท่าว่าจะตก ในตอนนั้นนักบินเขาบอกว่า เขาเห็นเป็นพระแก่ หน้าตาเป็นสมเด็จโตมาประคองที่ปีกเครื่องบินอยู่ ทำให้เครื่องบินไม่เสียการทรงตัว.... นักบินบอกว่านี่แหล่ะทำให้เขาจึงนับถือสมเด็จโตมากๆ

ตอนนั้นผมอายุ 24 เพิ่งจะเริ่มมาสนใจพุทธศาสนายังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากเท่าไหร่ ก็ได้แต่ฟังเขาเล่า

 

ลูกอมชานหมากที่ได้มาจากพี่คนขับรถที่พาหลวงพ่อรูปนึงมาร่วมงานหล่อพระที่สำนักปฏิบัติธรรมเทพมงคลสุขใจ ได้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2553 แต่เพิ่งนำมาเลี่ยมใส่กรอบแขวนบูชาครับ

 

เมื่อสักครู่ผมเข้าไปโพสในกระทู้ของ นิทานถึงเครื่องลาง เกี่ยวกับวัถตุมงคลด้านโชคลาภทำให้ผมนึกเรื่องตอนที่บ้านผมพากันไปไหว้พระทำบุญที่วัดหลวงพ่อวัดบ้านแหลมเมื่อเร็วนี้ๆครับ

ตอน 1

ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ปี 60 ถึงเดือน พ.ค. 61 ผมพาพ่อกับแม่ไปไหว้หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ที่จังหวัดสมุทรสงคราม ได้เป็นครั้งที่ 3 พ่อกับแม่ผมถวายธูปเทียนดอกไม้บูชาพระเสร็จ ก็เอาเงินหยอดใส่ตู้ทำบุญบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ใส่ตู้ละ 20 บาท

เสร็จแล้วตามฟอร์มของคนชอบซื้อล๊อตเตอรี่เสี่ยงโชค ก็พากันไปเดินหาซื้อล๊อตเตอรี่ ตอนครั้งแรกที่ไป เมื่อเดือน วันที่ 5 ธ.ค.60 แม่ผมซื้อ ลตร.มาสองใบ เป็นครั้งแรกของชีวิตที่ซื้อถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวตั้งสองใบ...แม่ดีใจมากไม่เคยซื้อลตร.ถูกตั้งสองใบ และที่สำคัญไม่เคยถูกลตร.มาเป็นหลายสิบปี

ไปไหว้หลวงพ่อวัดบ้านแหลมครั้งที่สองน่าจะเป็นเดือนมกราคมปี 61 ทำทุกอย่างเหมือนเดิม คราวนี้พ่อผมก็ถูกลตร. อีกหลายใบแต่พ่อปิดเงียบ ไม่บอกเลยว่าถูกกี่ใบ รู้แต่ว่าพอหวยออก วันรุ่งขึ้นเอาพระไปเลี่ยมทอง ส่วนแม่ก็ซื้อบ้างแต่ไม่ถูก

 

เมื่อสักครู่ผมเข้าไปโพสในกระทู้ของ นิทานถึงเครื่องลาง เกี่ยวกับวัถตุมงคลด้านโชคลาภทำให้ผมนึกเรื่องตอนที่บ้านผมพากันไปไหว้พระทำบุญที่วัดหลวงพ่อวัดบ้านแหลมเมื่อเร็วนี้ๆครับ

ตอน 2

พอไปไหว้พระทำบุญกับหลวงพ่อวัดบ้านแหลม และได้โชคมาสองครั้งผมก็มาเล่าให้พี่ชายผมฟัง และเอ่ยปากชวนพี่ชายให้ไปไหว้พระทำบุญที่วัดหลวงพ่อวัดบ้านแหลมพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่ลูก 4 คน วันที่ไปนั้นเป็นวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ค. 61 พอไปถึงวัดก็ถวายดอกไม้ธูปเทียน ทำบุญหยอดเงินใส่ตู้เหมือนเดิม แต่คราวนี้มีพิเศษหน่อยนึง

ก่อนวันที่จะไปนั้นผมกับแฟนก็เตรียมของไปถวายสังฆทานเพิ่มเติมจากการทำบุญหยอดตู้ คือมีึความตั้งใจว่าจะได้ทำบุญถวายเครื่องสังฆทานปัจจัยไทยธรรม เพื่อเป็นการถวายหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ผมซื้อกล่องพลาสติกพร้อมเครื่องไทยธรรมใส่ไป แต่ตอนจะไปถวายเราก็ยังหยอดเงินใส่ตู้ถวายสังฆทานของวัด เพียงแต่ไม่อยากใช้ถังเก่า เพราะเมื่อปีที่แล้วนี้มีเพื่อนส่งไลน์มา เรื่องทีีี่มีหลวงปู่แก่ๆรูปนึง ท่านมาบอกว่าการนำดอกไม้ที่เขาใช้อธิษฐานไหว้พระไปแล้วกลับมาไหว้พระใหม่ ตามที่วัดเขานิยมจัดเตรียมไว้ให้ทำบุญบูชาดอกไม้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะดอกไม้นั้นคนที่ถวายเขาได้ตั้งจิตอธิษฐานอะไรไว้แล้ว พอผมได้อ่านและได้คิดตามว่าน่าจะเป็นไปได้

ตั้งแต่ที่ผมได้อ่านเรื่องนี้ผมเลยต้องหาซื้อดอกไม้ไปไหว้พระเองทุกครั้ง จะไม่เอาดอกไม้ของวัดอีกเลย (เพราะไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้เวียนเทียนหรือเปล่า) แต่เงินค่าบูชาดอกไม้ธูปเทียนเราก็ยังหยอดใส่ตู้เหมือนเดิม ส่วนเครื่องสังฆทานก็เช่นเดียวกัน ต้องเป็นของใหม่เท่านั้น

 

เมื่อสักครู่ผมเข้าไปโพสในกระทู้ของ นิทานถึงเครื่องลาง เกี่ยวกับวัถตุมงคลด้านโชคลาภทำให้ผมนึกเรื่องตอนที่บ้านผมพากันไปไหว้พระทำบุญที่วัดหลวงพ่อวัดบ้านแหลมเมื่อเร็วนี้ๆครับ

ตอน 3

ครั้งที่ 3 นี้ไปกันหมด พ่อแม่ พี่ชายผม และครอบครัวผม 4 คน พอเราไหว้พระบูชาดอกไม้ธูปเทียนเสร็จ ก็พากันถวายสังฆทานพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไม่เคยได้ทำบุญกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา พอทำบุญเสร็จก็กรวดน้ำอุทิศบุญ ผมก็นำน้ำไปเทบอกพระแม่ธรณีช่วยนำส่งบุญไปให้กับญาติที่ล่วงลับ

เจตนายังเหมือนเดิม คนในบ้านก็เดินดูล๊อตเตอรี่กัน พอกลับมาวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมาพี่ชายผมคนเดียวที่ถูก ลตร. เลขท้าย 3 ตัวตั้ง 4 ใบ (ซื้อเลขทะเบียนรถ 650 รถของพี่ชาย) พี่ชายใจดีมากๆแบ่ง ลตร.ให้สมาชิกในครอบครัว มีพ่อ มีแม่ มีน้องชาย (ตัวผมเอง) คนละ 1 ใบ...วี๊ดวิ้ว...จนป่านนี้ผมยังไม่ได้เอา ลตร.ไปขึ้นรางวัลเลยลืมทุกที...555

 

*** ขอเพิ่มเติมครับ

พอหลังจากกลับมาจากไหว้พระทำบุญที่วัดหลวงพ่อบ้านแหลม มันก็มีข่าวรถเฟอร์จูนเนอร์ถูกรถพ่วงทับซะแบนแต๋ดแต๋ ข่าวออกตอนกลางคืน ผมเลยไลน์ไปบอกพี่ชายให้ซื้อ หวยเลขท้ายรถฟอร์จูนเนอร์ 1695 ด้วย พอไลน์ไปปั๊บ พี่ชายบอกว่าสั่งซื้อเลยทันที พอหวยออก ได้ 95 มาอีก เกือบ 4 พันบาท

ผมบอกว่าพี่ชายไปว่า ปีที่แล้ววันที่ 6 เดือน มิ.ย. มีรถเก๋งเกิดอุบัติเหตุแถวจังหวัดจันทบุรี คือตัวรถพังยับแบบด้านหน้ารถพับมาชนท้ายรถ แต่คนขับกับเดินออกมาจากรถ ในสภาพที่เหลือเชื่อมากๆ ในภาพข่าว เขาเอาป้ายทะเบียนมาไว้วางบนตัวรถ ถ่ายรูปมาชัดมากเห็นเลขทะเบียน 574
พอวันที่ 16 มิ.ย. เลขท้ายสองตัว ออก 47 ผมเห็นรางวัลออกแล้วก็ทึ่งนะ ว่ามันเลขท้ายรถคันที่พังยับนี่ คนขับรถคันนี้เขาเชื่อว่ารอดตายมาได้ด้วยผ้ายันต์ของหลวงพ่อเขียน วัดกระทิง

เรื่องรอดตายนี่ก็สุดแสนจะทึ่งมากอยู่แล้ว แต่แปลกว่า ทำไมเลขท้ายต้องออกรางวัลอีก..ผมล่ะงงจริงๆครับ ส่วนผมก็คงมีหน้าที่บอกใบ้อย่างเดียว ซื้อหวยเองแล้วไม่รุ่ง

 

รูปเหมือน พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5
ที่กองบัญชาการ กรมทหารราบที่ 1 รอ. กองพันทหารราบที่ 1
( คิดอยู่หลายวันแล้วว่าจะเล่าดีหรือไม่ครับ )

สมัยเมื่อปี 2548-49 ผมได้มีโอกาสเข้าไปใช้งานห้องประชุมของ กองบัญชาการ ร.1 พัน 1 รอ. ห้องที่มีรูปปั้นพระพุทธเจ้าหลวงนั้น ประดิษฐานนั้นอยู่ห้องข้างๆติดกับห้องประชุมซึ่งถ้าจะต้องเดินเข้าห้องประชุม ต้องเดินผ่านห้องนี้ก่อน

ผมเดินผ่านอยู่หลายครั้ง เพราะต้องเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมจำได้แม่นยำมากครับ
ตอนที่ผมเดินผ่านห้องนี้ก็ไม่รู้หรอกมีรูปเหมือนหล่อของรัชกาลที่ 5 อยู่ในห้อง เพราะเขาปิดไฟมืด และยังมีม่านรูดแบบเกือบปิดผนังกระจกมิด

ตอนแรกๆที่เดินไปห้องน้ำผมไม่รู้จริงๆ คือผมเข้าไปใช้ห้องประชุมตั้งแต่ตอนบ่าย เดินเข้าออกห้องประชุมก็ 3-4 ครั้ง พอถึงเวลาช่วงค่ำๆ ผมก็เดินออกมาเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่เดินกลับเข้าห้องประชุม ก่อนจะผ่านห้องที่มีรูปเหมือนลอยองค์ของรัชกาลที่ 5 เรียกได้ว่า เดินเกือบจะพ้นห้องอยู่แล้ว ก็มันเหมือนมีอะไรมากระทบที่แถบซ้ายของตัวผมทั้งแถบ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่มากระทบมันค่อนข้างเด่นชัดมาก

ผมเลยมองตามทิศทางสิ่งที่มาตกกระทบตัวผม ผมมองตามเข้าไป ในห้องนั้นทั้งๆที่มันมืด แต่มีแสงไฟสลัวๆจากทางเดินสาดเข้าไป พอให้เห็นเป็นรูปหล่อยืนของพระพุทธเจ้าหลวง ทรงแต่งเป็นทหาร พอผมเห็นผมก็ตกใจเล็กน้อย ว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายมานี้ เดินไปมาหลายรอบแต่ไม่ยักจะรู้ว่าห้องนี้มีรูปหล่อยืน (องค์น่าจะขนาดเท่าองค์จริงนะ) ผมต้องรีบยกมือขึ้นไหว้สักการะท่านทันทีที่เห็นว่าเป็นรูปหล่อรัชกาลที่ 5

ผมขออนุญาตบอกว่า สิ่งที่มาตกกระทบใส่ตัวผม วันนั้น ผมรู้สึกว่าค่อนข้างแรงมากๆครับ น้องๆไฟฟ้าช๊อตเลยครับ เพราะว่าทำให้เราถึงกับชะงักเลย

 

ผมคิดเล่นๆเอาเองนะครับ ว่าถ้าใครจะสร้าง เหรียญหรือรูปหล่อลอยองค์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 รูปเหมือนองค์นี้น่าจะสามารถนำมาเป็นองค์ประธานได้เลยครับ

มาถึงวันนี้พอได้นึกถึง ผมก็อยากจะขอเข้าไปไหว้อีกรอบนึงเลยครับ แต่คงยากมากถึงมากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานทหาร เป็นกองบัญชาการของ กองพันทหารราบที่ 1 รอ. ถ้าไม่รู้จักกับใคร ไม่มีทางจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปอย่างแน่นอนครับ