วัตถุมงคล...เริ่มหน้า 676 เป็นต้นไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 4 มกราคม 2017.

  1. อาทิตย์03

    อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +773
    จองรายการนี้ครับ
     
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบการจองครับ
     
  3. 0นิรนาม0

    0นิรนาม0 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +3,450
    แจ้งการโอนเงิน พระพุทธชินราช หลัง หลวงพ่อยงยุทธ
    องค์ที่ 1
    ที่อยู่ในการส่งแจ้งทาง PM
     
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    867. สมเด็จสามชั้น เนื้อดินผสมผงกระดูกผี วัดโพธิ์ท่าเตียน (วัดพระเชตุพน) กรุงเทพ ปี2484 ***แบ่งให้บูชา 850 บาท*******คุณbaiminจองครับ***
    สมเด็จสามชั้น วัดโพธิ์ท่าเตียน (วัดพระเชตุพน) กรุงเทพ ยุคแรก จัดสร้างประมาณปี พศ.๒๔๘๔ เนื้อดินผสมผงกระดูกผี เป็นสมเด็จยุคเก่าอีกรุ่น ที่หาตัวจริงเสียงจริงยากมากนานๆจะพบเห็น จนจะเป็นพระในตำนานไปแล้ว ส่วนองค์นี้ ตัวหนังสือติดชัดเก่า ได้แรง มีหน้ามีตา พุทธคุณแรง ไม่ว่าคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม หายากน่าเก็บน่าใช้อีกละคราฟ **************************************************************** เมื่อประมาณปี พศ.๒๔๘๔ เมื่อประเทศอยู่ในสภาวะสงคราม ข้าวยากหมากแพง ผู้คนอยู่ในภาวะหวาดกลัวและสิ้นหวัง ก็เลยหันหา พาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งของเก่าที่มีอยู่และหาที่พึ่งใหม่ๆ วัดโพธิ์มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้มาพักอาศัยเพื่อศึกษาวิชาหมอยาเพื่อนำไปดูแลและรักษาญาติโยมที่เจ็บไข้ได้ป่วย ยุคสมัยนั้นแพทย์แผนปัจจุบันมีน้อย ต้องพึ่งหมอพระหมอยาแผนโบราณ..อาจารย์ หนู เป็นพระธุดงค์ที่เดินทางเพื่อมาศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ ที่วัดโพธิ์ เป็นพระมาจากอิสานใต้ เก่งไสยศาสตร์แนวเขมร ทีนี้กลับเข้าสู่โหมดสร้างพระ เมื่อผู้คนต้องการพระก็มาหาพระและวัดโพธิ์ยุคสมัยนั้นมีพระกรุพระเก่าพระแตกพระหักวางทิ้งๆขว้างๆตามกำแพงวัดมากมายพอควร เวลาไปหาพระต้องหาเจ้าอาวาส ยุคนั้นพระสมเด็จพุฒาจารย์(เข้ม)เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดโพธิ์ สภาพวัดยุคนั้นเหมือนกับป่า มีหญ้ารกสูงถึงอกยันท่วมหัว มีต้นไม้มืดครึ้มไปหมด ยิ่งต้นไม้ประเภทสมุนไพร มีทั้งยืนต้นและล้มลุก มีมากมาย มีทั้งเกิดเองและพระเณรปลูกไว้เข้าเครื่องยา เมื่อมีคนมาขอพระ เจ้าอาวาสท่านใจดี แนะให้หยิบเอาตามกำแพงวัดไปได้เลยเลือกเอาที่สภาพดีๆมีเยอะแยะเป็นพระที่นำมาจากอยุธยาสมัยกรุงแตก ทีนี้นานเข้าคนมาเอาเยอะพระร่อยหลอค่อยๆหมดไปที่มีอยู่ก็หักบิ่นหรืออาจไม่โดนใจคนที่อยากได้ และอยากได้พระที่ทำขึ้นใหม่ สมเด็จท่านไม่ค่อยมีเวลา ก็เลยทอดสายตาไปทั่ววัด ว่าจะให้พระภิกษุรูปใหนสร้างพระแจกญาติโยม สายตา มาสดุดหยุดที่พระชาวเขมรผู้เรืองอาคมคือพระภิกษุหนุ่มใหญ่คือพระอาจารย์หนูนี่เอง พระท่านจะรู้โดยฌานสมาธิอยู่แล้วว่าพระด้วยกันรูปใหนเก่งอย่างไรและอาจารย์หนูไม่มีภาระกิจอื่นๆในการปกครองสงฆ์ เพราะเป็นพระลูกวัดธรรมดา แต่มีอาคมสูง ก็เลยได้รับบัญชา จากสมเด็จท่านให้สร้างพระแจกญาติโยม นี่คือที่มาของการสร้างพระกระดูกผีวัดโพธิ์ มิใช่จู่ๆพระบ้านนอกรูปหนึ่ง คิดอยากจะสร้างพระแจกก็ทำ มันทำไม่ได้ มันจะข้ามหน้าข้ามตาเจ้าอาวาส และพระสงฆ์รูปอื่นๆและจะไม่ได้รับความร่วมมือ และเมื่อสมเด็จท่านสั่ง อาจารย์หนูก็เริ่มรวบรวมมวลสารทั้งที่มีอยู่เดิมและมองหามวลสารใหม่ๆที่จะนำมาผสมให้ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง เอาสิ่งที่มีอยู่ใกล้ตัวคือว่าน และขี้เถ้าผี นี่แหละหาง่ายสุดในเวลานั้น มาสร้างพระกระดูกผีวัดโพธิ์ อันลือลั่น ในปัจจุบัน
    DSC_0196.JPG DSC_0198.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2018
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    868.หลวงปู่ทวด หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ปี2505 หลังยันต์ พิมพ์พระรอด(หลวงปู่ทิม ปลุกเสก) สภาพสวย**แบ่งให้บูชา 450 บาท*****มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***
    สร้างและปลุกเสกโดย หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ปถม อาจสาคร เป็นผู้แนะนำ การตำ คลุกเค้าผงและกดพิมพ์พระพุทธคุณ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม
    คงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย

    มวลสารส่วนผสม

    1.ผงวิเศษเก่าของหลวงปู่ทาบ
    2.สีผึ้งเขียวของหลวงปู่ทาบ
    3.ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ของอาจารย์ปถม อาจสาคร
    4.ผงถ่านคัมภีร์ใบลานโบราณเก่าของหลวงปู่ทาบ
    5.ผงวิเศษของหลวงพ่อบุญมี วัดโพธิสัมพันธ์ อ.ศรีราชา ชลบุรี
    6.ผงดินมงคลของหลวงปู่ทาบ
    7.ผงโยคีฮาเล็บ วัดสารนาถ อ.แกลง

    พิธีปลุกเสก

    ครั้งที่ 1 หลวงปู่ทาบปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาเต็ม
    ครั้งที่ 2 รายนามพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ณ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
    - หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รับนิมนต์เป็นประธานพิธี
    - หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
    - หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง
    - หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก

    พระเกจิอาจารย์ได้เข้าสมาธินั่งปรกปลุกเสกตั้งแต่ 18.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ทิม อิสริโก รับนิมนต์มาปลุกเสกนอกวัดละหารไร่ หลวงปู่ทาบเป็นสหธรรมิกและศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่ทิม ท่านได้สร้างพระเครื่องมากมายหลายพิมพ์ และจะนิมนต์หลวงปู่ทิมมาปลุกเสกทุกครั้ง พุทธคุณ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย

    DSC_0200.JPG DSC_0202.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2018
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    870. พระนาคปรก พิมพ์เล็บมือ อ.ชุม ไชยคีรี ปี97 เนื้อดิน ออกที่ วัดญวณสะพานขาว จ.กรุงเทพฯ (นิยม) ***แบ่งให้บูชา 850 บาท*****มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***
    พระนาคปรก พิมพ์เล็บมือ อ.ชุม ไชยคีรี ปี97 เนื้อดิน ออกที่ วัดญวณสะพานขาว จ.กรุงเทพฯ โดย อ.ชุมได้รวบรวมผงก้นกรุและพระหักป่น ในจังหวัดสุพรรณบุรี 20 กว่ากรุ ประมาณ 300 ก.ก. โดยการบอกของร่างประทับทรงหลวงปู่คง วัดตาล(อาจารย์ขุนแผน) ส่งมากรุงเทพฯ แล้วเดินทางต่อไป ภาคเหนือ ภาคอิสาน ได้ผงก้นกรุมาอีก 100 กว่ากรุ นำมาพักไว้ที่วัดญวนสะพานขาว เมื่อสมัยหลวงพ่อบ๋าวเอิงเป็นเจ้าอาวาส ดำเนินการสร้างเมื่อ วันที่16 พ.ค.-5 มิ.ย.ปี 2497 ปลุกเสกที่ วัดสมณานัมบริหาร(วัดญวนสะพานขาว) สะพานขาว กทม. ในพิธีมีการอัญเชิญประทับทรงท่านชีวกโกมารภัจจ์ด้วย มีผลดีทางรักษาโรคภัยและคุ้มครองได้สารพัด
    DSC_0229.JPG DSC_0225.JPG images.jpg spd_2015050813428_b.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2018
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    871.พระรอด วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ พ.ศ.๒๔๙๖ สภาพน่ารัก แท้ดูง่าย เอาไว้ใช้พุทธคุณครับ ***แบ่งให้บูชา 650 บาท****(สภาพสวยๆขายกันอยู่ประมาณ3000-5000 บาท)**มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***
    ประวัติการสร้าง พระรอด วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ พ.ศ.๒๔๙๖
    ในการสร้างพุทธสถานเชียงใหม่ ซึ่งได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ บริเวณวัดอุปคุต เชิงสพานเนาวรัตน์ เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๖ เวลา ๑๑.๔๕น. ตรง และในเดือนเดี่ยวกันนั้นเอง ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๗ ปี มะเส็ง จัตวาศก จุลศักราช ๑๓๑๕ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๖ เริ่ม พิธี ๙.๒๑ น. ๔๑ วินาที และเริ่มจุดเทียนไชย เวลา ๑๙.๒๙ น. พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ประธานกรรมการจัดสร้างพระรอด พร้อม ด้วยคณะกรรมการพุทธสถานก็ได้รวมกันประกอบพิธีมหามงคลสร้างพระรอด ๘๔,๐๐๐ องค์ เพื่อสมทบทุนสร้างพุทธสถานแห่งนี้

    พระรอดรุ่นเก่าสมัยโบราณหรือที่สร้างก่อนพระรอดรุ่นนี้ ได้เนื้อดินมาจากแห่งหนตำบลใดที่เป็นปัญหาแรกที่ต้องคิดเพราะการสร้างพระรอดนั้นจะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักวิชาทางไสยศาสตร์ ข้าพเจ้าจึงได้ไปกราบเรียนหารือกับ พล.ร.ต. หลวงสุวิชาญแพทย์ รน. เจ้ากรมเเพทย์ทหารเรือในปัจจุบัน เพื่อได้ตรวจสอบทางทิพยญาณจักษุ ก็ได้รับทราบว่าพระรอดเกือบทุกรุ่นใช้ดินบริเวณทิศเหนือของวัดพระคงจังหวัดลำพูนแต่การที่จะไปขอดิน ณ บริเวณดังกล่าวแล้วจะต้องตั้งศาลเพียงตาอาราธนาขอจากพระพุทธรูปและเทวดาที่รักษา เมื่อขุดลงไปประมาณ ๓ ศอกก็จะพบดินที่ต้องการ ข้าพเจ้าจึงได้เรียนให้คณะกรรมการพุทธสถานรับทราบและดำเนินการจนได้ดินเพียงพอแก่ความต้องการ ซึ่งดินบริเวณนี้เมื่อได้นำมาสร้างพระรอดแล้ว เนื้อองค์ของพระรอดจะแข็งแกร่ง หาอะไรเปรียบมิได้

    ดินทั้งหมดที่ได้มานี้ ข้าพเจ้าได้ให้อาจารย์ผู้ทรงคุณละลายดินด้วยน้ำพระพุทธมนต์พุทธาภิเศก น้ำมนต์พระคาถาแสน น้ำมนต์ ร้อยที่และกลั่นกรองด้วยผ้าขาวสะอาดเอาแต่ผงละเอียดอ่อนซึ่งมีลักษณะเหมือนแป้ง แล้วผสมด้วยผงพระธาตุ ผงพระเบิม ผงพระเลี่ยง ผงพระคง ผงพระรอด ผงพระสมเด็จพุฒาจารย์ ประกอบด้วยผงตรีนิสิงเห ผงปัทมัง ผงพุทธคุณ และผงอิทธิเจของคณาจารย์รุ่นเก่า เช่นหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อทองคำวัดหนามแตง และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ผสมเคล้ากันจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว จึงปั้นเป็นก้อนกลมขนาดผลส้ม ส่งดินนี้ไปให้อาจารย์ฉลองเมืองแก้วชึ่งท่านทั้งหลายจะทราบกิติศัพท์ว่าอาจารย์ผู้ที่เสกตะกรุดทองลอยน้ำ เสกข้าวสารเป็นกุ้ง เป็นผู้ทำพิธีใส่ธาตุที่กรุงเทพฯ เสร็จพิธีใส่ธาตุแล้ว นำไปจัดพิมพ์ที่จังหวัดลำพูนด้วยแม่พิมพ์ ๑๑ อันได้พระรอด ๑๑ สีพอดี

    เมื่อได้เวลาฤกษ์ พระมหาราชครูวามมุนี กับท่านพราหมณ์ พระครูศิวาจารย์ แห่งกรุงเทพฯพร้อมด้วยคณะเป็นประธานฝ่ายพราหมณ์มหาปัญจพิธีพร้อมด้วยโอมอ่านศิวะเวทย์ อัญเชิญท้าวเทพยะดา ทั้งหลาย ท่านฤาษีผู้ทรงคุณวุฒิ คือ ฤาษีเทว หรือ ฤาษีวาสุเทพ ซึ่งสิงสถิตย์อยู่อุฉุจบรรพตริมแม่น้ำโรหินี (น้ำแม่ขาน) ฤาษี สุขทันตะเขาสามยอดเมืองละโว้ ฤาษีอนุสิษฎ์สถิตย์อยู่หะสิกะวัลลีนคร (ศรีสัชนาลัย) ฤาษีพุทธะชลิต ซึ่งสถิตอยู่ดอยขุหะระบรรพต แม่น้ำสารนัทที (ดอยมา) ฤาษีสุพรหมสถิตอยู่ ณ ดอยงามใกล้แม่น้ำวัง และฤาษีนารอด ซึ่งเป็นองค์ปฐมแรกในการสร้างพระรอดกับอัญเชิญวิญญาณพระนางจามเทวี กษัตริย์ทุกพระองค์ในกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยาและกรุงลานนาไทย และกรุงรัตนโกสินทร์ เวลา ๑๙.๒๙ ประกอบพิธีจุดเทียนไชย พระมหาราชครูวามมุนี อ่านโองการชุมนุมเทวดาและสรรเสริญพระรัตนยาธิคุณ เสร็จแล้ว พราหมณ์เป่าสังข์แกว่งปัณเฑาะว์ ครั้นแล้วพระครูวามมุนี อาราธนาพระปริต พระธรรมราชานุวัตร กับคณาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษสวดพระปริต พระสูตรต่างๆ จบแล้วพระคณาจารย์ทั้งหมดนั่งปรกบริกรรมปลุกเศกตลอดคืน พิธีนี้ พล.ร.ต. หลวงสุวิชาแพทย์ รน. ได้มาร่วมในพิธีตลอดเวลา ปรากฏว่าผู้ใดได้พระรอดรุ่นนี้ไปบูชา จะมีโชคชัย ปลอดภัย สวัสดิมงคล และเป็นมหานิยม มหาอำนาจ คงกะพันชาตรี โภคทรัพย์ ซึ่งจะหามิได้ต่อไปอีกแล้ว

    เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ ของพระรอดรุ่นนี้ พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ได้อาราธนาพระราชาคณะตามอารามต่างๆ คือ

    1. เจ้าคุณศรีสมโพธิ์ วัดสุทัศน์

    2. เจ้าคุณสีหสุวรรณวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง

    3. เจ้าคุณเมธีสมุทเขตต์ วัดเจริญสุขาราม ราชบุรี

    4. เจ้าคุณภาวนาภิราม วัดระฆัง

    5. เจ้าคุณภาวนาโกศลเถระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

    6. พระครู ทักษิณานุกิจ (หลวงพ่อเงิน)

    7. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก

    8. พระครูสุนทรสังฆกิจ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

    9. พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์

    10.พระครูวิสุทธิรังษี วัดใต้ กาญจนบุรี

    11.พระครูโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี อ.ภาษีเจริญ ธนบุรี

    12.พระครูพักตร์ วัดบึงทองหลาง

    13.พระครูมหาศรีสุนทร วัดหลวงสุวรรณาราม ลพบุรี

    14.พระครูใบฎีกาประหยัด วัดสุทัศน์

    15.พระครูสังข์ วัดสัมพันธวงศ์

    16.พระอาจารย์จัน วัดคลองระนงค์ นครสวรรค์

    17.พระอาจารย์โพธิ์ วัดราชโยธา อ. มินบุรี

    18.พระอาจารย์ พี วัดสวนพลู

    19.พระธรรมธรหลาย จ.ชลบุรี

    20.พระปลัดตังกวย วัดประดู่ฉิมพลี ภาษีเจริญ ธนบุรี

    21.ท่านอาจารย์ยัง วัดบางจาก นนทบุรี

    22.ท่านอาจารย์ทบ อ.กิ่งชนแดน จ.เพ็ชรบูรณ์

    23.ท่านอาจารย์สำอาง วัดเขาดิน จ.กาญจนบุรี

    24.อาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี

    25.หลวงพ่อนอ ท่าเรือ จ.อยุธยา

    26.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.นครสวรรค์

    27.หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ

    28.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน อ.บางเลน จ.นครปฐม

    มาร่วมในพิธีสวดปริตและบริกรรมปลุกเศกด้วยยอดคาถาแห่งสูตรต่างๆ พร้อมด้วยกฤตยาคมเวทย์มนต์ศิวเวทย์พระวิษณุเวทย์ สวดชัยมงคลคาถาพุทธลักษณะและพุทธภิเศกตลอด ๓ วัน๓ คืน ในระหว่างที่พระคณาจารย์ต่างๆ นั่งปลุกเศกบริกรรมนี้มีนิมิตรต่างๆ อันเป็นมงคลยิ่งดังที่จะขอกล่าวต่อไปนี้

    บริเวณพระที่ ที่ตั้งโต๊ะสังเวย วิญญาณของพระนางจามเทวี อดีตกษัตริย์ทุกพระองค์แห่งกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงรัตนโกสินทร์ กรุงลานนาไทย ณ บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดพระสิงห์ ได้มีหมู่ผีเสื้อบินมาวนเวียนอยู่เหนือเครื่องสังเวย อย่างมากหลายเป็นมหัศจรรย์ ได้เรียนถาม พล.ร.ต. หลวงสุวิชาญเเพทย์ ได้ รับตอบว่าวิญญาณอดีตกษัตริย์ทุกพระองค์ตลอดจนลูกหลานเหลน ได้มาชุมนุมรับเครื่องสังเวยพร้อมเพรียงกัน ทุกพระองค์ทรงชื่นชมยินดีที่ได้มีการสร้างพระรอดรุ่นนี้ พล.ต. เจ้าราชบุตร อดีตเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ถึงกับปลื้มปีติน้ำตาไหลเมื่ออ่านโองการถึงพระนามของกษัตริย์แห่งกรุงลานนาไทย ทุกพระองค์ และโดยเฉพาะเจ้าแก้วนวรัตน์ ซึ่งเป็นพระราชบิดาของท่าน
    เวลา ๑๗.๐๐ น. พระธรรมธรหลาย ได้นิมิตร เห็นขณะที่นั่งปรกบริกรรม ว่ามีพระแก้วขาวปรากฎ มีผู้หญิงแต่งตัว โบราณเป็นผู้รักษา มีพระอาจารย์แก่ๆ ๒ องค์มาด้วย
    เวลา ๒๑.๕๐ น. ได้เรียนถาม พล.ร.ต. หลวงสุวิชาแพทย์ ว่าตามที่อัญเชิญดวงวิญญาณต่าง ๆ ให้มาประทับเป็น ประธานในพิธีนั้นมาทุกพระองค์หรือไม่ ก็ได้รับตอบว่าทุกพระองค์รวมทั้งฤาษีที่สำเร็จ-มาหมด
    (ขอที่บดยา ๑ ที่ด้วย)
    เวลา ๒๒.๐๐ น. หลวงพ่อสำเนียง นิมิตรเห็นมีพระพุทธรูปทองคำลอยอยู่ในวงสายสิน ๕ องค์ และมีรัศมีพุ่งเป็นรังษี และมีเทพบุตร เทพธิดา อยู่รอบ ๆ ถือดอกไม้ธูปเทียนบูชา
    เวลา ๒๒.๒๕ น. อาจารย์สำอางค์ วัดเขาดิน นิมิตรเห็นว่าพระรอดรุ่นนี้ชนะทุกทาง
    เวลา ๒๒.๔๐ น. พระครูวินัยสุนทร มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้มีคงกะพันชาตรี และเป็นมหานิยม
    เวลา ๒๓.๐๗ น. พระอาจารย์จัน วัดคลองระนง ว่าพระรอดรุ่นนี้มีเมตตาและปลอดภัยดี
    เวลา ๒๓.๒๕ น. หลวงพ่อเผือก มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้ใช้ได้ ๑๐๘
    เวลา ๒๓.๔๓ น. พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร เจ้าคณะตำบลวัดพระสิงห์ มีนิมิตรว่าเมตตาดีอยู่ยงคงกะพัน
    เวลา ๒๔.๓๐ น. เจ้าคุณภาวนาภิรามเถร วัดระฆัง มีนิมิตรว่า เห็นเทวดาลงมามีรูปร่างใหญ่สูงเท่าพระวิหาร เป็นสีขาว
    เวลา ๒๔.๓๗ น. พระอาจารย์พี วัดสวนพลู มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้ดีมีอิทธิฤทธิ์แรงกล้ามาก
    เวลา ๒๔.๕๐ น. เจ้าคุณวิสุทธิรังษี มีนิมิตรว่ามีช้างใหญ่เดินผ่านเข้ามาและมิได้ทำอะไรเพราะเกรงกลัวความศักดิ์สิทธิ์ของพระรอด
    เวลา ๐๑.๒๐ น. พระครูมหาศรีสุนทร มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้ดีมาก มีพระพุทธรูปมานั่งในพิธี
    เวลา ๐๑.๔๕ น. หลวงพ่อแฉ่ง มีนิมิตรว่า ดีมีแสงว่าฉายมาปกคลุมพระรอดอยู่ตลอดเวลา
    เวลา ๐๒.๔๕ น. เจ้าคุณเมธีสุนทรเขตต์ มีนิมิตรว่าเห็นแสงสว่างกระจายอยู่เต็มบริเวณพินี้ตลอดเวลา
    เวลา ๐๓.๐๐ น. พระครูพักตร์ มีนิมิตรว่า พระรอดรุ่นนี้อยู่ยงคงกะพันดีมาก
    เวลา ๐๓.๔๕ น. พระครูสมุทรสังฆกิจ มีนิมิตรว่า มีสีขาว-เขียว สลับกัน ปรากฏที่บริเวณที่ตั้งพานพระรอด
    เวลา ๐๓.๕๕ น. พระอาจารย์ทบ มีนิมิตรว่า พระรอดรุ่นนี้ดีมาก มีคงกะพันชาตรี



    เวลา ๐๔.๓๐ น. พระอาจารย์โพธิ มีนิมิตรว่า พระรอดรุ่นนี้มีเมตตาคงกะพันชาตรี แคล้วคลาดมากอำนาจ
    เวลา ๐๔.๔๐ น. พระอาจารย์มิ่ง มีนิมิตรว่ามีรัศมีฉายแสงสว่างรุ่งเรืองดีเป็นประกาย
    เวลา ๒๑.๔๗ น. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น มีนิมิตรว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้อาศัยอานุภาพของพระธาตุดอยสุเทพเป็นที่คุ้มครองให้ความร่มเย็นเป็นสุข
    เวลา ๒๓.๓๐ น. พระธรรมธรหลาย ชลบุรี มีนิมิตรว่า ดีมาก แก้เขี้ยวงาและอสรพิษทั้งหลายได้
    เวลา ๒๓.๕๐ น. หลวงพ่อนอ วัดท่าเรื่อ มีนิมิตรว่า มียักษ์ มีพรหมสี่หน้ามายืนถือกระบองบริกรรมจนยักษ์และพรหม หายไป และมีพระภิกษุ ตลอดจนชายหญิงจำนวนมากมาเดินวนเวียน ถือดอกไม้ธูปเทียนบูชาตลอด เวลา
    นอกจากนี้ในขณะที่เริ่มบริกรรมปลุกเศกนั้นนาฬิกาประจำโบสถ์ซึ่งเดินถูกต้อง เวลาได้หยุดนิ่งไปทันที เป็นที่ปลาบปลื้มปีติยินดีแก่ผู้ที่ไปพบเห็นเป็นอย่างมาก
    หนึ่ง พระรอดรุ่นนี้ มีผู้ที่ได้รับไปบูชามากหลายผู้ที่รับไปมีนิมิตรดีต่าง ๆ และรอดพ้นจากอันตรายอย่างมหัศจรรย์ก็มีมาก เหลือที่ข้าพเจ้าจะพรรณนามาในที่นี้ ทั้งนี้มิได้รวมถึงพลานิสงส์ที่ท่านได้มีส่วนร่วมในการสร้างพุทธสถานครั้งนี้ด้วย
    เฉพาะตัวข้าพเจ้าเอง นับแต่เมื่อเริ่มเข้ามารับตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียวใหม่ ในชั้นแรก เมื่อได้มาพบเห็นประชาชนในจังหวัดนี้มีจิตศรัทธา เชื่อมั่นในบวรพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดแล้ว ก็ทำให้เบาใจในการที่จะปฎิบัติหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำผิดกฏหมายและเห็นว่าเป็นจังหวัดเดียวเท่านั้นที่ประชาชนมีความเลื่อมใสในท่างพุทธศาสนามากและด้วยน้ำใจอันแท้จริง ไม่เอาพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องบังหน้า เช่น ปากบอกว่ามีความเคารพนับถือแต่ใจไม่เอาด้วยอย่างนี้ที่เชียงใหม่ไม่ใคร่มี เมื่อครั้งที่ประชุมพุทธศาสนิกชนที่โรงตองตึง โดยท่านเจ้าคุณปัญญานันทภิกขุเป็นหัวหน้า เป็นกิจวัตรนั้น ข้าพเจ้าได้ไปร่วมฟังพระธรรมคำสอนเกือบทุกครั้งมีความตื้นตันใจที่ได้มาพบเห็นผู้ที่มีใจบุญกุศลอย่างนี้ และเมื่อมีท่านผู้มีใจศรัทธาริเริ่มก่อสร้างพุทธสถานขึ้น ข้าพเจ้าได้ร่วมมือด้วยตลอดมาจนบัดนี้ ไม่เคยลืมแม้จะโยกย้ายไปอยู่แห่งหนตำบลใด งานที่ติดตัวไปและที่ไม่เคยลืมก็คือ พุทสถานแห่งนี้ ใจจดใจจ่ออยู่อย่างนี้แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่แล้วเสร็จบริบูรณ์ ข้าพเจ้าก็มั่นใจว่าจะต้องสำเร็จเรียบร้อยภายในเวลาอันไม่ช้านี้ ทั้งนี้ก็ด้วยความร่วมมือของท่านพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหลายและพุทธศาสนิกชนทั่ว ๆ ไป ในอันที่จะให้พุทธสถานนี้เป็นถาวรวัตถุอยู่คู่กับนครเชียงใหม่ หรือ พิงค์นคร ตลอดไปชั่วกัลปวสาน สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะเป็นสถานอันศักดิ์สัทธิ์ เพราะคำว่า พุทธะนั้น แปลว่าผู้รู้หรือผู้ตื่น คือไม่หลับ เป็นผู้เบิกบานคือไม่หุบ หรือไม่มืด และเมื่อสรุปแล้ว พุทธศนาก็คือ วิธีปฏิบัติเพื่อเอาตัวรอดจากความทุกข์ โดยการทำให้รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร แม้จะกล่าวถึงความจริงที่ลึกซึ้งเร้นลับ นอกเหนือไปกว่าคนธรรมดาจะเห็นได้ เช่นความรู้เรื่อง สุญตา เรื่อง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเล่าเรียนศึกษากันมาก และสิ่งที่เรียกว่าพุทธศาสนาตัวแท้นั้นไม่ใช่หนังสือ ไม่ใช่คัมภีร์ ไม่ใช่เรื่องบอกเล่า ไม่ใช่หลักแห่งการคิดไปตามเหตุผล ตัวแท้ของพุทธศาสนา ต้องเป็นตัวการปฏิบัติ ด้วยกาย วาจาใจ ชนิดที่จะทำลายกิเลสให้ร่อยหรอ หรือ สิ้นสุดไปในที่สุด และสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่รับรู้สิ่งทั้งปวงดังกล่าวแล้ว และก็คงจะมีสถานอันศักดิ์สิทธิ์เพียงแห่งเดียว คือ ณ บริเวณวัดอุปคุตเชียงใหม่นี้เท่านั้น

    DSC_0235.JPG DSC_0237.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2018
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    872.ประคำกะโหลกช้าง หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม กาญจนบุรี ปี 10กว่าๆ ยุคแรก แกะจากกระดูกบริเวณกะโหลก ขนาดไม่ใหญ่นัก สภาพเดิมๆครับ งาเหลืองเก่าธรรมชาติ มีเหรียญติดมา 1 เหรียญ ในบรรดาประคำยุคนี้ ต้องมีหลวงพ่ออุตมะครับที่น่าใช้ เส้นนี้สมบูรณ์ดี เก่าตามธรรมชาติ ไม่มีชำรุดแต่ประการใด***แบ่งให้บุชา 650 บาท******มีผู้รับนิมนค์แล้วครับ
    DSC_0258.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2018
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    873.พระพุทธชินราช เนื้อเงิน รุ่น 640 กล่องเดิม ๆ จากวัดทำบุญไป 800 บาท ***นำมาให้สมาชิกเช่าบูชาลดเหลือ 600 บาท *****มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***
    DSC_0239.JPG DSC_0241.JPG DSC_0243.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2018
  11. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    874. พระปลัดสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี2484 พิธีอินโดจีน พิมพ์สังกัจจายณ์ มวลสารพระวัดระฆังล้วนๆ พิมพ์นี้ถอดพิมพ์มาจากกรุวัดเงินคลองเตยค๊าบบ แต่เนื้อเป็นเนื้อแบบวัดสุทัศน์ของปลัดสุพจน์เลย(พิมพ์นี้หายากมากครับ)***แบ่งให้บุชา 1000 บาท******คุณbaiminจองครับ***
    พระสมเด็จนี้จัดสร้างโดยลพ.สุพจน์ นามเต็มของท่านคือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์" ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบ ท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ (ตำราโบราณของพระครูลมูล วัดสุทัศน์) เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาคและหลวงปู่หินวัดระฆัง จึงได้รับมอบผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมาก ท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ และงานพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ เช่นพิธีวัดประสาทฯ ปี 06 พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี 09 ที่วัดป่าชลบุรี ก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย สมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี 84 (พิธีอินโดจีน) โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมากและไม่ได้ใครสนใจมาถวายท่าน ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียดและได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ และได้กราบเรียนสมเด็จพระสังฆราชแพเพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกเสกในพิธีนั้นพร้อม ๆ กับวัตถุมงคลต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่าง ๆ ที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อไปเป็นมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม" พอข่าวนี้แพร่ออกไปปรากฎว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระสมเด็จจากท่านจำนวนมาก ซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมด จึงเรียกได้ว่าพระชุดนี้ "ดีนอก ดีใน" จริง ๆ
    DSC_0208.JPG DSC_0210.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2018
  12. อาทิตย์03

    อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +773
    วันนี้เวลา 07.50 น.โอนเงินรายการ 866 สมเด็จปรกโพธิ์ ลป.นาค รายละเอียดแจ้งในกล่องข้อความแล้ว ขอบคุณครับ
     
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  14. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    875.พระพิมพ์หลวงปู่ทวดเปิดโลก เนื้อผงโขลก หลวงปู่ดู่อธิฐานจิตมวลสารพร้อมด้วยเกจิอาจารย์ต่างๆ สร้างโดยอาจารย์ศุภรัตน์ พิมพ์นี้มีลงในหนังสือกายสิทธิ์1-2 เหรียญเปิดโลกไปไกลแล้วครับ**แบ่งให้บูชา 1250 บาท**** (ใช้แทนเหรียญเปิดโลก) **ปิดรายการนี้ครับ***
    เหรียญเปิดโลกไปไกลแล้วครับ ตอนนี้4-5หมื่นบาท ยากเกินเอื้อม ใช้รุ่นนี้แทนได้ครับ
    DSC_0264.JPG DSC_0266.JPG get_auc1_img.jpg get_auc3_img (1).jpg get_auc3_img.jpg get_auc3_img (2).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2018
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    876.**ของดีราคาถูก****พระพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ปี 2475 พระดีราคาถูก ท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดสังฆราชแพองค์หนึ่ง พระที่ท่านสร้างมีพุทธคุณด้านเมตตาค้าขายเป็นที่เลื่องลือ แม่ค้านิยมมาก มีเรื่องเล่าว่าท่านนำไปแจกแม่ค้า ที่บ้านเกิดท่าน ปรากฏว่าแม่ค้าคนนั้นขายของดีหมดเกลี้ยงทุกวัน อุปมาดั่งชื่อผู้สร้างพระนั่นเอง "ขายหมดเกลี้ยง" ***แบ่งให้บูชา 350 บาท******คุณsupachaipnuจองครับ****
    พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี่ยง วัดสุทัศน์ ปี 247…. กว่า สวย พุทธคุณล้นเหลือ พระที่จะนำมากล่าวในที่นี้คือ พระผงรูปกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ เป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวประกอบเส้นรัศมีขนาดเล็ก สร้างด้วยเนื้อผงขาวหรือเนื้อตระกูลพระสมเด็จฯ นอกจากเนื้อผงขาวแล้ว มี สีแดง, เขียว และดำ เป็นอาทิ พระผงอย่างพิมพ์นี้ในแวดวงนักนิยมสมสมพระเครื่อง เคยเล่นหากันไปต่าง ๆ นานา เช่น พระกลีบบัวหลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม กรุงเทพฯ เพราะถ้าย้ายไปเข้าวัดนี้แล้วย่อมมีศักดิ์ศรีและมีกลิ่นไอของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ หอมอบอวลขจรขจายเป็นหลักชัยหรือเป็นเครื่องการันตีอยู่ จักขายได้ราคางามกว่าจะย้ายไปเข้าวัดอื่น หรือวัดของเขาอย่างแท้จริง ในกรณีนี้เรียกว่าพุทธพานิชย์ ย้ายท่านไปจำวัดเพราะผลประโยชน์ ฉะนั้นพระกลีบบัว หลวงปู่ภู วัดอินทร์ จึงเกิดขึ้นเพราะลมปากพุทธพานิชย์เท่านั้น ความจริงพระกลีบบัวพิมพ์นี้งดงามและเด่นชัดทางรูปแบบ อีกทั้งยังมีขนาดเล็กกระทัดรัด ในด้านมวลสารและเนื้อหาแล้ว มีความหนึกนุ่มไม่แพ้พระเครื่องตระกูลสมเด็จวัดที่เด่น ๆ อีกหลายวัดเหมือนกัน หรือจะเรียกว่าเนื้อตัน มิฉะนั้นบรรดาพุทธพานิชย์คงจะไม่ลากท่านไปขึ้นทะเบียนสัมมะโนครัวเป็น หลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม ซึ่งอบอวลไปด้วยไอแห่งพระสมเด็จได้หรอก ใครเป็นผู้สร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้ เมื่อไต่ถามคุณนิรันดร์ แดงวิจิตร (ท่านพระครูหนู) แห่งสำนักวัดสุทัศน์ฯ ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างละเอียดและเป็นที่เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ เพราะท่านพระครูหนูเองมีส่วนช่วยในการสร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้เป็นอย่าง มากด้วยผู้หนึ่ง ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านผู้สร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ คือ ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ฐานาใน สมเด็จพระวันรัตน์แดง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ กับ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ ติสสะเทวะ ปรมาจารย์ทางด้านการสร้างพระกริ่งอันลือกระฉ่อนแห่งยุครัตนโกสินทร์ ชื่อเสียงเกียรติคุณของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงโด่งดังขจรขจายในด้านวิทยายุทธพุ ทธาคมเป็นที่กล่าวขานกันมากองค์หนึ่งแห่งสำนักวัดสุทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงประทีปทำผงและการลงยันต์พุทธซ้อน ในด้านการทำผงวิเศษ ซึ่งประกอบด้วยผงปถมัง อิตเจ, มหาราช ตรีนิสิงเหฯ นั้น ผงของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงแห่งสำนักวัดสุทัศน์เจ้านี้ได้รับคำยกย่องมากที่ สุด เล่ากันว่า ผงที่ท่านลบอยู่ในกระดานนั้น ขณะที่ท่านบริกรรมปลุกเสกจะเดินได้ประหนึ่งมดปลวกที่มีชีวิต และด้วยผงวิเศษต่าง ๆ ที่ท่านสำเร็จดังกล่าวนี้แหละได้รวบรวม แล้วนำเอามาสร้างเป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวดังกล่าวแล้ว ท่านพระครูหนู กรุณาเล่าในรายละเอียดให้ฟังว่า โดยเนื้อแท้ของพระกลีบบัวพิมพ์นี้สีขาวเป็นพระผงตระกูลสมเด็จฯ คือมีส่วนผสมของปูนเปลือกหอยและน้ำมันตั้งอิ๊ว แต่ที่มีสีต่าง ๆ เช่น เหลือง ทอง เทา เขียว และดำนั้น ได้ตกแต่งสีด้วยสีฝุ่น และเมื่อมีวัดไหนจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์หรือมีการบรรจุพระลงพระเจดีย์มาขอ ท่านจะมอบให้แห่งละเป็นจำนวนมาก ๆ อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้กระมัง พระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ จึงมีแจกอยู่แพร่หลายและหลายสำนักด้วยกัน เช่นที่ หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส, หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ, สุพรรณบุรี วัดบางหัวเสอ วัดยอด และอีกหลาย ๆ วัด ในอำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เป็นต้น จะอย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงกำเนิดอันแท้จริง พระผงกลีบบัว พิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ โดย ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ผู้สำเร็จวิชาทำผงเป็นผู้สร้าง แต่ปี พ.ศ. เจ็ดสิบถึงแปดสิบกว่า และเชื่อว่าได้ร่วมเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ครั้งที่สำคัญ ๆ หลายครั้ง เช่น ในคราวสร้างรูปหล่อพระพุทธชินราชของพุทธสมาคม ในด้านคุณวิเศษนั้น ท่านพระครูหนูได้กรุณาเล่าเสริมให้ฟังว่า มีอยู่คราวหนึ่ง ขณะที่ท่านร่วมตำผงเพื่อสร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้อยู่ เมื่อตำผงเสร็จเรียบร้อยแล้วได้เอาน้ำที่ล้างกครกเทสาดลงไปข้างล่างโดยไม่ เจตนาให้ไปถูกใคร และก็เป็นเวลาที่สาวลูกจีนคนหนึ่งกำลังมาเดินเก็บดอกเข็มบริเวณนั้นเข้าพอดี น้ำล้างครกถ้าจะกระเด็นไปถูกเข้า ปรากฏว่าสาวจีนคนนั้นไม่ได้เดินไปไหนได้เลย คงวน ๆ เวียน ๆ เสมือนจะรอใครอยู่ตรงนั้น เสร็จจากฉันเพลแล้ว นางนั้นยังคงอยู่จวบจนเย็นจวนเวลาพลบค่ำ นางไม่สามารถจะเดินไปไหนได้เสมือนนางต้องเสน่ห์เล่ห์กล ท่านพระครูหนูเห็นเป็นที่ผิดสังเกต จึงนึกขึ้นได้ว่า ถ้านางคงจะต้องน้ำล้างครกที่เทสาดไปเมื่อเช้านี้กระมัง จึงวนเวียนอยู่ ณ ที่นั่น คิดได้เช่นนั้นแล้วจึงไปขอน้ำมนต์ถอนจาก พระครูใบฎีกาเกลี้ยง พรมจากบนกุฏิลงไป พอให้กระเซ็นต้องกายนางนั้นแหละ นางจึงเดินกลับบ้านได้เป็นเหตุมหัศจรรย์จริง ๆ ขอปรามไว้ตรงนี้เสียก่อนนะว่า อย่าอุตรีฝนเอาผงไปให้คนอื่นกินเข้าเล่า บาปจะตกแก่ตัวเอง และถ้าคิดในตมุมกลับอย่าง หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส และหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณบุรี เจ้าของจิ้งจก ตุ๊กแกปลุกจนร้องได้เหมือนมีชีวิตซึ่งต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายเป็น หนึ่งในยุทธจักรเหมือนกัน และการที่ท่านยินยอมเอา พระผงกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ไปแจกแทนพระของท่านนั้น ท่านย่อมจักทราบคุณค่าว่าเหนือกว่าของท่านอย่างแน่นอน
    DSC_0268.JPG DSC_0270.JPG get_auc1_img (1).jpg 4010604-5ea44.JPG get_auc3_img (3).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2018
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    877.**ของดีราคาถูก****พระพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ปี 2475 พระดีราคาถูก ท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดสังฆราชแพองค์หนึ่ง พระที่ท่านสร้างมีพุทธคุณด้านเมตตาค้าขายเป็นที่เลื่องลือ แม่ค้านิยมมาก มีเรื่องเล่าว่าท่านนำไปแจกแม่ค้า ที่บ้านเกิดท่าน ปรากฏว่าแม่ค้าคนนั้นขายของดีหมดเกลี้ยงทุกวัน อุปมาดั่งชื่อผู้สร้างพระนั่นเอง "ขายหมดเกลี้ยง"***แบ่งให้บูชา 350 บาท***#2***คุณsupachaipnuจองครับ****
    พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี่ยง วัดสุทัศน์ ปี 247…. กว่า สวย พุทธคุณล้นเหลือ พระที่จะนำมากล่าวในที่นี้คือ พระผงรูปกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ เป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวประกอบเส้นรัศมีขนาดเล็ก สร้างด้วยเนื้อผงขาวหรือเนื้อตระกูลพระสมเด็จฯ นอกจากเนื้อผงขาวแล้ว มี สีแดง, เขียว และดำ เป็นอาทิ พระผงอย่างพิมพ์นี้ในแวดวงนักนิยมสมสมพระเครื่อง เคยเล่นหากันไปต่าง ๆ นานา เช่น พระกลีบบัวหลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม กรุงเทพฯ เพราะถ้าย้ายไปเข้าวัดนี้แล้วย่อมมีศักดิ์ศรีและมีกลิ่นไอของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ หอมอบอวลขจรขจายเป็นหลักชัยหรือเป็นเครื่องการันตีอยู่ จักขายได้ราคางามกว่าจะย้ายไปเข้าวัดอื่น หรือวัดของเขาอย่างแท้จริง ในกรณีนี้เรียกว่าพุทธพานิชย์ ย้ายท่านไปจำวัดเพราะผลประโยชน์ ฉะนั้นพระกลีบบัว หลวงปู่ภู วัดอินทร์ จึงเกิดขึ้นเพราะลมปากพุทธพานิชย์เท่านั้น ความจริงพระกลีบบัวพิมพ์นี้งดงามและเด่นชัดทางรูปแบบ อีกทั้งยังมีขนาดเล็กกระทัดรัด ในด้านมวลสารและเนื้อหาแล้ว มีความหนึกนุ่มไม่แพ้พระเครื่องตระกูลสมเด็จวัดที่เด่น ๆ อีกหลายวัดเหมือนกัน หรือจะเรียกว่าเนื้อตัน มิฉะนั้นบรรดาพุทธพานิชย์คงจะไม่ลากท่านไปขึ้นทะเบียนสัมมะโนครัวเป็น หลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม ซึ่งอบอวลไปด้วยไอแห่งพระสมเด็จได้หรอก ใครเป็นผู้สร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้ เมื่อไต่ถามคุณนิรันดร์ แดงวิจิตร (ท่านพระครูหนู) แห่งสำนักวัดสุทัศน์ฯ ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างละเอียดและเป็นที่เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ เพราะท่านพระครูหนูเองมีส่วนช่วยในการสร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้เป็นอย่าง มากด้วยผู้หนึ่ง ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านผู้สร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ คือ ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ฐานาใน สมเด็จพระวันรัตน์แดง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ กับ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ ติสสะเทวะ ปรมาจารย์ทางด้านการสร้างพระกริ่งอันลือกระฉ่อนแห่งยุครัตนโกสินทร์ ชื่อเสียงเกียรติคุณของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงโด่งดังขจรขจายในด้านวิทยายุทธพุ ทธาคมเป็นที่กล่าวขานกันมากองค์หนึ่งแห่งสำนักวัดสุทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงประทีปทำผงและการลงยันต์พุทธซ้อน ในด้านการทำผงวิเศษ ซึ่งประกอบด้วยผงปถมัง อิตเจ, มหาราช ตรีนิสิงเหฯ นั้น ผงของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงแห่งสำนักวัดสุทัศน์เจ้านี้ได้รับคำยกย่องมากที่ สุด เล่ากันว่า ผงที่ท่านลบอยู่ในกระดานนั้น ขณะที่ท่านบริกรรมปลุกเสกจะเดินได้ประหนึ่งมดปลวกที่มีชีวิต และด้วยผงวิเศษต่าง ๆ ที่ท่านสำเร็จดังกล่าวนี้แหละได้รวบรวม แล้วนำเอามาสร้างเป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวดังกล่าวแล้ว ท่านพระครูหนู กรุณาเล่าในรายละเอียดให้ฟังว่า โดยเนื้อแท้ของพระกลีบบัวพิมพ์นี้สีขาวเป็นพระผงตระกูลสมเด็จฯ คือมีส่วนผสมของปูนเปลือกหอยและน้ำมันตั้งอิ๊ว แต่ที่มีสีต่าง ๆ เช่น เหลือง ทอง เทา เขียว และดำนั้น ได้ตกแต่งสีด้วยสีฝุ่น และเมื่อมีวัดไหนจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์หรือมีการบรรจุพระลงพระเจดีย์มาขอ ท่านจะมอบให้แห่งละเป็นจำนวนมาก ๆ อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้กระมัง พระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ จึงมีแจกอยู่แพร่หลายและหลายสำนักด้วยกัน เช่นที่ หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส, หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ, สุพรรณบุรี วัดบางหัวเสอ วัดยอด และอีกหลาย ๆ วัด ในอำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เป็นต้น จะอย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงกำเนิดอันแท้จริง พระผงกลีบบัว พิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ โดย ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ผู้สำเร็จวิชาทำผงเป็นผู้สร้าง แต่ปี พ.ศ. เจ็ดสิบถึงแปดสิบกว่า และเชื่อว่าได้ร่วมเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ครั้งที่สำคัญ ๆ หลายครั้ง เช่น ในคราวสร้างรูปหล่อพระพุทธชินราชของพุทธสมาคม ในด้านคุณวิเศษนั้น ท่านพระครูหนูได้กรุณาเล่าเสริมให้ฟังว่า มีอยู่คราวหนึ่ง ขณะที่ท่านร่วมตำผงเพื่อสร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้อยู่ เมื่อตำผงเสร็จเรียบร้อยแล้วได้เอาน้ำที่ล้างกครกเทสาดลงไปข้างล่างโดยไม่ เจตนาให้ไปถูกใคร และก็เป็นเวลาที่สาวลูกจีนคนหนึ่งกำลังมาเดินเก็บดอกเข็มบริเวณนั้นเข้าพอดี น้ำล้างครกถ้าจะกระเด็นไปถูกเข้า ปรากฏว่าสาวจีนคนนั้นไม่ได้เดินไปไหนได้เลย คงวน ๆ เวียน ๆ เสมือนจะรอใครอยู่ตรงนั้น เสร็จจากฉันเพลแล้ว นางนั้นยังคงอยู่จวบจนเย็นจวนเวลาพลบค่ำ นางไม่สามารถจะเดินไปไหนได้เสมือนนางต้องเสน่ห์เล่ห์กล ท่านพระครูหนูเห็นเป็นที่ผิดสังเกต จึงนึกขึ้นได้ว่า ถ้านางคงจะต้องน้ำล้างครกที่เทสาดไปเมื่อเช้านี้กระมัง จึงวนเวียนอยู่ ณ ที่นั่น คิดได้เช่นนั้นแล้วจึงไปขอน้ำมนต์ถอนจาก พระครูใบฎีกาเกลี้ยง พรมจากบนกุฏิลงไป พอให้กระเซ็นต้องกายนางนั้นแหละ นางจึงเดินกลับบ้านได้เป็นเหตุมหัศจรรย์จริง ๆ ขอปรามไว้ตรงนี้เสียก่อนนะว่า อย่าอุตรีฝนเอาผงไปให้คนอื่นกินเข้าเล่า บาปจะตกแก่ตัวเอง และถ้าคิดในตมุมกลับอย่าง หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส และหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณบุรี เจ้าของจิ้งจก ตุ๊กแกปลุกจนร้องได้เหมือนมีชีวิตซึ่งต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายเป็น หนึ่งในยุทธจักรเหมือนกัน และการที่ท่านยินยอมเอา พระผงกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ไปแจกแทนพระของท่านนั้น ท่านย่อมจักทราบคุณค่าว่าเหนือกว่าของท่านอย่างแน่นอน
    DSC_0272.JPG DSC_0274.JPG get_auc1_img (1).jpg 4010604-5ea44.JPG get_auc3_img (3).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2018
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    878.เหรียญลายฉลุหลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนเกด จ.ศรีสะเกษ เนื้อเหล็กน้ำพี้แก่ชนวนนวะ รุ่นแรก ปี 56 สภาพสวย ***แบ่งให้บูชา ราคาวัด 1000 บาท ***
    เหรียญลายฉลุรุ่นแรก หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกด (ศรีธาตุ) จ.ศรีสะเกษ รุ่นบุญฤทธิ์ (มหาเทพประทานพร) 17 ธันวาคม พ.ศ.2556 เนื้อเหล็กน้ำพี้แก่ชนวนนวะ ตอกโค๊ตและหมายเลข _ _ _ จำนวนสร้าง 2,599 เหรียญ

    DSC_0932.JPG DSC_0934.JPG DSC_0936.JPG
     
  18. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,366
    ค่าพลัง:
    +7,309
    close
    876.**ของดีราคาถูก****พระพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ปี 2475
    877.**ของดีราคาถูก****พระพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ปี 2475
     
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,697
    ค่าพลัง:
    +4,635
    879.**ของดีราคาถูก****พระพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ปี 2475 พระดีราคาถูก ท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดสังฆราชแพองค์หนึ่ง พระที่ท่านสร้างมีพุทธคุณด้านเมตตาค้าขายเป็นที่เลื่องลือ แม่ค้านิยมมาก มีเรื่องเล่าว่าท่านนำไปแจกแม่ค้า ที่บ้านเกิดท่าน ปรากฏว่าแม่ค้าคนนั้นขายของดีหมดเกลี้ยงทุกวัน อุปมาดั่งชื่อผู้สร้างพระนั่นเอง "ขายหมดเกลี้ยง"***แบ่งให้บูชา 350 บาท*** #3***คุณแปดเหลี่ยมจองครับ***
    พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี่ยง วัดสุทัศน์ ปี 247…. กว่า สวย พุทธคุณล้นเหลือ พระที่จะนำมากล่าวในที่นี้คือ พระผงรูปกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ เป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวประกอบเส้นรัศมีขนาดเล็ก สร้างด้วยเนื้อผงขาวหรือเนื้อตระกูลพระสมเด็จฯ นอกจากเนื้อผงขาวแล้ว มี สีแดง, เขียว และดำ เป็นอาทิ พระผงอย่างพิมพ์นี้ในแวดวงนักนิยมสมสมพระเครื่อง เคยเล่นหากันไปต่าง ๆ นานา เช่น พระกลีบบัวหลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม กรุงเทพฯ เพราะถ้าย้ายไปเข้าวัดนี้แล้วย่อมมีศักดิ์ศรีและมีกลิ่นไอของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ หอมอบอวลขจรขจายเป็นหลักชัยหรือเป็นเครื่องการันตีอยู่ จักขายได้ราคางามกว่าจะย้ายไปเข้าวัดอื่น หรือวัดของเขาอย่างแท้จริง ในกรณีนี้เรียกว่าพุทธพานิชย์ ย้ายท่านไปจำวัดเพราะผลประโยชน์ ฉะนั้นพระกลีบบัว หลวงปู่ภู วัดอินทร์ จึงเกิดขึ้นเพราะลมปากพุทธพานิชย์เท่านั้น ความจริงพระกลีบบัวพิมพ์นี้งดงามและเด่นชัดทางรูปแบบ อีกทั้งยังมีขนาดเล็กกระทัดรัด ในด้านมวลสารและเนื้อหาแล้ว มีความหนึกนุ่มไม่แพ้พระเครื่องตระกูลสมเด็จวัดที่เด่น ๆ อีกหลายวัดเหมือนกัน หรือจะเรียกว่าเนื้อตัน มิฉะนั้นบรรดาพุทธพานิชย์คงจะไม่ลากท่านไปขึ้นทะเบียนสัมมะโนครัวเป็น หลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม ซึ่งอบอวลไปด้วยไอแห่งพระสมเด็จได้หรอก ใครเป็นผู้สร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้ เมื่อไต่ถามคุณนิรันดร์ แดงวิจิตร (ท่านพระครูหนู) แห่งสำนักวัดสุทัศน์ฯ ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างละเอียดและเป็นที่เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ เพราะท่านพระครูหนูเองมีส่วนช่วยในการสร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้เป็นอย่าง มากด้วยผู้หนึ่ง ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านผู้สร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ คือ ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ฐานาใน สมเด็จพระวันรัตน์แดง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ กับ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ ติสสะเทวะ ปรมาจารย์ทางด้านการสร้างพระกริ่งอันลือกระฉ่อนแห่งยุครัตนโกสินทร์ ชื่อเสียงเกียรติคุณของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงโด่งดังขจรขจายในด้านวิทยายุทธพุ ทธาคมเป็นที่กล่าวขานกันมากองค์หนึ่งแห่งสำนักวัดสุทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงประทีปทำผงและการลงยันต์พุทธซ้อน ในด้านการทำผงวิเศษ ซึ่งประกอบด้วยผงปถมัง อิตเจ, มหาราช ตรีนิสิงเหฯ นั้น ผงของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงแห่งสำนักวัดสุทัศน์เจ้านี้ได้รับคำยกย่องมากที่ สุด เล่ากันว่า ผงที่ท่านลบอยู่ในกระดานนั้น ขณะที่ท่านบริกรรมปลุกเสกจะเดินได้ประหนึ่งมดปลวกที่มีชีวิต และด้วยผงวิเศษต่าง ๆ ที่ท่านสำเร็จดังกล่าวนี้แหละได้รวบรวม แล้วนำเอามาสร้างเป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวดังกล่าวแล้ว ท่านพระครูหนู กรุณาเล่าในรายละเอียดให้ฟังว่า โดยเนื้อแท้ของพระกลีบบัวพิมพ์นี้สีขาวเป็นพระผงตระกูลสมเด็จฯ คือมีส่วนผสมของปูนเปลือกหอยและน้ำมันตั้งอิ๊ว แต่ที่มีสีต่าง ๆ เช่น เหลือง ทอง เทา เขียว และดำนั้น ได้ตกแต่งสีด้วยสีฝุ่น และเมื่อมีวัดไหนจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์หรือมีการบรรจุพระลงพระเจดีย์มาขอ ท่านจะมอบให้แห่งละเป็นจำนวนมาก ๆ อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้กระมัง พระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ จึงมีแจกอยู่แพร่หลายและหลายสำนักด้วยกัน เช่นที่ หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส, หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ, สุพรรณบุรี วัดบางหัวเสอ วัดยอด และอีกหลาย ๆ วัด ในอำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เป็นต้น จะอย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงกำเนิดอันแท้จริง พระผงกลีบบัว พิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ โดย ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ผู้สำเร็จวิชาทำผงเป็นผู้สร้าง แต่ปี พ.ศ. เจ็ดสิบถึงแปดสิบกว่า และเชื่อว่าได้ร่วมเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ครั้งที่สำคัญ ๆ หลายครั้ง เช่น ในคราวสร้างรูปหล่อพระพุทธชินราชของพุทธสมาคม ในด้านคุณวิเศษนั้น ท่านพระครูหนูได้กรุณาเล่าเสริมให้ฟังว่า มีอยู่คราวหนึ่ง ขณะที่ท่านร่วมตำผงเพื่อสร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้อยู่ เมื่อตำผงเสร็จเรียบร้อยแล้วได้เอาน้ำที่ล้างกครกเทสาดลงไปข้างล่างโดยไม่ เจตนาให้ไปถูกใคร และก็เป็นเวลาที่สาวลูกจีนคนหนึ่งกำลังมาเดินเก็บดอกเข็มบริเวณนั้นเข้าพอดี น้ำล้างครกถ้าจะกระเด็นไปถูกเข้า ปรากฏว่าสาวจีนคนนั้นไม่ได้เดินไปไหนได้เลย คงวน ๆ เวียน ๆ เสมือนจะรอใครอยู่ตรงนั้น เสร็จจากฉันเพลแล้ว นางนั้นยังคงอยู่จวบจนเย็นจวนเวลาพลบค่ำ นางไม่สามารถจะเดินไปไหนได้เสมือนนางต้องเสน่ห์เล่ห์กล ท่านพระครูหนูเห็นเป็นที่ผิดสังเกต จึงนึกขึ้นได้ว่า ถ้านางคงจะต้องน้ำล้างครกที่เทสาดไปเมื่อเช้านี้กระมัง จึงวนเวียนอยู่ ณ ที่นั่น คิดได้เช่นนั้นแล้วจึงไปขอน้ำมนต์ถอนจาก พระครูใบฎีกาเกลี้ยง พรมจากบนกุฏิลงไป พอให้กระเซ็นต้องกายนางนั้นแหละ นางจึงเดินกลับบ้านได้เป็นเหตุมหัศจรรย์จริง ๆ ขอปรามไว้ตรงนี้เสียก่อนนะว่า อย่าอุตรีฝนเอาผงไปให้คนอื่นกินเข้าเล่า บาปจะตกแก่ตัวเอง และถ้าคิดในตมุมกลับอย่าง หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส และหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณบุรี เจ้าของจิ้งจก ตุ๊กแกปลุกจนร้องได้เหมือนมีชีวิตซึ่งต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายเป็น หนึ่งในยุทธจักรเหมือนกัน และการที่ท่านยินยอมเอา พระผงกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ไปแจกแทนพระของท่านนั้น ท่านย่อมจักทราบคุณค่าว่าเหนือกว่าของท่านอย่างแน่นอน
    DSC_0284.JPG DSC_0286.JPG get_auc1_img (1).jpg 4010604-5ea44.JPG get_auc3_img (3).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...