ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ....กับปู กับปลา กับ.เหลี่ยม หรือกับดู่...เอง
ภัยพิบัติ..มันก็เป็นไปตามกาลเวลาและเหตุปัจจัย..ดีเสียด้วยซ้ำ..คนทั้งหลายจะได้..หันมาสำนึกกันได้บ้าง ว่า..เป็นเพราะความ.อยากมีอยากได้...ก็เลยทำลายสิ่งดีดี...ไปเสียหมด.....ต่อให้ ทักสิน ร่วมกับปูดอง กับบิกดู่ กับ อานัน กับทุกนายกที่ผ่านมา....ภัยมันก็มาถึงแล้ว....จิตสำนึกของคนต่างหากครับ...ที่ยังไม่สำนึกกัน

 

ก็ในเมื่อไม่มี ธรรมะอันใด จะมาหยุดความหลง ในจิตใจของมนุษย์ได้...ก็คงต้อง ใช้มาตรการขั้น กระทบทั่วทุกตัวคน...ไงครับ...ไม่งั้น..คนรวย คนเห็นแก่ตัว คนมีอำนาจทั้งหลายมันก็หาทางหลบหลีกได้..มันก็จะไม่รู้สำนึกไงครับ...

 

ที่ควรบอก ก็บอกแล้ว
เชื่อหรือไม่เชื่อ

ไม่ใช่เรื่องของผมละครับ

 

จากมารธรรมดา อัพเดทเป็นมารฟ้าแล้ว ชักไปกันใหญ่

 

แล้วผู้ที่รับโองการจากเบื้องบน มาเปิดธรรมบัวบานเป็นใครครับ

ผมหมายถึงท่านผู้เปิดเผยตัวตน ให้มหาชนได้รู้จัก ทั่วประเทศ. ทั่วโลก พอยกตัวอย่างได้ไหมครับ

เพราะเพียงเปิดเผยในเวปนี้. คงมีคนรู้จัก ไม่กี่คน ไม่มีความชัดเจน

ขอบคุณในคำตอบครับ

 

คนที่มีชื่อเสียง เป็นสาธารณชน
เป็นลักษณะธรรมสายสุขาวดี

สำหรับผู้เดินธรรมบัวบาน
จะไม่มีชืื่อเสียง เป็นเสรีชนครับ

 

การเดินกิจทางธรรมโดยอาศัย "ชื่อเสียง" กับ "ความรัก" ?


สำหรับการเดินกิจทางธรรมสายสุขาวดี ซึ่งเป็นมหายานนั้นจะต้อง
มีชื่อเสียง เพื่อให้เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป (มหายาน) จึงจะต้องเป็น
"สาธารณชน" แต่สำหรับผู้ขับเคลื่อนธรรมบัวบานแล้วนั้น จะไม่มี
ชืิ่อเสียง เราไม่ได้ใช้ชื่อเสียงในการทำให้คนมายอมรับเรา แต่เรา
จะใช้ "ความรัก" เป็นสิ่งเชื่อมโยง นั่นคือ ถ้าใครรู้สึกกับเราในเชิง
ความรัก ไม่ว่าแบบใด เช่น รักเราเหมือนพี่น้อง, เพื่อน, ลูก, แฟน
อะไรก็ได้ เขาเชื่อใน "จิตใจ" ของตัวเองเขาก็จะทำหน้าที่ของเขา
ครับ แต่ถ้าเขาเชื่อมจูนกับเราด้วยจิตใจ ด้วยทางแห่งรักไม่ได้ เขา
ก็ไม่ใช่สายธรรมของเราเมื่อเขาไม่ใช่เราก็จะไม่เสียเวลาไปกับเขา


ดังนั้น ในขั้นตั้น ขั้นปีศาจ เราจึงต้องฝึกหลอกคนให้มารักเราไงครับ

 

ผีหลอก..กะยังพอทน..แต่คนหลอกคน มันช้ำใจจนวายวุ่น...(.ชายวุ่นวาย หญิงวุ่นวาย)

รู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก....(อันนี้ เรียกว่า อยากลองเจ็บดูสักครั้ง)

ไปโดน...เขาหลอกอีกแล้ว น้องแก้ว.ไม่เข็ด ก่อนเคยช้ำใจ.อยากโดน..เพชร..(อันนี้ติดใจ ในความเจ็บ)

 

เห็นความแตกต่างของธรรมมหายาน (สุขาวดี) กับธรรมบัวบานไหมครับ?


สายมหายานเขาเน้น "ช่วยคนมากๆ ในเวลาลัดสั้น" จะใช้อุบายวิธีอะไรก็ได้หมด จะใช้
ฤทธิ์เดชมาโชว์หรือใช้ความมีชื่อเสียงอะไรก็ได้ ขอให้ช่วยคนเยอะๆ เอาไว้ก่อนแล้วกัน
แต่สายธรรมบัวบานเราจะทำแบบนั้นไม่ได้ เราจะต้อง "คัดกรองคนที่ใช่จริงๆ" ซึ่งจะไม่
ได้ดูที่ว่าเขาโง่หรือฉลาด ไม่เกี่ยวกันครับ ไม่ใช่คิดแบบพระสมณโคดม เลือกเอาบัวชั้น
บนที่ฉลาดๆ ไปก่อน ยังไม่ใช่ธรรมบัวบานนะครับ เราเลือก "คนที่รักกันจริง ใจตรงกัน"
สื่อใจกันได้จริงๆ รู้สึกถึงกันได้จริงๆ ว่าเราทำอะไรอยู่ เราลำบากแค่ไหนที่ต้องทำกิจนั้น
เขาจะรับรู้ได้ถึงความยากลำบาก ความพยายามและความเมตตากรุณาของพระศากยมุนี
เมื่อเขาสัมผัสพลังธรรมบัวบานนั้นได้ เขาก็จะ "ทำด้วยใจของเขาเองจริงๆ" ไม่ใช่ทำไป
ด้วยกระแสสังคม กระแสแฟชั่น หรือเพราะคนเด่น คนดังมานั่งพูดทำให้เคลิ้มอะไรไปฮะ


พวกเราที่เดินธรรมบัวบาน ยากลำบาก หลายคนจึงเลือกไปสุขาวดี ที่ง่ายกว่าแทนไงครับ

 

คุณถาม...เพื่อ อะไรครับ
ตัวคุณเองก็บอกเล่าว่าตนเอง ก็กำลังเดินธรรมสายนี้ อยู่แล้ว ชีวิตดีขึ้น..คุณรับมาจากใคร ที่ไหนล่ะครับ

 

คนที่เดินธรรมบัวบาน
ต่อให้เป็นโสเภณีชายหรือหญิง


ก็ต้องทำได้ครับ

 

เดิมผมถือธรรมสายอื่นอยู่
แต่ผมฝึกวิชามาร แล้วโยกย้าย
สับเปลี่ยนเอาพลังธรรมบัวบานของ
คนที่เขาไม่อยากเดินธรรมนี้ต่อแล้วมาแทน


เด็กแว๊นซ์, เด็กแนว, หนุ่มวาย ฯลฯ ที่เขามีธรรมบัวบาน
ผมก็ใช้วิชามาร เริ่มต้นจากเป็นมารก่อน ไปเอาธรรมของเขามาครับ

 

ลงเรือน้อย...ลอยวน ในสายชลห้วยละหาน..มีทั้ง บัวตูมบัวบาน.....ดอกใบไหวก้านงามตา..เมื่อลมพัดมา....ซื่นนนนนจายยยยยย.....นี่ไงธรรมชาติ...ธรรมบัวบาน

ผึ้งตอมหอมบิน ดมกลิ่นบัว......ซ่อนตัวววว รำพัน ฝันใฝ่..เหมือนดนตรี ชะโลมกล่อมใจ
ฟังยิ่งฟังไป...โลมเล้าฤทัย....ลำพอง

 

ผม ไม่ได้ ถามคุณ......ผมถามนายเก้าร้อยสามสิบ

แว้นแนวจ๊าบสะกรอ๊อยน่ะ...ไม่มีหรอก ธรรมบัวบาน..พวกนั้นมีแต่ธรรมเหี่ยวเฉา..

 

เหมือนปีศาจที่มีของทิพย์อยู่กับตัว แต่ใช้ไม่เป็น
เลยบ้าฤทธิ์บ้าเดช อวดโชว์เขาไปวันๆ


พอถูกริบ "ของทิพย์" ไปแล้ว พวกเขาจะสิ้นฤทธิ์
ทีนี้ ก็ซ่าไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ความเป็นลูกเทวดาก็จบครับ

 

คนที่จะเดิน ธรรมบัวบานได้..ในจิตใจเขาต้อง รู้จักสำนึก รับผิด ชอบ ชั่ว ดี..มัสัมมาทิฐิ ความพอเพียง ในใจได้แล้ว...เขาจึงจะเดินสายนี้ (ปฏิบัติใจและกาย)ต่อไปได้...เพราะทางเดินก็คือ...มรรคแปดข้อ นั่นเองครับ

 

ต้องกล้าที่จะลงสู่ที่ต่ำโคลนตม


บัวเติบโตจากโคลนตม
หากไม่กล้าเดินลงโคลน
ย่อมไม่อาจงอกงามได้


คนเรา ถ้าไม่กล้าอยู่กับกิเลสคน
เราก็จะเบิกบานอย่างแท้จริง ไม่ได้
เราจึงต้องกล้าที่จะทำงานบริการ
แม้เป็นงานที่ต่ำต้อย ก็ต้องทำด้วยจิตผ่องใส


แต่มิใช่หลงในงานบริการ อยากมี sex
อย่างนั้น ก็จะจมปลักลงในบ่อโคลน
ถอนตัวไม่ขึ้น กลายเป็นกระเทยไป


ย่อมไม่สำเร็จอวโลกิเตศวรปางจันทราวารีครับ

 

หมาที่บ้านผมก็มี "ธรรมบัวบาน"


หมาตัวนี้เป็นพันธุ์ผสมบางแก้ว มันไม่ชอบทำตัวให้สะอาด
เหมือนหมาหรูๆ ทั้งหลาย ตรงข้าม มันชอบวิ่งร่าเริงกลางทุ่ง
ทุกครั้งที่ผมออกไปกลางทุ่งนา มันจะมีความสุขมากรีบตามทันที

นอกจากนั้น มันยังไม่ชอบอาบน้ำให้ดูดี ดูสะอาดเหมือนหมาหรูๆ อีกด้วย
มันชอบ "ลงโคลน" ครับ ผมจึงดูมัน สังเกตุมัน เพราะมันกำลังสื่อธรรมะ
บอกอะไรบางอย่างแก่ผม คือ ผมต้องกล้าลงโคลน กล้ามีกิเลส อยู่กับ
กิเลส อยู่กับคนมีกิเลส แต่ไม่ใช่จมปลักไปในบ่อโคลนกิเลส เช่นนั้น


ผมก็เรียนธรรมจาก "หมาที่บ้าน" ครับ

 

อ้อแบบนี้ ผมเรียกว่า.....พวกลูกเทวดาเหล่านี้ มันมี ริดกับบารมีเล็กน้อย มาเกิด พร้อมกับปัญญาอันเล็กน้อย..วิสัยของเทวดาก็ต้องอวด...พอมาเกิด ก็มีกลุ่ม..ต่างดาวหลงทางมันรอ ตระคุบอยู่ก่อนแล้ว ในแนวของ พวกนอกคอกไร้กรอบ...(มันมีจริง)..มันจะคอยควบคุมบงการจิตวัยรุ่นด้วย ความเสื่อมศีลธรรม..เช่น..ล่าสวาทเป็นงานอดิเรก ใครได้เสียกันมากกว่า .เรียกว่าเลืยนแบบฝรั่งนอกคอก ฟรีเซกส์ อิสระเสรีทางชีวิตและเซกส์..ปาตี้เซกส์..เริ่มด้วย..ยาเสพติดมอมเมา..จิตใจก่อน

เนี่ย พวกนี้..มีจริง..แต่เมิ่อมัน หลงทางผิด มันจึงโดนริบ..ของทิพย์..

 

ธรรมบัวบาน ไม่ไช่แต่มนุษย์เท่านั้น...ที่สื่อได้..สัตว์ตัวที่ มีจิตใจดี..มีพื้นฐานชอบความสนุกสงบ.. ก็รับธรรมได้หมดครับ..ขอแค่มันมีนิสัยดี รักความสงบ